“พูดมากเกินไปแล้ว ท่านอยู่นี่ก่อน ข้าจะรีบไปดูยาให้”“อย่าไปนานนักนะ หาไม่แล้วข้าคงคิดถึงจนทนไม่ไหว เดินตาหาเจ้าทั่วตำหนักเป็นแน่”“นี่ท่านคงมิได้ไปฝึกพูด มาจากหอหรูเยว่หรอกใช่หรือไม่ นับวันจะพูดคล้ายกับคณิกาชาย ที่หอหรูเยว่มากเกินไปแล้ว”“ข้าหรือ เปล่าเสียหน่อย คำพูดที่พูดกับเจ้า ล้วนมาจากหัวใจของข้าทั้งนั้น อีกอย่างก็มิได้อยู่ที่หอหรูเยว่ นานถึงขนาดจะซึมซับพฤติกรรมเหล่านั้นมาเสียหน่อย”“ที่นั่น… มิใช่แค่หอคณิกาธรรมดาสินะ”“เจ้าจะไปต้มยามิใช่หรือ รีบไปสิ”อันหลินหันมามองหน้าเขา แววตานางดูโกรธนิด ๆ แต่หรงอวี้หยางรู้ดี จึงได้หันไปดึงแก้มนางเพื่อหยอก “ข้าเจ็บนะ ปล่อยเลย!”“อย่าโกรธสิ มิใช่ว่าไม่อยากเล่า แต่หากเจ้าอยากรู้ ก็ต้องรีบไป และรีบกลับขึ้นมา แล้วข้าจะเล่าทุกเรื่อง ที่เกี่ยวกับหอหรูเยว่ในแคว้นอวิ๋นให้ฟัง” เขาเห็นแววตาที่เปลี่ยนไปของนาง ซึ่งทำท่าราวกับตั้งตัวไม่ถูก และลุกออกไปทันทีเพื่อมิให้เขาขำ“ใครบอกว่าข้าอยากรู้เรื่องของท่านมากขนาดนั้น ข้าไปล่ะ”นางเดินออกจากห้องไปแล้ว อวี้หยางได้แต่นั่งขำกับท่าทางของอันหลิน เขารู้ว่านางคงสงสัยนานแล้ว อีกอย่างอันหลินเข้าออกที่หอหรูเยว่บ่อย
“นี่ท่านกลัวเข็มเล่มเล็ก ๆ นี่ มากกว่าเสือโคร่งตัวโตที่ท่านฆ่าด้วยมีดอย่างนั้นหรือ”“คือข้า… ไม่ได้อยากจะโกหกอะไรเจ้านะ ข้าคิดว่าเจ้ารู้อยู่แล้ว ไม่คิดว่า…เจ้าจะไม่รู้นี่”“ท่านพูดอะไรน่ะท่านอ๋อง หรือว่าไข้ขึ้นจนเลอะเลือนอีกแล้ว”“องค์หญิงเพคะ ยาต้มเสร็จแล้วเพคะ”“ยกมาให้ท่านอ๋องดื่ม”“เพคะ”เมื่อเจาอินยกยามาวางที่โต๊ะ นางก็ยกมายื่นให้เขา อวี้หยางคิดว่าอันหลินจะใจดี ป้อนเขาเหมือนเมื่อวานนี้ แต่นางเพียงแค่ยื่นให้เขาจับเอาไว้เท่านั้น“วันนี้ท่านต้องดื่มเอง ตอนนี้ต้องหัดใช้แขนให้เป็นปกติ แผลจะได้หายเร็ว ๆ”“ก็ได้ แต่ว่าไม่ฝังเข็มหรือเย็บแผลได้หรือไม่”“ดื่มยาถ้วยนั้นหมดแล้วค่อยคุยกันเถอะ”“ก็ได้ ๆ ข้าดื่ม”เขาดื่มยาในถ้วยรวดเดียวหมด เพื่อมิให้นางไม่พอใจ แต่ยาในวันนี้รสขมมาก จนเกือบทำให้เขาอาเจียนออกมา“ยานี่ เหตุใดจึงขมนัก”อันหลินที่เปิดห่อผ้าออกมา ในนั้นมีเข็มเงินเกือบยี่สิบเล่มอยู่ แค่เห็นเขาก็รู้สึกกลัวขึ้นมา เขาไม่ชอบเวลาที่มีเข็มเหล่านี้มาทิ่มที่เนื้อ มันจักจี้และเหมือนมดกัด“ยาดีมักจะขมเสมอ ท่านจะให้มันหวานเหมือนน้ำตาลกรวดได้อย่างไร”“อย่างน้อยก็น่าจะมีอะไร ที่พอจะทำให้บรรเทารสขมน
