" องค์หญิง หยกชิ้นนี้มีอะไรพิเศษหรือเพคะข้าเห็นท่านมองดูมันตั้งนานแล้ว"
" มันเป็นของผู้มีพระคุณของข้า"
หลี่เยว่ซินชูป้ายหยกห้อยเอวขึ้นดู หยกสีขาวแกะสลักอักษรตัวเล็กๆว่าเซี่ย มีพู่ห้อยสีส้ม ซิงอีเดินถือจานขนมเข้ามา
" องค์หญิงขนมมาแล้วเพคะ เอ๊ะ ท่านดูอะไรอยู่เหรอ"
หลี่เยว่ซินไม่ตอบรีบเก็บป้ายหยกเข้าสาบเสื้อ สายตาสะดุดเข้ากับป้ายห้อยเอวที่ซิงอีห้อยอยู่ นางจำได้ว่าป้ายหยกสีแดงโลหิตนี้เป็นนางที่ให้เหวินซีห่าวเป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปีที่แล้ว ในวันเกิดปีนั้นเขาล้มป่วย คณะทูตจากต้าชิงมาเยี่ยมเยียน นำหยกน้ำงามสีโลหิตมาเป็นของฝาก ที่ต้าชิงเชื่อว่าเป็นหยกหายาก และเป็นของมงคล หากมีติดตัวจะช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย นางจึงขอจากฮ่องเต้มาเสี้ยวหนึ่ง ให้ช่างแกะสลักทำเป็นป้ายหยกเพื่อมอบเป็นของขวัญให้เขา ไม่คิดว่าตอนนี้จะมาอยู่ที่ซิงอี
" เจ้าเอาป้ายหยกมาจากไหน"
ซิงอีจับไปที่ป้ายหยก
" ป้ายหยกนี่องครักษ์เหวินให้ข้าเมื่อวานตอนที่ข้าถูกพิษ บอกว่ามันจะช่วยคุ้มครองข้า"
" แต่มันเป็นของข้า ของที่ข้าให้เขา ในเมื่อเขาไม่ต้องการก็ไม่มีสิทธิ์เอาไปให้ใครต่อ"
หลี่เยว่ซินพูดด้วยความโมโห ก่อนจะกระชากป้ายหยกคืนมา ซิงอีจะเอาคืนแต่หลี่เยว่ซินไม่ให้ ลูลู่เข้าขวางดันตัวซิงอีออก
" องค์หญิง ในเมื่อองครักษ์เหวินให้ข้าแล้วมันก็ต้องเป็นของข้า ท่านยังมีอีกเยอะแยะอย่ามาแย่งกับข้าเลย ได้โปรดคืนข้ามาเถอะ"
เหวินซีห่าวได้ยินพอดีก็รีบเดินเข้ามา เห็นซิงอีคุกเข่าร้องไห้ราวดอกสาลีร่วงหล่น
" เกิดอะไรขึ้น"
" ข้าก็แค่เอาของของข้าคืน"
เขามองดูป้ายหยกเจ้าปัญหาในมือหลี่เยว่ซิน ก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
" เป็นข้าที่ให้นางเอง ข้าจำได้ว่าท่านเคยบอกว่าหยกสีโลหิตช่วยขจัดสิ่งชั่วร้าย ยังช่วยคุ้มครองคนที่เป็นเจ้าของ ตอนนั้นนางถูกพิษมีอันตราย ข้าเลยให้นางไว้ องค์หญิงในเมื่อท่านมอบมันให้ข้าแล้ว มันก็เป็นสิทธิ์ของข้าที่จะให้ใครก็ได้ ขอท่านได้โปรดคืนให้นางด้วยเถอะ "
เห็นหลี่เยว่ซินเงียบไม่ตอบ เขาจึงพูดขึ้นอีก
