Share

บทที่ 183

Auteur: ชาผลไม้
ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมามองที่ซ่างกวานเยียน และอดไม่ได้ที่จะเย้ยหยันในใจ

‘ต้องมีอะไรบางอย่างร้ายแรงแอบแฝงอยู่แน่ ซ่างกวานเยียนคิดจะทำอะไรถึงได้มาบอกข้าโต้ง ๆ ว่าเย่เฟยหลีรักแต่นาง? อยากให้ข้าหึงรึ?’

“ที่นี่มีเราแค่สองคน เจ้าไม่จำเป็นต้องทำท่าทางอวดดีเช่นนี้ คิดจะทำอะไรก็พูดออกมาเลยดีกว่า!” ฉู่เนี่ยนซีเสียบปิ่นปักผมเข้าไปในผมมวยของตัวเองแล้วพูดด้วยท่าทีสบาย ๆ

“ฮ่าฮ่า...” ซ่างกวานเยียนปิดปากหัวเราะ ทำท่าทางไร้เดียงสาอีกครั้ง “พี่หญิง ท่านกำลังพูดถึงอะไร เยียนเอ๋อร์มาเชิญท่านด้วยความจริงใจ หรือว่าพระชายาเช่นท่านจะกลัวเสียแล้ว?”

ฉู่เนี่ยนซีที่มองนางอย่างเรียบเฉย ก็หัวเราะขึ้น “ฮ่าฮ่า...กลัวหรือ? เจ้าหรือเปล่าที่กลัว? ในเมื่อต้องการให้ข้าไปมากนัก หากข้าไม่ทำตามคำขอก็คงจะไม่ได้”

พูดจบ ฉู่เนี่ยนซีก็ลุกขึ้นและเดินนำไปยังประตู เมื่อนางไปถึงประตู นางก็หยุดและหันกลับมาทันที “จริงสิ ในเมื่อเจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นพระชายา เช่นนั้นเจ้าก็ควรรู้สิว่าสถานะปัจจุบันของตัวเองไม่เหมาะกับอาภรณ์ชุดนี้”

“เปลี่ยนอาภรณ์เสียเถอะ จะได้ไม่ถูกผู้อื่นหัวเราะเยาะเอา!”

ฉู่เนี่ยนซีกล่าวพลางเดินพ้นจากประตูไป

ซ่าง
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 184

    “วันนี้จวนอ๋องหลีช่างคึกคักจริง ๆ” ทุกคนนั่งลง ฉู่เนี่ยนซีที่ไม่ชอบงานแบบนี้และกำลังจะจากไป ก็มีเสียงของผู้ชายดังมาจากด้านหลัง ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาและเห็นเย่เหลียนเดินมาหานางโดยถือพัดพับอยู่ “ดูจากผิวพรรณของเจ้า เจ้าคงฟื้นตัวดีแล้ว!” เย่เหลียนเดินไปหาฉู่เนี่ยนซี ก้มศีรษะลงเล็กน้อยแล้วมองเข้าไปในดวงตาที่เย็นชาของนาง ฉู่เนี่ยนซีรีบถอยหลังไปสองสามก้าวและตีตัวออกห่าง “เสด็จพี่รองนี่เอง! เฟยหลีน่าจะอยู่ที่โถงรับแขกนะเพคะ” ความหมายก็คือแขกส่วนใหญ่อยู่ที่โถงรับแขกและท่านอ๋องไม่ควรพูดคุยกับสตรีที่แต่งงานแล้วอย่างหม่อมฉันที่นี่ พระองค์ควรไปหานายท่านของจวนอ๋องหลีดีกว่านะเพคะ เย่เหลียนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยืดตัวขึ้นและยิ้มเต็มริมฝีปาก “ขอบคุณที่แจ้งให้ทราบ! แต่ว่า...” ทันใดนั้นเขาก็เข้ามาใกล้อีกครั้งและพูดว่า “ข้าตั้งใจมาขอโทษแทนจาวอวิ๋น” “ขอโทษ? ไม่จำเป็นหรอกเพคะ! ถึงอย่างไรก็มีการลงโทษไปแล้ว และสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นก็ถูกคลี่คลายเรียบร้อยแล้วด้วย” ฉู่เนี่ยนซีเงยหน้ามองเขาด้วยสีหน้าที่ไร้ซึ่งความเกรงกลัว จู่ ๆ เย่เหลียนก็ยิ้มเมื่อเห็นท่าทางของนาง “เนี่ยนซีเป็นคนนิสัยดี

