แชร์

ตอนที่ 3 ผู้ชายน้ำแข็ง

ผู้เขียน: พุธระกา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-19 21:23:29

ตอนที่ 3 ผู้ชายน้ำแข็ง

หลายวันผ่านไป!เกศินีก็อันเชิญตัวเองมาเป็นแขกของไร่ภาคิน อีกครั้ง!หวังว่าจะมีสักครั้งที่จะได้เจอหน้าเจ้าของไร่ภาคินแห่งนี้

ภาคินที่กำลังกลับจากไร่เพื่อเข้าออฟฟิศก็เจอกับหญิงสาวแปลกหน้าที่กำลังมองมาที่เขาด้วยแววตาหยาดเยิ้มมุมปากแย้มยิ้มเล็กน้อยๆมองมายังเขาด้วยตาไม่กระพริบจนเขานึกไม่ชอบใจ

เกศินีที่กำลังสั่งกาแฟกับพนักงาน ก็บังเอิญเหลือบไปเห็นชายหนุ่มตัวสูง ใบหน้าหล่อเหลากำลังเดินผ่านไปก็ถึงกับตะลึง ถึงจะหล่อแบบดิบๆ แต่ก็ยังหล่ออยู่ดีในสายตาของเธอ ชายผู้นั้นเดินนำพนักงานชายที่หอบเอกสารเต็มไม้เต็มมือ เดินไปทางสำนักงานใหญ่ เกศินีเกิดความสงสัยในตัวของชายผู้นั้น จึงได้เอ่ยถามกับพนักงานชายที่ยืนรอรับออเดอร์ของเธออยู่ด้วยความอยากรู้จนตัวสั่น

"น้อง..ผู้ชายที่เดินผ่านไปเมื่อกี้ใครหรอ?"

พนักงานชายมองตามหลังของคนทั้ง 3 ที่พึ่งเดินผ่านไป แล้วหันมายิ้มให้กับลูกค้าสาวสวยแล้วเอ่ยตอบ

"อ้อ..คนที่เดินนำหน้าเหรอครับ?"

"ใช่.คนนั้นแหละ"

"นั่นคือนายใหญ่ของพวกเราเองครับ"พนักงานขายตอบยิ้มๆ

???...

คำตอบของพนักงานชายทำเอาเกศินีถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ด้วยความตื่นเต้น!

"เจ้าของไรภาคินนะเหรอ?"

"ครับ"

คำตอบของพนักงานหนุ่มทำเอาเกศินีถึงกับกลืนน้ำลายลงคอเอือกใหญ่ด้วยความตื่นเต้น พลางพึมพำออกมาเสียงแผ่ว

"ในที่สุด ฉันก็ได้เจอตัวเป็นๆของคุณสักทีคุณภาคิน ใครบอกว่าคุณไม่หล่อ สงสัยมันคงจะตาบอด"เกศินีพึมพำกับตัวเอง มุมปากสวยแย้มยิ้มขึ้นเล็กน้อยด้วยความพึงพอใจ

"นายใหญ่ของพวกนายก็คือพ่อเลี้ยงภาคินใช่ไหม?"เกศิณีถามซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

"ครับ..นายใหญ่ของเราก็คือพ่อเลี้ยงภาคิน "พนักงานชายยังคงพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม

"อืม..ขอบใจมาก"เธอเอ่ยขอบใจพนักงานชายพรางยื่นแบงค์ธนบัตรสีแดง 2 ใบให้กับพนักงานชาย!

"เอาฉันให้"

พนักงานชายรับมาด้วยความดีใจก่อนจะขอตัวจากไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

"ขอบคุณครับคุณผู้หญิง"แต่ไม่ลืมกล่าวขอบคุณลูกค้าคนสวยก่อนจะจากไป

เกศินีมองตามหลังของภาคินไปจนสุดสายตาพรางแย้มยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจอีกครั้ง

"ใครบอกว่าพ่อเลี้ยงภาคินหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่วะ! ตรงข้ามกัน เขากลับเป็นผู้ชายที่น่าดึงดูดใจ หน้ามอบกายมอบกายถวายชีวิตให้หละไม่ว่า"เกศินีพึมพำกับตัวเอง พลางหัวเราะออกมาเบาๆ

