Share

บทที่ 6 แค่คนเคยชอบ [1]

Author: Tuk Kung
last update Last Updated: 2025-06-30 01:31:05

อันหนิงเดินออกมาจากฉากกั้นก็พบว่าสาวใช้คนหนึ่งยังอยู่ที่เดิม กระนั้นก็อดรู้สึกเคอะเขินเสียมิได้ ร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยจูบรอยกัดนี้ มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

“นายท่านให้บ่าวมาปรนนิบัติฮูหยินเจ้าค่ะ” เสี่ยวชุ่ยทำตัวไม่ถูกได้แต่ยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่กลางห้อง กลัวฮูหยินตบตีก็กลัว ทว่านางกลัวถูกไล่ออกมากกว่าจึงกลั้นใจหยิบผ้าสำหรับซับผมเดินตามฮูหยินต้อย ๆ

“อืม... เจ้าชื่ออะไร” อันหนิงนั่งหลังตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ก่อนจะเอ่ยถามนามเรียกขานบ่าวรับใช้คนใหม่ พยายามปรับสีหน้าให้ดูน่ากลัวน้อยลง ไม่เช่นนั้นสาวใช้ผู้นี้ก็คงเอาแต่ยืนตัวสั่นงันงกไม่เป็นอันทำอะไรกันพอดี

“เสี่ยวชุ่ยเจ้าค่ะ” สาวน้อยเสี่ยวชุ่ยเห็นว่าฮูหยินมิได้มีท่าทีดุด่าหรือไม่พอใจ เจ้าตัวจึงกล้าที่จะขยับเข้าใกล้พร้อมกับใช้ผ้าซับผมเปียกชุ่มให้นายสาวอย่างเบามือ หลังจากซับผมให้แห้งเด็กสาวจึงได้เกล้าผมจัดทรงใหม่ ปรนนิบัติได้อย่างดีไม่มีขาดตกบกพร่องแต่ประการใด

“เสี่ยวชุ่ยข้าไม่อยากให้เจ้ามีปัญหากับคนอื่น ถ้าฝืนใจก็ไม่ต้องมาคอยรับใช้ข้า เอาเป็นว่าข้าเข้าใจและจะไม่บอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้นายท่านรู้ก็แล้วกัน” อย่างไรเสียนางก็จะอยู่ที่นี่อีกไม่นาน หลังจากหย่ากับหวังเหล่ยแล้วนางก็จะเดินทางออกนอกเมือง ไปอยู่ที่ไหนสักแห่งเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่เสี่ยวชุ่ยยังต้องอยู่ทำงานที่นี่อีกนานไม่ควรจะแข็งข้อกับพวกคนเก่า อาจจะทำงานยากขึ้นในอนาคต

“บ่าวเข้าใจแล้วเจ้าค่ะฮูหยิน” เสี่ยวชุ่ยลอบมองเจ้านายสาว นางไม่เห็นว่าฮูหยินจะเป็นเหมือนบ่าวรับใช้คนอื่นพูดกันสักนิด ฮูหยินก็ดูเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น คิดถูกแล้วที่ตนไม่ได้ทำตามบ่าวรับใช้คนอื่น

อันหนิงปล่อยให้สาวรับใช้ช่วยแต่งตัวตามแต่ที่เสี่ยวชุ่ยจะจัดหาให้ โดยที่นางไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ แต่ก็เล็งเห็นถึงความเอาใจใส่ในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเสี่ยวชุ่ย จึงอยากมอบต่างหูให้เด็กคนนี้ให้เป็นรางวัล

สำหรับอันหนิงแล้วมันมิได้มีค่าอะไร ทว่ากับเสี่ยวชุ่ยนั้นหากเอาไปขายต่างหูคู่นี้สามารถเก็บไว้ใช้จ่ายในบ้านได้หลายเดือน ดังนั้นความเข้าใจของเด็กสาวจึงคิดไปอีกอย่าง เจ้าตัวละล่ำละลักรีบคุกเข่าโขกหัวกับพื้น เพราะทำงานได้ไม่ดีฮูหยินจึงไม่มอบของมีค่าให้เช่นนี้ อีกเดี๋ยวก็คงมีคำสั่งไล่ออกกระมัง

