หน้าหลัก / โรแมนติก / องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า / บทที่ 5 ข้าจะแย่งทุกอย่างที่เป็นของเจ้า

แชร์

บทที่ 5 ข้าจะแย่งทุกอย่างที่เป็นของเจ้า

ผู้เขียน: วริษา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-12 09:59:47

บทที่ 5 ข้าจะแย่งทุกอย่างที่เป็นของเจ้า

ตำหนักหนานฉี

ยามเฉิน (08.00)

เซียวอี้นั่งอยู่ในห้องของตนเพื่อทำการอ่านตำราขงจื้อที่องค์รัชทายาทต้องทำ เพราะเขาได้รับปากท่านพี่จึงอยากทำให้ท่านพี่สบายใจแม้ว่าตัวของเขาเองมิใช่คนที่ดีแต่เขาจะทำหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายให้ท่านพี่ไม่ผิดหวังที่เชื่อมั่นในตัวของเขา

ก๊อก ๆ "" เสียงดังมาจากหน้าต่างห้องเซียวอี้วางตำราลงที่โต๊ะพร้อมเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเพื่อไม่ให้ผู้อื่นที่อยู่ด้านหน้าตำหนักได้ยิน

"เข้ามา" ทันใดนั้นเองหน้าต่างถูกเปิดออกพร้อมร่างบุรุษบึกบึนสวมชุดสีดำเพื่ออำพรางร่างกายพร้อมปกปิดใบหน้ารีบกระโดดเข้ามาด้านในอย่างรวดเร็ว เสียงหายใจเหนื่อยหอบดังออกมาอย่างต่อเนื่อง

"ปกติเจ้ามิได้เข้ามาหาข้ายามนี้มีเรื่องอันใดอย่างนั้นหรือทำให้เจ้าเร่งรีบมาหาข้าเช่นนี้" เซียวอี้จ้องมองไปยังร่างใหญ่ เขารีบคุกเข่าลงหนึ่งข้างและตั้งชันเข่าอีกข้างขึ้นพร้อมเปิดใบหน้าให้องค์ชายเซียวอี้ได้เห็น

"ทูลองค์ชายที่กระหม่อมเร่งรีบมาเช่นนี้เพราะมีเรื่องสำคัญจะมาแจ้งพ่ะย่ะค่ะ" เซียวอี้ลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินตรงเข้ามาใกล้อย่างสงสัย

"เรื่องอันใดกันถึงทำให้เจ้ารอให้ฟ้ามืดไม่ได้รีบเอ่ยมาเถิด"

"พ่ะย่ะค่ะ" บุรุษผู้นี้คือองครักษ์เงาขององค์ชายสามเซียวอี้คอยสอดส่องเรื่องต่าง ๆ รอบกายที่เกี่ยวกับตัวของเขามีนามว่าไป๋เหลียน

"กระหม่อมได้ยินเรื่องที่ไม่สมควรที่จะได้ยินมา ยามนี้ท่านใต้เท้าเซ่อเจิ้งหวางกับท่านใต้เท้าท่านอื่นพากันหารือที่หอคณิกาและได้ความมาว่าเขาต้องการให้องค์ชายห้าขึ้นรับตำแหน่งแทนองค์ชายพ่ะย่ะค่ะ"

"เช่นนี้ก็ดีต่อตัวข้ามิใช่หรือ?"

"จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมได้ยินมาว่าเรื่องนี้ฝ่าบาทไม่เห็นด้วยแต่ว่าใต้เท้าเซ่อเจิ้งหวางจะใช้ท่านแม่ทัพใหญ่ที่ยามนี้กำลังเคลื่อนกองกำลังออกไปช่วยทหารที่อยู่ทิศเหนือสู้รบ หากเขาได้รับชัยชนะกลับมาได้เช่นนี้ท่านใต้เท้าจะทูลบอกฝ่าบาทให้ท่านแม่ทัพหนุนหลังและคอยช่วยเหลือองค์ชายห้าเปรียบเสมือนท่านใต้เท้าเซ่อเจิ้งหวางต้องการเพียงให้องค์ชายห้าเป็นหุ่นเชิดโดยมีเขาเป็นผู้เชิดหุ่นอย่างไรอย่างนั้น เช่นนี้องค์ชายจะอยู่นิ่งได้หรือพ่ะย่ะค่ะ" ไป๋เหลียนรีบรายงานพร้อมเอ่ยถามความคิดของเซียวอี้ เขานิ่งเงียบหันหลังเพื่อครุ่นคิด หากเป็นดั่งที่ไป๋เหลียนได้ยินมาสิ่งเดียวที่เขาคิดได้ในยามนี้คือท่านใต้เท้าเซ่อเจิ้งหวางกับเจาหยางต้องการอำนาจและบัลลังก์ของเขา เซียวอี้กำมือแน่นไม่คิดเลยว่าตระกูลเซ่อจะคิดการใหญ่เช่นนี้ มีหรือที่เขาจะยอมให้บัลลังก์ตกอยู่ในมือของตระกูลเซ่อ