" เห็นแก่มิตรภาพระหว่างเรา ซิงอีกับท่านก็เป็นสหายร่วมทุกข์ร่วมสุขกับท่านมาตลอดติดตามท่านมาหลายปี ตั้งแต่ยังเด็ก นางเป็นเพียงนางกำนัล แต่ท่านเป็นถึงองค์หญิงสูงส่ง หากท่านอยากได้ป้ายหยกสักกี่หมื่นชิ้นก็ย่อมได้ หรืออยากได้แบบเดียวก็ย่อมได้อีก แค่ป้ายหยกอันนี้อันเดียว โปรดคืนให้ซิงอีเถิด"
" ของของข้า ข้าอยากให้ใครก็ให้ ไม่อยากให้ก็ไม่ให้ ข้าให้เจ้า เจ้าไม่เห็นค่าไม่ต้องการ ก็แค่คืนข้ามา ไม่มีสิทธิ์เอาไปให้คนอื่นต่อ แต่ในเมื่อเจ้าพูดมาซะขนาดนี้แล้วได้สิ อยากได้นักใช่ไหมป้ายหยกของข้า ดูเหมือนว่าเจ้าจะอยากได้ทุกอย่างของข้าไปเสียหมด เอาไป"
นางเขวี้ยงป้ายหยกลงพื้นแตกออกเป็นสามเสี่ยงแล้วรีบเดินออกไป ซิงอีรีบเก็บมันขึ้นมาร้องไห้โฮ เหวินซีห่าวมองตามหลี่เยว่ซินด้วยสายตาไม่พอใจ ก่อนจะกอดปลอบซิงอี นับวันนางยิ่งเอาแต่ใจรังแกซิงอี เขารู้ว่านางรักเขา อิจฉาเขากับซิงอี นางกลัวจะไม่ได้แต่งงานกับเขาหรือยังไงถึงต้องทำแบบนี้ ยิ่งเป็นแบบนี้เขาก็คงต้องทบทวนเรื่องแต่งงานใหม่ซะแล้ว
ฝนตกลงมาอย่างแรง ซิงอีนั่งคุกเข่าอยู่กลางสายฝน เหวินซีห่าวกลับมาจากตลาดเขาเอาป้ายหยกไปซ่อม กำลังจะเข้าตำหนัก เห็นซิงอีนั่งคุกเข่าตากฝน ก็รีบกางร่มเข้าไปหา พยุงนางให้ลุกขึ้น
" เจ้ามานั่งตากฝนทำไม ลุกขึ้น"
" ไม่ อย่ามายุ่งกับข้า ข้าผิดที่บังอาจไปแย่งป้ายหยกขององค์หญิง ข้ามันต่ำต้อยไม่เจียมตัว ทำให้องค์หญิงต้องขุ่นข้องพระทัยรู้ทั้งรู้ว่าป้ายหยกนั่นเป็นองค์หญิงที่มอบให้ท่าน แต่ข้าก็ยังอยากได้ ข้าผิดเอง ข้าจะคุกเข่าอยู่ตรงนี้จนกว่าองค์หญิงจะให้อภัยข้า ท่านไปเถอะ"
" หากเจ้าไม่ลุก ขึ้นงั้นข้าจะอยู่เป็นเพื่อนเจ้าเอง"
เหวินซีห่าวโยนร่มทิ้ง คุกเข่าลงข้างๆซิงอี
หลี่เยว่ซินมองดูสองคน ที่คุกเข่าท่ามกลางสายฝนแล้วแค่นหัวเราะ
" องค์หญิงได้โปรดให้อภัยซิงอีเถิด นางร่างกายไม่แข็งแรง คุกเข่าตากฝนแบบนี้ไม่ดี นางสำนึกผิดแล้ว เรื่องป้ายหยกเป็นความผิดข้าเอง นางไม่ผิด หากจะลงโทษก็ลงโทษข้าเถอะ"
เหวินซีห่าวร้องบอก หลี่เยว่ซินก้าวเดินออกมาข้างนอกระเบียงทางเดิน ลูลู่กางร่มกันละอองฝนที่กระเซ็นเข้ามาให้
" ข้าไม่ได้บอกให้นางคุกเข่า เป็นนางที่ทำเอง เจ้าจะโทษข้ารึ"
" ถึงจะเป็นแบบนั้นท่านก็ควรห้ามนาง ควรจะบอกว่าไม่ถือโทษนาง ให้นางรีบลุกขึ้น"
