เพียงแค่วันนี้สามารถรอดพ้นไปได้ วันหน้าจะต้องหาทางโยนความผิดให้กับองค์ชายสามให้ได้ ในเมื่อเขาอาการของเขาอยู่ในขั้นวิกฤต ไม่มีโอกาสโต้แย้ง องค์หญิงใหญ่เพียงใช้เล่ห์เหลี่ยมเล็กน้อย ก็สามารถทำให้เขาไม่มีวันตื่นขึ้นมาได้แล้ว คนตายมีประโยชน์กว่าคนเป็น ถึงตอนนั้น องค์หญิงใหญ่ก็จะสามารถโยนแผนการร้ายทั้งหมดไปที่องค์ชายสามได้ ตนเองก็จะสามารถถอยออกมาได้อย่างปลอดภัย ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้ว แล้วถามว่า “หลงหลิน เจ้าหมายความว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับผู้อื่น?” องค์หญิงใหญ่ราวกับถูกฟ้าผ่า ผู้อื่นที่ฮ่องเต้หวู่เอ่ยถึงก็คือตนเอง! พระองค์ทรงสงสัยในตัวนาง องค์หญิงใหญ่รู้สึกเย็นเยียบไปถึงสันหลัง ขุนนางทั้งหลาย อำนาจสูงสุดอยู่ที่จักรพรรดิ จักรพรรดิสั่งให้ขุนนางตาย ขุนนางก็ต้องตาย ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ตนเองก็ยังไม่อาจหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบได้ หลี่หลงหลินยิ้มเล็กน้อย พลางเอ่ย “เสด็จพ่อ ลูกหมายความว่า เรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำ!” “ดังนั้นตอนนี้ยังไม่อาจสรุปได้ ต้องสืบสวนให้ละเอียด!” “ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง จิตใจชั่วร้ายยิ่งนัก! ถึงกับคิดแผนการร้ายกาจเช่นนี้” “องค์ชายสามปราบปรามชนเ
เมื่อได้ยินดังนั้น ฮ่องเต้หวู่ก็ครุ่นคิด หลี่หลงหลินประสานมือ เอ่ยเสียงหนักแน่น “เสด็จพ่อ โปรดทรงไตร่ตรองด้วย!” หลี่หลงหลินไม่เพียงแต่คำนึงถึงหลี่เฟิงอวิ๋น แต่ยังคำนึงถึงความมั่นคงของแผ่นดินต้าเซี่ย! ชัยชนะที่ซีเหลียงเป็นที่ประจักษ์แก่คนทั้งแผ่นดิน ชัยชนะครั้งนี้ปลุกขวัญกำลังใจของทหาร ฮ่องเต้หวู่มีพระราชโองการให้เข้าเมืองหลวงเพื่อรับรางวัล แต่ซีเหลียงอ๋อง เข้าเมืองหลวงได้เพียงวันเดียว ฮ่องเต้หวู่กลับจับเขาขังคุกหลวง เช่นนี้จะอธิบายต่อเหล่าทหารที่ประจำการอยู่ที่ซีเหลียงได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น กองกำลังของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือจะต้องฉวยโอกาสนี้ กลับมาโจมตีอีกครั้ง เมื่อถึงตอนนั้น ไร้ผู้บัญชาการ ผลที่ตามมาก็ยากจะคาดเดา! ดังนั้นไม่ว่าจะอย่างไร ก็ไม่อาจจับซีเหลียงอ๋องเข้าคุกหลวงได้ ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้ว ครุ่นคิด “ซีเหลียงอ๋องแม้จะมีคุณูปการ ปราบปรามชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือสมควรได้รับรางวัล แต่กลับทำตัวโอหังเพราะมีผลงาน หากปล่อยไว้เช่นนี้ วันหน้าต้าเซี่ยจะสงบสุขได้อย่างไร?” ฮ่องเต้หวู่เชี่ยวชาญในกลวิธีของจักรพรรดิ ทราบดีว่าหากครั้งนี้ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