"เหอะ! ช่างร้ายกาจยิ่งนัก ข้าว่าเรื่องที่ข้าถูกท่านพ่อเรียกไปต่อว่าคงเป็นฝีมือของเขาสินะ ไป๋เหลียนข้ามีเรื่องที่จะให้เจ้าทำจงไปที่เรือนของใต้เท้าหวังอี้เฉินเฝ้าดูนิสัยกิริยาของคุณหนูตระกูลนั้นแล้วมารายงานข้า "

"กระหม่อมขอถามได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะทำไมต้องให้กระหม่อมไปเฝ้าตามดูคุณหนูตระกูลหวังด้วยพ่ะย่ะค่ะ ไม่เห็นจะสำคัญกับเรื่องนี้เลย"

"สำคัญสิ ในเมื่อเจาหยางสหายเก่าของข้าต้องการแย่งชิงทุกอย่างของข้าไม่ว่าจะเป็นความรักของท่านพ่อหรือแม้แต่บัลลังก์เช่นนี้ข้าจะแย่งทุกอย่างของเขามาเป็นของข้า คุณหนูตระกูลหวังคือคนรักของแม่ทัพเจาหยางข้าอยากจะแย่งชิงนางมาเป็นของข้า เจาหยางจะได้รับว่าการถูกแย่งชิงนั้นเจ็บปวดเพียงใด และเรื่องบัลลังก์ข้าไม่มีทางที่จะให้แผนการของใต้เท้าเซ่อเจิ้งหวางสำเร็จได้ "

"กระหม่อมเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ จะรีบไปทำตามที่องค์ชายรับสั่ง" เอ่ยจบไป๋เหลียนดึงผ้ามาปกคลุมใบหน้าเช่นเดินและกระโดดออกทางหน้าต่างเพื่อหลบหลีกไม่ให้ผู้ใดได้เห็นตน

"ข้าจะทำให้เจ้าได้ริ้มรสความเจ็บปวดของการถูกแย่งชิง คิดจะแย่งบัลลังก์ไปจากข้าอย่างนั้นหรือ? เห็นว่าท่านพ่อชื่นชอบจนหลงระเริงอยากได้บัลลังก์ ข้าจะไม่มีทางให้เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะต่อจากนี้ข้าจะเป็นคนแย่งชิงทุกอย่างของเจ้าเองไม่ว่าจะเป็นสตรีที่เจ้ารักหรือแม้แต่อำนาจที่เจ้ามีตระกูลเจ้ามีข้าจะทำให้เจ้าย่อยยับจนแตกสลายรอรับมือจากข้าได้เลย" เซียวอี้แสยะยิ้มออกมาก่อนจะเดินกลับไปอ่านขงจื้ออย่างละเอียดเขาจะไม่ปล่อยให้วันเวลาล่วงเลยไปมากกว่านี้

เรือนใต้เท้าหวังอี้เฉิน

จื่อหลินจัดเตรียมอาหารตามที่คุณหนูสั่งเพื่อออกไปอารามสงฆ์ตามปรารถนาของลั่วเออร์เมื่อนางจัดเตรียมเสร็จสิ้นจึงเดินถือของไปหาลั่วเออร์ที่ห้องเพื่อออกเดินทาง

