/ รักโบราณ / หวนคืนสู่วันฟ้าใส / 4.จะรู้ได้อย่างไร

공유

4.จะรู้ได้อย่างไร

last update 최신 업데이트: 2025-10-15 16:52:12

“ท่านพี่อย่าเพิ่งโมโห บาดแผลของอิ่งเอ๋อร์แค่เล็กน้อยเท่านั้น ใส่ยาสองสามวันก็หายอย่าโทษถิงถิงเลยเจ้าค่ะ ข้าว่านางไม่ได้ตั้งใจหรอก นางอาจจะแค่คิดถึงมารดาที่ตายไปแล้วจึงไม่ทันยั้งคิด เอาแบบนี้ดีหรือไม่เจ้าคะ ในเมื่ออิ่งเอ๋อร์ก็ทำผิดพลาดหยิบสินเดิมของอดีตฮูหยินมาตัดชุดโดยพลการ เช่นนั้นข้าจะเป็นธุระหาช่างฝีมือดีมาตัดชุดให้ถิงถิงสักตัว ทำแบบนี้จะไม่ได้น้อยหน้ากัน”

“เจ้าก็ยุติธรรมดีเช่นนี้ ลำบากเจ้าแล้ว” พอถูกเกลี้ยกล่อมเจียเฉิงก็เสียงอ่อนลง

“ข้าเห็นถิงถิงเป็นเหมือนลูกสาวแท้ๆ เรื่องแค่นี้ยังจะมีอะไรต้องเกรงใจกันอีก” เหมยหลินแตะต้นแขนสามีเบาๆ แล้วหันไปพูดกับถิงถิงต่อ “ประเดี๋ยวตอนเย็นแม่รองจะให้เมิ่งฉีไปวัดตัวให้เจ้า จากนั้นค่อยจดขนาดตัวไปให้ร้านตัดเสื้ออันดับหนึ่งของอำเภอเต้าหมิงตัดเย็บให้”

“แม่รอง ยามที่ข้าออกไปนอกเรือนมีเสียงซุบซิบนินทาว่าตระกูลว่านร่ำรวยแต่เลี้ยงบุตรสาวภรรยาเอกเติบโตมาอย่างอัตคัด แม้แต่เสื้อผ้าที่ข้าสวมใส่ออกจากจวนยังบ่งบอกถึงสภาพความเป็นอยู่ของข้าได้โดยที่ข้าไม่ต้องป่าวประกาศบอกผู้ใด พวกท่านคงอับอายกระมัง"

“เจ้า!”

เจียเฉิงเริ่มเดือดดาลขึ้นมาอีกรอบ เหมยหลินรีบส่งสายตาปรามไว้ จึงต้องฝืนข่มใจให้สงบลง

การที่เหมยหลินมาทำเสแสร้งใจดีอยากตัดชุดใหม่ให้เป็นเรื่องแปลกประหลาดนัก ซืออิ่งได้ตัดชุดใหม่ทุกปีแต่ถิงถิงห้าปีได้ตัดเพียงหนึ่งครั้ง และเพิ่งตัดไปเมื่อปีที่แล้วนี่เอง ก่อนนั้นสินเดิมของมารดาถิงถิงไม่เคยได้แตะต้อง ผ้าที่ใช้ตัดชุดก็เป็นผ้าราคาถูกจากร้านขายผ้าทั่วไป แต่ครั้งนี้เหมยหลินกลับแสดงน้ำใจถึงขั้นอนุญาตให้เอาผ้าไหมที่เป็นสินเดิมของมารดามาตัดชุดอย่างไม่คิดเสียดาย ถิงถิงคิดว่าเรื่องนี้ดูไม่ชอบมาพากล

“ผ้าไหมล้ำค่าในคลังสมบัติถึงอย่างไรก็เป็นสินเดิมของมารดาเจ้า แม่แค่เป็นธุระหาช่างมาช่วยตัดให้เท่านั้น”

“ของที่เป็นสินเดิมของมารดา ยามข้าออกเรือนย่อมมีสิทธิ์นำติดตัวไปอย่างชอบธรรม แม่รองบอกเองว่าน้องซืออิ่งพลาดไปหยิบผ้าไหมของท่านแม่มาตัดชุดให้ตัวเองโดยพลการ เช่นนั้นขอถาม พวกท่านสองแม่ลูกจะชดใช้คืนให้ข้าอย่างไรดี ตีจากมูลค่าของผ้าผืนนั้นข้าว่าชดใช้เป็นเงินสักห้าพันตำลึงเป็นอย่างไร”

