Share

2 ได้ยินชัดทุกคำ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-07-14 22:45:02

“นี่กระเป๋าของคุณ”  เธอบอกเป็นภาษาอังกฤษเขารีบรับมาเปิดดูด้านใน เห็นว่าของสำคัญยังคงอยู่ดีจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

“ขอบคุณมากนะครับ มันสำคัญกับผมมาก” เขาขอบคุณเธอเป็นภาษาอังกฤษกลับเช่นกัน

“ไม่เป็นไรค่ะ มันคือสิ่งที่ฉันควรทำ” หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง

“ว่าแต่คุณไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหนใช่มั้ย”

เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าระหว่างที่เขาวิ่งตามเธอมาไม่ทันคนร้านทำอะไรกับเธอก่อนที่เขาจะมาถึงหรือไม่ จึงรีบถามหญิงสาวตรงหน้าในทันที

“ไม่ มันยังไม่ทันได้ทำอะไรฉัน แต่ถ้าคุณตามมาช้ากว่านี้ก็ไม่แน่”

“อย่างนั้นก็ดี งั้นพวกเราไปจากตรงนี้กันก่อนดีกว่า เผื่อว่ามันจะไปตามพวกแล้วหวนกลับมา”

“คุณไปก่อนเลยฉันเดินไม่ไหวแล้ว ฉันใช้พลังงานทั้งหมดไปกับการวิ่ง ตอนฉันนี้ไม่มีแรงแม้แต่จะลุกขึ้นยืน”

   “ถ้างั้นผมจะนั่งรอเป็นเพื่อนคุณจนกว่าคุณจะหายเหนื่อยแล้วเราไปจากที่นี่พร้อมกัน”

“คุณกลับไปก่อนเถอะฉันขอนั่งพักแป๊บเดียวเดี๋ยวก็จะตามไปแล้ว”

หญิงสาวตอบโดยไม่หันไปมองหน้าเขาด้วยซ้ำ เธอยังคงนั่งก้มหน้าปล่อยแขนและขาลงตามแรงโน้มถ่วงของโลก ด้วยความเหนื่อยจนไม่อยากจะเอาอะไรแล้ว หากเป็นไปได้เธออยากจะทิ้งตัวลงนอนมันซะตรงนี้ไปเลย จากคำตอบของเธอทำชายหนุ่มยิ้มเจื่อนเธออุตส่าห์ช่วยเขาไว้แล้วจะให้เขาทิ้งเธอไว้ที่นี่คนเดียวได้อย่างไร

“จะทำอย่างนั้นได้ยังไงละครับคุณช่วยผมเอาไว้ จะให้ผมทิ้งคุณไว้ที่นี่คนเดียวได้อย่างไร ถ้าชายคนนั้นมันกลับมาคุณก็จะตกอยู่ในอันตรายนะสิ” เขาบอกพร้อมกับเดินไปหยิบรองเท้ามาสวมใส่ให้เธออย่างไม่รังเกียจ

ฉันจะตายเพราะนายเอาแต่ถามเซ้าซี้ฉันอยู่นี่แหละ ไม่เข้าใจหรือไงว่าคนมันเหนื่อย คนมันหมดแรงหายใจไม่ทันอะถามอยู่นั่น -

เธอบ่นเป็นภาษาไทยออกมาอย่างเหลืออดที่เขาเอาแต่ถามเธออยู่นั่น เธอเพียงอยากจะนั่งพักเพียงเท่านั้น

แม้แต่แรงที่จะพูดตอนนี้ยังแทบไม่มีเลยจะเอาแรงที่ไหนเดินกลับไปที่ป้ายรถเมล์ -

เธอบ่นกับตัวเองต่อคิดว่าเขาคงฟังไม่เข้าใจก่อนจะบอกเขาต่อเพื่อให้ชายตรงหน้าสบายใจ

“คุณไม่ได้ทิ้งฉัน เป็นฉันเองที่อยากอยู่ตรงนี้เอง คุณไปเถอะฉันไม่เป็นอะไรจริง ๆ ”