"คุณหนูเจ้าคะ ข้าเตรียมของที่คุณหนูสั่งเรียบร้อยแล้ว คุณหนูเตรียมตัวเสร็จหรือยังเจ้าคะ" จื่อหลินเอ่ยถามอยู่ด้านนอกประตูเมื่อลั่วเออร์ได้ยินนางรีบหยิบหมวกไม้ไผ่เพื่อบังแดดและเดินออกไปหาจื่อหลินที่คอยอยู่ ทั้งคืนนางนอนไม่หลับเพราะเอาแต่เป็นห่วงเจาหยางบุรุษที่นางรัก หากนางได้ออกไปอารามและได้สวดมนต์ขอพรอาจจะทำให้จิตใจของนางสงบสุขได้บ้าง

"ข้าเสร็จแล้วรีบออกเดินทางกันเถิด " ลั่วเออร์ย่างกายออกมาก่อนจะเดินนำจื่อหลินไปที่รถม้าที่ถูกเตรียมไว้รอก่อนแล้ว

ทั้งสองเดินทางไม่นานก็มาถึงอารามสงฆ์ ลั่วเออร์นำอาหารมาถวายให้แก่นักพรตที่ปฎิบัติธรรมอยู่

"คุณหนูผู้สูงศักดิ์ ข้าขอเอ่ยเรื่องหนึ่งกับท่านได้หรือไม่" จู่ ๆ นักพรตผู้หนึ่งได้เอ่ยขึ้นเมื่อลั่วเออร์ส่งอาหารให้เสร็จแล้ว

"เจ้าค่ะ "

"ข้ามองเห็นชะตาชีวิตของคุณหนูต่อไปนี้มีเรื่องทำให้ชีวิตผลิกผันต้นร้ายปลายดี เพียงคุณหนูยึดมั่นในความดีไม่ว่าจะพบเจอเรื่องอันใดจะทำให้คุณหนูพบเจอแต่เรื่องที่สุขสงบใจในที่สุดแม้ว่าจะมีช่วงเวลาที่ทุกข์ยากลำบากขอเพียงคุณหนูยึดมั่นและอดทนจะมีแต่เรื่องดี ๆ เกิดขึ้น" คำกล่าวที่นักพรตเอ่ยออกมาทำให้ลั่วเออร์กังวลใจมากกว่าเดิมแต่เมื่อนางกำลังจะเอ่ยปากถามเพื่อให้หายข้องใจแต่ทว่ายามนี้นักพรตท่านนั้นก็ได้หายไปแล้ว ใบหน้าของลั่วเออร์เป็นกังวลจนจื่อหลินสังเกตได้

"หายไปไหนเสียแล้วนะ "

"คุณหนูไม่ต้องคิดมากเป็นกังวลเกินกว่าเหตุนะเจ้าคะ แค่นักพรตที่เอ่ยวาจาไปทั่วเท่านั้น ฮึ! หากข้ารู้ว่าจะเอ่ยวาจาเช่นนี้กับคุณหนูข้าจะไม่ให้คุณหนูมอบอาหารให้เลย คุณหนูอย่าคิดมากนะเจ้าคะเราไปกราบไหว้เพื่อสวดขอพรเทพเทวดากันเถิดเจ้าค่ะ " จื่อหลินจับกายลั่วเออร์ให้ลุกขึ้นไปอีกทางที่จะไหว้ขอพร แต่ทว่าคำพูดของนักพรตเมื่อครู่ยังคงก่อกวนจิตใจของลั่วเออร์ไม่จางหาย

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 44 ข้ารักท่าน(ตอนจบ)

