แชร์

ตอนที่ 9 จะทำให้มันเสียโฉม[1]

ผู้เขียน: เดลิล
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-12-04 20:19:11

“แล้วยังติดต่อแพรไม่ได้อีกเหรอวะ?”

“อืม ไม่งั้นกูจะมานั่งแดกเหล้าแบบนี้ทำไม กูไม่เข้าใจแพรเลยว่ะ ทั้ง ๆ ที่แต่ก่อนมีเรื่องอะไรแพรก็ไม่เคยปิดบังกูเลย แต่ตอนนี้เหมือนกูไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแพรเลย กูอยากจะรู้จริง ๆ ว่าสี่เดือนก่อนหน้านี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมแพรถึงหายไปจากชีวิตกูแบบนั้น แล้วพอเธอกลับมา กูยังต้องมาเจอเรื่องเหี้ย ๆ ที่กูโดนใส่ร้ายอีก”

วิศรุตถอนหายใจยาว ราวกับระบายความอึดอัดในอก เขานึกย้อนกลับไปในตอนนั้น ช่างเป็นจังหวะนรกชัด ๆ วิศรุตรู้ดีว่าสองแม่ลูกวางแผนเอาไว้ก่อนแน่นอน

“เอาเหอะ ไว้ค่อยว่ากันถ้าเจอเธออีกที” ธีรวุฒิพูดพลางลุกขึ้นยืน บิดไหล่เล็กน้อยอย่างเหนื่อยล้า “แต่ตอนนี้กูไม่ไหวละ ขอตัวกลับก่อนล่ะนะ” ธีรวุฒิเอ่ยปากฝากเพื่อนให้บาร์เทนเดอร์ดูแลต่อจากเขา

“มึงก็กลับได้แล้วเหมือนกันนะ แต่ถ้ายังอยากดื่มต่อก็เรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่คอนโดก็แล้วกัน เฮ้ยน้องชาย!! ฝากดูแลเพื่อนพี่หน่อยนะ ถ้าไม่ไหวก็เรียกแท็กซี่เดี๋ยวพี่โอนตังให้เอง”

เด็กหนุ่มผู้ให้บริการหลังเคาน์เตอร์พยักหน้ารับ หลังจากนั้นธีรวุฒิก็เดินออกไปพร้อมกับโทรเรียกแท็กซี่เพื่อให้ไปส่งตัวเองที่บ้าน เขาจอดรถทิ้งไว้ที่นี่โดยไม่คิดว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเพื่อนของตัวเองอีก

วิศรุตยังคงดื่มต่อและพูดคุยกับบาร์เทนเดอร์หนุ่มเรื่องเขากับคนรัก ทำให้อีกฝ่ายกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ต้องอยู่เป็นเพื่อนเขาจนกระทั่งร้านใกล้ปิด

โดยไม่ทันได้คาดคิดกลับมีชายร่างใหญ่สองคนเข้ามาหิ้วตัวลูกค้าของตนไปต่อหน้าต่อตา

“นะ..นี่มันเกิดเรื่องอะไรกันครับ พวกคุณเป็นใครกัน!!”

เด็กหนุ่มหลังเคาน์เตอร์ร้องถามด้วยน้ำเสียงตกใจ ขณะมองชายแปลกหน้าสองคนที่จู่ ๆ ก็เข้ามารวบตัวเพื่อนของเจ้าของร้าน ที่เพิ่งฝากให้เขาดูแล

“มึงอย่าเสือกไอ้หนู!” หนึ่งในนั้นหันมาตวาดลั่น สีหน้าเหี้ยมเกรียม “พอดีกูอยากคุยกับเพื่อนหน่อย อย่ามาขัดขวางเลย ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้นะเว้ย ไอ้หนุ่ม! เรามีเรื่องต้องเคลียร์กัน!” พูดจบมันก็กระชากแขนวิศรุตอย่างแรง ทำให้ร่างกายที่มึนเมาโซเซตามแรงดึงเดินตามออกมานอกร้าน