เธอบอกเพื่อปัดความรำคาญ น้ำเสียงและท่าทางของเธอนั้นทำให้เขารู้ได้ในทันทีว่าเธอคงหมดแรงจริง ๆ เมื่อเธอบอกเขาเรียบร้อยก็บ่นกับตัวเองเป็นภาษาไทยต่ออีก

- ไม่ได้นอนมาทั้งคืนแล้วดันอยากจะมาเป็นคนดีอีกแพรเอ่ยแพร ฉันจะต้องนอนตายอยู่ตรงนี้แหละไม่ไหวแล้ว –

ชายหนุ่มได้ยินที่เธอบ่นออกมาก็อมยิ้มที่มุมปากเล็ก ๆ นี่ขนาดเหนื่อยขนาดนี้ยังจะไม่ยอมให้เขาอยู่เป็นเพื่อน กลับเลือกที่จะไม่พึ่งพาเขา เขามองคนตัวเล็กที่นั่งทิ้งตัวอย่างหมดอาลัยตายอยากอยู่ที่พื้นอย่างพินิจ ก่อนจะย่อตัวลงนั่งตรงหน้าเธอแล้วจึงหันหลังให้

“มาครับขึ้นหลังผม ผมจะพาคุณไปส่งที่ป้ายรถเอง"

เขาบอกเธอเป็นภาษาไทย เท่านั้นแหละหญิงสาวถึงกับตาโต รีบเงยหน้ามองเขาทันที วินาทีนั้นทำให้เขาได้เห็นใบหน้าของเธอได้อย่างชัดเจน ดวงตาโตกลมสีน้ำตาลเข้มจมูกโด่งได้รูปรับกับปากบางรูปกระจับ ใบหน้าที่ไร้การปรุงแต่งจากเครื่องสำอางที่ไม่ค่อยพบเห็นในผู้หญิงยุคสมัยนี้ ผมสีดำยาวของเธอนั้นถูกจับมัดรวบแบบหลวม ๆ ไว้ตอนนี้ดูยุ่งเหยิงเล็กน้อยจากการวิ่งท้าลมหนาวมาทำให้มีปอยผมบางส่วนหลุดลงมาปกปิดใบหน้าสวยนั้นไว้ อย่างไม่ได้ตั้งใจ หญิงสาวตรงหน้าเธอดูอ่อนกว่าเขามากเธอมีความสวยหวานอย่างเป็นธรรมชาติ

“คุณ…นี่คุณ .เป็นคนไทยเหรอ”

“ครับผมเป็นคนไทย”

“ถ้างั้นเมื่อกี้คุณก็....นี่ฉันบ่นกับตัวเองเสียงดังไปมั้ย”

เธอทั้งถามเขาพร้อมกับถามตัวเองไปด้วย ความใสซื่อของเธอทำให้เขาอดที่จะยิ้มกว้างไปด้วยไม่ได้

“ไม่ดังครับ”

“เห้อ!..ค่อยยังชั่ว” หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกโชคดีที่เธอบ่นไม่ดังแต่ดีใจยังไม่เท่าไหร่ชายหนุ่มก็เอ่ยต่อ

“แต่ผมได้ยินชัดทุกคำ” เขาบอกพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้เธออย่างตั้งใจแทนคำตอบ

ตอนนั้นแหละที่เธอได้เห็นใบหน้าของเขาเป็นครั้งแรกเช่นกัน หน้าตาของเขาเหมือนพระเอกซีรีส์จีนหรือเกาหลีเสียมากกว่าเป็นคนไทยเสียอีก ทั้งสีผิวที่ขาวอย่างกับหยวกกล้วยบวกกับความหล่อคมเข้มไม่ว่าจะเป็นใบหน้า ดวงตา จมูก ปาก ยังกะเขาหลุดออกมาจากนิตยสาร แล้วจะไม่ให้เธอเข้าใจผิดได้อย่างไรว่าเขาต้องเป็นคนต่างชาติ เธอคิด

