หน้าหลัก / อื่น ๆ / หอบหัวใจหนีไปเป็นพ่อเลี้ยง / ตอนที่ 2 หมายตาพอเลี้ยงภาคิน

แชร์

ตอนที่ 2 หมายตาพอเลี้ยงภาคิน

ผู้เขียน: พุธระกา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-19 21:23:24

ตอนที่ 2 หมายตาพอเลี้ยงภาคิน

เขาเรียกให้เลขาให้เข้ามาพบ

ไม่ถึงอึดใจประตูห้องทำงานของภาคินก็ถูกเลขาส่วนตัวเปิดเข้ามาพร้อมกับคำถามตามมาติดๆ

"เจ้านายมีอะไรจะสั่งผมหรือครับ?"

"นายไปพบท่านผู้ว่ากับบุตรสาวแทนฉันทีบอกว่าฉันไม่อยู่!"เพราะก่อนหน้านี้เขาได้ถามพนักงานชายคนนั้นแล้วว่าได้บอกสองพ่อลูกนั้นไปหรือเปล่าว่าเขาอยู่ที่นี่!พนักงานชายคนนั้นตอบกลับมาว่าไม่ได้บอกเขาจึงไม่จำเป็นที่จะต้องออกไปพบท่านผู้ว่ากับบุตรสาว

"ครับนาย"

มาวินรับคำของผู้เป็นนายก่อนจะหันหลังให้แล้วเดินออกไปพบแขกผู้ที่มาขอพบผู้เป็นนายของพวกตน

ท่านผู้ว่าทรงกลดที่วันนี้ไปธุระมาแล้วนึกขึ้นได้ว่าตัวเองอยากจะสานสัมพันธ์กับพ่อเลี้ยงภาคินแห่งไร่ภาคินจึงได้พาบุตรสาวแวะเข้ามาทำความรู้จักและหวังในใจเอาไว้ลึกๆด้วยว่าบุตรสาวของตนจะไปต้องตาต้องใจพ่อเลี้ยงคู่เคร่งขรึมคนนี้ได้บ้าง

เกศินีเองก็พึงพอใจกับอาณาจักรของไร่ภาคินอยู่ไม่น้อย!เพราะที่นี่ทั้งใหญ่และอู้ฟู่สมกับเป็นไร่ชาระดับต้นๆของภาคเหนือ!ของประเทศ ที่นี่มีทั้งโฮมสเตย์แบบผสมผสานอยู่กว่าร้อยหลังแถมแต่ละหลังก็ดูงดงามเหมือนกับสรวงสวรรค์ก็ไม่ปาน ไหนจะร้านอาหารและ coffee shop แบบครบวงจรนั่นอีก¡สมกับเป็นไร่กาแฟที่ติดอันดับต้นๆของภาคเหนือจริงๆ

"พ่อคะพ่อว่ารายได้ของไร่ภาคินแต่ละเดือนแต่ละปีจะมีมูลค่าเท่าไหร่คะ เกศินีเมื่อมองดูรอบๆ ไร่ภาคินด้วยความพึงพอใจ แล้วจึงหันมาขอความคิดเห็นจากคนเป็นบิดา

"ก็น่าจะหลายอยู่นะดูสิไร่ชานี่สิ...สุดลูกหูลูกตาไม่มีที่สิ้นสุดเลย!แถมยังจะมีโฮมสเตย์ที่เรียงรายอยู่ตีนเขานั่นอีกดูคร่าวๆ แล้วก็ไม่น่าจะต่ำกว่าร้อยหลัง!ยังจะมีร้านอาหารร้านกาแฟที่ครบวงจรนี่อีก..ที่นี่สมกับเป็นอาณาจักรของไร่ภาคินจริงๆ!"ผู้ว่าทรงกลดเอ่ยชื่นชมออกมาด้วยความสนอกสนใจ พลางในใจก็เกิดอยากจะมีส่วนร่วมในอนาจักรภาคินขึ้นมาจริงๆ

"เกดรู้มาว่าพ่อเลี้ยงภาคินเป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัวและยังไม่มีครอบครัว ยังครองตัวเป็นโสดใช่ไหมคะพ่อ"เกศินีถามคนเป็นพ่อด้วยความอยากรู้

"อืม!.."

