เฟิงยังคงนั่งอยู่บนพื้น สะอื้นเบาๆ ราวกับลูกแมวขี้อ้อนคลอเคลียอยู่ข้างกายหลี่เทียนฉี่หลี่เทียนฉี่กล่าวเสียงทุ้ม “วันนี้ข้าเพิ่งได้รับข่าว การสังหารล้างตระกูลต่ง พวกเจ้าไม่เพียงแต่ทำงานไม่เรียบร้อย ยังปล่อยให้มีผู้รอดชีวิต!”“อะไรนะ?”ม่านตาของเฟิงหดเล็กลงนางมั่นใจในวิชาลอบสังหารของตนเองยิ่งนักภายใต้มือของนาง ไม่มีทางที่จะมีหลงเหลือผู้รอดชีวิตไปได้!แต่สุราทำให้คนเผยความในใจ น้ำเสียงของหลี่เทียนฉี่หนักแน่นจริงจัง ไม่เหมือนเรื่องล้อเล่นหลี่เทียนฉี่กล่าวเสียงเย็นชา “ปล่อยให้ไท่ผิงดีใจไปเถอะ! นี่เป็นข่าวลือที่ได้มาก่อนใคร รีบกลับไปรายงานนายของเจ้าซะ!”“พรุ่งนี้เช้า ข่าวนี้จะถูกตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ย เมื่อนั้นคนทั้งเมืองจะรับรู้ หากปล่อยให้เกิดความผิดพลาดใหญ่หลวงเช่นนี้ ผลที่ตามมาจะร้ายแรงเกินคาดเดา!”“เจ้ารีบกลับไปสารภาพผิดเสียตอนนี้ ยังพอมีทางแก้ไข!”เฟิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆหากเรื่องนี้ปรากฏบนหน้าหนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยเกรงว่าแผนการขององค์หญิงใหญ่จะต้องล้มเหลวไม่เป็นท่า!เฟิงขมวดคิ้ว “จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะมีผู้รอดชีวิต? เป็นไปไม่ได้!”เฟิงไม่เคยสงสั
ลมหนาวพัดกระหน่ำ หิมะโปรยปรายลมหนาวพัดกระหน่ำปะทะใบหน้า แต่เฟิงกลับไม่รู้สึกอะไรเลยนางมีไฟสุมอยู่ในอก มุ่งมั่นเพียงจะตามหาเด็กกำพร้าตระกูลต่งที่เหลือรอด แล้วฆ่าปิดปาก! เฟิงกวาดสายตาคมกริบไปทั่วบริเวณจวนตระกูลต่งภายในลานบ้านอันกว้างใหญ่ เงียบสงัดราวกับเมืองร้างเพื่อความไม่ประมาท เฟิงลอบเข้าไปสำรวจห้องหับน้อยใหญ่กว่าร้อยห้องของตระกูลต่งจนทั่วยืนยันอีกครั้งว่า นอกจากตนเองแล้ว ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นใดอีก!เฟิงขมวดคิ้ว “หรือว่าข่าวขององค์ชายใหญ่จะผิดพลาด?”ครุ่นคิดอีกครา ความเป็นไปได้อีกอย่างก็ผุดขึ้นในสมองมีคนลงมือก่อนนาง ตอนนี้ได้พาตัวเด็กกำพร้าที่เหลือรอดไปยังที่ปลอดภัยแล้วนางพลาดเป้าทันใดนั้น เฟิงรู้สึกราวกับโลกทั้งใบถล่มทลายเมืองหลวงอันกว้างใหญ่มีบ้านเรือนอย่างน้อยก็เป็นล้านหลัง!การตามหาใครสักคนในเมืองหลวง ไม่ต่างอะไรกับการงมเข็มในมหาสมุทรเฟิงสูดลมหายใจลึก เพื่อให้ตนเองใจเย็นลง “จะต้องมีทางออก”ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าก็ดังมาจากนอกประตูเฟิงมองลอดประตูจวนตระกูลต่งออกไปเห็นนักการที่ว่าการชุดเขียวสองคน ถือโคมไฟเดินตรงมายังคฤหาสน์ตระกูลต่งนักการที่ว่าการร่างส
