Share

บทที่ 35

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
หลังจากกลับมาได้สติ นางก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

ฉินซูมิได้ถูกฆ่าด้วยการโจมตีเต็มแรงของนางเมื่อครู่ แต่อย่างน้อยกระดูกช่วงอกของเขาควรจะหัก และควรจะบาดเจ็บภายในอย่างสาหัสมาก

แต่เมื่อครู่ฉินซูมิเพียงแต่สามารถพูดได้ แต่เสียงของเขาก็เต็มไปด้วยพลังมิเหมือนคนที่บาดเจ็บภายในเลย

และตอนนี้เขายังโอบกอดนางด้วย!!

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ฉงชูโม่ก็รีบผละตัวออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งยกมือปิดจุดสำคัญที่อยู่ข้างหน้า พลางตะโกนว่า “ฉินซู ท่านแกล้งตายเช่นนั้นหรือ?”

“ข้าแกล้งตายตอนไหนกัน? โดนเจ้าตบอย่างแรง อวัยวะภายในของข้าเคลื่อนหมดแล้ว ทรมานจะแย่”

เมื่อได้ยินฉินซูพูดได้อย่างมิติดขัด ฉงชูโม่จึงสรุปได้ฉินซูมิเป็นอะไรแต่อย่างใด

ฉงชูโม่กัดฟันด้วยความโกรธ คิดถึงเมื่อครู่ที่ถูกฉินซูเอาเปรียบอย่างมาก และตอนนี้ก็ถูกเขาเห็นหมดแล้ว

นางรีบดึงอาภรณ์ที่อยู่ข้าง ๆ เพื่อปกปิดร่างกายที่เปลือยเปล่าของตน

เมื่อฉินซูเห็นสิ่งนี้ เขาก็พูดว่า “อ้าว นั่นมันอาภรณ์ของข้า…”

“คนลามก กล้ามาเอาเปรียบหม่อมฉัน วันนี้หม่อมฉันจะหักขาสุนัขของท่านเพื่อองค์จักรพรรดิเอง!”

ฉงชูโม่หยิบเศษไม้ขึ้นมาจากพื้น แล้วฟาดใส่ฉินซูอย่างแรง

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 36

    “อ่า ข้ามิคิดว่ามือของเจ้าจะบอบบางขนาดนี้ ทั้งที่กรำศึกอยู่ทั้งปีทั้งชาติ จิ๊จิ๊ นวดจนข้ารู้สึกสบายดีจริง ๆ”ฉินซูเริ่มยิ้มแย้มแล้วเย้าหยอกขึ้นมาฉงชูโม่เลิกคิ้วและพูดด้วยความโกรธ “ถ้ามิอยากเป็นขันทีก็หุบปาก!”ฉินซูเอื้อมมือออกไปปกปิดส่วนสำคัญของตนตามสัญชาตญาณ และปิดปากของเขาอย่างชาญฉลาดเขารู้ดีว่าหากเขาเล่นมิเลิก ฉงชูโม่จะสู้กับเขาจนตายกันไปข้างหนึ่งอย่างแน่นอนหากเขาลงมือจริง ๆ แน่นอนว่าเขาจะมิกลัวอีกฝ่าย แต่เขาก็รู้ดีว่า หากเป็นศัตรูกับแม่ทัพขั้นหนึ่งอย่างฉงชูโม่ นั่นไม่มีประโยชน์ต่อเขาเลยเขาจึงยอมแพ้ และพูดว่า “เอาเถอะ เรื่องคืนนี้ ข้าจะมิบอกผู้ใด เจ้าไปได้แล้ว"ฉงชูโม่ตะลึงไปชั่วขณะ!เดิมทีนางคิดว่าฉินซูจะใช้โอกาสนี้เรียกร้องเรื่องเกินควรแต่ตอนนี้ฉินซูกลับให้นางออกไป นางก็เริ่มสงสัยว่าตนได้ยินผิดไปหรือไม่“ท่านยอมปล่อยหม่อมฉันไปจริง ๆ หรือ?”“มิเช่นนั้นแล้วจะอะไรได้ ข้ามิได้ตั้งใจทำให้เจ้าเดือดร้อน แต่เจ้าก็ต้องรับปากว่าจะมิเอาเรื่องนี้มาคิดบัญชีทีหลังอีก”ฉงชูโม่เงียบ ในใจรู้สึกโกรธเล็กน้อยเมื่อครู่นางถูกมองร่างเปลือยเปล่าตอนนี้อีกฝ่ายกลับไม่มีการกระทำที่เกินเล