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 185

    ฉู่เนี่ยนซีมองไปยังท่าทางที่อ่อนแอของนางแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย มหาเสนาบดีฉู่บอกนางไว้ก่อนหน้านี้ว่าฉู่หว่านเอ๋อร์จะถูกส่งกลับจวนเดิมหลังจากที่นางหายจากอาการบาดเจ็บ เท่าที่ดูตอนนี้นางน่าจะเกือบจะหายดีแล้ว แต่ก็ยังไม่รีบเก็บข้าวของ อีกทั้งยังมีกะจิตกะใจมาที่จวนอ๋องหลีอีก เห็นทีเกรงว่าเรื่องราวคงจะไม่จบลงง่าย ๆ เป็นแน่ ฉู่เนี่ยนซีมองไปยังซ่างกวานเยียนที่อยู่ในระยะไกล และเห็นว่านางก็มองมาทางนี้เช่นกัน ซ่างกวานเยียนเห็นฉู่เนี่ยนซีมองมาที่ตัวเองก็ลุกขึ้นและเดินช้า ๆ ไปทางนั้น เมื่อนางเห็นเสื้อผ้าที่เปื้อนชาของฉู่เนี่ยนซี นางก็ทำท่าตกใจและพูดว่า “ตายแล้วพี่หญิง เหตุใดเสื้อผ้าของท่านถึงเปื้อนคราบชาคราบใหญ่ขนาดนี้ รีบกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วเถิดเจ้าค่ะ” “พระชายา หม่อมฉันขออภัยจริง ๆ เพคะ หม่อมฉันแค่คิดถึงสิ่งที่เคยทำผิดไว้และอยากจะมาแสดงความสำนึกผิดก่อนที่จะจากไป หม่อมฉันไม่นึกว่าพระชายาจะหันมากระทันหันเช่นนี้” ท่าทางของฉู่หว่านเอ๋อร์ที่ดูอ่อนแอไร้เดียงสาและเหมือนกำลังจะร้องไห้ ทำให้ทุกคนมองมาที่นาง ฉู่เนี่ยนซีเงยหน้ามองทั้งสองคนอย่างเย็นชา ริมฝีปากของนางเอ่ยออกมาเบา ๆ “ไม่เป็นไร แค่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 186

    “รนหาที่ตายเสียแล้ว!” ก่อนที่ชายร่างใหญ่จะได้จับตัวนาง มือเรียวงามคู่หนึ่งก็บีบข้อมือของเขาไว้แน่น ทำให้เขาตกใจร้องออกมาอย่างเจ็บปวด “เจ็บ! เจ็บเจ็บ...” เขาร้องด้วยความเจ็บปวดและมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยความตกตะลึง “เหตุใดเจ้าถึงไม่เป็นอะไรล่ะ?” เนื่องจากยาปลุกกำหนัดนี้มีฤทธิ์ค่อนข้างแรง เขาจึงกินยาป้องกันไว้ล่วงหน้าทำให้ไม่เป็นอะไร แต่ฉู่เนี่ยนซีที่ไม่ได้เตรียมตัวป้องกันไว้จะไม่เป็นอะไรเลยได้อย่างไร! ฉู่เนี่ยนซียิ้มเยาะ ‘ขันนัก’ ด้วยความสามารถใหม่ของห้วงว่างเปล่า นางไม่จำเป็นต้องกินยาบรรเทาพิษ ก็สามารถต้านพิษได้ กับแค่ยาปลุกกำหนัดแค่นี้จะทำอะไรนางได้อย่างไร? เหตุผลที่เมื่อครู่นางแกล้งทำเป็นถูกหลอกเพราะจะใช้ประโยชน์จากกับดัก เพื่อให้แผนของซ่างกวานเยียนดำเนินต่อไปได้ “เจ้าดูเอาเองก็แล้วกันว่าข้าเป็นอะไรหรือไม่ แต่ตอนนี้เจ้างานเข้าแน่นอน!” ดวงตาของฉู่เนี่ยนซีเย็นชาจนชายร่างใหญ่อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น “กะ...กระหม่อมผิดไปแล้ว! กระหม่อมถูกใครบางคนติดสินบนมาเลยหลงผิดไปครู่หนึ่ง พระชายาหลีโปรดไว้ชีวิตด้วย! กระหม่อมจะไม่ทำอีกต่อไปแล้ว!” ชายร่างใหญ่ถูกฉู่เนี่ยนซีจับไว้ หากเขาเคลื่อนไหว