“เฮ้ย! มึงเป็นใครวะ!!” วิศรุตขืนตัวเต็มที่ แม้สภาพจะไม่พร้อมต่อสู้ แต่สัญชาตญาณป้องกันตัวก็ยังทำงานอยู่ เขาผลักใส่พวกนั้นจนเซถอยหลังไป

แต่ไม่ทันไร หมัดหนึ่งก็พุ่งเข้าใส่ใบหน้าเขาเต็มแรง

“นี่แน่ะ!! หมัดนี้คงช่วยให้มึงยอมตามกูไปดี ๆ ”

"เห้ย!! มึงจะทำร้ายมันไม่ได้นะเขาบอกให้จับตัวไปเฉย ๆ" หนึ่งในนั้นคว้าแขนเพื่อนตัวเองไว้ด้วยสีหน้าหงุดหงิด ขณะที่วิศรุตทรุดตัวลงกับพื้น เลือดไหลซึมจากมุมปาก

"ก็ไอ้นี่มันกวนตีนกูก่อนไง!”

พูดจบมันก็ไม่รอช้า ชายคนนั้นชกเข้าไปที่หน้าของวิศรุตเต็มแรง พวกมันได้รับค่าจ้างมาเพื่อแค่พาตัว ผู้ชายคนนี้ไป แต่เพราะเจ้าตัวดันไม่ยอมง่าย ๆ แถมยังฮึดสู้ทั้งที่กำลังกายไม่พร้อม ถ้าปล่อยให้ยื้อกันแบบนี้ต่อไป มีหวังได้คนแจ้งตำรวจแน่พวกมันก็เลยเลือกที่จะรุมทำร้ายทั้งสองคน

วิศรุตที่ถูกเล่นงานไม่ทันตั้งตัวพอถูกรุมก็ล้มพับลง แต่โชคดียังเป็นของเขาอยู่เมื่อแพรพรรณขับรถมาเจอ เธอจอดรถตะโกนเสียงดังลั่น

“หยุดนะ ปล่อยตัวเขาเดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างนั้นฉันจะโทรหาตำรวจ ช่วยด้วยมีคนถูกทำร้าย!!” 

แพรพรรณตะโกนสุดเสียง เธอรีบกดโทรศัพท์ทันทีและโชว์หน้าจอที่กำลังต่อสาย 191 ให้พวกมันเห็น ถึงแม้เธอจะกลัวจนตัวสั่น มือไม้เย็นเฉียบ แต่เธอเข้าไปแบบนี้ไม่ได้แน่ ในตอนนั้นการ์ดของร้านก็วิ่งกรูเข้ามาช่วยพอดี

พวกมันชะงัก ก่อนที่คนหนึ่งจะสบถออกมาด้วยความโมโห

“แส่จริง ๆ นังคนนี้! เอาไว้คราวหน้ากูจะมาคิดบัญชีกับมึงใหม่ให้หน้าอ่อน!! ” พวกมันสบถหลายคำก่อนจะวิ่งหนีไป

ทั้งแพรพรรณและวิศรุตรู้ทันทีว่าใครเป็นคนส่งพวกนั้นมา

โชคดีที่แพรพรรณเพิ่งกลับจากธุระ และถนนเส้นนี้เป็นทางผ่านพอดี พอเห็นร่างสูงใหญ่ของใครบางคนถูกรุมทำร้าย เธอก็ไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว ลืมแม้กระทั่งความปลอดภัยของตัวเอง เพราะผู้ชายสองคนนี่ก็น่ากลัว หากพวกมันพกอาวุธมาไม่แคล้วเป็นเธอที่จะต้องอยู่ในอันตราย แต่เรื่องนั้นเธอกลับไม่สนใจเพียงเพราะเห็นว่าใครถูกทำร้าย

“รุต! คุณเป็นอะไรหรือเปล่า ลุกไหวไหมคะ?” เธอคุกเข่าลงข้าง ๆ ใช้มือประคองใบหน้าเขาอย่างเบามือ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความห่วงใย

“แพร...คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงเนี่ย ผมตามหาคุณแทบแย่” เสียงแผ่วของเขาสะท้อนออกมาพร้อมแววตาที่ทั้งเว้าวอนและอ่อนล้า มันทำให้แพรพรรณปวดหนึบในใจ

“อย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้ค่ะ รีบขึ้นรถก่อนดีกว่า พี่คะ! ช่วยหน่อยค่ะ!”

