หลานซื่อบีบคอเวินจื่อเยวี่ยอย่างแรงดวงตาทั้งสองแดงฉานราวกับเลือด จ้องมองเวินจื่อเยวี่ยอย่างไม่ละสายตาราวกับต้องการที่จะระบายความคับข้องใจและความเจ็บปวดทั้งหมดที่นางได้รับมาตลอดสองชาติลงที่นี่แต่เมื่อลมหายใจของเวินจื่อเยวี่ยหยุดลงในชั่วขณะนั้น ภาพเวินฉางอวิ้นกอดเวินจื่อเยวี่ยจนตายก็แวบเข้ามาในหัวของนางและหลังจากที่เขาล้มลง แม้จะหมดสติไปแล้วก็ยังคงจับมือของเวินจื่อเยวี่ยไว้แน่นหลานซื่อปล่อยมือทันใดความรู้สึกท้อแท้ผุดขึ้นมาในหัวใจของนางทันที“ท่านสมควรตาย ท่านสมควรตายไปเลยเดี๋ยวนี้...”แต่นางในเวลานี้ กลับไม่สามารถลงมือได้ไม่ใช่เพื่อเวินจื่อเยวี่ยแต่เพราะเวินฉางอวิ้นเพราะว่า…พี่ใหญ่ของนางหลานซื่อหลับตาลง ปาดน้ำตาที่ไหลลงมาบนใบหน้าโดยไม่รู้ตัวออกไป“หากเวินฉางอวิ้นตาย ท่านก็จะต้องตายตามเขาไป”หลานซื่อไม่สนใจว่าตอนนี้เวินจื่อเยวี่ยจะได้ยินหรือไม่ นางเพียงทิ้งประโยคนี้ไว้ แล้วใช้พลังมิติเหวี่ยงเวินจื่อเยวี่ยขึ้นไปที่ชั้นสองทันทีขังไว้ในกรงเหล็กที่เคยขังเวินจื่อเยวี่ยเอาไว้หลังจากจัดการเวินฉางอวิ้นและเวินจื่อเยวี่ยเรียบร้อยแล้ว หลานซื่อก็ออกจากมิติอย่างรวดเร็วด้า
หลังจากหลานซื่อพูดจบก็หันไปมองเวินเฉวียนเซิ่ง ก่อนจะมองข้ามเขาไป สายตาจ้องตรงไปยังเอ้อถานหลัวที่คอยดูอยู่เฉย ๆ มาพักใหญ่แล้ว“ข้าจะไปที่วังหลวงเพื่อจับตัวเวินเยวี่ยมาแลกเปลี่ยนกับคนของท่าน แต่ก่อนหน้านั้น ท่านต้องรับรองว่าคนของข้าจะปลอดภัย ไม่เช่นนั้นข้าจะสู้กับท่านจนกว่าจะตายไปข้างหนึ่ง”ทันทีที่เสียงของหลานซื่อสิ้นสุดลง เสียงร้องอันเล็กแหลมของอวิ่นซิงก็ดังก้องไปทั่วทั้งป่าเขาในทันใดม่านตาของเอ้อถานหลัวหดลงทันทีเป็นราชาแมลงพิษตัวนั้นที่อยู่ในเมืองหลวงตอนนั้น!เอ้อถานหลัวคาดการณ์ไว้แล้ว แต่เขาไม่คิดเลยว่า เพิ่งจะไม่ได้พบกันไม่นาน ราชาแมลงพิษตัวนี้กลับแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้งดูเหมือนว่าปรมาจารย์กู่ใต้บัญชาธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะมีความสามารถจริง ๆเพราะวิธีการข่มขู่ที่หลานซื่อจงใจใช้ เอ้อถานหลัวไม่กล้าบีบคั้นมากเกินไป จึงพยักหน้าตอบตกลง “ขอเพียงธิดาศักดิ์สิทธิ์รักษาคำพูด อาตมาก็จะไม่แตะต้องนังหนูนั่นแม้แต่นิดเดียว เพียงแต่อาตมาได้กล่าวไว้แล้วว่า ธิดาศักดิ์สิทธิ์ควรเร่งมือเสียหน่อย”หลานซื่อแค่นเสียงเย็นชา ก่อนจะถอนสายตากลับ“ไป”หลานซื่อหันหลังกลับ เหลือบมองเวินฉางอวิ้นที่กำมื
