“ครับนาย”
ก่อนจะเดินออกจากบ้านไปเพราะไม่อยากอยู่ร่วมบ้านกับคนที่มีส่วนทำให้แม่ของเขาต้องตาย
เลนินลูกน้องผู้เป็นมือขวาของมาเฟียอย่างฟีนิกส์พอได้รับคำสั่งของเจ้านายมาแล้วทุกข้อ ก็พาตัวหญิงสาวเข้าไปขังเอาไว้ในห้องนอนของแขก ปิดประตูลงกลอนล็อกอย่างแน่นหนา มีคนเฝ้าทั้งด้านในด้านนอก
“หนูคิดถึงแม่กับคุณลุงจังเลย หนูอยากตามแม่กับคุณลุงไปอยู่ที่นั่นจังเลย”
ร่างเล็กทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นห้องภายในห้องที่เธอไม่ได้คุ้นชินหรือรู้จักเลยแม้แต่น้อย เธอไม่เคยมาที่นี่มาก่อน
ปากก็พร่ำบ่นถึงคนที่เธอนั้นคิดถึงสุดหัวใจของเธอ และอยากเจอพวกเขาอีกสักครั้งถ้ายังมีโอกาสนั้นอยู่
กอดตัวเองแล้วร้องไห้เบาๆ ไม่กล้าส่งเสียงดังออกไป กลัวว่าคนที่อยู่ด้านนอกจะได้ยิน กลัวว่าเขาคนนั้นที่เธอเคยหลงคิดว่าใจดีจะเข้ามาทำร้ายเธออีก
“หนูจะไม่ยอมแพ้ หนูจะอยู่จนกว่าวันที่เราจะได้พบกันอีกครั้ง”
เข็มขาวผล็อยหลับไปด้วยอาการหมดแรงจากการร้องไห้ที่เรียกได้ว่าหนักหนาจนตาบวม เธอตื่นขึ้นมาในช่วงสายของวันหรือคงเป็นเวลาเที่ยงวันได้แล้วมั้งจากการที่เธอนั้นคาดเดาด้วยตัวเอง
หอบร่างกายที่เต็มไปด้วยความหิวโหยเข้าไปภายในห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอนที่เธอถูกจับมาขังเอาไว้ ด้วยความหวังที่ว่าอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อพบเจอกับชีวิตที่เธอเคยวาดฝันเอาไว้อย่างสวยหรู
เธอเข้าไปกินน้ำจากก๊อกน้ำที่อ่างล้างหน้าเพื่อประทังความหิวโหย และเพิ่มเติมน้ำให้กับร่างกาย ก่อนที่จะขาดน้ำจนตายไปจริงๆ
รู้ดีว่ามันไม่ใช่น้ำที่สะอาดพอที่จะดื่มกินได้ แต่มันก็ดีกว่าทนหิวต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่รู้ว่าเมื่อไหร่คนใจร้ายพวกนั้นจะให้เธอได้กินข้าวสักคำ
เข็มขาวอดทนอยู่แบบนั้นจากฟ้าที่สว่างจนมีแสงสาดส่องผ่านช่องหน้าต่างกระจกเข้ามาสว่างไปทั่วทั้งห้อง จนกระทั่งหมดท้องฟ้ามืดมิดแสงที่สาดส่องผ่านช่องหน้าต่างนั้นก็หายไป แสงสว่างจากธรรมชาติถูกแทนที่ด้วยแสงไฟ
เธอก็ยังคงถูกขังอยู่ในห้องนอนเล็กๆ นั้น และยังคงไม่มีอะไรตกถึงท้องสักคำ มีเพียงน้ำจากก๊อกเล็กๆ นั้นช่วยลูบท้องคลายหิวไปได้เท่านั้นเอง
“ไปพาตัวคุณหนูเข็มขาวออกมา กูจะจัดโต๊ะเลี้ยงข้าวคุณหนูเขาสักหน่อย”