“ลูกอกตัญูญู! นี่แม่รองนั่นก็น้องสาวเจ้านะ”

เจียเฉิงได้ฟังก็ไม่พอใจ ย่างสามขุมเข้าหาถิงถิงแล้วง้างมือค้างไว้กลางอากาศ ท้ายที่สุดก็ไม่กล้าฟาดลงใบหน้าของบุตรสาว จึงลดมือลงด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ถึงอย่างไรถิงถิงก็ยังมีประโยชน์อยู่ ระยะนี้เจียเฉิงไม่อาจแตะต้องนางได้ คงไม่ดีแน่ถ้าส่งไปให้เจี้ยนป๋อทั้งที่บอบช้ำ จึงฝืนข่มความขุ่นเคืองเอาไว้อย่างถึงที่สุด

“แค่หยอกล้อน้องซืออิ่งเล่นเท่านั้น ไยท่านพ่อถึงดุด่าว่าลูกอกตัญญูแล้ว คำว่าอกตัญญูที่ออกมาจากปากบิดาหนักหนาเกินไป ดังนั้นลูกไม่ขอรับไว้ แต่ลูกอยากถามท่านพ่อกลับสักคำ การที่ลูกปกป้องสมบัติที่เป็นของมารดาตัวเอง เช่นนี้เรียกว่ากตัญญูหรืออกตัญญูเจ้าคะ”

หากเอาแต่นิ่งเฉยไม่ยอกย้อนกลับไปบ้าง ก็เหมือนเป็นเป้านิ่งให้คนรังแก แม้ผู้เป็นพ่อเดือดดาลจนหน้าเขียวคล้ำ น้ำเสียงของถิงถิงยังคงเรียบนิ่งไม่ได้เน้นไปทางประชดประชันแต่ก็ทำให้คนหน้าชาได้

“ในตอนที่ท่านพ่อริเริ่มทำการค้าก็เอาสินเดิมของท่านแม่ไปลงทุนไม่น้อย มิหนำซ้ำตอนประสบความสำเร็จแล้วก็ยังไม่มีชิ้นไหนที่ซื้อกลับคืนมาให้ท่านแม่ได้ ของที่ท่านแม่เหลือทิ้งไว้ให้ลูกก็น้อยนิดเต็มที” นางเว้นช่วงไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มบางๆ แล้วพูดต่อ “เพื่อแสดงความกตัญญูต่อท่านแม่ลูกจึงอยากยืมกุญแจห้องเก็บสมบัติจะได้เข้าไปตรวจนับดูสินเดิมที่เหลืออยู่ ของในนั้นส่วนหนึ่งก็เป็นของของลูกคงไม่มีผู้ใดคัดค้านกระมัง"

“โอหัง! เจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าชิ้นไหนเป็นของแม่เจ้าชิ้นไหนข้าเพิ่งได้มาใหม่”

“เรื่องนั้นไม่ยากเจ้าค่ะ ท่านแม่ได้ทิ้งสมุดจดรายการสินเดิมของตนเองไว้ให้ลูกก่อนตาย เพียงแค่เอามาเปิดนับเทียบดูก็จะรู้แล้ว"

“เหลวไหล!”

เจียเฉิงแกล้งโวยวายกลบเกลื่อน พอหาข้อโต้แย้งไม่ได้ก็ชอบทำตัวเป็นหมาป่าตาขาว หากให้ถิงถิงเปิดห้องสมบัติเพื่อเข้าไปนับดูก็ไม่รู้ว่าจะเหลืออยู่มากน้อยเพียงใด แน่นอนว่ามันต้องไม่ตรงกันกับในบันทึกสินเดิมที่นางมีอยู่เป็นแน่ เพราะตั้งแต่รับเหมยหลินเข้าจวนนางก็ถือวิสาสะหยิบฉวยออกไปโดยพลการ บางชิ้นนำกลับคืนมาไว้ตามเดิมแต่บางชิ้นก็ถูกขายเข้าโรงพนัน ซ้ำร้ายไปกว่านั้นยังมีของล้ำค่าจำนวนไม่น้อยที่เหมยหลินหน้าใหญ่ใจโตนำไปมอบให้ตระกูลผู้ดีเพราะอยากคบค้าสมาคมกับคนเหล่านั้น

이 책을.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • หวนคืนสู่วันฟ้าใส   104 บทส่งท้าย

