Share

๑๖ ฝีปากกล้า

Penulis: วอลจู
last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-25 21:50:08

นี่เป็นครั้งแรกที่อวิ๋นเซียวได้เหยียบแคว้นเว่ย

เขามาถึงเมื่อวานยามพลบค่ำ หลังจากควบม้าเดินทางรวดเดียวหลายวัน แม้จะหยุดเพียงเพื่อให้ม้าหายเหนื่อย แต่ก็ยังต้องใช้เวลาถึงสี่ห้าวันกว่าจะถึงที่นี่

และทันทีเมื่อมาถึง เขาเลือกที่จะพักในโรงเตี๊ยมเล็กๆ ริมถนนสายหลัก แทนที่จะตรงไปวังหลวงขอที่พักแต่อย่างใด

โรงเตี๊ยมแห่งนี้แม้ภายนอกจะดูไม้เก่าๆ ทรุดโทรมแต่กลับดูสะอาดเรียบร้อยและคับคลั่งไปด้วยผู้คน กลิ่นชาและกลิ่นหญ้าแห้งตลบอบอวลไปทั้งห้องพัก แม้ว่าไม่หรูหราโอ่อ่า แต่ก็พอให้เขาข่มตาหลับได้สนิท หลังจากเดินทางฝ่าลมแดดและฝุ่นทรายตลอดสี่ห้าวัน

อวิ๋นเซียวไม่สนใจแม้กระทั่งจะทานมื้อค่ำ เพราะร่างกายเหนื่อยล้าจนแทบยืนไม่ไหว หลังล้มตัวลงบนเตียงไปได้ไม่ทันไรก็หลับสนิทไปทันที

จนกระทั่งช่วงสายของเช้าวันใหม่ แสงแดดเล็ดลอดผ่านหน้าต่างไม้เข้ามากระทบใบหน้า ปลุกให้เขาต้องลืมตาขึ้น

ภายหลังจากล้างหน้า บ้วนปากและเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย อวิ๋นเซียวจึงออกจากโรงเตี๊ยมทันทีโดยไม่ยังไม่ทันได้กินมื้อเช้า

แม้ยามนี้จะสายมากแล้วทว่าบรรยากาศกลับยังคงปนด้วยกลิ่นควันไฟและกลิ่นอาหารหอมกรุ่นจากร้านสองข้างทาง เขาพลันเดินไปตามถนนสายใ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • หวนคืนดวงใจ   ๒๓ เผชิญหน้า

    ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดทั้งที่นางยืนอยู่ตรงหน้าเพียงแค่เอื้อมแต่ซ่งเจิ้งอี้กลับรู้สึกว่าห่างออกไปไกลนัก คล้ายกับว่ายิ่งเขาเร่งฝีเท้าเดินกลับยิ่งห่างออกไปเรื่อยๆ จนไม่อาจจะคว้านางได้อีกแล้วสายตาคมกริบของซ่งเจิ้งอี้ยังคงจับจ้องมองศาลาริมสระบัวตรงหน้าอย่างไม่ละลดราวกับว่า หากเขากะพริบเพียงแค่ชั่วอึดใจเดียว หลินซิ่วหรงจะหายไป จนกระทั่ง จู่ๆ ร่างสูงใหญ่ของนายท่านหลินกลับยืนถมึงทึงอยู่ตรงหน้าซ่งเจิ้งอี้พลันหยุดชะงักฝีเท้ายืนนิ่งทันที ก่อนจะละสายตากลับมามองตรงหน้าแทน ใบหน้าหล่อเหลาเรียบไร้อารมณ์ไม่สะทกสะท้าน “นายท่า…”“เจ้ากล้ามาเหยียบสกุลหลินได้อย่างไร!” ยังไม่ทันสิ้นความ น้ำเสียงทุ้มของนายท่านหลินก็ดังกึกก้อง สะท้อนไปทั่วทั้งจวนแฝงด้วยความกดดันหนักอึ้งกดทับอยู่ในอากาศซ่งเจิ้งอี้ไม่หลบสายตา ใบหน้าหล่อเหลายังคงสงบนิ่งเขาแค่นเสียงฮึดฮัด น้ำเสียงทุ้มต่ำแต่ชัดเจน “ทั้งเมียและลูกของข้าต่างอยู่ที่นี่ นายท่านหลินคิดว่าข้าจะไปอยู่ที่หอคณิกาหรืออย่างไรกัน”“เจ้า!” นายท่านหลินกัดฟันกรอดกดเสียงต่ำใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ลมหายใจกระฟัดกระเฟียดฉายความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน “อย่าได้คิดอวดดีมายั่

