Share

5

Author: Sanassetong
last update Last Updated: 2025-03-03 00:18:55

"ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ใช้แผนการของข้าแต่อย่างใดท่านอย่าเข้าใจผิด ข้าแค่รู้บางสิ่งมาแต่มันก็สายไปเสียแล้ว คราวนี้ทำตามที่ข้าได้แจ้งท่านก็จะรอดแล้วปลอดภัย หากว่าท่านไม่ทำตามแล้ว ณืเวลานี้ท่านก็จะมีแต่เสียกับเสีย คนวางแผนนั้นต้องการให้ท่านทิ้งตำแหน่งองค์ชายรัชทายาทไป ข้าก็ต้องเสียกองกำลังรักษาการวังหลวงไป ข้าเองคิดว่าเรามาร่วมมือกันจะดีเสียกว่า"

องค์ชายรัชทายาทอ่านจดหมายที่ลายมือของนางนั่นช่างอ่อนช้อยและแข็งแกร่งไปในตัว

"ซูเสวี่ยเจ้าไปสืบประวัติของบุตรีของแม่ทัพหลิว หลิวเสียงเหย่ามาได้หรือไม่ หาทางลอบออกจากตำหนักไปยังทิศในวังไม่น่าจะมีผู้ใดเฝ้าอยู่"

องค์ชายรัชทายาทหนามกงฟู่บอกลูกน้องคนสนิทไปตามสืบ ไม่นานเขานั้นก็หายตัวไปทันที

"เราเคยเจอกันในค่ายทหารของท่านพ่อ ที่อยู่ในวังหลวงเมื่อสามปีก่อนท่านได้เข้ามาเยี่ยมเยียนภายในค่ายแห่งนี้ เราทั้งสองชอบพอกันแต่ท่านก็มีเหตุที่ต้องไปประจำตำแหน่งที่ค่ายด้านเหนือจึงทำให้เราไร้การติดต่อกัน"

รัชทายาทหนามกงฟู่อ่านมาถึงท่อนนี้ก็รู้สึกน้ำเน่าสิ้นดี เหตุใดเขาไม่เคยรู้สึกมาก่อนหรือว่าเมื่อสามปีที่แล้วเขาจะพบกับสตรีที่ค่ายองครักษ์แล้วชอบนาง

"แล้วค่ากับท่านก็มาพบกันในวันที่ท่านเข้าวังหลวงมาเราได้พูดคุยกันจึงทำให้นึกถึงความหลังแต่เราก็ต้องแยกย้ายกัน เมื่อถึงวันงานเทศกาลปีใหม่เราก็พบกันในงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เราทั้งสองนั้นได้พูดคุยและแรกของแทนใจกัน ข้าสาบานกับท่านถึงแม้ตอนนี้เหมือนว่าข้ากับองค์ชายสามจะชอบพอกัน แต่ข้าก็ขอเป็นของท่านและต่อไปนี้ข้าก็จะไม่แต่งงานกับผู้ใด ขอให้ครั้งนี้ของพวกเรา เป็นครั้งเดียวตลอดไป ข้าได้ให้สัญญากับเจ้าไว้เยี่ยงนี้"

องค์ชายรัชทายาทหนามกงฟู๋อ่านจดหมาย ก็เกิดสงสัยอยู่หลายจุดแม่นางคนนี้ต้องการให้เขาช่วย และตัวนางก็ช่วยเขานั้น นางรู้แล้วหรือว่าใครกันที่ต้องการที่จะทำร้ายชื่อเสียงของเขา แต่เขาเองก็ไม่สนใจตำแหน่งองค์ชายรัชทายาทอยู่แล้ว แต่ทำไมบุตรของแม่ทัพหลิวจะสูญเสียกองกำลังได้อย่างไรกัน เขาได้แต่อ่านทวนไปทวนมาแล้วก็ขบคิด พูดตามตรงเรื่องที่อยู่ในวังแห่งนี้เขารู้จักมันน้อยมาก แต่หากเรื่องที่อยู่ในสนามรบเขาย่อมไม่แพ้ใครทั้งสิ้น ไม่นานซูเสวี่ยก็กลับมา

