“กินซะ”
เสียงเลนินเอ่ยดังมาแต่ไกลพร้อมกับมือข้างที่ว่างเอื้อมมาเปิดประตูออก โดยที่มืออีกข้างถือของกินที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อถุงใหญ่ที่สามารถทำให้คนตัวเล็กอิ่มท้องได้ทั้งวัน
พอเปิดประตูห้องออกจนกว้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็กวาดสายตามองดูไปรอบๆห้องตามประสามือขวาของมาเฟียที่มีนิสัยชอบสังเกต ว่ามีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่
ก่อนจะโยนถุงใบนั้นใส่หน้าคนตัวเล็กที่ถูกขังเอาไว้ภายในห้องนอนของเธอ
แล้วปิดประตูลง กักขังเธอไว้ตามคำสั่งของเจ้านายตามเดิม
“คุณคนส่งข้าวยังอยู่ไหมคะ”
เข็มขาวเอ่ยเรียกคนด้านนอกที่เพิ่งจะปิดประตูใส่หน้าของเธออย่างไม่รู้จักชื่อแซ่ของเขา
เธอไม่เคยกล้าเอ่ยถามชื่อของพวกเขาเลย ไม่ว่าจะก่อนหน้านี้หรือว่าในตอนนี้ ด้วยเกรงว่าพวกเขาอาจไม่พอใจและคิดทำร้ายเธอกลับก็เป็นได้
“มีอะไร”
เลนินที่มักจะอยู่ตรงบริเวณแถวๆหน้าห้องของหญิงสาวอยู่แล้วเอ่ยถามกลับไป ไม่ใช่เพราะความหวังดีเพราะเขาไม่มีนิสัยข้อนั้นอยู่แล้ว แต่เพราะเป็นหน้าที่ของเขา
ก็มันไม่ได้มีใครหน้าไหนในบ้านหลังนี้หนิ่ มันก็ต้องเป็นหน้าที่ของเขานั่นแหละถูกแล้ว และมันก็เป็นอะไรที่น่าเบื่อที่สุด
“หนูขอออกไปข้างนอกสักสิบนาทีได้ไหม หรือแค่ห้านาทีก็ได้ค่ะ”
หลังจากถูกกักขังมาเป็นอาทิตย์ ร่างกายอันแสนอ่อนแอของเธอที่ถูกทำให้เจ็บช้ำอยู่เรื่อยจากคนใจร้ายนั้นก็เริ่มจะหายดี มีเรียวมีแรงกลับมาเหมือนเดิม แม้จะกินแต่อาหารจากร้านสะดวกซื้อก็ตาม
เธอก็เลยคิดวางแผนเอาไว้ว่าจะหาทางออกจากห้องนอนเล็กๆนี้เพื่อจะหนีออกไปจากบ้านหลังใหญ่หลังนี้ที่มันมีกำแพงสูงท่วมหัวหลังนี้
“ไม่ได้”
“หนูแค่อยากจะออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้างแค่นั้นเองค่ะ ไม่ก่อความเดือดร้อนอะไรอย่างแน่นอนค่ะ หนูสัญญา”
เสียงเล็กๆของเข็มขาวพยายามเอ่ยขอร้องอ้อนวอนคนที่อยู่ด้านนอก ไม่ได้ถึงขั้นเสียงอ่อนเสียงหวานหรอกเพราะเธอทำแบบนั้นไม่เป็น
แต่ก็ใช้ความพยายามอย่างสุดชีวิตแม้ในใจจะหวาดหวั่นไปด้วยความกลัวคนอย่างพวกเขาเป็นอย่างมากก็ตาม
“ไม่ได้”
เสียงหนาปฏิเสธดังไม่แพ้เจ้านายผู้เป็นมาเฟียเลยสักนิด เพราะมีหน้าที่กักขังไม่ได้มีหน้าที่ปล่อยตัวเธอ