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 187

    ​“เกรงว่าเสด็จพี่รองกำลังเข้าใจผิด ซีเอ๋อร์อยู่ที่นี่คนเดียวตลอดเวลาเพคะ” ฉู่เนี่ยนซียักไหล่อย่างไร้เดียงสา เย่เหลียนขมวดคิ้วเล็กน้อย “เจ้าแน่ใจหรือ? ข้าไม่รู้มาก่อนว่าเจ้าจะใจกล้าอยู่กับบุรุษแปลกหน้าในห้องตามลำพัง! ข้าเกรงว่าหากเรื่องนี้แพร่ออกไป...คงกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวแน่” “อ้อ? จริงหรือเพคะ? ถ้าเช่นนั้นซีเอ๋อร์ก็คงต้องรีบออกไป เพราะเสด็จพี่รองก็ถือเป็นบุรุษแปลกหน้าเช่นเดียวกัน!” พูดจบ ฉู่เนี่ยนซีก็เมินเฉยต่อสีหน้าจับผิดของเย่เหลียน พลางยิ้มและเดินกำลังจะออกจากห้องไป “จริงสิ เสด็จพี่รองก็รีบออกไปจะดีกว่า หากอยู่ในห้องนี้จะอันตรายมากนะเพคะ!” ฉู่เนี่ยนซีนึกอะไรออกจึงเตือนเขาแล้วจากไป หารู้ไม่ว่าตรงมุมนั้น มีร่างร่างหนึ่งยืนกำหมัดแน่นและกำลังจ้องมองตามหลังนางไปอย่างอาฆาต หลังจากที่ฉู่เนี่ยนซีออกมาจากเรือนของซ่างกวานเยียน นางก็ไม่ได้กลับไปที่สวนท้ายจวน แต่นางกลับมาหาที่สงบ ๆ ขึ้นไปนอนเอนอยู่บนกิ่งไม้แล้วหลับไป ... อีกด้านหนึ่งที่สวนท้ายจวน บนเวทีนั้นคณะละครก็กำลังแสดงเพลงที่เป็นที่นิยมที่สุด ขณะทุกคนที่กำลังรับชมอย่างเพลิดเพลิน ซ่างกวานเยียนก็มองขึ้นไปที่ดวงอาทิตย์และคา

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 188

    ซ่างกวานเยียนที่เผลอยิ้มอยู่ก็รีบหุบยิ้มอย่างรวดเร็ว จากนั้นสีหน้าของนางก็ถูกแทนที่ด้วยความตื่นตระหนก พลางมองไปทางเย่เฟยหลี “ทะ...ท่านอ๋อง...” เย่เฟยหลีมีสีหน้าที่ผิดปกติ ดวงตาลึกลับของเขาจ้องมองไปยังประตูที่ปิดอยู่ พลางฟังเสียงของชายและหญิงในห้อง ทุกคนมองหน้ากันอย่างคุ้นเคยและอยากจะออกไป แต่ความอยากรู้อยากเห็นก็มีอยู่มากเช่นกัน “ก่อนหน้านี้พระชายาหลีไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เรือนของชายารองซ่างกวานไม่ใช่หรือ...” “หรือว่าคนที่อยู่ข้างในจะเป็น...” เมื่อได้ยินดังนั้น เย่เฟยหลีก็จ้องมองผู้พูดด้วยสายตาเย็นชา ทำเอาชายคนนั้นที่พูดอยู่รู้สึกว่าลมหายใจของตัวเองติดขัด บรรดาผู้ที่อยากดูด้วยความตื่นเต้นก็พลอยสั่นกลัวไปด้วย เมื่อคิดคำนวณว่าเรื่องซุบซิบหรือชีวิตสำคัญกว่ากัน พวกเขาจึงพากันถอยออกมา เย่เฟยหลีกวาดสายตามองฝูงชนพลางพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “ในเมื่อมาถึงแล้วก็ดูให้ชัดก่อนเถอะว่าใครที่อยู่ในห้อง แล้วค่อยเอามาพูด! ภรรยาของข้าไม่มีทางทำเรื่องเช่นนั้นแน่!” พูดจบ เย่เฟยหลีก็เปิดประตู คนที่เขินอายก้มหน้าไม่กล้ามอง แต่บางคนก็ยืดคอเพื่อมองเข้าไปข้างใน สายตาของซ่างกวานเยียนฉายแว