“คุณก็น่าจะช่วยทำเป็นไม่รู้ไม่ได้หรือไงคะ ไม่เห็นจะต้องบอกความจริงออกมาจนหมด” เธอบ่นเสียงเบา

เขาเห็นอาการยิ้มเจื่อนๆ ของหญิงสาวจึงได้แต่อมยิ้มไม่อยากแซวเธอต่อ อย่างไรเธอก็เป็นคนที่ช่วยเหลือเขาไว้ในวันนี้

“มาเถอะครับ”

“อะไรคะ”

“ขึ้นขี่หลังผมไง ผมจะพาคุณออกไปจากตรงนี้เอง”

“ไม่เอาอะ คุณไปเถอะฉันนั่งพักแป๊บเดียวเดี๋ยวค่อยออกไป”

“อย่าดื้อซิครับ ผมมีธุระสำคัญที่ต้องรีบไปจัดการ ตรงนี้เปลี่ยวเกินไปที่จะให้ผมทิ้งคุณไว้ ถ้าคุณไม่ไปผมก็ไม่ไป แล้วหากผมไปทำธุระไม่ทันนี่ก็ถือเป็นความผิดของคุณนะ”

ให้ตายสิดูเขาพูดเข้าเธออุตส่าห์มาช่วยยังจะมาให้เธอเป็นคนผิดอีก มันน่ามาช่วยมั้ยเนี่ย เมื่อเขาพูดจบหญิงสาวก็มองไปรอบ ๆ มันเปลี่ยวอย่างที่เขาว่าจริง ๆ เธอจึงยอมที่จะทำตามที่เขาบอกแต่โดยดี

“ก็ได้ค่ะแต่ฉันไม่มีแรง ลุกไม่ไหวจริง ๆ ฉันใช้แรงทั้งหมดไปกับการวิ่งเอากระเป๋าคืนมาให้คุณแล้ว”

หญิงสาวย้ำด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงใบหน้าของเธอตอนนี้ราวกับลูกแมวตกน้ำ พูดแล้วหญิงสาวก็ทิ้งแขนและขาทั้งสองข้างลงกับพื้นอีกครั้งเพื่อเป็นการยืนยันว่าตอนนี้เธอไม่มีแรงขยับตัวแล้วจริง ๆ ชายหนุ่มเห็นเช่นนั้นจึงถือวิสาสะจับแขนทั้งข้างของเธอขึ้นมากอดรอบคอเขาเอาไว้ พร้อมกับดึงร่างคนตัวเล็กที่นั่งกองอยู่กับพื้นให้ขึ้นไปบนหลังของเขา

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ห้ามใจไม่ให้รัก   27 ชิน

    หลังประชุมเสร็จต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปทำงาน นคินทร์เองก็กลับมาทำงานต่อที่ห้อง ก่อนจะคิดขึ้นได้ว่า ต้องรีบหาโรงงานไม้เพื่อขึ้นแบบ“คุณแพร วันนี้ผมมีนัดอีกมั้ย”“ไม่มีแล้วค่ะ”“งั้นดีเลย คุณไปเอาแผนที่โรงงานไม้ ที่ผมให้คุณหาไว้มา”“ทั้งหมดเลยเหรอคะ”“ครับ ทั้งหมด ตอนนี้เลย แล้วมาเลือกวันนี้เราจะไปกัน”“เรา..” เธอย้ำพร้อมกับชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง“ครับเรา”“แล้วคุณจะไปวันไหนคะ”“วันนี้”“ วันนี้..” เธอทวนคำเสียงดังอย่างตกใจ“ครับ คุณติดปัญหาอะไรหรือเปล่า”“ เปล่าค่ะ รอสักครู่นะคะ”แพรไหมรับคำเสียงอ่อนแรงอย่างปฏิเสธไม่ได้ ผู้ชายคนนี้จะใช้งานเธอโหดเกินไปแล้ว ทำงานเก่งก็จริงแต่เธอไม่ใช่เครื่องจักรนะ ต้องกินข้าวนี่บ่ายสองแล้วยังไม่ได้กินมื้อเที่ยงเลย หิวจนตาลายไปหมดแล้วแต่ด้วยหน้าที่ ต้องทำตามที่เจ้านายสั่ง ไม่เอ่ยปากบ่นสักคำ เธอเป็นอย่างนี้เสมอ อดทนได้กับทุกเรื่องจะไม่ร้องขอความเห็นใจจากใคร แม้ว่าตัวเองจะไม่ไหวก็จะฝืนทำจนถึงที่สุด40 นาทีต่อมา.....“นี่คุณพาผมมาถูกทางรึเปล่า”“ถูกแล้วนะคะ เนี่ยก็จีพีเอสบอกให้เดินตรงมาทางนี้ห้าสิบเมตรแล้วจะมีซอยให้เลี้ยวขวา”พูดไปพลาง ตาก็มองแผนที่ในมือถือสลั

