เข้าสู่ระบบ“ที่นี่เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมีสภาพราวเกิดสงคราม” ฟางเฟยมองเห็นชายผู้หนึ่งนอนหายใจรวยริน จึงรีบเข้าไปซักถาม“ท่านซื่อเว่ย พี่ชายท่านนี้บอกว่ามีโจรมาปล้นค่ายแรงงาน”“โจรเช่นนั้นรึ เป็นไปมิได้ นี่มันเป็นการสร้างสถานะการณ์ชัด ๆ” เทพเจ้าดวงดาวถ่ายพลังรักษาชายที่นอนจมกองเลือดสักพักชายคนดังกล่าวก็หมดสติไป“ท่านซื่อเว่ยต้าตี้เขาตายแล้วเหรอ”“ไม่ เข้ายังไม่ตาย เดี๋ยวเขาจะตื่นขึ้นมาเอง ฟางเฟยเจ้าตั้งสมาธิแล้วเรียกเฟิ่งหวาง ข้าให้นางค่อยดูแลโจวซานป๋อ ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง"เกาฟางเฟยหลับตาลงทำตามที่ซื่อเว่ยต้าตี้แนะนำ เพียงชั่วครู่ไก่ฟ้าห้าสีตัวใหญ่ก็บินออกมาจากแนวป่า ถลาลงกลางทุ่งนา บนหลังของเฟิ่งหวางนอกจากจะมีโจวซานป๋อแล้ว ยังมีเกาจางจิ้งด้วยอีกคน ทันทีที่เท้าเหยียบพื้น นางไก่ฟ้าห้าสีก็กลับคืนร่างเป็นสตรีมนุษย์งดงามดังเดิม“พี่จางจิ้งพี่มาที่นี่ได้อย่างไง” ฟางเฟยมีสีหน้าดีใจมาก เหมือนสองพี่น้องไม่ได้เจอกันนาน ทั้งที่เวลาในห้วงปกติเพิ่งผ่านไปไม่นาน“กระพรวนส่งสัญญาณของเฟิ่งหวางนำทางพี่มา”ฟางเฟยจับมือของจางจิ้ง มองดูกระพรวนเงินบนข้อมือของเขา “ดีจังเลย กระพรวนของฉันทำงานดีมาก”“เดี๋ยวก่
หญิงสาวได้แต่มองดูอ่างหมักดินสามใบที่คลุมผ้าปิดไว้มิดชิด ‘แบบนี้เราก็ไม่รู้ว่าท่านโจวซานป๋อใช้วิธีการใด ในการสร้างกาชาที่มีพิษแบบนั้น’‘รู้ไปแล้วอย่างไร นี่อาจเป็นความรู้เฉพาะทางของเขา หากนี่จะเป็นความลับของเทพเจ้าธาตุดิน เราก็ควรปล่อยผ่านไป สิ่งสำคัญคือ โจวซานป๋อจะเอากานี้ไปใช้กับใครเพื่ออะไร กาสามาใบนี้ถูกสร้างตามความตั้งใจของเขาแต่แรกเริ่ม หรือเพิ่งมาสร้างตอนที่เข้าสู่ห้วงฝันแห่งอดีตกาล’‘ก็จริงของท่าน ข้าเชื่อในข้อหลังมากกว่า เพราะที่ผ่านมาโจวซานป๋อเอง ดูเป็นเพียงองค์ชายไร้ค่า วัน ๆ หากไม่หมกหมุ่นในงานปั้น เขาก็อยู่ทุ่งนาเฝ้าดูแลการปลูกข้าวสร้างอาหารเข้าวัง ดูไม่มีพิษภัยอะไร แต่กลับเป็นเป้าหมายให้ใครต่อใครต่างต้องการกำจัด แบบนี้มันคืออะไรกันแน่’‘เรากลับสำนักนาฏศิลป์กันก่อนเถอะ ใกล้วันแสดงแล้ว บางทีตำหนักบูรพาอาจมีคำตอบที่เจ้ากำลังตามหานะฟางเฟย ส่วนที่นี่อย่างน้อยตอนนี้เราก็รู้แล้วว่า โจวซานป๋อได้เริ่มลงมือสร้างกาพิษสามใบขึ้นแล้ว ตามที่เราคาดการเอาไว้’สองหนุ่มสาวกำลังเดินพ้นซุ้มประตูสำนักนาฏศิลป์ กลับปรากฏกลุ่มทหารองครักษ์และผู้คนจำนวนหนึ่งตั้งแถวอยู่หน้าสำนักนาฏศิลป์ ซื่อเว่ยต้
