Share

บทที่3

Penulis: หวานไม่หวาน
ช่วยชีวิตเจียงเยี่ยนนั้นง่ายนิดเดียว

ข้าลากเขาที่นอนหายใจรวยรินกลับมาที่แผงขายบะหมี่

ลวกบะหมี่ร้อนๆ ให้เขาหนึ่งชาม เขาก็ฟื้นคืนชีพได้เกินครึ่งแล้ว

เขาลูบๆ คลำๆ ตัวเองอยู่นาน สุดท้ายก็ล้วงกุญแจอายุยืน[footnoteRef:1]สีทองออกมา ขอให้ข้าไปซื้อยาให้เขาหน่อย [1: ของที่ลักษณะคล้ายแม่กุญแจ มีไว้คล้องคอเด็กทารกเพื่ออวยพรให้อายุยืน]

ความจริงแล้วของที่เขาให้มามีมูลค่ามากกว่าค่ายาตั้งเยอะ

เจียงเยี่ยนโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ

“ไม่เป็นไร”

ตอนนั้นข้าดีใจจนเหมือนโลกทั้งใบมีดอกไม้บาน ยังคิดอยู่เลยว่าตัวเองเก็บไก่ที่ออกไข่เป็นทองคำได้

ใครจะคาดคิด——

ว่านั่นคือทรัพย์สินทั้งหมดที่เขามีอยู่

เขาเกาะติดข้าไม่ยอมไปไหน

เจียงเยี่ยนประสบเหตุบนเขาจนความจำเสื่อม เขาจำได้แค่ชื่อของตัวเองเท่านั้น

ตอนนี้อาการบาดเจ็บหายดีแล้ว เงินที่มีก็ใช้จนเกือบหมดแล้ว แต่เขากลับเกาะแกะข้าไม่ยอมเลิก ไล่อย่างไรก็ไม่ยอมไป

ข้าเท้าเอวด้วยความโมโห ไปที่แผงขายบะหมี่แล้วไล่เขากลับ

“บ้านของข้าไม่ได้มีเอาไว้เลี้ยงดูบุรุษไร้หัวนอนปลายเท้านะ รีบ——”

พอเปิดประตูเข้าไป ก็พบว่าเจียงเยี่ยนตัดฟืนทั้งหมด ขนน้ำมาเติมจนเต็มโอ่งตั้งแต่เช้าตรู่แล้ว

แป้งบะหมี่ก็นวดเสร็จเรียบร้อย ถ้วยชามจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ

เหลือแค่รอให้ลูกค้าแวะมา ก็นำบะหมี่ลงไปลวกได้เลย

ข้าเหมือนคนลิ้นจุกปาก

เจียงเยี่ยนจุดไฟไปด้วย ยกมือกุมหน้าอกและไอไปด้วย

ช่างร่างกายอ่อนแอเหลือเกิน

เขาพูดเสียงหงอยว่า

“พี่สาวยังไม่ชอบข้าอีกหรือ?”

“พี่สาว ข้าไม่ใช่บุรุษไร้หัวนอนปลายเท้านะ ข้ามีชื่อแซ่”

“พี่สาวไม่เลี้ยงดูข้าแบบเสียเปล่าหรอก ข้าทำงานเป็น ไม่คิดค่าจ้างด้วย”

“อย่าไล่ข้าไปเลยนะ”

ข้าถูกเขาเรียกว่าพี่สาวๆ จนเริ่มจะคล้อยตาม

ถึงตอนนี้เจียงเยี่ยนจะสวมชุดผ้าฝ้ายเนื้อหยาบ แต่มันบดบังความสง่างามจากคิ้วคมและดวงตาคู่สวยของเขาไม่ได้เลย

หล่อมากกว่าสวี่จิงโม่เสียด้วยซ้ำ

น้ำในหม้อเดือดปุดๆ จนฟองอากาศแตกกระจายไปทั่ว

เขาดึงข้าหลบไปอยู่ข้างๆ ใช้ฝาหม้อครอบปิดด้วยความคล่องแคล่วว่องไว ป้องกันไม่ให้น้ำร้อนกระเด็นโดนตัวข้า

