Share

16. เทศกาลลอยโคมไฟ

last update Last Updated: 2025-11-28 21:39:59

ครั้งก่อนก็มีพ่อค้าต่างถิ่นมาขอพักที่จวนเช่นนี้ คนผู้นั้นไม่ได้เป็นเพียงพ่อค้าธรรมดาแต่ยังมียศสูง นั่นเพราะเขาเป็นญาติห่างๆ ของพระสนมในวัง เหตุการณ์ในอดีตเจียเฉิงพาเหมยหลินออกหน้าต้อนรับเอาความดีความชอบ หากจำไม่ผิดคนผู้นั้นพาภรรยาติดตามมาด้วย ภรรยาของเขาแพ้ฮ่วยซัว[1]มาแต่กำเนิด เหมยหลินรู้จึงนำเครื่องเทศชนิดนั้นใส่ในหม้อที่หยู่ถิงเป็นคนปรุงเพื่อจัดขึ้นโต๊ะ หลังจากนั้นพอแขกที่มาเยือนได้กินเข้าไปก็เกิดผื่นแดงไปทั้งตัวและหายใจติดขัด ยังดีที่ตามหมอมาได้ทันท่วงทีจึงช่วยรักษาจนพ้นวิกฤต สามีภรรยาคู่นั้นโมโหมากเพราะกำชับไว้แล้วว่าห้ามมีส่วนผสมของฮ่วยซัวในอาหาร ความผิดทั้งหมดก็เลยมาตกอยู่ที่หยู่ถิงเต็มเปา  

หลังจากส่งพ่อค้าต่างถิ่นผู้นั้นกลับไปแล้วเจียเฉิงก็หันมาเอาผิดกับหยู่ถิง ดุด่าว่าเป็นความผิดของนางแต่เพียงผู้เดียว ขู่ว่าถ้าหากสามีภรรยาคู่นั้นโกรธเคืองจนไม่ร่วมทำการค้า เจียเฉิงจะนำสินเดิมของหยู่ถิงออกขายเพื่อเป็นเงินชดใช้ค่าเสียหาย นี่คืออีกสาเหตุที่หยู่ถิงเริ่มตรอมใจหนัก เพราะนางคิดว่าไม่อาจปกป้องสินเดิมที่จะส่งต่อให้บุตรสาวได้

ในเช้าวันต่อมาถิงถิงตื่นนอนตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง บรรยากาศภายในจวนตระกูลว่านเงียบสงบ เดินออกมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องเก็บสมบัติ ทำหน้ายุ่งคิ้วขมวดอยู่นาน ทันใดนั้นเสียงเล็กๆ ก็เรียกดังมาจากข้างหลัง พอหันกลับไปก็เห็นลู่ชิงวิ่งมาหาด้วยใบหน้าตื่นเต้น

“คุณหนู อาลู่พร้อมแล้ว”

“รอเดี๋ยว ท่านแม่ยังแต่งตัวไม่เสร็จ”

“อา…เข้าใจแล้ว อีกไม่กี่วันจะถึงเทศกาลลอยโคมไฟ ในตลาดคงจะมีโคมลอยขายกันมากมาย อาลู่อยากได้โคมลอยสักอัน"

“เทศกาลลอยโคมไฟอย่างนั้นหรือ…”

หึ…ไม่ใช่แค่น้ำลดตอผุด แต่ไฟไหม้ก็ทำให้สมบัติโผล่ได้เหมือนกันนี่นา

“เช่นนั้นเราซื้อโคมลอยกันดีไหม”

“ดีเจ้าค่ะ อาลู่มีเงิน” ลู่ชิงยกถุงเงินขึ้นมาเขย่าจนเกิดเสียกะเทาะกัน

"เด็กๆ ไปกันได้แล้ว"

หยู่ถิงเพิ่งเดินออกมาจากห้อง เห็นเด็กสองคนคุยกันอยู่จึงร้องเรียก ทางด้านระเบียงเมิ่งฉีกำลังวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหา ถิงถิงมองบ่าวแก่ผู้นั้นแล้วนึกถึงความแค้นในชาติที่แล้ว ในตอนนี้เมิ่งฉียังคอยติดตามรับใช้หยู่ถิงอยู่ แต่เมื่อหยู่ถิงหมดอำนาจและตายไปเมิ่งฉีก็เริ่มเป็นสุนัขเปลี่ยนนาย

“แม่ให้เมิ่งฉีไปคอยถือของให้"