ฮ่องเต้หวู่สบถเสียงเย็น “ในเมื่อชอบคุกเข่า เช่นนั้นเจ้าก็ไม่ต้องลุกขึ้นมาอีก!”“กลับวัง!”องครักษ์เสื้อแพรสวมเกราะเหล็กถืออาวุธคมกริบวิ่งกรูเข้ามาห้อมล้อมฮ่องเต้หวู่คุ้มกันส่งฮ่องเต้หวู่ออกจากตำหนักเฟิ่งซีโถงหลักอันกว้างใหญ่เหลือเพียงพวกหลี่หลงหลินสองสามคนหลี่หลงหลินพูดเสียงเย็น “เรื่องนี้ยังไม่จบหรอกนะ ข้าจะสืบความจริงให้กระจ่าง!”สิ้นคำ หลี่หลงหลินอุ้มซูเฟิ่งหลิงเดินออกจากตำหนักลมเหนือเย็นยะเยือก หิมะโปรยปรายทุกหนแห่งถูกปกคลุมด้วยสีขาวบริสุทธิ์ทอประกายระยับดุจเครื่องเงินแวววาวทหารชั้นยอดหนึ่งพันนายรอหลี่หลงหลินอย่างสงบอยู่ที่นอกตำหนักเฟิ่งซีตั้งนานแล้วคล้ายรูปปั้นหนึ่งพันตัวก็มิปานยืนสงบนิ่งท่ามกลางหิมะสง่างามน่าเกรงขาม!หนิงเซิงสืบเท้าขึ้นมาข้างหน้า มือสองข้างส่งเสื้อคลุมเข้าไปให้“องค์ชาย ร่างกายพระชายารัชทายาทสำคัญยิ่ง อย่าได้ต้องลมจนเป็นหวัดเป็นอันขาด”หลี่หลงหลินรับเสื้อคลุมไปและพูดว่า “หนิงเซิง ยกภารกิจคุ้มกันองค์ชายสามกลับภูเขาทิศประจิมให้เจ้าแล้ว”หนิงเซิงพูดเสียงเครียด “องค์ชายวางใจได้ องค์ชายสามไม่มีวันเป็นอะไร!”.........จวนสกุลซูลั่วอวี้จู๋ร้
กลางดึกแสงไฟของจวนสกุลซูสว่างไสวทุกคนในสกุลซูห้อมล้อมอยู่หน้าห้องของซูเฟิ่งหลิงพี่สะใภ้สามซุนชิงไต้แบกกล่องยาไว้บนหลัง ย่ำหิมะเข้ามา“หลีกไป! พี่สะใภ้สามมาแล้ว”ทุกคนแหวกทางออกให้ซุนชิงไต้สายหนึ่ง ปล่อยให้นางมาหยุดต่อหน้าซูเฟิ่งหลิงซูเฟิ่งหลิงนอนหมดสติไม่ฟื้นภายในอ้อมกอดของหลี่หลงหลิน “ชิงไต้ เจ้ามาแล้ว! รีบดูเถอะว่าน้องหญิงมีอาการเช่นไร?”ลั่วอวี้จู๋เต็มไปด้วยความร้อนใจ “หากเกิดอันใดขึ้นกับน้องหญิง ข้าไม่มีวันปล่อยหลี่เฟิงอวิ๋นคนนั้นไปแน่!”ฮูหยินผู้เฒ่าซูที่นั่งอยู่ภายในนั้นขมวดคิ้วแน่น “บัดนี้แม้พูดว่าสกุลซูของข้าเหลือเพียงญาติฝ่ายหญิง แต่ก็ไม่มีวันปล่อยให้ผู้อื่นมารังแกได้!”“หากเฟิ่งหลิงเป็นอะไรไป ข้าขอสู้กับเขาจนตัวตาย!”หลี่หลงหลินพูดเสียงเคร่งขรึม “ทุกท่าน อย่าเพิ่งร้อนใจไปเลย เฟิ่งหลิงน่าจะเพียงแค่หมดสติไป ไม่เป็นอะไรร้ายแรง”ซุนชิงไต้จับชีพจรซูเฟิ่งหลิงและพยักหน้า “รัชทายาทพูดถูกแล้ว ร่างกายน้องหญิงไม่มีอะไรผิดปกติ เพียงแค่หมดสติไปชั่วคราวเท่านั้น”ลั่วอวี้จู๋ตะโกนเสียงดัง “ชิงไต้ เช่นนั้นนางจะฟื้นขึ้นมายามใด?”ซุนชิงไต้ส่ายหน้า “นี่ข้าเองก็ไม่แน่ใจ”ทุก