ฟีนิกส์กลับเข้ามาภายในบ้านหลังใหญ่ที่ซึ่งเป็นบ้านของเขาเองในช่วงเช้าของอีกวัน หลังจากหายตัวไปจากบ้านหลังนี้ยี่สิบสี่ชั่วโมงกว่าๆ เห็นจะได้
เขากลับมาพร้อมกับอารมณ์ที่ดีขึ้น และเสียงที่ดังเรียกหาลูกน้องคนสนิทอย่างเลนินดังมาแต่ไกล
พร้อมกับมีลูกน้องอีกสองคนช่วยกันยกข้าวต้มกุ้งหม้อใหญ่เดินผ่านหน้าเข้าไปยังห้องอาหารตามคำสั่งของเขาก่อนหน้านี้ที่เขาจะกลับเข้ามาภายในบ้าน
“ครับนาย”
เลนินก้มหน้าเล็กน้อยรับคำสั่งนั้น แล้วก็รีบเดินไปทำตามคำสั่งของเจ้านายอย่างรวดเร็ว ตามแบบฉบับลูกน้องดีเด่น
“นั่งสิ จะได้กินข้าวกัน”
ไม่นานเข็มขาวก็ถูกพาตัวออกมาจากห้องนอนที่เคยใช้เป็นที่กักขังเธอ พร้อมกับถูกเชื้อเชิญให้นั่งลงกินอาหารร่วมโต๊ะกับเจ้าของบ้าน ราวกับเธอเป็นแขกคนสำคัญของเขา
“ค่ะ”
หญิงสาวรีบนั่งลงในทันที เพราะจากการถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากคนอย่างเขาทำให้เธอเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วเลยว่า ไม่ควรขัดใจคนอย่างเขาไม่อย่างนั้นอาจจะเจ็บตัวเข้าให้อีก
“หวังว่าเธอคงจะกินข้าวต้มธรรมดาๆ ได้นะ คงไม่ต้องเป็นอาหารหรูหราระดับห้าดาว”
ชายตามองหญิงสาวที่แสนน่าสมเพชนั้นด้วยสายตาแสนเกลียดชังเธอ สภาพเธอกับเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นชุดเดิมจนต้องเอาเสื้อคลุมของเขามาสวมทับ มันช่างเหมาะกับเธอที่เป็นสาเหตุทำให้แม่ของเขาต้องตรอมใจจนฆ่าตัวตาย
เขาจะกดเธอให้จมดิน จนสุดท้ายเธอจำต้องฆ่าตัวตายแบบแม่ของเขา ชดใช้ในสิ่งที่เธอกับแม่ของเธอทำเอาไว้
“กินได้ค่ะ”
คนตัวเล็กก้มหน้าตอบเขาด้วยความหิวโหย ท้องของเธอตอนนี้ร้องดังสนั่นราวกับจะออกมาตักอาหารกินด้วยตัวเองให้ได้อยู่แล้ว
“ตักข้าวต้มให้คุณหนูเขา”
พยักหน้าให้ลูกน้องเริ่มเสิร์ฟมื้อเช้าที่เขาสั่งเตรียมมาเป็นอย่างดีนั้นได้แล้ว
“ครับนาย”
“เน้นกุ้งให้คุณหนูเขาด้วยนะ”
“ข้าวต้มกุ้ง!”
พอได้กลิ่นข้าวต้มหอมๆ ตรงหน้า เข็มขาวก็รีบเงยหน้าขึ้นมองอาหารนั้นในทันที
คนตัวเล็กถึงกับหน้าถอดสี เมื่ออาหารที่ถูกเสิร์ฟมานั้นเธอกลับกินมันไม่ได้ ด้วยเธอแพ้กุ้งอย่างรุนแรง ชนิดที่ว่าแตะต้องกุ้งไม่ได้เลยจะมีอาการแพ้ในทันที
“กินสิ ถ้าไม่อยากตาย”
เห็นอาการของหญิงสาวแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าตกใจ มาเฟียตัวร้ายอย่างเขาก็ไม่พลาดที่จะซ้ำเติมลงไปอีก เพราะดูออกว่าอีกฝ่ายกำลังหิวโซและต้องการจะกินมากแค่ไหน
“แต่ว่า....