“ดีเจ้าค่ะ”

รถม้าแล่นมาถึงตลาด หยู่ถิงเข้าไปซื้อเครื่องเทศในร้านของแห้ง ถิงถิงยืนกอดอกมองมารดาว่าหยิบจับอะไรบ้าง แล้วเดินไปหยุดอยู่ข้างเครื่องตุ๋นที่เรียกว่าฮ่วยซัว

“ท่านแม่ ท่านแม่ นี่ใช่มันเทศตากแห้งใช่หรือไม่เจ้าคะ”

“นั่นไม่ใช่มันเทศตากแห้งนะ อันนั้นเรียกว่าฮ่วยซัว”

“ฮ่วยซัว”

“แต่แม่ไม่หยิบไปหรอกนะ เพราะว่าแขกที่มาวันนี้แพ้ฮ่วยซัว”

“อ้อ”

หยู่ถิงก็ไม่ได้เลอะเลือน นางยังจดจำได้ดีว่าแขกที่มาเยือนแพ้เครื่องเทศชนิดนี้ ที่ถิงถิงเอ่ยถามเพราะแค่อยากเตือนความจำมารดา พอเลือกซื้อของเสร็จแล้วหยู่ถิงก็ยื่นต่อให้เมิ่งฉีถือ จากนั้นเดินต่อไปยังร้านขายเนื้อสัตว์ เลือกเอาเนื้อวัวมาหนึ่งชั่งและไก่สองตัว ปลาตัวใหญ่อีกหนึ่งตัว เพียงเท่านี้เมิ่งฉีก็ถือจนเต็มไม้เต็มมือ ถิงถิงมองไปทางสาวใช้แก่พลางแสยะยิ้ม กวาดมองไปรอบๆ เห็นร้านขายผลไม้อยู่ไม่ไกล เด็กหญิงชี้นิ้วไปที่ร้านผลไม้แล้วพูดกับมารดา

“ท่านแม่ ท่านแม่ ข้าอยากกินแตงโมเจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นก็ไปซื้อ”

ทั้งสี่คนเดินไปหน้าร้านขายผลไม้ บนแผงขายมีผลไม้หลายชนิด เห็นลูกค้ามาเลือกซื้อของพ่อค้าก็รีบเข้ามาต้อนรับอย่างกระตือรือร้น

“เอาแตงโมลูกใหญ่ๆ เอาสาลี่สิบลูก เอาทับทิมสิบลูก เอาลูกพลับอีกสิบลูก”

“เอาไปเยอะขนาดนี้แล้วจะกินหมดหรือ”

ย่อมกินไม่หมดแน่นอน ถิงถิงแค่อยากแกล้งให้เมิ่งฉีถือจนแขนหัก ทางฝ่ายเมิ่งฉีที่เห็นพ่อค้าเอาผลไม้ใส่ห่อให้ก็เบิกตาโต

“เมิ่งฉีเจ้าเอาเนื้อสัตว์ไปเก็บที่รถม้าก่อน เดี๋ยวค่อยกลับมาเอาผลไม้พวกนี้อีกรอบ” หยู่ถิงบอกสาวใช้แก่

แต่รถม้าก็จอดไว้ไกลพอสมควร เมิ่งฉีมองกลับหลังแล้วถอนหายใจออกมาแรงๆ ถิงถิงจึงยิ้มแล้วเอ่ยว่า

“ดูเหมือนเมิ่งฉีจะไม่พอใจที่ข้าซื้อผลไม้”

“หา! ไม่ใช่ ไม่ใช่นะเจ้าคะคุณหนู”

[1] ฮ่วยซัวหรือกลอยจีน : พืชตระกูลมันมีสีขาว มักเห็นอยู่ในถุงเครื่องเทศตุ๋นยาจีน เครื่องเทศทำซุปก๋วยเตี๋ยว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หวนคืนสู่วันฟ้าใส   104 บทส่งท้าย