หลี่หลงหลินพยักหน้าลง กลับไม่พูดจานี่คลาดเคลื่อนไปจากที่เขาคิดไว้เพียงเล็กน้อยเบื้องหลังเรื่องนี้จะต้องหนีไม่พ้นองค์หญิงใหญ่แน่!ฮูหยินผู้เฒ่าซูกำไม้เท้าแน่นพลางขมวดคิ้ว “เหลวไหลสิ้นดี! องค์หญิงใหญ่อำมหิตถึงเพียงนี้ คิดวิธีต่ำช้าเช่นนี้ออกมาได้!”“หากไม่ใช่ข้าอายุมากแล้ว จะต้องไปขอคำอธิบายจากนางมาอย่างหนึ่งแน่!”หลี่หลงหลินพูดเสียงเย็นชา “โชคดีข้าเตรียมการป้องกันเอาไว้แล้ว สั่งให้หนิงเซิงคุ้มครององค์ชายสามไปที่ภูเขาทิศประจิม หาไม่แล้วจะต้องตกหลุมพรางขององค์หญิงใหญ่แน่!”ซูเฟิ่งหลิงเอ่ยถาม “ตอนนี้องค์ชายสามอยู่ที่ภูเขาทิศประจิม?”หลี่หลงหลินพยักหน้า “ยังหมดสติไม่ฟื้น อีกเดี๋ยวข้าค่อยพาพี่สะใภ้สามไปรักษา เจ้าอยู่พักรักษาตัวที่บ้านดีๆ เถอะ”ซูเฟิ่งหลิงเองก็อยากไปพร้อมกันหลี่หลงหลินพูดว่า “ข้างนอกลมหนาวเย็น ยิ่งไปกว่านั้นอีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันแต่งงานแล้ว พักรักษาตัวดีๆ ต่างหากสำคัญที่สุด”ลั่วอวี้จู๋เองก็พูดเกลี้ยกล่อม “ใช่แล้วน้องหญิงเล็ก ตอนนี้เจ้าเพิ่งฟื้น ร่างกายกำลังอ่อนแอ หากโดนลมหนาวจะยิ่งยุ่งยาก”ซูเฟิ่งหลิงไม่ต่อต้านอีก มองหลี่หลงหลินพาซุนชิงไต้หายไปท่ามกลางหิมะตกหน
หลี่เฟิงอวิ๋นเผยสีหน้าสับสน กวาดตามองทั่วสารทิศ “ข้าอยู่ที่ใด?”หลี่เฟิงอวิ๋นจะลุกขึ้น แต่ความเจ็บปวดแล่นพล่านทั่วทั้งสรรพางค์กาย คล้ายถูกคนตีก็มิปานใบหน้าน่ารักของซุนชิงไต้ปรากฏอยู่ในสายตา“ข้าไม่ใช่กำลังประลองยุทธ์กับซูเฟิ่งหลิงหรอกหรือ? เหตุใดมาอยู่ที่นี่ได้ หรือว่าข้าแพ้ในเงื้อมมือของนาง!”ทันใดนั้นเลือดลมในกายพลุ่งพล่านหลี่เฟิงอวิ๋นรู้สึกเพียงอับอายจนแทบทนไม่ไหวตนเองพ่ายแพ้ในเงื้อมมือของสตรีถึงสองครั้งซุนชิงไต้พูดเสียงเครียด “องค์ชาย องค์ชายสามฟื้นแล้ว”องค์ชายสามชะงักเบาๆ “องค์ชาย? บัดนี้ข้าอยู่ในเงื้อมมือของรัชทายาทหรือ!”ความเป็นไปได้บางอย่างแล่นผ่านสมองของหลี่เฟิงอวิ๋นเขาถึงขั้นคิดว่าตนเองถูกหลี่หลงหลินวางแผนทำร้าย ส่วนซูเฟิ่งหลิงเป็นเพียงตัวล่อเท่านั้นหลี่หลงหลินเดินเนิบนาบเข้ามา ใบหน้าประดับยิ้ม “องค์ชายสาม ในที่สุดท่านก็ฟื้นแล้ว”ใบหน้าหลี่เฟิงอวิ๋นเคร่งขรึม เอ่ยถามว่า “ข้าอยู่ที่ใด เจ้าทำอันใดข้า!”หลี่เฟิงอวิ๋นมองต้นขาเกือบพิการของตน ดวงตาสะท้อนไอเย็นสายหนึ่งส่วนตอนยาออกฤทธิ์นั้น เขาลืมไปจนหมดสิ้นแล้วยิ่งไปกว่านั้นถ้อยคำจากใจจริงเหล่านั้นเป็นเพียงคว
หลี่เฟิงอวิ๋นไม่มีใจเป็นอื่นต่อต้าเซี่ย“ยิ่งไปกว่านั้น บัดนี้เรื่องศึกซีเหลียงเร่งด่วนมาก ในช่วงเวลาสำคัญนี้จะเกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เป็นอันขาด”หลี่หลงหลิน “เจ้าเก้า?”หลี่เฟิงอวิ๋นนี้ถึงรู้ว่าตนเองล่วงเกินไปแล้ว สั่นสะท้านไปทั่วทั้งสรรพางค์กายรีบค้อมตัวคุกเข่าลง พูดเสียงสั่นเครือ “คารวะรัชทายาท เมื่อครู่เสียมารยาทไป ขออย่าได้เก็บมาใส่ใจ”บัดนี้มาถึงเมืองหลวงแล้วต่อให้เป็นผู้ยิ่งใหญ่มาจากที่ใดก็ต้องสำรวมตนอยู่ในอาณาเขตของรัชทายาท ซีเหลียงอ๋องคู่ควรเพียงคุกเข่า!