" เหรอ ข้าควรพูดแบนั้นเหรอ"
" ท่าน "
ซิงอีล้มพับ เหวินซีห่าวตกใจอุ้มนางขึ้นมา
สายตามองหลี่เยว่ซินด้วยความกรุ่นโกรธ
" นางเป็นแบบนี้แล้วพอใจท่านหรือยัง"
หลี่เยว่ซินมองดูเหวินซีห่าวรีบอุ้มซิงอีออกไปด้วยท่าทีร้อนรน เขาทำหน้าตาราวจะขาดใจ นางยิ้มขมขื่น
" ในเมื่อพวกเขารักกันนัก ข้าจะช่วยส่งเสริมเอง"
เหวินซีห่าวมองดูหมอประจำจวนตรวจอาการซิงอีด้วยความเป็นห่วง เขาพานางกลับมาที่จวนให้หมอประจำจวนรักษา
" นางเป็นอย่างไรบ้าง"
" ไม่เป็นอะไรมาก แค่ร่างกายอ่อนเพลีย ดูเหมือนจะมีไข้นิดหน่อย คืนนี้อาจจะไข้ขึ้นสูงให้คอยเฝ้าดูนาง เช็ดตัวให้นางบ่อยๆเพื่อลดไข้ ข้าจะจัดยาให้"
" ขอบคุณท่านหมอ เจ้าตามท่านหมอไปต้มยามา ส่วนเจ้าคอยดูแลนางให้ดี"
" ขอรับ"
" เจ้าค่ะ"
" เมิ่งฝู ข้ามีงานให้เจ้าทำ"
ตำหนักฉู่ซิ่ว หญิงวัยกลางคนนั่งคุกเข่าก้มหน้า
" เจ้ารู้ใช่ไหมว่าโทษหลอกลวงเบื้องสูงเป็นเช่นไร"
หลี่เชี่ยนฮ่องเต้ถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
" หม่อมฉันรู้เพคะ หม่อมฉันไม่กล้าโกหกพระองค์ ที่หม่อมฉันพูดไปทั้งหมดคือเรื่องจริงเพคะ"
เสียนเฟยเดินเข้ามาทำความเคารพฮ่องเต้แล้วนั่งที่นั่งด้านข้าง
"นี่มันอะไรกันเพคะฝ่าบาท มีคนไปบอกหม่อมฉันว่ามีหญิงชาวบ้านมาพูดจาเหลวไหล ใส่ร้ายว่าซินซินไม่ใช่ธิดาของพระองค์"
" หม่อมฉันไม่ได้ใส่ร้ายเพคะ หม่อมฉันพูดความจริง"
" เจ้าเป็นใคร กล้ามากนะที่เข้ามาพูดจาเหลวไหลที่นี่ ใครใช้ให้เจ้ามาใส่ร้ายองค์หญิง11"
" หามิได้เพคะ ไม่มีใครให้หม่อมฉันมา หม่อมฉันมาเอง หม่อมฉันเป็นน้าแท้ๆขององค์หญิง11 หมายถึงซิงอีเพคะ ส่วนเยว่ซินเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ถูกทิ้งไว้ในป่า พี่สาวของหม่อมฉันไปพบเข้า จึงเก็บมาเลี้ยงคู่กับซิงอี"
" เจ้าจะบอกข้าว่านางกำนัลที่ชื่อซิงอีเป็นลูกของลู่เหยากับข้า"
" ถูก ถูกต้องเพคะฝ่าบาท"
" แล้วทำไมตอนนั้นเจ้าถึงบอกว่าเยว่ซินเป็นลูกของลู่เหยา"
" เอ่อ เอ่อ คือว่า"
" พูดมา"
หลี่เชี่ยนตะคอกเสียงดัง หลินยวนสะดุ้งตกใจก้มหมอบ
" คือ คือว่าตอนนั้นหม่อมฉันเมาเพคะ คือว่าหม่อมฉันดื่มมากไปหน่อย เลยสับสนพูดผิด"