“ฮูหยินบ่าวทำอะไรไม่ถูกใจหรือเจ้าคะ อย่าไล่บ่าวออกเลยบ่าวยังต้องเลี้ยงดูอีกหลายชีวิต ได้โปรดเถอะเจ้าค่ะ ให้บ่าวทำงานที่นี่ต่อด้วยเถอะนะเจ้าคะ ให้ทำอะไรบ่าวก็ยอม”

“เลิกโขกหัวได้แล้วใครมาเห็นได้คิดว่าข้ารังแกเจ้ากันพอดี ที่ข้าให้ก็เพราะเห็นว่าเหมาะกับเจ้า ต่างหูคู่นี้ข้าแค่เบื่อแล้วไม่ชอบ ถ้าเจ้าไม่เอาก็ทิ้ง ๆ มันไปเสีย หรือจะเอาไปขายข้าก็ไม่ว่า” การจะกลับใจเป็นคนดีมันช่างยากเย็นนัก แค่ให้สิ่งของก็ถูกคิดไปเป็นอื่นเสียแล้ว

แม้จะพูดไปเช่นนั้นสาวใช้กลับไม่ยอมลุกขึ้นเอาแต่นั่งหมอบอยู่กับพื้น อันหนิงไม่รู้จะทำอย่างไรนางจึงโยนต่างหูเจ้ากรรมคู่ลงตรงหน้าเสี่ยวชุ่ย ก่อนจะออกจากเรือนนอนไปปล่อยให้สาวใช้นั่งหมอบอยู่อย่างนั้น ทำถึงเพียงนี้แล้วถ้าไม่เข้าใจก็แล้วแต่เถิด

หลังจากฮูหยินก้าวพ้นประตูเรือน เสี่ยวชุ่ยจึงค่อย ๆ โผล่หน้าขึ้นมา เด็กสาวมองไปที่ต่างหูคู่นั้นก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความดีใจ

ที่แท้ฮูหยินต้องการมอบมันให้เท่านั้นเอง แม้จะเป็นของเหลือเบื่อแล้วก็ทิ้ง ทว่ามันคือของมีค่าสำหรับตน ข้าวสารเดือนนี้ใกล้จะหมดแล้วด้วย หากเอาไปจำนำก็คงได้เกือบตำลึง เอาไว้เบี้ยรายเดือนออกเมื่อใดนางจะต้องไปไถ่คืนอย่างแน่นอน

อันหนิงเดินเอื่อยเฉื่อยมาจนถึงเรือนกลางเพื่อรับอาหารเช้า หญิงสาวผ่อนลมหายใจสายป่านนี้หวังเหล่ยคงออกจากจวนไปแล้วกระมัง นางยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับเขาในตอนนี้ หากต้องปะทะคารมกันจริง ๆ เกรงว่าจะมีปากเสียงไปกันใหญ่ แทนที่จะได้แก้ไขความสัมพันธ์ให้ดีขึ้นแต่กลับเลวร้ายลงไปอีก

“มัวแต่เดินอ้อยอิ่งอยู่ได้ ไม่เห็นหรือว่าเลยเวลากินข้าวมาเท่าไรแล้ว”

ทว่าเสียงที่ดังออกมากลับทำให้อันหนิงต้องหยุดเท้า นี่สินะยิ่งไม่อยากเจอก็ต้องได้เจอ ก่อนที่จะต้องเผชิญหน้ากัน หญิงสาวสูดหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อเรียกความมั่นใจให้ตนเอง ได้แต่คิดอย่างปลดปลง อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิด แค่ทำทุกอย่างให้ดีก็พอ