"คุณภาคิน!.ฉันจะทำให้คุณมาซบอกของฉันให้จงได้" เกศินีบอกกับชายหนุ่มผ่านกับสายลมไปด้วยแววตาวาววับ

ต่อจากนั้นเจ้าหล่อนก็คิดหาวิธีที่จะเข้าใกล้ชายหนุ่มที่เธอพึ่งจะเคยเห็นหน้าเป็นครั้วแรก และหมายมั่นเอาไว้ที่จะได้มาขึ้นเตียงด้วยสักครั้ง ด้วยความรู้สึกพอใจ กับตัวตนของพ่อเลี้ยงภาคิน

ด้ายของภาคินที่ไม่รู้ตัวเลยว่าความยุ่งยากกำลังจะวิ่งเข้ามาหาก็กำลังเดินหน้านิ่งเขาไปในออฟฟิศ โดยมีผู้ช่วยคนสนิทหอบเอกสารเดินตามด้วยใบหน้าที่ไม่ต่างจากผู้เป็นนาย สร้างความอึดอัดให้กับผู้ที่ได้พบเห็น หรือแม้แต่พนักงานที่ได้พบเจอเจ้านายอยู่ทุกวี่ทุกวัน ก็ยังไม่คุ้นชินกับอุปนิสัยของผู้เป็นนายสักครั้ง

"นายครับอาทิตย์หน้ามีงานสัมนาผู้ประกอบการรายใหญ่นายต้องไปนะครับ"ต้นกล้าวางเอกสารเอาไว้ตรงหน้าของผู้เป็นนายแล้วเอ่ยรายงาน

อืม?

ภาคินตอบรับในลำคอก่อนจะสนใจงานตรงหน้าต่อ ความเย็นชาของผู้เป็นนายทำให้ต้นกล้าเศร้าใจกับผู้เป็นนายไปด้วย

ต้นกล้ามองผู้เป็นนายด้วยความเห็นใจ ห้าปีที่เขาติดตามผู้เป็นนายมา เขาเคยเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของผู้เป็นนายแทบจะนับครั้งได้ แถมยังเป็นรอยยิ้มที่ส่งไปไม่ถึงดวงตาอีกต่างหาก เขาไม่รู้ว่าก่อนหน้าที่เจ้านายมาอยู่ที่นี่เจ้านายของเขาเจอกับอะไรมาบ้างถึงได้กลายเป็นคนที่เย็นชาและเก็บตัวแบบนี้ ส่วนเรื่องของผู้หญิงนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไม่ว่าจะเป็นคู่ค้า ลูกสาวคนดังของภาคเหนือต่างก็อยากจะมาเป็นนายหญิงของไร่ภาคิน ขนาดคนงานหญิงในไร่ยังอยากจะถวายตัวให้กับเจ้านายของเขาแทบจะทุกคน แต่เจ้านายของเขานั้นหรือไม่เคยชายตาแลมองใครเลยแม้แต่หางตา

ต้นกล้าหันมามองหน้ากันกับมาวินแล้วถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ที่เจ้านายยอมไปร่วมงานสัมมนาด้วยตัวเองในครั้งนี้ แทบจะนับครั้งได้ ที่ผู้เป็นนายยอมออกงานด้วยตัวเองโดยไม่ส่งให้พวกเขาทั้งสองคนไปเป็นตัวแทน ก่อนจะกลับไปโต๊ะประจำที่ของตัวเองด้วยความโล่งอก

ด้านของเกศินีเองก็ยังรอพ่อเลี้ยงภาคินอยู่ที่ร้านกาแฟที่เดิมเธอมั่นใจว่า ไม่นานเขาก็คงจะลงมาหาอะไรทานเธอต้องได้เจอ แต่เธอก็รอมาจะ 3 ชั่วโมงกว่า แล้วแต่เธอก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของคนสนิทของเขาเลยแม้แต่คนเดียว จนเธอต้องถอยร่นกลับไปเองด้วยความผิดหวัง

อีกด้านหนึ่งณไร่ธานธารา

"น้ำใสนั่นลูกจะออกไปไหน?" พ่อเลี้ยงสันทัดถามบุตรสาวที่เห็นบุตรสาวเดินถือกระเป๋ากำลังจะออกไปขึ้นรถ

"จะออกไปหายัยรุ้งนะคะคุณพ่อ"เธอตอบคำถามของคนเป็นพ่อ

"พ่อนึกว่าลูกจะออกไปหาปองภพเสียอีก?"

