Share

ตอนที่ 7 - 1 แอบสืบความ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-26 14:51:20

เกือบชั่วยามครึ่ง ที่สาวรับใช้คนสนิทออกไปสืบข่าวการจากไปของคุณชายรองเซี่ยให้จ้าวฟางเซียน ก่อนที่นางจะกลับมารายงานคุณหนูรองของนางด้วยความตื่นเต้น และการที่จ้าวฟางเซียนส่งซู่เอ๋อออกไปสืบเรื่องราวของคุณชายรองเซี่ยในครานี้นั้น ถือว่าไม่เสียเที่ยว เพราะสาวรับใช้คนสนิทของนางได้รู้เรื่องราวของคุณชายรองมาไม่น้อย

“เถ้าแก่เนี้ยที่ร้านผ้าไหมปี้ชุนในตลาดเล่าให้บ่าวฟังว่า คุณชายรองสกุลเซี่ยเดิมทีเป็นคุณชายหนุ่มรูปงาม สตรีมากมายต่างอยากผูกไมตรีกับเขา แต่ทว่าเขากลับไม่สนใจสตรีใดในเมืองหนานจง และเพราะเป็นนักปราชญ์จึงออกเดินทางไปต่างเมืองอยู่บ่อยครั้ง จนไปเยือนเมืองหนานจาง เขาก็ได้พบกับสตรีนางหนึ่ง บ่าวที่ติดตามคุณชายรองเซี่ย เคยเล่าให้พวกสาวใช้ในจวนฟังว่า สตรีนางนั้นมีรูปโฉมงดงามปานเทพเซียน รอยยิ้มของนางก็สะกดใจบุรุษให้ลุ่มหลงไม่น้อย”

ซู่เอ๋อหยุดเล่าก่อนที่นางจะยกถ้วยน้ำชาขึ้นมากระดก จ้าวฟางเซี่ยนไม่ตำหนิสาวรับใช้คนสนิท เพราะเห็นว่านางออกไปสืบความมาให้ตนอย่างทุ่มเท

“คุณหนูลองคาดเดาดูสิเจ้าคะ ว่าสตรีนางนั้นมีแซ่ใด” จ้าวฟางเซียนเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความประหลาดใจทันที

“ข้าจะคาดเดาได้เช่นไร ในเมื่อสตรีที่มีรูปโฉมงดงามปานเทพเซียนในเมืองหนานจาง หาใช่มีสกุลเดียวไม่” ครั้นได้ยินคุณหนูรองกล่าวออกมาเช่นนี้ ซู่เอ๋อจึงกลั้นยิ้มก่อนที่จะยอมบอกแซ่ที่น่าตกใจออกมา

“แซ่จ้าวเจ้าค่ะ”

“ซะ…แซ่จ้าวเช่นนั้นรึ” จ้าวฟางเซียนถามย้ำ ซู่เอ๋อพยักหน้าขึ้นลง สีหน้าของนางก็จริงจังยิ่งนัก

“คุณหนูว่า…สตรีที่ปฏิเสธไมตรีจากคุณชายรองเซี่ย จนเขาคิดปลิดชีวิตตนเอง จะใช่คุณหนูใหญ่หรือไม่เจ้าคะ” ซู่เอ๋อถามคุณหนูรองออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล

“ข้ามั่นใจว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพี่หญิงใหญ่แน่นอน แต่ว่าเพราะเหตุใดสตรีนางนั้น ถึงได้มาแอบอ้างใช้แซ่ของตระกูลข้า เช่นนี้ไม่เป็นการใส่ร้ายบุตรีของตระกูลจ้าวให้เสียชื่อเสียงหรอกหรือ” จ้าวฟางเซียนกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง ใบหน้าก็แสดงออกมาถึงความขุ่นข้องใจ

“จริงเจ้าค่ะ การแอบอ้างชื่อแซ่ไปกระทำเช่นนี้ ชื่อเสียงอันดีงามของคุณหนูใหญ่กับคุณหนูรองที่สั่งสมมา คงได้พากันเสียหายไปหมด"

ซู่เอ๋อเห็นด้วยกับความคิดของคุณหนูรอง เพราะถึงแม้คุณหนูใหญ่จะมีนิสัยดื้อรั้น และเอาแต่ใจตนเองมากเพียงใด แต่ทว่านางก็ไม่เคยใช้ความงดงามไปล่อลวงบุรุษใดให้มาลุ่มหลง หรือไม่เคยมีไมตรีให้แก่บุรุษใดมาก่อน

