공유

บทที่ ๑ เทศกาลพานพบ (๕๐%)

last update 최신 업데이트: 2024-10-29 18:05:50

สงครามโลกครั้งที่สองอุบัติขึ้นแล้ว หากแต่สยามที่ได้เปลี่ยนนามเป็นไทยนั้นยังคงไว้ซึ่งความเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดทั้งสิ้นกระนั้นก็เป็นรู้กันปากต่อปากว่าการเลือกเป็นกลางนั้นถือเป็นการเลือกฝักฝ่ายไปแล้วสิ้น ทว่าเรื่องเช่นนั้นไม่สำคัญเท่าความปลอดภัยของชายแดนและเหล่าประชาชนที่อาจถูกรุกรานจากชาติญี่ปุ่นที่กดดันเข้ามาไม่ต่างจากนาฬิกาปลุกที่เมื่อยามใดเข็มทั้งสองมาบรรจบกันเวลาอันเหมาะ นกน้อยจะออกมาร่ำร้องเป็นทำนอง

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . 

ตำบลท่าตะเภา อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร

ขบวนรถไฟสีดำขลับแล่นผ่านหมู่แมกไม้รายทาง สายลมที่เกิดจากความเร็วของล้อที่เคลื่อนตัวด้วยแรงไอน้ำพัดพากลีบดอกสีขาวไม่ทราบนามสวนทางผ่านเข้ามาทางช่องหน้าต่างที่เปิดรับลมธรรมชาติ

ทันทีที่ดอกน้อยร่วงหล่นแตะพื้นที่นั่งข้างชายร่างกำยำในชุดทหารภูมิฐาน มือหยาบกร้านจากการฝึกอาวุธมาตลอดร่วมสิบปีก็จับกลีบบางโปร่งแสงนั้นขึ้นมามองฆ่าเวลาก่อนจะโยนมันทิ้งไปประหนึ่งสิ่งของไร้ค่าชิ้นหนึ่ง ดวงตาเฉี่ยวคมพร้อมนัยนาหม่นไร้แสงมองออกยังทิวทัศน์ด้านนอกด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย เขาปล่อยลอนผมที่จัดทรงเสยขึ้นปลิวไปตามลม

เมื่อสังเกตเห็นว่าสถานีปลายทางเข้าใกล้มาแล้วจึงเหยียดหางตาไปมองนายทหารรุ่นน้องที่นอนสัปหงกน้ำลายไหลยืดอยู่ 'ทำตัวไม่สมกับอาชีพเลยจริง ๆ ' เขาคิดในใจ ก่อนจะหยิบหมวกเหล็กขึ้นสวม กระชับสายเข็มขัดที่พาดผ่านลาดไหล่ลงมาถึงเอว แล้วจึงลุกขึ้นเมื่อขบวนรถไฟหยุดลง กระตุกร่างของรุ่นน้องให้ตื่นขึ้นจากฝันหวานและเดินตามกันไป

เสียงฝีเท้าหนักแน่นลงจากขบวนรถไฟเหยียบพื้นดิน ณ จังหวัดแดนใต้ เนื่องด้วยคำสั่งเบื้องบนได้มอบหมายให้เขา'ร้อยเอกพิภพ ธีระเสถียร' และ 'สิบเอกปลื้มปีติ วิภา' ลงมาเปิดรับสมัครเหล่ายุวชนทหารเพื่อไปเป็นกำลังรบเสริมในการป้องกันการบุกรุกเข้าประเทศจากทหารญี่ปุ่น

ทว่าแม้ในหัวของร้อยเอกคนนี้จะเคร่งเครียดปานใด รุ่นน้องที่ติดตามมาด้วยก็ยังคงง่วงเหงาหาวนอนไม่รู้เวลา ทั้งเมื่อตื่นเต็มตายังพาหน้าตี๋ ๆ ติดทะเล้นนั่นไปอ้อล้อแม่ค้าแม่ขายแถบชานชาลาจนได้ของให้เปล่ามาจำนวนหนึ่ง กระทั่งรุ่นพี่อย่างเขาเพ่งสายตามองกดดันก็ยังคงไม่สะทกสะท้านเปิดห่อใบตองกินข้าวเหนียวปิ้งไม่รู้ร้อนรู้หนาว