เข็มขาวมองไปยังชามข้าวต้มที่เต็มไปด้วยกุ้งอย่างอึดอัดใจเป็นที่สุด ทั้งหิวทั้งกลัวจนไม่กล้าขยับตัว
“ยอมอดตายงั้นสิ”
แววตาเย็นชาเหยียดมองไปยังเธอ ที่ก็คงรักตัวกลัวตายไม่กล้ากินและก็ไม่กล้าอดตาย รักชีวิตของตัวเองยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้นอย่างคนเห็นแก่ตัว แต่กลับทำให้แม่ของเขาต้องตาย
“หนูกินได้ค่ะ”
เธอรีบตักข้าวต้มในชามตรงหน้าเข้าปากในทันทีด้วยความหิวโหย ตักคำโตๆ ใส่ปากคำแล้วคำเล่า เคี้ยวตุ้ยๆ จนสองแก้มป่องออกมา
หวังให้ตัวเองอิ่มท้องไปได้อีกสักมื้อ ภาวนาไม่ให้อาการแพ้กุ้งมันกำเริบออกมาในตอนนี้
~ เพล้ง ~
ช้อนในมือของหญิงสาวร่วงหล่นลงพื้น เกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วห้องกินข้าวนั้น เมื่อช้อนกระทบเข้ากับพื้นกระเบื้อง
ทำเอาสายตาทุกคู่ที่เป็นของลูกน้องมาเฟียหันมาจ้องมองหญิงสาวไปในทางเดียวกัน ด้วยกลัวจะมีเหตุร้ายกับเจ้านาย
แต่หญิงสาวกลับไม่รู้อะไรเลย เธอกลับกระเสือกกระสนเอาชีวิตรอดจากอาการแพ้กุ้งที่กินเข้าไปแทน
สองมือช่วยกันกดนวดไปที่หน้าอก หวังช่วยให้ตัวเธอเองนั้นหายจากอาการแน่นหน้าอกที่กำลังก่อตัวขึ้นมา
“ใกล้ตายหรือยัง”
มาเฟียหนุ่มมีสีหน้าเรียบเฉยไม่ได้รู้สึกตกใจอะไรเพราะเขารู้อยู่แล้วว่าคนที่เสแสร้งอ่อนแอแบบนั้นแพ้กุ้ง
พร้อมกันนั้นเขาก็ยังคงนั่งกินข้าวต้มในชามของเขาต่อหน้าตาเฉยราวกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย”
คนตัวเล็กเริ่มมีผื่นแดงขึ้นตามใบหน้าและลำตัวลงไปนั่งกองกับพื้นด้วยนั่งบนเก้าอี้ไม่ไหว
ริมฝีปากบางเริ่มเปิดเผยอกว้างขึ้นเพื่อหายใจ เมื่ออาการแน่นหน้าอกมันหนักหนาขึ้นจนหายใจทางจมูกไม่ไหวแล้ว
“หึๆ”
มาเฟียหนุ่มกลั้วหัวเราะในลำคอด้วยความสะใจออกมาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายใกล้ตายสมใจเขาเต็มแก่แล้ว
“ชะๆ ช่วย...
คนตัวเล็กตะเกียกตะกายเข้าไปหาเข้าที่ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม่ไกลจากตรงที่เธออยู่นัก หวังไปไหว้ขอร้องอ้อนวอนให้เขาพาไปหาหมอ
แต่เธอก็ยังไม่ได้ไม่ถึงไหน สติก็ดับวูบลงไปเสียก่อน
“เฮ้อ พาไปหาหมอแล้วก็พากลับไปขังไว้ที่บ้านพ่อกู อย่าให้หนีไปไหนได้”
คนกำลังสนุกถึงกับทอดถอนหายใจยาวอย่างหมดอารมณ์ออกมาเมื่อร่างเล็กๆ นั้นหมดสติตรงหน้า
เขาหันไปสั่งลูกน้องเสียงดังก่อนจะลุกออกจากโต๊ะอาหารที่กำลังกินมื้อเช้าอย่างเอร็ดอร่อยนั้นไป
“ครับนาย”
“ห้ามให้ค้างที่โรงพยาบาล ใครขัดคำสั่งกูฆ่าทิ้งให้หมด”
แต่พอเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็นึกขึ้นได้ว่า ผู้หญิงมารยาคนนั้นอาจหาทางหนีไปจากเขาได้ด้วยการไปขอร้องให้คนอื่นช่วย