  • ห้ามใจไม่ให้รัก    26 รู้งาน รู้ใจ

    ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมา แพรไหมมักจะสังเกตใส่ใจกับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้เสมอ หญิงสาวไม่ได้ทำบ่อยจนน่าโมโห เธอรู้กาลเทศะว่าเวลาไหนควรทำหรือไม่ควรทำ มักเลือกเวลาที่เหมาะสมในการแสดงความห่วงใยส่วนใหญ่จะเป็นเวลาที่เขาไม่ได้ขยับร่างกายจากกองเอกสารนาน ๆ แล้วต้องพบแขกทั้งภายในและภายนอก เธอจะทำเช่นนี้เพื่อให้เขาได้ใช้เวลาสามถึงห้านาทีในการปรับอารมณ์ ให้สดชื่นขึ้น ไม่เช่นนั้นเขาจะเครียดใส่คนอื่นมากเกินไป“ขอบคุณครับ ปกติดูแลทุกคนแบบนี้ตลอดเลยหรือเปล่า”“เปล่าค่ะ ทำแค่ตอนที่คุณพ่อมีเรื่องเครียด ๆ จากงานมาท่านบอกว่าแบบนี้จะพอช่วยได้”“เหงามั้ย”“ไม่ค่ะ ฉันเริ่มชิ้นแล้ว พร้อมมั้ยคะใกล้ได้เวลาประชุมแล้ว”“ครับ”เขาพยักหน้าพร้อมกับลุกจากเก้าอี้ เดินตรงไปยังห้องประชุม ก็เห็นทุกคนมารอกันอยู่พร้อมหน้าก่อนแล้ว“ที่ผมเรียกทุกคนมาประชุมในวันนี้ ก็เรื่องปัญหาที่พวกคุณสรุปมาให้ ผมได้ทำแผนงานคร่าว ๆ มาให้ เอกสารอยู่ด้านหน้าของทุกคนแล้ว ผมอยากให้ทุกคนช่วยดูแล้ววิเคราะห์แผนงานที่ผมทำ หากใครมีข้อเสนอหรืออยากแนะนำเปลี่ยนแปลงตรงไหนแจ้งมาได้เลยครับ"เวลาผ่านไปชั่วครู่หลังที่ทุกคนได้อ่านเอกสารที่นคินทร์เตรียม

