เรื่อง...หวานใจเฮียมังกร คำโปรย อุบัติเหตุเพียงเล็กน้อยแต่กลับพลิกชีวิตครั้งใหญ่ เมื่อทั้งสองได้สลับร่างกัน แนะนำตัวละคร เฮียมังกร (เฮียกร) อายุ 34 ปี เจ้าของฟาร์มโคนม เขาหล่อ รวย เขาเป็นเพลย์บอย ไม่มีแฟน เน้นซื้อกิน อร่อยไม่ซ้ำจำหน้าไม่ได้ แต่เธอคนนี้จะเข้ามาในชีวิตของเขาในแบบจดจำไปทั้งชีวิตก็ไม่มีวันลืมเลือน น้ำมนต์ (ครูมนต์) อายุ 25 ปี คุณครูคนสวยที่เพิ่งย้ายเข้ามาประจำในโรงเรียนชนบท เธอเป็นคนกรุงเทพฯ มาอยู่ชนบทก็ใช้ชีวิตค่อนข้างยากแล้ว แต่ชีวิตของเธอยังยากไม่พอ เมื่อต้องมาสลับร่างกับเจ้าของฟาร์มโคนม @@@@@@@@@ ปล.นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแยก แต่งต่อจากเรื่อง หวานใจคุณพ่อลูกติด ค่ะ นิยายเซ็ตนี้ มีทั้งหมด 4 เรื่องค่ะ 1.เฮียช้าง = หวานใจคุณพ่อลูกติด 2.เฮียสิงห์ = หวานใจนายสิงหราช 3.เฮียธรณ์ = หวานใจนายเพลย์บอย 4.เฮียมังกร = หวานใจเฮียมังกร **สามารถแยกอ่านได้ทุกเรื่องไม่งงแน่นอนค่ะ
Voir plusเรื่อง...หวานใจเฮียมังกร
คำโปรย
อุบัติเหตุเพียงเล็กน้อยแต่กลับพลิกชีวิตครั้งใหญ่ เมื่อทั้งสองได้สลับร่างกัน
แนะนำตัวละคร
เฮียมังกร (เฮียกร) อายุ 34 ปี
เจ้าของฟาร์มโคนม เขาหล่อ รวย เขาเป็นเพลย์บอย ไม่มีแฟน เน้นซื้อกิน อร่อยไม่ซ้ำจำหน้าไม่ได้ แต่เธอคนนี้จะเข้ามาในชีวิตของเขาในแบบจดจำไปทั้งชีวิตก็ไม่มีวันลืมเลือน
น้ำมนต์ (ครูมนต์) อายุ 25 ปี
คุณครูคนสวยที่เพิ่งย้ายเข้ามาประจำในโรงเรียนชนบท เธอเป็นคนกรุงเทพฯ มาอยู่ชนบทก็ใช้ชีวิตค่อนข้างยากแล้ว แต่ชีวิตของเธอยังยากไม่พอ เมื่อต้องมาสลับร่างกับเจ้าของฟาร์มโคนม
@@@@@@@@@
ปล.นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแยก แต่งต่อจากเรื่อง หวานใจคุณพ่อลูกติด ค่ะ
นิยายเซ็ตนี้ มีทั้งหมด 4 เรื่องค่ะ
1.เฮียช้าง = หวานใจคุณพ่อลูกติด
2.เฮียสิงห์ = หวานใจนายสิงหราช
3.เฮียธรณ์ = หวานใจนายเพลย์บอย
4.เฮียมังกร = หวานใจเฮียมังกร
**สามารถแยกอ่านได้ทุกเรื่องไม่งงแน่นอนค่ะ
ตอนที่ 1 อุบัติเหตุ / เฮียมังกร
@มังกร
สวัสดีครับ ผมมังกร คนแถวๆนี้มักจะเรียกผมว่าเฮียมังกร อาชีพของผมก็คือเลี้ยงวัวขายนมนั่นแหละครับ ผมทำฟาร์มโคนมมาตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ จนถึงตอนนี้ก็ประมาณสิบปีแล้ว สถานะโสด ผมยังไม่มีแฟน วันๆอยู่แต่กับวัวจะเอาเวลาที่ไหนไปหาแฟนล่ะครับจริงมั้ย
ผมมีพี่น้องสามคน เป็นผู้ชายล้วน พี่ชายคนโต เฮียช้าง ทำงานอยู่กรุงเทพฯ พี่ชายคนกลาง เฮียสิงห์ เปิดรีสอร์ตและสวนผลไม้อยู่จังหวัดนครนายก ส่วนผมน้องชายคนเล็กสุด ทำฟาร์มอยู่สระบุรี
ชีวิตของผมก็ไม่ได้มีอะไรมาก ดื่มสุราเคล้านารี เมียไม่มีเน้นซื้อกิน ทำงานเหนื่อยๆกลับมาก็นอน คิดถึงคุณแม่ก็ขับรถไปหา ชีวิตวนเวียนอยู่แค่นี้ครับ
“เฮียครับ...เฮีย...” เสียงไอ้เด่นลูกน้องในฟาร์มตะโกนเข้ามาในบ้านเสียงดัง บ้านของผมเป็นบ้านปูนชั้นเดียว หลังไม่ได้ใหญ่มากนักแต่ก็ไม่เล็กเพราะว่าอยู่คนเดียว แม่บ้านไม่มี ภายในบ้านมีห้องนอนหนึ่งห้อง ห้องครัว ห้องรับแขก ห้องทำงานและห้องน้ำสองห้อง บางครั้งพี่ๆของผมก็มักจะพากันมาเที่ยวแต่ก็ไม่ได้บ่อยมากนัก ส่วนมากคุณแม่กับเฮียช้างจะมาแค่บ้านเฮียสิงห์ที่นครนายก เนื่องจากอยู่ใกล้กว่าส่วนผมก็จะเป็นคนขับรถไปหาเอง
“มึงจะเสียงดังทำไม มีอะไร...”