หลี่หลงหลินพูดเสียงเย็นชา “บัดนี้เสด็จพ่อกริ้วหนัก ใต้หล้านี้มีเพียงข้าที่สามารถช่วยท่านได้”“แต่ข้ามีหนึ่งเงื่อนไข”หลี่เฟิงอวิ๋นดีใจแทบบ้าคลั่ง คล้ายคว้าหญ้าช่วยชีวิตเอาไว้ได้แล้ว“องค์ชาย ขอเพียงท่านพูดออกมา ไม่ว่าเป็นเงื่อนไขเยี่ยงไรข้าก็ล้วนยินดีทำ! ขอเพียงสามารถคลายโทสะภายในใจของเสด็จพ่อได้ก็พอ”หลี่หลงหลินส่ายหน้า “หรือว่าท่านยังไม่รู้อารมณ์ของเสด็จพ่อ? เว้นเสียแต่ว่าสามารถนำหลักฐานออกมาได้ หาไม่แล้วโทสะภายในใจของเขาก็ไม่มีวันคลายลง”หลี่เฟิงอวิ๋นวางมือสองข้างลงบนพื้น แม่ทัพใหญ่แห่งซีเหลียงผู้ห้าวหาญในเวลาป
วันต่อมาจวนสกุลซูหลี่หลงหลินเฝ้าอยู่หน้าเตียงซูเฟิ่งหลิงอย่างใส่ใจอีกสองสามวันก็จะเป็นวันแต่งงานของทั้งสองคนแม้เพิ่งเตรียมตัว ต่อให้ไม่สมบูรณ์ก็ยังดีกว่าไม่ทำอันใดเลยอาศัยโอกาสนี้สานสายใยรักกับซูเฟิ่งหลิงสักหน่อยซูเฟิ่งหลิงไม่คุ้นชินอยู่บ้างหลี่หลงหลินยกชามและตะเกียบ “เฟิ่งหลิง นี่เป็นน้ำแกงบำรุงที่ข้าตั้งใจต้มให้เจ้า ดื่มลงไปแล้วดีต่อร่างกายของเจ้า”ทีแรกซูเฟิ่งหลิงยังต่อต้าน ตนเองมีมือมีเท้า ถึงขั้นยังต้องให้ผู้อื่นป้อนข้าว ปรับตัวไม่ถูกจริงๆแต่เอือมระอาร่างกายอ่อนแอ ไม่อาจต่อต้านได้ ทำได้เพียงรับความหวังดีน้ำแกงใสไหลลงคอ ดวงตาซูเฟิ่งหลิงทอประกายระยับแม้ว่าหลี่หลงหลินไม่เข้าห้องครัว แต่ฝีมือกลับยอดเยี่ยมมากหลี่หลงหลินเอ่ยถาม “สนมรัก รสชาติเป็นเช่นไร?”ใบหน้าซูเฟิ่งหลิงแดงเรื่อ “กลางวันแสกๆ พูดอันใดไม่รู้จักอาย!”พูดจบ เงยหน้าขึ้น ทุบอกหลี่หลงหลินเบาๆ ทีหนึ่ง หลี่หลงหลินยิ้มบางๆ“องค์ชาย! แย่แล้วขอรับ!”บ่าวรีบปรี่ถลาเข้ามา คุกเข่าต่อหน้าหลี่หลงหลินหลี่หลงหลินวางชามและตะเกียบลง เอ่ยถามว่า “เกิดเรื่องใดขึ้น ร้อนใจถึงเพียงนี้?”บ่าวพูดว่า “มีขุนนางกลุ่มหน
วันต่อมา ห้องหนังสือจวนอ๋องหลี่หลงหลินยกมือนวดหว่างคิ้ว มือวาดบางอย่างบนกระดาษกงซูหว่านขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง “องค์ชาย หม่อมฉันอิงตามวิธีของท่านแล้ว วันนี้ตั้งใจไปตั้งร้านแผงลอยในบริเวณคนพลุกพล่านเป็นพิเศษ เผยแพร่วิธีทำน้ำแข็งออกไป เหล่าราษฎร์สามารถใช้งานได้ ทุกคนต่างโห่ร้องด้วยความยินดี เพียงแต่บัดนี้เกลือหมางเซียวในร้านขายยาทุกแห่งของตงไห่ไม่เพียงพอ”หลี่หลงหลินพยักหน้า “เผยแพร่ออกไปก็ดีแล้ว เช่นนี้เนื้อปลาของเหล่าราษฎร์ก็สามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น ไม่ต้องสิ้นเปลือง”“พี่สะใภ้รองเหนื่อยแล้ว หากนี่คือเมืองหลวง เพียงตีพิมพ์เรียงความในหนังสือพิมพ์ก็เพียงพอแล้ว แต่อยู่ที่ตงไห่ยังต้องให้พี่สะใภ้ออกแรงเหน็ดเหนื่อยด้วยตนเอง”ภายในคำพูดหลี่หลงหลินเปี่ยมความห่วงใย อย่างไรเสียกงซูหว่านก็เป็นสตรีมีพรสวรรค์ไม่ออกนอกบ้าน อยู่แต่ในห้องหอ จู่ๆ ขอให้นางไปสอนวิธีทำน้ำแข็งแก่ราษฎร์ ช่างทำให้อึดอัดคับข้องใจโดยแท้แต่หลี่หลงหลินคิดไปคิดมา ในบรรดาพี่สะใภ้มีเพียงพี่สะใภ้รองเข้าใจวิธีใช้เกลือหมางเซียวทำน้ำแข็ง ทำได้เพียงมอบหน้าที่สำคัญนี้ให้กงซูหว่านหัวเราะเบาๆ “ไม่ลำบากเพคะ จะ
