Home / รักโบราณ / หวนคืนอีกคราข้าไม่ขอเป็นคุณหนูผู้ถูกรังแก / บทที่ 5 ข้าไม่ใช่สตรีที่ท่านต้องการ

Share

บทที่ 5 ข้าไม่ใช่สตรีที่ท่านต้องการ

last update Last Updated: 2025-05-18 12:00:43

ตุบ!

"โอ๊ย!" 

ร่างบอบบางถูกโยนลงพื้นอย่างไม่ปรานี ตลอดเส้นทางสือลี่ผิงพยายามด่าทอทุบตีบุรุษปริศนาเสียจนสิ้นไร้เรี่ยวแรง มีอย่างที่ไหน ยกร่างสือลี่ผิงขึ้นบ่าแข็งราวแผ่นเหล็กไม่หนำใจ เขายังวางตัวของนางพาดเอาไว้บนหลังม้า ขณะที่อาชาห้อตะบึงไปเบื้องหน้าความจุกเสียดก็พลอยแล่นปร๊าดเข้ามาบริเวณช่องท้องเสียจนแทบอาเจียน 

พรึบ!

ผ้าคลุมศีรษะถูกปลดออก สือลี่ผิงพยายามปรับรูม่านตาของตนเพื่อให้สามารถมองภาพเบื้องหน้าได้ชัดถนัดตา ทว่านางพิศมองเพียงใดบุรุษตรงหน้าก็ยังประดุจเงาสูงใหญ่เงาหนึ่งเท่านั้น 

"ท่านเป็นใคร เหตุใดต้องทำกับข้าถึงเพียงนี้" 

เจ้าของร่างสูงนั่งไขว้ขาอยู่บนเก้าอี้ไม้เนื้อดี ทว่าสือลี่ผิงกลับมองหน้าของเขาไม่ชัดนัก เนื่องจากด้านในเป็นห้องขนาดไม่กว้างมาก ซ้ำยังมืดมนทึมทึบ มีเพียงแสงสว่างจากเชิงเทียนที่ส่องสะท้อนอยู่เบื้องหลัง อีกฝ่ายมองเห็นนางได้กระจะตา เขาทอดสายตามองสตรีบนพื้นพลางเหยียดยิ้มหยามหยัน 

"เจ้าหรือ สืออี้หนาน" เสียงทุ้มเอ่ยเย็นเยียบ 

เสียงคุ้น ๆ ปวดหัวนัก 

ความทรงจำประหลาดผุดขึ้นอีกระลอก สือลี่ผิงปวดหนึบบริเวณศีรษะจนแทบระเบิดออกมา

สือลี่ผิงนิ่วหน้า "สืออี้หนานหรือ ข้าไม่ใช่!" 

"โกหก!" 

สือลี่ผิงสะดุ้งตัวโยน นางเพียงสลับตัวตนกับสืออี้หนานชั่วประเดี๋ยวเท่านั้น ไยตอนนี้มีศัตรูของสืออี้หนานคิดทำร้ายนางอย่างนั้นรึ หรือว่าสืออี้หนานถูกบุรุษเบื้องหน้าชมชอบ ทว่าเมื่อไม่อาจครอบครองเขาจึงต้องการข่มเหงนาง 

"เอ่อ...ท่าน นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่ใช่สืออี้หนาน ข้านามว่าสือลี่ผิง" 

"หึ!" เสียงทุ้มแค่นยิ้ม 

ชายหนุ่มยืดกายขึ้นยืนเต็มความสูง เขาย่างสามขุมเข้าใกล้สตรีบนพื้นด้วยท่าทีใจเย็น สือลี่ผิงช้อนดวงตามองอีกฝ่าย เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ยิ่งทำให้หัวใจของสือลี่ผิงเต้นดังกระหน่ำ นางพยายามกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคออย่างลำบากยากยิ่ง เจ้าของร่างสูงยอบกายลง เขาเอื้อมจับปลายคางโค้งมนให้เชิดขึ้น 