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 37

    เพียงแต่นางคิดอย่างไรก็คิดมิตกว่า เหตุใดฉินซูที่ถูกนางโจมตีอย่างหนัก ไฉนจึงมิได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย“ช่างเถอะ วันพรุ่งค่อยบีบคั้นถามอีกทีแล้วกัน คืนนี้ ก็ถือว่าคนเจ้าเล่ห์นั่นโชคเข้าข้างแล้วกัน!”หลังจากพึมพำด้วยความโกรธ นางก็ขึ้นเตียงพักผ่อนในอีกด้านหนึ่ง หลังจากที่ฉินซูกลับมาที่เรือนนอน หลินชิงเหยาพูดอย่างน้อยใจว่า “องค์รัชทายาท เหตุใดท่านถึงใช้เวลานานนักเล่าเพคะ?”“อ๋อ การแช่น้ำร้อนช่วยคลายความเมื่อยล้าได้ ข้าก็เลยอดมิได้ที่จะแช่น้ำนานหน่อย”ขณะที่ฉินซูพูดเช่นนี้ เขาก็ปีนขึ้นไปบนเตียงและโอบกอดหลินชิงเหยาไว้ในอ้อมแขนของเขาหลินชิงเหยาเอนหัวพิงหน้าอกที่กว้างของเขาอย่างเชื่อฟังและพูดเบา ๆ ว่า “องค์รัชทายาท เมื่อไหร่พระองค์จะเสด็จไปขอหม่อมฉันกับท่านพ่อเล่าเพคะ?”ฉินซูถามด้วยสีหน้าจริงจังว่า “เจ้าก็น่าจะรู้ อีกมิกี่เดือนข้าก็จะถูกปลดจากตำแหน่ง เมื่อถึงเวลานั้นข้าก็อาจจะไม่มีแม้แต่ตำแหน่งจวิ้นอ๋อง(1)ด้วยซ้ำ เจ้าจะยังอยู่กับข้าอีกหรือ?"หลินชิงเหยาพูดอย่างจริงใจ “ตอนนี้หม่อมฉันเป็นขององค์รัชทายาทแล้ว มิว่าพระองค์จะถูกลดตำแหน่ง มิว่าพระองค์จะเป็นจวิ้นอ๋องหรือเป็นสามัญชน หม่อมฉั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 38

    หลินชิงเหยาปาดน้ำตาจากหางตา แล้วพูดว่า “ไม่มีอะไรเพคะ หม่อมฉันแค่รู้สึกซาบซึ้งใจเหลือเกินที่เห็นว่าองค์รัชทายาทมิหวาดระแวงในตัวหม่อมฉันเลย”“โอ้? เจ้าคิดว่าข้าควรจะกังวลเรื่องที่เจ้าวางยาพิษกับขนมอบพวกนี้หรือ?”“จริง ๆ แล้ว ตอนแรกหม่อมฉันก็กังวลอยู่ อย่างไรเสียท่านพ่อของหม่อมฉันก็สนิทกับอ๋องฉี และหม่อมฉันเองก็เคยช่วยท่านอ๋องฉีมาก่อน…”ฉินซูหัวเราะอย่างมิเชื่อหูและพูดว่า “เจ้าช่างเป็นสตรีที่โง่เขลาจริง ๆ อย่างที่เจ้าว่า ตอนนี้เจ้าเป็นคนของข้าแล้วหากข้ายังต้องระแวงเจ้า ข้าจะมิเหนื่อยแย่หรือ?”แม้ว่าเขาจะพูดเช่นนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความเชื่อมั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือความแข็งแกร่งในการบ่มเพาะตนของเขา ที่ระดับของเขาแล้วพิษธรรมดาไม่มีผลกับเขาเลยนอกจากนี้เขายังสามารถมองออกทันทีว่ามีพิษอยู่ในอาหารหรือไม่แต่มิว่าอะไรจะเกิดขึ้น หลินชิงเหยาก็ซาบซึ้งใจกับความไว้ใจอย่าง “ไม่มีเงื่อนไข” ของเขาในใจนางยิ่งมุ่งมั่นมากขึ้นว่านางจะติดตามฉินซูตลอดไปมิว่าภายภาคหน้าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามฉินซูโบกมือให้นางแล้วพูดว่า “เจ้าอย่ามัวแต่ยืนนิ่งอยู่เลย มานั่งกินด้วยกันเถอะ”“เอ๋? องค์รัชทายาท นี่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 39