    บทที่ 44 ข้ารักท่านใต้เท้าเซ่อรู้สึกอับอายที่บุตรชายได้รับความพ่ายแพ้ต่อองค์รัชทายาท ตระกูลเซ่อทุกคนต่างได้รับโทษและใต้เท้าที่รวมตัวกันวางแผนก็ถูกลงโทษด้วยเช่นกัน โทษของเจาหยางคือการถูกโบยตีก่อนจะนำไปแคว้นคอประจานให้แก่ราษฎรได้เห็นถึงการก่อกบฏและประสงค์ร้ายต่อราชวงศ์จะถูกลงโทษเช่นไร แม้จะมีคุณงามความดีต่อแผ่นดินแต่ถ้าหากคิดร้ายก็ไม่ละเว้นก่อนจะนำร่างไปโยนให้แร้งกิน สนมตระกูลเซ่อถูกปลดให้เป็นเพียงสาวใช้และองค์ชายห้าถูกตัดขาดกับราชวงศ์มิอาจจะเข้ามาในวังหลวงได้อีกต่อไปใต้เท้าเซ่อถูกรุมประชาทัณฑ์ชาวบ้านหรือผู้ที่เคยถูกเขาข่มเหงรังแกขว้างหินขว้างดินใส่จนเขาถึงแก่ความตายภายในวังหลวงกลับมาสุขสงบอีกครั้ง แม้ลั่วเออร์จะเห็นชอบการลงโทษแต่ทว่าในใจของนางลึก ๆ ยังคงคิดถึงใบหน้ารอยยิ้มของเจาหยางแต่มิใช่เพราะนางคิดถึงเพราะความรักแต่ทว่านางกลับเสียดาย หากเขาเลือกเดินทางถูกต้องและคอยช่วยเหลือองค์รัชทายาทอาจจะเป็นท่านแม่ทัพใหญ่ที่ทุกคนนับหน้าถือตา"พระชายาเพคะ วันนี้หม่อมฉันจะออกไปอยู่ที่ตำหนักของนางในแล้วจะได้พบพระชายาอีกไม่เพคะ" หนิงเอ๋อเดินเข้ามาหาลั่วเออร์ที่ศาลารับลม นางได้เข้ามาเป็นนางในฝึกหัด

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 43 ลงโทษอย่างสาสม

    บทที่ 43 ลงโทษอย่างสาสม"ใครบอกเป็นเพราะเจ้าที่เป็นองค์ชายไม่เอาไหนต่างหาก ข้าจงรักภักดีต่อแผ่นดิน หวังว่าวันหนึ่งจะเป็นแม่ทัพที่ดีและเป็นกองกำลังให้ฮ่องเต้เช่นเจ้าในภายภาคหน้าแต่เจ้าทำลายทุกอย่าง เจ้าทำร้ายหัวใจของข้า ทำให้ข้าต้องแย่งชิงคืนมาเช่นนี้อย่างไรเล่า " เจาหยางตั้งท่าได้สู้กับเซียวอี้อีกครั้ง จนทั้งสองทะลุกำแพงห้องพังทลายล้มลง เสียงดังจึงถึงห้องของลั่วเออร์ตึง!"นั่นเสียงอะไรกัน ทำไมถึงดังอยู่ใกล้ ๆ เช่นนี้หรือว่าแม่ทัพเจาหยางบุกมาที่ตำหนักนี้แล้ว " ลั่วเออร์ไม่รีรอนางร้อนใจจึงเปิดประตูออกไปด้านนอกเพื่อดู แต่ก็ต้องถูกองครักษ์เข้ามาห้ามไม่ให้ออกไปเสียก่อน"พระชายาจะออกไปที่ใดพ่ะย่ะค่ะ ""ข้าได้ยินเสียงดังที่ตำหนักนี้ข้าเป็นห่วงองค์รัชทายาทกลัวว่าเขาจะรับมือแม่ทัพเจาหยางไม่ได้ ""พระชายาอย่าร้อนใจไปพ่ะย่ะค่ะ ยามนี้องครักษ์ไป๋เหลียนก็อยู่กับองค์รัชทายาท พระชายาเข้าไปอยู่ในห้องดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ " ลั่วเออร์มองลอดใต้แขนขององครักษ์ที่ยืนบังนางเห็นแม่ทัพเจาหยางกำลังจะใช้ดาบจัดการกับเซียวอี้ที่ล้มลงกับแผ่นไม้ฝาผนังที่เสียงดังเมื่อครู่ นางคือต้นเหตุทุกอย่างที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นและเ

