“นี่! ฉันชื่อขุนพล เรียนอยู่คณะบริหารปีสาม เธอชื่ออะไรและเรียนคณะอะไรล่ะ” เสียงทุ้มเอ่ยทำลายความเงียบและเลือกที่จะแนะนำตัวเองให้ยัยหน้าตาบ๊องแบ๊วที่มองตาปริบๆ ได้รู้จักก่อน ผู้หญิงบ้าอะไรวะหน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตาชะมัด ตัวเล็กแต่ฟาร์มโคนมนี่ไม่เล็กตามรูปร่างเธอเลย เรียนที่นี่มาสามปีแล้ว ถึงจะมาบ้างไม่มาบ้างแต่ไม่เคยเห็นหน้ายัยนี่มาก่อนหรือจะเป็นเด็กปีหนึ่งเพิ่งเข้ามาเรียน อันนี้ก็มีความเป็นไปได้สูงเพราะหน้าเด็กฉิบหาย
“อ่อ ชื่อหมูแดง เรียนอยู่คณะนิเทศปีสองค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” รุ่นพี่เขาเป็นรุ่นพี่ฉันหนึ่งปีแถมชื่ออย่างเท่ห์เลยขุนพล อ่า นี่ฉันควรผูกมิตรกับเขาดีไหมนะไหนๆก็นั่งข้างกันแล้ว แต่มันทำให้ความคิดฉันสะดุดเพราะก่อนหน้าที่เขาถามว่าฉันสติดีใช่ไหมนี่แหละ เป็นการถามที่ฉันอยากจะกรีดร้องออกมามาก
“อืม นิเทศปีสองอย่างนั้นเหรอ งั้นก็ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะครับน้องหมู” ขนาดชื่อยังน่ารักน่ากินเลยให้ตายเถอะว่ะ พ่อแม่ของยัยนี่ตั้งได้เข้าท่ามาก ‘หมูแดง’ แค่เรียกก็มีความอยากกินขึ้นมาแล้วสิ
“เอ่อ ชื่อหมูแดงค่ะไม่ใช่หมูเฉยๆ ช่วยกรุณาเรียกให้ถูกด้วยนะคะพี่ขุนพล” ฉันไม่ชอบให้ใครเรียกว่าหมูสั้นๆห้วนๆแบบนี้เลย คือไม่ได้กระแดะนะ แต่ฉันว่าหมูแดงเต็มๆ มันน่ารักกว่าเป็นไหนๆ ที่มาของชื่อก็คือเมื่อตอนแรกเกิดฉันตัวกลมปุ๊กลุ๊กมากและมีผิวขาวอมชมพูมาม๊ากับปาป๊าเลยตั้งชื่อลูกสาวคนสวยเพียงคนเดียวว่าหมูแดง ท่านเล่าให้ฟังอย่างภาคภูมิใจพร้อมมีภาพถ่ายเป็นหลักฐานให้ดูชัดๆ ไปเลย แต่ในปัจจุบันฉันหุ่นค่อนข้างดีในระดับมาตราฐานแล้วนะ ห่างไกลจากคำว่าหมูมานานมากแล้ว
“อือ ฉันรู้แล้วว่าเธอชื่อหมู ไม่ลืมง่ายๆ หรอก ชอบกินอยู่แล้วหมูเนี่ยของโปรดเลยนะจะบอกให้รู้เอาไว้” ขุนพลขยิบตาแล้วก้มหน้ากดโทรศัพท์ต่อ ที่บอกว่าชอบกินหมูเนี่ยเรื่องจริง เพราะมันคืออาหารและตอนนี้ก็ค้นพบอีกอย่างแล้วว่าคนชื่อหมูแดงก็กินได้เหมือนกัน คงจะอร่อยกว่าหมูไหนๆแน่นอน
ฉันขอเอาความชื่นชมและที่คิดว่าอยากผูกมิตรกลับมาคิดใหม่ก่อนนะ สายตายียวนมันกวนประสาทให้ฉันหงุดหงิดแล้วไหนจะรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั่นอีก เชอะ! ชอบกินหมูแล้วจะมาบอกฉันทำไมกันตาบ้าไม่เกี่ยวกับชื่อฉันสักหน่อยโยงเข้าไปได้ไงประสาท พยายามคิดให้เป็นอย่างอื่นแล้วนะ เพราะไม่อยากคิดตามอย่างตรงๆ อึ๋ย!! ขนลุกชันไปทั้งตัวเลยอ่ะ
“ไอ้ขุน!!”