บ่นพึมพำว่า

“พี่สาว ข้ารู้ว่าตัวเองหน้าตาดี แต่ท่านก็อย่าเอาแต่มองอย่างเดียวสิ ระวังจะโดนน้ำร้อนลวกเอาได้”

ด้านนอกมีเสียงการเคลื่อนไหว มีคนมาแล้ว

เจียงเยี่ยนคาบเศษฟางแห้งไว้ในปาก เดินลิ่วๆ ออกไปบอกรายการอาหาร

ฉีกยิ้มจนเห็นฟันขาวสะอาดทั้งแปดซี่ ดวงตาเจ้าเล่ห์คู่นั้นโค้งเหมือนจันทร์เสี้ยว

ดูแล้วเรียกทรัพย์แบบสุดๆ

“ลูกค้า อยากทานอะไรหรือขอรับ?”

ข้าแอบรู้สึกแปลกๆ ในใจ

เจียงเยี่ยนดูไม่รำคาญงานยุ่งยากอย่างการต้อนรับและส่งแขกพวกนี้เลย

ข้ากับสวี่จิงโม่แต่งงานกันมาสามปี เขาไม่เคยเฉียดเข้าไปในครัวเลยสักครั้ง

แล้วก็ไม่เคยช่วยข้าดูแลต้อนรับลูกค้าด้วย

เขามักจะบอกว่าบัณฑิตไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับงานครัว

ยิ่งงานที่ต้องเอาอกเอาใจลูกค้าแบบนี้ด้วย จะทำให้ชื่อเสียงของบัณฑิตเสียหายได้

ดังนั้นงานในแผงขายบะหมี่ จึงมักจะตกเป็นหน้าที่ของข้าคนเดียว

แม่เฒ่าสวี่สังขารไม่อำนวย จึงช่วยข้าตะโกนเรียกลูกค้าเข้าร้าน

เขาเพียงแค่ตั้งใจศึกษาตำรานักปราชญ์อย่างเดียว

ตลอดสามปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยเรียนวิธีการนวดแป้งบะหมี่

ข้าขายบะหมี่ในหมู่บ้านเถาซีอยู่สามปีเต็มๆ ถึงรวบรวมเงินได้มากพอ

ย้ายถิ่นฐานมาที่เมืองหลวงเพื่อส่งเสริมหน้าที่การงานของเขา

ที่แท้ บุรุษทุกคนในใต้หล้าก็ไม่ได้รังเกียจการเข้าครัว

คนที่เดินผ่านประตูเข้ามาคือสวี่จิงโม่

เขาขวางทางข้าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร

ชี้มือชี้ไม้ไปทางเจียงเยี่ยน

“นี่คือเหตุผลที่เจ้าอยากจะหย่ากับข้าให้ได้สินะ?”

“ที่แท้ก็แอบเลี้ยงเด็กหนุ่มหน้าขาวเอาไว้?”

......

สวี่จิงโม่พูดจาแดกดัน

“เจ้าอายุมากถึงเพียงนี้แล้ว รูปร่างหน้าตาก็ใช่จะสะสวย วันๆ เอาแต่คิดเรื่องเงินไม่กี่ร้อยอีแปะ เจ้าคู่ควรกับคนอย่างเขาหรือไง?”

“ระวังจะถูกพวกต้มตุ๋นมันหลอกเอา”

พูดจบ เขาก็เหล่ตาไปทางเจียงเยี่ยน

เจียงเยี่ยนได้ยินแบบนั้นก็หูผึ่งทันที เขาเดินอาดๆ เข้าไปด้วยสายตาไม่เป็นมิตร

สวี่จิงโม่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจียงเยี่ยนเป็นใครมาจากไหน

ก็ตัดสินอีกฝ่ายล่วงหน้าแล้ว

ข้าห้ามเจียงเยี่ยนเอาไว้ ก่อนจะปรายตามองสวี่จิงโม่

“เจ้าเห็นข้าเป็นคนแบบนี้งั้นหรือ?”

