อาหารค่ำของวันนี้ถูกจัดในห้องอาหารสไตล์การตกแต่งก็ยังคล้ายกับเมื่อวันนั้น ทั้งบอดี้การ์ดหลายคนรวมถึงแม่บ้านที่ยืนคอยรับคำสั่งไม่ห่างก็ยังเยอะเหมือนเดิม
อาหารก็ยังเป็นอาหารฝรั่งคอร์สใหญ่ แต่วันนี้เธอได้กินจนครบเซต ตบท้ายด้วยการจิบไวน์ขวดละหลายหมื่น "ทำไมถึงไปแย่งสามีอลินาเขาล่ะ" คำถามของคนตรงหน้าจังหวะเดียวกับที่เธอวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะพอดี ถ้าเขาเอ่ยถามตอนที่เธอกำลังจับมีดกับส้อมหั่นสเต๊กแสนอร่อยอยู่เธอคงได้วางมีดและหมดอารมณ์กินแน่ ไร้เสียงตอบจากคนตรงหน้า ฟาริสจึงได้เอ่ยถามต่อ "เธอก็จัดว่าหน้าตาดีนะ ทำไมคิดสั้นไปเอาผู้ชายอย่างไอ้สาธรนั่นได้ หรือเธอแค้นอะไรอลินาอยู่หรือเปล่า" "ทำไมฉันต้องแค้นคุณอลินา" "เพราะตอนนั้นฉันกลับไปคบกับอลินา เธอเลยแค้นเขางั้นซิ" "หึ คุณนี่ท่าจะหลงตัวเองน่าดูเลยนะคะ" ฟาริสไหวไหล่ไม่ได้สะทกสะท้านกับคำพูดของเธอสักนิด "ที่ฉันยอมนอนกับคุณครั้งนั้นเพราะคิดว่าคุณเลิกกับคุณอลินาแล้ว ถ้ารู้ว่าคุณแค่เฮิร์ตแล้วฟันผู้หญิงทิ้งเล่นๆ ฉันก็คงไม่นอนกับคุณหรอก อีกอย่างถ้าวันนั้นฉันไม่เมาฉันก็คงจะปฏิเสธคุณไปแล้ว" "แต่หลังจากนั้นเธอก็ไม่มีแฟนอีกเลยนี่ ลืมฉันไม่ได้ แต่ก็ยอมเป็นมือที่สามเอาไอ้สาธรนั่น" พราวฟ้าเหลือบสายตามองคนตรงหน้า เพราะเรื่องที่เขาพูดมามันคือเรื่องจริง เขาคงรู้ประวัติเธอไม่น้อย และตั้งแต่ครั้งนั้นเธอก็ยังไม่เคยมีแฟนหรือแม้จะนอนกับใครอีกสักครั้ง มันทำเธอไม่กล้ามีแฟน และได้แต่คิดว่ามันเป็นความผิดพลาดของตัวเองอย่างไม่น่าให้อภัย "ค่ะ ลืมไม่ได้ แต่เพราะ..." เธอแกล้งทำตาโตขึ้นเล็กน้อย ยกหัวไหล่นวลเนียนขึ้นทั้งสองพลางแบมือ คนมองได้แต่หรี่ตาคมดุจ้องคนตรงหน้า คล้ายถูกหยามอยู่ในที "จะบอกว่าเซ็กซ์ฉันห่วยงั้นซิ" "เปล่า" น้ำเสียงสูงคล้ายยิ่งตอกย้ำคำพูด แต่กระนั้นเธอก็ไม่รู้หรอกว่ามันห่วยจริงหรือเปล่า จำได้แต่ว่าครั้งนั้นมันเจ็บมากและเขาก็ไม่ได้อ่อนโยนกับเธอสักนิด ยิ่งในครั้งแรกเธอเจ็บจนน้ำตาซึม ครั้งสองก็ยังเจ็บแต่ก็เหมือนได้รู้สึกวูบวาบแปลกๆ ในตอนท้ายอยู่บ้างแม้จะบรรเทาความเจ็บในตอนนั้นได้ แต่สุดท้ายเช้าขึ้นเธอก็แทบจะเดินไม่ได้อยู่ดี "ยังไม่เคยมีใครบอกว่าฉันห่วยสักที อ้อ ลืมไปตอนนั้นมันเป็นครั้งแรกของเธอด้วย แต่ขนาดบอกห่วยอีกวันยังมาบอกขอฉันคบเป็นแฟนอยู่เลย" พราวฟ้าหน้าตึงขึ้นทันที จำตอนที่เขาปฏิเสธได้ดี