“กำนันเขาจะแต่งลูกสาว ฝากผมเอาการ์ดมาให้เฮีย กำนันฝากมาบอกว่าขอโทษที่ไม่ได้เอาการ์ดมาให้ด้วยตัวเองครับ”
“เออ...ไม่เป็นไร ไหนเอามาดูซิ” ผมเปิดดูการ์ด งานจัดขึ้นวันศุกร์หน้าที่จะมาถึงนี้
“ขอบใจมาก ไปทำงานต่อเถอะ เดี๋ยวสายๆเฮียเข้าไป”
“ครับ”
ผมอยู่บ้านคนเดียว ไม่มีแม่บ้าน ไม่มีคนทำกับข้าวให้ งานบ้านทุกอย่างผมเป็นคนทำเองทั้งหมด กับข้าวผมก็ทำกินเอง เพราะผมไม่ชอบรสชาติของกับข้าวซื้อ
เมื่อไอ้เด่นลูกน้องของผมเดินออกไปแล้ว ผมก็เริ่มเข้าครัว หุงข้าวทำกับข้าว หมูสไลด์เนื้อนุ่มๆผัดพริกแกงใส่พริกอ่อนและใบยี่หร่าหอมๆลงไปในกระทะ เพิ่มไข่เจียวสักสองฟอง ไม่นานอาหารฝีมือผมก็เสร็จพร้อมทาน...หอมมากเลยครับ
กินข้าวเช้าเสร็จ ผมก็เข้าฟาร์มเหมือนทุกวัน ลูกน้องของผมแต่ละคนก็จะมีหน้าที่เป็นของตัวเอง รีดนม ให้อาหาร อาบน้ำให้วัว ขนขี้วัวไปตากแดดให้แห้งเพื่อทำปุ๋ยคอกแล้วส่งให้กับสวนผลไม้ของเฮียสิงห์พี่ชายของผม ไม่ขายให้คนอื่นครับ ถึงเวลาลูกน้องที่สวนก็จะขับรถมารับเอาไปเอง แต่บางครั้งเฮียสิงห์ก็มารับเอง ส่วนงานบัญชีรายรับรายจ่ายของฟาร์ม ผมเป็นคนทำเองทั้งหมดครับ
“ไอ้กร...เร็วๆหน่อยดิวะ เดี๋ยวอีลูกโป่งก็ตายกันพอดี” เสียงไอ้หมอพนาเพื่อนผมเอง มันเป็นหมอสัตวแพทย์ ส่วนอีลูกโป่งก็คือแม่วัวที่กำลังจะให้กำเนิดลูกวัวครับ
“ก็รีบอยู่เนี่ย...ไปๆ” ผมกับไอ้หมอกลับมาเอาอุปกรณ์ที่บ้านนิดหน่อย จากนั้นก็พากันเข้าฟาร์มไปช่วยอีลูกโป่งทำคลอด ผมกับไอ้หมอช่วยอีแม่ทั้งเบ่งทั้งดึง จนสุดท้ายก็สำเร็จ ออกมาตัวเบ้อเริ่มร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดี ผมกับไอ้หมอนั่งชื่นชมลูกวัวตัวที่เพิ่งคลอดออกมาใหม่สักพักจากนั้นก็แยกย้ายกันไปทำงานของตัวเองต่อ
@น้ำมนต์
สวัสดีค่ะ ฉันน้ำมนต์ ฉันเกิดและโตที่กรุงเทพฯ พอดีว่าโรงเรียนแห่งนี้มีตำแหน่งคุณครูว่างพอดี ฉันก็เลยมา คิดว่าจะมาอยู่สักพักแล้วก็จะย้ายกลับค่ะ ฉันเป็นคุณครูประจำชั้น ป.2 เพิ่งมาทำงานที่นี่ได้แค่อาทิตย์เดียว ยังไม่ค่อยคุ้นชินกับที่นี่สักเท่าไหร่ คงต้องปรับตัวอีกเยอะ
ฉันทำงานบ้านไม่ค่อยเป็นเลยโดยเฉพาะกับข้าว ทำเป็นแต่ง่ายๆเช่นไข่เจียว ไข่ดาว ไข่ต้ม นอกนั้นไม่ต้องถาม มาอยู่ชนบทแบบนี้สำหรับฉันไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ในเมื่อมีตำแหน่งให้ลงก็ต้องมาค่ะ
ฉันมีรถเก๋งคันเล็กมาด้วยหนึ่งคัน พักอยู่ที่บ้านพักครู บ้านพักครูที่ไม่มีครูอยู่เลยค่ะ เพราะคุณครูที่นี่ส่วนมากจะเป็นคนพื้นที่จะอยู่บ้านส่วนตัวกันหมดค่ะ