"แล้วเช่นนี้…คนตระกูลเซี่ยจะไม่เข้าใจตระกูลจ้าวผิดไปหรือเจ้าคะ หากคุณหนูใหญ่ออกเรือนมาอยู่ที่นี่ บ่าวเกรงว่าอาจจะเกิดปัญหาใหญ่ได้” ซู่เอ๋อถามจ้าวฟางเซียนออกมาด้วยความเป็นกังวล

“เพราะเช่นนี้…ข้าถึงต้องสืบให้รู้ให้ได้ ว่าสตรีใดที่กล้ามาสวมรอย แอบอ้างว่าเป็นคุณหนูตระกูลจ้าว ก่อนที่พี่หญิงใหญ่่จะออกเรือนมายังตระกูลเซี่ยอย่างไรเล่า”

“คุณหนูช่างคิดได้รอบคอบยิ่งนัก แต่ว่า…พวกเราต้องเดินทางกลับเมืองหนานจางในวันพรุ่งนี้แล้วนี่เจ้าคะ จะเอาเวลาไหนไปสืบต่อได้อีก” ซู่เอ๋อกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่แสนเสียดาย

“ที่นี่ไม่มีสิ่งใดที่ข้าอยากรู้แล้วล่ะ ในเมื่อเรื่องมันเกิดที่เมืองหนานจาง พวกเราก็ต้องกลับไปสืบเรื่องนี้ต่อที่เมืองหนานจาง”

จ้าวฟางเซียนบอกสาวรับใช้คนสนิทด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่เสียงเคาะประตูหน้าห้องจะดังขึ้น ตามด้วยเสียงสาวรับใช้ของมารดา ยามนี้ท่านปู่และบิดามารดาของนาง คงจะพักผ่อนกันจนเป็นที่พอใจแล้ว ถึงได้ให้สาวรับใช้คนสนิทมาเรียกนางให้ลงไปกินอาหารร่วมกับพวกเขาที่ชั้นล่างของโรงเตี๊ยมแห่งนี้

ครั้นจ้าวฟางเซียนเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อย จึงลงไปร่วมโต๊ะกับครอบครัว ท่านปู่ไม่พูดจาสิ่งใดออกมาสักคำ อาจจะเป็นเพราะยังคงรู้สึกเศร้าใจให้กับชะตากรรมของท่านแม่ทัพใหญ่เซี่ย ผู้ซึ่งเป็นบุตรชายของผู้มีพระคุณ ไม่นานเขาก็ลุกจากโต๊ะอาหารแล้วกลับขึ้นห้องพักไปอย่างเงียบๆ จ้าวหวังเหล่ยกับฮูหยินของเขาก็ไม่กล้ากล่าวสิ่งใดออกมา ได้แต่นั่งกินอาหารตรงหน้ากันต่อไปอย่างเงียบๆ

จ้าวฟางเซียนละเลียดกินอาหารตรงหน้าอย่างเงียบเชียบเช่นกัน พลางคิดทบทวนเรื่องที่เพิ่งรับรู้มาอยู่ภายในใจ ที่ว่าสตรีใดหนอช่างกล้าหาญ แอบอ้างแซ่ของตระกูลนาง ไปใช้หลอกลวงน้องชายของเซี่ยเฟยหลง ทว่าคิดเท่าใดก็คิดไม่ออก นางจึงได้แต่ถอนหายใจหนักๆ ออกมา จนบิดาและมารดาละสายตาจากอาหาร แล้วมองหน้าบุตรีอย่างพร้อมเพรียงกัน

“เซียนเอ๋อร์…เจ้ากำลังคิดมากเรื่องใดอยู่หรือ ถึงได้ถอนหายใจออกมาเสียงดังเช่นนี้” จ้าวหวังเหล่ยเป็นผู้ถามบุตรสาวออกมา

“เอ่อ…ไม่มีอันใดเจ้าค่ะท่านพ่อ รีบกินกันเถิดเจ้าค่ะ อาหารเย็นชืดแล้วจะไม่อร่อย” จ้าวฟางเซียนส่งยิ้มให้แก่บิดามารดา ก่อนที่จะตอบคำถามของบิดา จากนั้นจึงคีบอาหารตรงหน้าใส่ชามข้าวของตน แล้วลงมือกินอย่างมีมารยาท ครั้นเห็นว่าสอบถามไม่ได้ความ ทั้งจ้าวหวังเหล่ยและหวงฟางหรงจึงไม่เซ้าซี้บุตรสาวอีก