" บังอาจนัก หากเป็นเช่นเจ้าว่าจริงเหตุใดถึงได้ปล่อยให้เรื่องล่วงเลยมาหลายปีขนาดนี้"
" หม่อมฉันกลัวเพคะ ก็เลยไม่กล้าบอก"
" หึ แล้วตอนนี้มีสิ่งใดหรือใครทำให้เจ้ากล้าขึ้นมาหล่ะ"
เสียนเฟยถาม จ้องมองหญิงชาวบ้านด้วยสีหน้าไม่พอใจ นางไม่เชื่อคำพูดของหญิงคนนี้แม้แต่นิดเดียว
" หม่อมฉันอยู่กับความรู้สึกผิดมาตลอด พอรู้ข่าวว่าซิงอีถูกรังเเกจนล้มป่วย หม่อมฉันก็ทนไม่ได้ เลยต้องเข้าวังมาทูลความจริง เพื่อทวงความยุติธรรมให้นางเพคะ ขอฝ่าบาทโปรดเมตตา ซิงอีเป็นองค์หญิง11ตัวจริง เป็นบุตรสาวของลู่เหยากับพระองค์เพคะไม่ใช่เยว่ซิน เยว่ซินเป็นตัวปลอมเพคะ"หลี่เยว่ซินที่พอก้าวเท้าเข้าตำหนักมา ได้ยินทุกคำพูดก็หยุดชะงัก ซิงอีก็เช่นกัน นางทั้งตกใจและดีใจไปพร้อมกัน แหงนมองหน้าเหวินซีห่าว เขาส่งยิ้มพยักหน้าให้นาง ก่อนหน้านางไม่สบายนอนพักรักษาตัวอยู่ที่จวนของเขา เขาบอกว่าไม่นานชีวิตนางจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ วันนี้ก็มีคนจากในวังไปตามตัวนางให้มาเข้าเฝ้าฮ่องเต้ ไม่คิดว่าจะพบเจอเรื่องน่ายินดีเช่นนี้ หากคำพูดของน้าหลินยวนเป็นจริง นางก็คือองค์หญิง11ตัวจริง" พวกเจ้ามากันแล้ว เข้ามาสิ "หลี่เชี่ยนฮ่องเต้ร้องบอก หลี่เยว่ซินทำความเคารพก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆเสียนเฟย เสียนเฟยกุมมือนางไว้ " น้าหลินยวน เมื่อกี้ข้าได้ยินท่านบอกว่าซิงอีถูกรังแกจนล้มป่วย ใครรังแกนางรึ แล้วท่านอยู่ไกลถึงหนานเจา รู้เรื่องนี้ได้ยังไง"" ข้า ข้า"หลินยวนเหลือบตามองเหวินซีห่าว ก่อนจะตอบตะกุกตะกัก" ข้า ข้าพอดีข้า ข้
" องค์หญิง หยกชิ้นนี้มีอะไรพิเศษหรือเพคะข้าเห็นท่านมองดูมันตั้งนานแล้ว"" มันเป็นของผู้มีพระคุณของข้า"หลี่เยว่ซินชูป้ายหยกห้อยเอวขึ้นดู หยกสีขาวแกะสลักอักษรตัวเล็กๆว่าเซี่ย มีพู่ห้อยสีส้ม ซิงอีเดินถือจานขนมเข้ามา" องค์หญิงขนมมาแล้วเพคะ เอ๊ะ ท่านดูอะไรอยู่เหรอ"หลี่เยว่ซินไม่ตอบรีบเก็บป้ายหยกเข้าสาบเสื้อ สายตาสะดุดเข้ากับป้ายห้อยเอวที่ซิงอีห้อยอยู่ นางจำได้ว่าป้ายหยกสีแดงโลหิตนี้เป็นนางที่ให้เหวินซีห่าวเป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปีที่แล้ว ในวันเกิดปีนั้นเขาล้มป่วย