ตอนนี้ฐานะของเขาเปลี่ยนไปแล้ว ย่อมจะมีชีวิตรุ่งเรืองสดใส

ข้าไม่รู้มาก่อนเลยว่าเขาจะดูถูกเหยียดหยามข้าถึงเพียงนี้

ในตอนที่เขาตกต่ำจนถึงขีดสุด เคยสบถสาบานด้วยท่าทางไร้เดียงสาว่า ชาตินี้จะไม่ทำผิดต่อเหยียนอัน

ต่อมาเขาสอบได้อันดับหนึ่ง ใช้เงินที่ได้รับแจกจากหมู่บ้าน รวบรวมจนซื้อจี้ทองคำขนาดเท่าครึ่งเล็บได้

เขาบอกว่า ภรรยาประเสริฐช่วยหนุนนำจนสามีเจริญก้าวหน้า อนาคตจะหาตำลึงทองนับหมื่นมาให้ภรรยา

ในแววตาเคยเต็มเปี่ยมด้วยความรัก

“มีเพียงข้าเท่านั้นแหละ ที่สามารถทนอยู่กับท่อนไม้แข็งทื่อไร้รสนิยมอย่างเจ้าได้”

“เขามาตามจีบเจ้า แปดส่วนคงเพราะอยากจะได้แผงขายบะหมี่ที่เคยมีคนสอบได้ที่หนึ่ง จุดประสงค์ของพวกเขาคือข้านี่แหละ คงอยากจะมาเอาฤกษ์เอาชัยเฉยๆ”

สวี่จิงโม่บีบจมูกของตัวเอง ยืนจังก้าอยู่หน้าประตูห้องครัว

เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ชอบกลิ่นควันที่เกิดจากการเผาฟืนเหล่านี้อย่างยิ่ง

เจียงเยี่ยนทนไม่ไหวอีกต่อไป ดวงตาจิ้งจอกของเขาหรี่ลงอย่างน่าอันตราย

หมัดข้างหนึ่งพุ่งออกไป ต่อยเขาจนหน้าทิ่มจมกองขี้เถ้า

“ข้าจะช่วยล้างปากเน่าๆ ของเจ้าเอง”

“กล้ามาใส่ร้ายพี่สาวได้นะ ไอ้คนชั่วช้าสามานย์!”

สวี่จิงโม่ถูกกดไว้ใต้ร่าง ไม่อาจขยับเขยื้อนได้

“ไอ้เด็กไร้มารยาท! เจ้ารู้บ้างไหมว่าข้าเป็นใคร?!”

“ข้าคือบุตรภรรยาเอกของท่านโหวจ้าวเชียวนะ!”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • หลังเขี่ยสามีชั่วทิ้ง อ๋องหลินอันก็อ่อยข้าไม่หยุด   บทที่9

    ทุกเหตุการณ์ที่สวี่จิงโม่ประสบพบเจอหลังจากเข้ามาในเมืองหลวง ล้วนเป็นแผนการของหลินเยียนเอ๋อร์และจวนโหวจ้าวตอนนี้พอมาคิดดูแล้ว ช่วงเช้าตรู่ของวันที่ข้าเกือบจะโดนโจรลักพาตัวไป บางทีอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญหลังแต่งงาน สวี่จิงโม่ก็ไม่เคยได้แตะต้องนางคนของจวนโหวจ้าวดูแลหลินเยียนเอ๋อร์ประหนึ่งเป็นบรรพบุรุษของพวกเขาตอนแรกสวี่จิงโม่รู้แค่ว่าฐานะของหลินเยียนเอ๋อร์ไม่ธรรมดา แต่ไม่รู้ว่านางเป็นสตรีของฮ่องเต้ตอนแรกเขาคิดจะกล้ำกลืนโทสะยอมโดนสวมเขา หากแลกกับการมีอนาคตที่สดใสก็ไม่ใช่เรื่องแย่แต่ตอนที่ท่านโหวจ้าวจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดฮ่องเต้หาข้ออ้างออกมานัดพบกับหลินเยียนเอ๋อร์ สวี่จิงโม่ดันบังเอิญเห็นเข้าฮ่องเต้ตรัสว่า ตอนแรกในการสอบหน้าพระพักตร์ปีนี้ เขาเลือกสวี่จิงโม่ให้เป็นจอหงวน“แต่พอคิดว่าเจ้าสารเลวนั่นเคยแต่งงานกับเจ้า ถึงจะเป็นแค่ฉากบังหน้า แต่ข้าก็อดขุ่นเคืองไม่ได้”“ข้าไม่อยากเห็นหน้าเขา”ฮ่องเต้ยังกล่าวอย่างชั่วร้ายอีกว่า“หลังจากนี้ไปถ้าสามีของเจ้าเข้าร่วมการสอบขุนนาง เราจะไม่ยอมให้เขาสอบผ่านเด็ดขาด”ตรัสเพียงไม่กี่ประโยค กลับเปลี่ยนชะตาชีวิตของสวี่จิงโม่อย่างสิ้นเชิง