ทุกคนสูดลมหายใจเย็นเฮือกหนึ่งโจรสลัดแคว้นโวกั๋วและชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือเป็นปัญหาแถบชายแดนต้าเซี่ยมานานนับร้อยปี ไม่ใช่ปัญหาที่สามารถจัดการได้อย่างง่ายดายมองออกว่าครั้งนี้เจตจำนงของหลี่หลงหลินยิ่งใหญ่อย่างมาก!หลี่หลงหลินพูดเรียบๆ “หากต้องการกำจัดปัญหาภายนอกจะต้องกำจัดปัญหาภายในก่อน หากต้องการเดินทางบนมหาสมุทร จะต้องจัดการปัญหาตรงหน้าให้เรียบร้อย หาไม่แล้วแผนการเดินเรือจะต้องได้รับผลกระทบแน่”“เป้าหมายสำคัญในการมาตงไห่ครั้งนี้คือพัฒนาศาสตร์ต่อเรือของต้าเซี่ย บัดนี้เรือเหล่านี้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการการเดินทางไกลได้ ความแข็งแกร่งหรืออ่อนแอของเรือต้าเซี่ยก็เป็นเหตุผลที่โจรสลัดแคว้นโวกั๋วตงไห่สร้างความวุ่นวาย ได้รับผลประโยชน์มากมายในสงครามทางทะเล ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่สามารถกวาดล้างโจรสลัดแคว้นโวกั๋วที่บุกมาในคราวเดียวได้”“หากยังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป โจรสลัดแคว้นโวกั๋วก็จะยิ่งกำเริบเสิบสาน อาละวาดอย่างไร้ขอบเขตในทะเลตงไห่ ราษฎร์ตงไห่ก็จะได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก!”“ดังนั้นตราบใดที่สามารถเพิ่มระดับการต่อเรือของต้าเซี่ยได้ โจรสลัดแคว้นโวกั๋วย่อมหายไป ชนิดที่ว่าปราบตงอิ๋
ปากแดงของเหล่าสะใภ้ขยับเบาๆ ดวงตาสะท้อนความแปลกใจ “เป้าหมายคือมหาสมุทรอันกว้างใหญ่?”แม้เหล่าสะใภ้ไม่รู้ว่ามหาสมุทรอันกว้างใหญ่คือที่ใด แต่ได้ยินหลี่หลงหลินอธิบาย จะต้องเป็นสถานที่อันงดงามแน่!ซูเฟิ่งหลิงเอ่ยถาม “องค์ชาย มหาสมุทรกว้างใหญ่มากถึงเพียงนี้ เป้าหมายของพวกเราคือที่ใด?”กงซูหว่านพยักหน้า “ใช่แล้วองค์ชาย ยิ่งไปกว่านั้นระดับการเดินเรือในตอนนี้มากที่สุดก็ไปได้ถึงตงอิ๋ง หากยังไปทางทิศตะวันออก กลับยังไม่มีตัวอย่างมาก่อน”หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “เป้าหมายของพวกเราก็คือทวีปใหม่! ต้าเซี่ยและทวีปใหม่ห่างกันเพียงมหาสมุทรกั้น ลักษณะทางภูมิศาสตร์ได้เปรียบโดยธรรมชาติ สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คือคิดหาทางพัฒนาเรือของต้าเซี่ย ขนวัวม้าสัตว์ใช้แรงงานจำนวนมากเพียงพอไปยังทวีปใหม่”“ขอเพียงมีวัวม้าสัตว์ใช้แรงงาน ต้องการผืนดินมากน้อยเพียงใดก็ย่อมได้ มีผืนดินนับพันลี้ให้ราษฎร์ได้ใช้!”เหล่าสะใภ้ได้ยินภาพที่หลี่หลงหลินอธิบาย ใบหน้าเผยรอยยิ้มเปี่ยมความหวังออกมาสถานที่ที่ไม่มีสงครามและไม่มีความหิวโหยอยู่ห่างเพียงมหาสมุทรกั้น กำลังโบกมือต้อนรับตนเองหลี่หลงหลินเปล่งเสียงเคร่งขรึม “ขอเพียง