“ไปเข้าห้องน้ำกันมาหรือว่ามึงสองคนแอบไปนอนหลับมาวะช้าฉิบหายเลยกว่าจะยอมโผล่หัวมากันได้เนี่ย” ผมมองเพื่อนรักที่ทิ้งตัวลงนั่งก่อนจะเลิกสนใจมันสองตัว
“ทำมาบ่นนะมึง”
“กูบ่นตรงไหนวะจิว”
“กวนตีนละมึงอ่ะไอ้ขุน”
สโลแกนของที่นี่ก็คือ มหาวิทยาลัยไฮโซโก้เก๋ที่รวบรวมเหล่าบรรดาลูกเศรษฐีลูกคนดังทั่วฟ้าเมืองไทย แต่เอาเข้าจริงคือมันก็ไม่ได้ขนาดนั้นนะ คนธรรมดาทั่วไปก็มีเยอะแยะแต่ไม่รู้ใครเป็นคนแฮชแท็คประโยคนี้ขึ้นมา แต่เอาเถอะฉันว่ามันใช้ได้กับกลุ่มนี้แล้วล่ะ รวมแก๊งค์หนุ่มหล่อหน้าตาดีมากลากเสียงยาว
“มึงอุตริเกิดอยากนั่งแถวกลางตั้งแต่เมื่อไหร่ ปกตินี่ครองแถวหลังมาตลอด หรือมึงเห็นว่ามีสาวน้อยคนสวยนั่งอยู่ตรงนี้เลยอยากเปลี่ยนบรรยากาศวะ”
ฉันที่ตั้งใจฟังอาจารย์ผู้หญิงวัยกลางคนที่มีคำว่าด็อกเตอร์นำหน้าชื่อกำลังพูดนั่นพูดนี่อยู่หน้าห้อง และมมันเริ่มจะสติแตกขึ้นเรื่อยๆเพราะหูมันได้ยินแต่เสียงของพวกที่นั่งอยู่แถวเดียวกับฉันเนี่ยแหละ คุยกันกลบเสียงอาจารย์หมดเลย แต่ก็แปลกที่ท่านไม่ดุไม่ว่ากล่าวทำเหมือนไม่ได้ยินซะอย่างนั้น
“อย่าเสือกสิครับเคน คนอื่นเขาตั้งใจเรียนกันอยู่นี่ยเห็นไหม หุบปากด่วนๆ เลย คำว่าเกรงใจน่ะสะกดเป็นไหมครับ” เสือกเน้นๆ ใส่หน้ามันและตบท้ายด้วยนิ้วกลางอีกทีเป็นอันจบ
“อือ ก็ได้ๆ กูไม่ขอเสือกเรื่องของมึงแล้วก็ได้ขุน แต่กูจะจีบน้องเขามึงคอยดูนะไอ้เพื่อนยาก” เคนยักคิ้วให้เพื่อนสนิทแล้วฉีกยิ้มหวานให้สาวคนที่กำลังตกอยู่ในหัวข้อสนทนาของตนเองกับเพื่อน และก็มีอันต้องแสดงสีหน้าเหยเกขึ้นมาฉับพลันหลังจากยิ้มไปได้ประมาณสามวินาที แทบจะเห็นดาวเลยทีเดียว
ป๊าบ!
“ไอเพื่อนเวร ตบมาได้ เจ็บนะเว้ย!”