"องค์ชายรัชทายกขอรับแม่นางผู้นี้คือบุตรีของท่านแม่ทัพหลิว คนที่ข้าไปสอบถามมาบอกอีกว่าเขาได้ชอบพอกับองค์ชายสามนางกงเฉียว แต่เมื่อคืนเหมือนมีเหตุอะไรสักอย่างเกิดขึ้นทำให้นางได้กับจวนตอนรุ่งเช้า แต่ข่าวนั้นก็ยังไม่ได้ชัดว่าเป็นสิ่งใด แต่ก่อนนางชอบไปยังค่ายฝึกทหารของแม่ทัพหลิวอยู่บ่อยๆ แต่หลังจากคบหากับองค์ชายสามราวๆกกเดือนที่ผ่านมานางก็ไม่ได้ไปที่ค่ายอีกขอรับ "

ซูเสวี่ยกล่าวขึ้น จึงทำให้หนามกงฝู่รู้สึกแปลก ในเมื่อสตรีผู้นี้รักอยู่กับน้องสาม แล้วทำไมถึงเป็นเยี่ยงนี้ ใครกันที่อยู่เบื้องลึกเบื้องหลังของเรื่องเมื่อคืน เขาคิดว่าสตรีผู้นี้น่าจะรู้ดี ถึงเป็นแบบนี้หรือไม่ก็ตัวสตรีผู้นี้เองซึ่งเขาไม่แน่ใจว่าเพราะเหตุใด แต่เขาก็ยังไม่ปักใจเชื่อในจดหมายที่สตรีผู้นี้เขียนมา แต่ถามว่าเขาจะลองทำตามไหม แน่นอนเพราะเขาก็ได้แต่งงานแล้ว ถ้าหากเขาไม่ทำตามน้ำไปก่อน เขาต้องมีปัญหากับแม่ทัพหลิวและทำให้เขาหลุดจากตำแหน่งองค์ชายรัชชายาท ถึงแม้ว่าเขาไม่ต้องการ แต่เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วมันต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรสักอย่าง เอาไว้ได้โอกาสที่เหมาะสมแล้วเขาต้องไปถามสตรีผู้นั้นอีกแน่นอน ทางด้านหลิวเสียงเหย่าไม่นานก็ถูกฮ่องเต้เรียกตัวเข้าพบ นางเข้าเฝ้าฮ่องเต้และมองหน้าฮ่องเต้แล้วทำให้น้ำตาออกมาคลอที่มวยตาทำให้ดูน่าสงสาร

"ถวายบังโคมเพคะฝ่าบาท หม่อมฉันผิดเองเจ้าคะ ที่มิห้ามใจตัวเองได้ ไม่ใช่ว่าหม่อมฉันจะไม่รักนวนสงวนตัวแต่หม่อมฉันเป็นลูกของทหารทำอะไรหม่อมฉันก็จะตัดสินใจอย่างเด็ดขาด หม่อมฉันคิดว่าหม่อมฉันทำถูกและตอนนี้ในทางกลับกัน องค์ชายรัชทายาทเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ แต่หม่อมฉันก็ไม่ได้ต้องการที่จะเรียกร้องสิ่งใด เพียงแค่ผ่านเรื่องเมื่อคืนแล้วเราสองคนก็คิดที่จะจบความสัมพันธ์ เพราะยังไงองค์ชายรัชทายาทก็กล่าวอยู่แล้วว่าเขาต้องการที่จะกลับไปยังค่ายทิศเหนือ ข้าจึงตั้งปณิธานว่าจะไม่ออกเรือนกับผู้ใดเจ้าค่ะ"