ใบหน้าที่ชาจนไร้ความรู้สึกในวันนั้นคล้ายกับตอนนี้ไม่มีผิด ไวน์ในแก้วเธอถูกเติมไม่รู้กี่ครั้งแค่เฉพาะตอนที่อิ่มข้าวแล้วนั่งปะทะคารมกับเขา ใบหน้าหวานที่ประดิษฐ์ยิ้มอยู่เนืองๆ เกือบจะหลุดคาแรกเตอร์เสียก็หลายครั้ง "งั้นลองดูคืนนี้เธออาจจะเปลี่ยนคำพูดใหม่ก็ได้นะ" พราวฟ้าไม่ตอบได้แต่เบะปากน้อยๆ ให้อย่างน่าหมั่นไส้ คนที่รอดูก็รออยู่จนไวน์หมดไปอีกแก้ว ก็ยังไม่เห็นท่าทีว่าเขาจะชักนำให้เธอขึ้นเตียงสักที "ใจเย็นๆ" เหมือนคนตรงหน้าจะรู้ความคิดเธออย่างนั้นแหละ เมื่อเขาเอ่ยยิ้มๆ "เธอได้ขึ้นเตียงฉันสมใจแน่ แต่ตอนลงอาจจะต้องคลานลงนะ" "อยากหรือยัง" คำถามชวนให้คนชุดแดงขมวดคิ้ว ได้แต่คิดว่าเธอควรจะต้องตอบเขาอย่างไร ยังไม่ทันได้เอ่ยตอบ คิ้วที่ขมวดน้อยๆ เมื่อครู่ดูจะยิ่งมัดปมที่กลางหน้าผากแน่นขึ้น เมื่ออยู่ๆ เธอก็รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว จนต้องใช้มือลูบไปตามผิวเรียบลื่นของตัวเอง เหลือบสายตามองคนตรงข้ามเขายิ่งดูยิ้มกว้างกว่าเมื่อครู่ ดูมีเลศนัยไม่น้อย อาการร้อนๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ได้แต่คิดว่าเพราะเมาหรือเปล่า เพราะแอบดื่มไปไม่น้อยเลยทีเดียว พราวฟ้าหยิบแก้วน้ำเปล่าดื่มราวกับคนกระหายน้ำ อาการที่ร้อนๆ วูบวาบเมื่อครู่ก็ไม่หาย และดูเหมือนจะหนักขึ้นเมื่อเธอรู้สึกได้ถึงความต้องการบางอย่างที่ไม่สามารถหักห้ามใจได้ ท้องน้อยปั่นป่วนชวนให้เกร็งเสียวอยู่ภายใน ยิ่งมองคนตรงข้ามเธอก็นึกรู้ได้ทันที "คุณเอาอะไรให้ฉันกิน" "อาหาร ไวน์ ผลไม้ เมื่อกี้เธอดื่มน้ำเปล่าด้วย จำไม่ได้หรือ" คนตอบได้แต่ยียวน ส่วนเธอก็รับรู้อาการของตัวเองได้ชัดเจนขึ้น ยิ่งมองใบหน้าหล่อของคนตรงหน้าก็แทบลืมความบาดหมางลงทันทีเมื่อความต้องการแห่งขีดสุดได้เข้ามาแทนที่ ใช่ตอนนี้เธอต้องการเขา เพื่อช่วยระบายความต้องการแห่งกามารมณ์ที่เธอไม่สามารถจะทนมันได้อีกต่อไป "คุณฟาริส คุณวางยาฉัน สารเลว" "อ้าว คุณดาราหลุดคาแรกเตอร์ซะแล้ว งี้ต้องสั่งคัตนะเนี่ย" คนพูดได้แต่หัวเราะเบาๆ ราวกับคำด่าของเธอมันน่าขำอย่างนั้นแหละ "ไอ้..." "ใจเย็นน่า เดี๋ยวเธอได้สมใจแน่ ก็ฉันไม่อยากนอนกับท่อนไม้หรือตุ๊กตายางไร้อารมณ์ อยากนอนกับเธอแบบที่เธอก็ต้องการฉัน น่าจะสนุกดี" "ไอ้โรคจิต" "อย่างนี้ก็ดีนะ อย่างน้อยเธอจะได้ไม่ต้องฝืนใจมากไง เราจะได้จอยๆ กันสนุกๆ"ตอนเด็กชายราฟฟา อายุได้เกือบสองขวบ วงการบันเทิงก็มีข่าวใหญ่อีกครั้ง เมื่อสาธรประกาศแต่งงานรอบสองกับภรรยาคนเดิมอย่างอลินา ไม่ได้สร้างความแปลกใจให้ทั้งเธอและฟาริส สื่อต่างๆ อวยพรกันอย่างคับคั่งในวันแถลงข่าว แต่ก็มีสื่อบางสำนักที่ยังจำเรื่องราวในอดีตได้เป็นอย่างดี เอ่ยถามถึงเรื่องราวในครั้งนั้นทำนองว่าที่เลิกกันเป็นเพราะดาราสาวอย่างพราวฟ้า "สำหรับน้องพราว เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันครับ จริงๆ เธอเป็นน้องสาวของผม ลูกพี่ลูกน้องกันครับ พ่อผมกับแม่เธอเป็นพี่น้องคนละแม่ แต่ที่ตอนนั้นเราต้องปิดข่าวเพราะย่าผมไม่สบาย ท่านไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อน" คำตอบของสาธร สร้างเสียงฮือฮาให้สื่อทุกสำนัก จากนั้นก็ยังมีคำถามอีกมากมายที่ตามมา (ถ้าอย่างนั้นเรื่องที่คุณพราวเป็นมือที่สามก็ไม่ใช่เรื่องจริง) "ครับ" (คุณอลินาไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อนใช่ไหมคะ) "ใช่ครับ คุณอลินาไม่เคยทราบเรื่องนี้ เธอรู้เรื่องตอนงานศพย่าผมนั่นแหละครับ ได้เจอน้องพราวกันโดยบังเอิญในงาน" (คุณสาธรกับคุณอลินาเลยได้มีโอกาสกลับมาดีกันใช่ไหมคะ) "ครับ หลังจากนั้นผมกับอลินาก็ได้มีโอกาสกลับมาคุยกันอีกครั้ง จนถึงวันนี้ครับ
"คุณพ่อคะ คุณพ่อคะ ไหวใช่ไหมคะ" เสียงร้อนรนของพยาบาลที่เอ่ยถาม ชายหนุ่มรูปหล่อที่อยู่ในชุดปลอดเชื้อสีฟ้าเช่นเดียวกับคนท้องที่นอนอยู่บนเตียงผ่าตัด ฟาริสรับแอมโมเนียมาแล้วก็ขยับตัวมานั่งที่เก้าอี้สำหรับคุณพ่อ บริเวณหัวเตียงอย่างเดิม "ไหวไหมคะ ฟาริส" พราวฟ้าเอ่ยถามสามี ที่มีใบหน้าขาวซีดราวกับไก่ต้ม "วะ..ไหว พราวเจ็บหรือเปล่า" เอ่ยถามคุณแม่ที่นอนยิ้มหวานอยู่บนเตียง ได้ยินเพียงเสียงหัวเราะเบาๆ ในลำคอ "ยังไม่เจ็บหรอกค่ะ" ตอนนี้ยังไม่เจ็บ แต่ไม่รู้ว่าหลังจากยาหมดฤทธิ์แล้วจะเป็นอย่างไร ตอนนี้รู้สึกเพียงเย็นๆ อยู่ที่หน้าท้อง เหมือนมีมือหลายมืออยู่ที่นั่น "ถ้ากลัวเลือดก็อย่าไปมองซิคะ" "ไม่ได้กลัวเลือด แต่กลัวพราวเจ็บ" เพราะภาพที่เขาเห็นเมื่อครู่หลังจากที่หมอกรีดมีดอันเล็กลงที่ผิวหนังหน้าท้องของภรรยา เลือดก็ค่อยๆ ซึมออกมาจากเล็กน้อยกลายเป็นแดงเถือก ความกลัวในชีวิตแทบไม่เคยเกิดขึ้นอยู่ๆ เขาก็แทบเข่าทรุดอยู่ตรงนั้น ไม่ใช่กลัวเลือด แต่กลัวว่าคนที่นอนท้องโตให้หมอกรีดมีดลงไปจะเจ็บ เธอต้องอดทนขนาดไหน แพ้ท้องก็แสนทรมาน ยิ่งภาพเมื่อครู่ทำเขารู้สึกสงสารเธอขึ้นมาจับใ