"ไปค่ะออกไปหายายรุ้งแล้วมีนัดทานข้าวกับพี่ภพตอนเย็นค่ะ"เธอบอกกับคนเป็นพ่อ

"อืมไปเถอะ"

"ค่ะ! งั้นน้ำไปนะคะ"

"อืม"คนเป็นพ่อพยักหน้าให้กับบุตรสาวคนโตด้วยแววตาอ่อนแสง พลางมองตามหลังของบุตรสาวขึ้นรถไปก่อนที่ตัวเองจะเดินเข้าบ้านไปเช่นเดียวกัน

ณร้านอาหารชื่อดังของเมืองเชียงใหม่

"ยัยน้ำทางนี้" รุ้งรดากวักมือเรียกเพื่อนสาวทันทีที่เห็นเพื่อนสาวเดินผ่านประตูร้านเข้ามา

ธารธารายิ้มกว้างทันทีที่เห็นเพื่อนรักยืนโบกมือหยอยๆอยู่โต๊ะริมหน้าต่างที่ประจำของพวกเธอทั้งสอง

"แกรอฉันนานไหม?" ธารธาราถามเพื่อนรักทันทีที่มาถึง

"ไม่เลยฉันเองก็เพิ่งมาเมื่อ 10 นาทีก่อนหน้าแกนี่เอง" รุ้งรดาตอบคำถามของคนเป็นเพื่อนพลางขยับเก้าอี้ให้คนเป็นเพื่อนนั่ง

"ฉันนึกว่าแกจะไม่ว่างมาทานข้าวกับฉันเสียอีก?" รุ่งระวีรีบตัดพ้อคนเป็นเพื่อนทันทีด้วยความน้อยใจ

"งานที่ไร่ฉันยุ่งน่ะ ฉันก็เลยไม่ได้ออกไปไหนเลย" ธารธารา ตอบคนเป็นเพื่อน ด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิด

"ฉันนึกว่าแกกำลังจะแต่งงานแล้ว แกจะลืมฉันเสียแล้ว"รุ้งรดาแกล้งตัดพ้อคนเป็นเพื่อน

"บ้า..ใครจะไปลืมแกได้ล่ะ" ธารธาราพูดพรางตบที่หลังมือของเพื่อนเบาๆเพื่อเป็นการขอโทษ จนคนเป็นเพื่อนยิ้มกว้างออกมาด้วยความพอใจ

"แล้ววันนี้ทำไมแกว่าง ไม่ได้มีนัดกับพี่ภพหรือยังไง?" รุ้งรดาถามคนเป็นเพื่อน

"ว่างช่วงบ่าย..แต่ช่วงเย็นมีนัดทานข้าวกับพี่ภพ?" เธอตอบคนเป็นเพื่อนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

"จะว่าไปฉันก็ไม่ได้เจอพี่ภพมานานแล้ว ฉันเองก็อยากจะเจอพี่ภพบ้างเหมือนกัน"รุ้งรดาเอ่ยขึ้นลอยๆ กับคนเป็นเพื่อน

"งั้นตอนเย็นแกไปทานข้าวกับฉันกับพี่ภพไหมละ ?"ธานธาราถามคนเป็นเพื่อนเสียงอ่อน

"ฉันไปได้หรอ? พี่ภพจะไม่ว่าเอาเหรอ?" รุ้งรดาถามด้วยความเกรงใจ

"ได้สิ ก็แค่ทานข้าวเย็นเพิ่มแกมาอีกสักคนพี่ภพก็คงจะไม่ว่าอะไรหรอก" รุ่งรดายิ้มกว้างทันทีที่ได้ยินคำพูดของคนเป็นเพื่อน