หลิวเสียงเหย่าขึ้น เขาไม่รู้ว่าถ้าออกมาพูดแบบนี้แล้วเรื่องจะเป็นอย่างไร แต่ขออย่างเดียวคือเขาไม่ต้องการที่จะเป็นอนุขององค์ชายสามเพียงเท่านั้น บุรุษที่นางเกลียดสุดในหัวใจเนื่องจากได้ทำลายชีวิตนาง แม้แต่หน้าตอนนี้นางก็ไม่อยากจะมองบุรุษผู้นั้นเลย

"จะเป็นไปได้อย่างไร ข้าให้คนไปเรียกเจ้าองค์ชายรัชทายาทแล้ว ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าเสียชื่อเสียงหรอก เจ้าเป็นถึงบุตรตรีของแม่ทัพหลิว ยังไงข้าก็ต้องให้ความเป็นธรรมแก่เขา"

ฮ่องเต้กล่าวขึ้นไม่นานองค์ชายรัชทายาทก็ถูกเรียกเข้าพบ เขาเดินมาในตำหนักหลักโดยข้างหลังมีลูกน้องคนสนิทเพียงคนเดียว แม่ทัพหลิวเองที่เห็นองค์ชายรัชทายาทเป็นครั้งที่สองแล้ว แต่ครั้งก่อนกับตอนนี้ช่างแตกต่างกันยิ่งนัก ครั้งก่อนเหมือนว่าเขายังไม่มีสติมากพอ ใบหน้าก็ดูอ่อนล้ากว่านี้ แต่ตอนนี้เดินมาด้วยท่าทีแข็งแกร่งเหมาะที่จะดูแลบุตรสาวของตนอย่างมาก หลิวเสียงเหย่าคำนับองค์ชายรัชทายาทเล็กน้อย

"เจ้าฟู่บิดาของเจ้าและบิดาของแม่นางหลิวรับดูแล้วว่าพวกเจ้าชอบพอกัน ครั้งนี้จะไม่มีใครมาขัดขวางเรื่องที่พวกเจ้าชอบพอกันได้ ฮองเฮาจะไม่สามารถยื่นมือเข้ามาก้าวก่ายได้อีกแล้วเราขอประทานพระราชสมรสให้กับเจ้าทั้งสอง"

ฮ่องเต้กล่าวขึ้น หนามกงฟู่เองไม่ได้มีท่าทีดีใจและเสียใจแม้แต่น้อย หลิวเสียงเหย่าเองก็ถือว่าทำเรื่องเกินคาดไว้มาก เพราะในอดีตบุรุษผู้นี้ก็รักนางและบุตรชายมาก นางไม่แสดงสีหน้าใดๆทั้งสิ้น ทำให้ฮ่องเต้ที่ตรัสออกมาถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว

"น้อมรับบรรชาพะยะค่ะ/น้อมรับบรรชาเพคะ"

ทั้งสองคนกล่าวขึ้น

"หากไม่มีเรื่องสิ่งใดแล้วลูกขอตัวพะยะค่ะ"

องค์ชายรัชทายาทหนามกงฟู่แค่รับรู้และก็ขอตัวกลับตำหนัก ผู้ที่ตกใจคือลูกน้องคนสนิทขององค์ชายรัชทายาทต่างหากเพราะที่สืบมาสตรีผู้นี้เป็นคนรักขององค์ชายสาม ไม่ใช่หรือ

"องค์ชายรัชทายาทคงจะไม่พอใจในตัวหม่อมฉันเพคะเพราะที่เราคุยกันแล้ว องค์ชายรัชทายาทก็ต้องจากไปทำศึกทางค่ายทิศเหนือ จึงยังไม่อยากที่จะสมรสกับกระหม่อม กระหม่อมเข้าใจเขาดีเพคะ"

หลิวเสียงเหย่ากล่าวขึ้น

"ไม่ได้หรอกยังไงข้าก็ต้องการให้องค์ชายรัชทายาทนั้นกลับมาประจำที่วังแล้ว ในการที่สมรสกับเจ้ามีข้อดีเช่นกันเขาจะได้อยู่ในวังไม่ไปไหนแล้ว"