    ใบหน้าอันงดงามของฉงชูโม่เปลี่ยนเป็นเย็นชาและถามว่า “นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร? หม่อมฉันฝ่าฝืนกฎเมื่อใดตอนไหนกัน?”เมื่อเห็นการเผชิญหน้าระหว่างทั้งสองคน หลินชิงเหยาจึงรีบเข้ามาไกล่เกลี่ยและพูดว่า “พี่หญิงชูโม่ องค์รัชทายาทมิได้หมายความว่าเจ้าทำผิดกฎเกณฑ์ เจ้าเข้าใจผิดแล้ว”“หลินชิงเหยา เจ้ายังมิได้ออกเรือนแท้ ๆ กลับพูดแทนเขาแล้วหรือ?”“ข้า… ข้าแค่พูดความจริงก็เท่านั้น” หลินชิงเหยากระซิบด้วยความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ“ชิงเหยา แม่ทัพฉงเพิ่งกลับมาจากสนามรบ นางย่อมมีอารมณ์ฉุนเฉียวเป็นธรรมดา เราอย่าไปถือสานางเลย”“โอ้ หม่อมฉันรับทราบเพคะ”ฉินซูยิ้มด้วยความพึงพอใจและพูดกับฉงชูโม่ “ดูสิ ข้าชอบนิสัยอ่อนหวานของชิงเหยา และนางยังเก่งการครัวอีก นางทั้งเข้าครัวได้และออกงานสังคมได้ แถมยังมีน้ำใจอีก เป็นคนที่น่าชื่นชมจริง ๆ”เมื่อได้ยินฉินซูยกย่องตัวเอง หลินชิงเหยารู้สึกพึงพอใจในใจฉงชูโม่พูดด้วยความมิพอใจเล็กน้อย “แค่เรื่องการครัว ใครๆ ก็ทำได้ มีอะไรน่าคุยโวกัน”ฉินซูถามด้วยความประหลาดใจ “โอ้? แม่ทัพฉงก็รู้เรื่องการครัวด้วยหรือ?”ฉงชูโม่เท้าเอว แล้วพูดอย่างภาคภูมิใจ “แน่นอนว่าหม่อมฉันทำได้!”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 40

    ฉินซูยิ้มอย่างชั่วร้ายและกระซิบข้างหูของฉงชูโม่ “แน่นอน เป็นเพราะได้เห็นรูปร่างอันน่าภาคภูมิใจของแม่ทัพฉงน่ะสิ!”“ฉ่า!”ใบหน้าอันงดงามของฉงชูโม่พลันเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับพระอาทิตย์ยามตกดินทันทีด้วยความโกรธ นางยกมือขึ้นตบหน้าฉินซู“โอ๊ย! หากเจ้าลงมือ ข้าจะเปิดเผยเรื่องเมื่อคืนออกไปนะ!”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฉงชูโม่ก็รีบหยุดมือ และสาปแช่งอย่างเกลียดชังว่า “คนต่ำช้า ไร้ยางอาย!”“แหม เจ้าแอบเข้าไปอาบน้ำในบ่ออาบน้ำของข้า แล้วเจ้ายังแอบดูข้าและหลินชิงเหยาอีก... ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย เจ้ายังกล้าเปิดปากพูดได้อีก!”“ถุย ถุย ถุย ใครแอบดูพวกท่านกัน หม่อมฉันเห็นภาพมิน่าดูนั่นก็ทำให้หม่อมฉันอยากจะควักลูกตาตัวเองออกมาล้างให้สะอาดแล้ว!”“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ควักออกมาสิ!”“ท่าน… หึ หม่อมฉันมิเคยเห็นใครต่ำช้าและไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อนเลย”ฉงชูโม่หันหลังกลับและจากไปด้วยความโกรธนางถึงกับลืมถามเรื่องระดับพลังของฉินซูไปเลยด้วยซ้ำฉินซูยิ้มอย่างภาคภูมิใจและกล่าวว่า “เด็กน้อย เรื่องอย่างนี้ ข้าจะใช้เวลามิกี่อึดใจก็จัดการเจ้าได้อยู่มือแล้ว!”ในเวลาเดียวกันในโถงหลักของสำนักหอดูดาวหลวง เหลยเจ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 41

