LOGINเมื่อแผนของฮองเฮาและองค์ชายสามนั้นจบลง เนื่องจากว่าเป็นการยอมความของแม่ทัพหลิวก็ทำให้ฮองเฮาไม่พอใจเป็นอย่างมากเขาจึงไปกราบทูลกับฮ่องเต้เรื่องนี้
"เสด็จพี่เพคะทำไมบุตรีแม่ทัพหลิวถึงต้องอภิเษกกับองค์ชายรัชทายาททั้งๆที่ท่านก็รู้อยู่แล้วว่าองค์ชายสามกับนางรักใครกัน" ฮองเฮากล่าวขึ้นเหมือนไม่รู้ว่าสิ่งใดเกิดขึ้นกับหลิวเสียงเหย่า คำพูดของนางทำราวกลับว่าองค์ชายรัชทายาทนั้นแย่งคนรักขององค์ชายสามอย่างใดอย่างนั้น "ฮองเฮาเจาก็จงปล่อยวางเสียเถอะ เรื่องของคนรุ่นหลังเจ้าก็ถือว่ามารดาของแผ่นดิน เป็นมารดาขององค์ชายรัชทายาท เจ้าต้องรักบุตรที่เท่ากัน ฟู่เออร์กับบุตรีแม่ทัพหลิวชอบพอกันก็ให้เขาแต่งกันเถอะ" ฮ่องเต้กล่าวขึ้น "รักกันหรือเพคะเสด็จพี่ หม่อมฉันเห็นแต่เฉียวเออร์ที่รักกับแม่นางหลิวผู้นั้นแต่ทำไมถึงเป็นองค์ชายรัชทายาทไปได้เพคะ หรือเป็นเพราะว่าตำแหน่งของเขาถึงจะแย่งคนรักของบุตรชายของหม่อมฉันก็ได้หรือเพคะ" ฮองเฮากล่าวขึ้นและเดินจากไปทันทีโดยไม่ฟังว่าฮ่องเต้จะกล่าวยังไงอีก เขารีบไปคุยกับบุตรชายของเขาว่าห้องเต้กล่าวมาแบบนี้ องค์ชายสามจึงไปขอพบกับหลิวเสียงเหย่า ในที่สุดก็ได้เข้าไปพบแต่ครั้งนี้นางไม่ได้อยู่เพียงลำพังกับองค์ชายสามนางให้บ่าวรับใช้อยู่ข้างๆด้วย "ฮ่องเต้ทรงตรัสว่าเจ้ากับเจ้าฟู่นั้นรักใครกันหรือ แล้วเจ้าจะเอาข้าไปไว้ที่ใดกัน" องค์ชายสามกล่าวขึ้นทันที "องค์สายสาม เพคะท่านกับซิวเหยารู้ดีว่าหม่อมฉันกับองค์ชายรัชทายาทได้ร่วมหลับนอนด้วยกันแล้วเ รื่องมันจบแบบนี้มันก็ยุติธรรมกับหม่อมฉันเพราะองค์ชายรัชทายาททำให้มองฉันมีมลทินดังนั้นเขาต้องรับผิดชอบหม่อมฉันเพคะ" หลิวเสียงเหย่ากล่าวขึ้น "แต่ข้าก็พูดกับเจ้าแล้วข้ารักเจ้าเรื่องแบบนี้ข้าจะคิดว่ามันไม่เกิดขึ้นกับเจ้าข้ายังอยากแต่งงานกับเจ้าอยู่" องค์ชายสามกล่าวขึ้น "องค์ชายสามคิดว่าเรื่องของหม่อมฉันไม่มีผู้ใดรู้หรือเจ้าคะ เรื่องที่สตรีผ่านมือชายแล้วจะได้เป็นฮูหยินของผู้อื่นได้อีกหรือเพคะนอกเสียจากผู้ที่สร้ามนทิน ฮองเฮาเขาก็น่าจะรู้เรื่องนี้แล้วเขาคงไม่มีทางให้หม่อมฉันเป็นชายาเอกขององค์ชายสามเป็นแน่ ถึงแม้ครอบครัวของบอมฉันยอมได้แต่หม่อมฉันคิดว่าให้ผู้ที่กระทำย่ำยีกับหม่อมฉันรับผิดชอบเรื่องนี้มันเหมาะสมที่สุด