เขาก็เลยส่งเสียงกำชับคำสั่งมาอีกรอบเพื่อความรอบคอบ แล้วก็ขึ้นไปนอนพักที่ในห้องนอนของตัวเอง ไม่ได้สนใจว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นหรือตายยังไงต่อไป
“ครับนาย”
เข็มขาวถูกพาตัวไปโรงพยาบาลแบบตามมีตามเกิดโดยลูกน้องของมาเฟียใจร้ายป่าเถื่อนนั้น
เธอถูกพาไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เป็นโรงพยาบาลของรัฐบาลขนาดเล็ก ไม่ได้หรูหราอะไร
โชคดีที่ที่นั่นรักษาอาการของเธอได้ และเธอก็รอดชีวิตกลับบ้านได้อีกครั้ง
“ใครโทรมาวะ”ฟีนิกส์ที่กำลังนั่งดื่มเหล้าอย่างออกรสจนเริ่มออกอาการเมามายเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมองหน้าลูกน้องที่นั่งอยู่ไม่ห่างจากเขานักด้วยความหงุดหงิดเมื่อหูของเขาได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังเข้ามารบกวนในช่วงที่กำลังกินเหล้าอย่างเพลิดเพลินนี้“นายใหญ่ครับ”เลนินรีบหยิบเอาโทรศัพท์มือถือของเจ้านายที่ถูกวางคว่ำหน้าอยู่ไม่ไกลจากมือเขานักขึ้นมาดูว่ามีใครโทรเข้ามา แล้วก็รีบรายงานออกไป“โทรมาจนได้สินะ”สายตาคมทอดมองไปยังโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูของตัวเองที่แทบไม่เคยใช้งานมันเลย นอกเสียจากสั่งงานลูกน้องแววตาแห่งความคิดถึงถูกฉายออกมาเล็กน้อยก่อนจะถูกเก็บซ่อนไปด้วยแววตาเย็นชาของคนไร้ความรู้สึกอย่างเขา“โทรมาแบบนี้คงอยากเห็นหน้าลูกเลี้ยงสุดที่รักนั้นสินะ”แล้วเขาก็กลบเกลื่อนความรู้สึกของคนเป็นลูกอย่างเขาด้วยคำพูดที่มันแสนประชดประชันนั้น“นายใหญ่วางสายไปแล้วครับ”ลูกก็ทำได้แค่รายงานสถานการณ์ทุกอย่างออกไป ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นใดๆ เพราะต่างร่วงรู้กันดีว่าเจ้านายนั้นแท้จริงแล้วต้องการอะไรกันแน่“มึงไปลากคุณหนูนั้นมา แล้วตามกูไปที่ห้องนั่งเล่น”มาเฟียหนุ่มลุกเดินออกจากตรงที่เขาใช้นั่งกินเหล้าไปอย่างรวดเร็
“เธอหมดลมหายใจแล้วครับนาย”เลนินเห็นร่างนั้นแน่นิ่งไปก็เข้ามาตรวจดูลมหายใจ เพราะเขาก็เห็นกับตามาโดนตลอดว่าเจ้านายเขาจับเธอกดน้ำไปก็ตั้งหลายรอบ รอบละนานสองนาน“มึงว่าอะไรนะ ตายแล้วงั้นเหรอวะ”หันไปมองร่างเล็กๆที่นอนแน่นิ่งอยู่ขอบสระในทันที มองดูไม่วางตาและไม่เชื่อว่าเธอจะตายง่ายขนาดนั้น“ครับนาย”เลนินยืนยันคำตอบของเขาอีกครั้งด้วยการพยักหน้าเบาๆ“ปั๊มหัวใจมันขึ้นมาสิวะ”เสียงหนาสั่งดังลั่นส่วนทางกับท่าทีนิ่งสงบของลูกน้องตรงหน้า“ผมไม่กล้าเตะเธอครับ”แต่ลูกน้องกลับไม่รับคำสั่งนั้น เพราะผู้หญิงที่นอนกับเจ้านายแล้วเขาไม่ควรแตะเนื้อต้องตัวเธอ ลูกน้องอย่างเขาไม่ควรใช้ผู้หญิงร่วมกับเจ้านาย ของเจ้านายก็คือของเจ้านาย ลูกน้องไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว“ไอ้พวกเวร”ฟีนิกส์ด่ากราดลูกน้องหลายคนที่ยืนเรียงหน้ากันอยู่แถวๆนั้นด้วยความโมโห พร้อมกับรีบขยับตัวเข้าไปหาร่างเล็กๆนั้นด้วยความว่องไว “ฟื้นสิวะ ฟื้นขึ้นมาสิ”แล้วเป่าลมจากปากของเขาเข้าไปในปากของเธอ สลับกับปั๊มไปที่หน้าอกของเธอตรงจุดที่มีไว้ช่วยชีวิตทำวนเวียนไปมาด้วยความร้อนรนท่ามกลางสายตาของลูกน้องที่ยืนจ้องเจ้านายอย่างเขาตาไม่กะพริบกันเลยทีเดียว