    “มะเส็ง ฟ้าดินขัดแย้ง นี่คือสัญลักษณ์คำทำนายที่เป็นลางร้ายอย่างยิ่ง…”เขาบ่นแล้วเดินไปที่ประตูโถงมองขึ้นไปบนท้องฟ้าทางทิศใต้ในแววตาชราเฒ่าและลึกซึ้งนั้น มีร่องรอยของความกังวลที่หาได้ยาก…… ตำหนักบูรพาหลังจากที่ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยเข้ามา เขาก็ไปเข้าเฝ้าฉินซูก่อนฝ่ายหลังพูดด้วยรอยยิ้ม “ตู๋กูโฉ่วเยวี่ย ข้าจะไปเดินเล่นที่ตลาด เจ้าไปกับข้าด้วยแล้วกัน”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไปเรียกองครักษ์คนอื่น ๆ มาด้วย”หลังจากตู๋กูโฉ่วเยวี่ยพูดจบ เขาก็หันหลังกลับและจากไปฉินซูโบกมือแล้วพูดว่า “เอาพวกทหารองครักษ์ไปเยอะ ๆ คนอื่นคงรู้ว่าข้าเป็นองค์รัชทายาท จะสนุกตรงไหนกันเล่า”“เช่นนั้นองค์รัชทายาททรงหมายความว่า...”“เจ้าไปกับข้าก็พอ ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า เจ้ายังกลัวว่าจะมีใครมาสร้างปัญหาให้ข้าอีกรึ?”“จริงด้วย เชิญองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ”ทั้งสองกำลังจะออกไปข้างนอก ตอนนั้นเองที่ฉงชูโม่รีบติดตามมาและถามว่า “องค์รัชทายาท พระองค์จะเสด็จไปที่ใดเพคะ?”“ไปเดินเล่นที่ตลาด มิเช่นนั้นอยู่แต่ในตำหนักบูรพาจะเบื่อตายเสียก่อน”“มิได้เพคะ ฝ่าบาทเคยรับสั่งให้หม่อมฉันคอยควบคุมให้ท่านอ่านตำรานักปราชญ์”ฉินซูข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 42

    ฉงชูโม่พูดอย่างน่าเชื่อถือ “แน่นอนว่าหม่อมฉันต้องจับตาดูท่าน มิให้ท่านก่อปัญหาอีก”“ฮ่าฮ่า ด้วยรูปลักษณ์ปานล่มเมืองเช่นเจ้า และรูปร่างหน้าตาเจ้าโดดเด่นกว่าผู้ใด หากติดตามข้าไป เกรงว่าเจ้าจะเป็นคนแรกที่สร้างปัญหา”เมื่อเห็นฉินซูหันกลับมาชมรูปร่างหน้าตาของนาง ฉงชูโม่ก็หน้าแดงโดยมิรู้ตัวนางพึมพำ “อย่างไรหม่อมฉันก็จะไปด้วย นี่เป็นพระราชโองการของฝ่าบาท หากองค์รัชทายาทคิดว่าหม่อมฉันดึงดูดความสนใจเกินไป เช่นนั้นหม่อมฉันจะไปเปลี่ยนชุด”“เช่นนั้นก็รีบไป”ฉงชูโม่รีบหันหลังกลับและเดินไปที่ห้องของตนมินานหลังจากนั้น นางก็เปลี่ยนมาสวมอาภรณ์บุรุษ และผมสีดำมันวาวของนางก็ถูกมัดด้วยปิ่นปักผมไม้แม้ว่าในเวลานี้นางจะแต่งตัวเป็นบุรุษ แต่ทั้งใบหน้าที่บอบบางไร้ที่ติของนาง และรูปร่างอันสะโอดสะองของนางก็ยังสะดุดตาเป็นพิเศษใครก็ตามที่มีสติปัญญาเพียงเล็กน้อยก็ยังสามารถบอกได้ว่า นางเป็นสตรีปลอมตัวเป็นบุรุษยิ่งไปกว่านั้น การสวมอาภรณ์ของบุรุษนี้ดูจะมิเข้ากับนางเอาเสียเลยฉินซูบ่นอย่างมิสบอารมณ์ “แม่ทัพฉง เจ้าคิดว่าเพียงเจ้าเปลี่ยนมาสวมอาภรณ์ของบุรุษ คนอื่นจะดูมิออกว่าเจ้าเป็นสตรีรึ?"“เช่นนั้นท่านคิด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 43

    “เขาเคยพูดกับข้าก่อน!”ฉินซูชี้ตรงไปที่ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยฝ่ายหลังตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นส่ายหน้าอย่างแรงแล้วรีบปฏิเสธ “ข้าเปล่า ข้ามิได้พูด องค์รัชทายาท ท่านอย่าตรัสโป้ปดสิพ่ะย่ะค่ะ!"“ตู๋กูโฉ่วเยวี่ย!!”ฉงชูโม่คำราม และดึงแส้ออกจากสาบเสื้อของนางเมื่อเห็นว่าสถานการณ์มิดี ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยจึงวิ่งหนีไปฉงชูโม่ตามทันเขาในพริบตาครู่ต่อมา เสียงกรีดร้องของตู๋กูโฉ่วเยวี่ยก็ดังมาแต่ไกลฉินซูเหงื่อแตกพลั่กและพึมพำ “อารมณ์ร้ายขนาดนี้ เจ้ายังบอกว่าเจ้ามิใช่แม่มดอีก”เขาส่ายหน้า และมุ่งตรงไปยังตลาดสิบห้านาทีต่อมาฉงชูโม่ตามมาทัน แม้ว่านางยังคงมีใบหน้าบึ้งตึง แต่นางก็มิได้โกรธเท่าเดิมแล้วข้างหลังนั้นตู๋กูโฉ่วเยวี่ยตามมาด้วยจมูกช้ำและใบหน้าบวมปูด มองฉินซูด้วยดวงตาเศร้าสร้อยเป็นครั้งคราวเมื่อสังเกตเห็นท่าทางเศร้าโศกของตู๋กูโฉ่วเยวี่ยแล้ว ฉินซูก็ชูมือขึ้นแล้วพูดว่า “ข้ามิได้ตีเจ้าเสียหน่อย เหตุใดเจ้าจึงมองข้าเช่นนั้น”“องค์รัชทายาท พระองค์ไม่มีเมตตาเลย กระหม่อมบอกเมื่อใดว่าชูโม่เป็นแม่… แค่กแค่ก กระหม่อมมิเคยพูดเช่นนั้นเลย”ฉินซูกระซิบข้างหู “เจ้าโง่หรือไร? ข้ากำลังสร้างโอกาสให้กั