“น้องมนต์ วันศุกร์หน้ากำนันเขาแต่งลูกสาวไปงานด้วยกันนะ” คุณครูหลิว คุณครูประจำชั้น ป.1 เดินมาชวนฉันไปงานแต่ง คุณครูหลิวไม่ใช่คนพื้นที่เหมือนฉันนี่แหละค่ะ อายุของเธอมากกว่าฉันนิดหน่อยมีสามีเป็นตำรวจ เธอพักอยู่กับสามีของเธอค่ะ
“ไปได้เหรอคะ”
“ไปกับพี่ไง สามีพี่เข้าเวรพี่ไม่มีเพื่อน ไปด้วยกันนะ จัดที่หอประชุมโรงเรียนเรานี่เอง”
“ค่ะ” เลิกงานแล้วก็ไม่รู้จะไปไหนธุระก็ไม่มี ฉันจึงตกลงไปร่วมงานแต่งด้วย อีกอย่างงานนี้ก็จัดขึ้นในโรงเรียน เห็นว่าเช่ายืมสถานที่ถ้าปฏิเสธก็คงไม่ดีมั้ง
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป
@งานแต่ง
งานกินเลี้ยงจัดขึ้นที่หอประชุมของโรงเรียนช่วงเย็น มีหลังคา กันแดด กันฝน แถมพื้นที่ยังกว้างขวางจุคนได้เป็นร้อย
“สวัสดีครับ เชิญด้านในเลยครับ / สวัสดีค่ะ เชิญด้านในเลยค่ะ” เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวยืนต้อนรับแขกอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าด้านหน้างาน เจ้าสาวสวมชุดสีขาวสวยหรูเห็นแล้วอยากใส่บ้างจัง แต่เนื้อคู่ของฉันไม่รู้ไปหลบอยู่ส่วนไหนของโลก ป่านนี้ยังไม่ปรากฏตัวอีก
“นั่งตรงไหนดีคะ พี่หลิว”
“ตรงนี้แล้วกัน ไกลลำโพงหน่อยเดี๋ยวคุยกันไม่ได้ยิน” ฉันกับพี่หลิวพากันนั่งลง บรรยากาศโดยรอบน่าสนุกดี เสียงเพลงดังกระหึ่งลั่นหอประชุม เวทีจัดได้สวยงามโดยช่างจัดงานมืออาชีพ นั่งลงไม่นานอาหารก็ค่อยๆทยอยนำมาเสิร์ฟ
“น้องมนต์” พี่หลิวหันมาสะกิดฉัน
“คะ”
“เห็นผู้ชายคนนั้นมั้ย”
“คนไหนคะ”
“สวมเสื้อสีแดงหน้าตาดีๆคนนั้นน่ะ”
“อ๋อค่ะ ทำไมเหรอคะ”
“เขาชื่อมังกร เป็นเจ้าของฟาร์มอยู่ด้านหลังหมู่บ้านนี่เอง”
“หล่อดีนะคะ น่าจะมีเมียแล้ว”
“โนๆค่ะ เขายังไม่มีใคร”
“พูดแบบนี้จะติดต่อให้มนต์เหรอคะ”
“เปล่าค่ะ พี่จะบอกว่าอยู่ให้ห่างๆเขาที่สุดเท่าที่จะทำได้ เจ้าชู้ตัวพ่อเลยค่ะ”
“ขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“มีผู้หญิงอยากลองของเยอะค่ะ ก็เขาทั้งหล่อ ทั้งรวยใครจะไม่ชอบล่ะจริงมั้ย สุดท้ายน้ำตาเช็ดหัวเข่ากลับไปทุกราย”
“น่ากลัวจังเลยนะคะ”
“ยิ่งกว่าที่คิดค่ะ ทานอาหารกันดีกว่า อย่าไปสนใจคนแบบนั้นเลย” ในขณะที่นั่งรับประทานอาหารกันอยู่นั้น ฉันเกิดรู้สึกปวดฉี่ขึ้นมาเนื่องจากดื่มน้ำเยอะไปหน่อย
“พี่หลิว มนต์ขอไปเข้าห้องน้ำสักครู่นะคะ”
“ให้พี่ไปเป็นเพื่อนมั้ย”
“ไม่เป็นไรค่ะ” สถานที่คุ้นเคย ห้องน้ำก็คุ้นเคย เพราะจัดขึ้นในรั้วโรงเรียน ทำธุระส่วนตัวเสร็จแวะส่องกระจกนิดหน่อยก่อนที่จะเปิดประตูเดินออกมา