เธอตะโกนเรียกการ์ดที่อยู่ใกล้ ๆ ให้เข้ามาช่วยพยุงอีกแรง ก่อนจะรีบเปิดประตูรถให้วิศรุตขึ้นไป แล้วพาเขาออกจากที่ตรงนั้นให้เร็วที่สุด ระหว่างทางในรถเงียบสนิทวิศรุตได้แต่มองหญิงคนรักด้วยความคิดถึง แพรพรรณขับมาสักพักก็แวะเข้ามาจอดที่ปั๊ม เพราะเธอรู้สึกขับต่อไม่ไหว เธอยังมือสั่นอยูเลย 

“ผมดีใจที่ได้เจอคุณอีกครั้ง อย่าไปไหนอีกเลยนะแพร ผมรักคุณ และอยากมีคุณอยู่ข้าง ๆ ตลอดไป อยู่กับผมนะ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นก่อนจะดึงเธอเข้ามากอดเอาไว้ หญิงสาวไม่ได้ตอบกลับคำใด ไม่มีคำพูดใดเล็ดลอดจากริมฝีปากของเธอ มีเพียงเสียงสะอื้นเบา ๆ ที่ดังขึ้นแทน ก่อนที่หยาดน้ำตาจะร่วงหล่นลงบนปกเสื้อของเขา ซึมผ่านเนื้อผ้าไปจนเปียกชื้น

วิศรุตไม่พูดอะไร เขาปล่อยให้เธอร้องไห้ ระบายความอัดอั้นจนพอใจ 

เขาไม่รู้หรอกว่าการที่เธอหายไปนั้นเธอเจอเรื่องอะไรมาบ้าง แต่คิดว่าคงไม่ใช่เรื่องดี แล้วยังมีเรื่องศศิเข้ามาเป็นตัวก่อชนวนในใจของเธออีก ไม่ต้องพูดถึงแม่เลี้ยงของเธอ รายนั้นร้ายกาจเพียงใดทำไมเขาจะไม่รู้ เมื่อเสียงสะอื้นค่อย ๆ จางลง วิศรุตก็ค่อย ๆ ดันตัวเธอออกจากอก มือหน้ายกขึ้นปาดน้ำตาที่แก้มแดงระเรื่อด้วยความอ่อนโยน จากนั้นก็ก้มลงจูบแผ่วเบาลงบนแก้มข้างนั้น ราวกับจะปลอบโยน

แววตาของเขาเศร้าหมอง ในยามที่เห็นคนรักบอบช้ำถึงเพียงนี้

“ไปครับ เดี๋ยวผมขับรถให้”

เมื่อสลับที่นั่งกันเสร็จเรียบร้อย เคลื่อนก็เคลื่อนตัวออกไปช้า ๆ ก่อนจะถูกเร่งเครื่องยนต์ให้เร็วขึ้นกว่าเดิม เมื่อถนนเริ่มไม่มีรถราสัญจรไปมา แพรพรรณไม่รู้หรอกว่าเขาจะพาเธอไปที่ไหน เธอเพียงนั่งสงบอารมณ์ เรื่องราววุ่นวายยังไม่จบแค่นี้แน่ ไหนจะเรื่องที่เธอท้องอีก ตอนนี้เธอเองก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ที่สำคัญสองแม่ลูกนั่นไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ แน่

ในขณะที่แพรพรรณจมดิ่งอยู่กับความคิดของตัวเอง จู่ ๆ คนข้างกายก็พูดขึ้น

“ผมไม่เข้าใจเลยแพร คนในบ้านคุณทำไมถึงได้ใจร้ายกันขนาดนั้น?” น้ำเสียงของวิศรุตเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “คุณเป็นลูกสาวคนโตนะ! แล้วคุณก็โตแล้วด้วย จะไปยอมให้แม่เลี้ยงกับน้องสาวกดหัวอยู่ทำไมกัน”

