Se connecterหนึ่งสัปดาห์ต่อมา..
“คุณโปรดคะ คุณแพทขอเข้าพบค่ะ” “เชิญเข้ามา” “ยังไม่ไปทานข้าวอีกหรอ?” “ถ้าไปคุณจะเห็นผมนั่งอยู่ตรงนี้หรอ?” “นี่คุณอย่ามากวนประสาทชั้นนะ อุตส่าห์ถามด้วยความเป็นห่วง” “แล้วคุณมีธุระอะไรถึงได้มาหาผมถึงที่ ดูจากการแต่งตัวแล้วคงไม่ได้มาหาที่ระบายอารมณ์หรอกใช่มั้ย เพราะผมบอกไปแล้วว่าถ้าจะมาให้ผมเอาก็ต้องใส่ผ้าที่ผมสามารถเอาได้คาชุด แบบนี้ขี้เกียจถอด” “ชั้นจะมาบอกคุณว่าคืนนี้เราไปเจอกันที่โรงแรมหน่อยมั้ย หรือจะให้ชั้นไปหาคุณที่ห้องก็ได้” “ผมนึกว่าคุณเข็ดแล้วสะอีก” “สรุปยังไง ได้ไม่ได้ก็บอกมา” “คืนนี้เจอกันที่ห้องผม รับรองว่าคุณต้องร้องขอชีวิตแน่ ออแล้วก็อย่าลืมเรื่องชุด” “เออ รู้แล้วหน่า” พูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกจากห้องไปโดยทันที … ณ คอนโดหรูติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา “ใส่ชุดนี้อ่ะหรอ เห็นแล้วหมดอารมณ์” “คุณก็ให้เวลาชั้นหน่อยสิ ชุดอยู่ในถุง” “แล้วถืออะไรมาด้วยหล่านั่น” “แชมเปญไงดูไม่ออกหรอ” “คุณคงไม่รู้สินะว่าเวลาผมเมาแล้วจะเป็นยังไง” “ก็นอนอึดเหมือนคืนเข้าหอไง น้ำก็ไม่อาบสกปรก” “วันนั้นผมเหนื่อยมากกว่า” “คุณรอชั้นสักครู่นะ เดี๋ยวมา” “ห้องน้ำอยู่ทางซ้ายมือ” หญิงสาวเดินหายเข้าไปในห้องน้ำอยู่ครู่ใหญ่ และไม่นานเธอก็เดินออกมาในชุดนอนซีทรูสายเดี่ยวสีขาวความยาวของมันเลยแก้มก้นไปเพียงเล็กน้อยพร้อมกับสวมใส่ถุงน่องสีขาวสว่างยาวเลยหัวเข่า เรียกได้ว่าชุดนอนที่เธอสวมใส่นั้นแทบปิดอะไรไม่มิดโดยเฉพาะบริเวณเนินอกที่ปกปิดมิดชิดเฉพาะส่วนหัว นั่นจึงเผยให้เห็นซาลาเปาลูกใหญ่กลมผ่านผ้าบางขาว ส่วนเขาที่เห็นดังนั้นก็เผลอกลืนน้ำลายอย่างอดไม่ได้ “ชุดนี้คงไม่ต้องพึ่งแอลกอฮอล์แล้วมั้ง” เขาส่งสายตาหื่นกามจนหญิงสาวเริ่มรู้สึกหวั่นใจกับภัยที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้า “ใจเย็นก่อนสิ คือชั้นอยากได้ฟิวส์ตอนเราเมา” “งั้นคุณรอนี่นะเดี๋ยวผมไปรินแชมเปญให้” “ไม่ต้อง เดี๋ยวชั้นทำเอง คุณไปนั่งรอตรงโซฟาเลย” ทั้งสองค่อยๆ จิบแชมเปญที่หญิงสาวเป็นคนเตรียม ผ่านไปได้ไม่นานเขาก็เริ่มมีอาการมึนเมา แต่อาการมึนเมาครั้งนี้ของเขานั้นแตกต่างจากทุกครั้ง เพราะเขารู้สึกร้อนโดยเฉพาะตรงกลางกายช่วงล่าง “นี่คุณแอบใส่ยาปลุกเซ็กในแก้วผมหรอ” “ยาปลุกเซ็กงั้นหรอ คุณรู้ได้ไงว่ามันคือยาปลุกเซ็ก” “ผมไม่ได้โง่ขนาดจะไม่รู้ว่านี่มันคืออาการของคนที่โดนยาปลุกเซ็กส์” ชายหนุ่มเผยใบหน้าโมโหและเตรียมพร้อมจะจัดการกับเธอ “คือชั้นไม่ได้ตั้งใจ” ส่วนหญิงสาวเมื่อเห็นท่าไม่ดีก็ขยับกายออกห่างเขาทันที “คุณใส่ยาปลุกเซ็กจริงๆ ด้วย” ชายหนุ่มเผยใบหน้าบิดเบี้ยวเนื่องจากฤทธิ์ยาปลุกเซ็กส์ “คือชั้นไม่รู้ว่ามันคือยาปลุกเซ็ก” “ตอแหล!” ชายหนุ่มตะคอกเสียงดังจนหญิงสาวสะดุ้ง และเมื่อเธอรู้ตัวว่ากำลังตกอยู่ในอันจึงพยายามจะวิ่งหนีออกจากห้องแต่มันก็สายเกินไปเพราะเขาได้ล็อคตัวเธอเอาไว้แน่น “ปล่อยชั้นเถอะนะคุณโปรด” หญิงสาวพยามดิ้นเพื่อที่จะหลุดพ้นจากเขา “ไม่คิดจะอยู่รับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเองหน่อยหรอ” “คุณโปรดชั้นขอร้อง” หญิงสาวยืนขาสั่นพร้อมกับเผยสีหน้าหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด “หยุดเสแสร้งสักที!ผมชักจะเริ่มหมดความอดทนกับคุณแล้วนะ เป็นคนวางยาผมเองกับมือสงสัยอยากโดนกระแทกยันฟ้าส่าง ผมจะเอาจนกว่าคุณจะสลบคอยดู” พูดจบเขาก็อุ้มร่างเล็กพาดบ่าและไม่นานหญิงสาวก็โดนผู้เป็นสามีจับโยนบนเตียงกว้างอย่าไม่ปราณี “คุณโปรด ชั้นขอโทษได้โปรดปล่อยชั้นไปเถอะ” หญิงสาวร้องขอความเห็นใจแต่ก็ไม่เป็นผล “ชั้นบอกให้เธอหยุดเสแสร้งไม่เข้าใจที่ชั้นพูดรึไง!” ชายหนุ่มตะคอกเสียงดังจนหญิงสาวตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว จากนั้นเธอพยายามลุกหนีแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะสภาพของชายหนุ่มนั้นแทบไม่ต่างอะไรจากคนเมายาแล้วคลุ้มคลั่ง “ยิ่งต่อต้านชั้นยิ่งมีอารมณ์นะรู้เอาไว้สะด้วย” พูดจบเขาก็ฉีกชุดนอนขาวบางออกเป็นเสี่ยงๆ อย่างไม่ใยดีจากนั้นเขาตรึงแขนทั้งสองข้างของหญิงสาวไว้เหนือหัว “คุณโปรด หยุดเถอะนะ” หญิงสาวร้องขอความเห็นใจจากชายหนุ่มทั้งน้ำตาแต่มันไม่ได้ทำให้เขาเกิดความเห็นใจแต่อย่างใด “เธอต้องรับผิดชอบต่อการกระทำโง่ๆ นี้” พูดจบเขาจับขาเรียวข้างหนึ่งยกขึ้นสูงแล้วดันมันเข้าหาเจ้าของร่าง ส่วนอีกข้างก็ถูกเขาจับอ้าแล้วกดมันไว้กับเตียงจนเผยให้เห็นของสงวนเลือนๆ ผ่านเนื้อผ้าบางขาว“คุณแม่คะหนูหิวน้ำ”“น้องปิ่นฟื้นแล้ว”หญิงสาวเผยรอยยิ้มเมื่อเห็นลูกสาวฟื้น จากนั้นเธอก็ป้อนน้ำให้ลูกสาวอย่างระมัดระวัง“คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย คุณแม่ ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าเลย”“ก็เพราะทุกคนเป็นห่วงน้องปิ่นไงคะ”“น้องปิ่นรู้สึกปวดหัวจังเลยค่ะ”เด็กหญิงเผยสีหน้าเจ็บปวด“ถ้ารู้สึกปวดก็นอนพักต่อนะ”“คุณพ่อยังโกรธน้องปิ่นอยู่ใช่มั้ยคะคุณแม่”เมื่อเด็กหญิงไม่เห็นผู้เป็นพ่อเธอจึงเข้าใจว่าผู้เป็นพ่อยังโกรธอยู่ ทั้งที่ความเป็นจริงชายหนุ่มถูกกีดกันไม่ให้เข้ามาในห้อง“ทำไมถึงคิดว่าคุณพ่อโกรธคะ”ผู้เป็นแม่ถามลูกสาวด้วยความสงสัยเพราะเธอคิดว่าลูกสาวควรเป็นฝ่ายโกรธผู้เป็นพ่อด้วยซ้ำ“ก็น้องปิ่นทำรถคุณพ่อเปื้อน และคุณพ่อก็โกรธ”“แต่ว่าคุณพ่อทำน้องปิ่นบาดเจ็บนะ น้องปิ่นต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายโกรธคุณพ่อ”“คุณพ่อไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นความผิดของน้องปิ่นเอง”“ไม่ตั้งใจงั้นหรอ?”หญิงสาวส่ายหน้าด้วยความเหนื่อยใจกับความไร้เดียงสาของลูกสาว“คุณปู่คะ คุณพ่อไม่ได้ตั้งใจทำน้องปิ่นเจ็บ คุณปู่อย่าดุคุณพ่อนะคะ”“ได้สิคะ ปู่จะไม่ดุคุณพ่อของหนู”ผู้เป็นปู่รีบรับปากหลานสาวเพราะต้องการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์“สัญญานะคะ”“
“นั่นเธอกำลังทำอะไรกับรถชั้น!”ชายหนุ่มกระชากแขนเด็กหญิงที่กำลังยืนวาดรูปตัวการ์ตูนด้วยปากกาเคมีหลากสี “คุณพ่อคะน้องปิ่นเจ็บ”“เดี๋ยวเธอจะได้เจ็บกว่านี้”พูดจบเขาก็เดินตรงไปหักกิ่งต้นไม้เล็กๆ “คุณพ่อคะหนูกลัว!เด็กหญิงเริ่มปล่อยโฮเมื่อเห็นกิ่งไม้ที่ผู้เป็นพ่อถือ “อยู่บ้านนี้คงมีแต่คนตามใจและไม่มีใครกล้าตีสินะ ชั้นนี่แหละจะเป็นคนตีคนแรก เพี้ย!“คุณพ่อน้องปิ่นเจ็บ”“เจ็บสิดีต่อไปจะได้จำ เพี้ย!ๆ”พูดจบเขาก็ฟาดกิ่งไม้ไปที่ก้นของเด็กหญิงอีกสองครั้งติด “คุณแม่! คุณแม่อยู่ไหนช่วยน้องปิ่นด้วย”เด็กหญิงที่กำลังโดนผู้เป็นพ่อตีร้องไห้โฮกลางสนามหญ้า พร้อมกับตะโกนขอความช่วยเหลือจากผู้เป็นแม่“น้องปิ่น!”ส่วนทางด้านหญิงสาวที่กำลังคุยธุระอยู่รีบตัดสายทิ้งทันทีเมื่อได้ยินเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือจากลูกสาว “ชั้นแค่ตีเพื่อสั่งสอน และนี่มันนี่มันยังน้อยไปด้วยซ้ำสำหรับสิ่งที่เธอทำลงไป”พูดจบชายหนุ่มก็เดินไปที่รถแล้วทิ้งให้เด็กหญิงยืนร้องไห้สะอึกสะอื้นเพียงลำพัง “คุณพ่อน้องปิ่นของโทษ”ด้วยความที่เด็กหญิงกลัวผู้เป็นพ่อโกรธแล้วไม่ยอมกลับมาที่บ้านอีก เธอจึงรีบวิ่งตามร่างใหญ่ที่กำลังสตาร์ทรถ“น้องปิ่นระวัง!”ส่