"ดีเลยงั้นตอนเย็นฉันไปพร้อมกันกับแกเลยก็แล้วกันนะเพราะฉันไม่ได้เอารถมา"รุ้งรดารีบบอก

"ได้สิ!"ธานธารายิ้มรับคำพูดของคนเป็นเพื่อน จากนั้นสองสาวก็สั่งอาหารมาทาน พอทานอาหารเสร็จ 2 สาวก็ไปช้อปปิ้งกันต่อที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อรอเวลานัดตอนเย็น

อีกด้านหนึ่ง

"เจ้านายครับเดี๋ยวหาอะไรทานที่ห้างสรรพสินค้าก่อนดีไหมครับกว่าจะถึงไร่เราก็อีกไกลอยู่นะครับ?" มาวินถามผู้เป็นนายหลังจากที่ผู้เป็นนายออกมาจากคุยงานกับลูกค้า เพราะตั้งแต่ออกมาจากไร่ เจ้านายเขาก็ยังไม่ได้มีอะไรตกถึงท้องเลยแม้แต่อย่างเดียว

อืม!

ภาคินรับคำเสียงต่ำ ก่อนจะเดินนำคนสนิททั้ง 2 ไปยังร้านอาหารที่คุ้นเคย

ด้านของธารธาราก็ที่กำลังเดินเลือกร้านเสื้อผ้า ก็มีเสียงโทรศัพท์ ดังขึ้น เธอจึงก้มหน้าก้มตารื้อหาโทรศัพท์ในกระเป๋าถือของตัวเองที่เธอเผลอหย่อนทิ้งไว้ตั้งแต่ที่ร้านอาหารด้วยความรีบเร่งโดยไม่ได้มองทางจนชนกับใครบางคนเข้าจนเธอเซถอยหลังเกือบจะล้มก้นจ้ำบ้ำ

ปึก!

ว้ายยย!!!

เธอหลับตาปี๋รอรับแรงกระแทกด้วยความตกใจจนต้องอุทานออกมา แต่แล้วก็มีท่อนแขนแข็งแรงเกี่ยวกอดเอวของเธอเอาไว้ ไม่ให้ล้มลงก้นจ้ำเบ้ากับพื้น ไม่เจ็บ! เธอไม่รู้สึกเจ็บนั่นคือความรู้สึกรู้สึกแรกที่ได้สติ เธอค่อยๆลืมตาขึ้นมาก็เจอกับใบหน้าของผู้ชายสวมแว่นดำห่างกับใบหน้าของเธอแค่คืบ เธอพึมพำขอบคุณเสียงแผ่ว

"ขอบคุณค่ะ"

เธอรีบกล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงตกใจพลางแหงนขึ้นมอง เจ้าของแขนแข็งแรงที่กอดเกี่ยวเอวของเธอเอาไว้ให้ชัดๆ ชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มสวมแว่นตาสีดำกำลังก้มมองเธออยู่ด้วยเช่นกัน ด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง

"เดินก็ระวังหน่อยสิ"เสียงทุ้มต่ำของเจ้าของอ้อมแขนแกร่ง ดั่งขึ้นข้างหู ทำให้น้ำใสที่พึ่งจะได้สติกลับคืนมาถึงกับขมวดคิ้วมุ้นด้วยความไม่พอใจ เธอจึงถอยออกจากอ้อมแขนของคนตัวสูงด้วยความร้อนรนและไม่พอใจ

ภาคินที่กำลังเดินจะพาคนสนิทเข้าร้านอาหารก็มีผู้หญิงที่ไม่รู้ว่ากำลังรื้อหาอะไรในกระเป๋าโดยไม่มองทางจนมาชนเขาเข้าจนเขาต้องคว้าตัวเจ้าหล่อนเอาไว้ไม่ให้ล้มหงายท้องไปกลางห้างจนต้องอับอายผู้คน เขาจึงเอ่ยตำหนิออกไปด้วยความหวังดี แต่กลับได้รับค้อนวงใหญ่กลับมาแทน พร้อมกับเสียงใสๆหันมาเอ่ยกับเขาด้วยใบหน้าบูดบึ้ง