“กูจองเอาไว้แล้วเว้ยหมูแดงน้อยคนเนี้ย อย่าเสือกมายุ่งวุ่นวายไอ้สารเลวเคน หุบปากน่ารำคาญของมึงไปเลย ถ้าไม่อยากโดนตบหัวทิ่มอีกป๊าบสองป๊าบ” ผมชี้หน้าเพื่อนรักอย่างข่มขู่ แล้วจับมือของคนที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวใดๆด้วยขึ้นมาจูบที่หลังมือขาวสะอาด โชว์เคนที่ทำหน้ากวนประสาทใส่ได้น่าถีบให้หงายท้อง ส่วนหมูแดงน้อยน่ะเหรอ แม้แต่ตอนตกอยู่ในอาการใจยังน่าขย้ำเลยคิดดู ผู้หญิงคนนี้ทำให้หัวใจผมเต้นแรงกี่รอบแล้วก็ไม่รู้ตั้งแต่ได้พบกัน
“อย่ามาลวนลามฉันแบบนี้นะนายขุนพล” ฉันกระแทกเสียงใส่อย่างไม่พอใจแบบสุดๆ ต่อให้หล่อลากดินมากแค่ไหนแต่มือไวนิสัยแย่แบบนี้มันไม่โอเคเลยสักนิด มาหอมมือของฉันได้ยังไงกัน แล้วพูดกับเพื่อนว่าจองเจิงบ้าบออะไร และพอฉันจะชักมือตัวเองกลับหมอนี่ก็ยึดเอาไว้ไม่ยอมปล่อย “อย่ามาจับนะ นายมีสิทธิ์อะไรถึงมาทำกับฉันอย่างนี้ไอ้คนไร้มารยาท” ฉันสะบัดมือหวังให้หลุดออกจากการจับกุม แล้วขึงตาใส่สุดกำลัง แต่มันไม่ยอมปล่อยให้ฉันเป็นอิสระ ยังคงยึดจับเอาไว้อย่างเหนียวแน่น ถ้าฉันแหกปากโวยวายเสียงดังขึ้นมามันจะได้ผลดีหรือตรงกันข้ามกันแน่
“ทำไมถึงไม่เรียกพี่ขุน เรียกพี่เดี๋ยวนี้นะหมู อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำซากนะยัยตัวเล็กฤทธิ์เยอะ” ผมพูดเสียงดุอย่างไม่พอใจ นายนั่น นายนี่ขัดหูฉิบ อยากให้ยัยหมูนี่เรียกพี่ขุนมากกว่าแม้ว่าจะไม่ได้ยึดติดอะไรมากมายกับเรื่องแก่อ่อนตามลำดับอายุก็ตาม แต่เมื่อยัยหมูตัวน้อยนี่เรียก คือฟังแล้วมันรู้สึกดีไงไม่รู้
“ฉันไม่อยากจะเรียกนายว่าพี่แล้ว มีปัญหาอะไรไหม ปล่อย!” ฉันเม้มปากขัดใจเมื่อไม่เป็นไปตามต้องการ แต่ก็ยังคงพยายามดึงมือของตัวเองกลับอย่างไม่ยอมแพ้ ยื้อยุดกันไปมาสักใหญ่ แต่ไอ้บ้าขุนพลช่างดื้อด้านนัก รู้จักกันยังไม่ครบชั่วโมงก็ออกลายไม่น่าคบหาแล้ว
“อย่าแกล้งน้องหมูแดงมากสิวะขุน ปล่อยมือน้องซะ เดี๋ยวน้องเขาก็เกลียดหน้ามึงมากกว่านี้หรอก อืม พี่เป็นเพื่อนรักของไอขุนมันก็จริง แต่พี่จิวขออยู่ทีมน้องหมูแดงนะครับ” จิวทำมือเป็นไอท่าเลิฟยูส่งให้ ฉันเลยอมยิ้มแต่ก็แค่เดี๋ยวเดียวเท่านั้น
“เสือกอีกคนแล้วไงไอเวรจิว คนกับหมูเขาจะคุยกัน อย่าเสนอหน้าเข้ามายุ่ง ซี๊ดด โอ๊ยย” เจ็บจี๊ดถึงใจเลยครับ เมื่อปลายเล็บแหลมคมทั้งหยิกและจิกบนหลังมือเต็มแรง ย้ำว่าเต็มแรงไม่มีออมแรงเลย
“เหี้ย! ร้องอย่างกับมึงกำลังกรำศึกรักอยู่บนเตียงอย่างนั้นแหละ เป็นห่าอะไรของมึงวะขุน แหกปากสิบแปดบวกฉิบหายเลย เดี๋ยวอาจารย์แกก็เอาไมค์ปาหัวมึง โทษฐานตกใจหรอกไอ้ขุน” เคนสบถออกมาทั้งตกใจและขำไปพร้อมกัน