“อ้าวฝนตก...เมื่อกี้ยังไม่ตกเลยนี่” บ่นเบาๆอยู่ในลำคอคนเดียว ซึ่งหอประชุมตรงที่จัดงานกับห้องน้ำค่อนข้างห่างกัน และแล้วฉันจึงเริ่มออกวิ่งผ่าเม็ดฝนเข้าหอประชุม แต่ระหว่างทาง...
“ปัก! ว๊าย!! ตุบ!” ฉันรู้สึกเหมือนว่าน่าจะวิ่งชนใครสักคน เป็นเพราะความหลับหูหลับตาวิ่งของฉันเองแท้ๆ ทันใดนั้นฉันล้มลงไปกับพื้นหลับตาปี๋ด้วยความตกใจ ริมฝีปากประกบเข้ากับอะไรสักอย่างมันนุ่มๆ รู้สึกเหมือนมีแรงดึงดูดเกิดขึ้นกับร่างกายของฉันพอสมควร เมื่อฉันเริ่มตั้งสติได้จึงค่อยๆลืมตาขึ้น
“อี๋!! ลุกออกไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ!” เดี๋ยวนะ! ทำไมเสียงของฉันถึงได้แปลกๆไป ฉันรีบลุกขึ้นมองหน้าคนตรงข้ามนั่นมันฉันนี่! ฉันหันซ้ายหันขวาเจอเข้ากับกระจกรถยนต์...เกิดอะไรขึ้น? ทำไมฉันในกระจกเป็นผู้ชายล่ะ
ตอนที่ 31 ครอบครัวสุขสันต์ / เฮียมังกร (จบ)“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”"อุ้มลูกก่อนค่ะ ใครมาแต่เช้ามืดแบบนี้นะ" น้ำมนต์ส่งลูกสาวมาให้ผมอุ้มไว้ จากนั้นเธอจึงเดินไปเปิดประตู"คุณหมอ...เชิญค่ะ" ผมมองไปที่หน้าประตูเห็นไอ้หมอพนาเพื่อนของผมเดินเข้ามา ตอนแรกว่าจะเอายัยหนูกินนมสักหน่อย ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว"ใครเป็นใครวะเนี่ย" ไอ้หมอทำหน้างงๆ มองผมทีมองน้ำมนต์ที"ให้ทาย..." ผมอุ้มยัยหนูน้ำฟ้าอยู่ที่แขน มองหน้ามันแล้วเอ่ยถาม"เอาจริงเหรอมึง" มันเดาถูกด้วย อาจจะเป็นเพราะความเคยชินความสนิทกันทำให้มันมองออก บางวันผมก็ผลัดๆกับน้ำมนต์อุ้มท้องเจ้าแฝด เราจะเลือกวันที่ไม่ได้ออกไปทำธุระที่ไหน อยู่แต่ในฟาร์มเท่านั้นครับหลายครั้งเข้า จึงทำให้ผมกับน้ำมนต์เข้าใจและมั่นใจ รู้เงื่อนไขของพรสวรรค์ของเราสองคนในเรื่องนี้ว่า...มันต้องหนึ่งวันถึงจะกลับไปเป็นตัวเองได้"ก็เออดิวะ เฮียมังกรซะอย่าง พูดแล้วไม่คืนคำ ทำเอง คลอดเอง นักเลงพอ" พูดจบยกคิ้วให้ไอ้เพื่อนยากของผมไปหนึ่งทีถ้าไม่ได้มันคอยช่วยเรื่องงานในช่วงแรกๆ ฟาร์มของผมอาจจะเจ๊งไปแล้วก็ได้ เพราะเมียผมเธอเป็นคุณนาย ตอนนี้เป็นคุณนายฟาร์มโคนมไปเรียบร้อยแล้วครับ เธอไม่ชอบทำงา