สือลี่ผิงเบิกตากว้างเมื่อเห็นแววตาและใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน ดวงตาคมกริบ โครงหน้าเกลี้ยงเกลาหล่อเหลา ทว่ากลับแฝงไปด้วยไอสังหาร ภาพบุรุษผู้หนึ่งซ้อนทับเข้ามาดั่งสายน้ำหลาก ลมหายใจของนางติดขัดแทบไม่กล้าหายใจแรง 

ลู่อี้ฝาน! เป็นเขาได้อย่างไร 

สือลี่ผิงคนเดิมเคยได้พบหน้าของลู่อี้ฝานเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ทว่าแววตาเย็นเยียบประดุจหุบเขาน้ำแข็งเช่นนี้ทำให้นางจำได้ไม่มีลืม จึงไม่แปลกที่อีกฝ่ายถูกกักเก็บไว้ในหนึ่งความทรงจำ เขาดูรังเกียจเดียดฉันท์อนุของลู่เยี่ยนฮ่าวทุกคน และแน่นอนสือลี่ผิงเองย่อมหลีกไม่พ้น

เมื่อก่อนสือลี่ผิงผู้นี้เคยเป็นอนุพ่อของเขา!

นางถึงกับขยาดกลัวขึ้นทันควัน โชคดีนักที่สวรรค์ส่งนางมายังห้วงเวลาที่สือลี่ผิงยังไม่ได้รู้จักกับลู่อี้ฝาน ทั้งยังไม่ตกเป็นอนุของผู้ใด เช่นนั้นควรเร่งตัดไฟตั้งแต่ต้นลม อย่าได้เข้าไปพัวพันกับสองพ่อลูกตระกูลลู่ให้ต้องข่มเหงจิตใจนางอีกเลย 

สือลี่ผิงหลุบดวงตาฉับ เปล่งวาจาละล่ำละลักเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึก "คะ...คุณชาย ท่านจับผิดคนแล้วเจ้าค่ะ ข้าไม่เคยมีเรื่องบาดหมางใจใดกับท่าน หากว่าสืออี้หนานเป็นคนทำท่านก็ไปคิดบัญชีกับนางเอาเอง ขะ...ข้าคือสือลี่ผิงจริง ๆ" 

"หืม เจ้าบอกว่าตนไม่ใช่สืออี้หนาน ทว่าเมื่อช่วงกลางวันก็เป็นเจ้าไม่ใช่หรือที่ร่ายรำให้ตาแก่นั่นชม" คิ้วเข้มเลิกขึ้นหยั่งเชิง 

"กะ...ก็จริงอยู่ที่ว่าเป็นข้า แต่ข้าขอยืนยันว่าข้าไม่ใช่สืออี้หนาน" 

นางจะเอ่ยอย่างไรดี คุณหนูรองเปลี่ยนตัวกับคุณหนูใหญ่อย่างนั้นหรือ อีกอย่างใบหน้าของนางช่วงนั้นบวมเป่งดูไม่จืด เหตุใดคนผู้นี้ยังจำได้อีกเล่าว่าเป็นนางที่ร่ายรำเมื่อช่วงบ่าย หรือเขาลอบส่งคนเข้าไปสอดส่องในจวนสกุลสือกัน 

ฝ่ามือหยาบระคายพยายามเบี่ยงใบหน้าของนางแลมองซ้ายขวา "หืม...เมื่อช่วงกลางวันยังอัปลักษณ์ดูไม่ได้อยู่เลย น่าแปลก..." ชายหนุ่มซู๊ดปากหนึ่งครา เขาเอ่ยต่อ "ไยตอนนี้แปรผันเป็นสาวงามไปแล้วเล่า" 

"ข้า...เอ่อ...จริง ๆ แล้วข้ามีเหตุจำเป็นต้องทำเช่นนั้น แต่ว่าข้าไม่ใช่สืออี้หนานจริง ๆ ท่านต้องการสิ่งใดจากนางกันเล่า หากข้าช่วยได้ก็จะช่วย" 