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 716

    กู้เสวี่ยเจี้ยนถามด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง “ท่านว่ากระไรนะ? หนานเยวี่ยถูกทำลายแล้วหรือ?”“ใช่ เพิ่งได้รับข่าวเมื่อมินานมานี้ ฉินซูใช้กลอุบายเล็กน้อยก็บีบบังคับให้ทหารหนานเยวี่ยแสนนายยอมจำนน จากนั้นยังนำทหารชั้นยอดเพียงหมื่นนายบุกเข้ายึดเมืองหลวงของหนานเยวี่ย และสังหารเชื้อพระวงศ์หนานเยวี่ยจนหมดสิ้น”“มิจริงกระมัง? ท่านแน่ใจหรือว่าข่าวนั้นเป็นความจริง?” กู้เสวี่ยเจี้ยนแสดงสีหน้าเหลือเชื่อซ่างกวนอวิ๋นซีกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข่าวนี้เป็นความจริงทุกประการ ต้องยอมรับว่าองค์รัชทายาทผู้รอวันปลดแห่งต้าเหยียนผู้นี้พอมีฝีมืออยู่บ้าง หากเขามา บางทีอาจจะช่วยข้าได้”“ท่านต้องการให้ฉินซูช่วยท่านทำกระไรหรือ?” กู้เสวี่ยเจี้ยนมองซ่างกวนอวิ๋นซีด้วยความหวาดระแวง“ถึงเวลานั้นเจ้าก็จะรู้เอง เอาเถอะ เจ้าลงไปได้แล้ว ข้าจะฝึกวิชา”ซ่างกวนอวิ๋นซีออกคำสั่งไล่แขกดื้อ ๆกู้เสวี่ยเจี้ยนเบะปากแล้วหันหลังเดินลงบันไดไปซ่างกวนอวิ๋นซีกลับไปยังห้องฝึกตน จากนั้นก็ร่ายเวทด้วยสองมือ ตวัดนิ้วส่งพลังปราณไปยังกระจกทองเหลืองบานหนึ่งในเวลาเดียวกันภายในสำนักหอดูดาวหลวงแห่งต้าเหยียนเหลยเจิ้นกำลังนั่งสมาธิบำเพ็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 715

    มู่หรงเซี่ยวเทียนอธิบายว่า “คุณชายหยวน เทพธิดาซ่างกวนกำลังกักตนบำเพ็ญเพียรอยู่จริง ๆ หากท่านมิเชื่อ ท่านสามารถไปดูที่หอดารารักษ์ได้”“ข้าต้องไปแน่ ข้าขอพูดตามตรง ครั้งนี้ที่ข้ามาก็เพื่อสู่ขอนาง เทพธิดาซ่างกวน ข้าจะต้องแต่งกับนางให้ได้!”“การได้รับความเมตตาจากคุณชายหยวนนับเป็นบุญของเทพธิดาซ่างกวน คุณชายหยวนโปรดวางใจ เมื่อนางออกจากด่านกักตนบำเพ็ญเพียรแล้ว ข้าจะทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อให้ท่านด้วยตนเอง”หยวนหัวยิ้มประสานมือคารวะมู่หรงเซี่ยวเทียน “เช่นนั้น ก็ขอบพระทัยฝ่าบาทแห่งเป่ยเยี่ยนยิ่งนัก”"คุณชายหยวนเกรงใจเกินไปแล้ว เชิญเถิด"จากนั้น มู่หรงเซี่ยวเทียนก็นำคณะของแคว้นฉีเข้าเมืองในหมู่เชื้อพระวงศ์แห่งเป่ยเยี่ยน หญิงสาววัยสิบแปดสิบเก้าปีคนหนึ่งแค่นเสียงเบา ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง ว่า “หึ แคว้นฉีพูดเสียดิบดีว่าจะส่งองค์รัชทายาทมาตรวจราชการ เสด็จพ่อจึงเสด็จออกไปต้อนรับด้วยพระองค์เอง ใครจะคิดว่าคนที่มาจะเป็นเพียงบุตรชายของอ๋องเซียงหยาง ช่างมิเห็นหัวคนเสียนี่กระไร”“ใครว่ามิจริงเล่า ข้าเองก็รู้สึกแย่พอกัน หากเป็นอ๋องเซียงหยางเสด็จมาด้วยตนเอง เสด็จพ่อเสด็จออกไปต้อนรับก็ยังพอว่า แต