หลังจากมื้ออาหารผ่านไป ทุกคนก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน เพราะพระอาทิตย์ตกดินแล้ว ทำให้จ้าวฟางเซียนไม่อาจสั่งให้ซู่เอ๋อ สาวรับใช้คนสนิท ให้ออกไปเพ่นพ่านนอกโรงเตี๊ยมได้อีก การสืบเรื่องราวของคุณชายรองสกุลเซี่ย จึงได้ความมาแค่นั้น แต่ทว่าสำหรับจ้าวฟางเซียนที่ย้อนเวลากลับมา ได้รู้เพียงเท่านั้นก็ถือว่าเพียงพอแล้ว

เส้นสายพวกพ่อค้าแม่ค้าในเมืองหนานจางนางนั้นก็มีอยู่ไม่น้อย อีกทั้งนางยังสามารถกลับไปสอบถามพี่สาวเกี่ยวกับพวกนักปราชญ์ที่เดินทางมาจากต่างเมืองได้ นางเชื่อว่าหากมีการเล่าเรื่อง การประลองท่องบทกวี การประลองดีดฉิน บรรเลงพิณ และหมากล้อม พี่สาวของนางย่อมรู้เรื่องนี้ดีกว่าผู้ใด เพราะเป็นสิ่งที่นางสนใจและถนัดมากที่สุด

ช่วงสายของวันต่อมา หลังจากที่เดินทางไปคำนับลาท่านผู้เฒ่าเซี่ยแล้ว ขบวนรถม้าตระกูลจ้าว ก็เดินทางกลับเมืองหนานจางทันที เพราะต่างคนต่างก็มีงานให้กลับไปสะสาง จึงไม่อาจรั้งอยู่ที่เมืองหนานจงนานได้ จ้าวฟางเซียนเห็นใบหน้าที่เย็นชาของเซี่ยเฟยหลงแล้ว ก็อดที่จะรู้สึกเจ็บปวดแทนเขาไม่ได้

ในชีวิตก่อนเขาใช้ชีวิตอยู่อย่างทนทุกข์ทรมานถึงเพียงนี้ ทว่านางกลับไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของเขาเลยแม้แต่นิด นางเอาแต่คิดว่าเป็นเพราะเขาไม่ชอบนาง เป็นเพราะนางไม่ใช่สตรีที่เขาจะแต่งเข้าจวน เขาถึงได้แสดงท่าทีเย็นชาต่อนาง แท้จริงแล้วกลับเป็นเพราะเขาเข้าใจว่านางเป็นสตรีสกุลจ้าว ที่ไปหลอกลวงน้องชายของเขาจนตรอมใจ และตัดสินใจจบชีวิตตนเองต่างหาก

การที่นางได้ย้อนเวลากลับมาในครานี้ นางจะขอแก้ไขความเข้าใจผิดที่เขามีต่อสตรีตระกูลจ้าว ด้วยการสืบหาความจริง ว่าแท้จริงแล้วคือฝีมือของสตรีนางใด ชีวิตนี้นางจะไม่ยอมใช้ชีวิตเช่นเดิมเด็ดขาด ชีวิตคู่ของนางและเขาจะต้องมีความสุข แม้สุดท้ายจะต้องจากกัน นางก็จะไม่เสียดาย หรือเสียใจเช่นเดียวกับในชีวิตก่อนเลย

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • หวนกลับมาครานี้...ข้าจะไม่ขอเป็นสตรีที่ปากแข็งอีก   ตอนที่ 37 - 1 สุขสันต์นิรันดร (จบ)

