Share

ตอนที่ 2 เกิดใหม่กับร่างกายที่ผ่ายผอม

last update Last Updated: 2025-05-21 13:38:06

ความรู้สึกเย็นเยียบแล่นเข้าสู่ร่างกาย หวงจื่อหนิงขมวดคิ้วแน่นก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้น ทัศนียภาพรอบตัวเป็นเพดานไม้เก่า ๆ ที่เต็มไปด้วยร่องรอยแตกร้าว ส่งกลิ่นอับชื้นของไม้เก่าและฝุ่นผงลอยคลุ้งอยู่ในอากาศ

“นี่ฉันยังไม่ตายอย่างนั้นเหรอ?” เธอพึมพำด้วยเสียงอันแหบพร่า ก่อนจะพยายามขยับร่างกาย แต่กลับพบว่ามันช่างอ่อนแรงเหลือเกิน แขนเรียวเล็กเหมือนกิ่งไม้แห้งแฝงไปด้วยร่องรอยฟกช้ำ ผิวที่ซีดเหลืองบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเป็นการขาดสารอาหาร

เธอเบิกตากว้างขึ้นเมื่อเริ่มสำรวจร่างกายนี้และพบว่า ‘นี่มันไม่ใช่ร่างของเธอนี่!’ ทันใดนั้นความทรงจำที่ไม่ใช่ของเธอ

ก็ไหลทะลักเข้าสู่สมองราวกับกระแสน้ำเชี่ยวกราก

ร่างนี้เป็นของหวงจื่อหนิงที่มีชื่อแซ่เดียวกับเธอ เพียงแต่ว่าเป็นหญิงสาวในยุคโบราณ นางเป็นบุตรสาวของบิดาผู้หนึ่ง ซึ่งสอบได้ตำแหน่งจอหงวนแต่แล้วเขากลับละทิ้งภรรยาและบุตรสาว เลือกแต่งงานกับสตรีสูงศักดิ์เพื่อความก้าวหน้าในตำแหน่งขุนนาง

แม้จะถูกครอบครัวของสามีปิดบังแต่ความลับย่อมไม่มีในโลก นับแต่นั้นมาสองแม่ลูกถูกตราหน้าว่าเป็นภาระไร้ค่า ญาติพี่น้องของสามีกลั่นแกล้งรังแกสารพัด พวกนางสองคนอดทนใช้ชีวิตอย่างยากลำบากในตระกูลชั่วตระกูลนี้

มารดาของร่างนี้เป็นสตรีอ่อนโยนและจิตใจดี แต่ด้วยความยากลำบากอดมื้อกินมื้อทำให้นางป่วยหนัก แม้มีตระกูลเดิม

เป็นถึงเศรษฐีฐานะร่ำรวย ก็ไม่คิดกลับไปพึ่งพาให้ตระกูลอับอาย ส่วนหญิงสาวเจ้าของร่างเดิมก็ถูกบังคับให้ทำงานหนักจนสิ้นใจ และก็เป็นเธอหวงจื่อหนิงดวงวิญญาณจากโลกอนาคต คือผู้ที่เข้ามาอยู่ในร่างอันน่าเวทนานี้แทน

ความโกรธและความคับแค้นในหัวใจเริ่มปะทุขึ้น ทั้งที่โลกเดิมหวงจื่อหนิงพยายามอย่างหนักเพื่อมีชีวิตที่มั่นคง แต่กลับถูกคนชั่วฆ่าปิดปากตกตายอย่างน่าอนาถในเมืองใหญ่ และไม่รู้ว่าหลังจากเธอตกตาย ความลับที่เธอค้นพบจะถูกเปิดโปงหรือไม่ ในยามนี้มันไม่สำคัญอีกต่อไป

แต่ ณ ตอนนี้เวลานี้เธอถูกส่งมายังโลกคู่ขนานกลับต้องมาเผชิญชะตากรรมของหญิงสาวผู้อาภัพอีกงั้นหรือ? ชะตากรรมอันใดหวงจื่อหนิงไม่เคยเกรงกลัว เพียงแค่เรื่องอาหารที่ยอมไม่ได้เด็ดขาด