“ไปได้ไกลหรือยัง”ถามกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ กับหน้าตาเรียบเฉยแทบไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมาเลย ก็เพราะพอจะเดาทางผู้หญิงแพศยานั้นออก“ยังครับ อยู่แค่ปากซอยแค่นี้เองครับ”“ส่งคนออกไปวิ่งไล่สักคนสองคน แต่ไม่ต้องจับกลับมา ให้วิ่งจนเหนื่อย”และเขาก็มีแผนสำหรับเรื่องนี้เอาไว้แล้วกับคนที่กล้ามาลองดีกับมาเฟียอย่างเขา เธอจะได้สนุกกับการหนีอย่างเต็มที่แน่นอน“ไอ้เออร์วาน ไปตามคุณหนูกลับบ้านมาสิ”ฟีนิกส์ปล่อยให้คนอยากหนีวิ่งเล่นไปได้สักพัก ก็เรียกหาลูกน้องผู้เป็นมือซ้ายที่หน้าโหดกว่าเลนินไปจัดการกับเธอ“เลนินมึงไปยกเหล้ามา”ส่วนเขานั้นก็เรียกหาเหล้ามาดื่มฆ่าเวลาที่ลูกน้องจะไปพาตัวเธอกลับมารับโทษที่กล้าดีวิ่งหนีคนอย่างเขาไป ทั้งที่เขาสั่งเธอแล้วว่าอย่าคิดทำอะไรแบบนั้นไม่เชื่อฟังก็ต้องเจอดีกลับไปบ้าง ครั้งต่อไปจะได้ไม่คิดลองดีกับมาเฟียอย่างเขาอีก“ครับนาย”ลูกน้องทั้งสองแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองอย่างที่ไม่มีใครเกี่ยงงานกับใคร เพราะถ้าใครกล้าทำแบบนั้นต่อหน้าเจ้านายเท่ากับพร้อมตายไม่พร้อมจะทำงานแล้วเลนินหายไปไม่นานก็กลับมาพร้อมกับเหล้าตามที่เจ้านายสั่ง จัดเสิร์ฟในทันทีเพื่อไม่ให้เจ้านายต้องร
“กินซะ”เสียงเลนินเอ่ยดังมาแต่ไกลพร้อมกับมือข้างที่ว่างเอื้อมมาเปิดประตูออก โดยที่มืออีกข้างถือของกินที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อถุงใหญ่ที่สามารถทำให้คนตัวเล็กอิ่มท้องได้ทั้งวันพอเปิดประตูห้องออกจนกว้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็กวาดสายตามองดูไปรอบๆห้องตามประสามือขวาของมาเฟียที่มีนิสัยชอบสังเกต ว่ามีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่ก่อนจะโยนถุงใบนั้นใส่หน้าคนตัวเล็กที่ถูกขังเอาไว้ภายในห้องนอนของเธอแล้วปิดประตูลง กักขังเธอไว้ตามคำสั่งของเจ้านายตามเดิม“คุณคนส่งข้าวยังอยู่ไหมคะ”เข็มขาวเอ่ยเรียกคนด้านนอกที่เพิ่งจะปิดประตูใส่หน้าของเธออย่างไม่รู้จักชื่อแซ่ของเขา เธอไม่เคยกล้าเอ่ยถามชื่อของพวกเขาเลย ไม่ว่าจะก่อนหน้านี้หรือว่าในตอนนี้ ด้วยเกรงว่าพวกเขาอาจไม่พอใจและคิดทำร้ายเธอกลับก็เป็นได้“มีอะไร”เลนินที่มักจะอยู่ตรงบริเวณแถวๆหน้าห้องของหญิงสาวอยู่แล้วเอ่ยถามกลับไป ไม่ใช่เพราะความหวังดีเพราะเขาไม่มีนิสัยข้อนั้นอยู่แล้ว แต่เพราะเป็นหน้าที่ของเขาก็มันไม่ได้มีใครหน้าไหนในบ้านหลังนี้หนิ่ มันก็ต้องเป็นหน้าที่ของเขานั่นแหละถูกแล้ว และมันก็เป็นอะไรที่น่าเบื่อที่สุด“หนูขอออกไปข้างนอกสักสิบนาทีได้ไหม หรือแค่ห