    หลังจากพูดคุยกันอยู่นานเกือบสองเค่อ เสียงของทารกน้อยที่นอนอยู่ห้องข้างๆ ก็ดังขึ้นมา จ้าวฟางเซียนรีบบอกกล่าวมารดา แล้วรีบเดินออกไปหาบุตรชาย หลังฟื้นมาจากฝันร่้ายในวันนั้น จ้าวฟางเซียนก็รู้สึกเสียใจเป็นอันมาก ที่สองวันแรก นางไม่อาจให้นมบุตรชายเองได้ ดีที่แม่สามีมองการณ์ไกล เตรียมแม่นมเอาไว้ให้ เผื่อเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดและสองวันแรกที่นางคลอดลู่หมิงออกมา ก็เกิดปัญหาขึ้นมาจริงๆ หลังจากที่นางตื่นขึ้นมา ก็พยายามดูแลร่างกายตนเอง และกินอาหารบำรุงน้ำนม ไม่ถึงเจ็ดวัน นางก็ขออนุญาตแม่สามี ให้นางป้อนนมลูกด้วยตัวเอง จางซื่อก็ไม่ได้ห้ามปรามอันใด เพราะน้ำนมจากมารดาย่อมดีกว่านมจากผู้อื่นอยู่แล้ว นับตั้งแต่นั้นมา จ้าวฟางเซียนก็ให้นมเซี่ยลู่หมิงเองเรื่อยมา ทว่ามีแม่นมฉินอยู่คอยช่วยดูแลบุตรชาย ในเวลาที่นางไม่ต้องให้นมหวงซื่อเดินตามบุตรสาวเข้ามาในห้องของหลานชาย นางมองไปยังบุตรสาว ที่ออกเรือนมาได้ไม่ถึงสามปี ทว่ายามนี้ได้มาเห็น ว่านางนั้นมีครอบครัวที่สมบูรณ์พูนสุขเพียงใด ก็พลอยให้รู้สึกโล่งใจ จากที่เคยคิดเป็นกังวล ว่านางจะได้พบเจอกับความยากลำบาก ในการใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลขุนนางใหญ่ ก็ทำให้นางวางใจล

  • หวนกลับมาครานี้...ข้าจะไม่ขอเป็นสตรีที่ปากแข็งอีก   ตอนที่ 37 สุขสันต์นิรันดร์

    วันเวลาผันผ่านไปอย่างรวดเร็ว จากฤดูที่หนาวเย็นยะเยือก แปรเปลี่ยนมาเป็นฤดูใบไม้ผลิ เทศกาลลี่ชุนก็ได้เวียนมาถึงอีกหน อากาศเริ่มอบอุ่นขึ้นเรื่อยๆ สรรพสิ่งเริ่มงอกงาม หลายครอบครัวที่ทำการเกษตร เริ่มต้นการเพาะปลูก สรรพสัตว์เริ่มออกจากการจำศีล เพื่อออกหากิน เหล่านายพรานกลับมาทำอาชีพของตนบ้านเมืองสงบสุขร่มเย็น ชาวเมืองยิ้มแย้มแจ่มใส เด็กน้อยที่กำลังวิ่งเล่น ส่งเสียงหัวเราะออกมา จนทำให้ผู้ใหญ่ทั้งหลายที่ได้ยิน ต่างก็พากันยิ้มได้ จวนตระกูลเซี่ยยามนี้ ก็ไม่ต่างไปจากสถานที่อื่น หรือจวนอื่นนัก ทว่าวันนี้ที่จวนสกุลเซี่ย ได้จัดงานครบเดือนให้แก่คุณชายน้อย ที่มีอายุครบหนึ่งเดือนพอดี บรรยากาศภายในจวน จึงเต็มไปด้วยความชื่นมื่นมีความสุขตระกูลจ้าวถือโอกาสที่เหลนน้อยอายุครบเดือน พากันเดินทางมาจากเมืองหนานจาง เพื่อมาเยี่ยมเยือนจ้าวฟางเซียน และบุตรชายของนางที่จวนสกุลเซี่ย เมืองหนานจง จ้าวฟางเซียนมองไปยังผู้คนจากตระกูลเดิมของตน ด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ นางไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่า ชีวิตของนางจะมีโอกาส ได้มาเห็นภาพแห่งความสุขเช่นในวันนี้ท่านปู่ท่านย่าที่อายุมากแล้ว ก็ยังอุตส่าเดินทางมาถึงที่นี่ เพื่อมาอวยพรให้เ

  • หวนกลับมาครานี้...ข้าจะไม่ขอเป็นสตรีที่ปากแข็งอีก   ตอนที่ 36 - 1 เป็นเพียงแค่ความฝัน