“เฮ้อ คุณน้าคนงามท่านจะกลัวครอบครัวขายหน้าทำไมกัน แค่บุรุษที่จิตใจโลเลคิดหวังอยากได้อำนาจ จนหลงลืมสตรีที่คอยสนับสนุนเช่นท่านน่ะ คนเช่นนั้นมีค่าคู่ควรให้ท่านต้องทุกข์ใจจนตายได้ยังไง พอคุณน้าตายไปลูกสาวก็ต้องมารับเคราะห์จนตายตามอีกคน”

“แม่นางน้อยคนงามก็เหมือนกัน ทำไมต้องยอมให้พวกหมาป่าปอดสุนัขพวกนี้รังแก แค่เธอพยายามหาทางหลบหนีไปจากที่นี่ ก็ไม่ต้องตายอย่างน่าอนาถหรอกนะ”

หวงจื่อหนิงนั่งคิดทบทวนความทรงจำทั้งเก่าและใหม่ เมื่อตกตะกอนความคิดได้คนอย่างเธอ จะไม่ยอมถูกพวกหัวหงอกหัวดำรุมรังแกตนเองอีก

“ไม่มีทาง! ไม่ว่าจะเป็นชีวิตที่แล้วหรือชีวิตนี้ คนอย่างหวงจื่อหนิงจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายได้อีกต่อไป! ถึงแม้ร่างกายนี้จะอ่อนแอแล้วอย่างไร ในเมื่อเธอคือนักโภชนาการมืออาชีพเสียอย่าง การขวนขวายหาอาหารเพื่อดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น และทำให้ร่างอันผ่ายผอมจนมองเห็นกระดูก กลับมามีรูปร่างที่มีน้ำมีนวลเช่นผู้อื่นอีกครั้งย่อมไม่มีปัญหะ...”

โครกคราก!!

“รู้แล้วน่าว่าหิวไม่ต้องร้องเสียงดังขนาดนี้ก็ได้ ฮึ่ย ทำไมไม่เห็นเหมือนในนิยายหรือซี่รี่ย์ที่เคยดูเลยนะ คนที่ทะลุมิติไปเกิดใหม่แล้วมีมิติวิเศษ หรือพวกเครื่องมือทำมาหากินไรงี้ นี่! เทพที่อยู่บนสวรรค์ชั้นฟ้าเก้าชั้นสิบชั้นนั่นน่ะ พาฉันมาเกิดใหม่แล้วแค่มีความทรงจำเดิม มันไม่พอให้ชีวิตในโลกนี้ง่ายขึ้นหรอกนะ ถ้าแน่จริงละก็ ท่านควรมอบตัวช่วยตามความถนัดของฉันมาให้ด้วยสิ หลังจากหลบหนีจากตระกูลเฮงซวยนี้ไปไกลแล้ว จะได้ใช้อาชีพของฉันทำงานหาเงินเลี้ยงดูตัวเอง ได้ยินที่ฉันพูดมั้ยเนี่ยสวรรค์ ตุบ เชอะยุคนี้มันจะมีจริงได้ยังไงเทพเทวา ป่านนี้คงไปเกิดใหม่กิน ขี้ ปี้ นะ...”

ครืน ๆ เปรี้ยง! เปรี้ยง! วิ้ง!

หวงจื่อหนิงยังพูดกับตัวเองไม่ทันจบ ก็เกิดเสียงฟ้าร้องคำรามพร้อมฟ้าผ่าทันที ไม่เพียงเท่านั้นเธอยังรู้สึกร้อนที่หลังใบหู และยังได้ยินเสียงคนแก่พูดเสียยืดยาว คล้ายอยากพูดเสียงดังแต่ทำไม่ได้ จึงทำเพียงบ่นพึมพำกราย ๆ เท่านั้น

“โอ๊ย! อะไรวะเนี่ย อยู่ดี ๆ ก็เจ็บตัวเฉย”

‘เหอะ นางหนูนี่บ่นอยู่นั่นจนข้าเริ่มรำคาญ อยากได้ตัวช่วยข้าก็มอบให้เจ้าแล้วนะ ปานรูปดอกอิงฮวาหลังใบหูด้านซ้ายของเจ้า คือมิติที่เชื่อมไปยังโรงครัวอันกว้างใหญ่ ที่แห่งนี้มีสิ่งที่เจ้ารักและใช้เป็นอาชีพได้ หวังว่าเจ้าจะใช้ประตูมิติให้เกิดประโยชน์ อาหารของเจ้านอกจากใช้บำรุงร่างกายแล้ว มันยังช่วยรักษาโรคได้อีกมิใช่หรือ ดังนั้นในวันข้างหน้าหากพบเจอคนที่มีบุญสัมพันธ์ ก็จงใช้อาชีพของเจ้าช่วยเหลือพวกเขาให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ ถือว่าเป็นการสร้างบุญกุศลเอาไว้เผื่อชาติภพใหม่ก็แล้วกัน ข้าไปล่ะ’

“...!!...”