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ ทำให้ทุกคนในที่นั้นตกตะลึงจนยืนนิ่งอยู่กับที่หลังจากความเงียบสงัดผ่านไปครู่หนึ่ง เสียงคำรามของเวินเฉวียนเซิ่งก็ดังขึ้นทันที...“ลูกเนรคุณ!!”เวินเฉวียนเซิ่งจ้องกริชในมือของเวินฉางอวิ้นด้วยความไม่อยากจะเชื่อ นิ้วที่ชี้ไปที่เวินฉางอวิ้นสั่นเทาอย่างรุนแรง เขากัดฟันพูดว่า “เจ้าถึงกับลงมือกับน้องชายแท้ ๆ ของตัวเองได้! เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?!”“ใช่ ข้าบ้าไปแล้ว”สำหรับคำถามของเวินเฉวียนเซิ่ง เวินฉางอวิ้นพยักหน้ายอมรับอย่างตรงไปตรงมา พลางหัวเราะเย็นชา“ทั้งหมดนี้ต้องโทษท่านพ่อมิใช่หรือ? ไม่ว่าจะเป็นข้าหรือน้องรอง พวกเราล้วนถูกท่านพ่อบีบคั้น”“น้องรองถูกท่านบีบจนต้องออกจากบ้าน จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีข่าวคราว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาอยู่หรือตาย น้องสามกับน้องสี่ถูกท่านบีบจนไม่รู้จักแยกแยะความใกล้ชิดห่างเหิน ไม่รู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดี รู้จักแต่ปกป้องบุตรสาวนอกสมรส!”เวินเฉวียนเซิ่งเอ่ยอย่างโกรธเคือง “อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ ตอนที่เวินจื่อเฉินหนีออกจากบ้านก็เป็นเจ้าที่ช่วยเขา ตอนนี้เจ้ากลับบอกว่าเป็นเพราะข้าบีบคั้น!”“หากข้าไม่ช่วยเขา เกรงว่าเขาคงจะตายด้วยน้ำมือของท่
“พี่ใหญ่?”เวินจื่อเยวี่ยที่ไม่คาดคิดว่าจู่ ๆ เวินฉางอวิ้นจะลุกขึ้นยืนได้ตกตะลึงไปในทันใด แต่วินาทีต่อมาเขาก็สีหน้าบึ้งตึงลงในทันที“พี่ใหญ่ ท่านมาเพื่อช่วยเวินซื่อ หรือช่วยข้ากันแน่?”เวินจื่อเยวี่ยกล่าวอย่างขุ่นเคือง “หากท่านมาเพื่อช่วยข้า ก็อย่าไปยืนฝั่งเวินซื่อ นางเคยฆ่าน้องหก และไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แม้กระทั่งคนของนางตอนนี้ยังลงมือกับข้า ฟันแขนข้าขาดไปข้างหนึ่ง!“ฆาตกรเช่นนี้ไม่สมควรให้อภัย ดังนั้นพี่ใหญ่ หากท่านยังต้องการข้าผู้เป็นน้องชายคนนี้ ก็ช่วยข้าฆ่านางเดี๋ยวนี้…”“เวินจื่อเยวี่ย!!”เวินฉางอวิ้นตะโกนเสียงเข้ม ขัดคำพูดที่พร่ำไม่หยุดของเวินจื่อเยวี่ยทันทีเวินฉางอวิ้นกำหมัดแน่น สายตาของเขามองไปยังแขนที่ถูกฟันขาดของเวินจื่อเยวี่ย แววตาเผยความสงสารวูบหนึ่งแต่สุดท้ายเขาก็ทำใจแข็ง เอ่ยอย่างเย็นชา “ข้าไม่ได้มาเพื่อช่วยเจ้า”เวินจื่อเยวี่ยชะงักไปอีกครั้งราวกับเพิ่งจะเข้าใจคำพูดของเวินฉางอวิ้น เขาขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว สายตาที่มองเวินฉางอวิ้นราวกับกำลังมองศัตรูเขาถามอย่างโกรธเคือง “ดังนั้นท่านคิดจะเข้าข้างเวินซื่อหรือ?!”“ใช่”เวินฉางอวิ้นยอมรับโดยไม่ลังเล“เวินฉางอว