    “หลงเอ๋อร์…จ้าวซื่อกับเจ้า ได้ตั้งชื่อเตรียมเอาไว้ให้เขาแล้วใช่หรือไม่”จางซื่อถามบุตรชายออกมาขณะที่ส่งทารกในห่อผ้าไปให้เขา เซี่ยเฟยหลงหัดอุ้มเด็กกับภรรยามาบ้างแล้ว แม้จะมีท่าทีเงอะงะงุ่มง่าม ทว่ากลับดูไม่ขัดตาเท่าใดนัก เซี่ยเฟยหลงก้มมองดวงหน้าเล็กเท่าฝ่ามือของบุตรชาย ก่อนที่จะเอ่ยนามของเขาออกมา“เซี่ย…ลี่หมิง”เพราะเขาคือแสงสว่างอันงดงาม ส่องลงมายังบนโลกมนุษย์ให้ความอบอุ่นแก่ผู้คน จ้าวฟางเซียนเป็นผู้ที่ตั้งชื่อบุตรชาย ส่วนตัวเขาเป็นผู้ที่ตั้งชื่อบุตรสาวเอาไว้ ทว่ากลับไม่ได้ใช้ ช่างเป็นวาสนาของเจ้าตัวน้อยเสียจริง ที่ได้ชื่อที่มารดาเป็นผู้ที่ตั้งให้“นามไพเราะ ความหมายดี…หมิงเอ๋อร์หลานย่า” จางซื่อยื่นมือไปรับหลานชายกลับมา เซี่ยเฟยหลงไม่ดื้อดึง ส่งทารกในห่อผ้ากลับคืนให้แก่มารดาทันที“จ้าวซื่อเป็นคนตั้งชื่อให้เขาใช่หรือไม่” นายท่านผู้เฒ่าเซี่ยเอ่ยถามหลานชายออกมา ก่อนที่จะกวักมือเรียกลูกสะใภ้ให้พาเหลนตัวน้อยมาให้เขาได้เชยชมบ้าง“ขอรับท่านปู่…นางตั้งชื่อบุตรชาย ส่วนข้าตั้งชื่อบ

  • หวนกลับมาครานี้...ข้าจะไม่ขอเป็นสตรีที่ปากแข็งอีก   ตอนที่ 36 เป็นเพียงแค่ความฝัน

    หลังจากที่ตรวจพบว่า จ้าวฟางเซียนตั้งครรภ์ จางซื่อก็ได้ส่งแม่นมฉิน ให้มาทำหน้าที่คอยดูแลฮูหยินน้อยอย่างใกล้ชิด แม้เซี่ยเฟยหลงจะรับปากกับมารดาว่า เขาจะไม่ล่วงเกินภรรยา ขอเพียงแค่ให้เขาได้นอนกอดนางก็พอคราแรกจางซื่อก็ไม่ยินยอม ทว่าจ้าวฟางเซียนกลับช่วยพูดให้แม่สามีเข้าใจ จางซื่อจึงยอมอ่อนข้อให้แก่บุตรชาย ทว่ากลับให้แม่นมฉิน มานอนเฝ้าอยู่ที่หน้าฉากกั้นแทน เช่นนั้นแล้วหากเซี่ยเฟยหลงมีความคิดเหลวไหล ย่อมถูกแม่นมฉินจับได้“โหวเหย…ท่านต้องเห็นใจบ่าวด้วยสิเจ้าคะ บ่าวก็ไม่ได้อยากทำเช่นนี้ แต่ในเมื่อนายหญิงท่านสั่งมา บ่าวจะกล้าขัดได้อย่างไรกัน”เซี่ยเฟยหลงจ้องหน้าแม่นมตาเขม็ง แม่นมฉินฉีกยิ้มกว้างออกมา ก่อนที่จะสั่งให้คนนำตั่งตัวยาวมาวางไว้ ด้านหน้าฉากกั้น จ้าวฟางเซียนนึกขัน ให้กับใบหน้าของสามีที่กำลังบูดบึ้ง พลางมองไปยังแม่นมฉินด้วยแววตาอบอุ่นแม่นมฉินแคล้วคลาดจากความตายในความทรงจำของนาง หรืออาจจะเป็นเพราะนางมีครรภ์ ถึงได้ทำให้เหตุการณ์บางอย่างเปลี่ยนไป นางเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน เพราะถ้าหากเหตุการณ์ดำเนินไปตามที่นางเคยพบเจอแม่นมฉินจะต้องจากไปตั้งแต่ต้น

  • หวนกลับมาครานี้...ข้าจะไม่ขอเป็นสตรีที่ปากแข็งอีก   ตอนที่ 35 - 1 มีแต่เรื่องน่ายินดี