"พ่อเองก็ได้ยินมาเช่นนั้นเหมือนกันแต่เอาจริงๆ น้อยคนมากที่จะได้เจอตัวเป็นๆของพ่อเลี้ยงภาคิน บ้างก็บอกว่าเขาหน้าตาดูไม่ได้เลยไม่อยากออกสังคม บ้างก็บอกว่าเขาหล่อและดูดี แต่อันที่จริงแล้วมันก็แค่คำบอกเล่าของใครหลายๆคนก็เท่านั้น"ผู้ว่าทรงกลดเอ่ยกับบุตรสาว

"ถ้ายังโสดและไม่มีใครมันก็น่าสนใจนะคะพ่อดูอาณาจักรของที่นี่สิถ้าแปลเป็นเม็ดเงินแล้วมันคงมหาศาลใช้ไปจนวันตายโดยไม่ต้องทำอะไรเลยก็อยู่ได้สบายๆ"เกศินีพูดพลางยิ้มให้กับตัวเอง!อย่างพึงพอใจ เพราะเธอไม่สนใจหรอกว่าเจ้าของของที่นี่จะหน้าตาเป็นยังไง เธอสนแค่ทรัพย์สินเงินทองที่เป็นของเขาก็แค่นั้น! ส่วนผู้ชายถ้ามีเงินแล้วจะหาหล่อๆ อีกกี่คนก็ได้เธอคิด

อันที่จริงแล้วครอบครัวของท่านผู้ว่าทรงกลดก็เป็นแค่ครอบครัวข้าราชการกินเงินเดือน!ไม่ได้ร่ำรวยมาจากไหน!อาจจะมีกินนอกกินในบ้าง แต่มันก็ยังไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายของภรรยาและลูกสาวที่ใช้เงินเป็นน้ำเพื่อที่จะดีดตัวเองให้อยู่ในสังคมชั้นสูง!

"สวัสดีครับท่านผู้ว่า"

และในระหว่างที่ 2 พ่อลูกกำลังคุยกันอยู่นั้นเสียงทุ้มต่ำของผู้ชายก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของสองพ่อลูก ทำให้สองพ่อลูกหยุดเรื่องราวที่คุยกันค้างเอาไว้ชั่วครู่ก่อนจะหันไปทางเสียงของผู้ชายปริศนา

ผู้ว่าทรงกลดและบุตรสาวหันไปทางต้นเสียงของผู้ทักทายก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นว่าใครที่เข้ามาทักทายตนกับบุตรสาว

"อ้าว!!คุณมาวิน"

ผู้ว่าทรงกลดเอ่ยทักคนที่เข้ามาต้อนรับตนกับบุตรสาวทันทีที่เห็นหน้าได้ชัดเจน!พลางมองผ่านไปทางด้านหลังหาว่ามีใครตามหลังมาหรือเปล่า แต่ก็ไม่เห็นว่ามีใครเดินตามหลังของมาวินเข้ามาเลยแม้แต่คนเดียว ทำเอาท่านผู้ว่าทรงกรดแอบเสียดายอยู่ไม่น้อย

"ขอโทษท่านผู้ว่าด้วยนะครับที่ปล่อยให้ท่านผู้ว่ากับคุณเกศินีรอนาน"มาวินเคยขอโทษคนทั้งสองด้วยน้ำเสียงสุภาพ ถ้าจะว่าไป 2 พ่อลูกนี้เขาก็พอจะรู้จัก และคุ้นเคยอยู่ไม่น้อย เพราะเวลาไปออก งานแทนเจ้านายก็มักจะเจอท่านผู้ว่าทรงกลดอยู่บ่อยๆ

"อ้อ!!.."

"คุณรู้จักฉันด้วยหรือคะ"เกศินีถามชายหน้าตาดีที่ติดอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนกางเกงยีนส์สีซีดด้วยความสงสัย

"พอจะรู้มาบ้างครับ!คุณเกศิณีอาจจะไม่รู้จักผมแต่ผมรู้จักคุณเกศินีครับ!คุณเกศินีเป็นคนดังในเมืองเหนือนี้จะตายไม่มีใครที่ไม่รู้จักคุณหรอกครับ"มาวินเอ่ยพลางแย้มยิ้มออกมา ส่งให้ใบหน้าที่หล่อเหลาอยู่แล้วมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น

"อ้อ!..ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ"เกศินีเอ่ย พร้อมกับยิ้มออกมาอย่างขวยเขิน