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 189

    “อ๊ะ! พี่หญิง...ท่าน...ท่านทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไรเจ้าคะ?!” ซ่างกวานเยียนแสร้งทำเป็นประหลาดใจ ปิดปากและตะโกนด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ เสียงดังมากจนเกือบจะได้ยินไปทั่วทั้งเรือน ผู้คนด้านนอกที่ได้ยินก็หันไปมองเย่เฟยหลีอย่างระมัดระวัง! หรือว่าคนที่อยู่ในห้องนี้จะเป็น...พระชายาหลี? มิน่าล่ะ นางหายไปเปลี่ยนเสื้อผ้าตั้งนานแล้วก็ยังไม่กลับมา! ท่านอ๋องหลีผู้นี้...ช่างน่าสงสารเหลือเกิน! ทุกคนคิดในขณะที่มองไปยังเย่เฟยหลีด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป มีตั้งแต่ความเห็นอกเห็นใจไปจนถึงความสุขที่เห็นผู้อื่นเป็นทุกข์ “น้องหญิงเรียกใครว่าพี่หญิงรึ?” เสียงเย็นชาดังมาจากลานหน้าเรือน ทุกคนมองไปยังประตูเรือนและเห็นฉู่เนี่ยนซีเดินมาทางนี้อย่างช้า ๆ ด้วยสีหน้างงงวย “อ้าว? พระชายาหลีนี่! แล้วใคร...อยู่ข้างในนั้นล่ะ?” ผู้คนที่อยู่ในลานเรือนเริ่มอยากรู้อยากเห็น ตอนแรกที่ซ่างกวานเยียนบอกอย่างชัดเจนว่านั่นคือฉู่เนี่ยนซี แต่ตอนนี้ฉู่เนี่ยนซีกลับกำลังยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา ซ่างกวานเยียนที่อยู่ตรงประตูก็มีท่าทีเหลือเชื่อเมื่อนางเห็นฉู่เนี่ยนซี ทันใดนั้นรูม่านตาของนางก็ขยายออกและมองไปที่เตียง “สามหาวนัก! เจ้

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 190

    เมื่อฉู่เนี่ยนซีฟังคำพูดของพวกเขาก็ได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนที่นางออกมาจากเรือนของซ่างกวานเยียน เย่เหลียนเป็นคนเดียวที่อยู่ที่นั่น กลิ่นของยาปลุกกำหนัดยังคงอยู่ในห้อง และนางก็เตือนให้เขาออกไปโดยเร็วที่สุดแล้ว หากเย่เหลียนตามออกมาหลังจากที่นางจากไป ก็คงไม่มีทางที่เขาจะถูกวางยาพิษอย่างแน่นอน และเขาที่เป็นถึงท่านอ๋องก็คงจะไม่มีวันอยู่ในห้องของซ่างกวานเยียนด้วย เว้นเสียแต่ว่า... นางมองไปยังฉู่หว่านเอ๋อร์ หากเย่เหลียนจะถูกใครสักคนรั้งไว้ เช่นนั้นก็ต้องเป็นฉู่หว่านเอ๋อร์ที่อาจอยู่ข้างนอกในเวลานั้น! ดูเหมือนว่าฉู่หว่านเอ๋อร์จะไม่ได้แสดงความตื่นตระหนกออกมา! ที่แท้นางก็ใช้วิธีนี้เพื่อให้ได้อยู่ในเมืองรัตติกาลแห่งนี้ต่อ อีกทั้งยังสามารถเข้าไปคนของจวนอ๋องเหลียนได้สำเร็จ ครานี้...ซ่างกวานเยียนตัดชุดแต่งงานให้คนอื่นนี่เอง! สายตาของฉู่เนี่ยนซีที่มองมาทำเอาฉู่หว่านเอ๋อร์เสียวสันหลัง แต่นางยังคงแสร้งทำเป็นนิ่งเฉย จากนั้นก็ทำท่าเศร้าโศกและพูดว่า “ท่านอ๋องหลี ไม่ใช่อย่างที่พระองค์คิดนะเพคะ ตอนนั้นหม่อมฉันแค่อยากจะมาดูว่าพระชายาเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จหรือยัง แต่พอเข้ามาก็เจอแต่ท่านอ๋องเหลียน เลยพู