"ต้องการสิ่งใดหรือ บิดาของเจ้าเป็นหนี้ตระกูลลู่เท่าใดเล่า เขาไร้ปัญญาใช้หนี้จนต้องคิดขายลูกสาวกินอย่างไร้ยางอาย ลูกสาวเช่นเจ้าก็ช่างดีเหลือเกินระริกระรี้อยากเข้ามาเสวยสุขในตระกูลลู่เสียจนเนื้อเต้นสิท่า" 

สือลี่ผิงค้อนควัก "นี่คุณชาย จะต่อว่าบิดาข้าอย่างไรก็แล้วแต่ท่าน ถึงอย่างไรเขาก็ไม่เคยแยแสลูกเช่นข้า แต่ช่วยฟังข้าสักนิด ว่าข้าไม่ใช่สืออี้หนาน ข้ามีนามว่าสือลี่ผิง"

"โกหกตาใส" ชายหนุ่มกัดฟันกรอด เขาบีบคางของอีกฝ่ายไว้แน่นด้วยความกรุ่นโกรธ 

สตรีเช่นสืออี้หนานผู้ใดก็ว่านางเป็นพวกตลบตะแลงราวปีศาจจิ้งจอก ไว้ใจไม่ได้ ซ้ำยังเที่ยวหว่านเสน่ห์กับพวกบุรุษไปทั่วแคว้น เขาไม่เคยสนใจว่านางหน้าตาเช่นไร หรืออยากรู้จักมักจี่กับบรรดาสตรีตระกูลผู้ดีที่เอาแต่ผลัดหน้าขาวแต่งตัวสวยไปวัน ๆ มากนัก งานสืบคดีของหน่วยองครักษ์เสื้อแพรมีตั้งเท่าใด เรื่องไร้สาระพรรคนี้จึงไม่เคยแวบเข้ามาในมโนความคิดเขาสักกระผีกริ้น

ทว่าพิศมองจากใบหน้าของนางตอนนี้คงจริงดังว่า งดงามสะสวยไร้ที่ติเตียน สาวงามแห่งหนานโจวหรือ ก็แค่สตรีเห็นแก่เงินผู้หนึ่ง ริอ่านเอาตัวเข้าแลกกับตาแก่ตัณหากลับ ครั้งนี้นางอย่าหมายใช้มารยาเพื่อหลอกล่อเขาเลย ต่อให้บิดาของเขาเป็นพวกมักมาก กระนั้นลู่อี้ฝานกลับมีนิสัยที่ต่างจากลู่เยี่ยนฮ่าวมากนัก เว้นเพียงพี่ชายต่างมารดาของตนที่นิสัยถอดแบบมาจากลู่เยี่ยนฮ่าวไม่มีผิดเพี้ยน 

แรงจากปลายนิ้วยิ่งมีมากขึ้น สือลี่ผิงเริ่มรู้สึกเจ็บปวด โชคดีที่อีกฝ่ายยังมีมโนธรรมไม่มัดมือมัดเท้าของนางเอาไว้เยี่ยงหมูเยี่ยงสุนัข ฝ่ามือเล็กจึงพยายามแกะมือที่แข็งราวคีมเหล็กออกจากปลายคางของตน ทว่ายิ่งดิ้นรนเขากลับยิ่งเพิ่มแรงขึ้นอีกทบทวีคูณ 

คนป่าเถื่อน คอยดูเถอะข้าจะไปฟ้องทางการ 

"เอ๊ะ!...ท่านนี่เป็นคนเช่นไรกัน ข้าบอกว่าไม่ได้โกหกอย่างไรเล่า ท่านทำเช่นนี้เป็นการลักพาตัวผู้อื่น ข้าจะไปฟ้องทางการ!" สือลี่ผิงขึงดวงตามองเขาอย่างนึกคาดโทษ 

ลู่อี้ฝานยิ้มขัน เหตุใดนางจึงใจกล้าเพียงนี้เล่า "อยากฟ้องก็เอาเลย เจ้ามีชีวิตรอดจากวันนี้ให้ได้ก่อนก็แล้วกัน" 

"ลู่!...เอ่อ...ท่านจะทำอะไร ข้าบอกแล้วว่าข้าไม่ใช่นาง ต้องให้ย้ำอีกกี่ครั้งกันเล่า คนงี่เง่า" 