เช้าวันต่อมา…“คุณพ่ออยู่ไหน”ชายหนุ่มเดินเข้าบ้านด้วยใบหน้าที่ดูเหมือนกำลังไม่พอใจอะไรสักอย่าง“คุณท่านกำลังทานกาแฟอยู่ในห้องรับแขกค่ะ”เมื่อชายหนุ่มได้ยินดังนั้นก็เดินเข้าไปหาผู้เป็นพ่อด้วยท่าทีโกรธเคือง “นึกอยู่แล้วเชียวว่าแกต้องกลับมา”ผู้เป็นพ่อหันไปมองลูกชายด้วยสีหน้าเรียบเฉย“พ่อทำแบบนี้ทำไม”ส่วนชายหนุ่มก็มองผู้เป็นพ่อด้วยสีหน้าไม่พอใจ“ยังมีหน้ามาถามอีกหรอว่าทำไม”ชายสูงวัยลุกจากโซฟาแล้วเดินเข้าไปหาลูกชาย“พ่อทำแบบนี้กับผมไม่ได้”“ในเมื่อแกผิดคำพูดก็ต้องโดนแบบนี้แหละ”“พ่อต้องการให้ผมกลับมา ผมก็กลับมาแล้วนี่ไง”“กลับมาเพื่อขอให้พ่อปลดอายัดบัตรเครดิตให้แล้วก็ออกไปแบบนี้หรอ”“พ่ออยากให้ผมแต่งงานผมก็แต่งให้แล้ว พ่ออยากมีหลานผมก็มีให้ แล้วตอนนี้พ่อต้องการอะไรจากผมอีก”“พ่ออยากให้แกกลับมาอยู่บ้าน”“ไม่!ผมจะอยู่คอนโด”“คอนโดนั่นเป็นชื่อพ่อ พ่อจะขายทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ถึงตอนนั้นแกจะไปอยู่ที่ไหน”“พ่อจะขายคอนโดนั่นไม่ได้นะ มันเป็นของผม พ่อรับปากแล้วว่ายกให้ผม”“เอาเป็นว่าถ้าไม่อยากให้พ่อขายคอนโดนั่นทิ้งก็ทำตามที่พ่อสั่ง”ผู้เป็นพ่อตบไหล่ลูกชายแล้วก็เดินจากไป“ก็ได้ผมจะกลับมาอยู่บ้าน แต่มีข้
ณ คฤหาสน์หลังใหญ่ซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยผู้คนที่มาร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในวันครบรอบวันเกิดปีที่สี่ของเด็กหญิง และแขกส่วนใหญ่เป็นเพื่อนวัยอนุบาลของเจ้าของงาน บรรดาผู้ปกครองที่ตามมาดูแลลูกหลานต่างชื่นชมในความงดงามของคฤหาสน์หลังใหญ่ซึ่งภายในดูโอ่อ่าและหรูหราสไตล์ยุโรป บรรกาศชั้นหนึ่งในตอนนี้ดูครึกครื้นเป็นพิเศษเนื่องจากมีการจัดเตรียมของเล่นนานาชนิดสำหรับแขกวัยจิ๋ว “เจ้าหญิงน้อยลงมาแล้ว”เด็กหญิงวัยสี่ขวบในชุดเจ้าหญิงค่อยๆเดินลงบันไดพร้อมกับจูงมือผู้เป็นแม่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข“ไหนคุณตาบอกว่าไม่ว่างมาไงคะ”เมื่อเด็กหญิงลงบันไดมาแล้วพบกับผู้เป็นตาจึงรีบพุ่งเข้าหาด้วยความดีอกดีใจ “ก็ตามาเซอร์ไพรส์น้องปิ่นไง”“น้องปิ่นคิดถึงคุณตาที่สุดเลย ยายๆด้วย”“ตาก็คิดถึงหลานรักที่สุดในโลก”พูดจบผู้เป็นตาก็หอมแก้มหลานสาวฟอดใหญ่“วันเกิดปีนี้น้องปิ่นมีความสุขที่สุดเลยเพราะคุณพ่อก็จะมาด้วย”เด็กหญิงกล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม“น้องปิ่นคะ เราไปหาคุณปู่คุณย่ากัน”พูดจบคนเป็นแม่ก็จูงมือลูกสาวไปหาผู้เป็นปู่และย่า“คุณปู่คะ เมื่อไหร่คุณพ่อจะมา”“ปู่อุตส่าต์จัดงานวันเกิดให้แท้ๆแต่กลับถามหาพ