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 191

    ฉู่เนี่ยนซีเริ่มร้อนรนเสียความมั่นใจ แต่หลังจากเห็นชายร่างใหญ่ที่คุกเข่าอยู่บนพื้น นางก็รู้สึกมั่นใจอีกครั้ง “จากสิ่งที่พี่หญิงพูดมา เยียนเอ๋อร์ไม่เคยเห็นคนผู้นี้มาก่อน และเขาก็ไม่เคยปรากฏตัวมาก่อนด้วย วันนี้ที่พี่หญิงไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วจู่ ๆ ชายคนนี้ก็ปรากฏตัวขึ้น ย่อมต้องเป็นพี่หญิงที่รู้เรื่องทั้งหมดสิเจ้าคะ” ทันใดนั้นฉู่เนี่ยนซีก็ยิ้มและมองนางอย่างเย็นชา “นี่เจ้าหมายความว่ายังไงกัน? เจ้ากำลังบอกว่าพระชายาเช่นข้าลักพาตัวใครมา หรือว่าข้าวางยาท่านอ๋องเหลียน หรือจะบอกว่า...ข้าพาคนมาทำให้สาวใช้ของเจ้ามีมลทิน?” ยิ่งฉู่เนี่ยนซีพูด ดวงตาของนางก็ยิ่งเย็นชามากขึ้น รัศมีความกดดันที่แผ่ออกมาจากทั่วทั้งร่าง พลอยทำให้ผู้คนรอบข้างหายใจไม่ออก นางพยายามอย่างมากเพื่อทำให้จิตใจอันไม่มั่นคงสงบลงและพูดเย้ยหยัน “ก็พี่หญิงพูดเองนี่เจ้าคะ สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นล้วนผิดปกติ คนที่ควรจะอยู่ที่นี่กลับไม่อยู่ ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้พี่หญิงทำอะไรอยู่?” “ข้าไม่ชอบความวุ่นวายมาแต่ไหนแต่ไร หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ข้าก็ไปหาสถานที่เงียบสงบเพื่อพักผ่อน” ฉู่เนี่ยนซีพูดอย่างนิ่งเฉย “ทำไมล่ะ จากที่ฟังน้องหญิง

Latest chapter

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 550

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เนี่ยนซีจึงฟาดไปที่ไหล่ของเขาหนึ่งที พลางมองดูสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย “เช่นนั้นท่านก็ถอดเสื้อออก ข้าจะดูแผลให้”เดิมทีไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นตรงหน้า ฉู่เนี่ยนซีก็หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แม้ว่าเขาจะทำอย่างองอาจ แต่ก็ยังทำให้นางอายจนต้องเบือนหน้าหนี“เสร็จแล้ว”ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาจับแผ่นหลังกว้างของเย่เฟยหลีไว้ แต่นางก็ไม่เขินอายอีกต่อไป เพราะร่องรอยบาดแผลจากการสู้รบในอดีตทำให้ใจของนางสั่นสะท้านนางค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออกทีละชั้น เมื่อแกะชั้นสุดท้าย เย่เฟยหลีก็ทนต่อความเจ็บปวดจนตัวสั่นฉู่เนี่ยนซีรีบโรยผงยาลงบนผ้าผ้าพันแผลทันที ซึ่งไม่เพียงแต่บรรเทาความเจ็บปวดของเย่เฟยหลีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปลดผ้าพันแผลออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยผงยานำความเย็นแพร่ไปตามบาดแผลทั่วทั้งแผ่นหลัง เย่เฟยหลีจึงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ช้าๆฉู่เนี่ยนซีมองไปยังบาดแผลไฟไหม้ที่สภาพดูไม่ได้“นอนลงบนเตียง ข้าจะทายาให้ท่านใหม่”“ได้”เย่เฟยหลีทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาคว่ำตัวเหยียดยาวอยู่บนเตียงฉู่เนี่ยนซีโรยผงยาอีกขวดบนแผลให้เสมอกัน ผงยานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 549

    ซุนจื่อซีที่อยู่ข้าง ๆ ไทเฮา ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ท่านป้า เนื่องด้วยจื่อซีและพระชายาหลีอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าหากตระกูลไม่มีการอบรมสั่งสอนที่เข้มงวด พวกเขาก็จะไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรีให้เติบโตมาอย่างดีเช่นนี้ได้ ฉู่กุ้ยเฟยต้องถูกใส่ร้ายแน่นอนเพคะ ได้โปรดทรงอย่าปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องรับผิดอย่างไม่เป็นธรรมเลยนะเพคะ”องค์จักรพรรดิคิดว่าเขาไม่สามารถลงโทษสนมไป๋ได้เพียงเพราะการคาดเดาของหยางเหอ แต่สนมไป๋ ล่วงเกินฉู่กุ้ยเฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่แน่ชัด จึงมีรับสั่งให้สนมไป๋ถูกปรับเงินเดือนครึ่งปีและถูกกักบริเวณในตำหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกโดยพลการองค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เย่เหลียนและเย่เฟยหลีสืบเรื่องนี้ด้วยกัน หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายพ้นผ่าน งานเลี้ยงในพระราชวังก็สูญเสียบรรยากาศที่สนุกสนานไป องค์จักรพรรดิทรงกังวลว่าไทเฮาจะทรงหวาดกลัว จึงประคองไทเฮาเสด็จกลับไปยังพระตำหนักอันชิ่งเพื่อพักผ่อนทุกคนที่หมดสนุกแล้วจึงหยุดทุกอย่างและรีบพากันกลับจวนช่องว่างเล็ก ๆ ของหน้าต่างหน้าต่างสีแดงลายมังกรถูกปิดลงอย่างเงียบ ๆ อย่างไม่มีใครสังเกตเผย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 548