“หมูทำร้ายร่างกายกู สงสัยคงต้องจับปราบพยศสักหน่อยแล้วมั้ง” ผมส่งสายตาคาดโทษให้ยัยตัวดีน่าขย้ำที่จ้องหน้าผมตาเขียวปั๊ดเลย คงคิดว่าน่ากลัวมาก ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้มีอาจารย์อยู่ด้วยนะพ่อจะถลกหนังหมูมากิน
ผมเงยหน้าจากซอกคอขาวที่ฝากฝังเขี้ยวไว้หลายจุด ประสานนัยน์ตาเอาเรื่องของเมียหมู พลางยักคิ้วกวนอารมณ์ขุ่นมัวของคนกำลังอินซีรีส์แต่ดันค้าง เพราะผมชิงปิดก่อน งับจมูก จูบมุมปาก ก่อนจะล้มตัวลงนอนกอดก่ายหมอนข้างมีชีวิต ซุกหน้าเข้าหานมหนองโพคู่โตที่ประจำของผม วันไหนไม่ได้แตะต้องจะทำให้ผมงุ่นง่าน ของผู้หญิงคนอื่นผมเฉยๆ แต่กับของเมียมันทำให้ผมตื่นตัวได้ตลอดเวลา ขนาดว่าเห็นจนชิน กินทุกวันก็เถอะ“เอาไว้ค่อยดูวันหลัง เวลานี้ควรเป็นของขุน ไม่ใช่ซีรีส์”“ก็อยากดูตอนนี้ให้จบ ทำไมต้องปิดก่อนด้วย แล้วตัวเนี่ยมีแต่ กลิ่นบุหรี่ทั้งนั้น รีบไปอาบน้ำ ล้างกลิ่นออกเดี๋ยวนี้เลยนะ ก็รู้ว่าไม่ชอบ ยังจะแกล้งมานอนทับอีก ไล่ออกไปนอนนอกห้องดีไหมเนี่ย” เมียคนสวยได้ทีแล้วบ่นผัวใหญ่ แต่เท่าที่ผมลองพิสูจน์กลิ่นก่อนเข้ามามันก็ไม่ได้รุนแรงเท่าไหร่นะ ถ้าไม่ถอดเสื้อออกนี่สิ คงเป็นเรื่องมากกว่านี้ เพราะมันซึมซับมาเต็มๆ“ไม่เอา พี่ขุนไม่นอนนอกห้อง จะนอนกอดเมีย ขอห้านาทีนะครับแล้วเดี๋ยวพี่ขุนจะไปอาบน้ำตามคำบัญชาของคุณนายหมูแดง” ผมต่อรองเสียงอ่อน ใช้ลูกอ้อนนิดหน่อย พร้อมส่ายหน้าไปมากับอกนุ่มๆ ของเมียหมูที่นอนตะแคงข้างโอบกอดผมเอ
12:15 A.M....@ Marina ClubKunponTalksควันบุหรี่ลอยคละคลุ้ง ตลบอบอวลอยู่ในอากาศมันทำให้ผมหงุดหงิดมาก ความรู้กเหมือนตัวเองกำลังจะถูกรมควัน หรือย่างสดเลย เข้าใจหัวอกคนอยู่ท่ามกลางไอ้พวกสิงห์อมควันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ถ่องแท้ก็ตอนเลิกสูบนี่แหละ ยอมรับว่าแต่ก่อนผมก็มีนิสัยไม่ต่างจากพวกมันนักหรอก แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วไง ไม่น่าเชื่อว่าผมจะเลิก มันได้เด็ดขาด ไม่ลงแดงเหมือนใครหลายๆ คนที่ถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษา ถือว่ามันเป็นความโชคดีของผมด้วยแหละ และแรงบันดาลใจ ของผมก็คือหมูแดง พอรู้ว่าแม่คุณทูนหัวไม่ชอบกลิ่นเหม็นๆ ของมัน ผมก็พยายามไม่แตะต้องมันอีก กลายเป็นความเคยชินมาจนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้ว่าหมูจะไม่ได้ห้ามเด็ดขาดแต่ผมก็รู้ตัวเองดี เมื่อก่อนนอกจากคนในครอบครัว เพื่อนรักเวรๆ อย่างไอ้เคน ไอ้จิว ผมก็ไม่แคร์ หรือสนใจใคร กระทั่งมีหมูแดงเข้ามาในชีวิต มีอิทธิพลกับผมมากกว่าแม่เสียอีกมั้ง ผู้หญิงสองคนนี้ที่ผมรักไม่น้อยไปกว่ากันนี่เวลาอยู่ด้วยกันทีไร เข้าขากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ไอ้ขุนเลยกลายเป็นหมาเฮ้อ...ห่างกันยังไม่ถึงสองชั่วโมงผมก็คิดถึงแล้ว ในหัวผมมัน ไม่ค่อยมีเรื่องอะไรให้คิดมากมายนักหรอก