สือลี่ผิงพยายามสลัดให้ตนหลุดพ้นจากพันธนาการที่เจ็บปวด ทว่าแรงของเขาช่างมหาศาลเหลือล้น ใบหน้าหล่อเหลาโน้มใกล้ลงมาเรื่อย ๆ เสียงทุ้มเอ่ยผะแผ่ว "ทำงานใช้หนี้ วันนี้อย่าคิดจะออกไปจากที่นี่เลย" 

ลู่อี้ฝานสลัดมือออกจากใบหน้างาม สือลี่ผิงหน้าหันตามแรงผลักของเขา นางผินหน้ากลับเนิบช้า 

ทำงานใช้หนี้ เขาเลอะเลือนไปแล้วหรืออย่างไร 

"คุณชาย ข้าสัญญาจะใช้หนี้ท่านแน่นอน แต่ว่าตอนนี้แม่ของข้ารออยู่ ปล่อยข้าไปก่อนได้หรือไม่" 

สือลี่ผิงไม่มีเวลาให้คิดมากนัก ตอนนี้นางต้องเอาตัวรอดจากลู่อี้ฝานให้ได้เสียก่อน นางทั้งวิงวอนและหว่านล้อมเขาแต่ดูเหมือนเขากลับไม่แยแสต่อคำพูดของนางเลยสักนิด 

"ปล่อยหรือ เจ้าฝันไปเถอะ!" 

อยากจะบ้า บุรุษตระกูลลู่เป็นพวกเอาแต่ใจกันทุกคนหรืออย่างไร 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หวนคืนอีกคราข้าไม่ขอเป็นคุณหนูผู้ถูกรังแก   บทที่ 6 บุรุษตระกูลลู่แสนวิปริต (1/2)

    ลู่อี้ฝานเดินจากไปโดยไม่หันมาสนใจนางอีก สือลี่ผิงมองตามอีกฝ่ายตาปริบ ๆ เขากำลังคิดทำสิ่งใดกันแน่ แล้วนางควรทำเช่นไรต่อหรือจ้าวหวินและมารดาของสือลี่ผิงคงกำลังคอยทางตนอยู่เป็นแน่คิดสิลี่ผิงควรทำเช่นไรดี สือลี่ผิงพยายามประมวลความคิด ดูเหมือนอีกฝ่ายชะล่าใจอยู่ไม่น้อย แม้ห้องอาจทึมทึบทว่ากลับยังมีแสงรำไรลอดผ่าน เสียงบานประตูปิดงับดังปัง ร่างบอบบางจึงรีบถลันกายแนบหูชิดบานประตูเดี๋ยวนั้น บรรยากาศด้านในช่างดูอับชื้นไม่น่าอภิรมย์สือลี่ผิงพยายามแนบใบหูให้ชิดกับบานประตูมากที่สุด นางได้ยินเสียงสนทนาของบุรุษดังแว่วเป็นระยะ"นายน้อย เอาเช่นไรดีขอรับ ตอนนี้นายท่านได้เปลี่ยนตัวอนุเป็นสือลี่ผิงแล้วขอรับ"ลู่อี้ฝานเลิกคิ้วหนึ่งฝั่ง เขารู้สึกแคลงใจกับสถานะของคุณหนูตระกูลนี้อย่างน่าประหลาด แท้จริงแล้วสืออี้หนานคือนางที่อยู่กับเขา หรือเป็นสือลี่ผิงตัวจริงตามที่นางกล่าวอ้างกันแน่"เมื่อสักครู่นางปฏิเสธว่าตนเองคือสืออี้หนาน เช่นนั้นตอนนี้สือลี่ผิงตัวจริงยังคงอยู่ที่จวนสกุลสือใช่หรือไม่""เอ่อ...เกร

  • หวนคืนอีกคราข้าไม่ขอเป็นคุณหนูผู้ถูกรังแก   บทที่ 5 ข้าไม่ใช่สตรีที่ท่านต้องการ