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 42 ก่อกบฏ

    บทที่ 42 ก่อกบฏรุ่งเช้าวันต่อมาไป๋เหลียนที่เฝ้าดูการเคลื่อนไหวของแม่ทัพเจาหยางได้เข้ามารายงานต่อเซียวอี้ที่กำลังนั่งหน้าเคร่งเครียดเพื่อรับมือจากแม่ทัพ"ทูลองค์รัชทายาท ยามนี้กองทัพของแม่ทัพเจาหยางจะเคลื่อนขบวนในยามวิกาลพ่ะย่ะค่ะ ข้าได้ยินมาว่าเขาบอกกล่าวกองกำลังเพื่ออ้อมล้อมวังหลวงในคืนนี้ในเวลายามที่ทุกคนต่างหลับใหล จำนวนทหารของแม่ทัพมีประมาณสี่ร้อยนายจะรับมือเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ""ทหารของเจาหยางมีสี่ร้อยนายหรือ? เช่นนั้นกองกำลังของเราก็มีไม่น้อยไปกว่าเขาเพราะความช่วยเหลือของท่านแม่ ข้าจะวางแผนตลบหลัง ขันทีลี่เว่ยไปแจ้งกองกำลังมาหาข้าที่นี่""พ่ะย่ะค่ะองค์ชาย ""ส่วนเจ้าค่ำคืนนี้ทำตามแผนของข้า ส่วนพระชายาข้าจะให้องครักษ์เงาอีกกลุ่มไปเฝ้านางเอง มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่จะสามารถรับมือแม่ทัพเจาหยางได้ จงทำตามนี้" เซียวอี้บอกแผนการให้ไป๋เหลียนได้รับรู้ จากนั้นเมื่อกองกำลังมาถึงเขาได้บอกแผนการในการรับมือครั้งนี้ให้แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องและทุกคนต่างพากันหลบซ่อนจนกว่ากองกำลังของแม่ทัพเจาหยางจะล้อมวังหลวงจากนั้นค่อยให้ทหารออกมาล้อมกองทัพของแม่ทัพเจาหยาง เซียวอี้ครุ่นคิดมาทั้งคืนเขาจะไม่ให้เกิดการ

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 41 วางแผนรับมือ

    บทที่ 41 วางแผนรับมือฝั่งด้านแม่ทัพเซ่อเจาหยางเขากลับมาจากตำหนักหนานฉี มาปรึกษาหารือท่านพ่อคิดจะก่อกบฏท่านใต้เท้าเซ่อไม่ห้ามแถมยังให้ความสนับสนุนเซ่อเจาหยางอีกด้วย เขาจึงตระเวนออกไปหาใต้เท้าที่อยู่ภายใต้ความควบคุมท่านพ่อเพื่อขอความร่วมมือในการชิงบัลลังก์ในครั้งนี้ ข้ากลับจากเรือนใต้เท้าท่านหนึ่งเห็นองค์รัชทายาทกำลังพาลั่วเออร์ออกจากวังหลวงเพียงลำพังจึงได้แอบตามไป ได้เห็นหมู่บ้านในหุบเขาที่เซียวอี้แอบซ่อนไว้ รอยยิ้มของลั่วเออร์ที่เคยเป็นของเขายามนี้ถูกเซียวอี้ครอบครองจนหมดสิ้นไม่ว่าจะเป็นใจหรือกายของนาง ดวงตาร้อนระอุในอกเต็มไปด้วยความเคลียดแค้น ยิ่งเห็นชาวบ้านที่นี่รักและเทิดทูลเขายิ่งไม่พึงพอใจ เมื่อเห็นว่าเซียวอี้พาลั่วเออร์กลับวังหลวงความคิดชั่วร้ายของเจาหยางที่ก่อเกิดจึงสั่งการให้ทหารของตนไปจัดการสอบถามชาวบ้านแต่เมื่อชาวบ้านตอบคำถามไม่ตรงความคิดของเขาจึงสั่งให้ทหารจัดการฆ่าทิ้งให้หมดทุกคนไม่ละเว้น เขาอยากเห็นความเจ็บปวดของเซียวอี้ที่พรากคนรักของเขาไป หากเขารู้ว่าหมู่บ้านและชาวบ้านที่เขาให้การช่วยเหลือตายกันหมดคงจะเจ็บปวดเจียนตายเมื่อตรวจสอบแล้วไม่เหลือผู้เหลือรอดเขาจึงจุดไฟเผาให้