เขาขบกรามแน่นด้วยความคับข้องใจ ยิ่งได้รู้เรื่องราวมากเท่าไร เขาก็ยิ่งเจ็บใจแทนเธอมากเท่านั้น

แพรพรรณหลุบตาลงต่ำ มือสองข้างบีบกันแน่น

“รุตคะ คุณไม่เข้าใจหรอกค่ะ ถึงแพรจะพูดไปมันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นอีก แพรเป็นคนที่ครอบครัวไม่ต้องการอยู่แล้วตั้งแต่แม่เสียไปคราวนั้น” 

แพรพรรณพยายามกลั้นน้ำตาและไม่อยากย้อนคิดถึงเรื่องเดิม    ซ้ำ ๆ เธออยู่ในบ้านไม่ได้มีสิทธิ์มีปากเสียงอะไรทั้งนั้น ยอมให้สองแม่ลูกพวกนั้นกดขี่มาโดยตลอด แต่ที่เธอไม่อยากออกไปเพราะเธอเองก็รักพ่อ พ่อคือคนเดียวที่ฉุดรั้งให้เธออยู่ ยังไงเขาก็เป็นผู้ให้กำเนิดถึงแม้บางครั้งการกระทำของเขาจะถือว่าลำเอียงก็ตาม

แต่เธอไม่อยากอกตัญญู อย่างน้อยเขาก็ส่งเสียเธอเรียนจนจบ มีที่อยู่ที่กิน ยิ่งคิดเรื่องราวในอดีตหญิงสาวก็ยิ่งจมดิ่งไปกับความรู้สึกที่อัดอั้น น้ำตาที่เหือดแห้งกลับไหลออกมาอีกครั้ง วิศรุตที่เห็นหญิงสาวร้องไห้ ก็โทษตัวเอง หากเขาไม่เอ่ยถึงครอบครัว เธอก็คงไม่ร้อง

“ขอโทษนะแพร คุณอย่าร้องเลยนะ เช็ดน้ำตาก่อนนะครับ” เขายื่นผ้าเช็ดหน้าให้พลางโทษตัวเองในใจที่เอ่ยเรื่องครอบครัวของเธอออกมา 

แพรพรรณรับผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำตาอย่างเงียบ ๆ

“ผมเข้าใจ แต่ขอร้องคุณได้ไหม ต่อจากนี้เลิกยุ่งกับบ้านนั้นเถอะนะ แล้วก็ย้ายมาอยู่กับผม”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หัวใจวิศรุต (วิศรุต&แพรพรรณ)    ตอนที่ 18 เริ่มต้นใหม่[2]

    “ขอบคุณยาย ขอบคุณตานะจ๊ะ ที่ใจดีกับแพรและลูก"ท่ามกลางอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นยังมีเด็กหญิงตัวน้อยในผ้าอ้อมสีขาวสะอาดกำลังนอนหลับฝันดีอยู่ พาขวัญนอนหลับตาพริ้มขนตางอนหนาเด่นชัด แก้มกลมขึ้นสีชมพู ผิวพรรณเนียนผ่องดุจสำลีขาวสิ่งมีชีวิตตัวน้อยที่เป็นเหมือนดั่งของขวัญที่มีค่าที่สุดในชีวิต แม้จะเกิดมาไม่มีพ่อแต่กลับเต็มเปี่ยมด้วยความรักจากครอบครัว แตกต่างจากชีวิตในวัยเด็กของแพรพรรณเอง ที่เติบโตมากับความรู้สึกขาดสิ่งเหล่านี้ จึงยิ่งทำให้เธอรู้ว่ารักจากตากับยายนั้นสำคัญสำหรับเธอเพียงใดหญิงสาวยิ้มน้อย ๆ ทั้งน้ำตา ก่อนจะก้มลงกระซิบกับลูกน้อยในอ้อมแขนของผู้เป็นยาย“ถึงหนูจะไม่มีพ่อเหมือนใครเขา แต่แม่ก็รักหนูที่สุดในโลกเลยนะจ๊ะ ลูกรักของแม่”ตอนนี้ชีวิตของแพรมีความสุขตามอัตภาพ ใช้ชีวิตแบบสงบตามที่ตัวเองต้องการ และเธอก็เคยคิดว่าวิถีชีวิตนี้จะดำเนินต่อไปแบบนี้เรื่อย ๆ จนถึงอนาคตข้างหน้าแต่ความสงบก็ไม่ยั่งยืนเมื่อแพรพรรณเข้ามาทำงาน ความสวยสะพรั่งของเธอก็ถูกตาต้องใจใครหลายคนเพียงแค่เข้าทำงานได้ไม่ถึงเดือนก็มีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่เข้ามาตามจีบแต่เธอก็ปฏิเสธไปทุกราย เธอไม่เปิดโอกาสให้ใครเข้ามาในชีวิต ตอนนี

