Share

บทที่ 3

สามวันต่อมา ลู่เจ๋อก็กลับมาถึงเมือง B

ช่วงพลบค่ำ ความมืดปกคลุมไปทั่วทุกสารทิศ รถอาร์วีสีดำแวววาวก็ขับเข้าไปในวิลล่าอย่างช้าๆ หยุดและดับเครื่องยนต์

คนขับเปิดประตู

ลู่เจ๋อลงจากรถ แล้วใช้มือปิดประตูเบาะหลัง เมื่อเห็นคนขับจะยกกระเป๋าเดินทางเขาจึงพูดอย่างนิ่งๆว่า “เดี๋ยวผมยกเอง”

ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องโถง คนรับใช้ในบ้านก็มาต้อนรับ “เมื่อไม่กี่วันก่อนเกิดเรื่องขึ้นกับคุณพ่อของคุณนายค่ะ คุณนายจึงอารมณ์ไม่ค่อยดี ตอนนี้เธออยู่ชั้นบนค่ะ!”

เรื่องของตระกูลเฉียว ลู่เจ๋อรับรู้แล้ว

ในใจเขารู้สึกกลัดกลุ้มใจเล็กน้อย ยกกระเป๋าเดินทางขึ้นไปชั้นบน เปิดประตูห้องนอน และเห็นเฉียวซุนนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งกำลังจัดเรียงสิ่งของอยู่

ลู่เจ๋อวางกระเป๋าเดินทางลง ปลดเนกไทแล้วนั่งข้างเตียง พินิจดูภรรยา

หลังจากแต่งงานแล้ว เฉียวซุนชอบทำงานบ้าน จัดระเบียบ และทำขนมหวานมาโดยตลอด... ถ้าไม่ใช่เพราะรูปร่างหน้าตาที่ยอดเยี่ยมของเธอ

ในใจของลู่เจ๋อเธอก็คงไม่ต่างอะไรจากแม่บ้าน

เวลาผ่านไปนานสองนาน เฉียวซุนไม่ได้พูดอะไรเลย

ลู่เจ๋อกลับมาจากทริปธุรกิจรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าเธอไม่พูดอะไร เขาก็คร้านที่จะพูด...เขาเดินตรงเข้าไปในห้องเสื้อผ้าหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำแล้วเดินไปที่ห้องอาบน้ำ ตอนที่เขาอาบน้ำเขาคิดว่า เฉียวซุนมีนิสัยที่นิ่มนวลอ่อนโยนรอให้เขาอาบน้ำออกมาแล้ว เธอก็คงจะหายโกรธและช่วยเขาเก็บกระเป๋าเดินทาง เป็นภรรยาที่อบอุ่นนุ่มนวลต่อไป

เขามั่นอกมั่นใจมาก...

ดังนั้นเมื่อเขาเดินออกจากห้องอาบน้ำ แล้วพบว่ากระเป๋าเดินทางของเขายังอยู่ที่เดิม เขาจึงรู้สึกว่าจำเป็นต้องคุยกับเธอ

ลู่เจ๋อนั่งบนโซฟา แล้วหยิบนิตยสารขึ้นมาอ่าน

จากนั้นไม่นาน เขาก็เงยหน้าขึ้นมองเธอแล้วพูดว่า “ อาการของพ่อคุณเป็นยังไงบ้าง? เรื่องคืนนั้น...ผมได้ตำหนิเลขาฉินไปแล้ว” เขาพูดแบบเรื่อยเฉื่อย แบบไม่มีความจริงใจ

เฉียวซุนวางของในมือลง มองขึ้นไป แล้วสบตาเขาในกระจก

ลู่เจ๋อในกระจก หน้าตาหล่อเหลา มีความทะนงตน

เสื้อคลุมอาบน้ำ ก็ยังสวมแล้วดูดีกว่าคนอื่นๆ

เฉียวซุนมองดูอยู่นาน จนเริ่มแสบตา จากนั้นก็พูดอย่างใจเย็นว่า “ ลู่เจ๋อ เราหย่ากันเถอะ!”

ลู่เจ๋อตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด

เขารู้ว่าเฉียวซุนคงจะไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้น ต่อมาเมื่อเขารู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นกับตระกูลเฉียวก็ให้เลขาฉินรีบไปโรงพยาบาลทันที แต่เฉียวซุนไม่ยอมรับ

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอแข็งข้อกับเขา เมื่อก่อนเธออ่อนโยนมาโดยตลอด

ลู่เจ๋อหันข้างแล้วหยิบซองบุหรี่ออกมาจากโต๊ะน้ำชา เขย่าบุหรี่ออกมาหนึ่งมวนวางไว้บนริมฝีปาก ก้มศีรษะลงแล้วจุดไฟ

จากนั้นไม่นาน ก็ค่อยๆพ่นควันบางๆออกมา

เขาพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆว่า “เมื่อไม่กี่วันก่อนคุณบอกว่าอยากออกไปทำงาน แล้วทำไม...ผ่านไปไม่กี่วันคุณถึงพูดเรื่องหย่าอีกแล้ว?”

“เป็นคุณนายลู่นานแล้ว อยากออกไปสัมผัสชีวิตเหรอ?”

“เฉียวซุนคุณออกไปดูสิ มีผู้คนมากมายข้างนอกที่ได้รับเงินเดือนไม่กี่หมื่นบาทแถมยังต้องทำงานล่วงเวลา ต้องคอยดูสีหน้าคนอื่นว่าพอใจหรือไม่พอใจ เฉียวซุน คุณอาศัยอยู่ในวิลล่าขนาดสองพันตารางเมตรในฐานะคุณนายลู่ ยังมีอะไรที่ไม่พอใจอีกเหรอ?”

……

น้ำเสียงของเขาช่างไร้น้ำใจและเย็นชา

ในที่สุดเฉียวซุนก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอริมฝีปากสั่นแล้วยิ้มเยาะออกมา “คุณนายลู่? มีคุณนายลู่ที่เหมือนฉันด้วยเหรอ?”

ทันใดนั้นเธอก็ลุกขึ้นยืน ลากลู่เจ๋อไปที่ห้องเสื้อผ้า และเปิดประตูตู้เสียงดังปัง

ข้างในเป็นตู้ใส่เครื่องประดับเรียงกันเป็นแถว แต่ทั้งหมดถูกล็อกด้วยรหัส

เฉียวซุนไม่รู้รหัสผ่าน สิ่งเหล่านี้เลขาฉินเป็นคนดูแลจัดการทั้งหมด

เฉียวซุนชี้ไปที่สิ่งเหล่านั้น และหัวเราะเยาะตัวเอง “คุณนายตระกูลไหนที่จะใช้เครื่องประดับสักชิ้น ก็ต้องลงทะเบียนเบิกกับเลขาของสามี คุณนายตระกูลไหนเวลาเงินทุกบาททุกสตางค์ต้องกรอกแบบฟอร์มยื่นเลขาของสามี มีคุณนายตระกูลไหนออกจากบ้าน แม้แต่เงินติดตัวเอาไว้เรียกรถก็ไม่มีสักบาท? ลู่เจ๋อ คุณบอกฉันที คุณนายลู่เขาเป็นกันแบบนี้เหรอ”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status