“เป็นไปไม่ได้! ดินแดนที่ดีถึงเพียงนี้ ไฉนเลยจะไม่มีคน?”หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “เหตุที่มีคนน้อยมีเพียงข้อเดียว ตอนนี้พวกเขายังกินไม่อิ่ม”ถ้อยคำนี้ของหลี่หลงหลินดุจฟ้าผ่ากลางวันแสกๆเหล่าพี่สะใภ้ได้ฟังแล้ว คิดว่านี่คล้ายเรื่องเพ้อฝันยามราตรี ดินแดนอุดมสมบูรณ์ถึงเพียงนี้ ถึงขั้นยังมีคนกินข้าวไม่อิ่มท้องอีกหรือ?กงซูหว่านมองหลี่หลงหลินด้วยความตกตะลึง เอ่ยถามว่า “องค์ชาย ท่านไม่ได้กำลังล้อพวกเราเล่นหรอกกระมัง? อิงตามคำพูดของท่าน ทวีปใหม่จะต้องอุดมสมบูรณ์อย่างมากแน่ เหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์คนกินข้าวไม่อิ่มท้องได้เล่า?”“ใช่แล้วองค์ชาย หม่อมฉันไม่เชื่อ”“หรือว่าดินแดนที่ดีถึงเพียงนี้ พวกเขาไม่สามารถเพาะปลูกได้กันเล่า?”เหล่าพี่สะใภ้ฟังจนอารมณ์ดำดิ่งลงไป ต่างขอให้หลี่หลงหลินพูดออกมาให้ชัดเจน หลี่หลงหลินพูดเรียบๆ “ไม่ใช่พวกเขาไม่เพาะปลูก ทวีปใหม่ดีมากเยี่ยงไร มีเพียงข้อเดียวที่ไม่ดี ก็คือไม่มีวัวไม่มีม้า ไม่มีสัตว์ใช้แรงงาน”ดวงตาของเหล่าสะใภ้ทอประกายระยับ ประคองใบหน้างดงามรับฟังเงียบๆ“ดังนั้นตอนนี้พวกเขายังหยุดอยู่ที่ใช้มีดถางป่าเผาไร่เพาะปลูก ใช้วิธีการพื้นฐานที่สุดในการ
“ตงอิ๋ง? ก็แค่แคว้นเล็กๆ เท่านั้น ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง!”สายตาหลี่หลงหลินเผยแววหมิ่นแคลน“ตงอิ๋งเล็กๆ เป็นเพียงเกาะแห่งหนึ่งเท่านั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรต่อคำว่าทวีปใหม่สองคำนี้”ทุกคนตกตะลึงภายในความรู้ของเหล่าสะใภ้ ตงอิ๋งก็คือจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง เหนือตงอิ๋งก็ไม่มีอันใดอีกคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ความรู้ที่พวกนางมีอยู่เปลี่ยนไปทั้งหมด!กงซูหว่านพูดเสียงสั่นๆ “องค์ชาย ความนัยของท่านคือนอกจากตงอิ๋งแล้วยังมีทวีปใหญ่อีกหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เพียงมีทวีปใหญ่ แต่ยังเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์อย่างมากอีกด้วย!”พูดไป สายตาหลี่หลงหลินก็ทอดมองไปยังทิศทางหนึ่งกงซูหว่านพูดด้วยความแปลกใจ “อุดมสมบูรณ์อย่างมาก? อุดมสมบูรณ์มากเพียงใด เทียบกับต้าเซี่ยแล้วเป็นเช่นไร?”สายตาทุกคนล้วนเปี่ยมความแปลกใจ วางตะเกียบและชามข้าวในมือลงรับฟังหลี่หลงหลินเล่าเรื่องทวีปใหม่เงียบๆหลี่หลงหลินส่ายหน้าและพูดว่า “แผ่นดินต้าเซี่ยกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตและทรัพยากรมากมาย เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง แต่ทวีปใหม่มีที่ราบมาก แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ทอดยาวนับพันลี้ ทุกหนแห่งล้วนค