ตอนที่ 30 เจ็บท้อง / เฮียมังกรหลายเดือนผ่านไป ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าท้องฟ้าเปลี่ยนสี เสียงดีดกีต้าร์ของเจ้าของฟาร์มมักจะดังขึ้นในช่วงเย็นของทุกๆวันภายในบ้านตั้งแต่เฮียมังกรแต่งงานมีภรรยาเขาดูมีความสุขมาก เขามักจะชอบดีดกีต้าร์ให้เมียและลูกในท้องฟัง เป็นแบบนี้มาหลายเดือนแล้ว วันนี้เขาก็ยังดีดและเล่นมันอยู่“เฮีย...” น้ำมนต์คุณแม่ท้องแก่ใกล้คลอด นั่งฟังสามีของเธอดีดกีต้าร์อยู่เพลินๆ เธอเริ่มมีอาการเจ็บท้องขึ้นมา“ครับ” เสียงดีดกีต้าร์และเสียงร้องเพลงที่เฮียมังกรกำลังร้องอยู่หยุดลง เขาหันหน้าไปมองใบหน้าของภรรยาสุดที่รักตอนนี้ เห็นสีหน้าไม่ค่อยดีนัก“มนต์น่าจะเจ็บท้องค่ะ” ช่วงนี้อายุครรภ์ของคุณแม่ได้กำหนดคลอดแล้ว เหลือแค่รอเจ็บท้องแล้วไปโรงพยาบาล อุปกรณ์ทุกอย่างเตรียมไว้หมดแล้ว พร้อมที่จะคลอด ซึ่งเด็กในท้องก็มีถึงสองคน ส่วนเพศมองยังไงก็มองไม่เห็น คุณพ่อคุณแม่มือใหม่จึงเอาไว้ลุ้นตอนคลอด“เจ็บเยอะมั้ย เจ็บยังไง แล้วเฮียต้องทำยังไง” คนที่ดูจะตื่นเต้นเกินเหตุไปหน่อยก็เห็นจะเป็นเขานี่แหละ รู้สึกดีใจจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว“เอาของที่เตรียมไว้ขึ้นรถ แล้วไปโรงพยาบาลกันค่ะ” น้ำมนต์ต้องออกคำส
ตอนที่ 29 แพ้ท้อง / เฮียมังกรประจำเดือนของน้ำมนต์ขาดไปหนึ่งอาทิตย์แล้ว แต่ทั้งสองยังไม่ได้ไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ ว่าจะรออีกสักหน่อยเพื่อความชัวร์“อุ๊บ! อุ๊บ!” บนโต๊ะรับประทานอาหารเช้า ทั้งสองกำลังนั่งรับประทานอาหารกันอยู่ดีๆ อยู่ๆน้ำมนต์ก็เกิดมีอาการพะอืดพะอมขึ้นมา“มนต์เป็นอะไร” มังกรเห็นภรรยาทำท่าไม่ค่อยดีเขาจึงเอ่ยถามขึ้น“รู้สึกคลื่นไส้ค่ะ อุ๊บ!” พูดจบต้องรีบยกมือขึ้นมาปิดปากของตัวเองเอาไว้ แล้วจึงลุกขึ้นออกจากเก้าอี้ตัวที่นั่งอยู่ รีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปโก่งคออาเจียน โดยมีมังกรสามีของเธอวิ่งตามไปติดๆ“สงสัยเฮียจะได้ลูกสาวแล้วแหละ” เฮียมังกรพูดขึ้นยิ้มๆ เมื่อเห็นว่าภรรยาสุดที่รักมีอาการอาเจียนแต่เช้า แพ้ท้องชัวร์!“แล้วถ้าได้ลูกชายล่ะคะ” น้ำมนต์บ้วนปากเสร็จแล้วจึงหันมาถาม มังกรพาเมียเดินออกมาคุยกันที่ด้านนอกห้องน้ำ อาหารที่กินเข้าไปเมื่อสักครู่ออกมาเกือบหมดแล้ว“เฮียก็จะทำจนกว่าได้ลูกสาวไง”“บ้านเราทำฟาร์ม มนต์รู้สึกสงสารลูกสาวของเราจังเลยค่ะ” ส่วนน้ำมนต์เธออยากได้ลูกชาย“คนงานมี น้ำมนต์ของเฮียยังทำได้เลย” ตอนนั้นเธอเป็นเฮียมังกร ไม่ใช่คุณครูน้ำมนต์เหมือนตอนนี้ ส่วนช่วงที่กลับมาเ