ในเมื่อเรื่องที่เกิดมาขึ้นนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับองค์ชามสามเลยแม้แต่น้อยแล้วจะให้หม่อมฉันรับองค์ชายสามเข้ามาเกี่ยวข้องได้อย่างไรเจ้าคะ คนที่รักกันเขาไม่จำเป็นต้องลากอีกผู้หนึ่งลงมาให้ต่ำกับตัวเองหรอกเจ้าค่ะ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้หม่อมฉันยอมให้เป็นเรื่องของเวรกรรมที่เขาทำไว้กับหม่อมฉัน หม่อมฉันก็จะเข้าไปเสวยสุขอยู่ในวังในตำแหน่งของชายาองค์ชายรัชทายาทให้เขาหนักใจจนทนอยู่ไม่ได้เลยเจ้าค่ะ" หลิวเสียงเหย่าพูดราวกับว่าตนแค้นองค์ชายรัชทายาทหนักหนาแต่ความจริงแล้วเขาแค้นองค์ชายสามมากกว่า "เจ้าก็รู้ว่าหนามกงฟู่มันป่าเถื่อนขนาดไหน แล้วอีกอย่างมันเป็นหัวหน้าแม่ทัพสนามรบมันไม่ลากเจ้าออกไปสนามรบด้วยหรอกหรือ" องค์ชายสามกล่าวขึ้น "เรื่องนี้ไม่มีทางแน่นอนเพคะ หม่อมฉันต้องการอย่างไรหม่อมฉันก็จะทำแบบนั้น หม่อมฉันไม่ยอมติดตามเขาไปลำบากที่ชายแดนหรอกเจ้าค่ะ เรื่องนี้ให้มันจบแค่นี้นะเจ้าคะเราไม่จำเป็นต้องกล่าวสิ่งใดกันอีกแล้ว" หลิวเสียงเหย่ากล่าวขึ้น "เราไม่ยอมหรอกเจ้ากับองค์ชายรัชทายาทได้สมรสกันแล้วเราล่ะจะอยู่ได้อย่างไร เราจะให้เสด็จพ่อจัดการให้" องค์ชายสามกล่าวแล้วลุกขึ้นเดินจากไป และไปทูลกับฮ่องเต้เพื่อที่จะเรียกตัวองค์ชายรัชทายาทและหลิวเสียงเหย่าเข้ามาคุยพร้อมกับฮองเฮาด้วย เขาไม่ยอมให้เรื่องจบง่ายๆแบบนี้ เขาเสียผลประโยชน์ไปแบบเปล่าๆ เขาวางแผนมาโดยตลอดเพื่อที่จะองชายรัชทายาทสาระตำแหน่ง และเขาจะได้กองทัพรักษาการทหารในวังด้วย แต่แล้วเหมือนจะเสียให้องค์ชายรัชทายาททั้งหมด เขาจึงต้องให้มารดาเป็นคนพูดให้เสียแล้ว "เจ้าฟู่เจ้าเป็นถึงองค์ชายรัชทายาทยังมาแย่งคนรักของข้าไปอีกเรื่องนี้ข้าไม่ปล่อยไปง่ายๆแน่ เสียงเหย้าเจ้าสตรีผู้หนึ่งเมื่อก่อนรักกับข้าอยู่ดีๆ แต่พอได้ร่วมหลับนอนกับผู้เป็นองค์ชายรัชทายาทแล้ว เจ้ากับคิดที่จะรั้งตำแหน่งชายาองค์ชายรัชทายาทเยี่ยงนี้ ท่านพ่อยังจะให้นางอภิเษกกับเจ้าฟูอีกหรือขอรับ สตรีที่ไม่แน่ไม่นอน จิตใจรวนเร หวังเพียงตำแหน่งชายาอย่างเดียว นางไปได้ดิบได้ดี แล้วข้าล่ะนางทิ้งข้าไว้เบื้องหลังขนาดนี้" องค์ชายสามกล่าวขึ้น เมื่อทุกอย่างไม่เป็นตามแผนแล้วเขาจึงขัดขวาง เมื่อเขาไม่ได้เขาก็จ้องที่จะทำลาย "เจ้าเฉียวเจ้าก็ต้องยอมรับในเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว หากแม่นางหลิวนั้นจะต้องตกแต่งกับเจ้า เกรงว่านางจะเป็นได้เพียงอนุเท่านั้น แต่เมื่อเขาต้องการที่จะตกแต่งกับองค์ชายรัชทายาทรับรองเขาได้เป็นชายา เป็นใครเขาก็ต้องเลือกเป็นชายาขององค์ชายรัชทายาทอยู่แล้ว เพราะว่าลูกแม่มันต่ำต้อยเป็นเพียงองค์ชายสาม นางจึงเลือกองค์ชายรัชทายาทไง ถึงเจ้าไม่เหลือใครแต่แม่ยังอยู่ตรงนี้จะอยู่ข้างๆกับเจ้า" ฮองเฮากล่าวด้วยคำพูดที่ถากถางอยู่ในถ้อยคำ "หม่อมฉันเกรงว่าฮ่องเฮาอาจยังไม่รู้เพคะว่าองค์ชายสามนั้นชอบพออยู่กับหลู่ชิงเหยา บุตรีของท่านอัครฝ่ายซ้ายเจ้าค่ะซึ่งนางเป็นสหายของข้าเอง องค์ชายสามไม่มีทางที่จะอยู่ผู้เดียวแบบเดียวดายหรอกเจ้าค่ะ" หลิวเสียงเหย่ากล่าวขึ้น "ไม่จริงหรอกแม่นางหลิวบุตรชายของข้ารักมั่นอยู่กับเจ้าจะให้ไปมีใจให้หญิงอื่นได้อย่างไร บุตรชายของข้าไม่ได้เป็นผู้ชายที่หลงใหลในกามเช่นเดียวกับเจ้าเสียเมื่อไหร่" ฮองเฮากล่าวขึ้น "ฮองเฮาท่านจะเรียกแม่นางหลู่มาพูดคุยก็ได้นะเจ้าคะ หรือท่านจะเรียกบริเออร์ที่โรงเตี๊ยมที่ใหญ่ที่สุดในวังหลวงมาก็ได้เจ้าค่ะ พวกเขาต่างรู้ดี ว่าหากองค์ชายสามกับแม่นางหลู่เวลาขึ้นโรงเตี๊ยมทีไรต้องไล่แขกไล่เรือนออกจากโรงเตรี๊ยมนั้นให้หมด" หลิวเสียงเหย่ากล่าวขึ้น "พอได้แล้วเอาเป็นว่าเรื่องนี้ให้มันจบ เจ้าองค์ชายทายาทต้องแต่งกับแม่นางหลิวผู้นี้ ส่วนเจ้าเฉียวให้เรื่องนี้มันจบลง เพราะสำหรับเจ้าเจ้าก็ไม่ได้มีแม่นางหลิวเพียงผู้เดียว อย่าให้พ่อได้พูดขึ้นเยอะเลยจะอับอายผู้อื่นเขาให้มันจบเพียงเท่านี้เถอะ" ฮ่องเต้กล่าวขึ้น ทุกคนก็แยกย้ายด้วยความไม่พอใจองค์ชายรัชทายาทเข้ามารับฟังเรื่องสนุกๆเพียงอย่างเดียวเขาไม่ได้ร่วมมือร่วมใจกันสร้างความบันเทิงโดยสักนิดได้แต่เดินกลับตำหนักไปแสงอาทิตย์แรกของวันแหวกทะลุม่านหมอกบางที่ลอยคลุมเหนือทุ่งหญ้ากว้าง เสียงนกป่าขานรับรุ่งอรุณกลายเป็นเพียงความทรงจำอันแผ่วเบา เมื่อเสียงกลองศึกดังสนั่นขึ้นจากแนวหน้าทัพ กองธงของแคว้นตงปลิวสะบัดรับลมเช้า แสงแดดย้อมเกราะโลหะให้เปล่งประกายดั่งเพลิงอรุณ พลทหารทั้งหลายเรียงแถวแน่นขนัด ดวงตาทุกคู่สะท้อนความมุ่งมั่นและความหวาดหวั่นปะปนกัน“ขึ้นม้า!” เสียงองค์ชายสี่หนามกงหยุ่นตะโกนก้อง วันนี้เขาจะประกาศศักดาผู้ที่ดูถูกเขา ฝุ่นดินปลิวฟุ้งขณะม้าศึกนับพันกระทืบพื้นพร้อมกัน