ชายร่างสูงใหญ่ขยับกายเข้าไปใกล้ชายร่างผอม กระซิบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “หลายวันมานี้เพราะคดีนี้ทำเอาข้าอึดอัดแทบแย่ ตอนนี้ปรารถนาเพียงได้พบพานผีสาวสะคราญโฉม ให้ท่านชายผู้นี้ได้ปลดปล่อยเสียหน่อย!” เอ่ยจบ ร่างสูงก็แสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ “ไป ๆ ๆ! หากเป็นเช่นนั้นจริง เกรงว่าคงทำให้เจ้าขวัญหนีจนพูดไม่ออก!” ทันใดนั้น เงาร่างหนึ่งก็พุ่งผ่านหน้าคนทั้งสองไป เมื่อครู่ยังหัวร่อต่อกระซิกกันอยู่เลย บัดนี้กลับหวาดผวาประหนึ่งเผชิญหน้าศัตรูร้าย “เมื่อครู่เจ้าเห็นหรือไม่?” ทั้งสองต่างรู้ซึ้งแก่ใจว่า เมื่อครู่มิใช่ภาพหลอนที่ตนเองสร้างขึ้นเป็นแน่! มือทั้งสองข้างเลื่อนไปจับด้ามดาบอย่างไม่รู้ตัว ยามปกติเป็นนักการที่ว่าการที่มักวางอำนาจบาตรใหญ่ บัดนี้กลับหวาดกลัวราวกับลูกไก่ตัวน้อย กายสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง “เป็นเพราะเจ้า! เมื่อครู่ดันพูดจาเหลวไหล! ตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า!” นักการที่ว่าการร่างสูงเจ็บคอจนพูดไม่ออกแล้ว! อย่าว่าแต่จะปลดปล่อยเลย เพราะหวาดกลัวจนแทบสิ้นสติ! เขาพยายามเบิกตากว้างสุดกำลัง หวังจะค้นหาเงาร่างนั้นในความมืดมิดราวน้ำหมึก ราตรีกาลนี้ราวกับตาข่ายแห่งความกลัวขนาดใหญ
เฟิงกระชากคอเสื้อนักการที่ว่าการ ใช้ดาบจ่อไว้ที่ลำคอ “ให้เวลาเจ้าสามวินาที หากไม่สารภาพตามจริง หัวจะหลุดจากบ่า!” นักการที่ว่าการตกใจขวัญหนีดีฝ่อ เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในที่ว่าการอำเภอเมื่อกลางวันออกมาจนหมดสิ้น เฟิงได้ยินดังนั้น จึงพึมพำว่า “ดูท่าข่าวขององค์ชายใหญ่จะเป็นจริง! แต่ไม่คาดคิดว่าจะถูกพาตัวไปตระกูลซู!” หึ! เฟิงเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน “ต่อให้ต้องขึ้นสวรรค์ดำดินก็ไม่อาจขวางข้าได้” จากนั้น เฟิงก็ปล่อยคอเสื้อของนักการที่ว่าการ และโยนร่างลงบนพื้น นักการที่ว่าการรีบร้องวิงวอน: “แม่นางโปรดไว้ชีวิต ข้าบอกเรื่องที่รู้ทั้งหมดแก่ท่านแล้ว...” เฟิงหัวเราะเย็นชา: “เช่นนั้น ตอนนี้เจ้าก็หมดประโยชน์แล้ว! ยิ่งไปกว่านั้น เจ้ายังเห็นหน้าข้าชัดเจนแล้วด้วย!” ฉึก! เฟิงแทงดาบใส่นักการที่ว่าการโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย! อ๊า! เสียงร้องโหยหวน เลือดสาดกระเซ็น! เฟิงไม่แม้แต่จะเหลียวหลัง ร่างอันงดงามกระโจนหายเข้าไปในความมืด นางต้องรีบไปยังตระกูลซู ต้องจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นก่อนฟ้าสาง! หลังจากเฟิงจากไป สายลมเย็นยะเยือกพัดผ่านมา นักการที่ว่าการสองคนที่ล้มอยู่บนพื้นสะดุ้ง