เฟิ่งหวางวางจานปลานึ่งลงดังเดิม มองดูชายหนุ่มที่กินอาหารแสนห่วย แต่กลับมีใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม“ครั้งหน้าข้าจะให้ฟางเฟยสอนใหม่ และข้าจะตั้งใจเรียนรู้ ทำให้ท่านกินครั้งต่อไปจะต้องไม่แย่แบบนี้”โจวซานป๋อมองดูหญิงสาวตรงหน้ามีสีหน้าผิดหวังต่ออาหารที่นางทำ “ไม่มีอะไรเลวร้ายเลยเฟิ่งหวาง ดูสิผัดผักนี้อร่อยอยู่นะ มาเจ้าลองดู” คุณชายโจวคีบผัดยอดผักกับเห็ดหอมใส่ถ้วยของหญิงสาว เฟิ่งหวางคืบเข้าปาก จริงอย่างที่โจวซานป๋อพูด ไม่ได้เลวร้ายไปเสียทุกอย่างจริง ๆ“เจ้าอาจไม่ชอบปลาหรือเนื้อสัตว์ เลยทำให้อาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์ไม่อร่อย แต่กับผักเหล่าพวกนี้ เจ้าทำได้ดีมากเฟิ่งหวาง ข้าชอบนะ เจ้าชอบกินอะไรข้าก็จะชอบแบบนั้น” “ท่านชอบขนมหนวดมังกร เช่นนั้นข้าจะขอท่านป้าสอนให้ดีหรือไม่”โจวซานป๋อพยักหน้าให้นาง “ดี ดีมาก เป็นไปได้ข้าอยากให้เจ้าทำให้ข้ากินตลอดไปเลยได้หรือไม่”ทุกอย่างเงียบลงอีกครั้ง เฟิ่งหวางไม่ตอบอะไร โจวซานป๋อที่ส่งเสียงมีความสุขเมื่อครู่ก็พลอยเงียบเสียงไปด้วย“ขอโทษหากคำพูดข้าทำให้เจ้าไม่สบายใจ อย่าคิดมากเลยนะ กินต่อเถอะ”“หากบุรุษที่ข้าพึ่งใจ มองเห็นข้าแม้เพียงเล็กน้อยเช่นที่ท่านเ
ทั้งสองเดินกลับลงจากเขาด้วยความเงียบ โจวซานป๋อคอยช่วยดูเฟิ่งหวางในช่วงที่ทางเดินลาดชั้นและแคบเป็นระยะ จนถึงหมู่บ้านทุ่งนา คุณชายโจวขอแยกตัวออกไปดูกลุ่มแพทย์ที่ปรุงยาให้ผู้ป่วย เฟิ่งหวางยังไม่อยากกลับจวน นางเลยได้แต่เดินตามชายหนุ่มไปมา โจวซานป๋อมองดูเฟิ่งหวางที่ยืนเก้ ๆ กัง ๆ เหมือนไม่รู้จะช่วยอะไรได้ บนความวุ่นวายนี้“แม่นางเฟิ่งหวาง หากเจ้าต้องการช่วยข้า ก็ตามข้ามาทางนี้เถอะ” โจวซานป๋อพาเฟิ่งหวางมานั่งพักในจุดโรงปั้นชั่วคราว ซึ่งก็คือจุดที่หญิงสาวเคยมาช่วยเขาทำเตาเผาชั่วคราว ในครั้งก่อนนั้นเอง“ดื่มน้ำก่อน ขอโทษด้วยชาข้าไม่ค่อยร้อน ยังไม่มีเวลาเปลี่ยนเลย”เฟิ่งหวางมองดูน้ำชาที่คุณชายโจวซานป๋อรินให้ “ไม่เป็นไร ท่านดื่มได้ข้าก็ดื่มได้ บอกข้ามาใบชาอยู่ที่ไหน ข้าจะทำให้ท่านใหม่ ท่านได้ผลไม้ข้าไปแค่ผลเดียว คงหิวแล้วใช่หรือไม่ ให้ข้าดูแลท่านเถอะ” เฟิ่งหวางยกจอกชาเข้าปาก แล้วยิ้มหวานให้ชายหนุ่มโจวซานป๋อพอเห็นนางยิ้มให้หัวใจของเขาก็กลับมาชุ่มชื่นอีกครั้ง ด้วยสิ่งที่ตนพูดออกไปบนภูเขา ทำให้บรรยากาศขากลับออกจะเงียบเชียบ จนไม่รู้ว่าหญิงสาวแท้จริงรู้สึกต่อตนเช่นไร เฟิ่งหวางถือกาชาเดินหายไปทางโ