เสียงเกือกเหล็กกระแทกดินดังระรัวราวกับสายฟ้าที่โหมกระหน่ำลงบนแผ่นดิน กลิ่นเหล็ก กลิ่นเหงื่อ และกลิ่นหญ้าที่เพิ่งถูกเหยียบย่ำผสมปนเปกันเป็นกลิ่นของสงครามที่ไม่อาจลืมเลือน เมื่อดวงอาทิตย์ยกตัวขึ้นเหนือขอบฟ้า เสียงเป่าหอยศึกก็ประกาศเริ่มการรบ กลุ่มอัครราชทูตกลับไปกองทัพของแคว้นเป่ยได้ทันก่อนที่กองทัพของแคว้นตงจะบุกเข้ามา "ห๊ะอะไรกองกำลังจากวังหลวงของแคว้นตงจะเข้ามาสมทบ แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกนั้นเรียกกองกำลังไปกี่พันนาย แล้วองค์ชายสี่ไม่รับข้อเสนอของเราหรือ เราสามารถสนับสนุนให้เขาเป็นฮ่องเต้ได้"เสียงแม่ทัพแคว้นเป่ยกล่าวขึ้น"
ทางด้านตะวันตกก็ไม่ต่างกัน ข้าศึกแคว้นเป่ยตรึงกำลังมานานแล้ว ข่าวของแคว้นตงเปลี่ยนขั้วอำนาจมาถึง องค์ชายสี่หนามกงหยุ่นรู้สึกว่าเป็นธรรมอยากมาก เขาอยากให้เสด็จพี่องค์ชายรัชทายาทเป็นฮ่องเต้นานแล้ว แต่ก่อนตำแหน่งแม่ทัพของเขาเป็นแม่ทัพลำดับสองของแคว้นตง ต่อไปนี้เขาจะได้เป็นแม่ทัพที่เก่งลำดับที่หนึ่งแล้วละ เขายินดีเป็นอย่างมาก"ท่านแม่ทัพข้ามีเรื่องเกี่ยวกับค่ายใหม่ของแคว้นตงของเราพะยะค่ะ ค่ายใหม่ของแคว้นตงอยู่ทางทิศตะวันออกซึ่งเป็นน่านน้ำนำทัพโดยองค์ชายรัชทายาทหนาวกงฟู่ ในบันทึกศึกมีแคว้นจิ้นและแคว้นอี้ที่ร่วมมือกันบุกมายังน่านน้ำและถูกตอบโต้โดยองค์ชายรัชทายาทจนในที่สุดพระองค์สามารถจับแม่ทัพฉี่ฉ่างของแคว้นจิ้นได้ และกุมตัวไปวังหลวงและต่อมาก็ได้เปลี่ยนเป็นฮ่องเต้พะยะคะ"รองแม่ทัพรายงานขึ้น"ขนานนี้ยังจะสร้างชื่อเสียงส่งท้ายอีกนะเสด็จพี่ แล้วเรื่องขององค์ชายสามละ ไหนว่าถูกประหารชีวิต"องค์ชายสี่หนามกงหยุ่นถามขึ้น"ได้ข่าวว่าถูกข้อหากบฏพะยะคะ เป็นองค์ชายรัชทายาทใส่ร้าย"รองแม่ทัพกล่าวขึ้น"แล้วเจ้าคิดว่าเสด็จพ่อของข้าไม่มีหัวสมองเลยหรือ มีคนโดนใส่ร้ายก็จะไม่รู้ถึงขึ้นประการชีวิตขนาดนั้น"องค
"ท่านพ่อเจ้าค่ะตอนนี้เสด็จพี่ก็ได้เป็นฮ่องเต้แล้วข่าวนี้น่าจะแพร่ออกไปในไม่ช้า ท่านพ่อน่าจะมอบกำลังทหารให้ฮ่องเต้เพื่อที่จะไปเป็นกองทัพหนุนหลังให้กองทัพทัพหลัก เพราะหากข่าวนี้แพร่ออกไปแล้วอาจจะมีบางแคว้นที่ใช้เหตุการณ์นี้เข้ามาโจมตีแคว้นของเรา เนื่องจากว่าภายในนั้นก็น่าจะยังไม่มั่นคงพอ ด้านนอกจึงคิดจะมาแทรกแซงได้ง่าย