"คุณเองก็เดินไม่ระวังเหมือนกันเลยค่ะจนต้องมาชนกับฉันเนี่ย!" เธอตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงไม่พอใจที่ถูกตำหนิ

และทันทีที่เธอจะได้พูดจบคนตัวสูงก็เดินจากไปโดยไม่ได้ใส่ใจในคำพูดของเธอเลยสักนิด เธอมองตามแผ่นหลังกว้างด้วยความไม่ชอบใจ

"อีตาบ้า ผู้ชายอะไรนิ่งยังก้บผีดิบ ไร้ปฏิสัมพันธ์ชะมัด ถือว่าตัวเองหล่อมากเลยหรือยังไง ถึงไม่เห็นใครอยู่ในสายตาแบบนี้ อย่าให้ฉันได้เจออีกนะ..หึ้ย!" เธอโกรธจนหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่ถูกผู้ใช้นิสัยไม่ดีมาตำหนิทั้งๆที่ไม่รู้จักกันมาก่อน

จนเสียงของเพื่อนรักดังมาจากทางด้านหลังด้วยความร้อนรนใจ

"ยัยน้ำแกเป็นอะไรหรือเปล่า" รุ้งรดารีบวิ่งเข้ามาหาคนเป็นเพื่อนทันทีที่เห็นคนเป็นเพื่อนเดินชนกับผู้ชายตัวโต

ธารทารามองตามหลังของผู้ชายตัวโตสูงราวๆ185 ที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงยีนส์สีซีด สวมแว่นตาดำ เดินนำผู้ชายที่มีความสูงไล่เลี่ยกันเดินเข้าร้านอาหารชื่อดังไป ก่อนจะหันมามองคนเป็นเพื่อนที่เข้ามาถึงตัวเธอก็พอดี

"ไม่เป็นไร" เธอตอบ

รุ้งรดา มองตามหลังของผู้ชายตัวโตไปด้วยความสนใจ

"ผู้ชายอะไรโคตรเท่เลย หล่อด้วย"รุ้งรดาพึมพำ

"รู้ได้ยังไงว่าหล่อสวมแว่นดำขนาดนั้น?"ธานธาราหันมาถามคนเป็นเพื่อนด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ ที่คนเป็นเพื่อนไปเอ่ยชมผู้ชาย กระด้างที่พึ่งจะตำหนิเธอไป

"ก็หล่อจริงๆนี่ แกเห็นเขาใกล้ๆเมื่อกี้เขาไม่หล่อหรือยังไงขนาดฉันเห็นตั้งไกลหล่อทะลุ 100 เมตรเลยนะแก หล่อทะลุแว่นเธอไม่เคยได้ยินเหรอ"รุ้งรดาเอ่ยออกมาพลางทำหน้าเคลิบเคลิ้มตามหลังของภาคินไป

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หอบหัวใจหนีไปเป็นพ่อเลี้ยง   ตอนที่ 23 ผิดหวัง

    ตอนที่ 23 ผิดหวัง ธารธารามองบิดาที่ทำหน้าขึงขังตะคอกใส่เธอด้วยความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจก่อนจะเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่แห่พร่า "น้ำถามพ่อจริงๆเถอะค่ะ พ่อเคยรักน้ำบ้างไหม? นอกจากเห็นน้ำเป็นคนงานในไร่แล้วพ่อเคยเห็นน้ำเป็นลูกของพ่อบ้างไหม?"เธอถามพร้อมกับมองหน้าบิดาด้วยน้ำตานองหน้า "ทำไมฉันจะไม่รักแกคุณนาทเองเขาก็รักแกเหมือนกับลูกในไส้ของเขาเสียด้วยซ้ำ" "ถ้าคุณพ่อบอกว่าพ่อรักน้ำ แล้วทำไมสิ่งที่เพลงทำกับน้ำพ่อไม่เห็นจะตำหนิเพลงเลยแม้แต่คำเดียวล่ะคะ แต่พ่อกลับมาตำหนิน้ำ ทั้งๆที่น้ำไม่ได้เป็นคนทำอะไรผิดทั้งๆ ที่น้ำเป็นคนถูกกระทำ นี่เหรอคะการ กระทำของพ่อที่บอกว่ารักลูกเท่ากัน..?"เธอถามทั้งน้ำตา "แล้วแกจะให้ฉันทำยังไงในเมื่อเรื่องมันก็เกิดขึ้นมาแล้วแล้วแกเองก็เป็นคนพูดเองกับปากว่าจะไม่แต่งงานกับตาภพแล้ว"สันติเอ่ยออกมาด้วยคิดว่าท่าบุตรสาวยกเลิกงานแต่งไปแล้ว มันก็ไม่ผิดที่บุตรสาวคนเล็กที่หลงรักคู่หมั้นของพี่สาวของตัวเองมากมายขนาดนี้จะเข้ามาอยู่แทนที่ เธอมองบิดาด้วยความรู้สึกผิดหวัง "โดยที่พ่อมาขอคู่หมั้นของน้ำให้กับลูกสาวคนเล็กของตัวเองแบบนี้นี่นะคะ?พ่อทำได้ยังไงคะ? พ่อใจร้ายกับหนูมากเลย