“ขอบคุณค่ะ”
หญิงสาวที่นั่งรอฟังคำตอบอยู่ภายในห้องนอนถึงกับสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ก่อนจะตั้งสติกลับมาได้และเอ่ยขอบคุณอีกฝ่ายที่ยอมคุยกับเธอ
“เฮ้อออ”
คนตัวเล็กทอดถอนหายใจยาวออกมาอย่างคนหมดหวัง เหมือนแผนการหนีของเธอจะไม่สำเร็จตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มด้วยซ้ำไป
แล้วเธอก็จำใจหยิบเอาอาหารสำเร็จรูปที่มาจากร้านสะดวกซื้อใกล้ๆแถวนี้ๆขึ้นมากินเพื่อไม่ให้ท้องต้องร้องว่าหิว
แม้จะเบื่อไม่อยากกินแต่พอนึกขึ้นได้ว่าตัวเองจำเป็นต้องมีชีวิตอยู่เพื่อความฝันของตัวเอง ก็ฝืนกินจนหมดจนได้
และเหลือบางส่วนเอาไว้กินในมื้ออื่นๆ เพราะอาหารในถุงที่เขาให้มาจะเป็นเพียงถุงเดียวที่ต้องใช้กินไปทั้งวัน
“จะออกมาก็รีบๆเข้า มีเวลาให้สิบนาที”
เลนินเปิดประตูห้องนอนของหญิงสาวอีกครั้ง และไม่ได้ปิดมันลงอีก
เมื่อมีคำสั่งมาจากเจ้านายให้ปล่อยตัวเธอออกจากห้อง หลังจากที่เขารายงานไปว่าเธออยากออกไปจากห้องนอนเล็กๆนี่
“ขอบคุณค่ะ”
เข็มขาวยกมือไหว้คนที่เธอเห็นหน้าทุกวันตามมารยาที่ควรจะมี เมื่อเขานั้นมีน้ำใจปล่อยตัวเธอออกมาจากในห้องนอนตามที่เธอขอ
“อย่าคิดหนีล่ะ”
คำกำชับดังขึ้นในทันทีที่หญิงสาวก้าวเท้าพ้นขอบประตูห้องนอนออกมา ราวกับเป็นตัวกระตุ้นอะไรบางอย่าง
“ค่ะๆ”
หญิงสาวรีบเดินจ้ำอ้าวออกจากห้องนอนของตัวเองในทันที ตรงไปยังสวนหย่อมบริเวณข้างบ้าน เสแสร้งแกล้งชมดอกไม้และบรรยากาศของสวนหย่อมไปเรื่อยๆ แต่สายตากลับมองหาทางหนีให้กับตัวเอง
โดยที่ทุกๆอิริยาบถของเธอนั้น ไม่ว่าจะหันหน้าไปทางไหน หรือกะพริบตากี่ครั้ง ก็ยังคงอยู่ในสายตาของลูกน้องมาเฟียที่เฝ้าเธอเอาไว้รอบๆบริเวณบ้านอย่างเงียบๆ
ยกเว้นเลนินที่ปรากฏตัวเพียงคนเดียว และไม่ได้สนใจว่าเธอจะทำอะไรอยู่ในตอนนี้
“คุณหนูของมึงไปไหนแล้วล่ะไอ้เลนิน”
เสียงของมาเฟียหนุ่มดังมาแต่ไกลเมื่อจำต้องเดินเข้ามาภายในบ้านหลังใหญ่ของพ่อเขาด้วยสองขาแทนการขับรถเข้ามา
เพื่อไม่ให้มีใครล่วงรู้ว่าเขากลับเข้ามาภายในบ้าน โดยเฉพาะคนที่กำลังคิดอยากจะหนีเขาทั้งที่ไม่มีทางหนีรอดไปได้
“อยู่ทางนู้นครับ”
เลนินรายงานความคืบหน้าออกไป เมื่อเขานั้นรู้ความเคลื่อนไหวของหญิงสาวทุกอย่างก้าวจากการรายงานของลูกน้องที่อยู่ด้านนอกนั้น