  • หัวใจวิศรุต (วิศรุต&แพรพรรณ)    ตอนที่ 17 เริ่มต้นใหม่[1]

    ทางด้านวิศรุต หลังจากรับรู้เรื่องราวที่ไม่เป็นจริงจากศศิจันทร์ แต่เขากลับเชื่ออย่างสนิทว่าแพรพรรณตั้งท้องกับชายอื่นจริง ๆ ทำให้ตัวเขาหมดแรงที่จะต่อสู้เพื่อตัวเองและหญิงสาวแม้ในระหว่างนั้นจะมีรังรองและศศิจันทร์คอยให้ข่าวเรื่องที่เขากับเธอยังคงคบหากันอยู่เสมอแม้จะไม่ได้แต่งงานก็ตามวิศรุตความทุกข์ใจเสียใจมาทุ่มเทให้กับงานทั้งหมด โหมงานอย่างหนักจนไม่มีเวลามาคิดเรื่องอื่น จากชายหนุ่มที่มีความอ่อนโยนรอยยิ้มอบอุ่น ตอนนี้เขากลายเป็นคนเงียบขรึมเขากลายเป็นผู้บริหารที่ผู้คนยำเกรงวิศรุตถูกจับตามองในฐานะของนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงทำให้ บริษัทของเขารุ่งเรืองและก้าวหน้ายิ่งกว่าเดิม แต่ในความสำเร็จกลับไม่มีคนข้างกายที่ตัวเองโหยหา ตลอดเวลาที่ไม่มีแพรพรรณ เขาไม่เคยเปิดใจให้ใครอีกเลย แม้ศศิจันทร์จะพยายามเอาตัวเข้ามาในชีวิต เปลี่ยนตัวเองแค่ไหนก็ตามแต่กลับวิศรุตก็ไม่ได้ให้ความสนใจเธอเหมือนเดิม"เมื่อไหร่พี่รุตจะเลิกคิดถึงนังแพรเสียทีคะคุณแม่!" เสียงบ่นของศศิจันทร์เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง ทั้งที่เธอพยายามปรับปรุงตัวเองทุกอย่าง ทำทุกวิถีทางให้เขาหันมาสนใจแต่เขาก็ไม่หันมามองสักที"ลูกต้องให้เวลาเขาหน่อย เรื

  • หัวใจวิศรุต (วิศรุต&แพรพรรณ)    ตอนที่ 16 ใส่ความ [2]