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะขุน มีความสุขในทุกวัน สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ป่วย อยู่กันไปแบบนี้เรื่อยไปจนเราแก่เฒ่าเลยนะ หมูแดงรักขุน รักนะคะ” พออวยพรจบปุ๊บฉันก็ประคองข้างแก้มแล้วจุ๊บที่ริมฝีปากหยัก แสงไฟสีนวลที่เปิดเอาไว้ส่องกระทบใบหน้าขุนทำให้ฉันเห็นว่าเขาตาแดงๆ ฉันว่าฉันก็พูดธรรมดานะ แต่ออกมาจากหัวใจล้วนๆ “โอ๋ มามะ” ฉันหอมแก้มแล้วดันท้ายทอยหนาให้ทิ้งหน้าลงกับไหล่ฉัน เกลือกกลั้วใหญ่เลย เอ็นดู“รักหมู รักหมู” เด็กชายขุนพลหอมซอกคอฉันแล้วไซร้ใหญ่เลย สงสัยจะมันเขี้ยว แต่ฉันเนี่ยจั๊กจี้ แต่เอาเถอะ ฉันจะยอมทนให้ก็ได้ เห็นว่าวันนี้เป็นวันเกิด“อยากได้ของขวัญเลยไหม” มาปลุกให้ตื่นขึ้นมาแล้วฉันว่าฉันควรทำอะไรให้มันครบครันไปเลย ไหนๆ ฉันก็มีของขวัญเตรียมเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วขุนพยักหน้าแต่พอฉันจะดันตัวออกห่างเพื่อไปหยิบสิ่งที่คิดไว้ว่าจะให้ตอนเย็นวันนี้พร้อมคนอื่นๆ ก็ไม่ยอมปล่อย “ไม่ให้ขยับแล้วจะไปหยิบของขวัญมาให้ได้ยังไง”“อย่าช้านะ อยากกอด”ฉันย่นจมูกใส่แล้วรีบรุดลงจากเตียงเมื่อเจ้าของอ้อมกอดยอมให้อิสระแก่ฉัน และเดินหายเข้ามาในห้องแต่งตัวเพื่อหยิบกล่องของขวัญขนาดใหญ่ออกมา“ไม่รู้ว่าจะถูกใจรึเป
ฉันโอ๋เด็กโข่งอยู่นานกว่าขุนจะยอมกลับบ้านไปอย่างจำยอม แก้มก็แทบจะช้ำ เพราะจมูกกับปากขยันเอามาชน เหตุผลนอกเหนือจากที่บอกขุนไปแล้ว แน่นอนว่าฉันย่อมมีเหตุผลอื่นอีก เพียงแต่ฉันไม่ได้พูดออกมาก็เท่านั้น“คุณนายหมูเจ้าขา เลิกอมยิ้มกับตัวเองแล้วช่วยกรุณาสนใจเพื่อนๆ ด้วยค่ะ พี่ขุนของแกเขากลับไปพักใหญ่แล้วค่ะ” พิ้งค์โบกมือฉวัดเฉวียนไปมาตรงหน้าฉันย่นจมูกใส่แล้วปัดความคิดที่เกี่ยวข้องกับขุนออกไปชั่วคราว เดี๋ยวเพื่อนจะกัดแกมหยอกอีก ซึ่งเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เช้าและทุกครั้งที่ฉันชื่นชมทรงผมตัวเองแบบเงียบๆ“เลิกเรียนไปหาของขวัญให้พี่ขุนดีไหม หมูแดงคงไม่ต้องถามเพราะคิดว่ามีเตรียมเอาไว้สุดที่รักแล้วเรียบร้อย” มินนี่ถามพิ้งค์แล้วก็หันมามองฉันด้วยกันทั้งคู่“สายตาไม่ค่อยอยากจะรู้กันเลยเนอะ” ฉันประชด“เออน่า บอกมาเหอะหมวย ฉันสองคนไม่คิดปริปากหรือแอบแย้มบอกสามีแกหรอก ประเด็นคือจะได้ไม่ซื้อซ้ำกันไง น่านะ” วิธีการหลอกถามของพิ้งค์ที่มองผิวเผินคือไม่มีอะไร แต่แท้จริงคือการหลอกถามดีๆ นี่เอง01.05 น.หลังจากฉันส่งข้อความไปสุขสันต์วันเกิดขุนตอนเที่ยงคืนพอดิบพอดีเป็นที่เรียบร้อยก็ล้มตัวลงนอน แต่ข่มตาเท่าไหร่ก็ยัง