    ณ ตรอกฉงกุ่ยสถานที่ดวงตะวันไม่เคยส่องถึง ต่างทราบกันดีว่าที่แห่งนี้มีขอทานและคนจรจัดอาศัยอยู่มากที่สุด ท่ามกลางความสลัวรางมองเห็นเงาร่างผอมโซหลายชีวิต ผู้คนทรมานจากความหนาวเหน็บไร้ผ้าห่ม บ้างเจ็บไข้ บ้างนอนขดตัวอยู่ข้างพื้นถนนเย็นเฉียบ ส่งเสียงไอกระเสาะกระแสะให้ได้ยินเป็นระยะเป็นเวลาห้าเดือนเต็มที่เจียเฉิงเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ ไม่มีผู้ใดรู้จักเขา เขาก็ไม่ปริปากพูดคุยกับใครสักคำ เอาแต่เก็บตัวอยู่ในมุมมืดมีชีวิตอยู่อย่างสิ้นหวัง รอให้แต่ละวันผ่านพ้นไปอย่างเชื่องช้า เพราะความไม่สุงสิงกับใครจนบางคนเข้าใจผิดว่าเขาเป็นใบ้หูหนวก ส่วนเรื่องอาหารการกินนั้นรอเพียงแค่คนใจดีเอามาบริจาคกินไปพอประทังชีวิต อิ่มบ้างไม่อิ่มบ้าง สำหรับเจียเฉิงไม่ได้สนใจเรื่องปากท้องแล้ว อยู่ก็ได้ตายไปก็ไม่เป็นไร“มีคนเอาอาหารมาแจกแล้ว มีคนเอาอาหารมาแจก รีบไปรับเร็วเข้า!”ขอทานน้อยตะโกนดังไปทั่วตรอก โดยปกติเจียเฉิงไม่ได้ออกไปรับอาหารเอง เพราะได้เจ้าขอทานน้อยผู้นั้นที่เป็นคนเอามาโยนให้ถึงที่ เนื่องด้วยทุกคนเข้าใจผิดว่าเขาเป็นใบหูหนวก จึงแสดงน้ำใจรับอาหารมาเผื่อแผ่จากตรงที่เจียเฉิงนั่งอยู่สามารถม

  • หวนคืนสู่วันฟ้าใส   103 เจอเจ้าข้าก็หายเหนื่อยแล้ว

    ห้าเดือนต่อมาแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าในระยะเวลาเพียงแค่ห้าเดือนเจี้ยนกั๋วก็เบื่อซืออิ่งเสียแล้ว พอสิ้นวาสนาแม้แต่เสือก็ยังถูกสุนัขรังแก แรกๆ ในตอนที่ซืออิ่งแต่งเข้าจวนได้รับการปกป้องอยู่บ้าง แต่บัดนี้เจี้ยนกั๋วพาสตรีใหม่เข้าจวนเพิ่มอีกหนึ่งคน ความโปรดปรานที่มีต่อซืออิ่งจึงลดน้อยถอยลง จากที่เคยดีด้วยอย่างถึงที่สุดก็แปรเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือยามนี้เจี้ยนกั๋วปล่อยปละละเลยไม่ปกป้อง เนื่องด้วยความหัวแข็งไม่ยอมคนจึงทำให้นางใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก บางวันถูกอนุของเจี้ยนกั๋วกลั่นแกล้งให้เจ็บตัว บางวันก็ถูกหาเรื่องใส่ความยัดเยียดความผิดให้ มิหนำซ้ำยังถูกกรอกยาทำให้แท้งลูกไปแล้วครั้งหนึ่ง หมอบอกว่าภายในเสียหายจนไม่อาจตั้งครรภ์ได้อีก เพียงแค่คิดว่าจะต้องอยู่ในจวนที่มีสภาพไม่ต่างจากคุกไปตลอดชีวิต ซืออิ่งก็ร่ำร้องอยากตายวันละหลายร้อยรอบหดหู่ สิ้นหวัง ทุกข์ระทมทรมาน นั่นคือทุกความรู้สึกที่ซืออิ่งกำลังเผชิญอยู่ฝ่ายเจียเฉิงที่ได้สัมปทานรังนกมาครอบครองแต่กลับมารู้ภายหลังว่าตนได้ครอบครองแค่ในนาม เพราะเจี้ยนกั๋วตลบหลังโกงทุกอย่างไปหมด อย่างที่ถิงถิงเคยบอกไว้ เจี้ยนกั๋วเป็นพวกเจ้าเล่ห์มากแผนการ