นางคลางแคลงใจในการตัดสินของหลี่หลงหลินอยู่บ้าง หลี่หลงหลินมั่นอกมั่นใจ: “แน่นอนอยู่แล้ว! เจ้าอย่าลืมว่าข้าเป็นใคร!” ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า: “ข้าไม่เชื่อ หากคืนนี้ไม่มีใครมา เจ้าต้องซื้อเครื่องหอมเครื่องแป้งที่ดีที่สุดในเมืองหลวงให้ข้า!” หลี่หลงหลินประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดว่าซูเฟิ่งหลิงที่ปกติห้าวหาญจะสนใจพวกเครื่องหอมเครื่องแป้ง ผิดความคาดหมายของหลี่หลงหลินโดยแท้ “วางใจเถิด ถึงตอนนั้นต่อให้ต้องซื้อเครื่องหอมเครื่องแป้งที่ดีที่สุดทั่วทั้งเมืองหลวง ข้าก็ยินยอม!” หลี่หลงหลินหยอกเย้า: “แล้วถ้ามีมือสังหารมาเล่า?” ซูเฟิ่งหลิงตบอกผาง: “ยังต้องถามอีกหรือ? มาหนึ่งจับหนึ่ง มาคู่จับคู่!” ซูเฟิ่งหลิงอยู่ในชุดสาวใช้ แต่กลับกล่าววาจาห้าวหาญเช่นนี้ ทำให้หลี่หลงหลินอดขบขันมิได้ กุ๊ก...กุ๊ก... พิราบสื่อสารตัวหนึ่งบินตรงมาเกาะไหล่หลี่หลงหลิน หลี่หลงหลินสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย เปิดกระบอกที่ขาพิราบ นี่คือข่าวที่จางอี้เพิ่งส่งมา ซูเฟิ่งหลิงมองด้วยความอยากรู้: “จะมาจริง ๆ หรือ?” หลี่หลงหลินพยักหน้า: “ฝีมืออีกฝ่ายไม่อาจดูแคลนได้ เฟิ่งหลิงถึงตอนนั้นก็ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว” หล
ซูเฟิ่งหลิงยื่นมือ ค้นอาวุธลับบนร่างเฟิงออกมาจนหมดสิ้น วางเรียงรายบนพื้น ช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก! เฟิงกัดฟันกรอด ขมวดคิ้วแน่น: “จะฆ่าจะแกง ก็ตามใจ!” คลุกคลีอยู่กับความเสี่ยง มีหรือจะไม่พลาดพลั้ง! เฟิงไม่เคยคิดว่าตนเองจะพ่ายแพ้ให้กับสตรี! ซูเฟิ่งหลิงหัวเราะเย็นชา: “เช่นนั้นเจ้าก็ตายง่ายเกินไปไม่ใช่หรอกหรือ!” “เป็นหนี้ต้องชดใช้ด้วยเงิน ฆ่าคนต้องชดใช้ด้วยชีวิต! คนตระกูลต่งทั้งเจ้านายและบ่าวไพร่หลายร้อยชีวิตตายด้วยน้ำมือเจ้า เจ้าคิดจะตายไปง่าย ๆ เช่นนี้?” “น่าขัน!” หลี่หลงหลินได้ยินเสียงจึงรีบมา เฟิงถูกมัดตรึงไว้แน่นหนา เพียงสบตากัน หลี่หลงหลินยังรู้สึกหวั่นไหว ดวงตาที่น่าสงสารของเฟิงนั้นมีเสน่ห์เย้ายวนใจยิ่งนัก อย่างไรก็ตาม หลี่หลงหลินเคยพบเจอหญิงงามมามากมาย จะถูกมนต์เสน่ห์เพียงเท่านี้ล่อลวงได้อย่างไร! หากเป็นผู้อื่นคงหลงใหลจนเสียสติไปแล้ว หลี่หลงหลินเดินไปตรงหน้าเฟิง เอ่ยเสียงเย็นชา: “ให้โอกาสเจ้า บอกมาว่าใครอยู่เบื้องหลังสั่งการเจ้า ข้าจะให้เจ้าตายอย่างสบาย!” หลี่หลงหลินแสร้งถามทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ มีแค่องค์หญิงใหญ่เท่านั้นที่มีความเกี่ยวข้องกับมือสังหารช
ทุกสิ่งล้วนไม่อาจรอดพ้นสายตาของหลี่หลงหลินไปได้! หลี่หลงหลินมองซูเฟิ่งหลิง แล้วสั่งว่า: “ปลุกนางให้ตื่น ต่อให้ต้องงัดปาก ก็ต้องเค้นข่าวจากปากนางออกมาให้ได้!” ซูเฟิ่งหลิงพยักหน้า ยกถังน้ำขึ้นทันที แล้วราดน้ำเย็นลงบนศีรษะ! ซ่า! น้ำเย็นยะเยือกทำให้เฟิงที่สลบไปฟื้นคืนสติ เฟิงมีแววตาตื่นตระหนก เรื่องที่น่ากลัวที่สุดในโลก คือการตัดสินใจปลิดชีพตน แต่กลับตายไม่ได้! แนวป้องกันในใจของเฟิงพังทลายลงทันที “องค์รัชทายาทต้าเซี่ย เจ้ามีปัญญาก็ฆ่าข้าเสีย!” หลี่หลงหลินหัวเราะ: “ฆ่าเจ้าไปก็มิอาจปลอบขวัญคนตระกูลต่งทั้งเจ้านายและบ่าวไพร่หลายร้อยชีวิตได้! ข้าจะให้เจ้าได้รับผลกรรมที่เจ้าก่อ ทั้งยังจะลากคอผู้บงการเบื้องหลังออกมา กวาดล้างขุนนางกังฉินในราชสำนักต้าเซี่ย!” “ไม่ให้พวกเจ้าเหล่าคนชั่วช้าทำร้ายราษฎรต้าเซี่ยอีกต่อไป!” เฟิงปิดตาเงียบ ไม่ว่าหลี่หลงหลินจะพูดอะไร นางก็ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ใช้ความเงียบต่อต้าน หลี่หลงหลินหัวเราะเย็นชา: “จับนางมัดไว้ พรุ่งนี้ข้าจะพานางเข้าเฝ้าฝ่าบาทในท้องพระโรง เมื่อถึงตอนนั้นก็ให้ฝ่าบาทคืนความเป็นธรรมแก่ตระกูลต่ง!” “ฝ่าบาท?” เฟิงตื่นตระหนก อยากจ
ทันทีที่เจ้ากรมอาญาเอ่ยจบ ทั่วทั้งท้องพระโรงก็เกิดเสียงฮือฮา! องค์รัชทายาทผู้สูงศักดิ์กลับใช้อำนาจโดยมิชอบ ปกป้องผู้กระทำผิด! คนตระกูลต่งทั้งเจ้านายและบ่าวไพร่หลายร้อยชีวิตถูกสังหารในคืนเดียว นี่เป็นเรื่องใหญ่สะเทือนขวัญไปทั้งเมืองหลวง! จะต้องถูกสอบสวนอย่างเข้มงวด! ฮ่องเต้หวู่สีหน้าบึ้งตึง เอ่ยด้วยความกริ้วโกรธ: “เหลวไหลสิ้นดี! รีบไปตามตัวองค์รัชทายาทเข้าวัง! ข้าจะไต่สวนเรื่องนี้ด้วยตนเอง!” หลี่เทียนฉี่ไม่อาจปิดบังรอยยิ้มที่มุมปากได้ วันนี้หลี่หลงหลินถึงคราวเคราะห์แล้ว! “หลี่หลงหลิน ไม่นึกว่าเจ้าจะมีวันนี้! ข้าจะให้เจ้าลิ้มรสความพ่ายแพ้ ถูกเหยียบย่ำอยู่ใต้ฝ่าเท้า!” หลี่เทียนฉี่ได้เตรียมการเกลี้ยกล่อมเหล่าขุนนางในราชสำนักไว้ล่วงหน้าแล้ว เพื่อเตรียมนำทัพหน้า ริมฝีปากเป็นหอก ลิ้นเป็นดาบ! ในสงครามไร้ดินปืนนี้ ต่อให้หลี่หลงหลินมีสามเศียรหกกร ก็ไม่มีทางชนะ! องค์หญิงใหญ่ที่อยู่ด้านข้างสีหน้าสงบนิ่ง ไม่แสดงความโกรธหรือยินดีออกมา “มิน่าเล่าถึงพ่ายแพ้ต่อหลี่หลงหลินครั้งแล้วครั้งเล่า พี่ใหญ่ช่างไม่มีความสุขุมรอบคอบ ไม่อาจทำการใหญ่ได้!” ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้วแน่น ในใจก
วันต่อมา ห้องหนังสือจวนอ๋องหลี่หลงหลินยกมือนวดหว่างคิ้ว มือวาดบางอย่างบนกระดาษกงซูหว่านขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง “องค์ชาย หม่อมฉันอิงตามวิธีของท่านแล้ว วันนี้ตั้งใจไปตั้งร้านแผงลอยในบริเวณคนพลุกพล่านเป็นพิเศษ เผยแพร่วิธีทำน้ำแข็งออกไป เหล่าราษฎร์สามารถใช้งานได้ ทุกคนต่างโห่ร้องด้วยความยินดี เพียงแต่บัดนี้เกลือหมางเซียวในร้านขายยาทุกแห่งของตงไห่ไม่เพียงพอ”หลี่หลงหลินพยักหน้า “เผยแพร่ออกไปก็ดีแล้ว เช่นนี้เนื้อปลาของเหล่าราษฎร์ก็สามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น ไม่ต้องสิ้นเปลือง”“พี่สะใภ้รองเหนื่อยแล้ว หากนี่คือเมืองหลวง เพียงตีพิมพ์เรียงความในหนังสือพิมพ์ก็เพียงพอแล้ว แต่อยู่ที่ตงไห่ยังต้องให้พี่สะใภ้ออกแรงเหน็ดเหนื่อยด้วยตนเอง”ภายในคำพูดหลี่หลงหลินเปี่ยมความห่วงใย อย่างไรเสียกงซูหว่านก็เป็นสตรีมีพรสวรรค์ไม่ออกนอกบ้าน อยู่แต่ในห้องหอ จู่ๆ ขอให้นางไปสอนวิธีทำน้ำแข็งแก่ราษฎร์ ช่างทำให้อึดอัดคับข้องใจโดยแท้แต่หลี่หลงหลินคิดไปคิดมา ในบรรดาพี่สะใภ้มีเพียงพี่สะใภ้รองเข้าใจวิธีใช้เกลือหมางเซียวทำน้ำแข็ง ทำได้เพียงมอบหน้าที่สำคัญนี้ให้กงซูหว่านหัวเราะเบาๆ “ไม่ลำบากเพคะ จะ