ฮ่องเต้กล่าวขึ้น

"ไม่ได้นะเพคะฮ่องเต้หม่อมฉันคิดว่า หม่อมฉันต้องการที่จะให้เสด็จพี่นั้นไปออกรบอยู่ เนื่องจากเขาชอบกระทำสิ่งนั้น หม่อมฉันรักในตัวเขาและอยากให้เขามีความสุขที่สุดที่จะทำได้เพคะ และอีกอย่างจะได้เป็นขวัญและกำลังใจของแม่ทัพต่างๆส่วนเรื่องสมรสนั้นเมื่อมันจะเป็นการฉุดรั้งเขาไว้มองฉันก็จะไม่ยินยอมสมรสเพคะ"

หลิวเสียงเหย่ารีบกล่าวเพาะเขารู้ดีว่าหากครั้งนี้องค์ชายรัชทายาทไม่ออกไปรบด้วยตัวเอง ก็จะถูกตีค่ายจนแตด ไม่แน่ว่าเมืองหลวงอาจแตกด้วยก็ได้ เมื่อนางแค่ต้องการเปลี่ยนชีวิตตัวเองใหม่ แต่ไม่ต้องการเปลี่ยนบทบาทของเขาให้มากนัก ให้เขาป้องกันบ้านเมื่อ ชาติที่แล้วเขาเอาชนะข้าศึกกลับมาทันนางคลอดบุตรพอดี ครั้งนั้นเขาทำชื่อเสียงจึงได้ถูกอภัยโทษและถูกสอบตะแหน่งให้เป็นอ๋อง แต่ตอนนั้นนางก็ได้เป็นอนุขององค์ชายสามแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Korakot Bumrungsawat
เนื้อเรื่อง เค้าโครงเรื่องดีมาก สนุก แต่มาเสียอรรถรสกับการเขียนผิด ไวยากรณ์ผิดเยอะมาก ถ้าแก้ไข ตรวจทานเนื้อหาก่อนเผยแพร่จะดีมากๆ เขียนเก่งอยู่แล้ว เป็นกำลังใจให้นะคะ
goodnovel comment avatar
Siri Supa
แก้คำผิดด้วยค่ะ เช่นค่ายถูกตีจนแตกไม่ใช่ "แตด"
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   63

    ทางด้านนักพรตที่เป็นอาจารย์ของหลู่ชิงเหยาเมื่อออกจากเมืองหลวงไปก็ไปยังทิศทางใต้ เวลาผ่านไปหลายเดือนลางสังหรของเขานั้นก็ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เขาอาจวิตกมากเกินไป หรือว่าการเปลี่ยนที่อยู่แล้วจะทำให้เคราะห์นั้นหายไป เขาไม่กล้าดูอนาคตให้ตัวเองอีกแล้ว จึงได้แต่ใช้ชีวิตตามปกติ เขาตั้งสำนักดูดวงให้ชาวบ้านด่านใต้ ไม่นานก็มีคนมาขอให้สถานการณ์สงครามเพราะชาวบ้านได้ข่าวหนาหูเรื่องสงคราม เขาจึงทำการดูอนาคตให้ก็พบว่า ฮ่องเต้คนใหม่กำลังปรากฏแล้ว ในไม่ช้าจะเปลี่ยนผู้นำแคว้นคนใหม่ ซึ่งการเปลี่ยนผู้นำคนใหม่ที่มาพร้อมกับสงครามจึงทำให้เขาคบคิดขึ้นได้ว่าสงครามของแคว้นตงจะพ่ายแพ้ เขาดูอนาคตพรางพูดไปเช่นนั้น จึงทำให้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณด้านใต้นั้นรู้สึกวิตกกังวลมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม เพราะพวกเขารู้ว่าสถานการณ์ตึงเครียดมานานแล้ว เมื่อท่านนักพรตคิดแผนที่พวกเขาวางไว้อาจสำเร็จเขาก็รู้สึกเสียดายไม่น้อยที่ทำให้ คุณหนูหลู่นั้นตัดขาดกับองค์ชายสามหนามกงเฉียว เมื่อเขากลับมายังที่พักแล้วเขาจึงคิดขึ้นได้ว่าควรจะดูอนาคตให้กับองค์ชายรัชทายาทว่าตอนที่เขาหมดหน้าที่ และหมดผลประโยชน์แล้วเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป คลั้นมาดูอนาคตให้องค์