  • หลังเขี่ยสามีชั่วทิ้ง อ๋องหลินอันก็อ่อยข้าไม่หยุด   บทที่8

    ตอนที่ข้าตั้งครรภ์ได้สามเดือนในที่สุดสวี่จิงโม่ก็ทนไม่ไหวบุกมาตามหาข้าซึ่งขณะนั้นข้ากำลังแอบกินไอติมผลไม้อยู่ในเรือนเล็กเขาสวมชุดเปื้อนเลือด ผมเผ้ายุ่งเหยิงตอนที่มองเห็นข้า ดวงตาของเขาก็แดงก่ำเขาเรียกข้าด้วยเสียงแหบแห้งและโหยหา“อาเหยียน โชคดีที่ยังมีเจ้าอยู่”“พวกเรากลับไปที่หมู่บ้านเถาซีกันเถอะ ข้าไม่ต้องการชื่อเสียงลาภยศอะไรพวกนี้แล้ว”นิสัยของสวี่จิงโม่เปลี่ยนแปลงแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือเมื่อไม่กี่เดือนก่อนเขายังคิดจะใช้ข้าเป็นหินรองเท้า เพื่อก้าวสู่อำนาจอยู่เลยข้ามองสวี่จิงโม่ที่อยู่ในสภาพคนสติไม่เต็มร้อย กับชายเสื้อที่มีเลือดไหลหยดของเขาในใจเกิดหวาดระแวง จึงค่อยๆ ก้าวถอยหลังอย่างเงียบเชียบสวี่จิงโม่ทำหน้าเจ็บปวด“อาเหยียน เจ้าไม่ต้องกลัว ข้าไม่ทำร้ายเจ้าหรอก”“ข้าแค่สังหารคนที่ทำลายความสุขของพวกเราเท่านั้น”ข้าหรี่ตาลง “เจ้าฆ่าใครไป? หลินเยียนเอ๋อร์? ท่านโหว?”สวี่จิงโม่ยกยิ้มมุมปาก “มีมากกว่านั้นอีก”ระหว่างที่บรรยากาศกำลังตึงเครียดสามีสุดหล่อที่มีอกผายไหล่ผึ่งเอวสอบคนนั้น ก็เดินดุ่มๆ เข้ามาแบบไม่รู้ไม่ชี้คว้าไอติมจากมือของข้าไป แล้วพูดจาประชดประชั