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 714

    เป่ยเยี่ยนทั่วทั้งเมืองจินหลิงตกอยู่ภายใต้การวางกำลังที่เข้มงวดภายในเมืองหลวงอันกว้างใหญ่ไพศาลของเป่ยเยี่ยนแห่งนี้ สามารถพบเห็นทหารกองรักษาการณ์พร้อมอาวุธได้ทุกหนทุกแห่งบริเวณประตูเมืองทางเหนือมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยมีกองทัพทหารม้าเกราะหนักซึ่งเป็นกองกำลังที่มีกำลังรบแข็งแกร่งที่สุดของเป่ยเยี่ยนเป็นผู้รักษาการณ์พรมแดงที่โดดเด่นสะดุดตาผืนหนึ่งทอดยาวจากถนนสายหลักเมืองทางฝั่งเหนือ ไปจนถึงนอกประตูเมืองทางทิศเหนือขุนนางทั้งบู๊และบุ๋นของเป่ยเยี่ยนต่างมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ราชรถหรูหราโอ่อ่าของจักรพรรดิจอดอยู่ภายนอกประตูเมืองทางเหนือมู่หรงเซี่ยวเทียนในชุดลายมังกรที่ยืนอยู่สุดปลายพรมแดงกำลังมองไปยังทิศทางอันห่างไกลเบื้องหลังของเขาคือเหล่าพระโอรสและพระธิดามิว่าจะเป็นขุนนางข้าราชบริพาร หรือมู่หรงเซี่ยวเทียน หรือแม้แต่เชื้อพระวงศ์ ต่างก็ตั้งตารอคอยราวกับกำลังรอคอยบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ก็มิปาน“ฝ่าบาท พวกเขากำลังมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ในขณะนั้นเอง เสียงหนึ่งดังมาจากกำแพงเมืองมู่หรงเซี่ยวเทียนและคนอื่น ๆ มองออกไป เห็นขบวนหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างช้า ๆ บนถนนหลวงที่อยู่ไกลออกไป

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 713

    "บัดนี้องค์รัชทายาทยังได้แสดงวรยุทธ์อันน่าตื่นตะลึงออกมา ข้าน้อยเห็นว่าก็สามารถใช้ประโยชน์จากองค์รัชทายาทได้ในด้านการประลองยุทธ์พ่ะย่ะค่ะหากมีองค์รัชทายาทเข้าร่วมโดยไม่มีสิ่งใดผิดพลาด ราชวงศ์ต้าเหยียนน่าจะสามารถก้าวเข้าสู่สามสิบอันดับแรกได้และหากแสดงฝีมือได้ดี บางทีอันดับของต้าเหยียนในกลุ่มแคว้นลำดับรองอาจจะขยับขึ้นได้อีกด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอู๋ต้าวโบกมือ กล่าวด้วยสุรเสียงจริงจังว่า “เรื่องอันดับนั้นมิสำคัญ จุดประสงค์ที่เราเข้าร่วมการประชุมระหว่างแคว้นคือการเข้าสู่สามสิบอันดับแรก แล้วชิงสิทธิ์ในการเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน”“เช่นนั้นก็ง่ายดาย ข้าน้อยเตรียมพร้อมทุกประการแล้ว ตราบใดที่พวกเขาสามารถเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียนได้ ย่อมต้องพบเทพศาสตราวุธในตำนานและเมล็ดพันธุ์พืชอันล้ำค่า ถึงยามนั้น การที่ต้าเหยียนจะก้าวขึ้นเป็นแคว้นผู้นำก็อยู่แค่เอื้อม”เหลยเจิ้นกล่าวแล้วก็อดตื่นเต้นมิได้ดังที่เคยกล่าวไว้แต่ต้น เมื่อสองร้อยปีก่อน ในแผ่นดินเฉินโจว ต้าเหยียนนั้นเป็นเพียงแคว้นเล็ก ๆ ที่ไม่มีผู้ใดสนใจต่อมาหลังจากได้เข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน ก็บังเอิญได้ครอบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 712