“เมื่อกี้เสียงคนแก่นั่นบอกว่าอะไรนะ ปานรูปดอกอิงฮวาหลังหูซ้ายคือประตูมิติงั้นเหรอ แถมยังมีห้องครัวขนาดใหญ่ให้ด้วย แล้วจะเข้าไปได้ยังไงหรือว่าลองพูดเหมือนในนิยายดู อืม เข้ามิติ พรึบ! เฮ้ย! เป็นความจริงเหรอเนี่ยงั้นขอเข้าไปสำรวจหน่อยก็แล้วกัน” หวงจื่อหนิงแค่ลองพูดอย่างที่คิด แต่กลายเป็นว่าเธอไปโผล่อีกที่หนึ่งจริง ๆ

วับ! หวงจื่อหนิงหายเข้ามาในมิติที่มีเสียงบอกเมื่อครู่ เธอคิดว่าในมิตินี้คงเป็นห้องครัวทั่วไป ๆ แค่มีอุปกรณ์การทำครัวครบครัน พร้อมวัตถุดิบชั้นดีที่ใช้ไม่มีวันหมดเท่านั้น แต่สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาของเธอตอนนี้ มันอลังการงานสร้างยิ่งกว่าที่คิด

แต่ละอย่างล้วนมีป้ายบอกว่าคือสิ่งใด และมันสามารถใช้ทำอะไรได้บ้าง หวงจื่อหนิงตกตะลึงจนอ้าปากค้าง โดยเฉพาะบ่อน้ำพุวิญญาณที่แสนวิเศษนั่น แปลงผักออแกนิค แปลงสมุนไพรหายาก โรงเก็บวัตถุดิบ ห้องวิจัยและตำราโภชนาการ แม้แต่ห้องปรุงอาหารยาก็ยังมี

“โอ้แม่เจ้า นะ นะ นี่มันไม่ใช่แค่ห้องครัวแล้ว ในที่สุดร่างกายอันซูบผอมเหมือนโครงกระดูกเดินได้ ก็จะกลับมาเป็นปกติเช่นคนอื่นเสียที สิ่งไหนที่ควรเต่งตึงย่อมต้องเป็นไปตามกรรมพันธุ์ ขอขลุกอยู่ในนี้จนกว่าร่างกายจะแข็งแรงก็แล้วกัน” 

เมื่อใดที่ร่างกายพร้อมค่อยออกไปด้านนอก และหาวิธีหลบหนีไปจากหมู่บ้านไป๋หยุนแห่งนี้ หากในอนาคตเธอมีขาทองคำให้เกาะ และคนผู้นั้นมีอำนาจมากพอแล้วละก็ รับรองว่าจะช่วยแก้แค้นให้สองแม่ลูก ที่ต้องตายอย่างไม่เป็นธรรมแน่นอน

“คุณน้ากับลูกสาวหลับให้สบายนะคะ ส่วนคนชั่วพวกนั้นสักวันหนึ่งหนูจะช่วยแก้แค้นให้เอง”

‘ขอบใจมาก /ขอบคุณพี่สาว’

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หวงจื่อหนิงเกิดใหม่เป็นพี่เลี้ยงบุตรชายท่านอ๋องอำมหิต   ตอนที่ 17 นางเป็นใครกันแน่?