  • หลังเขี่ยสามีชั่วทิ้ง อ๋องหลินอันก็อ่อยข้าไม่หยุด   บทที่7

    ข้าได้พบสวี่จิงโม่อีกครั้ง ตอนที่ไปร่วมงานวันเกิดของท่านโหวจ้าวเพราะมันเป็นธรรมเนียม ข้ากับเจียงเยี่ยนเลยต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงด้วยวันนั้นหิมะตกหนักมากสวี่จิงโม่ยืนอยู่ด้านหลังท่านโหวจ้าว ดวงหน้าซีดเซียวเหี่ยวเฉา สีหน้าอารมณ์อมทุกข์ราวกับเผชิญเคราะห์กรรมใหญ่มาไม่เหลือความหยิ่งผยองในตอนแรกเริ่มข้ามอบของขวัญเสร็จก็นั่งร่วมงานกับเจียงเยี่ยนสักพัก ก่อนจะเตรียมตัวกลับกันก่อนกลับข้าบังเอิญเห็นหลินเยียนเอ๋อร์ เดินผ่านไปทางเรือนด้านหลังดูเหมือนกำลังรีบร้อนไปพบใครบางคนดูจากรูปร่างของนาง คาดว่าจะตั้งครรภ์ได้เจ็ดแปดเดือนแล้วแต่ข้ากับสวี่จิงโม่แต่งงานวันเดียวกัน หากนับตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงวันนี้ ก็เพิ่งจะผ่านไปห้าเดือนเท่านั้นได้ยินว่าในระหว่างนั้น เขายังใช้เวลาสองสามเดือนเตรียมตัวสอบหน้าพระที่นั่งด้วยนี่มัน...เจียงเยี่ยนเอามือแตะคาง ลอบหัวเราะอย่างสะใจอยู่ข้างๆ“สวี่จิงโม่คงจะโดนจวนโหวกับจวนเสนาบดีหลอกต้มแล้วล่ะ”ตอนที่ข้าเตรียมตัวจะขึ้นรถม้า เดินทางออกจากจวนโหวเจียงเยี่ยนก็โดนสหายขุนนางในวันวานลากตัวออกไปดื่มชาแม่เฒ่าสวี่ฉวยโอกาสนั้นเข้าหาข้านางพุ่งตัวเข้ามาหาข้าใน

  • หลังเขี่ยสามีชั่วทิ้ง อ๋องหลินอันก็อ่อยข้าไม่หยุด   บทที่6

    งานแต่งของข้ากับเจียงเยี่ยน มีกำหนดการวันเดียวกันกับงานแต่งของสวี่จิงโม่ด้วยข้ออ้างเรื่องความจำเสื่อม เจียงเยี่ยนจึงฉวยโอกาสนี้ขอลาออกจากราชการ กลับบ้านไปใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อแสดงความภักดีฮ่องเต้แม้จะมีสีหน้าเสียดาย แต่ก็พระราชทานเงินทองและของมีค่ามากมายให้เป็นค่าชดเชยงานของของพวกเราถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่อลังการสิ่งที่สวี่จิงโม่เคยให้คำมั่นสัญญากับข้าไว้ เจียงเยี่ยนกลับทำให้หมดทุกอย่างแม้จะไม่เคยพูดมาก่อนงานแต่งที่ทุ่มเงินจำนวนนับพันตำลึงเพื่อจัดขึ้นมา สร้างความอิจฉาให้บรรดาหญิงสาววัยบานสะพรั่งที่ยังไม่ออกเรือนมากมายขบวนสินสอดยาวสิบลี้ เป็นภาพที่ยิ่งใหญ่และงดงามมากภายในเรือนหอ ข้านั่งกำหนังสือข้อตกลงแต่งงานด้วยความประหม่า“ข้า ข้า...จะเป็นภรรยาของเจ้าสามปี หลังจากฝ่าบาททรงคลายความหวาดระแวงแล้ว ข้าจะยกตำแหน่งพระชายาหลินอันคืนให้”“จะไม่ขัดขวางการหาคู่ครองคนใหม่ของท่านอ๋องแน่นอน——”นิ้วเรียวดุจหยกของเจียงเยี่ยนทาบทับริมฝีปากของข้าดวงตาเจ้าเล่ห์ดุจจิ้งจอกของเขาส่องประกาย กล่าวอย่างขบขันว่า“เรื่องนั้นไว้ค่อยพูดกันวันหลังเถอะ”“ภรรยา ตอนนี้——”“เล่นละครก็ต้องเล่นให้สมจริ