    ฉู่เนี่ยนซีมาอยู่ข้างกายฉู่กุ้ยเฟยร่วมกับหยางเหอ หลังจากจับชีพจรและตรวจดูให้แน่ใจว่านางไม่เป็นอะไรแล้ว ก็สั่งให้คนรับใช้นำเบาะขนห่านมาวางไว้ด้านหลังฉู่กุ้ยเฟยหยางเหอดูเหมือนจะมีอะไรจะพูด แต่นางก็ไม่กล้าพูด ทว่าเมื่อเห็นฉู่กุ้ยเฟยเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ หัวใจของนางก็เต้นรัวและสุดท้ายนางก็ลุกขึ้นยืนทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยางเหอ นางหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองตรงไปที่องค์จักรพรรดิ“โปรดทรงอภัยในความอวดดีของหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันไม่สามารถทนเห็นกุ้ยเฟยถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ เช่นนี้ได้ แม้จะเสี่ยงต่อการถูกบั่นหัว แต่หม่อมฉันก็ต้องพูดอะไรบางอย่างเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”องค์จักรพรรดิทรงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและหรี่ตามองไปยังหยางเหอที่กำลังคุกเข่าด้วยใบหน้าแห่งความยุติธรรม“สนมไป๋ที่เข้ามาใหม่ไม่มีความเคารพต่อกุ้ยเฟยเลย เมื่อใดก็ตามที่ได้พบกับกุ้ยเฟย นางมักจะใช้คำพูดที่แฝงเป็นนัยเสียดสีอยู่เสมอ ไม่ก็สาปแช่งให้กุ้ยเฟยรักษาพระโอรสไว้ไม่ได้หรือไม่ก็เสียดสีว่ากุ้ยเฟยไม่คู่ควรกับตำแหน่งสูง กุ้ยเฟยไม่ต้องการโต้เถียงกับสนมไป๋จึงลืมมันไปทุกครั้งเพคะ”“สาวใช้ต่ำช้า กล้าพูดจาว่าร้ายข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 547

    เย่เฟยหลีอาศัยโอกาสนี้จับมือนาง รู้สึกดีกับการตรวจดูอย่างละเอียดของอีกฝ่ายพลางพูดเสียงอ่อน “ข้าไม่เป็นไร แค่เป็นแผลนิดหน่อย หมอหลวงจ่ายยาให้ข้าเรียบร้อยแล้ว”“เจ้ามาดูสิ นี่มันคืออะไร?”เย่เฟยหลีพาฉู่เนี่ยนซีไปยังจุดที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ พื้นถูกไฟไหม้และมีรอยดำเต็มไปหมด เก้าอี้เอียงตะแคงโดยมีขาหักไปฉู่เนี่ยนซีนั่งยอง ๆ พลางใช้นิ้วชี้ขวาสัมผัสพื้น จากนั้นยกมาที่ปลายจมูกสูดดมเบาๆ ก่อนพูดด้วยความตกใจ “มันคือดินปืน แต่ไม่ใช่ดินปืนบริสุทธิ์ มันจึงไม่ทำให้เกิดการระเบิด แค่ติดไฟเร็วเท่านั้น”“ใช่ มีคนโปรยดินปืนประเภทนี้ไว้ตั้งแต่แรก แต่ท้องฟ้ามืดจนมองไม่เห็น คนจึงคิดว่ามันดูเหมือนฝุ่นกรวดทั่วไป”เย่เฟยหลีเหยียดแขนออกไปประคองให้ฉู่เนี่ยนซียืนขึ้นฉู่เนี่ยนซีขึ้นไปที่ลานถงฮวาอีกครั้งและมองไปที่เครื่องมือที่ฉู่กุ้ยเฟยใช้ในการจุดไฟ มันปนเปื้อนด้วยเศษสะเก็ดไฟบางส่วน แม้จะเผาไหม้ได้ แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานและเปลวไฟก็ไม่ลุกลามมากเท่ากับดินปืนโดยทั่วไปนางยืนอยู่บนลานพลางมองไปที่เย่เฟยหลี ดวงตาของนางก็ค่อย ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้น น้ำเสียงของนางก็เยือกเย็นลงตามลมหนาว“รู้หรือไม่ว่าใครมาที่นี่บ้างก่อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 546