มาวินยิ้มให้กับคนตรงหน้าอย่างมีมารยาทแล้วหันกลับไปเอ่ยกับผู้ว่าทรงกลดด้วยน้ำเสียงสุภาพ เช่นเดิม

"ผมต้องขอโทษท่านผู้ว่าด้วยนะครับที่ปล่อยให้ท่านรอนานพอดีว่าผมติดประชุมอยู่นะครับเลยลงมาช้า!พอดีว่าเจ้านายไม่อยู่นะครับไปพบลูกค้าข้างนอก"มาวินเอ่ยด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม

"พ่อเลี้ยงไปพบลูกค้าข้างนอกอย่างนั้นหรือครับ?"ผู้ว่าทรงกรดถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ เพราะที่เขาได้ยินมาพ่อเลี้ยงภาคินไม่เคยออกจากไร่เลยนอกจากจะมีเรื่องจำเป็นจริงๆ แต่จะให้เขาเซ้าซี้ถามมันก็จะดูน่าเกลียด

"ครับพอดีว่าลูกค้าท่านนี้เพิ่งจะบินมาจากต่างประเทศ เพื่อมาเจรจาธุรกิจกับเจ้านายนะครับ เจ้านายเลยต้องไปรับรองด้วยตัวเอง"มาวินตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้กับคนทั้งสอง

"อ้อ!!."

"น่าเสียดายจัง!ถ้าอย่างนั้นผมก็มาสิไปเที่ยวสิครับ"ผู้ว่าทรงกลดเอ่ยขึ้นอย่างผิดหวัง

"ผมต้องขอโทษท่านจริงๆ นะครับ ที่ทำให้ท่านมาเสียเที่ยว"มาวินเอ่ย

"ไม่เป็นไรๆผมแค่ผ่านมาน่ะเลยอยากจะเข้ามาทักทายพ่อเลี้ยงเสียหน่อยถ้าพ่อเลี้ยงไม่อยู่ก็ไม่เป็นไร"ผู้ว่าทรงกรดเอ่ยอย่างเสียดายแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

"ถ้าอย่างนั้นไหนๆท่านก็มาแล้วผมขอเลี้ยงข้าวท่านสักมื้อนะครับก่อนกลับ"มาวินเอ่ยพรางเชื้อเชิญให้คนทั้งสองทานข้าวที่ร้านอาหารของทางไร่

"โอ้!!..ยินดีครับยินดี!"

ผู้ว่าส่งกรดรีบรับปากในทันทีด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

"ถ้าอย่างนั้นเชิญทางนี้เลยครับ"มาวินเอยเชื้อเชิญคนทั้งสองไปยังห้องรับรองที่ดีที่สุดของทางร้าน

เกศินีมองตามคนที่เดินนำหน้าด้วยแววตาสนอกสนใจ!ทั้งหน้าตาและบุคลิกไม่เลวเลยจริงๆ ผู้ชายแบบนี้เก็บเอาไว้แก้ขัดก็คงจะดีอยู่ไม่น้อย!เกศินีคิดพลางยิ้มให้กับความคิดของตัวเองก่อนจะเดินตามหลังบิดาไปติดๆ โดยมีสายตาของพ่อเลี้ยงภาคินยืนดูคนทั้ง 3 มองมาจากมุมสูงด้วยใบหน้าเฉยชาแววตาเยือกเย็น

โดยมีต้นกล้ายืนอยู่ทางด้านหลังของผู้เป็นนายอยู่อย่างเงียบๆ

อีกมุมหนึ่งของเมืองกรุงเทพฯ

คุณวิภานั่งอยู่บนโซฟาด้วยใบหน้าเศร้าหมองแววตาไร้ชีวิตชีวา รอคนเป็นสามีกลับจากที่ทำงานอย่างใจจดใจจ่อ ไม่นานก็มีรถเข้ามาจอดนายวีระพลเดินลงจากรถด้วยท่าทีอ่อนล้าโดยมีเลขาส่วนตัวเดินถือกระเป๋าเอกสารตามหลังมาติดๆ

นางวิภาเห็นสามีก็รีบลุกขึ้นจากโซฟาทันทีด้วยความดีใจ

"คุณพลคะ!คนยังให้ลูกน้องของคุณตามหาตาภาคินอยู่หรือเปล่าคะ!"นางวิภาถามสามีทันทีที่เจอหน้า แล้วมันก็เป็นแบบนี้ทุกวันตลอด 5 ปีที่ผ่านมา