ทหารทั้งสองในเครื่องแบบสีเขียวแก่เดินไปตามทาง คนหนึ่งยิ้มร่าสดใสประหนึ่งดอกไม้ทักทายเหล่าสาวน้อยสาวใหญ่ที่เดินผ่าน ส่วนอีกคนกดคิ้วลงตามองตรงไปข้างหน้าพร้อมแผ่รังสีทะมึนออกมาห้อมล้อมตัว ทำให้ทั้งสองที่เดินคู่กันมาเป็นที่จับตามองยิ่งในหลาย ๆ ความหมาย

"ร้อยอย่าทำหน้าบอกบุญไม่รับแบบนั้นสิครับ สาว ๆ กลัวหมดกันแล้วนะ"

นายทหารยศสิบเอกพูดแซะแซวรุ่นพี่เป็นการใหญ่เมื่อเห็นว่าระหว่างทางนั้นไม่ว่าจะหญิงเล็กเด็กแดงต่างก็เดินหลีกทางหลบหัวหน้าเขา

ใบหน้าที่ดูไปดูมาก็หล่อเหลาเอาการ เป็นชายผิวสีเข้มสุขุมนุ่มลึกชวนให้สาวเล็กสาวใหญ่หลงใหลได้เป็นแถบ ๆ แบบที่สามารถผันตัวไปเป็นดาราบนจอแก้วหรือนักร้องลูกทุ่งกินเงินสบาย ๆ จากเหล่าแม่ยกได้เลย ทว่าชายวัยสามสิบกว่าคนนี้กลับเอาแต่ปั้นหน้าบอกบุญไม่รับ คิ้วขมวดอยู่ตลอดคล้ายจะเป็นเงื่อนตาย ปากเหยียดตรงไร้อารมณ์สิ้นดีจนบางครั้งรุ่นน้องคนนี้ก็ไม่รู้ว่าตนกำลังร่วมงานกับมนุษย์ หรือหุ่นขี้ผึ้งเดินได้กันแน่

"แล้วเอ็งจะให้ฉันทำหน้าชื่นตาบานหรือยังไง"

คนแก่กว่ามองมาทางเขาด้วยความกริ้วพร้อมเหน็บรุ่นน้องที่เคี้ยวข้าวเหนียวปิ้งไส้เผือกอยู่เต็มปาก

ปลื้มปีติถึงกับเหนื่อยหน่ายใจ คราวจะทอดถอนลมออกจากปอดมาสักเฮือกก็กลัวจะโดนรุ่นพี่สับเละ เพราะเจ้าตัวในสายตารุ่นน้องอย่างเขานั้น ชายผู้นี้ควรจะได้รับสมญานามว่า 'พิโรธ' ที่แปลว่าโกรธไฟหัวลุก มากกว่า 'พิภพ' ที่แปลว่าผืนดินอันอบอุ่นเสียอีก

เขาล่ะเสียดายหน้าตาอันมีค่านั้นแทนเสียเหลือเกิน (ถึงจะหล่อสู้เขาไม่ได้ก็ตาม) ด้วยความหวังดีจากรุ่นน้องที่สนิทชิดเชื้อกันมานานเขาอยากจะบอกร้อยเหลือเกินครับว่า 'ประเดี๋ยวตีนกาจะประทับหน้าเอานะครับร้อย'

ทว่าหากพูดออกไปรุ่นน้องอารมณ์ดีคงอยู่ไม่ถึงแต่งเมียเพราะร้อยเขาก็มีปืนเหน็บไว้ที่เอวไม่ต่างจากเขา