ทุกคนสูดลมหายใจเย็นเฮือกหนึ่งโจรสลัดแคว้นโวกั๋วและชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือเป็นปัญหาแถบชายแดนต้าเซี่ยมานานนับร้อยปี ไม่ใช่ปัญหาที่สามารถจัดการได้อย่างง่ายดายมองออกว่าครั้งนี้เจตจำนงของหลี่หลงหลินยิ่งใหญ่อย่างมาก!หลี่หลงหลินพูดเรียบๆ “หากต้องการกำจัดปัญหาภายนอกจะต้องกำจัดปัญหาภายในก่อน หากต้องการเดินทางบนมหาสมุทร จะต้องจัดการปัญหาตรงหน้าให้เรียบร้อย หาไม่แล้วแผนการเดินเรือจะต้องได้รับผลกระทบแน่”“เป้าหมายสำคัญในการมาตงไห่ครั้งนี้คือพัฒนาศาสตร์ต่อเรือของต้าเซี่ย บัดนี้เรือเหล่านี้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการการเดินทางไกลได้ ความแข็งแกร่งหรืออ่อนแอของเรือต้าเซี่ยก็เป็นเหตุผลที่โจรสลัดแคว้นโวกั๋วตงไห่สร้างความวุ่นวาย ได้รับผลประโยชน์มากมายในสงครามทางทะเล ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่สามารถกวาดล้างโจรสลัดแคว้นโวกั๋วที่บุกมาในคราวเดียวได้”“หากยังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป โจรสลัดแคว้นโวกั๋วก็จะยิ่งกำเริบเสิบสาน อาละวาดอย่างไร้ขอบเขตในทะเลตงไห่ ราษฎร์ตงไห่ก็จะได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก!”“ดังนั้นตราบใดที่สามารถเพิ่มระดับการต่อเรือของต้าเซี่ยได้ โจรสลัดแคว้นโวกั๋วย่อมหายไป ชนิดที่ว่าปราบตงอิ๋
ปากแดงของเหล่าสะใภ้ขยับเบาๆ ดวงตาสะท้อนความแปลกใจ “เป้าหมายคือมหาสมุทรอันกว้างใหญ่?”แม้เหล่าสะใภ้ไม่รู้ว่ามหาสมุทรอันกว้างใหญ่คือที่ใด แต่ได้ยินหลี่หลงหลินอธิบาย จะต้องเป็นสถานที่อันงดงามแน่!ซูเฟิ่งหลิงเอ่ยถาม “องค์ชาย มหาสมุทรกว้างใหญ่มากถึงเพียงนี้ เป้าหมายของพวกเราคือที่ใด?”กงซูหว่านพยักหน้า “ใช่แล้วองค์ชาย ยิ่งไปกว่านั้นระดับการเดินเรือในตอนนี้มากที่สุดก็ไปได้ถึงตงอิ๋ง หากยังไปทางทิศตะวันออก กลับยังไม่มีตัวอย่างมาก่อน”หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “เป้าหมายของพวกเราก็คือทวีปใหม่! ต้าเซี่ยและทวีปใหม่ห่างกันเพียงมหาสมุทรกั้น ลักษณะทางภูมิศาสตร์ได้เปรียบโดยธรรมชาติ สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คือคิดหาทางพัฒนาเรือของต้าเซี่ย ขนวัวม้าสัตว์ใช้แรงงานจำนวนมากเพียงพอไปยังทวีปใหม่”“ขอเพียงมีวัวม้าสัตว์ใช้แรงงาน ต้องการผืนดินมากน้อยเพียงใดก็ย่อมได้ มีผืนดินนับพันลี้ให้ราษฎร์ได้ใช้!”เหล่าสะใภ้ได้ยินภาพที่หลี่หลงหลินอธิบาย ใบหน้าเผยรอยยิ้มเปี่ยมความหวังออกมาสถานที่ที่ไม่มีสงครามและไม่มีความหิวโหยอยู่ห่างเพียงมหาสมุทรกั้น กำลังโบกมือต้อนรับตนเองหลี่หลงหลินเปล่งเสียงเคร่งขรึม “ขอเพียง