  • หอบหัวใจหนีไปเป็นพ่อเลี้ยง   ตอนที่ 22 เผชิญหน้ากับความจริง

    ตอนที่ 22 เผชิญหน้ากับความจริง "นะคุณไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยฉันไม่อยากจะไปพบคนพวกนั้นคนเดียวจริงๆ"เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา ภาคินมองคนที่เขาหลวมตัวไปยุ่งเกี่ยวด้วยตั้งแต่แรก พลางถอนหายใจออกมาหนักๆ อย่างหลีกเลี้ยงไม่ได้ มองดูอีกที่ก็เห็นสายตาร้องขอกำลังจดจ้องเขาอยู่ "อืม..ก็ได้" เขาจึงจำใจต้องตอบตกลงไปเป็นเพื่อนของเธอ เพื่อไปพบกับครอบครัวของคู่หมั้นและครอบครัวของตัวเองในครั้งนี้อย่างจำใจ ณไร่ธารธารา หลังจากที่ 3 คนพ่อแม่ลูกกลับไปแล้วนายสันติก็เอาแต่นั่งสองมือกุมขมับพิงพนักโซฟาด้วยความเหน็ดเหนื่อยและเหนื่อยใจ ข้างกายมีนางศิริมาถค่อยปล่อบประโลมอยู่ไม่ห่าง ห่างออกไปมีบุตรสาวคนเล็ก นั่งจิ้มโทรศัพท์อยู่โดยไม่มีท่าทีทุกข์ร้อนใจอะไร ท่าทีสบายใจของบุตรสาวทำเอานางสิรินาถ ถึงกับมองด้วยความแปลกใจ แต่นางก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะคิดว่าบุตรสาวคนเล็กยังเด็ก ในขณะที่คนทั้ง 3 กำลังนั่ง ต่างคนต่างก็คิด ถึงเรื่องต่างๆอยู่นั้นก็มีเด็กรับใช้วิ่งเข้ามาด้วยหน้าตาตื่นตกใจและดีใจไปในคราเดียวกัน "พ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงเจ้าขา คุณน้ำกลับมาแล้วค่ะ" เสียงร้องโหวกเหวกของเด็กรับใช้วิ่งเข้ามาหาคนทั้งสาม นายสันติเมื่อได้