“เจ้าไม่รู้หรอกหรือ เห็นองครักษ์ของเขาบอกว่า เจ้าบ้านั่นกระโจนเข้าใส่เสือ หลังจากที่ยิงมันไปครั้งหนึ่ง แล้วลูกธนูหลุดออกมา”“เช่นนั้นก็แสดงว่า ที่เขาบาดเจ็บ มิใช่หนีเสือ แต่เป็นเพราะสู้กับมัน แล้วยัง…”“เขาใช้มีดสั้น แทงไปที่คอของเจ้าเสือโคร่งนั่น ดูเหมือนว่ามีดจะมียาพิษชนิดพิเศษอยู่ ถึงได้ล้มมันได้ มิเช่นนั้นอวี้หยางก็คงไม่รอดเช่นกัน ตอนนี้ร่างของเจ้าเสือโคร่งนั่น ก็กำลังถูกนำออกมา เสด็จพ่อดีใจมากที่ล่าเสือโคร่งได้ แม้ว่าหรงอวี้หยางจะเป็นผู้ชนะก็ตาม เจ้าคงรู้นะ ว่าเสด็จพ่อหมายถึงอะไร”อันหลินหน้าแดง นางรู้ดีเพราะก่อนหน้านี้ เสด็จพ่อก็มีเปรยมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังมิได้ตอบรับ อีกทั้งชื่อเสียงของนางก่อนหน้านี้ ก็ทำให้กังวลเล็กน้อย ว่าคนของชิงโจวจะรับได้หรือไม่“เจ้ามาหาพี่เพราะเรื่องนี้หรือ”“ข้าแค่อยากทราบเรื่อง ที่เกิดขึ้นในป่าเท่านั้นเพคะ เช่นนั้นตอนนี้ใต้เท้าหวงเองก็…”“ถูกพากลับจวนไปแล้ว บาดแผลของเขาถือว่าสาหัสกว่าอวี้หยางมากนัก เพราะเขาถูกเจ้าเสือโคร่งนั่น โจมตีตอนอยู่บนหลังม้า เห็นหมอหลวงบอกว่า กระดูกซี่โครงร้าวเพราะตกจากม้า และยังมีบาดแผลฉกรรจ์ที่ถูกเล็บของเสือข่วน โชคดีที่ได้ยาของเ
ในที่สุดหรงอวี้หยางก็เงียบลงไป อันหลินทำแผลให้เขาจนเสร็จ ไท่จื่อสั่งให้คนนำของที่นางต้องการมาให้ และออกไปจากกระโจมทันที ซานหูและเจาอิน ก็ถูกสั่งให้ออกมาอยู่ข้างนอกด้วยเช่นกัน จิ่นหลงนำชุดใหม่ของท่านอ๋องมาให้ ก็ถูกซานหูขวางเอาไว้“เดี๋ยวก่อน ๆ ท่านองครักษ์อย่าพึ่งเข้าไป”“แต่ว่าองค์หญิงสั่งให้ข้า นำชุดมาให้ท่านอ๋องเปลี่ยน”“เอาวางไว้ก่อน แล้วเดินออกมา”"แต่ว่า…”“คำสั่งไท่จื่อ องค์หญิงต้องใช้สมาธิในการรักษา เอาชุดมานี่ ข้าจะนำไปวางให้ท่านอ๋องเอง พวกเจ้ารีบออกไป”“แต่ว่าอาการของท่านอ๋อง”“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า องค์หญิงของข้าก็เก่งไม่แพ้หมอหลวง อีกอย่างท่านอ๋องก็มิได้บาดเจ็บหนักขนาดนั้น”จิ่นหลงยอมให้ซานหู นำชุดไปให้ท่านอ๋องด้านใน และเดินกลับออกมาพร้อมกับทั้งสอง ด้านในกระโจมตอนนี้ เหลือเพียงองค์หญิงกับท่านอ๋องเพียงสองคน “ข้าจะพันแผลให้ ท่านอยู่เฉย ๆ นะ ลุกไหวหรือไม่”“ไหวสิ”เขาค่อย ๆ ลุกขึ้นโดยมีนางพยุงขึ้นมา อันหลินเตรียมอุปกรณ์ทำแผลอย่างคล่องแคล่ว จนหรงอวี้หยางนึกแปลกใจ เพราะก่อนหน้านี้อันหลินปิดบังเรื่องทักษะวิชาการแพทย์ของนางเอาไว้ได้อย่างมิดชิด แม้แต่เขาเองที่มองคนเก่ง ยังมองนางไม่ออ