    ทางด้านแพรพรรณตอนนี้เธออาศัยอยู่ในห้องนอนเล็ก ๆ ในคอนโดที่เธอเช่าเอาไว้ ตอนนี้เธอเองก็คิดไม่ตก ทั้งเรื่องที่ศศิจันทร์ข่มขู่เรื่องลูกของเธอ ในตอนที่เธอกำลังนั่งจมอยู่กับความเครียดอยู่นั้น เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เธอมองไปที่หน้าจอ เป็นศศิจันทร์ที่โทรเข้ามา เธอไม่ได้กดรับในทันที เพียงแต่นั่งจ้องนิ่งอยู่แบบนั้น ปล่อยให้เสียงเรียกดังอยู่อย่างนั้นจนสายตัดไปเองและไม่นานนัก ข้อความก็เด้งขึ้นมา พร้อมกับรูปภาพที่ถูกส่งเข้ามารัว ๆ‘อย่าลืมยินดีกับฉันด้วยล่ะ’ปลายนิ้วจิ้มไปที่หน้าจอก่อนจะเห็นรูปบัตรเชิญงานแต่งและรูปถ่ายอีกหลายใบหัวใจของเธอแหลกสลาย ราวกับถูกบดขยี้ซ้ำ ๆ จนไม่เหลือชิ้นดี เธอปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาอย่างช้า ๆ แม้รักวิศรุตมากเพียงใด แต่ภาพนั้นมันยืนยันกับเธออย่างชัดเจนแล้วว่า เขาเลือกเดินต่อโดยไม่มีเธอการจากไปของเธออาจทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดีขึ้น แพรพรรณสูดลมหายใจเข้าลึก กดบล็อกเบอร์ของศศิจันทร์ พร้อมกับตัดช่องทางการติดต่อทุกอย่างจากแม่เลี้ยงและน้องสาว ตอนนี้เธอไม่อยากรับรู้อะไรอีกต่อไปแล้ว“ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงจริง ๆ สินะ” เธอพึมพำทั้งเสียงสะอื้น นึกถึงช่วงเวลาดี ๆ ก

  • หัวใจวิศรุต (วิศรุต&แพรพรรณ)    ตอนที่ 15 ใส่ความ[1]

    “ขอบใจมาก และรับรู้เอาไว้ด้วยว่าเรื่องนี้ต้องไม่แพร่งพรายออกไปให้ใครรู้ เข้าใจใช่ไหม” เธอย้ำเตือนกับหญิงวัยกลางคน ซึ่งอีกฝ่ายพยักหน้าตอบรับ“ค่ะคุณ”ความคิดเหยียบย่ำคนในครอบครัวไม่มีทางที่จะลดลง ศศิจันทร์ขับรถออกไปจากบริเวณนั้นทันทีเธอตรงมาที่บริษัทของวิศรุต เดินตรงดิ่งไปยังห้องทำงานและเปิดเข้าไปอย่างถึงวิสาสะวิศรุตเงยหน้าขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียง แววตาคมดุฉายชัดถึงความหงุดหงิดทันทีที่เห็นผู้บุกรุก “ใครอนุญาตให้คุณเข้ามา ศศิ!” เขาพูดเสียงเข้ม กรามขบแน่น “ผมไม่มีธุระอะไรจะคุยกับคนอย่างคุณ!”แต่ศศิจันทร์กลับส่งยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน เธอเดินเข้าไปใกล้แล้ววางซองเอกสารลงบนโต๊ะตรงหน้าเขา “ศศิแค่อยากให้พี่รุตตาสว่างเท่านั้นเองค่ะ" เธอยังคงยิ้มแล้วพูดต่อ"พี่รุตอยากรู้ไม่ใช่เหรอคะ ว่าแพรพรรณหายไปไหนมาตั้งสี่เดือนทันทีที่เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายแสดงความหงุดหงิด ศศิจันทร์ก็ไม่รีรอ รีบเข้าเรื่องทันทีวิศรุตวางปากกาลงอย่างแรง ก่อนจะลุกขึ้นเดินอ้อมโต๊ะมายืนประจันหน้าเธอ แววตาแข็งกร้าว"เธอต้องการอะไรกันแน่?"เรื่องที่เธอบุกรุกเข้าบ้านเขาเพื่อทำร้ายแพรพรรณ เขายังไม่ทันเอาเรื่องด้วยซ้ำ แต่เธอกลับกล้

  • หัวใจวิศรุต (วิศรุต&แพรพรรณ)    ตอนที่ 14 ท้องกับคนอื่น [3]