ตอนที่ 28 แต่งงาน / เฮียมังกรสามเดือนผ่านไป งานแต่งของคุณครูน้ำมนต์กับเฮียมังกรเจ้าของฟาร์มโคนมได้จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ โดยขอเช่าสถานที่ของทางโรงเรียนที่คุณแม่ของน้ำมนต์เป็นคุณครูอยู่ วันนี้น้ำมนต์ได้สวมชุดเจ้าสาวอย่างที่ใจของเธอต้องการ ช่วงเช้าเธอสวมชุดไทยจักรพรรดิงดงามสีทองลูกไม้ สไบสองชั้น ชั้นล่างรองด้วยผ้าแพร ส่วนชั้นบนเป็นสไบปักดิ้นลวดลายงดงาม ผ้าซิ่นใช้ไหมอย่างดี มีเครื่องประดับสวยงามครบชุดแต่งหน้าทำผมด้วยช่างมืออาชีพ ส่วนเจ้าบ่าวสวมชุดโทนสีใกล้เคียงกับเจ้าสาว ทั้งสองร่วมทำพิธีมงคลสมรสด้วยกันในช่วงเช้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุขภายในงานจัดแบบเรียบง่ายก็จริงแต่บรรยากาศหรูหราอย่าบอกใคร หลังจากทำพิธีในช่วงเช้าเสร็จ แขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมแสดงความยินดีกับเจ้าบ่าวเจ้าสาว ได้ร่วมรับประทานอาหารด้วยกันโดยเจ้าสาวไปเปลี่ยนชุดมาใหม่ เป็นชุดราตรีสีขาวกระโปรงยาว ส่วนเจ้าบ่าวเปลี่ยนชุดใหม่เป็นสูทหรู มองดูหล่อเหลาจนสาวๆที่มาร่วมงานต่างอิจฉาเจ้าสาวกันยกใหญ่เวลาต่อมาทั้งคู่ได้จดทะเบียนสมรสและถ่ายรูปคู่กัน พิธีในงานวันนี้จัดแบบเรียบง่ายใช้เวลาจัดงานแค่เพียงวันเดียวจบ ส่วนห้องหอก็คือบ้านของเ
ตอนที่ 27 ธรรมชาติของเฮียมังกร / เฮียมังกรในทุกๆวันผมกับน้ำมนต์ก็ยังคงใช้ชีวิตไปตามปกติ ตื่นเช้าไปทำงาน ช่วงเย็นกลับบ้านมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปเข้าสู่ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์อีกครั้ง เวลาช่วงที่เรามีความสุขมันมักจะผ่านไปเร็วเสมอ“หายเป็นเมนส์หรือยัง” ผมตั้งหน้าตั้งตารอวันนี้มาหนึ่งอาทิตย์ ผมนอนรอเธออยู่บนเตียง สายตาของผมมองเธอเดินไปเดินมา ทำโน้นทำนี่ไม่ยอมเสร็จสักทีเธอนั่งอยู่ที่หน้าโต๊ะกระจก ทาครีมลงบนผิวหน้าเสร็จแล้วก็ต่อด้วยผิวตัว กลิ่นนี้หอมจนผมจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว แถมเสื้อผ้าก็ยังไม่ได้ใส่ ซึ่งมันเป็นภาพปกติที่ผมมักจะเห็นเป็นประจำ เธอไม่ได้อ่อยผมหรอกครับ แต่เธอแค่ไม่อาย ระหว่างเราไม่มีคำว่าอายครับ “เฮีย...จ้องจะกินกันขนาดนี้ มนต์กลัวนะคะ ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติไม่ได้หรือไง” เขาถามคำถามนี้กับฉันมาสามวันแล้วค่ะ ดูสิน่ากลัวขนาดไหน“นี่แหละธรรมชาติของเฮีย” รอมานานแล้ว ยังไงวันนี้ผมก็ต้องได้“ไม่ให้!” ฉันแกล้งพูด ยังไงฉันก็ให้อยู่แล้ว แต่ดูท่าทางตอนนี้ของเขาสิ อย่างกับเสือกำลังจะตะครุบเหยื่อ“โธ่มนต์...เฮียจะทนไม่ไหวอยู่แล้วนะ แป๊บเดียว นะนะ” เขานอนรอฉันอยู่บนเตี