“เป็นไปไม่ได้! ดินแดนที่ดีถึงเพียงนี้ ไฉนเลยจะไม่มีคน?”หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “เหตุที่มีคนน้อยมีเพียงข้อเดียว ตอนนี้พวกเขายังกินไม่อิ่ม”ถ้อยคำนี้ของหลี่หลงหลินดุจฟ้าผ่ากลางวันแสกๆเหล่าพี่สะใภ้ได้ฟังแล้ว คิดว่านี่คล้ายเรื่องเพ้อฝันยามราตรี ดินแดนอุดมสมบูรณ์ถึงเพียงนี้ ถึงขั้นยังมีคนกินข้าวไม่อิ่มท้องอีกหรือ?กงซูหว่านมองหลี่หลงหลินด้วยความตกตะลึง เอ่ยถามว่า “องค์ชาย ท่านไม่ได้กำลังล้อพวกเราเล่นหรอกกระมัง? อิงตามคำพูดของท่าน ทวีปใหม่จะต้องอุดมสมบูรณ์อย่างมากแน่ เหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์คนกินข้าวไม่อิ่มท้องได้เล่า?”“ใช่แล้วองค์ชาย หม่อมฉันไม่เชื่อ”“หรือว่าดินแดนที่ดีถึงเพียงนี้ พวกเขาไม่สามารถเพาะปลูกได้กันเล่า?”เหล่าพี่สะใภ้ฟังจนอารมณ์ดำดิ่งลงไป ต่างขอให้หลี่หลงหลินพูดออกมาให้ชัดเจน หลี่หลงหลินพูดเรียบๆ “ไม่ใช่พวกเขาไม่เพาะปลูก ทวีปใหม่ดีมากเยี่ยงไร มีเพียงข้อเดียวที่ไม่ดี ก็คือไม่มีวัวไม่มีม้า ไม่มีสัตว์ใช้แรงงาน”ดวงตาของเหล่าสะใภ้ทอประกายระยับ ประคองใบหน้างดงามรับฟังเงียบๆ“ดังนั้นตอนนี้พวกเขายังหยุดอยู่ที่ใช้มีดถางป่าเผาไร่เพาะปลูก ใช้วิธีการพื้นฐานที่สุดในการ
“ตงอิ๋ง? ก็แค่แคว้นเล็กๆ เท่านั้น ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง!”สายตาหลี่หลงหลินเผยแววหมิ่นแคลน“ตงอิ๋งเล็กๆ เป็นเพียงเกาะแห่งหนึ่งเท่านั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรต่อคำว่าทวีปใหม่สองคำนี้”ทุกคนตกตะลึงภายในความรู้ของเหล่าสะใภ้ ตงอิ๋งก็คือจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง เหนือตงอิ๋งก็ไม่มีอันใดอีกคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ความรู้ที่พวกนางมีอยู่เปลี่ยนไปทั้งหมด!กงซูหว่านพูดเสียงสั่นๆ “องค์ชาย ความนัยของท่านคือนอกจากตงอิ๋งแล้วยังมีทวีปใหญ่อีกหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เพียงมีทวีปใหญ่ แต่ยังเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์อย่างมากอีกด้วย!”พูดไป สายตาหลี่หลงหลินก็ทอดมองไปยังทิศทางหนึ่งกงซูหว่านพูดด้วยความแปลกใจ “อุดมสมบูรณ์อย่างมาก? อุดมสมบูรณ์มากเพียงใด เทียบกับต้าเซี่ยแล้วเป็นเช่นไร?”สายตาทุกคนล้วนเปี่ยมความแปลกใจ วางตะเกียบและชามข้าวในมือลงรับฟังหลี่หลงหลินเล่าเรื่องทวีปใหม่เงียบๆหลี่หลงหลินส่ายหน้าและพูดว่า “แผ่นดินต้าเซี่ยกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตและทรัพยากรมากมาย เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง แต่ทวีปใหม่มีที่ราบมาก แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ทอดยาวนับพันลี้ ทุกหนแห่งล้วนค