ตั้งแต่หญิงสาวรู้ตัวว่ากำลังจะได้เป็นแม่คน เธอก็เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ แต่เมื่อเข้าสู่เดือนที่สองเธอกลับต้องเผชิญกับอาการแพ้ท้องรุนแรงจนถึงขั้นนอนโรงพยาบาล และอาการแพ้ท้องรุนแรงก็ค่อยๆ หายเมื่อเข้าสู่ปลายเดือนที่สี่ ยิ่งนับวันท้องของเธอก็ค่อยๆ โตจนเข้าเดือนสุดท้ายเดือนที่ร่างอุ้ยอ้ายไม่สามารถขึ้นลงบันไดด้วยตัวเองดังนั้นทุกๆ ครั้งเธอเธอจะขึ้นลงบันไดก็จะมีคนรับใช้คอยประคอง“นิ่ม!” หญิงสาวเผยสีหน้าบิดเบี้ยวในขณะที่กำลังก้าวขึ้นบันไดพร้อมกับสาวใช้“คะคุณแพท”“ชั้นปวดท้อง”“ปวดท้องอีกแล้วหรอคะ”“รอบนี้น่าจะปวดท้องคลอดจริงๆ” หญิงสาวกุมท้องพร้อมกับแสดงสีหน้าที่ดูเจ็บปวด“งั้นเรากลับลงไปชั้นล่างกันเลยมั้ยคะ”“นิ่ม!!” หญิงสาวกรีดร้องออกมาเมื่อมีน้ำสีใสไหลออกจากช่องคลอด“ใครก็ได้ช่วยโทรเรียกรถโรงบาลที คุณแพทกำลังจะคลอด!” ทันทีที่สาวใช้เห็นน้ำคร่ำตรงพื้นบันได้จึงตะโกนเสียงดังลั่นคฤหาสน์“นิ่ม เบาๆ ก็ได้ชั้นไหวอยู่”“ก็นิ่มเป็นห่วงคุณแพทนี่คะ”สาวใช้ค่อยๆ ประคองร่างอุ้ยอ้ายลงบันไดด้วยความระมัดระวัง และไม่นานหลังจากที่เธอนั่งรอตรงห้องโถงรถของโรงพยาบาลก็มาถึง จากนั้นเธอก็ถูกส่งตัวไปคลอดที่โรงพย
1เดือนต่อมา..“นี่ถ้าลูกชายเรายังไม่ยอมกลับมาบ้านนะ ผมจะตัดพ่อตัดลูกกับมัน”ชายสูงวัยพูดกับภรรยาด้วยอารมณ์หงุดหงิด“ใจเย็นๆสิคะคุณ ให้เวลาลูกหน่อย”“ผมให้เวลาลูกมาเยอะแล้วนะ ส่วนลูกสะใภ้เราก็ไม่ได้เรื่อง ทีแรกนึกว่าจะเอาไอ่โปรดมันอยู่ ที่ไหนได้วันๆไม่คิดจะทำอะไรนอกจากนั่งวาดรูปแทนที่จะเร่งมีทายาทให้เรา”“คุณต้องเข้าใจหนูแพทด้วยสิ ก็เห็นๆกันอยู่ว่าลูกเราเป็นคนยังไง”บทสนทนาของคู่สามีภรรยาทำให้หญิงสาวซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกสะใภ้ได้ยินเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ นั่นจึงทำให้เธอยืนอึ้งไปชั่วขณะ “หนูแพท มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้”หญิงสูงวัยถามลูกสะใภ้ออกไปด้วยสีหน้าตกใจ“พอดีแพทเข้ามาหาน้ำผลไม้ดื่มค่ะ”“แล้วนี่แต่งตัวสวยเชียวจะออกไปไหนหรือเปล่า”หญิงสูงวัยถามลูกสะใภ้ด้วยน้ำเสียงสุภาพ“ไปหาหมอค่ะ”“ไปหาหมอ! แล้วเป็นอะไร เป็นหนักมั้ยจะให้แม่ไปเป็นเพื่อนหรือเปล่า”“ไม่เป็นอะไรมากค่ะ แค่มีอาการแพ้ท้องนิดหน่อย”“แพ้ท้อง? รู้ได้ยังไงว่ามันคืออาการแพ้ท้อง แล้วท้องกับใคร ใช่ลูกพี่โปรดมั้ย”หญิงสูงวัยเผลอพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดเนื่องจากไม่สามารถเก็บอาการตื่นเต้น “คุณแม่คิดว่าแพทนอกใจคุณโปรดหรอคะ?”หญิงสาวถามแม่สามีด้วยใบ