    ตุบ!"โอ๊ย!"ร่างบอบบางถูกโยนลงพื้นอย่างไม่ปรานี ตลอดเส้นทางสือลี่ผิงพยายามด่าทอทุบตีบุรุษปริศนาเสียจนสิ้นไร้เรี่ยวแรง มีอย่างที่ไหน ยกร่างสือลี่ผิงขึ้นบ่าแข็งราวแผ่นเหล็กไม่หนำใจ เขายังวางตัวของนางพาดเอาไว้บนหลังม้า ขณะที่อาชาห้อตะบึงไปเบื้องหน้าความจุกเสียดก็พลอยแล่นปร๊าดเข้ามาบริเวณช่องท้องเสียจนแทบอาเจียนพรึบ!ผ้าคลุมศีรษะถูกปลดออก สือลี่ผิงพยายามปรับรูม่านตาของตนเพื่อให้สามารถมองภาพเบื้องหน้าได้ชัดถนัดตา ทว่านางพิศมองเพียงใดบุรุษตรงหน้าก็ยังประดุจเงาสูงใหญ่เงาหนึ่งเท่านั้น"ท่านเป็นใคร เหตุใดต้องทำกับข้าถึงเพียงนี้"เจ้าของร่างสูงนั่งไขว้ขาอยู่บนเก้าอี้ไม้เนื้อดี ทว่าสือลี่ผิงกลับมองหน้าของเขาไม่ชัดนัก เนื่องจากด้านในเป็นห้องขนาดไม่กว้างมาก ซ้ำยังมืดมนทึมทึบ มีเพียงแสงสว่างจากเชิงเทียนที่ส่องสะท้อนอยู่เบื้องหลัง อีกฝ่ายมองเห็นนางได้กระจะตาเขาทอดสายตามองสตรีบนพื้นพลางเหยียดยิ้มหยามหยัน"เจ้าหรือ สืออี้หนาน" เสียงทุ้มเอ่ยเย็นเยียบเสียงคุ้น ๆ ปวดหัวนักความทรงจ

  • หวนคืนอีกคราข้าไม่ขอเป็นคุณหนูผู้ถูกรังแก   บทที่ 4 โอกาสแสนบัดซบ (2/2)

    "คุณหนูและฮูหยินรองหายไปขอรับ" เสียงบ่าวในจวนเอ่ยหน้าตื่นสือจินรุ่ยโมโหจนถึงขีดสุด เขายกมือขึ้นคลึงหว่างคิ้วพลางหลับดวงตาพยายามระงับโทสะ สือเสี่ยวเย่เดินอาด ๆ เข้ามาด้านในก็ให้ต้องงุนงงกับความอลหม่านในจวน"ท่านพี่เกิดเรื่องใดหรือเจ้าคะ""มู่หรานและลี่ผิงหนีไปแล้ว""หนีไป!" เสียงแหลมแผดดังลั่นด้วยอาการตื่นตระหนกสือจินรุ่ยขมวดคิ้ว "เสียงดังหนวกหูนัก""แล้วจะทำอย่างไรเล่าเจ้าคะ" น้ำเสียงของนางร้อนรน แผนสำรองที่วางเอาไว้ต้องพังครืนไม่เป็นท่าอีกแล้วหรือ เหตุใดสือลี่ผิงจึงปีกกล้าขาแข็งได้เพียงนี้สือจินรุ่ยตวัดสายตามอง กล่าวลอดไรฟัน "เพราะเจ้าไม่ใช่หรือ อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ เจ้ากดขี่พวกนางเกินกว่าเหตุ""ท่านพี่ จะกล่าวหาเพียงข้าได้อย่างไรเจ้าคะ ท่านเองก็ไม่ต่างจากข้า""หุบปาก!" สือจินรุ่ยตวาดลั่นสือเสี่ยวเย่หน้าซีดเผือดสะดุ้งตัวโยน นางผินหน้าประกาศเสียงดังก้อง "แยกย้ายกันออกตามหาพวกนาง หากวันนี้ไม่พบก็อย่าได้เสนอหน้ากลับมา""ขอรับ/เจ้าค่ะ"บ่าวในจวนต่างแยกย้ายออกตามหาสือลี่ผิงให้จ้าละหวั่น กว่าที่นางจะหล

  • หวนคืนอีกคราข้าไม่ขอเป็นคุณหนูผู้ถูกรังแก   บทที่ 4 โอกาสแสนบัดซบ (1/2)

    สุดท้ายแล้วการรับอนุคนใหม่ของลู่เยี่ยนฮ่าวจึงเป็นคุณหนูรองของตระกูลสือ นามว่าสือลี่ผิง ทว่าสือลี่ผิงที่หมายถึงก็คือคุณหนูใหญ่ที่สลับตัวตนกับคุณหนูรอง ใต้เท้าลู่ต้องการนำตัวของนางกลับเดี๋ยวนั้นโดยไร้พิธีรีตองสืออี้หนานต้องการเปิดโปงสถานะของตนและสือลี่ผิง ทว่ากลับถูกบิดาปรามไว้ นางจึงยอมก้มหน้ารับชะตาด้วยความขมขื่น ท้ายที่สุดสืออี้หนานจึงลอบบอกความจริงให้ลู่เยี่ยนฮ่าวทราบ แต่เมื่อความจริงถูกเปิดเผยกลับเพิ่มความเดือดดาลให้อีกฝ่ายเป็นทบทวีคูณ ประดุจสาดน้ำร้อนลวกตนเอง"ท่านแม่...ฮรึก ฮือออ...ท่านแม่เจ้าคะ เหตุใดจำต้องเป็นข้า ไยท่านเคยบอกว่าจะส่งมันไป!" สืออี้หนานร้องไห้โยเย เอ่ยวาจาร้อนรนราวคนเสียสติสือเสี่ยวเย่กอดปลอบประโลมบุตรสาวของตนแนบอก นางเองก็จนใจช่วยเหลือ พลางกัดฟันกรอดด้วยความเคียดแค้น "อี้หนาน ไม่ต้องร้อง ถึงอย่างไรใต้เท้าลู่ก็ร่ำรวยเป็นอันดับหนึ่งแห่งหนานโจว ต่อให้เขามีอนุมากมายแล้วอย่างไร เจ้าก็เพียงปิดหูปิดตาอยู่ให้สุขสบายไปวัน ๆ ไม่ดีกว่าหรือ"สือเสี่ยวเย่ไม่อยากให้เรื่องเป็นเช่นนี้ ผู้ใดจะคาดคิดว่าสือลี่ผิงกล้าเล่นลูกไม

  • หวนคืนอีกคราข้าไม่ขอเป็นคุณหนูผู้ถูกรังแก   บทที่ 3 ข้างามเช่นนี้มาตั้งนานแล้ว

    สือลี่ผิงแสร้งตกใจ นางรีบยอบกายลงบนพื้น "ใต้เท้า ท่านโมโหสิ่งใดหรือเจ้าคะ หรือข้างามไม่ถูกใจท่าน" เสียงทุบโต๊ะดังขึ้นอีกหน ทุกคนต่างพร้อมใจกันสะดุ้งโหยง สือจินรุ่ยเร่งยืนขึ้น ตวัดสายตามองฮูหยินตน นางรีบหลุบดวงตาไม่กล้าสู้หน้าผู้เป็นสามี พลางค้อนควักให้กับสือลี่ผิง แต่ไหนเลยสือลี่ผิงจะคิดใส่ใจ อยากเดินหมากสลับตัวหรือ มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก "ตะ...ใต้เท้าลู่ ท่านใจเย็น ๆ ก่อน แท้จริงหน้าตาของอี้หนานไม่ใช่เช่นนี้ นางคงป่วย" สือจินรุ่ยเร่งแก้ตัว "ป่วยหรือ อัปลักษณ์เพียงนี้ แล้วภาพนี้เล่ามิใช่นางรึ!" ลู่เยี่ยนฮ่าวยกภาพวาดสาวงามขึ้น ทันทีที่สือเสี่ยวเย่เห็นภาพเบื้องหน้า ดวงตาพลันเบิกกว้าง นางยกมือทาบอกแทบเกิดลมจับหงายตึง นั่นคือภาพวาดของสืออี้หนานจริง ไยจึงไปอยู่กับใต้เท้าลู่ได้กัน หรือเมื่อครู่เป็นสิ่งที่สือลี่ผิงขว้างมันลงไป"ลี่ผิง!...เอ่อ...อี้หนาน ใบหน้าของเจ้าไยจึงบวมเจ่อปานนั้น" สือจินรุ่ยเอ่ยเสียงแข็ง สือลี่ผิงแหงนหน้าขึ้น สภาพใบหน้าของนางแทบดูไม่จืด ปากบวมแก้มปูดไปทุกสัดส่วน ยิ่งมองก็ยิ่งไม่น่าอภิรมย์ สือลี่ผิงขยับปากบวมเจ่ออู้อี้ "ท่านพ่อ หน้าตาของข้าก็เป็นเช่นนี้มานานแล้วนะเ