    เมื่อจื่อหนิงรับปากหลี่อ๋องไว้แล้ว ว่าจะดูแลเรื่องอาหารบำรุงให้ ไม่ว่าจะเป็นยามอยู่ที่จวนหรือยามไปทำงานที่ค่ายทหาร ดังนั้นในวันที่สองกับการได้อยู่จวนอ๋องแห่งนี้ จื่อหนิงจึงตื่นตั้งแต่ยามเหม่าเพื่อเตรียมอาหาร และสิ่งที่นางทำในเช้าวันนี้ก็คือโจ๊กข้าวกล้องใส่พุทราแดง ที่ช่วยลดอาการจุกแน่นรวมถึงเสริมพลังให้ร่างกายแต่สิ่งที่ทำให้บ่าวไพร่ตกใจจนทำตัวไม่ถูก แม้แต่ชางอวี่ก็ยังไม่อยากเชื่อสายตาของตน คือการที่หลี่อ๋องมานั่งรับสำรับเช้ากับซื่อจื่อน้อยที่เรือนหยางชู ซึ่งยามนี้ชางเซิ่งกำลังคุกเข่าขออภัยซื่อจื่อ และร้องไห้เพราะดีใจและเสียใจไปพร้อมกัน“ฮึก ซื่อจื่อเป็นบ่าวที่ไม่ดีปล่อยให้ท่านตกอยู่ในอันตราย โปรดอภัยให้บ่าวผู้นี้ด้วยขอรับ ต่อไปบ่าวจะไม่ยอมอยู่ห่างกายท่านอีกแล้ว ฮึก คนพวกนั้นทำร้ายซื่อจื่อหรือไม่ขอรับ”ซื่อจื่อน้อยมององครักษ์ของตนและกลั้นยิ้ม เพราะท่าทางของชางเซิ่งที่ร้องไห้เป็นเด็ก มันช่างขัดกับรูปร่างหน้าตาของเขายิ่งนักแต่จะหัวเราะออกมาซึ่งหน้าก็ไม่ได้“ชางเซิ่งเจ้าหยุดร้องไห้เถิด ข้าไม่โทษเจ้าหรอกที่ช่วยข้าไว้ไม่ทัน เป็นคนพวกนั้นที่วางแผนได้ดีเกินคาด จึงพาตัวข้าไปจากเจ้าได้แต่ตอนนี

  • หวงจื่อหนิงเกิดใหม่เป็นพี่เลี้ยงบุตรชายท่านอ๋องอำมหิต   ตอนที่ 16 เรื่องของนางต้องสืบให้รู้

    หลังจากยืนรอให้หลี่อ๋องเสวยอาหารเสร็จ จื่อหนิงที่เอาแต่ยืนยิ้มด้วยความดีใจ ที่ขาทองคำยอมทานอาหารของนาง ซึ่งหลี่อ๋องยอมรับว่าอาหารที่จื่อหนิงทำนั้น ช่างเป็นรสชาติที่ถูกใจตนเองมาก ทำให้หลี่อ๋องจับตามองจื่อหนิงมากกว่าเดิม“อะ ฮึ่ม แม่นางจื่อหนิง”“หือ อ๊ะ ท่านอ๋องทรงเรียกหม่อมฉันหรือเพคะ”“ใช่ เปิ่นหวางแค่จะบอกเจ้าว่าฝีมือการทำอาหารของเจ้าใช้ได้ และสิ่งที่เจ้าพูดมานั้นก็ถูกต้องไม่น้อย ถ้าเช่นนั้นต่อไปอาหารทุกมื้อของเปิ่นหวาง รบกวนแม่นางจื่อหนิงช่วยดูแลด้วยก็แล้วกัน ยกเว้นวันที่ต้องไปค่ายทหารนอกเมืองเจ้าไม่ต้องทะ...”“ได้อย่างไรเพคะ! ถึงท่านอ๋องต้องออกไปที่ค่ายทหาร แต่ยังต้องมีอาหารติดไปเสวยระหว่างทางด้วยสิ จะขาดมื้อใดมื้อหนึ่งไม่ได้เด็ดขาดจนกว่าอาการปวดท้องจะหายดีเพคะ”หลี่อ๋องกำลังคิดว่าท่าทางที่จื่อหนิงกำลังทำอยู่ ช่างเหมือนกับมารดาบ่นด้วยความเป็นห่วงบุตร ซึ่งหลี่อ๋องก็เคยผ่านเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน จึงทำให้หลี่อ๋องเผลอยกยิ้มอย่างไม่รู้ตัว“ในเมื่อแม่นางจื่อหนิงเป็นกังวลเรื่องสุขภาพของเปิ่นหวาง หากไม่ลำบากจนเกินไปนักเจ้าก็ทำตามความต้องการของเจ้าเถิด”“ท่านอ๋องพูดจริงหรือเพคะ! อย่าหลอกให