ตอนที่ 26 คุณพ่อเพลย์บอย / เฮียมังกรช่วงบ่ายแก่ๆ ในขณะที่ผมกำลังนั่งคุยอยู่กับน้ำมนต์ที่หน้าบ้าน คุณแม่ส่งเสียงถามขึ้นมาจากทางด้านหลัง“กร...จะนอนค้างที่นี่หรือเปล่า แม่จะได้หาห้องให้นอน”“ไม่รบกวนดีกว่าครับ ผมจะไปหาคุณแม่ด้วย พรุ่งนี้ช่วงบ่ายๆผมจะมารับน้ำมนต์กลับสระบุรีด้วยกันนะครับ” พรุ่งนี้วันอาทิตย์ วันมะรืนน้ำมนต์ก็ต้องทำงานแล้ว“จ่ะ เอาอย่างที่ว่าก็ได้”“ถ้างั้นผมขอตัวเลยดีกว่า นี่ก็เย็นมากแล้ว” รถในกรุงเทพฯชอบติด กว่าจะถึงบ้านคงต้องให้เวลาพอสมควร“ขับรถดีๆลูก”“ขอบคุณครับคุณแม่...น้ำมนต์ เฮียกลับบ้านก่อนนะ ถึงแล้วเดี๋ยวโทรหา”“ค่ะ ขับรถดีๆนะคะ” ผมเข้าไปลาคุณพ่อในบ้าน จากนั้นจึงขับรถออกมาผมขับรถออกมาจากบ้านของน้ำมนต์ ในใจรู้สึกคิดถึง ช่วงเวลาที่ผ่านมา ผมมีเธออยู่ด้วยมาตลอด วันนี้แยกย้ายบ้านใครบ้านมัน รู้สึกคิดถึงเธออยู่มากเหมือนกัน ขับรถใจลอยๆสักพักก็ถึงบ้านคุณแม่“อ้าว...เฮียสิงห์ก็มาอยู่ที่นี่ด้วยเหรอเนี่ย” ผมพูดคนเดียว พอดีเห็นรถของเฮียสิงห์จอดอยู่ สงสัยคงพาคุณหมอกับลีโอมาเที่ยวหาคุณตากับคุณยายด้วยมั้ง“คุณแม่...ผมมีข่าวดีจะมาบอก” ผมเดินเข้าบ้านไปอย่างคนอารมณ์ดี เจอคุณแม่นั
ตอนที่ 25 กลับบ้าน / เฮียมังกรมังกรพาน้ำมนต์กลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ของเธอตามที่ได้เคยสัญญากับเธอเอาไว้ ทั้งสองออกจากฟาร์มแต่เช้าในวันหยุด มังกรแวะซื้อผลไม้กระเช้าใหญ่ไปฝากพ่อตากับแม่ยายด้วย“ใกล้ถึงแล้วค่ะ…หลังนี้ค่ะ เลี้ยวเข้าไปเลย” ผมเลี้ยวรถไปจอดตามที่เธอบอก บ้านของเธอเป็นบ้านทาวน์เฮาส์สามชั้น คุณพ่อคุณแม่ของเธออายุห้าสิบต้นๆยังทำงานกันอยู่ทั้งคู่คุณพ่อทำงานเป็นวิศวกรบริษัท ส่วนคุณแม่เป็นคุณครู น้ำมนต์มีพี่แต่ก็แยกย้ายกันไปทำงานและมีครอบครัวกันหมด เหลือเธอที่เป็นคนเล็กเพิ่งจะเรียนจบและเพิ่งบรรจุเป็นข้าราชการครู“มากันแล้วเหรอลูก” เมื่อรถจอดสนิทที่หน้าบ้าน คุณพ่อคุณแม่ของเธอออกมายืนรอต้อนรับ เพราะก่อนที่ผมกับน้ำมนต์จะออกจากฟาร์มมา น้ำมนต์ได้โทรมาบอกพวกท่านเอาไว้ก่อนแล้ว“สวัสดีค่ะ” น้ำมนต์เดินเข้าไปสวมกอดคุณแม่ของเธอด้วยความคิดถึง เธออยากกลับบ้านตั้งนานแล้ว วันนี้ได้กลับมาสักที ส่วนคุณพ่อท่านส่งยิ้มมาท่าทางลักษณะใจดี ไม่แพ้กับคุณแม่ของเธอเลย“พ่อคะ แม่คะ นี่เฮียมังกร แฟนมนต์เองค่ะ”“สวัสดีครับ”“สวัสดีลูก ป่ะๆเข้าบ้านกัน” คุณพ่อกับคุณแม่พาลูกสาวของพวกท่านเดินเข้าบ้าน ส่วนผมถือกระเช้