เธอสวยกว่าทุกคนที่เขาเคยควง เธอน่ารักสดใสจนไม่อยากทำร้ายแต่ในขณะเดียวกันความเซ็กซี่ของเธอมันกลับเป็นตัวอันตรายที่ทำเขาอดใจไม่อยู่ไปพร้อมๆ กัน "อยากนอนกับฉันไหม" ใบหน้าหวานตื่นตกใจไม่น้อย แต่ตอนที่เขาจ้องมองเธอ ดวงตาคู่สวยกลับไม่ยอมหลบสายตา "เอ่อ..." เสียงครางในลำคออย่างคนที่ใช้ความคิด เธอคงกำลังตัดสินใจกับเรื่องตรงหน้า อย่างน้อยเขาก็ควรบอก "วันไนต์สแตนด์นะ" "เอ่อ..." เธอยังหาเสียงตัวเองไม่เจอ ไม่รู้ว่าตัดสินใจอย่างไร แต่ใบหน้านั้นหม่นลงเล็กน้อย "พอเดินได้ไหม เดี๋ยวฉันไปส่ง พักอยู่ที่ไหน" เห็นหน้าตื่นๆ ลังเลของเธอ เขาก็เลยยอมตัดใจ แต่พอคนตัวสูงลุกขึ้นยืน ข้อมือเขาก็กลับถูกรั้งเอาไว้ "ที่นี่หรือคะ" คำถามกล้าๆ กลัวของคนตัวเล็ก ทำความอดทนเขาขาดลงตรงนั้น ฟาริสนั่งลงที่โซฟาอย่างเดิม รั้งเอวบางของคนตรงหน้าให้ขยับตัวมาแนบชิด ฝ่ามืออีกข้างประคองท้ายทอยรั้งเข้าหา เขาจูบเธออยู่นาน จูบที่รู้ว่านั่นเป็นจูบแรกของเธอด้วยซ้ำ คนตัวเล็กที่จูบตอบกลับอย่างไม่ประสามันชวนให้อารมณ์แห่งความต้องการแสนดิบเถื่อนพลุกพล่าน ในคืนนั้นเขาจึงแทบจะไม่ได้อ่อนโยนกับเธอสักเท่าไร แต่กระนั้
"พราว แกไปไหนมาอ่ะ หายไปตั้งนาน" น้ำขิงเอ่ยทักเพื่อน แต่พอมองแก้วกาแฟในมือพราวฟ้าก็ได้แต่ร้องอ๋อ "ไปซื้อกาแฟที่ตึกบริหารอีกแล้วซิ" น้ำเสียงล้อเลียน พลางหลิ่วตาใส่เพื่อนอย่างรู้ทัน "ก็เราชอบกาแฟร้านนี้ มันอร่อยดี" "แล้วได้เจอไหมล่ะ" "อื้อ" คนตอบได้แต่ทำเสียงในลำคอ ใบหน้าหวานเห่อแดงขึ้นทันตา คนที่อยากเจอก็ได้เจอ เพียงแต่เขาไม่เคยเห็นเธอก็เท่านั้นเอง ในทุกวันจันทร์เธอจะสามารถเห็นฟาริสได้ที่โต๊ะหินอ่อนใต้อาคารบริหาร ซึ่งร้านกาแฟร้านโปรดของเธอก็อยู่ใกล้ๆ ตรงนั้น ในทุกวันอังคารช่วงเที่ยงเธอจะเจอเขาได้ที่ห้องสมุดของมหาวิทยาลัย แอบรู้ทีหลังจากพี่สาวน้ำขิงว่า ฟาริสจะมีชั่วโมงว่างตอนเที่ยงซึ่งจะต้องเข้าคลาสอีกทีก็เกือบบ่ายสอง หลังจากกินข้าวเสร็จเธอก็จะเจอเขาได้ที่ห้องสมุดบ่อยๆ แต่เขาก็ไม่เห็นเธออีกเช่นเคย เพราะคนที่มาห้องสมุดก็แค่เพื่อพักสายตาเท่านั้น บนโต๊ะมุมด้านในไม่มีหนังสือสักเล่ม มีเพียงใบหน้าหล่อเหลาที่ฟุบลงบนแขนของตัวเอง หลับตาตากแอร์เย็นฉ่ำอยู่ด้านใน เธอมีโอกาสเจอเขาครั้งแรกที่นี่เมื่อเดือนก่อน เพราะต้องมายืมหนังสือเพื่อทำรายงาน ขณะกำลังเขย่งปลายเท้าเพื่อห