  • หวนคืนสู่วันฟ้าใส   102 ได้ทั้งนั้น

    คุยกลับลู่ชิงเสร็จแล้วก็เดินกลับเข้ามาในห้อง หานอี้ควนนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง ถิงถิงนึกว่าเขานอนต่ออย่างเช่นนางบอก จึงเดินเข้าไปกระชับผ้าห่มให้แนบแน่นขึ้น แล้วหมุนตัวคว้าเสื้อคลุมมาสวม จากนั้นเดินไปหยุดอยู่หน้าคันฉ่องมองเงาสะท้อนของตนเองแย้มยิ้มบางๆวันนี้เป็นวันแรกที่ลืมตาตื่นขึ้นมาในสถานที่ใหม่ นอกหน้าต่างท้องฟ้าสว่างสดใสไร้เมฆบดบัง เพียงครู่เดียวแสงแดดอ่อนๆ ก็ชโลมไล้พื้นดิน ถิงถิงยังคงทอดมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างนิ่งงัน เสียงขยับตัวเบาๆ ของผู้ที่นอนอยู่บนเตียงทำให้ต้องละสายตาจากทิวทัศน์งดงาม มองกลับมาเห็นหานอี้ควนนั่งหน้าตึงอยู่“ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ”เขาลุกเดินไปแต่งกายให้เรียบร้อย นางจึงรีบเข้ามาช่วยปรนนิบัติตามหน้าที่ภรรยาพึงกระทำ เช้านี้ไม่รู้ว่าหานอี้ควนจะออกไปที่ใดหรือไม่ แต่ดูจากลักษณะอาภรณ์ที่เขาหยิบมาสวมใส่อย่างไม่เป็นทางการก็น่าจะอยู่ติดจวนไม่ออกไปไหน“ตกลงเลือกเรือนให้ข้าได้หรือยังเจ้าคะ”“ถ้าข้าไม่ทำอย่างที่เจ้าเสนอมาล่ะ”“ข้าคิดว่าความต้องการของท่านพี่คือต่างคนต่างอยู่ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นหรอกหรือเจ้าคะ”“ความต้องการของเจ้าก็ต่างคนต่างอยู่อย่างนั้นหรือ”“ได้ทั้งนั้น”ค

  • หวนคืนสู่วันฟ้าใส   101 แข็งกระด้างเช่นนี้

    “ถิงถิง”“เจ้าคะ”“แต่งงานกันแล้วก็ทำหน้าที่ภรรยา เจ้าจะทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างไร” น้ำเสียงของเขาคล้ายว่ากำลังขุ่นเคืองอยู่ นางเอียงคอมองใบหน้าครึ่งเสี้ยวนั้น นิ่งและเยือกเย็นจนต้องหันกลับมาดังเดิม มองนานเกินไปคงไม่ดี เพราะเดี๋ยวจะถูกความหล่อเหลาล่อลวงเอาได้ หากคืนนี้มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นก็อย่ามาโทษที่ถิงถิงไม่ยับยั้งชั่งใจเป็นอันขาด“หน้าที่ภรรยาหรือเจ้าค่ะ ใช่ๆ ประมุขน้อยพูดถูก อย่าตำหนิที่ข้าไม่รู้ความเอาไว้วันหน้าข้าจะค่อยๆ ปรับปรุงตัว”“ท่านพี่”“อะ…อะไรนะ”“เรียกท่านพี่”ตัวนางออกจะแข็งกระด้างเช่นนี้ จะให้พูดจาอ่อนหวานเรียกขานเขาท่านพี่ก็ยังรู้สึกอายๆ จึงพูดย้ำประโยคเดิมให้ฟังอีกรอบ“เอาไว้วันหน้าข้าจะค่อยๆ ปรับปรุง เรื่องหน้าที่ภรรยาข้ารู้ตัวดีว่าต้องทำเช่นไร”พูดจบก็รีบเปลี่ยนท่านอนพลิกตัวหันหลังให้ ปิดเปลือกตาลงฝืนข่มใจให้หลับ“ไม่ เจ้าไม่รู้ตัว นี่แหละเรียกว่าไม่รู้ตัว"“แล้วเหตุใดประมุขน้อยต้องมาหาเรื่องตำหนิ ทั้งที่ข้าก็ทำตามที่ท่านเคยพูดไว้ทุกอย่าง ตกลงจะเอาอย่างไรกันแน่”หานอี้ควนแทบอยากทุบกำปั้นระบายอารมณ์กับกำแพง นางพูดถูกหมด เพราะทำตามคำพูดของเขาทุกอย่างก็เลยเว้นระ