"ก็ยังตามอยู่แต่ยังไม่เจอตัวตาคิน"คนเป็นสามีตอบ คำตอบของคนเป็นสามีทำเอานางวิภาถึงกับคอตกใบหน้าหมองเศร้าลงทันใด

"5 ปีแล้วนะคะ 5 ปีแล้วที่ลูกหนีออกจากบ้านไป 5 ปีแล้วที่ฉันไม่ได้เจอหน้าลูก!"นางวิภาพูดทั้งน้ำตาเมื่อนึกถึงหน้าบุตรชายเพียงคนเดียวของตนก็พลันให้รู้สึกปวดใจ

นายวีระพลมองภรรยาด้วยความรู้สึกสงสาร!แต่จะให้เขาผิดคำพูดกับบุตรชายเขาก็ไม่คิดจะทำ!เพราะการที่บุตรชายหนีออกจากบ้านไปมันก็เป็นความผิดของภรรยาของเขาเช่นกันที่เข้าไปวุ่นวายกับชีวิตของลูกจนเกินไป จนชีวิตของบุตรชายเพียงคนเดียวของเขาต้องพังทลายลงอย่างไม่มีชิ้นดีเพราะฝีมือของคนเป็นแม่แท้ๆของตัวเอง

"ฉันอยากจะขอโทษลูก!ฉันอยากจะบอกกับลูกว่าแม่คนนี้ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้ชีวิตของลูกต้องเป็นแบบนี้ ฉันอยากจะขอโทษลูกอยากจะเจอลูก"นางวิภาปาดน้ำตาออกจากตาด้วยความเสียใจในการกระทำในอดีตของตัวเอง

นายวีระพลมองภรรยาด้วยความหนักใจแต่ก็ไม่อาจที่จะเสียสัจจะกับคนเป็นลูกได้

"ซักวันลูกก็คงจะกลับมาเองแหละ!"คนเป็นสามีได้แต่ปลอบใจ

"แล้วเมื่อไหร่ลูกจะกลับมาล่ะคะรอให้ฉันตายไปก่อนหรือยังไง?"นางวิภาถามสามีด้วยน้ำเสียงสะอื้น

"ผมเชื่อว่ายังไงเสียลูกก็คงจะยังตามดูข่าวของเราอยู่ตลอดนั่นแหละคุณคุณก็รู้ว่าผมกับคุณทำอะไรก็เป็นข่าวไปหมด คนอื่นเห็นมีหรือที่ตาคินจะไม่เห็น"นายวีระพลเอ่ยปลอบใจภรรยา

เป็นอย่างเช่นคำที่นายวีระพลพูดเพราะคนที่ถูกเอ่ยถึงกำลังมองดูเนื้อข่าวของคนเป็นพ่อและคนเป็นแม่ที่ออกงานสังคมอยู่ไม่ขาด!แต่ก็ไม่คิดที่จะกลับไปหาคนทั้งสองในตอนนี้ เพราะเขาเชื่อว่าบิดาของเขายังคงแข็งแรงอยู่และก็ยังมีผู้ช่วยมือดีอยู่ข้างกายเขาจึงไม่ได้เป็นห่วงท่านมาก!.ส่วนเขาเองก็ค่อยดูบิดาของตัวเองอยู่ห่างๆคอยช่วยเหลืออยู่ห่างๆ ก็พอ

เสียงประตูเปิดเข้ามาทำลายความคิดของภาคินที่กำลังจ้องมองรูปภาพของบุพการีทั้งสองด้วยความคิดถึง และเจ็บปวดใจไปในคราวเดียวกันกับความไม่เอาไหนของตัวเองในอดีต

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หอบหัวใจหนีไปเป็นพ่อเลี้ยง   ตอนที่ 23 ผิดหวัง