  • หวนคืนอีกคราข้าไม่ขอเป็นคุณหนูผู้ถูกรังแก   บทที่ 2 ข้าจะฝืนลิขิตสวรรค์ (2/2)

    ชายวัยกลางคนนั่งจิบน้ำชาสีหน้าคล้ายยิ้มแต่มิยิ้มอยู่ ณ จวนสกุลสือ ที่เขาเดินทางมาในวันนี้เพียงเพื่อต้องการพบหน้าคุณหนูใหญ่ของสือจินรุ่ย ซึ่งตนหมายทำการรับนางเข้าไปเป็นอนุคนที่สี่ของจวน ใครก็ว่าบุตรสาวคนโตของสกุลสือหน้าตางดงามสะสวย ทว่ากลับมิเคยมีผู้ใดเอ่ยถึงคุณหนูรองเลยสักครา วันนี้เขาอยากเห็นกับตานักว่าจะงดงามสมคำร่ำลือหรือไม่"บุตรสาวของท่านเล่า ใต้เท้าสือ" ลู่เยี่ยนฮ่าวยกถ้วยชาขึ้นพลางเป่าลมเย็นลงไปก่อนจิบราวไม่อนาทรร้อนใจเขารู้สึกอารมณ์สุนทรีย์นักที่ตนจะได้รับอนุรุ่นลูกเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของจวน นานมากแล้วที่ไม่ได้ลิ้มลองสตรีหน้าใหม่ ๆ แม้มีอนุมากมายทว่าเขารู้สึกเบื่อหน่ายบรรดาสตรีเหล่านั้นเสียแล้ว"ใต้เท้า ใจเย็น ๆ สิขอรับ ตอนนี้นางกำลังเตรียมตัวต้อนรับท่าน คงตื่นเต้นเลยช้าเพียงนี้" สือจินรุ่ยรู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก เขาปรายตามองฮูหยินของตน พลางเอ่ยเสียงเบาลอดไรฟัน "เมื่อใดนางจะโผล่หัวมา"สือเสี่ยวเย่ค้อนควัก "มันน่านัก เดี๋ยวข้าส่งคนไปตามเองเจ้าค่ะ""รีบไป!"สือเสี่ยวเย่กวักมือเรียกสาวรับใช้นางหนึ่ง พลางกระซิบกระซาบเสียงแผ่ว อีกฝ่ายพยักหน้าแล้วเร่งจากไปด้วยความร้อนรน"เอ

  • หวนคืนอีกคราข้าไม่ขอเป็นคุณหนูผู้ถูกรังแก   บทที่ 2 ข้าจะฝืนลิขิตสวรรค์ (1/2)