  • หวงจื่อหนิงเกิดใหม่เป็นพี่เลี้ยงบุตรชายท่านอ๋องอำมหิต   ตอนที่ 15 เริ่มผูกมิตรกับขาทองคำ

    ทางด้านเรือนหยางชูของซื่อจื่อน้อยหลี่จื่อคัง ยามนี้จื่อหนิงที่ได้ชำระล้างร่างกายผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว กำลังนำวัตถุดิบที่ได้เอ่ยขอกับพ่อบ้าน นำมาปรุงเป็นอาหารมื้อกลางวัน สำหรับเจ้านายตัวน้อยที่ตนได้ช่วยชีวิตเอาไว้ โดยมีเจตนาแอบแฝงเพื่อเกาะขาทองคำอย่างหลี่อ๋องจื่อหนิงไม่รู้ว่าหลี่อ๋องจะกลับจวนมาเมื่อใด แต่นางมีใจทำอาหารมื้อกลางวันไว้เผื่อด้วยเช่นกัน ซึ่งอาหารที่นางทำย่อมเป็นอาหารบำรุงร่างกาย และถูกต้องตามหลักโภชนการที่นางทำอยู่เสมอ เนื่องจากจื่อหนิงสังเกตเห็นท่าทางยามที่หลี่อ๋องมีโทสะ เขาแอบใช้มือข้างหนึ่งกุมที่ท้องไว้แน่น‘เสี่ยวถังเป่าเจ้าว่าหลี่อ๋องจะมีอาการป่วยหรือไม่’‘เหตุใดเจ้าถึงคิดว่าหลี่อ๋องมีอาการป่วย หรือเจ้าสังเกตเห็นถึงสิ่งผิดปกติ’‘อืม ใช่แล้วล่ะข้าแอบเห็นหลี่อ๋องกุมท้อง ยิ่งตอนที่มีโทสะการหายใจก็ผิดปกติเช่นกัน’‘หากเป็นเช่นที่เจ้าว่ามา นี่เป็นโอกาสดีที่เจ้าจะช่วยรักษา เมื่อหลี่อ๋องเห็นถึงความสามารถของเจ้าย่อมรั้งเจ้าอยู่ที่นี่ต่อไป เช่นนี้ยามหลี่อ๋องเสด็จไปเมืองหลวง เจ้าคงได้ติดตามไปพร้อมกับเสี่ยวอวี้ อย่าปล่อยให้โอกาสดี ๆ ให้หลุดมือไปเด็ดขาดนะจื่อหนิง’‘แน่นอนเสี่ยว

  • หวงจื่อหนิงเกิดใหม่เป็นพี่เลี้ยงบุตรชายท่านอ๋องอำมหิต   ตอนที่ 14 หวงฉุนฟางต้องถูกประหาร

    สิ่งที่หลี่อ๋องพูดกับหวงฉุนฟางนั้น สร้างความตกตะลึงให้กับคนในครอบครัวอย่างมาก พวกเขาแค่คิดว่านางมีนิสัยเอาแต่ใจ มิใช่คนใจร้ายถึงขั้นคิดฆ่าคนได้มาก่อนนายท่านหวงคิดว่าตนเองหูฝาด จึงได้เอ่ยถามกับหลี่อ๋องอีกครั้งให้แน่ใจ “ทะ ทะ ท่านอ๋องท่านบอกว่าผู้ใดคือคนร้ายนะพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมมิได้หูฝาดเพราะอายุมากใช่หรือไม่ท่านอ๋อง”“นะ นะ นี่นางใจกล้าคิดสังหารลูกของเจี๋ยเอ๋อร์งั้นหรือ แต่นั่นเป็นหลานชายของนางนะ ต่างก็มีสายเลือดเดียวกันเหตุใดถึงทำได้ลงคอ ฮึก” เฉินฮูหยินร้องไห้ด้วยนึกสงสารบุตรสาวและหลานชายของตนยิ่งนักหวงฉุนฟางละล่ำละลักแก้ตัวเป็นพัลวัน “มะ มะ ไม่จริงนะเพคะท่านอ๋อง ต้องมีคนอิจฉาที่หม่อมฉันเข้าออกจวนอ๋องบ่อย ๆ ถึงได้จ้างคนให้ทำการลักพาตัวซื่อจื่อและโยนความผิดมาให้หม่อมฉัน ท่านอ๋องเชื่อหม่อมฉันเถิดหม่อมฉันไม่ได้ทำจริง ๆ เพคะ”“หึ เจ้าไม่ยอมรับว่าเป็นคนสั่งการสินะ ได้ เปิ่นหวางจะทำให้เจ้ายอมรับแต่โดยดี ชางอวี่นำคนเข้ามา” ในเมื่อคนร้ายไม่ยอมรับสารภาพ การเบิกตัวพยานย่อมไม่ต้องรั้งรอกันอีก“พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง”ชางอวี่ออกไปเพียงชั่วอึดใจก็กลับเข้ามาพร้อมพยาน ซึ่งพยานคนนี้ยิ่งทำให้หวงฉุนฟางถึง