กระจกขนาดเหมาะมือลวดลายสวยงามคู่กายที่มีติดไว้ในกระเป๋าถูกฉันหยิบมาใช้งานแทบตลอดเวลา ในระหว่างเรียน กินข้าวกินขนม หรือคุยเล่น คือไม่ได้มองเบ้าหน้าแต่ฉันชื่นชมผมเปียคล้ายทรงเจ้าหญิงเอลซ่าของฉันต่างหาก ก็แหม... ขุนถักให้ฉันเองกับมือเชียวนะ จะไม่ภูมิใจได้ยังไงกัน เขาบอกว่าแอบฝึกหัดกับเส้นผมของวิกที่สั่งซื้อมาจากอินเทอร์เน็ตเพื่องานนี้เลย โดยเปิดยูทูปแล้วทำตามคนสอน กว่าจะทำได้ก็หัวเสียแล้วหัวเสียอีกจนอยากจะปาทิ้งอยู่หลายรอบ ใช้เวลาเมื่อตอนไม่มีฉันไปที่ร้านด้วย ซึ่งมันแทบจะไม่มีวันนั้นเลย พอฉันไม่ไปก็โวยวาย ลากไปด้วยจนได้ เพื่อนก็ไม่ให้ใครมารู้เห็นด้วย เพราะกลัวเอามาป่าวประกาศจนฉันล่วงรู้ก่อนที่เขาจะทำในสิ่งที่ยากเกินไปสำหรับผู้ชายเป็น อย่าว่าแต่ยากสำหรับสุภาพบุรุษทั้งหลายเลย กับผู้หญิงเองก็ยากเหมือนกันนั่นแหละ เห็นว่าเรื่องนี้เงียบๆ ไปนับตั้งแต่ครั้งนั้น ฉันคิดว่าล้มเลิกความตั้งใจหรืออาจลืมไปแล้ว ฉันเองก็ไม่ได้คาดหวังด้วย และมันก็ไม่ใช่ความลับระดับชาติที่ต้องปิดบัง แต่เขาต้องการเซอร์ไพรส์ฉัน เรื่องเล็กน้อยที่เขาเก็บใส่ใจทำให้ฉันมีความสุขและฉันก็ใกล้เหมือนคนบ้าเข้าไปทุกทีเมื่อหุบยิ้มได้ยาก
กว่าผมจะพาหมูออกจากห้องอีกครั้งก็เป็นเวลาอาหารค่ำเลย สีหน้าสาวๆ ของเพื่อนหมูก็ดูอิดโรยไปตามๆ กัน คนบนตักผมก็เช่นเดียวกัน ซบหน้ากับซอกคอผมเป็นลูกแมวสิ้นฤทธิ์เลย ระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟผมก็แทะเมียเล่นไปก่อน บอกแล้วว่าอย่าดื้อกับพี่ขุนให้มากนักถ้าไม่อยากหมดแรง ก่อนพากันออกมาที่นี่ผมถามแล้วว่าอยากกินที่ห้องแทนไหม หมูรีบส่ายหน้าพร้อมพูดเสียงแข็งใส่หน้าว่าไม่เอา มาทั้งทีจะให้อยู่แต่ในห้องน่าเบื่อตายชัก กิจกรรมก็มีให้ทำให้ดูเพียบแต่เพราะคนแถวนี้ซึ่งก็คือผมทำให้เธอมีสภาพไม่ต่างกจากผักสักเท่าไหร่ ดูเมียผมเปรียบเทียบตัวเอง“ทำไมชอบทำให้หมูแดงคอยหมดแรงอยู่เรื่อยเลยนะ คนนิสัยไม่ดีมาเที่ยวน่าจะเว้นว่างจากความหื่นลงบ้าง ไม่ใช่เพิ่มเลเวลขึ้นแบบนี้”เสียงอู้อี้ต่อว่าผมเบาๆ คล้ายคนจะหลับ ผมชอบนะที่จะเป็นเก้าอี้หรือเตียงนอนให้เมียได้พักร่างกาย สิ่งที่หมูต้องการนั้นทำได้โคตรยากเลยแต่ผมก็ไม่ใช่คนใจร้ายกับเมียนักหรอก เหนื่อยก็พัก หายเหนื่อยก็ต่อ ธรรมดาจะตายไป“ก็ชอบดื้อไง และเรื่องแบบนี้มันว่างเว้นได้ยากมากหมูก็รู้นี่นายิ่งมาต่างสถานที่ ในบรรยากาศดีๆ ด้วย ใครจะไปอดใจไหวจริงไหม” ผมแนบริมฝีปากกับข้างแก้มนุ่ม