    สือลี่ผิงกวาดสายตามองสตรีร่างผอมโซซึ่งนอนอยู่บนเตียงกลางเก่ากลางใหม่ จิตใจของนางไหวระทึก เหมือนเหลือเกิน นี่คือท่านแม่ของนาง หน้าตาละม้ายกันถึงเพียงนี้ สือลี่ผิงจึงรับรู้ได้ในบัดดล ว่านางได้เข้ามายังร่างเดิมของตน ร่างที่ไม่รู้ว่าถือกำเนิดแต่ชาติปางไหน และนางต้องวนมาชดใช้กรรมใด ทว่าการได้มารดากลับมาอีกครั้งนับเป็นพรจากสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่เหนือคณนาแล้ว"ท่านแม่!" สือลี่ผิงถลันกายเข้าหาผู้เป็นมารดาด้วยใจคะนึงหานานมากแล้วที่แม่ของนางตายจากไปไม่อาจย้อนกลับ แม้แต่คำบอกลาก็ยังไม่ทันได้เอ่ย แค่ก แค่ก "ลี่ผิง ไยมอมแมมเช่นนี้เล่า แล้วเร่งร้อนเรื่องใด" ฝ่ามือสั่นระริกเอื้อมสัมผัสใบหน้าของบุตรสาวด้วยความทะนุถนอม พลางไอโขลกไม่หยุดหย่อน สื่อลี่ผิงส่ายหน้าเป็นพัลวัน นางจับมือของมารดาแนบไว้ข้างแก้มของตน หยาดน้ำสีใสเอ่อคลอ ภาพเบื้องหน้าเริ่มพร่าเบลอ "ท่านแม่ ข้าคิดถึงท่านเจ้าค่ะ" มู่หรานคลี่ยิ้มอบอุ่น ปลายนิ้วชี้ค่อย ๆ ปาดหยาดน้ำตาซึ่งหลั่งรินลงมาอาบพวงแก้มจนเปื้อนเขรอะ "เด็กดี ไม่ต้องร้อง ทำราวกับเราจากกันนานโข เจ้าถูกลงโทษให้อยู่ห้องเก็บฟืนทั้งคืน คงลำบากแย่แล้ว" "ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ เพียงข้ายังพ

  • หวนคืนอีกคราข้าไม่ขอเป็นคุณหนูผู้ถูกรังแก   บทที่ 1 คุณหนูผู้ถูกกระทำคนนั้นได้ตายไปแล้ว

    เสียงลมหายใจดังผะแผ่วท่ามกลางความเงียบสงัด นัยน์ตากลมโตปิดสนิทราวคนมืดบอด อีกไม่นานคงต้องบอกลาโลกใบนี้เสียแล้ว สตรีร่างบอบบางนอนทอดกายไร้เรี่ยวแรงอยู่ภายในโลงไม้แสนคับแคบ เหตุใดบรรยากาศแลดูวิเวกวังเวงนัก นางกำลังถูกฝังทั้งเป็น!หญิงสาวผู้หนึ่งถูกใส่ความว่านางคบชู้สู่ชาย ขณะที่บุรุษสามารถมีภรรยามากมายทว่าสตรีกลับไม่ได้รับความเป็นธรรม ซ้ำร้ายบุรุษที่นางต้องแต่งเข้ามายังแก่คราวพ่อ มักมากในกาม บิดาของนางไม่เคยไยดีต่อบุตรีเช่นนาง ทุกคนล้วนทราบดีว่านางเป็นคุณหนูรองที่บิดาไม่ได้ตั้งใจให้กำเนิด นางคือความผิดพลาดของตระกูล คือความอัปยศที่ไม่อาจกล่าวถึง ครั้นถึงคราต้องขายบุตรสาวเพื่อใช้หนี้ บิดาของนางจึงไม่ลังเลที่จะเลือกส่งนางออกไปเป็นอนุผู้อื่น อยู่จวนของตน ถูกพี่สาวต่างมารดารังแก ตบแต่งออกมาถูกอนุคนอื่น ๆ รุมกลั่นแกล้ง สวรรค์ช่างเลือดเย็นกับนางยิ่งนัก ชาตินี้ข้าไม่อาจมีชีวิตดังใจหวัง ชาติหน้าขออย่าให้ข้าต้องเกิดมาอ่อนแอเช่นนี้อีกเลย ..ซ่าาาาา....."ลากมันออกไป!" สตรีร่างบอบบางนอนขดกายอยู่บนพื้นเย็นเยียบ มีเพียงฟางแห้งที่ใช้ปูรองเอาไว้อย่างลวก ๆ นางค่อย ๆ ขยับเปลือกตาเนิบช้า เรือนกายสั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status