เพราะลูกเองก็ไม่รู้ว่าแม่ทัพต่างๆนั้นส่วนมากจะเป็นองค์ชายเขาจะยินยอมกับเรื่องนี้หรือไม่"หลิวเสียงเหยากล่าวกับแม่ทัพหลิว ขนะที่เขาเข้ามาดูหลานชาย"เรื่องนี้พ่อกับฮ่องเต้องค์เดิมจัดการแล้วเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงตอนนี้เจ้าคือฮองเฮาเจ้าเป็นสตรีวังหลัง เจ้าจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบ้านเมืองได้อย่างไร"แม่ทัพหลิวกล่าวขึ้น เพราะเรื่องนี้เขาคุยกับฮ่องเต้คนเก่าแล้วและได้จัดการเรียบร้อยแล้วตอนนี้กองทัพน่าจะกำลังไปถึงชายแดนต่างๆ ส่วนแม่ทัพทางตะวันออกนั้นยังปรึกษาหารือไม่ลงตัว เมื่อหลายแคว้นรับรู้ถึงเรื่องนี้ก็เกิดการปั่นป่วนจริงๆเนื่องจากว่า ผู้ที่เป็นแม่ทัพนั้นก็คือองค์ชายสองและองค์ชายสี่เมื่อพวกเขารับรู้ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงในวังขึ้นมาอย่างรวดเร็วแบบนี้ และอีกอย่างองค์ชายสามนั้นก็ถูกประ
รุ่งเช้า ณ ท้องพระโรงทุกคนต่างเข้ามาประชุมก็เห็นสามคนที่นั่งอยู่กลางท้องพระโรง พวกเขานั้นถูกมัดไว้ราวกับนักโทษ เดิมองค์ชายรัชทายาทเองยังไม่อยากที่จะออกจากตำหนักเนื่องจากว่าพระโอรสของเขาพึ่งลืมตาดูโลกเขาต้องการจะอยู่ต่อ แต่ด้วยราชกิจที่บิดาบอกว่าเขาจำเป็นต้องมาด้วยตนเอง เพราะมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับสายลับผู้นั้นเขาจึงต้องจำใจจากโอรสน้อยมา เมื่อเขามานั่งบัลลังก์รองและมองลงไปก็เห็นทั้งสามที่ถูกจับไว้อยู่กลางท้องพระโรง ฮ่องเต้เองก็เหนื่อยๆกับเรื่องนี้เต็มทน หากเขาไม่จัดการบทพรุ่งนี้ก็จะกำเริบสืบสาน แต่คดีนี้เป็นคดีใหญ่คดีกบฏขนาดนี้ผู้เป็นบุตรชายจะต้องถูกประหาร เขาเองก็ไม่รีรอเนื่องจากว่าถ้าทนเห็นความเจ็บปวดของลูกเขาเองก็จะเจ็บปวดเขาจึงยื่นจดหมายให้ทันทีข้างกายเพื่อให้เขาอ่านออกไป"เสียงเหย่าลูกรัก หากจดหมายฉบับนี้ของแม่ได้ส่งถึงมือเจ้าแล้วเจ้าคงจะรู้แล้วว่าแม่ผู้นี้ไม่ใช่แม่แท้ๆของเจ้า แม่ขอโทษที่พรากพวกเจ้าออกจากกันเมือหลายปีก่อน จนแม่ได้เข้ามาอยู่ในจวนได้รู้ถึงความรักและความผูกพัน แม่เองเป็นคนของแคว้นอื่น คราแรกแม่เต็มใจที่จะเข้ามาเป็นสายลับเข้ามาหวังจะสืบข้อมูลในตระกูลหลิวของเจ้า เป็นบิด