  • หวนคืนดวงใจ   ๒๒ หมากในกระดาน

    ซ่งเจิ้งอี้ไม่สนใจว่าบุรุษผู้นั้นจะมาจากแคว้นอวิ๋นหรือมีฐานะสูงส่งเพียงใด ทว่ารอยยิ้มที่ควรเป็นของเขาเพียงผู้เดียวกลับถูกมอบให้บุรุษอื่น!หนังตาของเขาพลันกระตุกริกๆ อย่างห้ามอารมณ์ เรื่องนี้ไม่มีวันปล่อยผ่านไปแน่นอนใบหน้าหล่อเหล่าถมึงทึงย่ำแย่ไม่สู้ดี ภายในใจพลุ่งพล่านเต็มไปด้วยความหึงหวงภรรยาอย่างควบคุมไม่อยู่ ซ่งเจิ้งอี้ไม่รอช้า ก้าวเท้าออกจากเรือนทันทีแม้ว่านางจะสั่งห้ามเอาไว้ก่อนหน้านี้เหล่าสาวใช้ที่เดินผ่านต่างเบิกตากว้างราวกับเห็นผีกลางวันแสกๆ ไม่รู้ว่าควรตกใจกับสิ่งใดก่อนดีระหว่างมีบุรุษก้าวออกมาจากเรือนของคุณหนูใหญ่หรือเพราะบุรุษผู้นี้คือคุณชายซ่งผู้เป็นบิดาของเด็กในครรภ์คุณหนูใหญ่ แถมยังเป็นคนที่นายท่านรังเกียจรู้สึกไม่ถูกชะตาด้วยที่สุด!!!!ว่าแล้ว...ลางสังหรณ์ของอิงหลันก็ไม่ผิดนางหันขวับกลับไปมองเพื่อให้แน่ใจอีกครั้ง ก่อนจะรีบเร่งฝีเท้าตรงไปหาบุรุษหนุ่มทันที“คุณชายรีบไปหลบก่อนเถอะเจ้าค่ะ!” น้ำเสียงของนางเบาราวกับกระซิบกระซาบแฝงความร้อนรนฉายออกมาชัดเจน เกรงเหลือเกินว่าผู้คนในห้องโถงจะมองเห็นแล้วเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นมาซ่งเจิ้งอี้ได้ยินแล้ว เพียงหันไปมองสาวใช้คุ้นหน้าผู้นั้น