“อ่า ข้า ขอโทษ มือของแม่นางอ่อนนุ่ม ข้าไม่ได้ตั้งใจ”เฟิ่งหวางมองดูท่าทีเขินอายของเทพเจ้าธาตุดิน ยิ่งทำให้นางไก่ฟ้าห้าสียิ่งรู้สึกสนุก หญิงสาวคว้ามือชายหนุ่มจูงเขาเดินต่อไปข้างหน้า พร้อมกับฮัมเพลงโปรด โดยไม่ได้สนใจเลยว่าเวลานี้ โจวซานป๋อที่อยู่ในวัยหนุ่มเต็มตัว ถูกสตรีโฉมงามแสดงออกเช่นนี้ ตัวเขาจะมีอาการเช่นไรเฟิ่งหวางพาโจวซานป๋อเดินขึ้นเขาจนถึงจุดหมาย ลานหินบนเนินสูงฝั่งตรงข้ามหมู่บ้านทุ่งนา จุดนี้มองเห็นทัศนียภาพทั้งหมู่บ้านหุบเขาและเส้นทางน้ำได้อย่างชัดเจน “สวยมาก แม่นางเจ้าพบสถานที่แห่งนี้ได้อย่างไร”“ข้าบินผ่านมา” ซานป๋อหันไปมองหน้านางในทันทีด้วยความตกใจเฟิ่งหวางหัวเราะออกมาเหมือนเป็นเรื่องขบขัน “ท่านแค่สมมุติเอาว่าหากมีปีกบินอยู่บนท้องนภาได้ ท่านจะมองเห็นอะไรในพื้นพิภพ ข้าคิดเช่นนั้น ถึงพาท่านมาที่นี่ด้วยกัน ท่านดูตรงนั้น นั่นคือตำแหน่งที่เรากำลังก่อสร้างฝายใช่หรือไม่ หากเวลานี้น้ำมามากจนไม่สามารถทำได้ เราแค่ปล่อยมันไปก่อน ฤดูแล้งเราจะเริ่มกันใหม่ อย่างน้อยฝนครั้งต่อไป พื้นที่ในการดูแลของท่านก็จะมีน้ำมากมายให้ใช้สอย ตอนนี้ท่านเพียงแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ดีที่สุดก็พอ”โจวซานป๋
โจวซานป๋อกัดผลไม้ของเฟิ่งหวางโดยที่ไม่ปอกเปลือก รสชาติหอมหวานอร่อยเนื้อสัมผัสรสเย็นชื่นใจ ผลไม้นี่ประหลาดจริง“ทำไมไม่ปอกเปลือกออกก่อน ข้าบอกท่านแล้วนะ ว่าคนทั่วไปไม่กินเปลือกกัน”“ก็เจ้าเองยังกินทั้งเปลือกได้ ข้าเป็นสหายเจ้าก็ควรกินเช่นกัน แบบนี้ถึงจะเป็นเพื่อนกัน” โจวซานป๋อหัวเราะชอบใจที่เห็นเฟิ่งหวางยิ้มแล้วหัวเราะให้เขาเฟิ่งหวางเดินเล่นแถวนั้นระหว่างรอชายหนุ่มพักเหนื่อย นางเก็บเอาดอกหญ้าสีสวยมายื่นส่งให้ชายหนุ่ม“ข้าสังเกตเห็นท่านชอบมีดอกไม้เล็ก ๆ ประดับมวยผม หลายวันมานี้ท่านคงวุ่นวายจนไม่ได้สนใจตนเอง ข้าเห็นพวกมันสวยงามน่ารัก อะข้าให้”โจวซานป๋อมองดูดอกหญ้าสีสวยในมือหญิงสาว แล้วยิ้มให้นาง “เจ้าแต่งให้ข้าหน่อย ปกติท่านแม่จะทำให้ข้า”“ดอกไม้บนมวยผม เป็นแม่ท่านทำให้งั้นรึ”“ใช่ท่านแม่ทำให้ข้าทุกวัน ท่านบอกว่าหากข้าเกิดเป็นหญิงคงดีกว่านี้ การเกิดเป็นชายและมีชีวิตอยู่ใกล้ราชบัลลังก์หาใช่เรื่องที่มีความสุขไม่ มารดาข้าเป็นเพียงธิดาของเผ่าห่างไกล เพราะสงครามทำให้ท่านแม่เจอกับบุรุษแห่งแคว้น ความปลอดภัยของคนทั้งเผ่าคือสิ่งที่ท่านแม่ต้องแลกมันด้วยอิสรภาพทั้งหมดของตนเอง เหตุการเปลี่ยนแผ่นดิ