    ณ ตรอกฉงกุ่ยสถานที่ดวงตะวันไม่เคยส่องถึง ต่างทราบกันดีว่าที่แห่งนี้มีขอทานและคนจรจัดอาศัยอยู่มากที่สุด ท่ามกลางความสลัวรางมองเห็นเงาร่างผอมโซหลายชีวิต ผู้คนทรมานจากความหนาวเหน็บไร้ผ้าห่ม บ้างเจ็บไข้ บ้างนอนขดตัวอยู่ข้างพื้นถนนเย็นเฉียบ ส่งเสียงไอกระเสาะกระแสะให้ได้ยินเป็นระยะเป็นเวลาห้าเดือนเต็มที่เจียเฉิงเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ ไม่มีผู้ใดรู้จักเขา เขาก็ไม่ปริปากพูดคุยกับใครสักคำ เอาแต่เก็บตัวอยู่ในมุมมืดมีชีวิตอยู่อย่างสิ้นหวัง รอให้แต่ละวันผ่านพ้นไปอย่างเชื่องช้า เพราะความไม่สุงสิงกับใครจนบางคนเข้าใจผิดว่าเขาเป็นใบ้หูหนวก ส่วนเรื่องอาหารการกินนั้นรอเพียงแค่คนใจดีเอามาบริจาคกินไปพอประทังชีวิต อิ่มบ้างไม่อิ่มบ้าง สำหรับเจียเฉิงไม่ได้สนใจเรื่องปากท้องแล้ว อยู่ก็ได้ตายไปก็ไม่เป็นไร“มีคนเอาอาหารมาแจกแล้ว มีคนเอาอาหารมาแจก รีบไปรับเร็วเข้า!”ขอทานน้อยตะโกนดังไปทั่วตรอก โดยปกติเจียเฉิงไม่ได้ออกไปรับอาหารเอง เพราะได้เจ้าขอทานน้อยผู้นั้นที่เป็นคนเอามาโยนให้ถึงที่ เนื่องด้วยทุกคนเข้าใจผิดว่าเขาเป็นใบหูหนวก จึงแสดงน้ำใจรับอาหารมาเผื่อแผ่จากตรงที่เจียเฉิงนั่งอยู่สามารถม

  • หวนคืนสู่วันฟ้าใส   103 เจอเจ้าข้าก็หายเหนื่อยแล้ว

    ห้าเดือนต่อมาแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าในระยะเวลาเพียงแค่ห้าเดือนเจี้ยนกั๋วก็เบื่อซืออิ่งเสียแล้ว พอสิ้นวาสนาแม้แต่เสือก็ยังถูกสุนัขรังแก แรกๆ ในตอนที่ซืออิ่งแต่งเข้าจวนได้รับการปกป้องอยู่บ้าง แต่บัดนี้เจี้ยนกั๋วพาสตรีใหม่เข้าจวนเพิ่มอีกหนึ่งคน ความโปรดปรานที่มีต่อซืออิ่งจึงลดน้อยถอยลง จากที่เคยดีด้วยอย่างถึงที่สุดก็แปรเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือยามนี้เจี้ยนกั๋วปล่อยปละละเลยไม่ปกป้อง เนื่องด้วยความหัวแข็งไม่ยอมคนจึงทำให้นางใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก บางวันถูกอนุของเจี้ยนกั๋วกลั่นแกล้งให้เจ็บตัว บางวันก็ถูกหาเรื่องใส่ความยัดเยียดความผิดให้ มิหนำซ้ำยังถูกกรอกยาทำให้แท้งลูกไปแล้วครั้งหนึ่ง หมอบอกว่าภายในเสียหายจนไม่อาจตั้งครรภ์ได้อีก เพียงแค่คิดว่าจะต้องอยู่ในจวนที่มีสภาพไม่ต่างจากคุกไปตลอดชีวิต ซืออิ่งก็ร่ำร้องอยากตายวันละหลายร้อยรอบหดหู่ สิ้นหวัง ทุกข์ระทมทรมาน นั่นคือทุกความรู้สึกที่ซืออิ่งกำลังเผชิญอยู่ฝ่ายเจียเฉิงที่ได้สัมปทานรังนกมาครอบครองแต่กลับมารู้ภายหลังว่าตนได้ครอบครองแค่ในนาม เพราะเจี้ยนกั๋วตลบหลังโกงทุกอย่างไปหมด อย่างที่ถิงถิงเคยบอกไว้ เจี้ยนกั๋วเป็นพวกเจ้าเล่ห์มากแผนการ