  • หลังเขี่ยสามีชั่วทิ้ง อ๋องหลินอันก็อ่อยข้าไม่หยุด   บทที่5

    “พี่สาวคิดอะไรอยู่หรือ ถึงได้เหม่อลอยขนาดนั้น?”เจียงเยี่ยนยื่นหน้าหล่อๆ เข้ามาหาข้า ปลุกข้าจากภวังค์ความคิดดวงตาของเขางดงามมาก ราวกับสะกดจิตของคนได้ข้าผลักเขาออก ไม่กล้ามองสบตาเขามากนัก“วันนี้...ต้องขอบพระทัยท่านอ๋องมาก ที่ช่วยออกหน้าแทนข้าสองครั้งแล้ว”“ท่านอ๋อง ยามนี้ก็ดึกมากแล้ว ท่านออกจากจวนมานานมากแล้ว ไม่คิดจะกลับไปหรือ?”เจียงเยี่ยนตบศีรษะตัวเองเบาๆ “เจ้าพูดถูก ข้าเกือบลืมเรื่องสำคัญไปเลย”เขาแบกดาบโค้งเล่มนั้นออกไปด้วยความเร่งรีบรอบข้างกลับมาเงียบสงัดอีกครั้งข้ามองตามแผ่นหลังที่ห่างออกไปไกลของเขา รู้สึกเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูกแต่นั่นคืออ๋องหลินอันเชียวนะเป็นแม่ทัพหนุ่มในฝันของข้า ที่สง่างามและเจิดจรัสมากที่สุดสูงส่งจนไม่อาจเอื้อม......เพราะเรื่องยุ่งยากที่เกิดขึ้นในสองวันนี้ กว่าข้าจะออกมาขายบะหมี่ ฟ้าก็สว่างจ้าแล้วด้านนอกมีเสียงอึกทึกแผงขายบะหมี่ของข้าถูกของมีค่าแปลกประหลาดและหายากหลากสีสัน วางกองทับถมจนไม่มีที่จะเดินเจียงเยี่ยนยังพาข้ารับใช้จำนวนหนึ่งมาด้วย พวกเขาช่วยกันขนของเข้าไปในบ้านข้าข้ารับใช้ของเขาบอกกับชาวบ้านรอบๆ ว่า“แม่นางเหยียนคือผู้

  • หลังเขี่ยสามีชั่วทิ้ง อ๋องหลินอันก็อ่อยข้าไม่หยุด   บทที่4

    เจียงเยี่ยนประสบเหตุจนสมองผิดเพี้ยนไป เลยไม่คิดจะฟังที่อีกฝ่ายพูด เขารัวหมัดชกใส่สวี่จิงโม่อย่างเมามัน“ต่อให้เจ้าจะเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้ แต่ถ้ากล้าพูดจาไม่เข้าหูพี่สาวของข้า ข้าก็พร้อมจะต่อยให้คว่ำอยู่ดี”“เจ้าคิดว่าทุกคนจะเป็นเหมือนเจ้าหรือ ที่เลือกคบคนจากหน้าตา ตัดสินคนจากทรัพย์สินเงินทอง?”“มันน่ากระทืบให้ตายคาตีนจริงๆ!”เจียงเยี่ยนลงมือโหดเหี้ยมแล้วยังพูดจาแสลงหูด้วยในเมื่อใช้เหตุผลไม่ได้ ก็ต้องใช้กำลังเข้าข่ม“พี่เหยียนเป็นคนจิตใจดีงาม ครั้งแรกที่พบนางตรงชานเมือง ข้าก็หลงรักนางทันที”“แกเป็นใครมาจากไหน กล้าดีอย่างไรมาชี้นิ้วสั่งสอนพวกเรา?”แน่ใจนะ....ว่าที่หลงรักไม่ใช่เครื่องในวัวตุ๋นของข้า?ช่างเถอะเมื่อเห็นสวี่จิงโม่ถูกต่อยจนใบหน้าฟกช้ำดำเขียว ข้าก็รู้สึกหายโกรธไปหลายส่วน“จับเขาโยนออกไปซะ อย่าให้รบกวนการทำมาค้าขายของพวกเรา”“ได้เลย!”หลังจากเขาจัดการเรียบร้อยก็กลับมาที่ห้อง ยืนเกาะขอบประตูด้วยท่าทางน่าสงสาร“ข้าได้ยินชาวบ้านที่อยู่ข้างนอกบอกว่า คนผู้นั้นเป็นสามีเก่าของพี่สาว”“ข้าไม่ทันได้ยั้งมือเอาไว้ ทำร้ายอดีตสามีพี่สาวจนเจ็บหนัก พี่สาวคงไม่โกรธข้าหรอกนะ?”

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status