  • หอบหัวใจหนีไปเป็นพ่อเลี้ยง   ตอนที่ 21 ผิดแผน

    ตอนที่ 21 ผิดแผนสันติยังมีใบหน้าเคร่งเครียด ถึงจะได้ฟังเหตุผลที่บุตรสาวหนีไปก็เถอะ "ไม่มีเรื่องผู้หญิงคนอื่นใช่ไหม?"สันติยังคงอดที่จะถามไม่ได้คำถามของว่าที่พ่อตาทำเอาปองภพถึงกับหน้าเสีย กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก"ไม่มีครับคุณอา ผมรักน้ำ ผมมีแค่น้ำคนเดียวครับ?"เขาพูดพลางปลายตาไปมองยังหญิงสาวอีกคนด้วยแววตาข่มขู่เพลงพิณเมื่อได้รับสายตาข่มขู่ และคำพูดของผู้ชายที่เธอรักบอกกับทุกคนว่าเขารักพี่สาวของเธอและในใจก็มีเพียงพี่สาวของเธอคนเดียว มันทำให้เธอถึงกับรับไม่ได้ ความเสียใจและน้อยใจมันก็ตีตื่นขึ้นมาจนเธออยากจะตะโกนถามออกไปต่อหน้าของเขาว่า แล้วเธอล่ะ? เป็นอะไร? ไม่มีส่วนใดสำคัญกับชีวิตเขาบ้างเลยหรือยังไง? เมื่อทนรับฟังต่อไปไม่ไหวเธอจึงลุกขึ้นยืนก่อนจะหันไปบอกกับมารดาสียงแข็ง"คุณแม่คะ! พอดีว่าลูกน้องที่ร้านโทรมาว่ามีเรื่องด่วนเพลงจะต้องออกไปเดี๋ยวนี้เพลงไปก่อนนะคะ" เธอพูดพลางมองหน้าของปองภพด้วยแววตาตัดพ้อ ก่อนจะเดินสะบัดหน้าเดินผ่านหน้าเขาออกจากห้องรับแขก โดยมีสายตาของคนทั้ง 4 มองตามด้วยความมึนงง? และไม่เข้าใจในอารมณ์ของหญิงสาว แต่กระนั้นนางศิรินาถก็ยังหั

  • หอบหัวใจหนีไปเป็นพ่อเลี้ยง   ตอนที่ 20 ความเสียใจ

    ตอนที่ 20 ความเสียใจ อีกด้านหนึ่งภายในห้อง ธารธาราที่เผลอหลับไปด้วยความเมื่อยล้าทั้งกายและใจ ตื่นขึ้นมาอีกทีท่ามกลางห้องที่ไม่คุ้นเคยตา กว่าเธอจะตั้งสติได้ว่าเธอมาขออาศัยอยู่ที่ไร่ชาภาคิน ก็กินเวลาไปเกือบนาที เธอมองออกไปด้านนอกหน้าต่างที่มีไร่ชากว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาด้วยความหม่นเศร้า ยิ่งนึกไปถึงคนรักและผู้หญิงที่เป็นเพื่อนรักและน้องสาวเพียงคนเดียวของตัวเองมันก็ยิ่งทำให้เธออยากจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง พรางก็นึกสมเพชตัวเองที่ถูกเพื่อนสนิทและน้องสาวที่เธอทั้งรักและเอ็นดูหักหลัง ถ้าทั้งสองคนนั้นบอกกับเธอดีๆว่าชอบคนรักของเธอ เธอเองก็จะยอมหลีกทางให้แต่โดยดี เพราะเธอเองก็ไม่คิดที่จะแบ่งผู้ชายของตัวเองให้ผู้หญิงคนอื่นไปใช้เช่นกัน ถ้าเธอรู้ เธอก็จะยกให้อย่างไม่คิดที่จะเสียดายเลยแม้แต่นิดเดียว แต่คนพวกนั้นเลือกที่จะแทงข้างหลังเธอ ทำร้ายเธออย่างเลือดเย็น ในโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีที่เธอรู้เรื่องสกปรกโสมมของคนพวกนั้นก่อนที่เธอจะได้แต่งงานกับเขา และตกนรกทั้งเป็น เมื่อถึงวันนั้น การเลิกรามันก็จะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการฟ้องหย่ามันไม่ได้ใช้เวลาแค่วันสองวันเสียทั้งเวลาและความรู้สึก.. ในขณะที่เธอกำล