"เรามาก่อนกำหนดตั้งวันหนึ่ง ไปเที่ยวเล่นคลายเครียดหน่อยจะเป็นไรไปล่ะครับ"

ไหน ๆ ช่วงนี้ก็เป็นสัปดาห์กาชาด ไม่แน่ว่าแถวนี้อาจจะมีงานรื่นเริงและน้ำเมาให้เขาได้ไปสะดิ้งแถวนั้น

"เอ็งจะไปก็เรื่องของเอ็ง ฉันจะไปคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียน"

รุ่นน้องหน้าตี๋บุ้ยปากเหมือนเด็กอดได้ของเล่น ไม่ว่าอย่างไรร้อยเอกผู้เคร่งครัดคนนี้คงไม่มีวันจะผ่อนปรนอะไรได้เลยจริง ๆ เขาคิดแล้วจึงถอนหายใจออกมาต่อด้วยหาอะไรพูดไปเรื่อยเปื่อย

"เฮ้อ ผมล่ะเชื่อแล้วครับว่าทำไมคุณถึงจับพ่อกับเมียตัวเองเข้าคุกได้ลงคอ-"

ไม่ทันที่จะพูดจบก็มีสายตาอาฆาตมุ่งมาที่เขา ทำให้สิบเอกปลื้มปีติจำต้องสงบปากสงบคำสงวนท่าที แล้วบอกตัวเองว่าจำใส่กะโหลกเอาไว้เสียนะปลื้มเอ๊ย ห้ามเอาเรื่องครอบครัวของพี่ชายคนนี้มาพูดเด็ดขาดไม่งั้นตัวเองได้ลงหลุมฝังศพก่อนพวกญี่ปุ่นแน่

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . 

โรงเรียนศรียาภัยคือโรงเรียนประจำจังหวัดมีนักเรียนเข้าศึกษาอยู่พอสมควรจึงเป็นที่หมายตาจากเบื้องบน อย่างไรเสียเขตนี้นับเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่พวกมันสามารถขึ้นบกมาได้โดยง่าย

โดยการมาพูดคุยในครั้งนี้ทางการได้ส่งเอกสารมาไว้ล่วงหน้าแล้วจึงเป็นการง่ายที่จะตระเตรียมวางแผนการเรียนการสอนฉบับทหาร และนำมาอภิปรายในการประชุมผู้ปกครองก่อนเปิดเทอมในวันจันทร์ที่ใกล้เข้ามานี้

เมื่อผู้อำนวยการรับทราบแล้วพลทหารทั้งสองจึงได้ออกมาจากโรงเรียน ตัวโรงเรียนเองไม่ได้มีพื้นที่ใหญ่นักทว่าเพียงพอสำหรับจำนวนนักเรียน ไม้ที่นำมาสร้างมีบ้างที่ผุพังไปตามกาลเวลาหากไม่ได้ใหม่เอี่ยมแต่ก็แสดงถึงความขลังและประวัติอันยาวได้เป็นอย่างดี พื้นที่สนามกว้างขวางต่างจากเมืองกรุงที่คับแคบยิ่ง

ท่านผู้อำนวยการหญิงชราทำการต้อนรับพวกเขาเป็นอย่างดี พูดจาอย่างผู้มีมารยาททำให้เขารู้สึกสงบจิตสงบใจขึ้นมาได้บ้าง เพราะรุ่นน้องเขาที่โดนสั่งให้ยืนรอนอกห้องเอาแต่พูดคุยละเล่นกับนักเรียนนอกห้องจนส่งเสียงคิกคักเข้ามาถึงข้างใน เดี๋ยวนอกจากยุวชนทหารเขาคงต้องจับหมอนี่เข้ารับการฝึกด้วยเสียแล้ว

"แหม นึกว่าทหารจะเครียดกว่านี้เสียอีก เข้ากับเด็ก ๆ ได้ดีเลยนะคะ"

"ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับคุณนาย"

เสียงทะเล้นตอบมาจากข้างนอก ก่อนที่สิบเอกจะขัดคำสั่งรุ่นพี่แล้วเดินเข้ามานั่งร่วมวงสนทนาด้วย

ดีที่ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น อย่างไรเสียไอ้หมอนี่ก็เป็นงานรู้หน้าที่ แต่เพียงไม่นานเมื่อคุณนายผอ.ได้แนะนำให้พวกเขาลองไปเดินชมงานกาชาดที่จัดขึ้นแถวสถานพยาบาลดูก่อนที่จะไปรับกุญแจเข้าบ้านพัก ทว่าไม่ทันไรเมื่อเท้าของเขาเหยียบลงนอกอาณาบริเวณโรงเรียน จู่ ๆ ก็โดนลากไปขึ้นรถแอลยูวีที่ทางกองบัญชาการเบิกเอาไว้ให้พร้อมขับมุ่งตรงไปยังจุดหมาย

เขาอยากกลับที่พักจะตายอยู่แล้ว พิภพยกมือขึ้นจับไปที่ท้ายทอยบีบนวดให้คลายเส้นช่วยลดอาการหงุดหงิด จนคอเสื้อหย่อนคล้อยเผยให้เห็นรอยสักอินทรีโอบพระจันทร์ และยันต์อักขระที่คาดว่าคงจะมีทั่วแผ่นหลัง

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   ปราบเสือดิน ๕ ตรึงใจเสือ

    ๑๙ถึง คุณแก้วผู้ครอบครองหัวใจของผม ตอนผมเขียนจดหมายฉบับนี้แม้มันจะไม่ใช่ฉบับสุดท้าย แต่ผมก็ใจหายไม่น้อยเมื่อรู้ว่าจะเขียนจดหมายถึงคุณได้เพียงแค่นี้เพราะผมเหลือเวลาอีกไม่มากในการเขียนพวกมันขึ้นมา บางทีโทษที่ได้รับอาจมากเกินกว่ายี่สิบปีหรือผมอาจไม่มีลมหายใจจะกลับมาบอกรักคุณด้วยตัวเอง ดังนั้นไม่ว่ามันจะจำเจแค่ไหน ผมก็จะบอกว่าผมรักคุณ ผมรู้ว่าผมกำลังใช้คำที่มีความหมายอันลึกซึ้งพร่ำเพรื่อ แต่ไม่มีคำไหนที่จะอธิบายความรู้สึกของผมไปได้มากไปกว่าคำนี้แล้ว ได้โปรดให้อภัยผู้ชายน่าเบื่อคนนี้ด้วยนะครับ ผ่านมาจนจะครบยี่สิบปี โลกในตอนนั้นคงเปลี่ยนไปมาก คงจะมีรถเต็มทั่วท้องถนน คงจะมีสิ่งใหม่เกิดขึ้นมากมาย แต่อย่างน้อย ขอแค่คุณเปิดอ่านจดหมายเก่า ๆ ฉบับนี้และอ่านมันเพียงแค่คำขึ้นต้น ผมที่อยู่ในเรือนจำคงจะมีความสุขมากเกินคณานับ

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   ปราบเสือดิน ๔ ไม่ทันได้ตั้งตัว