“ชักช้า” คำแรกที่พบหน้าบนโต๊ะอาหาร หวังเหล่ยก็พ่นคำพูดที่ไม่รักษาน้ำใจ ใบหน้าหล่อเหลาบูดบึ้ง หยิบตะเกียบคีบอาหารด้วยอาการฟึดฟัดไม่พอใจ เขาหรือก็รอกินข้าวตั้งนาน ส่งสาวใช้ให้ไปคอยดูแลก็แล้ว กระนั้นก็ยังทำตัวอ้อยอิ่งชักช้าราวกับไม่ให้ความสำคัญต่อกัน

“ขออภัยเจ้าค่ะ หากหิวเหตุใดไม่กินก่อน จะรอข้าทำไมเจ้าคะ”

“อย่าคิดว่าตัวเองสำคัญ ที่นี่ข้าเป็นใหญ่ที่สุดทุกอย่างต้องทำตามกฎที่ข้าตั้งไว้เท่านั้น นับจากนี้ทุกวันเจ้าต้องมาให้ตรงเวลา เข้าใจหรือไม่”

“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ” อันหนิงตอบรับแต่โดยดี หากเป็นเมื่อก่อนนางคงวางตะเกียบแล้วเดินกระทืบเท้าหนีไปแล้ว ทว่าครั้งนี้นางกลับไม่มีความโกรธเคืองต่อคำพูดของสามีเลยสักนิด เพราะสิ่งที่เขาพูดมันคือเรื่องจริงทั้งนั้น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หวนคืนอีกคราสตรีร้ายขอกลับใจ   บทที่ 30 ลงโทษให้หลาบจำ [2]

    ปึก ๆ“อ้าส์” อันหนิงร้องเสียงหลง ยิ่งบอกให้เบาคนเจ้าเล่ห์กลับยิ่งกระแทกแรง ใบหน้างามค้อนขวับทว่าภายในใจกลับรู้สึกชอบให้อีกฝ่ายทำเช่นนี้เหมือนกัน แต่เรื่องอะไรนางจะบอกให้เขาได้ใจ ลำพังแค่นี้ก็ยังรับมือไม่ไหวแล้วเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนล่างถูกกระแทกไม่หยุดส่วนบนก็มิได้ว่างเว้น อกอวบคู่งามถูกมือหนาบีบขย้ำอย่างมันมือ เนื้อหวานนี้ช่างล่อลวงให้หลงใหลได้ดีนัก ไม่ว่าได้ชิมเมื่อไรเป็นอันหยุดไม่ได้เสียทุกคราหวังเหล่ยจับร่างขาวโพลนเปลี่ยนท่วงท่า เพียงแค่พลิกกายนิดเดียวสาวเจ้าก็ขึ้นมาอยู่ด้านบน ท่วงท่านี้ทำให้อันหนิงใจสั่นไม่น้อย การที่นางได้อยู่ด้านบนมิใช่จะได้ทำบ่อย ๆ และรู้สึกชอบที่ได้เป็นแม่ทัพนำศึก ควบขี่ม้าไปในทิศทางใดก็ได้ตามแต่ใจต้องการ แต่ก็เหนียมอายเกินกว่าจะกล้าบอกออกไปตรง ๆ“ถ้าเจ้ายังทำเป็นเล่นอยู่เช่นนี้ เมื่อไรจะถึงปลายทาง อย่าให้ต้องทำเองประเดี๋ยวจะร้องอีกไม่รู้ด้วยนะ”คำขู่ของหวังเหล่ยไม่เป็นผล ร่างบางยังคงขับขี่จังหวะเอื่อยเฉื่อยไม่ได้ดั่งใจ ท่วงท่าลีลาแม้จะเหลือร้ายทว่ามันกลับไม่ทันใจ“ว๊าย อะ อะ อ้าส์”ปึก ๆอันหนิงถึงกับร้องลั่นด้วยความตกใจระคนเสียวซ่

  • หวนคืนอีกคราสตรีร้ายขอกลับใจ   บทที่ 29 ลงโทษให้หลาบจำ [1]