  • หวงจื่อหนิงเกิดใหม่เป็นพี่เลี้ยงบุตรชายท่านอ๋องอำมหิต   ตอนที่ 13 จับตัวคนร้ายที่จวนตระกูลหวง

    รถม้าคันใหญ่ที่หลี่อ๋องเคยใช้แทบนับครั้งได้ วันนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่หลี่อ๋องจะนั่งรถม้า เพื่อไปสะสางปัญหาความวุ่นวายที่หวงฉุนฟางได้ทำกับจวนอ๋องเอาไว้ชาวบ้านในเมืองหลงเฉิงเกิดความสงสัย เมื่อจวนอ๋องมีความเคลื่อนไหวโดยมีกำลังทหาร คอยเดินตามรถม้าจำนวนหลายสิบนาย มีหลายคนนึกถึงเรื่องที่ซื่อจื่อถูกลักพาตัว จึงชักชวนกันเดินตามรถม้าอยู่ห่าง ๆจนกระทั่งรถม้ามาหยุดอยู่หน้าจวนตระกูลหวง บ่าวไพร่ที่เห็นว่าผู้มาเยือนคือใคร ถึงกับวิ่งเข้าไปรายงานเจ้าของจวน เพื่อออกมาต้อนรับแขกผู้สูงศักดิ์ด้วยตนเอง นายท่านหวงเมื่อได้ยินบ่าวเข้ามารายงานว่าหลี่อ๋องเสด็จมาเยือนที่จวน จึงได้เร่งฝีเท้าของตนออกมาต้อนรับแฮ่ก ๆ ๆ “ถวายบังคมท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่รู้ว่าท่านอ๋องจะเสด็จมาขออภัยที่ออกมาต้อนรับล่าช้า”หลี่อ๋องปรายตามองมิได้แสดงสีหน้าใด ๆ “นายท่านหวงอย่าได้กล่าวเช่นนั้น อย่างไรเสียพวกเราก็เกี่ยวดองเป็นญาติกัน เป็นฝ่ายเปิ่นหวางเสียมากกว่าที่มาโดยไม่บอกกล่าว”“หามิได้ ๆ พ่ะย่ะค่ะ เชิญท่านอ๋องเข้าไปด้านใน ดื่มน้ำชาก่อนแล้วค่อยพูดคุยกันเถิดพ่ะย่ะค่ะ” หวงซวนถานนายท่านของจวน รู้สึกว่าบรรยากาศรอบตั

  • หวงจื่อหนิงเกิดใหม่เป็นพี่เลี้ยงบุตรชายท่านอ๋องอำมหิต   ตอนที่ 12 สืบสาวราวเรื่อง