“ปล่อยให้หาทางหนีไป เดี๋ยวค่อยไปตามจับกลับมา”
ฟีนิกส์ยิ้มเยาะออกมาเมื่อกำลังมีคนโง่ที่กล้าดีมาคิดหนีไปจากมาเฟียอย่างเขาที่มีลูกน้องเยอะแยะเต็มไปหมดจนเขาเองยังจำแทบจำหน้าได้ไม่หมดเลย
“ครับนาย”
“ไม่ต้องให้ใครตามไป”
แล้วเขาก็หันไปหยิบดอกกุหลาบสีขาวช่อโตมาจากมือของลูกน้องที่ถืออยู่ก่อนหน้านั้น มันเป็นดอกไม้ที่เขาซื้อมาให้กับแม่ของเขา เพราะวันนี้เป็นวันครบรอบวันที่แม่ของเขาจบชีวิตตัวเอง
และเขาก็เดินต่อไปยังบ้านหลังเล็กเพียงลำพังไร้ลูกน้องติดตาม ด้วยเขาต้องการพูดคุยกับแม่ที่จากไปตามลำพังไม่ต้องการให้ใครรบกวน
มาเฟียหนุ่มใช้เวลาอยู่ภายในบ้านหลังเล็กไม่นานนักก็ออกมา และวางกุหลาบสีขาวช่อโตนั้นเอาไว้ภายในบ้านไม่ได้เอากลับออกมา
วางมันไว้ตรงเตียงนอนของแม่ที่ซึ่งแม่ของเขาใช้มันเป็นเตียงนอนตัวสุดท้ายในชีวิตกับวันสุดท้ายบนโลกใบนี้
“เธอหนีไปทางด้านหลังแล้วครับ”
เสียงลูกน้องอย่างเลนินเอ่ยรายงานในทันทีเมื่อเห็นว่าเจ้านายเสร็จจากธุระส่วนตัวกลับออกมาจากบ้านหลังเล็กแล้ว
“ไปได้ไกลหรือยัง”
ถามกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ กับหน้าตาเรียบเฉยแทบไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมาเลย ก็เพราะพอจะเดาทางผู้หญิงแพศยานั้นออก
“ยังครับ อยู่แค่ปากซอยแค่นี้เองครับ”
“ส่งคนออกไปวิ่งไล่สักคนสองคน แต่ไม่ต้องจับกลับมา ให้วิ่งจนเหนื่อย”
“พี่เลนินกับพี่เออร์วานเป็นลูกน้องคนสนิทของคุณจะให้มาเป็นพี่เลี้ยงเด็กคงไม่เหมาะ หนูหาพี่เลี้ยงเองจะดีกว่า อีกอย่างหนูก็เรียนจบก็คอยดูแลลูกด้วยตัวเองได้อย่างเต็มที่ได้แล้วคุณจะได้กลับไปทำงานอย่างเต็มตัว”“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจหนู เดี๋ยวฉันจะช่วยหาอีกแรงก็แล้วกัน ว่าแต่ชุดว่ายน้ำนั้นทิ้งไปหรือยัง”เรื่องลูกคุยกันจบไปแล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความหวงเกี่ยวกับชุดว่ายน้ำที่เธอพูดถึงเอาไว้ตั้งแต่เดินทางมาถึงใหม่ๆ“ใครๆเขามาเที่ยวทะเลก็ต้องใส่ชุดว่ายน้ำกันทั้งนั้นไม่เห็นจะแปลกอะไรเลย แต่ทำไมคุณให้หนูเอาชุดไปทิ้งล่ะคะ”ร่างเล็กเอนตัวเข้าไปซบต้นแขนหนาของผู้เป็นสามีอย่างออดอ้อน เอ่ยเสียงเบาๆตอบเขาอย่างน่ารัก“ใครๆที่ไหนก็ช่างหัวมันสิ มันจะใส่อะไรหรือจะแก้ผ้าเดินก็เรื่องของพวกมัน แต่สำหรับเมียฉันแล้วห้ามใส่อะไรพวกนั้น ความสวยงาม เรือนร่าง ร่างกายนุ่มนิ่มนี้ ฟีนิกส์มีสิทธิ์ได้เห็นคนเดียวเท่านั้น”สองมือหนาช่วยกันรวบร่างเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆขึ้นมานั่งบนตักแกร่งของเขาได้อย่างง่ายดาย เมื่อมีโอกาสได้ใช้เวลากันตามลำพัง เขาก็ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือไปง่าย ต้องได้ใกล้ชิดกับเธอจนรู้สึกชุ
“ทาเล๊”เสียงของเด็กชายวัยสองขวบเอ่ยขึ้นเมื่อสายตานั้นมองเห็นผืนน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้า พร้อมกับท่าทางตื่นตาตื่นใจนี่อาจไม่ใช่การเห็นทะเลเป็นครั้งแรก แต่เป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่อาจนับได้สำหรับเด็กตัวน้อยๆคนนี้ด้วยพ่อของเขานั้นเป็นมาเฟียมีท่าเรือส่วนตัวเอาไว้ขนของติดกับทะเล ทำให้เขานั้นเดินทางไปทำงานกับพ่อและก็เห็นทะเลนับครั้งไม่ถ้วนแล้วตั้งแต่ลืมตาดูโลกได้เพียงไม่กี่เดือนแต่ทุกครั้งที่เด็กชายเห็นทะเลก็จะมีอาการตื่นเต้นแบบนี้ทุกครั้งไป ดูจะเป็นเด็กที่รักธรรมชาติไม่น้อยเลยในสายตาของคนเป็นพ่อกับแม่“ว้าว ทะเล”ส่วนคนเป็นแม่เองก็เก็บอาการดีใจเอาไว้ไม่อยู่ไม่ต่างจากลูกชายตัวน้อยเลยสักนิด เธอนั้นตื่นตาตื่นใจกับผืนน้ำสีฟ้าสดใสและหายทรายสีขาวที่อยู่ตรงหน้าเป็นที่สุดเธอก็เหมือนกับลูกชายนั่นแหละ ได้เห็นทะเลอยู่บ่อยๆเพราะตามผู้เป็นสามีไปทำงานอยู่เป็นประจำแต่ทว่าไม่เคยเห็นทะเลที่เป็นหาดทรายสีขาวสวยแบบนี้มาก่อน ด้วยที่ท่าเรือนั้นมันมีมีหาดทรายมีแต่ผืนน้ำและก็เรือขนส่งเท่านั้น“หวังว่าหนูคงไม่เอาชุดว่ายน้ำแบบนั้นมาใส่นะ”พอเห็นลูกกับเมียดูจะมีความสุขคนเป็นหัวหน้าครอบครัวก็อดไม่ได้ที่จะ
“ทำรายงานอยู่เหรอ”นอกจากวันนี้เมียตัวน้อยจะเลิกเรียนเย็นกว่าทุกวันแล้วพอกลับมาถึงบ้านก็ยังมีรายงานต้องให้ทำต่ออีกนิดหน่อย สามีอย่างเขาก็เลยรับหน้าที่เลี้ยงลูกเป็นหลักสลับกับทำงานไปด้วยพอพาลูกเข้านอนแล้วก็ให้กล้องช่วยเลี้ยงลูกต่อ ไม่ให้ลูกคลาดสายตาแม้แต่นิดแม้จะมีลูกน้องคอยนอนเฝ้าอยู่ใกล้ๆก็ตามส่วนคนเป็นพ่อนั้นก็ได้โอกาสมาดูแลเมียต่อจากลูกบ้าง หลังจากต้องแยกกันทำหน้าที่แทบไม่ได้เจอหน้ากันแบบนานๆเลย“ค่ะ อีกนิดก็ใกล้จะเสร็จแล้ว คุณฟีนิกส์อาบน้ำนอนก่อนได้เลยค่ะ”เข็มขาวกำลังก้มหน้าก้มตาทำรายงานอย่างขะมักเขม้นในช่วงที่สมองกำลังแล่นได้ที่ ไม่ได้เงยหน้ามองคนที่เดินเข้ามาภายในห้องนอนแม้แต่นิด แต่ก็รู้ดีว่าเป็นเขาเพราะกลิ่นกายเขามันหอมฟุ้งมาก่อนตัวเสียอีก เธอจำได้ดี“ฉันอาบน้ำแล้ว เหลือแต่ว่าเมื่อไหร่เมียจะไปกล่อมนอนแค่นั้นเอง”เขาทำทุกอย่างพร้อมเข้านอนมาตั้งแต่อยู่ในห้องนอนที่ชั้นล่างที่เปิดขึ้นมาใหม่ตั้งแต่มีลูกนั้นแล้ว เพื่อไม่ให้เสียเวลาเมื่อเจอหน้ากับเมียเพราะลูกยังเล็กมากๆทิ้งไว้คนเดียวนานก็ไม่ดี มีเวลาแค่รอบกินนมสองถึงสามชั่วโมงเท่านั้นพ่อมือโปรอย่างเขาที่เลี้ยงลูกเป็นห
“ให้ฉันช่วยแต่งตัวไหม”เสียงหนาเอ่ยขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวขึ้นอย่างช้าๆทางด้านหลังของเมียตัวน้อยที่กำลังยืนเช็ดตัวให้แห้งอยู่หน้ากระจกภายในห้องแต่งตัวสายตาคมพิศมองเมียจากทางด้านหลังไม่ห่างเลย แม้เธอจะเพิ่งคลอดลูกได้เพียงสามเดือนเท่านั้น แต่ทว่าทรวงทรงองค์เอวยังคงน่าเอาเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยยกเว้นอวบขึ้นมานิดหน่อย และนั้นทำให้เหมือนว่าจะจับได้ถนัดมือมากขึ้นไปอีก“ว้าย”คนตัวเล็กที่เอาแต่รีบเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้แห้งถึงกับสะดุ้งโหย่งด้วยความตกใจเมื่อถูกทักทายโดยผู้เป็นสามีไม่คิดว่าเขาจะเข้ามาภายในนี้ตอนที่เธอกำลังโป้อยู่ เพราะก่อนหน้านี้เขายังนอนหลับอยู่กับลูกน้อยวัยสามเดือนของเธออยู่เลยหรือว่าเขาจะแกล้งหลับกันแน่ก็ไม่รู้ พ่อมาเฟียคนนี้ยิ่งร้ายๆอยู่จนเมียอย่างเธอตามไม่เคยทันเลย“ลูกยังหลับอยู่ ฉันก็ยังพอจะว่างช่วยหนูแต่งตัวได้นะ”มือหนาหยิบเอาชุดชั้นในของเมียขึ้นมาถือเอาไว้แน่น หมายมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นคนใส่ให้เมีย เพื่อการันรีว่าเขาไม่ใช่แค่จะถนัดเพียงถอดออกเท่านั้นแต่เมื่อเป็นพ่อคนแล้วแต่งตัวให้ลูกน้องมานับครั้งไม่ถ้วนได้แล้ว เขาก็แต่งตัวให้เมียได้ด้วยเช่นก