  • หวนคืนดวงใจ   ๒๑ แขกผูมาเยือน

    หลินซิ่วหรงนั่งเหยียดหลังตรง มือเรียวทั้งสองประสานกันบนตัก ใบหน้าคนงามเชิดขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาเมล็ดซิ่งแข็งกร้าวประสานกับบุรุษตรงหน้าโดยไม่คิดจะหลบเลี่ยงนี่เป็นครั้งแรกที่นางได้พบบุรุษจาก แคว้นอวิ๋น…ชาติก่อน ตามธรรมเนียมแล้ว บุรุษผู้นี้สมควรควบม้ามารับนางไปด้วยตนเอง ทว่าส่งสามหนังสือและหกพิธีจนกระทั่ง วันที่เขาสมควรมารับนางด้วยตนเองแต่หลินซิ่วหรงกลับไม่เคยเห็นแม้แต่เงาเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำ ระหว่างนางขบวนเกี้ยวเจ้าสาวของนางยังถูกดักลอบทำร้ายระหว่างทางอีกเลยไม่มีโอกาสได้พบพานแต่ไฉนเลยพอมาชาตินี้ หลินซิ่วหรงจะได้พบหน้ากับบุรุษจากแคว้นอวิ๋นเสียทีหัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ ทั้งหวาดหวั่น ทั้งตึงเครียด ทั้งประหม่าผสมปนเปกันจนแทบควบคุมไม่อยู่ ยิ่งเห็นสีหน้าของบิดาที่ยามนี้มืดครึ้มถมึงทึงคล้ายท้องฟ้าก่อนพายุ เคร่งขรึมเสียจนเส้นเลือดบนขมับเต้นตุบๆ แววตาคมดุดันกวาดมองไปยังบุรุษจากแดนไกลนั้นด้วยสายตาเย็นเฉียบ บรรยากาศทั่วทั้งจวนจึงหนาวเหน็บราวถูกโอบล้อมด้วยหมอกเย็นเหล่าสาวใช้ที่ยืนเรียงรายอยู่ด้านข้างต่างพากันก้มหน้าไม่กล้าสบตา บ้างถึงกลับใบหน้าซีดเผือด บางคนถึงกับยกชายแขนเสื้อขึ้นเ

  • หวนคืนดวงใจ   ๒๐ เรื่องราวเริ่มต้น

    บุรุษกับสตรีหรือจะสามารถเป็นสหายกันได้อย่างบริสุทธิ์ใจโดยไม่คิดอื่นใด เกรงว่าประโยคเช่นนี้คงเป็นเพียงแค่คำลวงเท่านั้นหากมิใช่เพราะว่าบุรุษชื่นชอบในตัวสตรีผู้หนึ่งก็คงไม่คิดที่จะข้องเกี่ยวให้เกิดความรำคาญใจ แล้วหากสตรีไม่สนใจบุรุษผู้หนึ่งก็คงไม่ตามต้อยราวกับเป็นสุนัขตามเจ้าของแน่แม้ว่าจ้าวเหม่ยฮวาจะไม่เคยมีประสบการณ์มาโดยตรงทว่าเรื่องเช่นนี้ นางกลับได้ยินมารดาพูดกรอกหูซ้ำๆ คอยชี้แนะว่าบุรุษประเภทใดและสตรีนิสัยอย่างไรที่สมควรจะข้องเกี่ยวหรือหนีห่างออกไปให้ไกลถ้อยคำพูดของบุรุษผู้นั้นยังคงติดอยู่ในวันของนางวนเวียนซ้ำๆ ราวกับว่ากำลังย้ำ มองดูภายนอกแล้ว นางไม่อยากจะคิดเข้า ข้างตนเองจริงๆ ว่าเขากำลังชมชอบนางอย่างงั้นหรือ!?ไม่ว่าจะสายตาที่จ้องมอง ท่าทางและน้ำเสียงเช่นนั้นอีกจ้าวเหม่ยฮวาเอาแต่คิดไปมาถอนหายใจซ้ำๆ และคนข้าวในชามไม่ยอมกินเสียที จนจ้าวฮูหยินที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามสังเกตเห็นจึงอดถามขึ้นมาไม่ได้ “มีเรื่องอะไรอย่างงั้นหรือ…เหตุใดท่าทางถึงได้ดูเหม่อลอยคล้ายจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว”นางหรี่สายตาลงคล้ายกำลังจับผิดบุตรสาวอยู่ก่อนไม่ปาน จากนั้นจึงพูดต่อ “ลืมไว้กับบุรุษสักคนอย่างงั้นห