    แสงทิวากำลังจะลาลับ พร้อมกับท้องฟ้าสีน้ำหมึกกำลังเปลี่ยนเข้ามาแทนที่ สองอาชาสองชายหนุ่ม ยังคงเร่งรีบฝ่าความมืดกลับเมืองหนานจงด้วยความคะนึงหา เซี่ยเฟยหลงไม่แม้แต่คิดที่จะหยุดพัก ในเมื่อเจ้านายไม่ยินยอมที่จะพัก ทั้งคนทั้งม้าจึงได้พากันอดทนจนถึงประตูเมืองหนานจงในเวลาดึกดื่นหากเป็นชาวบ้านธรรมดา มีหรือจะสามารถผ่านทหารเวรยาม ที่ทำหน้าที่เฝ้ารักษาการณ์อยู่หน้าประตูเมืองเข้าไปได้ง่ายๆ ทว่าเซี่ยเฟยหลงคือผู้ใด ทหารเหล่านี้ย่อมรู้ดี ครั้นได้เห็นว่าท่านแม่ทัพใหญ่เซี่ยกลับมา ต่างก็พากันกล่าวต้อนรับการกลับมา ของผู้เป็นผู้บังคับบัญชาท่านแม่ทัพหนุ่มยามนี้ปลดชุดเกราะที่น่าเกรงขามออก เหลือเพียงอาภรณ์เยี่ยงคุณชายทั่วไปสวมใส่เท่านั้น เขาไม่พูดจากับทหารเหล่านี้ให้มากความ รีบกลับเข้าเมืองอย่างเร็วรี่ มุ่งหน้าไปยังจวนแม่ทัพของตน“พวกเจ้าอย่าคิดรั้งท่านแม่ทัพไว้นาน เขาเร่งรีบกลับมาย่อมคิดถึงภรรยา” นายทหารที่เป็นหัวหน้ากล่าวกับลูกน้องที่กำลังมองตามท่านแม่ทัพผู้องอาจ ควบอาชาหายไปในความมืดมิดครั้นมาถึงหน้าประตูจวน เซี่ยเฟยหลงสั่งห้ามมิให้ผู้ใด ไปรายงานให้คนด้านในทราบ เพราะเข

  • หวนกลับมาครานี้...ข้าจะไม่ขอเป็นสตรีที่ปากแข็งอีก   ตอนที่ 35 มีแต่เรื่องน่ายินดี

    ณ ตำหนักไท่เหอ ราชสำนัก แคว้นจิ้นองค์รัชทายาทวัยสามสิบต้นๆ กำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร ในฐานะผู้สำเร็จราชการแทน เพราะกษัตริย์องค์ปัจจุบัน ยังคงนอนป่วยรักษาตัวอยู่ ทำให้หน้าที่ดูแลบ้านเมือง ตกอยู่ในมือของเขาชั่วคราว อย่างชอบธรรม สีหน้าของเขายามนี้ไม่ค่อยสู้ดีนัก เป็นเพราะความต้องการของเขา ถูกเหล่าขุนนางเก่าแก่เหล่านี้ พากันกล่าวคัดค้านเขาย่อมรู้ดีว่ายามนี้ บ้านเมืองยังขาดความมั่นคง ยิ่งกับตัวเขาหากไม่สร้างผลงาน ไหนเลยจะขึ้นมานั่งบัลลังก์มังกรนี้อย่างภาคภูมิ เขาจึงอยากใช้การยึดเมืองหนานตงของแคว้นเจิ้ง มาเป็นผลงานเพื่อขึ้นครองราชย์ของตน ถึงอย่างไรบิดา ผู้เป็นกษัตริย์องค์ปัจจุบัน ก็คงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว“จะทำเช่นนั้นมิได้พ่ะย่ะค่ะ ผู้สำเร็จราชการน่าจะรู้ดี ว่ายามนี้สถานการณ์ภายในของแคว้นจิ้นเรา ยังไม่เหมาะแก่การทำศึก อีกทั้งพวกเราเพิ่งจะสูญเสียแม่ทัพใหญ่อย่างท่านอู่ผา และกำลังทหารจำนวนหลายพันคนไป บ้านเมืองเรายังคงบอบช้ำอยู่นะพ่ะย่ะค่ะ ขอพระองค์ทรงโปรดคิดทบทวน และพิจารณาเรื่องนี้ให้ดีด้วยเถิด”“ขอพระองค์ทรงโปรดคิดทบทวน และพิจารณาเรื่องนี้ใ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status