  • ห้ามใจไม่ให้รัก   25 มองตาผม

    “มองตาผมสิ ถ้าผมไม่ใช่คนแรกของคุณ ผมก็คงไม่ต้องคิดมากแบบนี้ ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วผมพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง”“คุณจะมารับผิดชอบฉันทำไม ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะค่ะฉันลืมมันไปหมดแล้ว”“ลืมไปหมดแล้วงั้นเหรอ คุณสามารถลืมครั้งแรกของตัวเองได้ง่ายดายขนาดนี้เลยเชียว”นั่นสิ เธอจะลืมครั้งแรกของตัวเองได้ยังไง เป็นคำตอบที่โง่มากที่ตอบออกไปแบบนั้น แต่จะให้ทำอย่างไรเล่า จะให้คนที่ไม่ได้รักมารับผิดชอบได้อย่างไร และเธอก็อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่อยากลืมอดีตที่ไม่ดี ความทรงจำที่เจ็บปวดไปให้หมด“ค่ะ ลืมหมดแล้ว”“โกหก ไม่มีผู้หญิงคนไหนลืมครั้งแรกของตัวเองได้หรอก”“แล้วคุณต้องการอะไรคะ ในเมื่อเรื่องมันผ่านไปแล้ว จะมารื้อฟื้นทำไม”“ผมเป็นผู้ชาย ที่สำคัญเป็นพี่ชายของเพื่อนรักคุณด้วย ผมคงปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปไม่ได้”“แล้วยังไงต่อคะ คุณจะรับผิดชอบผู้หญิงที่คุณเจอเพียงไม่กี่ครั้ง ไม่ได้รักด้วยซ้ำ แต่ดันเมาแล้วเผลอไปมีอะไรด้วย อย่างฉันหรือไง”“ใช่ ..”“…..”“ตั้งแต่คืนนั้น ผมก็บอกตัวเองว่าผมต้องรับผิดชอบคุณ”“เพราะอะไรคะ ในเมื่อคุณก็ไม่ได้ชอบฉันหรือว่ารับผิดชอบเพียงเพราะหน้าที่ ฉันบอกเลยว่าถ้าเป็นอย่างนั้นไม่ต้องค่ะ ฉ

  • ห้ามใจไม่ให้รัก   24 ทำเป็นลืม

    ตลอดการเดินทาง ภายในรถมีแต่ความเงียบสนิท ได้ยินเพียงลมหายใจของกันและกันเท่านั้น ต่างฝ่ายต่างเงียบ นคินทร์จึงเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาขึ้นมาก่อน“ดูเหมือนว่าคุณจะสนิทกับครอบครัว ของผมมากเลยนะครับ”“ก็ระดับหนึ่งค่ะ” แพรไหมบอกสีหน้าเรียบตึง แสดงออกชัดว่าไม่อยากคุยกับเขา-ระดับหนึ่งอย่างนั้นหรือ- นคินทร์คิดในใจในเมื่ออีกฝ่ายไม่อยากพูด จึงปล่อยให้ความเงียบปกคลุมภายในรถอีกครั้ง ไม่นานรถเก๋งคันหรูก็ขับมาถึงที่หมาย“ส่งฉันแค่ตรงนี้ก็พอค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”“แต่ผมหิวน้ำ”“ในรถคุณก็มีน้ำค่ะ”ไม่พูดเปล่ายังเอื้อมมือไปหยิบขวดน้ำก่อนยื่นส่งให้พร้อม นคินทร์ยิ้มขันกับท่าทีของคนรู้ทัน ถึงอย่างนั้นก็ไม่ยอมแพ้“แต่ผมอยากดื่มน้ำเย็น”“นี่! คุณดิน ตอนนี้มันดึกมากแล้วนะคะ ถ้าใครมาเห็นว่าฉันอยู่กับผู้ชายสองต่อสองเข้า มันจะดูไม่ดี”“แต่ว่าเราเคย..”“เราไม่เคยมีอะไรกันทั้งนั้นค่ะ เชิญคุณกลับไปได้แล้ว ขอบคุณอีก