สาธรรีบเดินมาต้อนรับพราวฟ้าผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องที่หน้าศาลา อธิปยื่นพวงหรีดขนาดใหญ่ส่งให้ สาธรรับไปแล้วก็เดินไปส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ของวัดช่วยจัดการ เธอเข้าไปรดน้ำศพคุณย่าของพี่ธรเสร็จแล้ว ก็เดินเลยไปทางชายชราที่นั่งอยู่เก้าอี้ไม้ตัวใหญ่อีกฝั่ง โดยมีฟาริสตามประกบไม่ห่าง "สวัสดีค่ะคุณตา" "พราว...เป็นไงบ้างลูก" "สบายดีค่ะ" "นี่ใช่ไหม คุณฟาริสที่เป็นข่าวว่ากำลังจะแต่งงานกัน" "ครับ สวัสดีครับ" "สวัสดี ขอบคุณนะครับที่ช่วยดูแลยายพราวอย่างดี ผมผิดต่อแม่ยายพราวไว้เยอะทีเดียว" "เรื่องอดีตช่างมันเถอะครับ พราวเขาก็ไม่ได้ติดใจอะไร ดูแกยังรักพี่ธรเหมือนพี่แท้ๆ อีกต่างหาก" ขนาดยอมลงทุนให้ตัวเองถูกสังคมด่า แม้อยากจะพูดต่ออีกหลายคำ แต่ฟาริสก็เพียงละไว้เท่านั้น เพราะนึกเห็นใจคนที่เพิ่งกำลังสูญเสีย "ตาขอโทษนะ" "ไม่เป็นไรเลยค่ะ คุณตาทำใจให้สบายนะคะ แต่อีกเดี๋ยวสักพักพราวอาจจะต้องกลับก่อนนะคะ ไม่แน่ใจว่าจะมาได้อีกหรือเปล่าค่ะ เอ่อ..คือ พราวกำลังท้องน่ะค่ะ การเดินทางอาจไม่ค่อยสะดวก" "อ้าว..จริงหรือ ตาดีใจด้วย..แค่นี้ก็ดีแล้วลูก ลำบากแย่" "งั้นเดี๋ยวพราวขอตัวก
แต่งฟ้าแลบ พราวฟ้า ประกาศสละโสดกับนักธุรกิจหนุ่มโพรไฟล์หรู ข่าวพาดหัวในเช้าวันใหม่ที่สร้างความฮือฮาให้กับวงการบันเทิงไม่น้อย ชื่อของฟาริส กลายเป็นที่กล่าวถึงไปโดยปริยาย หลายเพจข่าวที่ตีแผ่ประวัติแม้จะไม่ละเอียด แต่ก็พอรู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน ที่สำคัญและดูผู้คนจะสนใจคงไม่พ้น ไอ้นามสกุลต่อท้ายที่ถูกสื่อตั้งขึ้นให้ ฟาริส นักธุรกิจแสนล้าน และดูคำนั้นจะไม่เกินจริงสักนิด เสียงโอ้กอ้าก ที่ดังมาจากห้องน้ำ หญิงสาวตัวเล็กยืนโกงคออยู่เหนือชักโครกโดยมีชายหนุ่มตัวสูงใหญ่ยืนลูบหลัง "เป็นไงบ้าง โอเคไหม พราว" "ดีขึ้นแล้วค่ะ" ใบหน้าหวานขาวซีด ท่าทางอ่อนเพลีย เพราะตั้งแต่เช้านี่เป็นรอบที่สามที่เธอต้องรีบวิ่งเข้าห้องน้ำ อาการแพ้ท้องดูจะเล่นงานเธอไม่น้อย "ไปกินข้าวกัน เดี๋ยวจะได้กินยา" "ข่าวออกแล้วหรือคะ" "อืม ออกแล้ว ทำไมครับ คุณแม่กลัวเรตติ้งตกหรือไงที่จะต้องแต่งงาน" "กลัวคุณสามีแห่งชาติจะถูกสาวๆ รุมต่างหาก" "อันนี้ก็อาจจะจริง" คนท้องได้แต่ส่งสายตาเขียวๆ "ไหนว่าไม่ชอบเป็นข่าวไงคะ" "ทำไงได้ล่ะ ก็ได้เมียเป็นดารานี่ ว่างๆ จะผันตัวเองไปเป็นอินฟลูเอนเซอร์แล้วเนี่ย" "ค