คณะทูตจากต้าชิงมาเยี่ยมเยียน นำหยกน้ำงามสีโลหิตมาเป็นของฝาก ที่ต้าชิงเชื่อว่าเป็นหยกหายาก และเป็นของมงคล หากมีติดตัวจะช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย นางจึงขอจากฮ่องเต้มาเสี้ยวหนึ่ง ให้ช่างแกะสลักทำเป็นป้ายหยกเพื่อมอบเป็นของขวัญให้เขา ไม่คิดว่าตอนนี้จะมาอยู่ที่ซิงอี" เจ้าเอาป้ายหยกมาจากไหน"ซิงอีจับไปที่ป้ายหยก" ป้ายหยกนี่องครักษ์เหวินให้ข้าเมื่อวานตอนที่ข้าถูกพิษ บอกว่ามันจะช่วยคุ้มครองข้า"" แต่มันเป็นของข้า ของที่ข้าให้เขา ในเมื่อเขาไม่ต้องการก็ไม่มีสิทธิ์เอาไปให้ใครต่อ"หลี่เยว่ซินพูดด้วยความโมโห ก่อนจะกระชากป้ายหยกคืนมา ซิงอีจะเ
" ไม่เห็นต้องทำยังไง ก็ต้องช่วยองค์หญิงก่อนสิ ท่านพูดอะไรไม่คิดนะองครักษ์เหวิน"ลูลู่ต่อว่าเหวินซีห่าว" แต่ซิงอีนางไม่ไหวแล้ว"เหวินซีห่าวมองดูซิงอี ที่สีหน้าดูทรมานแล้วปวดใจ" ช่วย ช่วยองค์หญิงก่อน ข้า ไม่ ไม่เป็น"พูดไม่ทันจบก็หมดสติไป" ซิงอี ซิงอี ท่านหมอนางหมดสติไปแล้วช่วยนางก่อน เร็วสิ"หลี่เยว่ซินหันไปมองเหวินซีห่าว ที่เป็นห่วงซิงอีจนเก็บอาการไม่อยู่ เขาประคองนางขึ้นมากอด ร้องเรียกให้หมอหลวงช่วยส่งยาเม็ดเดียวที่มีให้" นางหมดสติไปแล้ว ส่งยามาเถอะ นางอาการหนักกว่าองค์หญิงท่านไม่เห็นรึไง"" เจ้าบ้าไปแล้วเรอะ องค์หญิงก็ถูกพิษเหมือนกัน ยามีเพียงเม็ดเดียวยังไงองค์หญิงก็ต้องได้เสวย หรือเจ้าคิดว่าชีวิตของซิงอีมีค่ากว่าองค์หญิง"ลูลู่ต่อว่าเหวินซีห่าวเสียงดัง" ข้าไม่ได้คิดเช่นนั้น แต่องค์หญิงนางยังมีสติอยู่ นางไม่ได้สาหัสเหมือนซิงอี นางยังทนไหว แต่ซิงอีนางไม่ไหวแล้วพวกเจ้าไม่เห็นรึไง หากนางไม่ได้ยาถอนพิษนางคงไม่รอด"เห็นท่าทางกระวนกระวายจะเป็นตายของเหวินซีห่าว หลี่เยว่ซินก็พูดขึ้น" ให้นางไป"" องค์หญิงไม่ได้นะเพคะ"" ใช่เพคะองค์หญิง ให้นางไปแล้วท่านหล่ะจะทำยังไง"" ให้ยานางไปเถอะ"ห
" อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้ากับนาง"" นางเป็นเพียงเป็นสหายคนหนึ่ง"เหวินซีห่าวรีบแก้ตัว" ให้จริงอย่างที่เจ้าพูดเถอะ ยังไงสะใภ้ตระกูลเหวินก็ต้องเป็นองค์หญิง11เท่านั้น ใครๆต่างก็รับรู้ ว่าเจ้ากับองค์หญิงต่างมีใจให้กัน ข้ากับพ่อของเจ้าปรึกษากันแล้ว หลังพิธีกราบไหว้สุสานบรรพบุรุษ พ่อของเจ้าจะทูลขอสมรสพระราชทานให้เจ้ากับองค์หญิง "" ขอรับ"" เรื่องที่ตลาดข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่มองผิด แต่จงใจช่วยนางกำนัลคนนั้น คนเขาลือกันไปทั่ว ทำให้องค์หญิงเสื่อมเสียพระเกียรติ เจ้าไปเอาใจนางหน่อย อย่าทำให้ข้ากับพ่อเจ้าต้องผิดหวัง"" ข้าทราบแล้ว"วันต่อมาเหวินซีห่าวรีบมาตำหนักหย่งหนิงแต่เช้า ซิงอีรีบเดินเข้าไปหา" ท่านยังไม่หายดี เหตุใดถึงไม่พักผ่อนเล่า"" ข้าไม่เป็นไร อย่าลืมสิว่าข้าเป็นองครักษ์ข้าต้องมาทำหน้าที่"" แต่"หลี่เยว่ซินล้างหน้าล้างตาเสร็จ ก็ออกมาเดินเล่นสูดอากาศนอกตำหนัก เห็นเหวินซีห่าวกับซิงอีคุยกันด้วยท่าทีสนิทสนม จึงเดินเลี่ยงไปอีกทาง เหวินซีห่าวเห็นหลี่เยว่ซินก็รีบเดินเข้ามาหา" องค์หญิง ช้าก่อน"" มีอะไร"" ข้า ข้าอยากอธิบายกับท่านเรื่องเมื่อวาน"นางหันมามองหน้าเขา" ข้ายอมรับว่าข้าผิด ข้าขอ
เสียงชาวบ้านแตกตื่นพร้อมเสียงตะโกนโหวกเหวกร้องดังมา" หลบไป หลบไป ม้าพยศ"" มีม้าพยศวิ่งมาทางนี้รีบหลบเร็ว"หลี่เยว่ซินกำลังเลือกกำไลอยู่ ไม่ทันได้ตั้งตัว หันมาอีกทีก็ถูกชาวบ้านวิ่งชนจนเซเกือบล้มกุบกับกุบกับ ม้าตัวใหญ่วิ่งตรงมาทางนางอย่างรวดเร็ว หนีไม่ทันแล้ว นางทั้งกลัวและตกตะลึงจนก้าวขาไม่ออก เหวินซีห่าวรีบวิ่งมาแต่เขาไม่ได้คว้าตัวนาง กลับคว้าตัวซิงอีนางกำนัลรับใช้ของนางไปแทน ก่อนที่ม้าตัวใหญ่จะพุ่งชน นางรับรู้ได้ว่ามีมือหนึ่งมาดึงนางหลบทันแบบเฉียดฉิว นางได้ยินเสียงใหญ่แหบพร่าถามอยู่ข้างหู" อยากตายนักรึไงถึงไม่หลบ"สายตาที่พร่ามัวไปด้วยน้ำตา มองเห็นเพียงภาพที่เหวินซีห่าวองครักษ์ของนาง ที่มีสัญญารักกัน กำลังกอดปกป้องซิงอีนางกำนัลของนาง พรึ่บ ทุกอย่างมืดสนิท หลี่เย่วซินลืมตาขึ้นมา พบว่ากำลังนอนอยู่บนเตียงในตำหนักของนาง" องค์หญิงท่านฟื้นแล้ว องค์หญิงฟื้นแล้วรีบไปตามหมอหลวงมาเร็ว"หมอหลวงรีบเข้ามาตรวจดูอาการ ฮ่องเต้กับเสียนเฟยก็มาด้วย" เป็นอย่างไรบ้าง"" ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงพะยะค่ะ องค์หญิงเพียงแค่ตกใจจึงหมดสติไป อาจจะมีอาการอ่อนเพลียอยู่บ้าง กระหม่อมจะจัดยาบำรุงให้พะยะค่ะ"" อืม ไ