  • หวนคืนสู่วันฟ้าใส   102 ได้ทั้งนั้น

    คุยกลับลู่ชิงเสร็จแล้วก็เดินกลับเข้ามาในห้อง หานอี้ควนนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง ถิงถิงนึกว่าเขานอนต่ออย่างเช่นนางบอก จึงเดินเข้าไปกระชับผ้าห่มให้แนบแน่นขึ้น แล้วหมุนตัวคว้าเสื้อคลุมมาสวม จากนั้นเดินไปหยุดอยู่หน้าคันฉ่องมองเงาสะท้อนของตนเองแย้มยิ้มบางๆวันนี้เป็นวันแรกที่ลืมตาตื่นขึ้นมาในสถานที่ใหม่ นอกหน้าต่างท้องฟ้าสว่างสดใสไร้เมฆบดบัง เพียงครู่เดียวแสงแดดอ่อนๆ ก็ชโลมไล้พื้นดิน ถิงถิงยังคงทอดมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างนิ่งงัน เสียงขยับตัวเบาๆ ของผู้ที่นอนอยู่บนเตียงทำให้ต้องละสายตาจากทิวทัศน์งดงาม มองกลับมาเห็นหานอี้ควนนั่งหน้าตึงอยู่“ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ”เขาลุกเดินไปแต่งกายให้เรียบร้อย นางจึงรีบเข้ามาช่วยปรนนิบัติตามหน้าที่ภรรยาพึงกระทำ เช้านี้ไม่รู้ว่าหานอี้ควนจะออกไปที่ใดหรือไม่ แต่ดูจากลักษณะอาภรณ์ที่เขาหยิบมาสวมใส่อย่างไม่เป็นทางการก็น่าจะอยู่ติดจวนไม่ออกไปไหน“ตกลงเลือกเรือนให้ข้าได้หรือยังเจ้าคะ”“ถ้าข้าไม่ทำอย่างที่เจ้าเสนอมาล่ะ”“ข้าคิดว่าความต้องการของท่านพี่คือต่างคนต่างอยู่ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นหรอกหรือเจ้าคะ”“ความต้องการของเจ้าก็ต่างคนต่างอยู่อย่างนั้นหรือ”“ได้ทั้งนั้น”ค

  • หวนคืนสู่วันฟ้าใส   101 แข็งกระด้างเช่นนี้

    “ถิงถิง”“เจ้าคะ”“แต่งงานกันแล้วก็ทำหน้าที่ภรรยา เจ้าจะทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างไร” น้ำเสียงของเขาคล้ายว่ากำลังขุ่นเคืองอยู่ นางเอียงคอมองใบหน้าครึ่งเสี้ยวนั้น นิ่งและเยือกเย็นจนต้องหันกลับมาดังเดิม มองนานเกินไปคงไม่ดี เพราะเดี๋ยวจะถูกความหล่อเหลาล่อลวงเอาได้ หากคืนนี้มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นก็อย่ามาโทษที่ถิงถิงไม่ยับยั้งชั่งใจเป็นอันขาด“หน้าที่ภรรยาหรือเจ้าค่ะ ใช่ๆ ประมุขน้อยพูดถูก อย่าตำหนิที่ข้าไม่รู้ความเอาไว้วันหน้าข้าจะค่อยๆ ปรับปรุงตัว”“ท่านพี่”“อะ…อะไรนะ”“เรียกท่านพี่”ตัวนางออกจะแข็งกระด้างเช่นนี้ จะให้พูดจาอ่อนหวานเรียกขานเขาท่านพี่ก็ยังรู้สึกอายๆ จึงพูดย้ำประโยคเดิมให้ฟังอีกรอบ“เอาไว้วันหน้าข้าจะค่อยๆ ปรับปรุง เรื่องหน้าที่ภรรยาข้ารู้ตัวดีว่าต้องทำเช่นไร”พูดจบก็รีบเปลี่ยนท่านอนพลิกตัวหันหลังให้ ปิดเปลือกตาลงฝืนข่มใจให้หลับ“ไม่ เจ้าไม่รู้ตัว นี่แหละเรียกว่าไม่รู้ตัว"“แล้วเหตุใดประมุขน้อยต้องมาหาเรื่องตำหนิ ทั้งที่ข้าก็ทำตามที่ท่านเคยพูดไว้ทุกอย่าง ตกลงจะเอาอย่างไรกันแน่”หานอี้ควนแทบอยากทุบกำปั้นระบายอารมณ์กับกำแพง นางพูดถูกหมด เพราะทำตามคำพูดของเขาทุกอย่างก็เลยเว้นระ