น้ำ...น้ำ!หลิ่วหรูเยียนถูกความเผ็ดทำให้หน้าแดงก่ำ มุกเหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผาก ทำให้ผิวพรรณขาวดุจหิมะถูกแต้มด้วยสีแดงเรื่อหลี่หลงหลินยื่นน้ำเย็นที่เตรียมไว้ดีแล้วให้หลิ่วหรูเยียนหลิ่วหรูเยียนดื่มลงไปหนึ่งอึก จากนั้นเอ่ยปากชม “องค์ชาย! อร่อยเหลือเกิน หม่อมฉันไม่เคยกินของอร่อยถึงเพียงนี้มาก่อนเลย มีความสุขยิ่งนัก!”เวลาเพียงชั่วพริบตา หัวปลาจานใหญ่ก็หายไปจนหมดเหล่าสะใภ้แต่ละคนหน้าแดงก่ำ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวเต็มศีรษะ ปอยผมติดบนหน้าผาก ขับให้ดูมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษซูเฟิ่งหลิงถูกความเผ็ดทำให้ริมฝีปากแดงเจ่อ ความสงสัยที่มีต่อหลี่หลงหลินเมื่อครู่มลายหายไปราวกับหมอกผ่านตาซุนชิงไต้ยกชามข้าว จับจ้องหลี่หลงหลินและเอ่ยถาม “องค์ชาย ยังมีหัวปลาอีกหรือไม่ เมื่อครู่กินเร็วเกินไป ยังไม่รู้รสเพคะ”หลี่หลงหลินเผยสีหน้าเอือมระอาพี่สะใภ้สามคิดว่ากำลังกินโสมกระมัง จึงกินได้ไม่รู้รสก็แค่ตะกละเท่านั้นหลี่หลงหลินพยักหน้าและตอบว่า “พี่สะใภ้สาม ท่านวางใจได้ หากท่านชอบ ภายภาคหน้าจะทำให้พวกพี่สะใภ้กินจนพอใจ!”ซุนชิงไต้เผยสีหน้าดีใจ คีบผลสีแดงเข้าปาก จากนั้นถูกความเผ็ดทำให้หน้าบิดเบี้ยว แต่นาง
ที่ต้าเซี่ย นับตั้งแต่โบราณมาไม่คุ้นชินกับการกินหัวปลา ปกติแล้วจะตัดหัวตัดหางเลือกเพียงลำตัว หัวปลาย่อมถูกทิ้งไปแต่บัดนี้หลี่หลงหลินถึงขั้นนำหัวปลาที่เหลือมาทำอาหารหนึ่งชนิดทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือจะเชื่ออยู่บ้างยิ่งไปกว่านั้นหัวปลาหวงฮื้อใหญ่ยังมีขนาดใหญ่มาก ขนาดเล็กที่สุดก็ราวฝ่ามือ มองดูแล้วน่ากลัว ชนิดที่ว่าทำให้คนรู้สึกขนหัวลุกอยู่บ้างเหล่าสะใภ้ตกใจจนใบหน้างดงามเผือดซีดนิ้วเรียวยาวของซูเฟิ่งหลิงปิดปากไว้ อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง “องค์ชาย เจ้าสิ่งนี้กินเยี่ยงไร? มองดูแล้วน่ากลัวมากเหลือเกิน!”ลั่วอวี้จู๋เผยสีหน้าลำบากใจ “หัวปลานี้กินได้แน่หรือ?”ตอนนี้ทุกคนไม่เพียงสงสัยหลี่หลงหลิน แต่ยังสงสัยต่อหัวปลานี้หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ “ปลาหวงฮื้อล้ำค่าทั้งตัว หัวปลาย่อมสามารถกินได้ ไม่เพียงแค่นี้ หัวปลายังเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุด!”“จริงหรือ?” ซูเฟิ่งหลิงยังสงสัยดังเดิม ในสายตาของนาง หลี่หลงหลินกำลังปลอบตน ต้องการเห็นเรื่องตลกของตนซุนชิงไต้มองซูเฟิ่งหลิงด้วยสีหน้าจริงจังและเปล่งเสียงเคร่งขรึม “องค์ชายไม่พูดความเท็จ หัวปลาหวงฮื้อใหญ่นี้กินได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยัง
ลั่วอวี้จู๋พูดอยู่ทางด้านข้าง “ใช่แล้ว องค์ชาย เรื่องเหล่านี้ยกให้สะใภ้สามเถอะเพคะ”หลี่หลงหลินกลับยืดอกตรงดุจต้นไผ่ พูดเสียงเรียบๆ ว่า “พวกพี่สะใภ้วางใจก็พอ ถึงตอนนั้นจะต้องถูกปากพวกพี่สะใภ้แน่”.....พลบค่ำเหล่าสะใภ้และซูเฟิ่งหลิงรอในห้องอาหารนานแล้ว ล้วนแปลกใจตกลงหลี่หลงหลินจะนำความแปลกใจอันใดมาอีกแต่ไหนแต่ไรมาหลี่หลงหลินไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวัง เรื่องที่เขาทำล้วนไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็แปลกใหม่ไม่เหมือนผู้ใดสองมือของซูเฟิ่งหลิงยกขึ้นเท้าคาง คนหิวแทบแย่ “ก็ไม่รู้ว่าองค์ชายเล่นพิเรนทร์อันใดอีก จะต้องลงมือเข้าครัวด้วยตนเองให้ได้ สำคัญที่สุดคือองค์ชายทำอาหารเป็นแน่หรือ?”ซูเฟิ่งหลิงรู้จักหลี่หลงหลินดีมาก แม้พูดว่าฉลาดหลักแหลม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเชี่ยวชาญทุกอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นนับตั้งแต่เกิดก็มีคนคอยปรนนิบัติ จนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่เคยมีเรื่องให้กังวล น่ากลัวว่าแม้แต่ประตูห้องครัวก็ไม่เคยเฉียดเข้าไป นับประสาอะไรกับฆ่าปลาทำอาหารเล่า?ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก “ดูท่าแล้ว คืนนี้ข้าจะต้องหิวตาย”ลั่วอวี้จู๋อ่านความคิดของซูเฟิ่งหลิงออกจึงเอ่ยปลอบ “น้องหญิงเล็ก ผ
หลังผ่านไปหนึ่งชั่วยามหลี่หลงหลินเปิดฝาโอ่งน้ำใหญ่ด้วยใบหน้าลึกลับเหล่าสะใภ้ต่างคาดหวัง เตรียมเป็นพยานความอัศจรรย์ซี้ด!ไอเย็นเสียดแทงกระดูกสายหนึ่งส่งเข้ามา ทำให้เหล่าสะใภ้ไม่เพียงตัวสั่น ภาพเบื้องหน้ายังชวนให้คนตกตะลึงพรึงเพริด!มองเห็นน้ำในโอ่งน้ำใหญ่ทั้งหมดกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เย็นจนคนรู้สึกหนาว!ทุกคนกลับหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง หันมองทางหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริด สีหน้าเผือดซีด!ใบหน้ากงซูหว่านล้วนคือความตกตะลึง ในสายตาของนางหลี่หลงหลินไม่ต่างอันใดจากตำนานเสกหินให้เป็นทอง เพียงใช้เกลือหมางเซียวก็สามารถทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้แล้วหรือ? นี่เหลือจะเชื่อเกินไปแล้ว!กงซูหว่านเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “องค์ชาย นี่ทำได้เยี่ยงไร? นี่หรือว่าเป็นวิชาเซียนจริง?”หลี่หลงหลินหยิบถุงเกลือหมางเซียวในมือออกมาและพูดว่า “ตอนผสมเกลือหมางเซียวนี้กับน้ำจะสามารถดูดความร้อนมหาศาลได้ สามารถทำให้อุณหภูมิลดลงจนเหลือศูนย์องศา ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้น้ำย่อมกลายเป็นน้ำแข็ง”หลี่หลงหลินไม่ปกปิด เล่าหลักการทั้งหมดให้กงซูหว่านฟัง อย่างไรเสียภายภาคหน้ายังต้องการให้มีคนไปสอนราษฎร์ตงไห่ทำน้ำแข็