“นี่เป็นแหวนที่ฉันตั้งใจเลือกมาเองกับมือและก็สลักชื่อฉันเอาไว้อย่างชัดเจน แหวนวงนี้มันเป็นของหนูแต่เพียงผู้เดียวนะ เหมือนที่ตัวฉันและก็หัวใจของฉันเป็นของหนูแต่เพียงผู้เดียวนั่นแหละ”รับแหวนนั้นมาจากมือลูกน้องแล้วแกะออกมาจากกล่อง มองแหวนที่ตั้งใจสั่งทำมาด้วยตัวเองอีกรอบด้วยความรักที่มีให้กับเธอแต่เพียงผู้เดียวจับมือเล็กๆของเธอข้างซ้ายขึ้นมาแล้วสวมแหวนวงนั้นให้กับนิ้วนางของเธออย่างบรรจงและเบามือที่สุดนี่แหละพิธีแต่งงานของเขาที่เขาตั้งใจจัดขึ้นมาเพื่อประกาศความรักของเขาและก็เธอ และเขาก็มั่นใจว่ามันจะส่งผ่านไปถึงเจ้าตัวน้อยที่อายุได้สามเดือนแล้วในท้องแม่นั้นด้วย“ขอบคุณนะคะ”เอ่ยขอบคุณเขาออกมาจากหัวใจและรอยยิ้มที่มีความสุข คราวนี้เธอไม่ได้ไหว้เขาอีกแล้วแต่ทว่ากลับก้มลงไปหอมแก้มเขาทั้งสองข้างแทน“แต่ว่าหนูไม่มีอะไรจะให้คุณเลย”ถ้าพูดถึงการแลกแหวนแทนใจในวันแต่งงานแบบที่เขาทำกับเธอ เธอก็ไม่มีแหวนแลกกลับไป เพราะไม่ได้เตรียมตัวเอาไว้ก่อนหน้านี้เลย“ไม่เป็นไร ฉันไม่ต้องการอะไรจากหนูทั้งนั้น แค่ฉันเป็นสุดที่รักของหนูก็เพียงพอแล้ว”เขาไม่ได้ต้องการอะไรจากเธอทั้งนั้น เพราะเธอคือหัวใจของเขา เขาไม
“มีที่สำคัญที่เราจะไปต้องกันคืนนี้ และก็เรื่องสำคัญที่เราจะต้องทำด้วยกัน”พอเมียตั้งท้องได้สามเดือนเข้าระยะที่ปลอดภัยดีแล้ว ฟีนิกส์ก็หาเรื่องพาเธอออกไปจากบ้านในทันที นอกเหนือจากที่ให้เธอไปเรียนที่มหาลัยทุกวันโดยเขานั้นทำตัวมีความลับ ไม่ปริปากบอกสถานที่ที่จะพาไปและก็ทำตัวแกมบังคับเธอด้วยหลังจากที่ไม่ได้ทำตัวแบบนี้กับเธอมานานมากแล้ว“อะไรเหรอคะ คุณเปิดตัวโกดังแห่งใหม่อีกเหรอคะ”เข็มขาวที่เพิ่งจะกินมื้อเย็นเสร็จกำลังช่วยแม่บ้านเก็บจานอาหารอยู่หันไปถามเขาด้วยความสงสัยว่าเขาจะพาเธอไปที่ไหนกันในเวลาเริ่มมืดค่ำแบบนี้“หนูปิดตาเอาไว้ก่อน ถึงที่หมายแล้วค่อยเปิดออก”ไม่ตอบคำถามอะไรเมีย แต่กลับเอาผ้ามาปิดตาเธอแทน แล้วพาเธอไปขึ้นรถwx“ให้หนูเห็นทางไม่ได้เหรอคะ”“ไม่ได้”แล้วเขาก็รีบสั่งให้ลูกน้องเคลื่อนขบวนรถโดยเร็วที่สุด เพื่อไปให้ถึงยังโรงแรมแห่งใหม่ที่เขาเพิ่งจะซื้อมาเมื่อไม่กี่วันมานี่เอง โดยที่การซื้อโรงแรมครั้งนี้เมียของเขาก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำเพราะเขาตั้งใจปิดเอาไว้เป็นความลับ“ใกล้ถึงหรือยังคะ”ระหว่างทางเข็มขาวพยายามถามเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น หวังว่าเขาจะบอกอะไรกับเธอบ้างเพื่อลดความตื่น