  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   62

    หลิวเสียงเหย่าลูบหน้าท้องของตัวเองเบาๆวันนี้ทางตระกูลจะมารับนางแล้วนางออกมาจากเรือนและเดินดูต้นไม้รอบๆ ใบไม้ยังคงปลิวตามเดิมของมันและลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ก็ยังมากวาดใบไม้อยู่เช่นเดิมแต่วันนี้เป็นสตรีที่คอยดูแลนางอยู่ประจำ หลิวเสียงเหย่าและบ่าวรับใช้ยืนมองไปที่นาง"วันนี้พวกท่านก็จะกลับบ้านกันแล้ว ข้ายินดีอย่างยิ่งที่ได้ดูแลท่านเป็นเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา หากมีโอกาสข้าจะไปหาท่านในพระราชวังนะ"เสียงลูกศิษย์สตรีดังขึ้น"ข้าต้องขอขอบคุณเจ้ามาก เรื่องที่ผ่านมาเจ้าดูแลข้าเป็นอย่างดี หากข้ากลับเข้าวังแล้ว เจ้ามีความประสงค์สิ่งใดก็เข้าไปหาข้าได้ทุกเมื่อ พวกเจ้าและท่านอาจารย์ของพวกเจ้ามีบุญคุณต่อข้ามาก ชีวิตนี้ข้าก็อยากจะทดแทน"หลิวเสียงเหย่ากล่าวขึ้น"พระชายาเจ่าคะ พระองค์ไม่คิดแบบนี้สิเพคะ ชีวิตของพระองค์กับองค์ชายน้อยมีค่ามากนะเจ้าคะ"บ่าวรับใช้กล่าวกับหลิวเสียงเหย่า"ชีวิตทุกคนมีค่าเท่ากันนั่นแหละเจ้าอย่าพูดเรื่องนี้ ทุกคนให้ความสำคัญกับข้ามากเช่นไร บุญคุณย่อมมากเท่านั้น "หลิวเสียงเหย่ากล่าวกับบ่าวรับใช้ ไม่นานก็ได้ยินเสียงคนจากภายนอกนั้นเดินทางเข้ามา บ่าวที่ดูแลหลิวเสียงเหย่าก็เตรียมตัว

  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   61

    ทางด้านหลู่ชิงเหยาเมื่อนางรู้แล้วว่านักพรตอยู่ที่ใดนางก็เตรียมตังเดินทางไปพบท่านนักพรตทันที่ นางนำของที่ท่านอาจารย์ของนางเคยมอบให้ไปด้วยเพราะนางคิดว่าถ้าหากท่านนักพรตผู้นี้เห็นของที่ท่านอาจารย์ของนางมอบให้แล้วจะให้นางเข้าพบได้ง่าย เพราะนางคิดว่าท่านอาจารย์ของนางมันเก่งกว่าผู้ใดอยู่แล้วหากท่านนักพรตผู้นี้เป็นลูกศิษย์อาจารย์ก็จะไว้หน้าอาจารย์ของนางและให้ความสำคัญกับนางเช่นกัน ครั้นนางเดินทางมายังกลางป่าที่นักพรตผู้นั้นอยู่ก็พบกับลูกศิษย์ของอาจารย์ที่เป็นบุรุษกำลังกวาดใบไม่ออกจากลานหน้าเรือนที่พวกเขาอาศัย ซึ่งมองแล้วมันไม่จำเป็นต้องกวาดเลยเพราะตอนนี้อยู่ในช่วงใบไม้ผลิซึ่งใบไม้ก็จะปลิวลงมาทั้งวันอยู่แล้ว สายลมที่พัดเข้ามาทำให้ใบไม้ปลิวและตกมายังที่ที่เขากวาดอยู่แบบนั้น เขานั้นก็วันกวาดไปซ้ำๆมองดูแล้วน่าขบขันยิ่งนัก เมื่อหลู่ชิงเหยามาถึงก็ขอพบท่านอาจารย์ทันที ลูกศิษย์ผู้ที่กวาดใบไม้อยู่จึงวางไม้กวาดและเดินเข้าไปยังข้างในเพื่อสอบถามท่านอาจารย์ว่ามีสติผู้หนึ่งมาหา ทจะให้นางพบหรือไม่ ท่านอาจารย์ผู้นี้ไม่ชอบที่จะพบกับผู้คนอยู่แล้วจึงปฏิเสธไป นางรู้อยู่แล้วว่าคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นนักพรตก็จะปร