    ตอนที่ 23 ผิดหวัง ธารธารามองบิดาที่ทำหน้าขึงขังตะคอกใส่เธอด้วยความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจก่อนจะเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่แห่พร่า "น้ำถามพ่อจริงๆเถอะค่ะ พ่อเคยรักน้ำบ้างไหม? นอกจากเห็นน้ำเป็นคนงานในไร่แล้วพ่อเคยเห็นน้ำเป็นลูกของพ่อบ้างไหม?"เธอถามพร้อมกับมองหน้าบิดาด้วยน้ำตานองหน้า "ทำไมฉันจะไม่รักแกคุณนาทเองเขาก็รักแกเหมือนกับลูกในไส้ของเขาเสียด้วยซ้ำ" "ถ้าคุณพ่อบอกว่าพ่อรักน้ำ แล้วทำไมสิ่งที่เพลงทำกับน้ำพ่อไม่เห็นจะตำหนิเพลงเลยแม้แต่คำเดียวล่ะคะ แต่พ่อกลับมาตำหนิน้ำ ทั้งๆที่น้ำไม่ได้เป็นคนทำอะไรผิดทั้งๆ ที่น้ำเป็นคนถูกกระทำ นี่เหรอคะการ กระทำของพ่อที่บอกว่ารักลูกเท่ากัน..?"เธอถามทั้งน้ำตา "แล้วแกจะให้ฉันทำยังไงในเมื่อเรื่องมันก็เกิดขึ้นมาแล้วแล้วแกเองก็เป็นคนพูดเองกับปากว่าจะไม่แต่งงานกับตาภพแล้ว"สันติเอ่ยออกมาด้วยคิดว่าท่าบุตรสาวยกเลิกงานแต่งไปแล้ว มันก็ไม่ผิดที่บุตรสาวคนเล็กที่หลงรักคู่หมั้นของพี่สาวของตัวเองมากมายขนาดนี้จะเข้ามาอยู่แทนที่ เธอมองบิดาด้วยความรู้สึกผิดหวัง "โดยที่พ่อมาขอคู่หมั้นของน้ำให้กับลูกสาวคนเล็กของตัวเองแบบนี้นี่นะคะ?พ่อทำได้ยังไงคะ? พ่อใจร้ายกับหนูมากเลย

  • หอบหัวใจหนีไปเป็นพ่อเลี้ยง   ตอนที่ 22 เผชิญหน้ากับความจริง

    ตอนที่ 22 เผชิญหน้ากับความจริง "นะคุณไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยฉันไม่อยากจะไปพบคนพวกนั้นคนเดียวจริงๆ"เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา ภาคินมองคนที่เขาหลวมตัวไปยุ่งเกี่ยวด้วยตั้งแต่แรก พลางถอนหายใจออกมาหนักๆ อย่างหลีกเลี้ยงไม่ได้ มองดูอีกที่ก็เห็นสายตาร้องขอกำลังจดจ้องเขาอยู่ "อืม..ก็ได้" เขาจึงจำใจต้องตอบตกลงไปเป็นเพื่อนของเธอ เพื่อไปพบกับครอบครัวของคู่หมั้นและครอบครัวของตัวเองในครั้งนี้อย่างจำใจ ณไร่ธารธารา หลังจากที่ 3 คนพ่อแม่ลูกกลับไปแล้วนายสันติก็เอาแต่นั่งสองมือกุมขมับพิงพนักโซฟาด้วยความเหน็ดเหนื่อยและเหนื่อยใจ ข้างกายมีนางศิริมาถค่อยปล่อบประโลมอยู่ไม่ห่าง ห่างออกไปมีบุตรสาวคนเล็ก นั่งจิ้มโทรศัพท์อยู่โดยไม่มีท่าทีทุกข์ร้อนใจอะไร ท่าทีสบายใจของบุตรสาวทำเอานางสิรินาถ ถึงกับมองด้วยความแปลกใจ แต่นางก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะคิดว่าบุตรสาวคนเล็กยังเด็ก ในขณะที่คนทั้ง 3 กำลังนั่ง ต่างคนต่างก็คิด ถึงเรื่องต่างๆอยู่นั้นก็มีเด็กรับใช้วิ่งเข้ามาด้วยหน้าตาตื่นตกใจและดีใจไปในคราเดียวกัน "พ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงเจ้าขา คุณน้ำกลับมาแล้วค่ะ" เสียงร้องโหวกเหวกของเด็กรับใช้วิ่งเข้ามาหาคนทั้งสาม นายสันติเมื่อได้

  • หอบหัวใจหนีไปเป็นพ่อเลี้ยง   ตอนที่ 21 ผิดแผน

    ตอนที่ 21 ผิดแผนสันติยังมีใบหน้าเคร่งเครียด ถึงจะได้ฟังเหตุผลที่บุตรสาวหนีไปก็เถอะ "ไม่มีเรื่องผู้หญิงคนอื่นใช่ไหม?"สันติยังคงอดที่จะถามไม่ได้คำถามของว่าที่พ่อตาทำเอาปองภพถึงกับหน้าเสีย กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก"ไม่มีครับคุณอา ผมรักน้ำ ผมมีแค่น้ำคนเดียวครับ?"เขาพูดพลางปลายตาไปมองยังหญิงสาวอีกคนด้วยแววตาข่มขู่เพลงพิณเมื่อได้รับสายตาข่มขู่ และคำพูดของผู้ชายที่เธอรักบอกกับทุกคนว่าเขารักพี่สาวของเธอและในใจก็มีเพียงพี่สาวของเธอคนเดียว มันทำให้เธอถึงกับรับไม่ได้ ความเสียใจและน้อยใจมันก็ตีตื่นขึ้นมาจนเธออยากจะตะโกนถามออกไปต่อหน้าของเขาว่า แล้วเธอล่ะ? เป็นอะไร? ไม่มีส่วนใดสำคัญกับชีวิตเขาบ้างเลยหรือยังไง? เมื่อทนรับฟังต่อไปไม่ไหวเธอจึงลุกขึ้นยืนก่อนจะหันไปบอกกับมารดาสียงแข็ง"คุณแม่คะ! พอดีว่าลูกน้องที่ร้านโทรมาว่ามีเรื่องด่วนเพลงจะต้องออกไปเดี๋ยวนี้เพลงไปก่อนนะคะ" เธอพูดพลางมองหน้าของปองภพด้วยแววตาตัดพ้อ ก่อนจะเดินสะบัดหน้าเดินผ่านหน้าเขาออกจากห้องรับแขก โดยมีสายตาของคนทั้ง 4 มองตามด้วยความมึนงง? และไม่เข้าใจในอารมณ์ของหญิงสาว แต่กระนั้นนางศิรินาถก็ยังหั

  • หอบหัวใจหนีไปเป็นพ่อเลี้ยง   ตอนที่ 20 ความเสียใจ

    ตอนที่ 20 ความเสียใจ อีกด้านหนึ่งภายในห้อง ธารธาราที่เผลอหลับไปด้วยความเมื่อยล้าทั้งกายและใจ ตื่นขึ้นมาอีกทีท่ามกลางห้องที่ไม่คุ้นเคยตา กว่าเธอจะตั้งสติได้ว่าเธอมาขออาศัยอยู่ที่ไร่ชาภาคิน ก็กินเวลาไปเกือบนาที เธอมองออกไปด้านนอกหน้าต่างที่มีไร่ชากว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาด้วยความหม่นเศร้า ยิ่งนึกไปถึงคนรักและผู้หญิงที่เป็นเพื่อนรักและน้องสาวเพียงคนเดียวของตัวเองมันก็ยิ่งทำให้เธออยากจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง พรางก็นึกสมเพชตัวเองที่ถูกเพื่อนสนิทและน้องสาวที่เธอทั้งรักและเอ็นดูหักหลัง ถ้าทั้งสองคนนั้นบอกกับเธอดีๆว่าชอบคนรักของเธอ เธอเองก็จะยอมหลีกทางให้แต่โดยดี เพราะเธอเองก็ไม่คิดที่จะแบ่งผู้ชายของตัวเองให้ผู้หญิงคนอื่นไปใช้เช่นกัน ถ้าเธอรู้ เธอก็จะยกให้อย่างไม่คิดที่จะเสียดายเลยแม้แต่นิดเดียว แต่คนพวกนั้นเลือกที่จะแทงข้างหลังเธอ ทำร้ายเธออย่างเลือดเย็น ในโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีที่เธอรู้เรื่องสกปรกโสมมของคนพวกนั้นก่อนที่เธอจะได้แต่งงานกับเขา และตกนรกทั้งเป็น เมื่อถึงวันนั้น การเลิกรามันก็จะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการฟ้องหย่ามันไม่ได้ใช้เวลาแค่วันสองวันเสียทั้งเวลาและความรู้สึก.. ในขณะที่เธอกำล