  • หอบหัวใจหนีไปเป็นพ่อเลี้ยง   ตอนที่ 19 ปองภพร้อนใจ

    ตอนที่ 19 ปองภพร้อนใจเพลงพิณเข้ามาในบ้านสิ่งแรกที่เธอทำคือมองหาพี่สาวต่างมารดา"พี่น้ำกลับมาหรือยัง? "เธอถามเด็กรับใช้ที่อยู่แถวนั้น"คุณน้ำยังไม่กลับมาเลยค่ะคุณเพลง"เด็กรับใช้หันมาตอบเมื่อได้รับคำตอบของเด็กรับใช้เพลงพิณก็เดินขมวดคิ้วเข้าไปในบ้าน ด้วยอารมณ์หงุดหงิด เพราะเธอตั้งใจจะมาคุยกับพี่สาวเรื่องของปองภพ เธออยากจะขอร้องให้พี่สาวไปบอกกับปองภพให้เธอเป็นเจ้าสาวแทน แต่เมื่อเดือนเข้ามาในบ้านก็เห็นมารดานั่งอยู่ในห้องรับแขกกำลังนั่งสั่งงานทางไลน์อยู่กับออแกนไนท์ที่มาจัดเตรียมสถานที่งานแต่งให้กับพี่สาวของเธออยู่นางสิรินาถเองที่เห็นบุตรสาวเดินเข้ามาในบ้านในเวลานี่ก็อดที่จะขมวดคิ้วถามออกไปไม่ได้"อ้าวไม่สบายหรือเปล่าลูกทำไมกลับมาเวลานี้?"นางถาม บุตรสาวคนเล็กด้วยความเป็นห่วง"เปล่าค่ะแม่คะพี่น้ำยังไม่กลับมาอีกเหรอคะ?"เธอปฏิเสธมารดาพลางถามกลับ"แม่ยังไม่เห็นพี่น้ำเขากลับมาเลยนะ" นางสิรินาถตอบบุตรสาว"มีอะไรกับพี่เขาหรือเปล่า??"นางถามกลับอีก"ไม่มี!.".เพลงพิณตอบพลางเดินขึ้นห้องของตัวเองไป ปล่อยให้นางศิริมาศมารตอนบุตรสาวด้วยความมึนงง พลางพึมพำตามหลังบุตรสาว"อะไรกันอยู่ๆก็ไป"ด้านของเพลงพิณ

  • หอบหัวใจหนีไปเป็นพ่อเลี้ยง   ตอนที่ 18 ช่วยเหลือ

    ตอนที่ 18 ช่วยเหลือ เมื่อภาคินพาคนที่พึงจะเจอเรื่องหนักๆ เข้ามาในบ้านเขาก็จับให้เธอนั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขก พลางหันไปสั่งความกับแม่บ้านที่เดินมาต้อนรับผู้เป็นนาย "พ่อเลี้ยงจะดื่มน้ำอะไรดีคะ?"ละอองเดินเข้ามาถามผู้เป็นนาย ฟางมองไปยังหญิงสาวที่นั่งซบน่าอยู่กับฝ่ามือของตัวเองด้วยความอยากรู้ "น้ำเปล่า 2 แก้วน้ำส้มแก้วนึง" เขาสั่ง "ค่ะ" แม่บ้านสาวรับคำเสียงหวานก่อนจะกลับเข้าห้องครัวไป นำน้ำเขามาเสริฟเจ้านายกับแขกสาว เมื่อแม่บ้านสาววางแก้วน้ำลงบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว เขาจึงหันไปออกคำสั่งกับแม่บ้านสาวอีกที "ละอองไปทำความสะอาดห้องที่ติดกับห้องฉันที"เขาสั่งแม่บ้านพลางหยิบแก้วน้ำมายื่นให้กับหญิงสาว แม่บ้านสาวพยักหน้ารับและมองคนที่เจ้านายพามาด้วยแววตาอยากรู้ แต่พอได้สบกับดวงตาคมของผู้เป็นนายแม่บ้านสาวก็รีบถอยกรูดออกไปจากตรงนั้นทันที ด้วยความคาใจ ภาคินหันกลับมามองหญิงสาวที่ทำตัวเหมือนผีดิบพลางยื่นแก้วน้ำในมือให้ "ดื่มน้ำก่อนคุณ" ธารธารายื่นมือไปรับแก้วน้ำในมือของภาคินเอามาดื่ม พลางเอ่ยขอบคุณเสียงแผ่ว "ขอบคุณค่ะ" ด้านแม่บ้านสาวที่กลับเข้ามาในห้องครัวก็วางถาดในมือลงด้วยความไม่พอใ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status