    วันที่พวกเขาต้องกลับบ้านนั้นมาถึงเร็วกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ประหนึ่งชั่วพริบตาช่วงเวลาหนึ่งเดือนก็หมดลง กระนั้นแม้ตัวเขาจะกลับมาใช้ชีวิตบนเรือนนางรำอย่างปกติ กระนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเขาและพ่อเสือสุพรรณยังคงดำเนินต่อไป "แบบนี้ผมคงคิดถึงแย่" "พูดแบบนี้แต่ยังไงผมก็ต้องกลับบ้านอยู่ดีนะครับ" พิภพตั้งใจพูดให้ตนนั้นดูน่าสงสารในสายตาโฉมงามแต่เพราะคงจะใช้วิธีนี้บ่อยเกินจนโดนแก้วจับไต๋ได้หมดแล้ว ช่วงเวลาหนึ่งเดือนพวกเขาได้ทำหลายอย่างร่วมกัน ตระเวนป่า ชวนกันไปเก็บผลไม้ หรือแม้แต่การนอนบนเตียงเดียวกันทว่าถึงอย่างนั้น แม่คนงามยังคงไม่อนุญาตให้เขาขยับความสัมพันธ์ไปได้ไกลกว่าที่เป็นอยู่ ทั้งยังดูสนุกสนานที่ได้หยอกล้อปั่นหัวเขาเล่น แสนซนเหลือเกิน&nbs

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   ปราบเสือดิน ๓ ยาดีบรรเทาแผล

    ตรีศูลอยู่ที่นี่มาร่วมเดือนเริ่มสนิทกับทุกคนในชุมเสือมากขึ้น ยิ่งได้มารู้ว่าแต่ละคนผ่านอะไรมาบ้างในชีวิต ความเข้าใจที่มีเจตนารมณ์ของชายผู้เป็นมหาโจรยิ่งมากขึ้น เบื้องลึกเบื้องหลังของแต่ละคนช่างน่าเศร้า บางคนระหกระเหินเร่ร่อนมาจากแดนไกล บางคนเคยมีการงานที่ดีแต่หัวหน้าคดโกงใส่ร้าย หรืออย่างพี่ประไพที่เกิดมาในชุมเสือแต่แรก เพราะไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสืออย่างใครเขา สาวเจ้าจึงอ่านเขียนไม่ได้ จะมีก็แต่คุณดิน คุณปลื้ม และเจ้าสิงห์ที่เรียนมา ว่าง ๆ ก็จะมาคอยสอนหนังสือ ทว่าเอาเข้าจริงทั้งสามคนก็ไม่ได้มีเวลาว่างมากนักหรอก "แก้วสอนเก่งจัง" "พี่เรียนรู้ไวต่างหากจ้ะ" เนื่องจากเจ้าพี่ขอให้เขาสอนเขียนอ่านพื้นฐานให้บนชานเรือน ดีที่ที่นี่มีกระดาษเครื่องเขียนครบครัน เขาจึงสอนให้ได้อย่างไม่ติดขัดอะไร&n

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   ปราบเสือดิน ๒ นอนถ้ำเสือ

    ตรีศูลแม้ร่างกายยังคงหนักอึ้งและสะลึมสะลือเพราะฤทธิ์ยาแต่ตลอดหลายวันที่เขานอนซมอยู่บนเตียงเขารู้สึกได้ถึงสัมผัสอุ่นที่เข้ามาเช็ดเนื้อตัวอยู่ไม่ขาด ทว่าเมื่อตอนที่เขาลืมตาตื่นชายคนนั้นก็มักจะมีกิจให้ต้องออกไปนอกห้องจนเขาไม่สามารถขอบคุณได้ ทว่าตอนนี้อาการเขาดีขึ้นมากแล้ว สามารถมีแรงกลับมาพาตัวเองลุกขึ้นนั่งได้โดยไม่ปวดหัว ร่างโปร่งในเสื้อผ้าตัวโคร่งปล่อยผมยาวสยายลงมาก่อนจะใช้นิ้วสางให้พอเรียบเป็นทรง มองซ้ายมองขวาสำรวจข้าวของภายในห้องก่อนจะรู้ว่าเจ้าของเป็นคนเรียบง่าย โต๊ะตู้เตียงล้วนเป็นของไม่ได้มีลวดลายหวือหวา ทั้งห้องยังโล่งโปร่งไม่มีเครื่องเรือนประดับเพื่อความสวยงามมากนัก *แอ๊ด* เสียงบานพับประตูดังขึ้นก่อนที่ชายร่างสูงใหญ่ในเสื้อผ้าอย่างง่ายจะเดินเข้ามาพร้อมถาดอาหารในมือ ทว่ากลับต้องตกใจเมื่อเห็นว่าโฉมงามที่นอนซมข้ามวันข้ามคืนมีแรงพอจะลุกขึ้นมานั่งขอบเตียงได้แล้ว&nbs