  • ห้ามใจไม่ให้รัก   23 ไม่ได้เตรียมใจ

    ภาพความสนิทสนมของทั้งสามคนอยู่ในสายตาของ ลูกชายเจ้าของบ้านอีกคนตลอดเวลา นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้เห็นรอยยิ้มของบิดาและน้องสาวของเขา แสดงสีหน้ามีความสุขอย่างเต็มอิ่ม ผ่านรอยยิ้มแบบนี้ มันเป็นภาพที่เห็นแล้วก็ทำให้เขามีความสุขตามไปด้วยทั้งที่ความสุขอยู่แค่ตรงหน้า แต่เขากลับไปไขว่คว้าหาอะไรอยู่ก็ไม่รู้ ต่อจากนี้นคินทร์ตั้งใจจะทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาความสุขที่มี ให้อยู่กับตนเองได้นานที่สุด“แจ๋วทำไมถึงจัดโต๊ะสี่ที่ล่ะ”ประภาสถามด้วยความสงสัยเพราะแขกมาเพิ่มแค่คนเดียวและเจ้าลูกชายคนโตก็น่าจะกลับมาในอีกสองวันข้างหน้า“อะไรกันครับคุณพ่อ จะไม่ให้ผมทานข้าวด้วยหรือไงกัน หรือว่าได้ลูกสาวคนใหม่แล้ว จะทิ้งลูกชายคนนี้”“พูดอะไรอย่างนั้นค่ะพี่ดิน ดาวเป็นคนชวนแพรมาเอง ละไหนบอกว่าอีกสองวันถึงจะกลับ แล้วทำไมมาปรากฏตัวที่นี่ได้ พวกเราก็ตกใจกันน่ะสิ”“นั่นสิดิน เดี๋ยวน้องก็น้อยใจหรอกพูดแบบนี้ พ่อเห็นไปหลายวัน ใครจะไปรู้ว่าวันนี้จะกลับมาแล้ว”ชายสูงวัยกล่าวก่อนจะหันไปปลอบหญิงสา

  • ห้ามใจไม่ให้รัก   22 เพื่อน

    “น้องแพร อีกสองวันแผนกเราจะมีผู้จัดการแผนกคนใหม่เข้ามาทำงานที่นี่ พี่ธันกับพี่ปรึกษากันแล้วว่าจะให้น้องแพรเป็นผู้ช่วยเขาชั่วคราวสักสองอาทิตย์ จนกว่าเราจะหาผู้ช่วยคนใหม่ได้ หรือไม่ก็ต้องทำให้คนในแผนกเราเคลียร์งานออกจากมือให้ได้เสียก่อน น้องแพรคิดว่าพอจะทำได้มั้ยคะ”“แล้วผู้ช่วยผู้จัดการแผนกที่ว่า มีหน้าที่ทำอะไรบ้างคะ”“ก็คอยอัปเดตงานในทีม ให้ผู้จัดการแผนกทราบ แล้วก็คอยช่วยเรื่องเอกสาร รวมถึงการติดต่องานก็ต้องมีช่วยบ้าง เหมือนเป็นเลขานั่นแหละ”“เลขาเลยเหรอคะ แพรกลัวจะทำไม่ได้ เพราะไม่เคยทำค่ะ”“ไม่ต้องกังวลไป ทุกคนในทีมจะคอยช่วยแพรอีกที อีกอย่างผู้จัดการแผนกคนนี้ จะมาช่วยแก้ไขปัญหาในบริษัทตอนนี้บอกตามตรงบริษัทของเรากำลังเจอวิกฤตใหญ่อยู่ น้องแพรเป็นเพื่อนคุณดาวน่าจะพอรู้เรื่องมาบ้าง ฟังแบบนี้แล้วพอไหวมั้ยคะ”“ค่ะ สบายมากค่ะพี่นัด แพรจะช่วยเต็มที่เลย”นี่เป็นโอกาสดีที่หญิงสาวจะได้ช่วยเหลือผู้มีพระคุณอย่างประภาส มีหรือที่เธอจะปฏิเสธ ถึงจะช่วยได้เพียงเล็กน้อยแต่ก็เต็มใจช่วย“ดีค่ะ ถ้าอย่างนั้นพี่ฝากด้วยนะ ส่วนวันนี้ให้น้องแพรดูขั้นตอนการทำงานกับรายละเอียดงานในส่วนที่แผนกเรารับผิดชอบจากแฟ้ม

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status