    เซี่ยหลานตกใจลนลาน รีบแก้ตัวว่า “มิใช่อย่างนั้น ชูโม่ เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าจะกอดพระองค์ได้อย่างไร เจ้าก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาทำกับข้าเช่นไร”ฉงชูโม่จึงนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เซี่ยหลานเคยถูกฉินซูฉีกอาภรณ์และทำให้อับอายนางจึงคลายความสงสัยในใจ “ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้นเอง จะตกใจไปไยเล่า”“หึ กล้าล้อข้ารึ ข้ามิคุยกับเจ้าแล้ว” เซี่ยหลานแสร้งทำเป็นโกรธแล้วหันหลังเดินไปฉงชูโม่เห็นดังนั้นจึงรีบตามไป “เซี่ยหลาน ข้าผิดไปแล้ว เจ้าอย่าใจน้อยนักเลย”มองดูทั้งสองคนที่ทำราวกับว่าตนเป็นอากาศธาตุ ฉินซูก็จนคำจะกล่าวโชคดีที่ในเวลานั้นหลินชิงเหยาเดินเข้ามานางคล้องแขนฉินซูพลางกล่าวด้วยความนัยลึกซึ้งว่า “องค์รัชทายาท อากาศหนาวเย็นเช่นนี้อย่าประทับอยู่ข้างนอกเลยเพคะ ข้างนอกแม้จะเย็น แต่ดีที่ตำหนักบูรพาของเรามีบ่อน้ำพุร้อน องค์รัชทายาทจะเสด็จลงไปแช่เพื่อคลายความหนาวเหน็บหรือไม่เพคะ?”“ไปสิ ไยจึงมิไป!”ฉินซูเข้าใจความหมายในทันที จึงจับมือหลินชิงเหยาแล้วรีบเข้าไปในโรงอาบน้ำอย่างใจจดใจจ่อจากนั้นเขาก็ได้รำลึกถึงความหลังกับหลินชิงเหยาอีกครั้งในขณะเดียวกันเหลยเจิ้นได้รับพระบัญชาให้มายังห้องทรงอัก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 711

    “อืม เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็อธิบายหลายสิ่งหลายอย่างได้”ฉงชูโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คนที่สามารถสั่งการยอดฝีมือจากวังหลวงได้ ตำแหน่งของเขาต้องมิธรรมดาอย่างแน่นอน หากคนเช่นนั้นลอบให้การช่วยเหลืออ๋องฉู่ ก็อาจจะปิดบังสายตาของสำนักโหรหลวงได้จริง ๆ”ฉินซูยักไหล่อย่างจนใจ “ดูเหมือนว่าการจะสาวถึงตัวคนที่อยู่เบื้องหลังอ๋องฉู่จะเป็นเรื่องยาก”“ถูกต้องแล้วเพคะ ครั้งนี้อ๋องฉู่ก่อกบฏมิสำเร็จ ต่อไปคงต้องระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น พวกเราคงจะจับจุดอ่อนของเขาได้ยากขึ้นด้วย” ฉงชูโม่เองก็รู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง“ช่างเถอะ พักเรื่องนี้ไว้ก่อน หากสืบสวนต่อไป เกรงว่าเสด็จพ่อจะทรงสงสัยว่าพวกเราสมคบคิดกันใส่ร้ายอ๋องฉู่”“แต่พวกเราจะปล่อยเรื่องนี้ไปเฉย ๆ หรือเพคะ? ในเมื่อที่อ๋องฉู่ตั้งใจจะก่อกบฏก็เป็นเรื่องจริง”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “มิอาจปล่อยไปง่าย ๆ แน่นอน สิ่งที่เราทำได้ในยามนี้คือรอ รอให้ฉินอวี่ทำผิดพลาดอีกครั้ง ข้าเชื่อว่าเมื่อเรื่องนี้ซาลงไปแล้ว เขาจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน เมื่อใดที่มีการเคลื่อนไหว ก็จะต้องมีพิรุธเป็นแน่”ฉงชูโม่ถามว่า “ให้หม่อมฉ้นแอบจับตาดูเขาดีหรือไม่?”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 710