    ชางอวี่ติดตามเหมยลี่ไปจนถึงจวนตระกูลหวง จึงต้องใช้วิธีอื่นในการลอบเข้าจวนแห่งนี้ เพื่อต้องการสืบให้รู้ว่าผู้ที่เหมยลี่มาพบเป็นผู้ใด เมื่อมาถึงเรือนเล็กหลังหนึ่งก็พบว่า เหมยลี่หันมองซ้ายขวาก่อนจะหายเข้าไปด้านใน ตัวของชางอวี่จึงยืนแอบอยู่ด้านหลังหน้าต่างเงียบ ๆหวงฉุนฟางที่กำลังนั่งพักผ่อนกลับต้องแปลกใจ เมื่อเห็นว่าเหมยลี่มีท่าทางลุกลี้ลุกลนคล้ายกับพบเจอเรื่องตกใจ จนเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่ “เหมยลี่เจ้ามาทำอันใดที่เรือนของข้า”“คุณหนูสามแย่แล้วเจ้าค่ะ แย่แล้ว!”“แย่อะไรของเจ้าพูดมาให้ชัดกว่านี้มิได้รึ เจ้าเอาแต่พูดว่าแย่ ๆ แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรว่ามันคือเรื่องอะไร” หวงฉุนฟางเริ่มไม่สบอารมณ์ เมื่อเหมยลี่เอาแต่พูดคำว่าแย่กับนาง“ที่บ่าวบอกว่าแย่แล้วเป็นเพราะวันนี้ซื่อจื่อถูกคนช่วยไว้ได้ และกลับมาที่จวนบ่าวถึงได้รีบหาวิธีออกมารายงานคุณหนูเจ้าค่ะ” เหมยลี่รีบพูดเพราะนางเกรงว่าโจรพวกนั้นจะถูกจับตัวได้แล้วพรึบ! “เจ้าว่าอะไรนะ! เด็กนั่นมีคนช่วยเอาไว้และกลับมาที่จวนแล้วเช่นนั้นรึ ไหนเจ้าบอกว่าไอ้พวกชั้นต่ำทำงานได้ดีมิใช่หรือ แล้วเหตุใดถึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้ หา! เหมยลี่” หวงฉุนฟางลุกขึ้นตะคอกเหมย

  • หวงจื่อหนิงเกิดใหม่เป็นพี่เลี้ยงบุตรชายท่านอ๋องอำมหิต   ตอนที่ 11 หนอนตัวร้าย

    เรื่องราวที่ออกจากปากของซื่อจื่อน้อย ทำเอาเจ้าของจวนรวมถึงพ่อบ้านห้าวและชางอวี่ เกิดอาการตกใจจนแทบไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน คาดไม่ถึงว่าสาวใช้ของฮูหยินรองจะมีนิสัยร้ายกาจ ถึงกับกลั่นแกลังบุตรของเจ้านายเช่นนี้ได้แต่คนที่มีโทสะมากกว่าผู้ใดคงหนีไม่พ้นหลี่อ๋อง เขากำหมัดแน่นพยายามควบคุมอารมณ์โกรธของตน เพราะไม่อยากทำให้บุตรชายต้องตกใจ “ชางอวี่! ไปลากตัวสาวใช้ของน้องสะใภ้มาที่นี่ เดี๋ยวนี้! เปิ่นหวางจะไต่สวนนางด้วยตนเอง”ชางอวี่ที่รู้สึกโกรธเช่นกันรับคำสั่งไม่มีรีรอ “พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง”จื่อหนิงยังไม่อยากให้เรื่องมันจบเร็วเกินไป นางจึงรีบเอ่ยขัดขึ้นเสียก่อน “ประเดี๋ยวก่อนเพคะท่านอ๋อง”“แม่นางจื่อหนิงห้ามเปิ่นหวางด้วยเหตุใดรึ?”“หม่อมฉันมิได้คิดจะห้ามไม่ให้ท่านอ๋องไต่สวนเพคะ เพียงแต่เรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นฝีมือของสาวใช้ผู้นั้นคนเดียว มิสู้ท่านอ๋องลองสังเกตท่าทีของนาง เมื่อได้เห็นว่าซื่อจื่อกลับมาอย่างปลอดภัย เผื่อว่าสาวใช้ผู้นั้นจะนำความไปบอกกล่าวใครบางคน คราวนี้จะได้รู้เสียทีว่าใครที่คิดทำร้ายซื่อจื่อเพคะ” จื่อหนิงย่อมอยากมีผลงานเพื่อแสดงความสามารถให้ขาทองคำได้เห็น ว่านางมิได้เก่งเพียงแค่เรื่อง

  • หวงจื่อหนิงเกิดใหม่เป็นพี่เลี้ยงบุตรชายท่านอ๋องอำมหิต   ตอนที่ 10 ไม่ใช่น้องสะใภ้แต่ทำไมหน้าคล้ายกัน