    อันหนิงตะเกียกตะกายเพื่อดันตัวให้หนีไปอีกฝั่งของเตียง ทว่ายังไม่ทันจะได้ไปถึงกลางเตียงนอนด้วยซ้ำ นางกลับถูกอีกฝ่ายลากกลับมาจุดเดิม ชุดสวยที่เพิ่งสวมใส่ได้ไม่นานก็ถูกอีกฝ่ายปลดเปลื้องออกราวกับปอกเปลือกกล้วยอย่างง่ายดาย แม้จะถดกายหนีจนสุดความสามารถก็ยังหนีไม่พ้นอยู่ดี“ท่านพี่เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ ข้าเป็นระดูทำไม่ได้นะเจ้าคะ”“ฮึ เมื่อเช้าข้ากับเจ้าก็เพิ่งอาบน้ำด้วยกัน” ชายหนุ่มยิ้มร้ายจับขึงตรึงแขนทั้งสองข้างไว้เหนือศีรษะ ก่อนจะก้มลงบดขยี้ริมฝีปากอวบอิ่มเพื่อเป็นการลงโทษคนเจ้าแผนการ“อื้อ” ชุดตัวในสีขาวบัดนี้กลับถูกดึงทึ้งขาดวิ่นไม่มีชิ้นดี มือเล็กดันอกกว้างออกห่างพลางทุบตี ส่งเสียอู้อี้ฟังไม่ได้ศัพท์ แม้จะประท้วงด้วยภาษากายทุกวิถีทาง แต่คนด้านบนกลับไม่นำพายังคงบังคับจูบให้ได้อยู่อย่างนั้น กว่าหวังเหล่ยจะถอนจูบปากบางก็บวมเจ่อเสียแล้ว“ข้าเจ็บ” ใบหน้างามงอง้ำไม่ชอบใจที่ถูกกระทำรุนแรง หวังให้เขาสงสารปฏิบัติกับตนอย่างเบามือมากกว่านี้“เจ็บหรือ เป็นข้าหรือไม่ที่เจ็บกว่า คนอย่างเจ้าน่ะหากไม่ลงโทษให้หลาบจำมีหรือจะดีขึ้น”แม้จะพูดไปอย่างนั้นแต่การกระทำเขากลับอ่อนโยนขึ้นถนัดตา เขาหรืออยากมีลูกน้อย

  • หวนคืนอีกคราสตรีร้ายขอกลับใจ   บทที่ 28 อย่าคิดทำอีก [2]

    กลุ่มสาวใช้รุ่นพี่ต่างเดินคอตกกลับไปทำงาน นอกจากนายท่านจะไม่เชื่อแล้วพวกนางยังถูกหักค่าแรงตั้งครึ่งหนึ่ง ทำให้ยิ่งโกรธแค้นเสี่ยวชุ่ยมากยิ่งขึ้น ทั้งที่ทะเลาะกันทุกคนแต่เสี่ยวชุ่ยกลับไม่โดนอะไรอยู่คนเดียว“แล้วนั่นยาอะไร อันหนิงนางป่วยหรือ เหตุใดถึงต้องดื่มยา”“ยาบำรุงเจ้าค่ะ ฮูหยินสบายดีไม่ได้เป็นอะไร”“ข้าไม่เห็นรู้ว่านางต้องกินของพวกนี้” หวังเหล่ยเทยาในกาใส่ถ้วยแล้วยกขึ้นดม แต่ก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เมื่อยาถ้วยนี้มีกลิ่นสมุนไพรบางอย่างมากกว่าจะเป็นแค่ยาบำรุง “นางกินทุกวันหรือไม่”“ไม่เจ้าค่ะ กินเฉพาะวันที่ฮูหยินอยากกินเท่านั้น” สาวน้อยเสี่ยวชุ่ยรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว น้ำเสียงของนายท่านที่ดูเปลี่ยนไปราวกับคนละคน สัมผัสได้ถึงลางไม่ดีบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า“พ่อบ้านสุ่ยงานวันนี้ยกเลิกให้หมด มีอะไรจัดการได้ให้จัดการเองไปก่อน อันไหนสำคัญให้เลื่อนออกไป” ชายหนุ่มสั่งงานพ่อบ้านเสร็จ จึงได้หันกลับมาสั่งงานสาวรับใช้ภรรยาต่อ “ส่วนเจ้าวันนี้ไม่ต้องรับใช้ฮูหยินไปช่วยงานโรงครัวแทน”“เจ้าค่ะ”ถาดยาในมือถูกเจ้าของจวนแย่งไป เสี่ยวชุ่ยได้แต่มองตาปริบ ๆ ทำปากพะงาบ ๆ ไม่กล้าถามเพราะกลัว