เมื่อเผชิญหน้ากับท่าทางไม่อยากจะเชื่อ ตกใจ โกรธแค้น เกลียดชัง สารพัดอารมณ์ที่ผสมปนเปกันของเวินจื่อเยวี่ย หลานซื่อก็หัวเราะออกมาอย่างสะใจคราวนี้แม้แต่แสร้งเล่นละครนางก็ไม่อยากทำแล้วต่อหน้าเวินเฉวียนเซิ่ง ต่อหน้าเวินจื่อเยวี่ยรวมถึงต่อหน้าเวินฉางอวิ้นที่ยืนอยู่ข้างหลังและจ้องมองนางด้วยความงุนงง นางกล่าวว่า...“ใช่ ข้าเคยฆ่านาง และไม่ใช่แค่ครั้งเดียวด้วย”เวินจื่อเยวี่ยเดือดเป็นฟืนเป็นไฟทันที คว้าดาบของจู๋เยวี่ย กำหมัดแน่นพร้อมจะพุ่งเข้าหาหลานซื่อ“ข้าจะฆ่าเจ้า!!”“ข้าจะฆ่าเจ้านังหญิงชั้นต่ำใจร้ายเพื่อแก้แค้นให้น้องหก!!”เวินจื่อเยวี่ยเหมือนคลุ้มคลั่งไปในชั่วพริบตา ตะโกนก้องอย่างเจ็บปวดแสนสาหัสแต่น่าเสียดายต่อให้คลุ้มคลั่งเพียงใดก็ทำได้เพียงเท่านั้นเขาพุ่งออกไปไม่ทันได้ครึ่งก้าว ภายใต้ความมืดมิดยามราตรี แสงเย็นเยียบปรากฏขึ้นแวบหนึ่ง...“ฉัวะ!”เสียงเลือดเนื้อรวมถึงกระดูกถูกตัดขาดพร้อมกันดังขึ้นกลางป่าทันทีหลังจากนั้น แขนที่ถูกตัดขาดก็กระเด็นลอยออกไปทันทีกลางอากาศ เลือดสาดกระเซ็นไปสามไม้บรรทัด“โอ๊ยยยยย!!”เสียงร้องอันน่าเวทนาของเวินจื่อเยวี่ยดังก้องไปทั่วผืนป่าในชั่
ทันทีที่คำพูดอันเดือดดาลของเวินเฉวียนเซิ่งเอ่ยออกมาเวินจื่อเยวี่ยถึงเพิ่งรู้ตัวว่าครั้งนี้บิดาของเขาโกรธจริง ๆเพียงแต่เวินจื่อเยวี่ยก็กลัวว่าเวินเฉวียนเซิ่งจะเชื่อคำพูดของเอ้อถานหลัวเข้าจริง ๆ อยากจะพูดแทนน้องหกสักสองประโยค แต่เมื่อเห็นสีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งแล้วก็ไม่กล้าที่จะพูดต่ออีกทำได้เพียงข่มสีหน้าคับแค้นใจ ถลึงตาใส่หลานซื่ออย่างเกรี้ยวกราด“ต้องโทษเจ้า!”เพียงสามคำนี้ ก็โยนความผิดทั้งหมดใส่ตัวหลานซื่อเวลานี้หลานซื่อที่นั่งลงบนเก้าอี้ที่เกาหยางยกมาแล้ว ไม่แม้แต่จะชำเลืองมองเขาด้วยซ้ำ เพียงยกถ้วยชาขึ้นจิบอึกหนึ่งอย่างเฉยเมยนางรู้ว่าคืนนี้ความลับของเวินเยวี่ยจะปกปิดไว้ไม่ได้อีกแล้วนางก็ไม่ได้ใส่ใจในเรื่องราวที่รู้มานานแล้วนางเพียงกำลังคิดว่า ยามนี้เอ้อถานหลัวผู้นั้นคงสนใจเวินเยวี่ยขึ้นมาจริง ๆ แต่ไม่ว่าเพื่อการวิจัยหรืออย่างไรก็ตาม มันก็ไม่เกี่ยวข้องกับนางเลยแต่ตอนนี้อีกฝ่ายกลับจงใจเอาตัวเสี่ยวหานมาใช้กดดันดูคล้ายว่าเขาต้องการข่มขู่เวินเฉวียนเซิ่ง แต่ที่จริงแล้วกลับเป็นการข่มขู่นางหลังจากที่หลานซื่อใจเย็นลงแล้วขบคิดอย่างถี่ถ้วน ก็มองทะลุอุบายของเอ้อถานหลัวห