    ฉินซูขมวดคิ้วกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าก็แค่คาดเดา ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด จะสอบสวนเลยได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังเป็นศิษย์เอกของท่านทั้งสิ้น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าจะส่งผลเสียได้”เหลยเจิ้นส่ายหน้าอย่างจนใจ กล่าวว่า “ที่แท้องค์รัชทายาทก็แค่คาดเดาไปเอง แต่ข้าน้อยบอกท่านได้เต็มปากว่า นอกจากเสวี่ยเจี้ยน โฉ่วเยวี่ยและจีอันแล้ว ข้าน้อยล้วนจับศิษย์คนอื่น ๆ ขังแยกกันไว้ในห้องลับของสำนักหอดูดาวหลวงตั้งแต่ครึ่งปีก่อน พวกเขาไม่มีรอดพ้นจากสายตาข้าน้อยได้อย่างเงียบเชียบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”“อ้อ? ถูกท่านขังไว้หมดเลยหรือ?”ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉินซูถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาถามต่อว่า “ท่านหัวหน้าโหรหลวงขังพวกเขาไว้ด้วยเหตุผลใดหรือ?”กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหลยเจิ้นกระตุกสองสามครั้ง เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากแล้วตอบว่า “ช่างเถิด ข้าน้อยมิกลัวองค์รัชทายาทจะหัวเราะเยาะอยู่แล้ว ศิษย์เอกของข้าน้อยแต่ละคนล้วนมีสันดานทรยศ ข้าน้อยแน่ใจว่าท่านก็พอจะรู้นิสัยใจคอของโฉ่วเยวี่ยและจีอันอยู่บ้าง ดังนั้นข้าน้อยจึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาไตร่ตรองถึงความผิดพลาดของตนเท่านั้น”“เช่นนั้น ศิษย์เอกทั้งเจ็ดคนของท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 709

    ทันทีที่เขาลงบันไดมา จีอันก็ถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ศิษย์พี่รอง โดนดุมาหรือไร?”“ไป ๆ ๆ หัวโขกจนปูดไปหมด เรื่องนี้ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย!”“ดูเถอะ ขี้ใจน้อยเหมือนสตรีไปได้”“นี่ เจ้าอยู่ดี ๆ มิชอบใช่หรือไม่? ข้าจะฟาดเจ้าคอยดูเถอะ!” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยไปหาแส้ยาวมาจากไหนก็มิทราบจีอันแคะขี้มูกแล้วกล่าวอย่างมิได้ยี่หระว่า “ข้ามิกลัวเจ้าหรอก ถึงอย่างไรท่านก็สู้ข้ามิได้”“ข้า… เจ้ามันร้ายกาจ ข้ายอมแพ้!”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหมดความอดทนใดทันที จีอันผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องหนังหนา อีกทั้งยังเก่งกาจจนน่าขนลุก สู้มิได้ เขาหลบดีกว่าพูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปครู่ต่อมา ฉินซูและฉงชูโม่ก็มาถึงเมื่อเห็นฉินซู จีอันก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “โอ้โหแฮะ องค์รัชทายาท มิไปประกาศศักดาที่ใดหรือ ไฉนจึงมาเยือนสำนักหอดูดาวหลวงของเราได้?”ฉินซูงงงวยเล็กน้อย จึงถามกลับว่า “ตัวข้าต้องไปประกาศศักดาที่ใดเล่า? อวดอ้างกระไร?”“ท่านมิทรงทราบหรือ? ยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยง่ายเหมือนปอกกล้วยเช่นนี้ ผลงานระดับนี้ไยมิไปประกาศให้ทั่วเล่า? หากเป็นข้าน้อย ข้าน้อยจะร้องแรกแหกกระเชอคุยโวไปสามวันสามคืนเต็ม ๆ ท่านนี่ช่าง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 708

    ชิวก่วนกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า “หาได้มีโจรผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาไม่พ่ะย่ะค่ะ หูก่วงเซิงและพวกตายไปโดยไร้สาเหตุ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ว่ากระไรนะ? หูก่วงเซิงและพวกตายแล้วรึ?”ฉงชูโม่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าประหลาดใจฉินซูกล่าวอย่างมิสบอารมณ์ว่า “มิใช่แค่พวกเขา แม้แต่กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นนายของอ๋องฉู่ก็ถูกคนช่วยออกไปแล้ว”“ว่ากระไรนะเพคะ?”ฉงชูโม่ตกตะลึงอ้าปากค้าง!เมื่อได้สติกลับมา นางก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ด้วยกำลังของอ๋องฉู่เพียงลำพัง ไม่มีทางทำเรื่องเหล่านี้ได้แน่ ดังนั้นเบื้องหลังของเขาต้องมียอดฝีมือคอยช่วยเหลือเป็นแน่เพคะ!”ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ศพของหูก่วงเซิงและพวกอยู่ที่ใด?”“ตอนนี้อยู่ที่ศาลต้าหลี่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปดูกัน”ฉินซูกล่าวจบก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วหวังฉือเห็นเขาออกมาก็คำนับแล้วกำลังจะกล่าวทว่าฉินซูกลับพูดแทรกขึ้นก่อนว่า “ใต้เท้าหวัง ไปกันเถิด ไปศาลต้าหลี่ของท่านด้วยกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังฉือก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพยักหน้าหนึ่งชั่วยามต่อมาพวกเขาก็มาถึงศาลต้าหลี่เมื่อมองดูร่างไร้วิญญาณของหูก่วงเซิงและพวก ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status