  • หวนคืนอีกคราสตรีร้ายขอกลับใจ   บทที่ 27 อย่าคิดทำอีก [1]

    เช้าวันใหม่ในขณะที่เสี่ยวชุ่ยกำลังวุ่นอยู่กับการต้มยา ความสงบสุขของนางก็หมดไปเมื่อถูกสาวใช้กลุ่มพรรคพวกตงตงหาเรื่องใช้งานไม่หยุดหย่อน ตั้งแต่ได้เลื่อนขั้นขึ้นเป็นคนสนิทของฮูหยิน นางก็ถูกตงตงเขม่นมาตลอดเมื่อมีโอกาสสาวใช้รุ่นพี่ก็มักจะหาเรื่องกลั่นแกล้งอยู่เสมอ ด้วยนางถือว่าเสี่ยวชุ่ยน้องใหม่เพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่ทันไรก็แข็งข้อและคิดต่าง เป็นคนโง่เขลาที่เลือกคนคุ้มกะลาหัวไม่ถูกฝั่ง เลือกอยู่กับฮูหยินที่ไม่เป็นที่รักของนายท่าน ช่างสิ้นคิดเสียจริง“เสี่ยวชุ่ยอย่าคิดว่าได้เป็นคนติดตามฮูหยินแล้วจะมาอู้งานเช่นนี้ได้นะ ผ้าพวกนี้ยังไม่ได้ซักเลยสักชิ้น” หนึ่งในพรรคพวกของตงตง ๆ โยนผ้าใส่เสี่ยวชุ่ยพลางหัวเราะคิกคัก นี่ขนาดถูกพวกตนแกล้งใช้งานขนาดนี้เจ้านายที่คอยคุ้มกะลาหัวยังไม่เคยจัดการให้เลยสักครั้ง สมน้ำหน้าอยากเลือกข้างไม่ถูกเอง“ข้าไม่ได้อู้งานไม่เห็นหรือว่ากำลังต้มยาอยู่น่ะ ส่วนผ้าพวกนี้เจ้าก็เอาไปซักเองสิ ไม่ใช่หน้าที่ของข้า” เสี่ยวชุ่ยในตอนนี้ใช่ว่าจะอ่อนแอเหมือนตอนที่เข้ามาทำงานใหม่ ๆ แม้จะอายุยังน้อยและเพิ่งเข้ามาทำงานไม่นาน กระนั้นก็พอจะรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะคนเหล่านี้ที่ไม่ให้คว

  • หวนคืนอีกคราสตรีร้ายขอกลับใจ   บทที่ 26 แกล้งชัก [2]