    ภายในเรือนหย่งเจิงที่หลี่อ๋องใช้ทำงานเกี่ยวกับกองทัพ เจ้าของเรือนยังคงมีสีหน้าท่าทางเคร่งเครียดไม่จางหาย ที่เป็นเช่นนี้เพราะยังไม่ได้รับข่าวจากคนของตน เกี่ยวกับหลานชายเพียงคนเดียวที่หายไป แต่ความกังวลใจของหลี่อ๋องกำลังจะถูกคลี่คลาย เมื่อเสียงเล็ก ๆ ที่คุ้นเคยเรียกตนเองอยู่ด้านหน้าประตู“เสด็จพ่อ ๆ เสี่ยวอวี้กลับมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”หลี่อ๋องเริ่มขมวดคิ้วคมดุจกระบี่เข้าหากัน และเอ่ยถามชางอวี่ถึงที่มาของเสียงเล็ก ๆ นั่น “หือ ชางอวี่เจ้าได้ยินเสียงเด็กเหมือนข้าหรือไม่ เสียงนั่นคล้ายเสียงของเสี่ยวอวี้มาก หรือเพราะเปิ่นหวางเป็นห่วงเสี่ยวอวี้มากเกินไปจนหูฝาดงั้นหรือ”ซื่อจื่อน้อยยังคงส่งเสียงเรียกหลี่อ๋องอีกครั้ง “เสด็จพ่อออ! ท่านอยู่ด้านในหรือไม่เสี่ยวอวี้กลับมาหาท่านแล้ว”ชางอวี่ที่ตั้งใจฟังเสียงเล็ก ๆ เพื่อความแน่ใจ เมื่อรับรู้ได้ว่ามีคนอยู่ด้านนอกจริง จึงรีบตอบคำถามของหลี่อ๋องทันที “ท่านอ๋องพระองค์มิได้หูฝาดพ่ะย่ะค่ะ มีคนอยู่ด้านหน้าประตูเรือนหย่งเจิงจริง ๆ หรือว่าเสียงที่พระองค์ได้ยินจะเป็นเสียงของซื่อจื่อพ่ะย่ะค่ะ”จื่อหนิงเห็นซื่อจื่อน้อยเริ่มมีสีหน้าไม่ดี นางจึงอาสาเคาะประตูให้แต่ช่างบัง

  • หวงจื่อหนิงเกิดใหม่เป็นพี่เลี้ยงบุตรชายท่านอ๋องอำมหิต   ตอนที่ 9 ข้าคือซื่อจื่อหลี่จื้อคัง

    ส่วนจื่อหนิงนั้นเดินทางจากเมืองหลันเถียน โดยการจ้างรถม้าคันขนาดกลางที่ใช้นอนพักได้ยามกลางคืน นางพาซื่อจื่อน้อยนั่งรถม้าผ่านมาสามสี่วันแล้ว ในที่สุดก็มองเห็นกำแพงเมืองหลงเฉิงเสียทีเมื่อผ่านการตรวจป้ายประจำตัวจากทหาร จื่อหนิงก็ให้รถม้าไปส่งนางที่จวนของหลี่อ๋อง คราแรกคนบังคับรถม้าจะไม่ยอมไป นางจำเป็นต้องเพิ่มเงินอีกเล็กน้อย เพื่อให้คนงานคนนี้มีกำลังใจในการทำงาน ซึ่งมีซื่อจื่อน้อยคอยบอกทางเสร็จสรรพจนกระทั่งรถม้ามาหยุดอยู่ด้านหน้าจวนขนาดใหญ่ ซึ่งมีบ่าวไพร่มายืนเฝ้าระวังเวรยามที่มองมายังรถม้าอย่างสนใจ ว่าด้านในจะใช่สตรีหน้าด้านคนใดอีกหรือไม่ พอเห็นว่าเป็นสตรีรูปร่างซูบผอมเล็กน้อย กลับกลายเป็นความแปลกใจว่านางมาทำอันใดที่นี่“แม่นางเจ้ามาทำอันใดที่จวนแห่งนี้หรือ”หลังจากจื่อหนิงลงมายืนด้านล่างได้อย่างมั่นคงแล้ว จึงเงยหน้าตอบคำถามของบ่าวที่ยืนรอคำตอบอยู่ “อ้อ พี่ชายท่านนี้ข้ามีเรื่องสำคัญมากและมันเกี่ยวกับซื่อจื่อของจวนอ๋อง ไม่ทราบว่าท่านอ๋องอยู่ด้านในจวนหรือไม่ รบกวนพี่ชายไปรายงานให้ข้าทีเถิด”“เจ้าว่าอะไรนะ! ที่เจ้านั่งรถม้ามาจวนของท่านอ๋อง เพราะเรื่องของซื่อจื่องั้นหรือ นี่แม่นางเจ้าอย่า

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status