  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   60

    หลู่ชิงเหยาไม่ได้ออกไปไหนราวราวหนึ่งสัปดาห์มารดาให้คนมาส่งข้าวส่งน้ำอยู่ประจำเพราะว่านางไม่ต้องการให้มารดาเข้ามาในห้องมารดาจึงต้องไปอยู่อีกห้อง นางครุ่นคิดตลอดเวลาว่านางจะทำสิ่งใดดี ผู้เป็นมารดานั้นก็พลอยกินไม่ได้นอนไม่หลับไปกับนาง"อาอิ๋งเจ้าดูแลตัวเองให้ดีเถอะกินข้าวกินน้ำบ้างบุตรของเจ้าไม่เป็นอะไรหรอกดูสิอาหารเข้าไปหมดทุกรอบ นางเป็นคนรักตัวเองขนาดนั้น นางไม่คิดทำร้ายตัวเองหรอก เจ้ายังมิรู้จักบุตรของตัวเองเลยหรือ เขามีนิสัยรักตัวเองดังกับพ่อของเขานั้นแหละ"ฮูหยินโหว่กล่าวขึ้นจึงทำให้บุตรสาวคิดได้ ขนาดเห็นบุตรสาวตัวเองเป็นทุกข์นางยังเป็นทุกข์ขนาดนี้ แล้วท่านแม่ที่เห็นนางล่ะจะเป็นทุกข์ขนาดใด นางจึงไปนั่งทานข้าวกับท่านแม่ทั้งสองคนพูดคุยกันทำให้อดีตฮูหยินหลู่รู้สึกดีขึ้นบ้าง ครั้นเห็นชามอาหารที่ออกมาจากห้องบุตรสาวก็เป็นดังที่แม่พูดไว้ไม่มีผิด นางกินเกลี้ยงตลอดเพราะพ่อครัวที่จวนนี้ทำอาหารอร่อยจริงๆไม่ว่าจะเป็นอาหารหวานหรืออาหารคาวเขาก็ทำได้ถึง ไม่นานก็มีคนมาขอเข้าภพหลู่ชิงเหยา"ใครกันหรือที่มาขอเข้าพบคุณหนูหลู่"ฮูหยินโหว่ถามขึ้น"เป็นบุรุษผู้หนึ่งขอรับเขาบอกว่า เขาไปทำงานให้คุณหนูหลู่คล