  • หวนคืนสู่วันฟ้าใส   100 สงสัยข้าจะคออ่อน

    เพราะตั้งใจหลีกเลี่ยงชุดเจ้าสาวสีแดงซึ่งเป็นการตีตัวเสมอภรรยาเอก ข้อนี้ซืออิ่งรับรู้และเข้าใจดีว่านั่นอาจแสดงถึงการไม่ให้เกียรติผู้ที่อยู่ก่อน ด้วยเหตุนี้เหมยหลินจึงให้นางสวมชุดเจ้าสาวสีชมพูอ่อน หากวันนี้สวมอาภรณ์สีแดงเข้าไปอนาคตจะต้องอยู่ในจวนเจี้ยนกั๋วอย่างยากลำบาก บรรดาอนุทั้งหลายต้องเขม่นไม่ชอบขี้หน้านางตั้งแต่วันแรกที่แต่งเข้า“จับนางเปลี่ยนชุด”“อย่านะ! ไม่! ข้าไม่ต้องการ อย่า! พวกเจ้าเป็นใครเหตุใดทำกับข้าเช่นนี้ คอยดูข้าจะฟ้องท่านพ่อ ท่านพ่อของข้าจะเอาชีวิตพวกเจ้าทุกคน”กรี้ดดดดดดดปลายยามซวีจบจากพิธีการที่ยุ่งยากมาทั้งวัน ถิงถิงนั่งอย่างสงบเสงี่ยมในห้องหอ นางกำลังรอให้เจ้าบ่าวมาเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวให้ตามธรรมเนียม สักพักเสียงฝีเท้าคู่หนึ่งเดินเข้ามาใกล้ พร้อมกันนั้นเบื้องหน้าก็สว่างวาบเพราะผ้าคลุมถูกเปิดออก“เจ้าคงหิวเพราะไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน” เขาถามพลางอมยิ้มน้อยๆ“ข้าซ่อนขนมโก๋ไว้ในแขนเสื้อแอบกินไปบ้างแล้ว ประมุขน้อยไม่ต้องห่วง”“เป็นเช่นนั้นหรือ”“เจ้าค่ะ ห่วงแต่ประมุขน้อยคงดื่มมามาก เอ่อ…หน้าท่านแดง”เขาดื่มมามากจริง พวกที่ยกจอกสุราให้ก็ยุให้ดื่มไม่หยุด แล้วตอนนี้หานอ

  • หวนคืนสู่วันฟ้าใส   99 มอบของขวัญ

    ท่านตาชอบเล่นใหญ่อยู่เสมอ ถิงถิงถอนหายใจเหนื่อยๆ เห็นว่าเจ้านายไม่ถามอะไรต่อลู่ชิงจึงพูดอีก“คนที่เร่งรัดหาใช่ใต้เท้าหานไม่ เป็นประมุขน้อยต่างหาก”ถิงถิงชะงักค้างครู่หนึ่ง หัวคิ้วจดกันแทบเป็นเส้นตรง“ประมุขน้อยคงต้องการเป็นผู้สืบทอดหอคุณธรรมไวๆ”“ไม่คิดว่าประมุขน้อยอาจจะชอบคุณหนูก็เลยเร่งรัดงานแต่งบ้างหรือเจ้าคะ”เขาเคยบอกอย่างชัดเจนแล้วว่าจำเป็นต้องแต่งเพื่อเข้ารับเป็นผู้สืบทอดอย่างเป็นทางการ ถิงถิงก็เลยเตือนใจตนเองอยู่เสมอไม่กล้าคิดไกลไปถึงขั้นนั้น ส่วนตัวเขาเองก็ไม่เคยบอกความในใจให้ได้ยิน แล้วอย่างนี้จะให้นางคิดทึกทักเอาเองคนเดียวได้อย่างไรว่ามีใจให้ ดีไม่ดีอาจถูกมองเป็นตัวตลกและถูกหัวเราะเอา“ไม่คิด”“วันนั้นที่คุณหนูถูกนายท่านเจียเฉิงลักพาตัวไปประมุขน้อยเป็นห่วงคุณหนูมากเลยนะเจ้าคะ ดูก็รู้ว่าประมุขน้อยชอบคุณหนู ใครๆ ก็รู้มีแต่คุณหนูที่ไม่รู้”“พอแล้วเจ้าเลิกเหลวไหล”ลู่ชิงหุบปากลงฉับแล้วอมลมไว้จนแก้มป่อง นึกขึ้นได้ว่ามีอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมากเช่นกันต้องรายงาน“ข้ายังมีอีกเรื่องเป็นเรื่องของตระกูลว่าน มีข่าวแว่วมาว่าคุณหนูซืออิ่งจะถูกส่งตัวไปจวนเกี้ยนกั๋วในอีกสามวัน ดังนั้นคุณหน

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status