    เหล่าขันทีและนางกำนัลที่รีบรุดมาพร้อมกับอ่างน้ำเย็น นำมาราดลงบนเปลวไฟที่อยู่บริเวณรอบ ๆ องค์จักรพรรดิและเย่เฟยหลี ทำให้เกิดเสียงน้ำสาดกระเซ็นเย่เฟยหลีไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนที่แผ่นหลัง เขาจึงประคององค์จักรพรรดิลุกขึ้นยืนไทเฮาถูกนางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงประคองมา ทว่าพระนางยังไม่หายตกใจ องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นคิ้วคมเข้มของเย่เฟยหลีที่ขมวดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด จึงทอดพระเนตรมองไปยังแผ่นหลังของเขา พบว่าอาภรณ์สีดำของเขาถูกไฟไหม้เป็นวงกว้าง และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาถูกเปลวเพลิงเผาจนเป็นสีแดงเข้ม เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดขึ้นไปอีก“ฝ่าบาท” ฉู่กุ้ยเฟยเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รีบคุกเข่าคำนับด้วยความตื่นตระหนกเย่เหลียนตะโกนทันที “ฉู่กุ้ยเฟย นี่ท่านคิดลอบปลงพระชนม์หรือ? ท่านจงใจล่อลวงทุกคนมาที่นี่เพื่อวางแผนลอบปลงพระชนม์เสด็จพ่อหรือ เอาคนมา จับฉู่กุ้ยเฟยไว้!”“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำ! หม่อมฉันไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด! ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณาด้วยเพคะ!”เมื่อเห็นเหล่าราชองครักษ์ในชุดเกราะเข้ามาใกล้ ฉู่กุ้ยเฟยก็ตะโกนทูลต่อองค์จักรพรรดิด้วยความตื่นกลัว“โอหัง!

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 545

    ทุกคนเดินไปที่ลานถงฮวาและเห็นว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมีน้ำชากับผลไม้ที่จัดอย่างประณีตวางไว้ด้วยบนเวทีมีเสาไม้ห้าต้นสูงประมาณหกศอก ติดตั้งล้อมรอบมุมทั้งสี่และด้านบนตรงกลาง เสาไม้ทั้งหมดนั้นถูกพันด้วยเชือกหากมองลงมาจากหลังคาตำหนักที่อยู่ใกล้ ๆ จะรู้สึกว่าเชือกนั้นเปรียบเสมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมเสาไม้ไว้แม้องค์จักรพรรดิจะทรงสับสน แต่พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสถามอะไรมากนัก เพียงแค่ทรงยิ้มมุมปากแล้วตรัสกับไทเฮา “ดูเหมือนว่าฉู่กุ้ยเฟยจะมีอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอ เสด็จแม่ทรงนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เหล่าขันทีและนางกำนัลมาช่วยบรรดาผู้เป็นนายหาที่นั่งเพื่อไม่ให้ทุกคนพากันสับสนวุ่นวายนางกำนัลผู้น้อยจัดให้เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีนั่งด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้นั่งลง ก็เห็นหลานชุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ เย่หลิงเอ๋อร์เดินมาเชิญฉู่เนี่ยนซีไปพูดคุยหลานชุ่ยมาเชิญนางด้วยตนเอง คงจะไม่มีเรื่องหลอกลวง ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีอย่างสบายใจ หลังจากทำความเคารพองค์จักรพรรดิและไทเฮา นางก็ตามหลานชุ่ยไปทันใดนั้น ลานถงฮวาก็สว่างขึ้นมาก ทุกคนเงยหน้าเห็นเด็กผู้หญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 544

    “ไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ให้นางอยู่ด้วยกันต่อไปเถอะ ช่วงนี้เราเข้ากันได้ดี นางอ่อนโยน มีน้ำใจและใฝ่เรียนใฝ่รู้ ข้าชอบนางมาก ดีที่มีนางอยู่ที่จวนแห่งนี้ ข้าจึงคลายความเบื่อลงไปได้บ้าง”สิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูดนั้นเป็นความจริง ตอนแรกนางสงสัยในเจตนาของซุนจื่อซีที่ช่วยนางจากการตกน้ำ แต่ตอนที่นางตกจากรถม้า ซุนจื่อซีกลับไม่ห่วงตนเองและเอาตัวมารองรับนางไว้ ช่างเป็นสตรีที่จิตใจงามอย่างแท้จริงทันใดนั้น ท้องฟ้าก็สว่างไสวไปด้วยดอกไม้ไฟ ส่องแสงไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับแสงสว่างของรุ่งอรุณส่องขึ้นมาจากความมืดมิดประกายแสงนั้นส่องสว่างราวกับหมู่ดาวที่โอบล้อมภูเขาและแม่น้ำอันกว้างใหญ่ที่กระแสน้ำเชี่ยวกราก รวมไปถึงป่าอันงดงามและที่ราบอันไร้ขอบเขต ทำให้ความขุ่นข้องในใจของคนสองคนจางลง และคนทั้งคู่ก็ยังได้มองดูความยิ่งใหญ่ที่พร่างพราวนี้ไปด้วยกันณ พระตำหนักเจาฮุย ซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอย่างงดงามดุจนางสวรรค์ หลังจากการแสดงสิ้นสุดลง ผู้คนในโถงยังคงตกอยู่ในภวังค์องค์จักรพรรดิทรงปรบมือใหญ่แล้วหันไปหาไทเฮาพร้อมรอยยิ้ม “ทักษะการร่ายรำของจื่อซีดีขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่านางจะฝึกฝนอย่างหนักและลำบากไม่น้อย เป็นเสด็จแม่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 543

    ดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้ถูกบดบังด้วยเมฆหนาทึบ จนแทบมองเห็นแสงสว่าง เช่นนี้เขาเห็นดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่สุดที่ว่านั่นจากที่ใดกัน?“ท่านอ๋องชื่นชมดวงจันทร์ได้อย่างไรหรือ?”ฉู่เนี่ยนซีมองดูแสงสีเหลืองจาง ๆ ที่ขอบฟ้านั้น อย่างกับมันถูกขัดถูจนไร้ซึ่งความแวววาวเย่เฟยหลีทัดผมฉู่เนี่ยนซีไว้ข้างหลังใบหูของนาง พลางพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “เพราะดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่ว่านี้ไม่ใช่ดวงจันทร์ดวงนั้น”ฉู่เนี่ยนซีหันมาสบตาที่เป็นประกายของเย่เฟยหลี มือที่ค้างเติ่งในตอนแรกเลื่อนมาตรงแก้มของนาง เย่เฟยหลีรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านมายังฝ่ามือ เขาคลี่ยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าฉู่เนี่ยนซีกำลังเขินอาย“ข้าได้ยินจากน้องเจ็ดว่าเจ้าคิดว่าซุนจื่อซีกับข้าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากหรือ?”เย่เฟยหลีดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน หางตาของเขาเห็นท่าทางหงุดหงิดของฉู่เนี่ยนซีพลางคิดว่าช่างน่าสนุกฉู่เนี่ยนซีแอบด่าทอเย่ฉงเฉิงในใจว่าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ นางพูดความในใจออกไปเพียงนิดเดียวเขาก็นำไปบอกเจ้าตัวในพริบตาเสียอย่างนั้น“ก็คิดบ้าง เป็นบางครั้ง”ฉู่เนี่ยนซีกะพริบตาและพยายามอย่างมากเพื่อรักษาท่าทางสงบนิ่งอย่างเคย นางไม่สามารถปฏิเส

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 542

    เย่เฟยหลีเหลือบมองอีกฝ่าย “เจ้าว่าเจ้ารู้จักข้าดีที่สุดไม่ใช่หรือ?”“แต่พี่สะใภ้สามไม่รู้จักท่านดีเท่าข้า หากมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ควรรีบแก้ไขเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าก็ช่วยท่านไม่ได้”เมื่อได้ยินเสียงดนตรีดังมาจากพระตำหนักเจาฮุย เขาก็รู้ได้ทันทีว่างานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว เย่เฟยหลีจึงให้เย่ฉงเฉิง เรียกฉู่เนี่ยนซีมาที่นี่เพราะเขามีเรื่องจะพูดกับนางเย่ฉงเฉิงรับคำสั่งแล้วจากไป ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องจัดงาน เขาก็เห็นซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอยู่อย่างอ่อนช้อย นางอยู่ในชุดกระโปรงสีแดงราวกับดอกเหมยที่กำลังบานสะพรั่งอยู่ท่ามกลางหิมะขาว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเขาหันไปด้านข้างและกระซิบกับฉู่เนี่ยนซี “พี่สะใภ้สาม พี่สามกำลังรอท่านอยู่ไม่ไกลจากทางเหนือของ พระตำหนักเจาฮุย ท่านรีบไปเถิด”ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่ฉงเฉิงอย่างสงสัยและบอกให้เสี่ยวเถารออยู่ที่นี่ หากใครถามหาก็บอกว่านางออกไปเดินรับลมข้างนอกให้สร่างเมาในห้องจัดงาน ซุนจื่อซีออกท่วงท่าราวกับต้นหลิวที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาอย่างเพลินใจ ชายแขนเสื้อในมือของนางกระพือเบา ๆ แขนเรียวยาวใต้เสื้อคดเคี้ยวราวกับดอกบ๊วยแดงที่ล่องลอยในอากาศแต่ไม่ว่านางจะพย

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status