  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   59

    "ท่านลุงเจ้าคะท่านเป็นเสนาบดีในวังน่าจะรู้เรื่องของข้ากับองค์ชายรัชทายาทหนามกงฟู่แล้ว"หลู่ชิงเหย่ากล่าวขึ้นยังไม่ทันจบดี"ชิงเหยาเจ้าอย่าได้กล่าวเรื่องนี้อีกเลยเจ้าเป็นคนบอกแม่เองไม่ใช่หรือว่าถ้าหากบุรุษไม่ใส่ใจไม่สนใจเราเราก็ไม่ต้องไปสนใจเขา เจ้าก็รู้ทั้งรู้ว่าองค์ชายรัชทายาทหนามกงฟู่นั้นรักอยู่กับพระชายาหลิวเสียงเหย่าปานใด"มารดาของหลู่ชิงเหยากล่าวขึ้น"ท่านแม่ ท่านก็รู้นิเจ้าคะตอนที่องค์ชายรัชทายาทจะไปรบนั้นก็ได้นัดลูกไปพบคุยกัน ท่านแม่ไม่เห็นหรือเจ้าคะว่าเขาก็สนใจในตัวลูกแต่เป็นสหายของลูกหลิวเสียงเหย่าที่ทำให้ตัวเองเกิดเรื่องในวันปีใหม่ นั้นจึงทำให้องค์ชายรัชทายาทต้องรับผิดชอบนาง ตอนนี้ก็เป็นเวรกรรมของนางแล้วที่นางนั้นหายตัวไปและตอนนี้ตำแหน่งพระชายานั้นก็ยังว่างอยู่ สู้ให้ท่านลุงไปกล่าวกับฮ่องเต้เพื่อที่จะประทานสมรสให้ลูกกับองค์ชายรัชทายาทไม่ดีหรือเจ้าคะ หากลูกได้แต่งกับองค์ชายรัชทายาทในนามของคุณหนูตระกูลโหว่แล้ว ก็จะทำให้ชื่อเสียงตระกูลโหว่ดีขึ้นนะเจ้าคะ"หลู่ชิงเหยากล่าวความคิดออกไปให้ผู้ใหญ่ในศาลาเล็กแห่งนี้รับรู้ เดิมทีนางต้องการที่จะคุยกับท่านลุงเพียงลำพังแต่เมื่อพวกเขาทานอ

  • หวนคืนอีกคราชะตานี้ข้าลิขิตเอง   58

    ท่านแม่ทัพหลิวมองดูภรรยาที่อยู่เบื้องหน้า ของเขา นางได้ตายไปนานแล้วสตรีผู้นี้คือไส้ศึกของแคว้นอี้ "นางคงมีข้อเสนอดีๆให้เจ้าสินะ ไม่ใช่ว่าเรื่องที่เจ้าเป็นคนของแคว้นอี้นั้นนางก็รู้เรื่องด้วยใช่หรือไม่ ถึงอยากต้องการที่จะมาคุยกับเจ้าเป็นการส่วนตัวถึงรอข้าไม่ได้ขนาดนั้น"แม่ทัพหลิวถามขึ้น"ท่านเองก็รู้แล้วนี่แล้วทำไมท่านถึงไม่จัดการกับข้าเสียทีละ ข้าอยู่แบบนี้หากองค์ชายรัชทายาทนั้นรบชนะกับมา คนที่วางแผนเรื่องนี้คงไม่ปล่อยข้าไว้เขาคงจะลากตัวทุกคนในจวนหลิวของท่านลงไปด้วย"สตรีที่อยู่ในคราบภรรยาของแม่ทัพหลิวกล่าวขึ้น หากต้นปีนั้นแม่แท้ๆของภรรยาเขาไม่ตาย เขาก็คงไม่รู้ว่าสตรีผู้นี้ไม่ใช่ภรรยาของเขาแล้ว คนที่สวมรอยเป็นภรรยาของเขานั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบุคคลนั้นคือแม่ที่แท้จริง ในช่วงต้นปีนั้นเกิดเรื่องกับเสียงเหย่าตัวเขาไม่ได้เข้าไปกราบลาท่านแม่ยาย พอกลับมาที่จวนก็พบกับผู้เป็นภรรยาเดิมทีคิดว่าเขาไม่รู้ว่ามารดาของเขาสิ้นแล้ว แม่ทัพหลิวจึงแจ้งภรรยาไปว่าฮูหยินสุ่ยสิ้นแล้วเจ้ารู้หรือไม่ เป็นนางที่ตอบกลับมาว่าข้าไม่รู้ แต่ถึงแม้ฮูหยินสุ่ยจะสิ้นแล้วแต่ตอนนี้บุตรสาวของเราอยู่ในช่วงที่สำคัญนะเจ้าคะ ท่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status