  • หวนคืนดวงใจ   ๑๙ คืนฝนตกหนัก

    ภายในเรือนนอนเงียบสงัด หลินซิ่วหรงย่างเดินเข้ามาอย่างแผ่วเบาด้วยความระมัดระวัง นัยน์ตาเมล็ดซิ่งกวาดมองจนสะดุดที่ร่างของหลินซิ่วอันนั่งชันเข่าอยู่บนเตียงสงบนิ่งราวกับรูปปั้น ดวงตาคู่งามเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง คล้ายไม่ทันสังเกตว่านางเข้ามา“ซิ่วอัน” เสียงหวานเอื้อนเอ่ยเบาๆ ก่อนที่ร่างอรชรจะก้าวไปนั่งลงข้างเตียง มือเรียวยื่นออกไปแตะไหล่น้องสาวอย่างแผ่วเบาหลินซิ่วอันสะดุ้งเล็กน้อย หลุดจากภวังค์ก่อนจะหันมามองอีกฝ่ายด้วยแววตาหม่นหมอง นางพยายามยกยิ้มออกมาฝืนๆ อย่างเห็นได้ชัด “พี่หญิงหรือ…” น้ำเสียงหวานพึมพำพูด ริมฝีปากโค้งขึ้นเล็กน้อย ทว่ากลับไร้อารมณ์ใดๆ เจือปนหลินซิ่วหรงเห็นท่าทีเช่นนี้แล้ว ก็พลันรู้สึกปวดหนึบในอก ความรู้สึกผิดตีตื้นขึ้นมา “เป็นเพราะข้า…”“ไม่ใช่เจ้าค่ะ พี่หญิง” หลินซิ่วอันแทรกเสียงเรียบ ดวงตาคู่งามหม่นหมองพลันสบกับสายตาพี่สาวตรงๆ ทั้งใบหน้าและแววตาต่างฉายความเจ็บปวดลึกสะท้อนออกมาชัดเจน “เป็นเช่นนี้ ก็ดีแล้ว จะได้ไม่เสียเวลาไปมากกว่านี้”นางเอ่ยขึ้นคล้ายปลอบใจให้ยอมรับความจริงเสียทีนางเคยโง่งมหลงคิดว่า รักแรกพบที่ครั้งหนึ่งทำให้หัวใจสั่นไหวจะกลายเป็นวาสนาที่ผูกนางกับเซ

  • หวนคืนดวงใจ   ๑๘ เงื่อนไข

    ชะงัก หัวคิ้วขมวดมุ่นทันทีน้ำเสียงทุ้มดังขึ้นจากภายในรถม้า ใบหน้าของซ่งเจิ้งอี้เผยรอยยิ้มจางๆ ทักทายอย่างสนิทสนม “ไม่ได้พบกันหลายวัน...ท่านพ่อตาสบายดีหรือไม่”ดวงตาคมกริบประสานเข้ากับนายท่านหลินพอดี ซ่งเจิ้งอี้เพียงแค่ยกมือประสานคารวะตามมารยาท หาได้ลุกขึ้นยืนนายท่านหลินชะงักทันที เมื่อเห็นใบหน้าคุ้นเคยของคนผู้หนึ่งนั่งในรถม้า ด้วยความแปลกใจเขาอดที่จะมองหาสัญญาลักษณ์ข้างรถม้าไม่ได้ ทว่ากลับยิ่งตอกย้ำว่าเป็นคนตรงหน้าต่างหากที่เสียมารยาท สายตาหรี่ลงฉายประกายเย็นเยียบปรายมองบุรุษหนุ่มทั้งสอง “พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่” น้ำเสียงทุ้มต่ำราบเรียบ แฝงไปด้วยความกดดันกู้เหยียนนั่งอยู่ตรงอีกฝั่ง มุมปากหนาโค้งยกยิ้มขึ้นเป็นรอยจางๆ คล้ายยิ้มแต่ไม่ถึงกลับยิ้ม เขาแค่นเสียงหัวเราะฮึดฮัดในลำคอ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วยกมือประสานนายท่านหลิน “ขออภัยด้วย หากพวกข้าเสียมารยาทขึ้นมานั่งรอบนรถม้าของนายท่านหลินโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยราบเรียบนายท่านหลินแค่นเสียงฮึดฮัดดูแคลนในลำคอ เขายังคงยืนอยู่ด้านหน้า หาได้เดินเข้าไปนั่ง “หึ! ลงจากรถม้าของข้าไปซะ”ซ่งเจิ้งอี้ได้ยินแล้วพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางตบล

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status