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 40 เป็นฝีมือเขา

    บทที่ 40 เป็นฝีมือเขาในห้องของลั่วเออร์มีจื่อหลินที่แต่งกายให้อยู่นางเกิดความสงสัยจึงเอ่ยถามผู้เป็นนาย"พระชายาเพคะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันเพคะพระชายาถึงได้พากันกลับวังหลวงจนท้องฟ้ามืดมิดเช่นนี้แล้วเด็กนั้นคือใครกันเพคะ" ลั่วเออร์หันไปมองหน้าของนางกำนัลเสมือนพวกนางรู้พากันเดินออกจากห้องเหลือเพียงจื่อหลิน"เด็กนั่นเป็นเด็กที่องค์รัชทายาทช่วยเหลือเอาไว้ ข้างนอกวังเกิดเรื่องขึ้นทำให้ข้ากับองค์รัชทายาทกลับมาล่วงเวลาเช่นนี้ วันนี้ข้าเหน็ดเหนื่อยเหลือเกินจนไม่มีเรี่ยวแรงจะเอ่ยแล้วเจ้าไปพักเถิดนะ รุ่งสางข้าจะเล่าให้เจ้าฟังเอง ""เพคะพระชายา " จื่อหลินวางแปรงผมลงที่โต๊ะเครื่องแป้ง เดินออกไปด้านนอกไม่นานเซียวอี้ได้เสด็จมาหาลั่วเออร์เพื่อมฟังคำพูดของนางเหตุใดนางถึงรู้ว่าเป็นแม่ทัพเจาหยางและเขามาพบนางเพราะการใด"มาแล้วหรือเพคะ ""ข้ารู้ว่าเจ้าตกใจและเสียใจเพียงใดแต่เรื่องที่ข้าต้องการจะรู้จากปากเจ้าในวันนี้ข้าต้องรู้ให้ได้ "ลั่วเออร์ลุกขึ้นมานั่งที่เก้าอี้พรางสูดลมหายใจให้ทั่วท้องและเล่าเรื่่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้แก่เซียวอี้ฟัง"อะไรกันเจาหยางคิดทำลายข้าจนถึงขั้นจะให้เจ้าปลงพระชนม์ข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายไร้ใจเช่นท่านไม่มีวันได้ใจข้า   บทที่ 39 ช่างโหดร้าย

    บทที่ 39 ช่างโหดร้ายลั่วเออร์ปาดน้ำตาลุกขึ้นยืนเดินไปเดินมาด้วยหัวใจที่ร้อนรุ่มกำมือแน่นภาวนาให้ยังพอมีคนเหลือรอด นางได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้รีบหันไปมองเห็นเซียวอี้อุ้มหนิงเอ๋อกลับมา ลั่วเออร์ดีใจราวกับคำอ้อนวอนของนางเป็นจริง นางวิ่งเข้าหาหาทั้งสองทันที“สวรรค์หนิงเอ๋อเจ้าปลอดภัย เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นห่วงเจ้าเพียงใด” เซียวอี้วางหนิงเอ๋อหลงจากอ้อมแขน นางวิ่งเข้าไปโอบกอดลั่วเออร์แน่น“พี่ลั่วเออร์ข้ากลัว กลัวเหลือเกินเจ้าค่ะพวกเขาช่างโหดร้ายเพื่อน ๆ ของข้าท่านแม่ของข้าต่างพากันอ้อนวอนพวกเขาไม่มีความเมตตาสักนิด ท่านแม่ก้มลงเพื่อวอนขอชีวิตแต่เขากลับใช้ดาบบั่นคอท่านแม่ชั่วพริบตา อึก อึก ข้ากลัวเจ้าค่ะ เพื่อน ๆ ของข้าหนีไม่ทันถูกคนใจร้ายจัดการจนไม่เหลือ พี่ลั่วเออร์ท่านอย่าทิ้งข้าไปอีกคนนะเจ้าคะ ข้าไม่เหลือใครแล้ว” เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของหลินเอ๋อต่างพากันสงสาร ร่างเล็กสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ฝืนใจข่มความกลัวเพื่อบอกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่นี่ ลั่วเออร์กอดนางแน่นพรางร้องไห้เด็กตัวเล็กเพียงนี้ต้องมาพบเจอเรื่องโหดร้ายแถมยังต้องเสียทุกคนไปคงสะเทือนใจไม่น้อย“ข้าอยู่นี่แล้ว ข้าไม่มีท

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status