    เช้าวันต่อมา ศศิจันทร์นั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟากลางโถงห้องรับแขก มือเรียวกดหมายเลขโทรศัพท์ของพี่สาวต่างแม่ด้วยท่าทางเยือกเย็นเสียงสัญญาณดังไม่นาน ปลายสายก็กดรับ“รับเร็วดีนี่...” ศศิจันทร์แสยะยิ้มเยาะ ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงเต็มไปด้วยความสะใจ"ต้องการอะไร" เสียงปลายสายตอบกลับมาเรียบแต่ถ้าฟังดี ๆ จะสัมผัสได้ถึงความสั่นไหวในน้ำเสียง“แค่อยากโทรมาแจ้งข่าวน่ะ” ศศิจันทร์พูดช้า ๆ อย่างจงใจ “ตอนนี้ฉันกับ พี่รุต เข้าใจกันดีแล้ว และเขาก็ ตกลงจะแต่งงานกับฉัน”“เมื่อไหร่...” เธอถามเบา ๆ ราวกับคนที่กำลังจะหมดแรง “เธอจะแต่งงานกับเขาเมื่อไหร่”เสียงเธอสั่นเครือจนแม้แต่คนใจร้ายอย่างศศิจันทร์ก็ยังรู้สึกถึงความสั่นไหวนั้น แต่มันยิ่งทำให้เธอยิ้มกว้างขึ้น“ไม่นานหรอกจ้ะ” ศศิพูดเสียงหวานหยัน “เสียใจด้วยนะ ในที่สุดพี่รุตก็เป็นของฉันจนได้”ปลายสายเงียบไป ก่อนจะพูดกลับมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความร้าวร้าน“แค่นี้ใช่ไหมศศิที่เธอต้องการ”“วันนี้เอาแค่นี้ก่อน อย่าเพิ่งทนไม่ไหวล่ะ!!”ศศิจันทร์ตัดสายทิ้งทันที แพรพรรณกำมือถือเอาไว้แน่น น้ำตาเจ้ากรรมไหลลงมาอีกแล้ว ครั้งนี้เธอร้องไห้โฮโดยไม่อายใครอยู่ในห้องที่วิศรุ

  • หัวใจวิศรุต (วิศรุต&แพรพรรณ)    ตอนที่ 13 ท้องกับคนอื่น [2]

    “ใช่!! ฉันใจดำอำมหิตก็เพราะเป็นแก และอยากจะให้แกไม่อยู่บนโลกใบนี้ด้วยซ้ำ แกไม่เคยรู้หรอกว่าฉันเสียใจขนาดไหน” ความในใจที่ค้างคาพรั่งพรูออกมาไม่หยุด“ในตอนที่ชีวิตแกมีความสุขอยู่ในอ้อมกอดของพ่อ แกไม่รู้หรอกว่าฉันกับแม่ต้องโดดเดี่ยวขนาดไหน แกไม่เคยรู้รสชาติของคนที่ถูกตามหน้าว่าไม่มีพ่อ มันเจ็บปวดยังไง!! ถึงเวลาแล้วที่ฉันก็จะแย่งสิ่งที่แกรักและหวงแหนมาไว้กับตัว คือคนที่แกรักที่สุดไงล่ะนังหน้าโง่!”ความเคียดแค้นของศศิจันทร์ไม่ใช่วันนี้หรือเมื่อวาน แต่มันคือปมด้อยในใจเมื่อครั้งอดีต ที่แม่และเธอเฝ้ารอคอยให้ครอบครัวตัวเองมีความสุขบ้างเหมือนกัน หากไม่มีแม่ของแพรพรรณมาขวางเอาไว้ ชีวิตเธอคงมีความสุขมากกว่านี้รังรองเป็นคนเอาความคิดชั่วร้ายมาใส่สมองของลูกสาวมาตั้งแต่เด็ก ทั้ง ๆ ที่รังรองเป็นคนวางยาวิชัยในคืนนั้นยัดเยียดสถานะเมียน้อย ตอนนั้นเธอเองยังพูดว่าเต็มใจและไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทนสุดท้ายแล้วรังรองก็อยู่อย่างหลบซ่อนมาเป็นสิบปี จนวันนึงเธอทนไม่ไหวขึ้นมา เธอเป็นคนส่งภาพความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างวิชัยกับเธอส่งให้พลอยใสดู ทำให้พลอยใสเสียใจและขับรถเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิต ซึ่งเรื่องราวที่เก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status