“ครับนาย”ก่อนจะเดินออกจากบ้านไปเพราะไม่อยากอยู่ร่วมบ้านกับคนที่มีส่วนทำให้แม่ของเขาต้องตายเลนินลูกน้องผู้เป็นมือขวาของมาเฟียอย่างฟีนิกส์พอได้รับคำสั่งของเจ้านายมาแล้วทุกข้อ ก็พาตัวหญิงสาวเข้าไปขังเอาไว้ในห้องนอนของแขก ปิดประตูลงกลอนล็อกอย่างแน่นหนา มีคนเฝ้าทั้งด้านในด้านนอก“หนูคิดถึงแม่กับคุณลุงจังเลย หนูอยากตามแม่กับคุณลุงไปอยู่ที่นั่นจังเลย”ร่างเล็กทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นห้องภายในห้องที่เธอไม่ได้คุ้นชินหรือรู้จักเลยแม้แต่น้อย เธอไม่เคยมาที่นี่มาก่อนปากก็พร่ำบ่นถึงคนที่เธอนั้นคิดถึงสุดหัวใจของเธอ และอยากเจอพวกเขาอีกสักครั้งถ้ายังมีโอกาสนั้นอยู่กอดตัวเองแล้วร้องไห้เบาๆ ไม่กล้าส่งเสียงดังออกไป กลัวว่าคนที่อยู่ด้านนอกจะได้ยิน กลัวว่าเขาคนนั้นที่เธอเคยหลงคิดว่าใจดีจะเข้ามาทำร้ายเธออีก“หนูจะไม่ยอมแพ้ หนูจะอยู่จนกว่าวันที่เราจะได้พบกันอีกครั้ง”เข็มขาวผล็อยหลับไปด้วยอาการหมดแรงจากการร้องไห้ที่เรียกได้ว่าหนักหนาจนตาบวม เธอตื่นขึ้นมาในช่วงสายของวันหรือคงเป็นเวลาเที่ยงวันได้แล้วมั้งจากการที่เธอนั้นคาดเดาด้วยตัวเองหอบร่างกายที่เต็มไปด้วยความหิวโหยเข้าไปภายในห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอนที่เธอถูก
“ไม่ กรี๊ดดดดดเสียงเล็กๆ กรีดร้องดังลั่นด้วยความหวาดกลัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ร่างเล็กๆ ดิ้นพล่านแทบจะตกลงไปอยู่ด้านล่างของรถ“แหกปากเข้าไป อย่าหยุดร้องล่ะ”มือหนาดึงถึงเสื้อผ้าของเธอที่เหลือติดตัวอยู่ไม่กี่ชิ้นออกอย่างไร้ความปรานี เพียงชั่วอึดใจเดียวของคนเอาแต่ใจอย่างเขา ร่างเล็กๆ นั้นก็เปลือยเปล่าต่อหน้าเขาเปิดเผยเรือนร่างที่ติดว่าผอมไปนิดต่อหน้าเขา อย่างไม่มีอะไรมาขวางกั้นให้เกะกะลูกนัยน์ตาที่เขาก็ไม่ได้สนใจพิศมองนานนัก แต่กลับงัดเอาความใหญ่โตออกมาจากภายในกางเกงแทน“อ้าส์”แล้วเสียบแทงความใหญ่โตคับเต็มกำมือของตัวเองนั้นเข้าไปในช่องทางคับแคบของเธอดันเข้าไปอย่างรุนแรง นำพาความใหญ่โตเข้าไปในตัวเธอจนสุดความยาวอย่างเอาแต่ใจ“ฮืออ ออกไปให้พ้นนะ”เสียงกรีดร้องอันแสนเจ็บปวดของหญิงสาวหายเข้าไปในลำคอ เธอเจ็บจนร้องไม่ออกอีกต่อไปแล้วมีเพียงหยดน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้มขาวเท่านั้นที่ยังคงไหลออกมาต่อสู้กับความเจ็บปวดที่มันถาโถมเข้ามาหาเธอครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่มีวันจบสิ้นนั้น“ถุย”ถ่มน้ำลายใส่ท่อนเอ็นยักษ์ของตัวเองที่เชื่อมติดกับร่างกายของหญิงสาวเพื่อเติมน้ำหล่อลื่นขยับสะโพกแกร่งเข้าหาเธอช้าๆ เพื่