ตอนที่ 24 กลับคืนร่าง / เฮียมังกรเมื่อเวลาหมุนหมดไปอีกหนึ่งวัน ไม่มีใครรู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นอีก ไม่รู้ว่าวันไหนสิ่งที่ปรารถนาจะสมหวัง ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร มีแค่เพียงปัจจุบันเท่านั้นที่สามารถทำให้การมีชีวิตอยู่ในแต่ละวันมีความสุขได้ และการมีชีวิตอยู่ถือเป็นความโชคดีที่สุดแล้วหลังจากกลับมาจากปฏิบัติธรรม ตามที่หลวงพ่อได้ชี้ทางสว่างให้ จิตใจที่เมื่อก่อนเคยรู้สึกเป็นกังวลอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้เริ่มสงบนิ่งขึ้น“น้ำมนต์...ถ้าเราไม่ได้กลับคืนร่างเดิม คุณจะเสียใจมั้ย”“ฉันปลงแล้วค่ะ สิ่งเดียวที่ฉันอยากกลับมาเป็นตัวเอง เพราะฉันยังมีพ่อมีแม่ ฉันยังอยากกลับบ้านอยู่” ฉันไม่อยากบอกความจริงเรื่องนี้ให้พ่อกับแม่รู้ ฉันไม่อยากให้พวกท่านต้องเป็นห่วง ส่วนเรื่องกลับคืนร่างเดิม ตราบใดที่ฉันยังมีลมหายใจอยู่ ฉันก็ยังมีความหวัง“ถ้าเราได้กลับคืนร่างเดิมกันเมื่อไหร่ ผมจะเป็นคนพาคุณกลับบ้านเอง”“ขอบคุณนะคะ”...เมื่อเวลาผ่านไป การใช้ชีวิตของทั้งสองคนก็ยังคงดูแลกันและกันดีเหมือนเดิมเสมอต้นเสมอปลายหน้าบ้านช่วงหัวค่ำ ท้องฟ้ามืดมิด มีแค่เพียงแสงไฟจากหลอดนีออนดวงเล็กๆเท่านั้นที่ให้แสงสว่า
ตอนที่ 23 โชคชะตา / เฮียมังกรทั้งหมดพากันไปหาหลวงพ่อที่วัดตามเวลาที่ได้นัดกับท่านเอาไว้ นับจำนวนคนแล้วก็สิบคนพอดี“กราบนมัสการครับหลวงพ่อ” ทั้งหมดก้มลงกราบหลวงพ่อ ซึ่งดูเหมือนว่าหลวงพ่อจะนั่งรออยู่ก่อนแล้ว“เจริญพร...แล้วมาทำไมกันเยอะแยะขนาดนี้ล่ะ”“หลวงพ่อครับ ก็อย่างที่หลวงพ่อรู้ ผมกับน้ำมนต์มาขอให้หลวงพ่อช่วยครับ” ผมยกมือขึ้นพนมพูดกับหลวงพ่อตรงๆ“หลวงพ่อช่วยอะไรไม่ได้หรอก ทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันคือวิบากกรรม วาสนา และโชคชะตา ของโยมทั้งสองคนล้วนๆ” หลวงพ่อพูดด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ“หลวงพ่อครับ แล้วน้องชายของผมจะสามารถกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมได้มั้ยครับ” เฮียช้างยกมือขึ้นพนมขอตั้งคำถามบ้าง“เกิดเรื่องนี้ขึ้น ยังจะอยากกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมๆอยู่อีกรึ” ประโยคนี้หลวงพ่อพูดพร้อมกับมองไปที่ใบหน้าของมังกรที่อยู่ในร่างหญิง“ไม่ใช่ครับ ผมหมายถึงกลับเข้าร่างเดิมน่ะครับ” เฮียช้างขอพูดใหม่ ประโยคเมื่อสักครู่อาจจะฟังดูกำกวมไปหน่อย เฮียช้างไม่ได้หมายถึงชีวิตดื่มเหล้าเคล้านารีอย่างที่หลวงพ่อเข้าใจ“มาได้ก็ต้องกลับได้” ประโยคนี้ของหลวงพ่อทำให้ทุกคนมีความหวัง โดยเฉพาะเจ้าตัวที่กำลังเผชิญชะตากรรมอยู่ตอนนี้
Commentaires