  • หอบหัวใจหนีไปเป็นพ่อเลี้ยง   ตอนที่ 19 ปองภพร้อนใจ

    ตอนที่ 19 ปองภพร้อนใจเพลงพิณเข้ามาในบ้านสิ่งแรกที่เธอทำคือมองหาพี่สาวต่างมารดา"พี่น้ำกลับมาหรือยัง? "เธอถามเด็กรับใช้ที่อยู่แถวนั้น"คุณน้ำยังไม่กลับมาเลยค่ะคุณเพลง"เด็กรับใช้หันมาตอบเมื่อได้รับคำตอบของเด็กรับใช้เพลงพิณก็เดินขมวดคิ้วเข้าไปในบ้าน ด้วยอารมณ์หงุดหงิด เพราะเธอตั้งใจจะมาคุยกับพี่สาวเรื่องของปองภพ เธออยากจะขอร้องให้พี่สาวไปบอกกับปองภพให้เธอเป็นเจ้าสาวแทน แต่เมื่อเดือนเข้ามาในบ้านก็เห็นมารดานั่งอยู่ในห้องรับแขกกำลังนั่งสั่งงานทางไลน์อยู่กับออแกนไนท์ที่มาจัดเตรียมสถานที่งานแต่งให้กับพี่สาวของเธออยู่นางสิรินาถเองที่เห็นบุตรสาวเดินเข้ามาในบ้านในเวลานี่ก็อดที่จะขมวดคิ้วถามออกไปไม่ได้"อ้าวไม่สบายหรือเปล่าลูกทำไมกลับมาเวลานี้?"นางถาม บุตรสาวคนเล็กด้วยความเป็นห่วง"เปล่าค่ะแม่คะพี่น้ำยังไม่กลับมาอีกเหรอคะ?"เธอปฏิเสธมารดาพลางถามกลับ"แม่ยังไม่เห็นพี่น้ำเขากลับมาเลยนะ" นางสิรินาถตอบบุตรสาว"มีอะไรกับพี่เขาหรือเปล่า??"นางถามกลับอีก"ไม่มี!.".เพลงพิณตอบพลางเดินขึ้นห้องของตัวเองไป ปล่อยให้นางศิริมาศมารตอนบุตรสาวด้วยความมึนงง พลางพึมพำตามหลังบุตรสาว"อะไรกันอยู่ๆก็ไป"ด้านของเพลงพิณ

  • หอบหัวใจหนีไปเป็นพ่อเลี้ยง   ตอนที่ 18 ช่วยเหลือ

    ตอนที่ 18 ช่วยเหลือ เมื่อภาคินพาคนที่พึงจะเจอเรื่องหนักๆ เข้ามาในบ้านเขาก็จับให้เธอนั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขก พลางหันไปสั่งความกับแม่บ้านที่เดินมาต้อนรับผู้เป็นนาย "พ่อเลี้ยงจะดื่มน้ำอะไรดีคะ?"ละอองเดินเข้ามาถามผู้เป็นนาย ฟางมองไปยังหญิงสาวที่นั่งซบน่าอยู่กับฝ่ามือของตัวเองด้วยความอยากรู้ "น้ำเปล่า 2 แก้วน้ำส้มแก้วนึง" เขาสั่ง "ค่ะ" แม่บ้านสาวรับคำเสียงหวานก่อนจะกลับเข้าห้องครัวไป นำน้ำเขามาเสริฟเจ้านายกับแขกสาว เมื่อแม่บ้านสาววางแก้วน้ำลงบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว เขาจึงหันไปออกคำสั่งกับแม่บ้านสาวอีกที "ละอองไปทำความสะอาดห้องที่ติดกับห้องฉันที"เขาสั่งแม่บ้านพลางหยิบแก้วน้ำมายื่นให้กับหญิงสาว แม่บ้านสาวพยักหน้ารับและมองคนที่เจ้านายพามาด้วยแววตาอยากรู้ แต่พอได้สบกับดวงตาคมของผู้เป็นนายแม่บ้านสาวก็รีบถอยกรูดออกไปจากตรงนั้นทันที ด้วยความคาใจ ภาคินหันกลับมามองหญิงสาวที่ทำตัวเหมือนผีดิบพลางยื่นแก้วน้ำในมือให้ "ดื่มน้ำก่อนคุณ" ธารธารายื่นมือไปรับแก้วน้ำในมือของภาคินเอามาดื่ม พลางเอ่ยขอบคุณเสียงแผ่ว "ขอบคุณค่ะ" ด้านแม่บ้านสาวที่กลับเข้ามาในห้องครัวก็วางถาดในมือลงด้วยความไม่พอใ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status