น้ำ...น้ำ!หลิ่วหรูเยียนถูกความเผ็ดทำให้หน้าแดงก่ำ มุกเหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผาก ทำให้ผิวพรรณขาวดุจหิมะถูกแต้มด้วยสีแดงเรื่อหลี่หลงหลินยื่นน้ำเย็นที่เตรียมไว้ดีแล้วให้หลิ่วหรูเยียนหลิ่วหรูเยียนดื่มลงไปหนึ่งอึก จากนั้นเอ่ยปากชม “องค์ชาย! อร่อยเหลือเกิน หม่อมฉันไม่เคยกินของอร่อยถึงเพียงนี้มาก่อนเลย มีความสุขยิ่งนัก!”เวลาเพียงชั่วพริบตา หัวปลาจานใหญ่ก็หายไปจนหมดเหล่าสะใภ้แต่ละคนหน้าแดงก่ำ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวเต็มศีรษะ ปอยผมติดบนหน้าผาก ขับให้ดูมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษซูเฟิ่งหลิงถูกความเผ็ดทำให้ริมฝีปากแดงเจ่อ ความสงสัยที่มีต่อหลี่หลงหลินเมื่อครู่มลายหายไปราวกับหมอกผ่านตาซุนชิงไต้ยกชามข้าว จับจ้องหลี่หลงหลินและเอ่ยถาม “องค์ชาย ยังมีหัวปลาอีกหรือไม่ เมื่อครู่กินเร็วเกินไป ยังไม่รู้รสเพคะ”หลี่หลงหลินเผยสีหน้าเอือมระอาพี่สะใภ้สามคิดว่ากำลังกินโสมกระมัง จึงกินได้ไม่รู้รสก็แค่ตะกละเท่านั้นหลี่หลงหลินพยักหน้าและตอบว่า “พี่สะใภ้สาม ท่านวางใจได้ หากท่านชอบ ภายภาคหน้าจะทำให้พวกพี่สะใภ้กินจนพอใจ!”ซุนชิงไต้เผยสีหน้าดีใจ คีบผลสีแดงเข้าปาก จากนั้นถูกความเผ็ดทำให้หน้าบิดเบี้ยว แต่นาง
ที่ต้าเซี่ย นับตั้งแต่โบราณมาไม่คุ้นชินกับการกินหัวปลา ปกติแล้วจะตัดหัวตัดหางเลือกเพียงลำตัว หัวปลาย่อมถูกทิ้งไปแต่บัดนี้หลี่หลงหลินถึงขั้นนำหัวปลาที่เหลือมาทำอาหารหนึ่งชนิดทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือจะเชื่ออยู่บ้างยิ่งไปกว่านั้นหัวปลาหวงฮื้อใหญ่ยังมีขนาดใหญ่มาก ขนาดเล็กที่สุดก็ราวฝ่ามือ มองดูแล้วน่ากลัว ชนิดที่ว่าทำให้คนรู้สึกขนหัวลุกอยู่บ้างเหล่าสะใภ้ตกใจจนใบหน้างดงามเผือดซีดนิ้วเรียวยาวของซูเฟิ่งหลิงปิดปากไว้ อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง “องค์ชาย เจ้าสิ่งนี้กินเยี่ยงไร? มองดูแล้วน่ากลัวมากเหลือเกิน!”ลั่วอวี้จู๋เผยสีหน้าลำบากใจ “หัวปลานี้กินได้แน่หรือ?”ตอนนี้ทุกคนไม่เพียงสงสัยหลี่หลงหลิน แต่ยังสงสัยต่อหัวปลานี้หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ “ปลาหวงฮื้อล้ำค่าทั้งตัว หัวปลาย่อมสามารถกินได้ ไม่เพียงแค่นี้ หัวปลายังเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุด!”“จริงหรือ?” ซูเฟิ่งหลิงยังสงสัยดังเดิม ในสายตาของนาง หลี่หลงหลินกำลังปลอบตน ต้องการเห็นเรื่องตลกของตนซุนชิงไต้มองซูเฟิ่งหลิงด้วยสีหน้าจริงจังและเปล่งเสียงเคร่งขรึม “องค์ชายไม่พูดความเท็จ หัวปลาหวงฮื้อใหญ่นี้กินได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยัง
ลั่วอวี้จู๋พูดอยู่ทางด้านข้าง “ใช่แล้ว องค์ชาย เรื่องเหล่านี้ยกให้สะใภ้สามเถอะเพคะ”หลี่หลงหลินกลับยืดอกตรงดุจต้นไผ่ พูดเสียงเรียบๆ ว่า “พวกพี่สะใภ้วางใจก็พอ ถึงตอนนั้นจะต้องถูกปากพวกพี่สะใภ้แน่”.....พลบค่ำเหล่าสะใภ้และซูเฟิ่งหลิงรอในห้องอาหารนานแล้ว ล้วนแปลกใจตกลงหลี่หลงหลินจะนำความแปลกใจอันใดมาอีกแต่ไหนแต่ไรมาหลี่หลงหลินไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวัง เรื่องที่เขาทำล้วนไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็แปลกใหม่ไม่เหมือนผู้ใดสองมือของซูเฟิ่งหลิงยกขึ้นเท้าคาง คนหิวแทบแย่ “ก็ไม่รู้ว่าองค์ชายเล่นพิเรนทร์อันใดอีก จะต้องลงมือเข้าครัวด้วยตนเองให้ได้ สำคัญที่สุดคือองค์ชายทำอาหารเป็นแน่หรือ?”ซูเฟิ่งหลิงรู้จักหลี่หลงหลินดีมาก แม้พูดว่าฉลาดหลักแหลม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเชี่ยวชาญทุกอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นนับตั้งแต่เกิดก็มีคนคอยปรนนิบัติ จนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่เคยมีเรื่องให้กังวล น่ากลัวว่าแม้แต่ประตูห้องครัวก็ไม่เคยเฉียดเข้าไป นับประสาอะไรกับฆ่าปลาทำอาหารเล่า?ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก “ดูท่าแล้ว คืนนี้ข้าจะต้องหิวตาย”ลั่วอวี้จู๋อ่านความคิดของซูเฟิ่งหลิงออกจึงเอ่ยปลอบ “น้องหญิงเล็ก ผ
หลังผ่านไปหนึ่งชั่วยามหลี่หลงหลินเปิดฝาโอ่งน้ำใหญ่ด้วยใบหน้าลึกลับเหล่าสะใภ้ต่างคาดหวัง เตรียมเป็นพยานความอัศจรรย์ซี้ด!ไอเย็นเสียดแทงกระดูกสายหนึ่งส่งเข้ามา ทำให้เหล่าสะใภ้ไม่เพียงตัวสั่น ภาพเบื้องหน้ายังชวนให้คนตกตะลึงพรึงเพริด!มองเห็นน้ำในโอ่งน้ำใหญ่ทั้งหมดกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เย็นจนคนรู้สึกหนาว!ทุกคนกลับหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง หันมองทางหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริด สีหน้าเผือดซีด!ใบหน้ากงซูหว่านล้วนคือความตกตะลึง ในสายตาของนางหลี่หลงหลินไม่ต่างอันใดจากตำนานเสกหินให้เป็นทอง เพียงใช้เกลือหมางเซียวก็สามารถทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้แล้วหรือ? นี่เหลือจะเชื่อเกินไปแล้ว!กงซูหว่านเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “องค์ชาย นี่ทำได้เยี่ยงไร? นี่หรือว่าเป็นวิชาเซียนจริง?”หลี่หลงหลินหยิบถุงเกลือหมางเซียวในมือออกมาและพูดว่า “ตอนผสมเกลือหมางเซียวนี้กับน้ำจะสามารถดูดความร้อนมหาศาลได้ สามารถทำให้อุณหภูมิลดลงจนเหลือศูนย์องศา ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้น้ำย่อมกลายเป็นน้ำแข็ง”หลี่หลงหลินไม่ปกปิด เล่าหลักการทั้งหมดให้กงซูหว่านฟัง อย่างไรเสียภายภาคหน้ายังต้องการให้มีคนไปสอนราษฎร์ตงไห่ทำน้ำแข็