เมื่อหลู่ชิงเหยาเข้ามาในวังก็เป็นไปตามที่ท่านยายนั้นกล่าวไว้ คือว่าตำหนักองค์ชายรัชทายาทปิดไม่ให้ผู้ใดเข้าเลยสักคน นางพยายามร้องตะโกนว่านางคือจะสหายของพระชายาแต่ก็ไม่มีผู้ใดเปิดให้นาง นางจึงตัดสินใจเข้าพระราชวังเพื่อไปหาฮองเฮา แต่ก็พบว่าฮองเฮาทรงเสวยพระยาหารกับฮ่องเต้อยู่ นางจึงตั้งใจที่จะรอ เมื่อทั้งสองเสวยพระยาหารเสร็จก็ออกจากตำหนักก็พบว่าหลู่ชิงเหยารออยู่แล้ว"ถวายพระพรฮ่องเต้ ถวายพระพรฮองเฮาเพค่ะ พอดีหม่อมฉันจะมาดูว่าพระชายานั้นคลอดแล้วหรือยัง แต่ตอนนี้ตำหนักขององค์ชายรัชทายาทปิดไม่ให้ผู้ใดเข้าไปได้เลยเพคะ"หลู่ชิงเหยากล่าวขึ้น"เจ้ากลับไปก่อนนะ พอดีวันนี้มีเรื่องวุ่นวายนิดหน่อยเกี่ยวกับคนของตำหนักองค์ชายรัชทายาทรวมไปถึง พระชายากำลังจะคลอดจึงดูคนเข้าออกได้ยาก ทั้งตำหนักก็คงจะปิดเพื่อมิให้คนนอกเข้า และหาการคลอดออกมาไม่ราบรื่นก็คงจะปิดเพื่อไม่ให้คนในออก"ฮ่องเต้กล่าวขึ้นและเดินจากไป หลู่ชิงเหยามองพระพักตร์ฮองเฮานางก็ได้แต่ยิ้มแล้วเดินจากไปเพราะนางต้องเอาเรื่องที่องค์ชายรัชทายาทนั้นจะต้องกลับค่ายอีกครั้งไปบอกกับบุตรชายของเขา เพราะเขาจะได้จัดการกับองค์ชายรัชทายาท หลู่ชิงเหยาได้แต่เดิน
ในตำหนักขององค์ชายรัชทายาทครึกครื้นขนาดนั้นจึงทำให้ฮองเฮารู้ว่าพระชายาหลิวกำลังใกล้จะคลอดแล้ว นางจึงอยากไปดูด้วยตาตัวเองว่าเป็นพระราชธิดาหรือพระราชโอรสเขาจึงมุ่งไปตำหนักขององค์ชายรัชทายาททันที เสี่ยวไป๋กับซูเสวี่ยไม่กล้าที่จะห้ามปลาม เข้าทั้งสองจึงต้องจำใจปล่อยให้ฮองเฮาเข้าไปข้างใน ทั้งสองมองหน้ากันเพราะตัวเองเป็นผู้น้อยจึงไม่สามารถทำสิ่งใดได้เลย "เสด็จพี่อยู่ที่นี่นี่เองหม่อมฉันได้ข่าวว่าลูกสะใภ้กำลังจะคลอดจึงรีบมาเพคะ ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างเพคะ ลูกสะใภ้เราได้เพราะราชโอรสหรือพระราชธิดาเพค่ะ"ฮองเฮากล่าวขึ้น เมื่อฮ่องเต้มองเห็นฮ่องเฮาก็ทรงตกพระทัยเล็กน้อย"ยังไม่คลอดเลยทั้งหมอหลวงกับหมอตำแยพึ่งเข้าไปเมื่อครู่หมอหลวงยังไม่ออกมาเลย ข้าว่าเราไปรอที่ตำหนักของพวกเราดีกว่า หากพระชายาคลอดแล้ว เจ้าอย่าลืมส่งคนไปแจ้งพ่อนะว่าได้พระราชโอรสหรือพระราชธิดา พ่อจะได้ให้คนนำของมารับขวัญหลาน"ฮ่องเต้พูดขึ้นและพาฮ่องเฮาจากไป จึงทำให้องค์ชายรัชทายาทหลังกงฟู่รู้สึกสงสัยเนื่องจากว่าท่านพ่อพูดคุยกับเขาเหมือนท่านพ่อจะรอให้หมอหลวงออกมาก่อน แล้วท่านพ่อค่อยไปแต่นี้หมอหลวงยังไม่ออกมา ท่านพ่อก็จากไปแล้วหรือว่ามีค