    ครู่เดียวฮูหยินหลี่วิ่งหน้าตาตื่นมาถึงตัวบุตรสาวคนเล็ก ก่อนจะสั่งให้หญิงรับใช้ช่วยกันหามอันเล่อกลับเรือนนอนรอท่านหมอมาตรวจอาการ กระนั้นก็ยังแปลกใจว่าบุตรสาวอาการกำเริบได้อย่างไร ทั้งการชักครานี้มันก็แปลก ๆ ก็ไหนท่านหมอยืนยันแล้วว่าในสามปีนี้หากอันเล่อกินยาอย่างต่อเนื่อง โรคลมชักนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นหากร่างกายไม่อ่อนแอจากการเจ็บป่วยทว่าในตอนที่กำลังจะเข้าหอบหิ้วกันเข้าเรือนนอน อันเล่อได้คว้ามือมารดาพร้อมกับเขย่าให้อีกฝ่ายรู้ตัว ทั้งสองสบสายตากัน ก่อนที่อันเล่อจะขยิบตาเพื่อเป็นสัญญาณบอกว่านางมิได้เป็นอะไร เพียงเท่านี้ฟางเหนียงก็รู้แล้วว่าบุตรสาวคนเล็กแกล้งป่วย กระนั้นก็ไม่รู้ว่าอันเล่อทำไปเพื่ออะไร แต่เชื่อว่าจะต้องมีเหตุผลมากพอ นางจึงได้แต่ตามน้ำไปเท่านั้น“อันหนิงวันนี้เจ้ากลับจวนไปก่อนนะ ประเดี๋ยวท่านหมอก็มาแล้ว เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงน้อง นางก็เป็นเช่นนี้อยู่บ่อย ๆ ประเดี๋ยวก็หายเอง”“แต่ข้าอยากอยู่ดูน้องเจ้าค่ะท่านแม่” อันหนิงผู้ไม่รู้อะไรได้แต่ดึงดันจะอยู่ต่อ ยิ่งได้เห็นน้องสาวชักลงต่อหน้าต่อตาก็ยิ่งทำให้นางรู้สึกเป็นห่วง“เชื่อแม่เถิด ถึงเจ้านั่งเฝ้าทั้งวันทั้งคืนอย่างไรก็ช่วยไม่ได้ กล

  • หวนคืนอีกคราสตรีร้ายขอกลับใจ   บทที่ 25 แกล้งชัก [1]

    ด้านอันหนิงกลับบ้านมาคราวนี้นางก็หวังว่าจะได้เปิดใจกับน้องสาว นางเองก็ไม่อยากให้เรื่องราวมันคาราคาซัง รีบปรับความเข้าใจกันเสียชีวิตมันสั้นไม่รู้จะได้อยู่ด้วยกันถึงเมื่อไร“พี่ใหญ่มาแล้ว” อันเล่อที่กำลังควบคุมสาวใช้จัดเตรียมของว่างรอพี่สาวดีใจเป็นการใหญ่ เป็นครั้งแรกที่ได้พูดคุยกันดี ๆ นางจึงอยากให้พี่สาวประทับใจและเลิกคิดว่าทุกคนไม่รักเสียที“อืม เจ้าทำอะไรอยู่ นั่งเถอะ ท่านแม่บอกว่าพักนี้เจ้าเหนื่อยง่าย ประเดี๋ยวเป็นลมขึ้นมาจะทำอย่างไร”“ข้าไม่เป็นอะไรง่าย ๆ หรอกเจ้าค่ะ พี่ใหญ่กังวลมากเกินไปแล้ว” ยิ่งได้ยินคำห่วงใยจากปากพี่สาว อันเล่อก็ยิ่งรู้สึกมีความสุขล้น ที่ผ่านมามักถูกกีดกันให้ห่างจากกัน จึงไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดและคลุกคลีกันมากนัก ตัวนางกลับคิดว่าพี่สาวเกลียดชังมาตลอด แต่เมื่อไม่นานมานี้ท่านแม่บอกทุกอย่างหมดแล้ว จึงมิได้มีเรื่องให้หมองใจกัน“อย่างไรก็เถอะ อย่าได้หักโหมนัก ท่านหมอว่าอย่างไรโรคนี้มีทางหายหรือไม่” ไม่นานมานี้ทุกคนยอมเล่าเรื่องโรคประจำตัวอันเล่อแล้ว ทำให้อันหนิงไม่จำเป็นต้องระวังคำพูดอีกต่อไป“ไม่หายขาดเจ้าค่ะ แต่ถ้าดูแลตัวเองให้ดีดื่มยาบำรุงอย่าได้ขาด ก็สามารถใช้ชีว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status