  • หวนคืนสู่วันฟ้าใส   100 สงสัยข้าจะคออ่อน

    เพราะตั้งใจหลีกเลี่ยงชุดเจ้าสาวสีแดงซึ่งเป็นการตีตัวเสมอภรรยาเอก ข้อนี้ซืออิ่งรับรู้และเข้าใจดีว่านั่นอาจแสดงถึงการไม่ให้เกียรติผู้ที่อยู่ก่อน ด้วยเหตุนี้เหมยหลินจึงให้นางสวมชุดเจ้าสาวสีชมพูอ่อน หากวันนี้สวมอาภรณ์สีแดงเข้าไปอนาคตจะต้องอยู่ในจวนเจี้ยนกั๋วอย่างยากลำบาก บรรดาอนุทั้งหลายต้องเขม่นไม่ชอบขี้หน้านางตั้งแต่วันแรกที่แต่งเข้า“จับนางเปลี่ยนชุด”“อย่านะ! ไม่! ข้าไม่ต้องการ อย่า! พวกเจ้าเป็นใครเหตุใดทำกับข้าเช่นนี้ คอยดูข้าจะฟ้องท่านพ่อ ท่านพ่อของข้าจะเอาชีวิตพวกเจ้าทุกคน”กรี้ดดดดดดดปลายยามซวีจบจากพิธีการที่ยุ่งยากมาทั้งวัน ถิงถิงนั่งอย่างสงบเสงี่ยมในห้องหอ นางกำลังรอให้เจ้าบ่าวมาเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวให้ตามธรรมเนียม สักพักเสียงฝีเท้าคู่หนึ่งเดินเข้ามาใกล้ พร้อมกันนั้นเบื้องหน้าก็สว่างวาบเพราะผ้าคลุมถูกเปิดออก“เจ้าคงหิวเพราะไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน” เขาถามพลางอมยิ้มน้อยๆ“ข้าซ่อนขนมโก๋ไว้ในแขนเสื้อแอบกินไปบ้างแล้ว ประมุขน้อยไม่ต้องห่วง”“เป็นเช่นนั้นหรือ”“เจ้าค่ะ ห่วงแต่ประมุขน้อยคงดื่มมามาก เอ่อ…หน้าท่านแดง”เขาดื่มมามากจริง พวกที่ยกจอกสุราให้ก็ยุให้ดื่มไม่หยุด แล้วตอนนี้หานอ

  • หวนคืนสู่วันฟ้าใส   99 มอบของขวัญ

    ท่านตาชอบเล่นใหญ่อยู่เสมอ ถิงถิงถอนหายใจเหนื่อยๆ เห็นว่าเจ้านายไม่ถามอะไรต่อลู่ชิงจึงพูดอีก“คนที่เร่งรัดหาใช่ใต้เท้าหานไม่ เป็นประมุขน้อยต่างหาก”ถิงถิงชะงักค้างครู่หนึ่ง หัวคิ้วจดกันแทบเป็นเส้นตรง“ประมุขน้อยคงต้องการเป็นผู้สืบทอดหอคุณธรรมไวๆ”“ไม่คิดว่าประมุขน้อยอาจจะชอบคุณหนูก็เลยเร่งรัดงานแต่งบ้างหรือเจ้าคะ”เขาเคยบอกอย่างชัดเจนแล้วว่าจำเป็นต้องแต่งเพื่อเข้ารับเป็นผู้สืบทอดอย่างเป็นทางการ ถิงถิงก็เลยเตือนใจตนเองอยู่เสมอไม่กล้าคิดไกลไปถึงขั้นนั้น ส่วนตัวเขาเองก็ไม่เคยบอกความในใจให้ได้ยิน แล้วอย่างนี้จะให้นางคิดทึกทักเอาเองคนเดียวได้อย่างไรว่ามีใจให้ ดีไม่ดีอาจถูกมองเป็นตัวตลกและถูกหัวเราะเอา“ไม่คิด”“วันนั้นที่คุณหนูถูกนายท่านเจียเฉิงลักพาตัวไปประมุขน้อยเป็นห่วงคุณหนูมากเลยนะเจ้าคะ ดูก็รู้ว่าประมุขน้อยชอบคุณหนู ใครๆ ก็รู้มีแต่คุณหนูที่ไม่รู้”“พอแล้วเจ้าเลิกเหลวไหล”ลู่ชิงหุบปากลงฉับแล้วอมลมไว้จนแก้มป่อง นึกขึ้นได้ว่ามีอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมากเช่นกันต้องรายงาน“ข้ายังมีอีกเรื่องเป็นเรื่องของตระกูลว่าน มีข่าวแว่วมาว่าคุณหนูซืออิ่งจะถูกส่งตัวไปจวนเกี้ยนกั๋วในอีกสามวัน ดังนั้นคุณหน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status