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   ปราบเสือดิน ๑ จับพลัดจับผลู

    บนหน้าหนังสือพิมพ์หน้าแรกเมื่อหลายปีก่อนประกาศข่าวการจับกุมของเสือหินผู้เป็นดังจุดด่างพร้อยของวงการตำรวจ ไม่เคยมีใครสามารถควบคุมบุรุษผู้นี้ได้ทว่าท้ายที่สุดผู้ที่สามารถสวมกุญแจมือมันได้กลับเป็นลูกในไส้ของมันเอง ข่าวนี้แพร่สะพัดไปพร้อมกับความดีใจของปุถุชนคนทั่วไปโดยเฉพาะเศรษฐีผู้มากมีที่ต่างพากันโล่งใจ กกกอดทรัพย์สมบัติของตนซึ่งล้วนได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของผู้อื่น เพชรนิลจินดากองพะเนินในตู้นิรภัยมีที่มาจากเงินของชาวบ้านผู้หาเช้ากินค่ำ กว่าเขาจะได้พวกมันมากอดหอมมากมายจนล้นมือเช่นนี้มันผ่านการหลอกลวงมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ต้องหวาดกลัวเมื่อมีอ้ายอีหน้าไหนมันสะเหล่อตั้งตนเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เข่นฆ่าฉกชิงของในการดูแลไปเป็นสมบัติสาธารณะ แต่ตอนนี้เขาไม่ต้องกลัวอะไรอีกต่อไปแล้ว เพราะโจรผู้ร้ายได้ถูกจับ ไอ้พวกสิ้นไร้ไม้ตอกจะหาได้มีวีรบุรุษมาช่วยเหลืออีกต่อไป และของที่รักของเขาจะคงอยู่ตราบนาน

  • องครักษ์ส่วนตัวของคุณครูนาฏศิลป์   บทพิเศษ ๑๐ เมามายน้ำจัณฑ์ (NC)

    โฉมงามจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเมื่อมีสุราอยู่ในร่างกาย นั่นคือสิ่งที่พิภพหาข้อสรุปได้จากประสบการณ์ที่ผ่านมามากกว่าสิบครั้ง ที่ตาเทิดตาไฮ้เคยบอกว่าแม่นางรำขี้เมานั้นเป็นเรื่องจริงแบบที่ไม่ต้องหาหลักฐานอื่นใดมาพิสูจน์ เพราะเมื่อเขาลุกขึ้นมาจากพื้นกะจะไปล้างมือ แก้วจึงฉวยโอกาสคว้าขวดสุรากระดกประหนึ่งอดอยากปากแห้งมาจากไหน หันกลับมาอีกทีเจ้าตัวก็เมาแอ๋สิ้นสภาพปลดกระดุมปลดผ้าคลายร้อนนั่งกอดขวดแก้วยิ้มหวานเสียแล้ว เพราะเขากำชับว่าดื่มได้แต่ห้ามเมาเรื้อนอย่างคราวก่อนอีก ทว่ายิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ อีกฝ่ายพยายามหาลู่ทางจะกินให้ได้ท่าเดียว เขาล่ะเป็นห่วงเสียจริงหากเขาไม่อยู่ออกไปทำงานแล้วแม่นางรำจะเผลอไปสร้างเรื่องอะไรให้เขาต้องปวดหัวอีกบ้าง "งืม...อือ...พี่จ๋า น้องขออีกแก้วหนึ่งน้า" นั่น ขนาดหลับไปแล้วยังอุตส่าห์ขอมาได้อีก 

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status