ทุกอย่างหยุดนิ่งไป จิ่นหลงที่หมอบอยู่ตามคำสั่ง รีบลุกขึ้นและมองไปยังกลุ่มหมอกที่เริ่มจาง“ท่านอ๋อง!!!”จิ่นหลงรีบดึงนกหวีดขึ้นมาเป่า ส่งสัญญาณเรียกองครักษ์ที่อยู่รอบ ๆ ให้วิ่งเข้ามาทันที ส่วนตัวเขาวิ่งเข้าไปที่เกิดเหตุ ท่านอ๋องที่เสียบมีดคาเอาไว้ยังร่างที่นิ่งสนิท ของเสือโคร่งตัวใหญ่เท่าคนสองคน ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดของสัตว์ร้าย และยังมีบาดแผลที่ไหล่ซ้าย"ท่านอ๋อง พระองค์บาดเจ็บ"“ข้าไม่เป็นไร ข้าคิดถูกแล้ว เจ้าเสือตัวนี้ มิได้น่ากลัวเท่าจ้าวอันหลิน”“พระองค์ยังทรงมีอารมณ์ขันอีกหรือพ่ะย่ะค่ะ บาดเจ็บถึงเพียงนี้แล้ว ว่าแต่เหตุใดเจ้าเสือดุร้ายนี้ถึงได้นิ่งเช่นนี้”อวี้หยางดึงมีดสั้นของเขา ที่เสียบคอของเสือโคร่งตัวเต็มวัยออกมา และหันไปมองจิ่นหลง“โชคดีทีที่เคลือบยาพิษของอันหลินเอาไว้ มิเช่นนั้นคนที่นอนนิ่งอยู่ คงมิใช่มันแต่เป็นข้า”“ท่านอ๋อง!!”“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”“อวี้หยาง! เจ้าปลอดภัยหรือไม่”“หานเซียว ท่านมาด้วยหรือ”องค์ไท่จื่อรีบลงจากม้าและวิ่งเข้ามาทันที เขามองไปที่เสือโคร่งที่ตายสนิท และลิ้นจุกปากอยู่ก็ตกใจ และหันไปเห็นบาดแผลที่ไหล่ของอวี้หยาง“เจ้าบาดเจ็บ ข้าจะรีบพาเจ้าออกจากป่า”“
“เสด็จพ่อ ยิ้มอะไรหรือเพคะ”ฝ่าบาทหันมามองหน้าองค์หญิง ที่เล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังจนจบ พระองค์คิดว่า ทั้งสองไม่ได้แตกต่างกันเท่าใด อีกทั้งนิสัยตรงไปตรงมาของท่านอ๋อง ทำให้พระองค์ไว้วางพระทัยได้ว่า หรงอวี้หยางจะไม่ทำให้อันหลินเสียใจ“เปล่าหรอก เจ้าเล่าจบแล้วหรือ”“จบแล้วเพคะ”“เจ้าบอกว่าเขาถึงกับ สั่งฆ่ารองแม่ทัพของตัวเอง เขาโหดเหี้ยมเช่นนี้ เจ้าไม่กลัวหรือ”“เสด็จพ่อเพคะ เขามิได้สั่งฆ่านางเสียหน่อย ที่จริงโทษของนางไม่ถึงตาย แค่ถอดยศและสั่งเนรเทศ แต่นางทำใจไม่ได้ก็เลยฆ่าตัวตายต่อหน้าเขา เพื่อให้เขารู้สึกผิดไปชั่วชีวิตต่างหาก”“นี่เจ้าเข้าข้างหรงอวี้หยาง ถึงเพียงนี้เชียวหรือ”“ลูกเปล่านะเพคะ! ก็แค่เล่าไปตามความจริง ที่เขาเล่าให้ฟัง”“โอ้ เช่นนั้นเจ้าก็เชื่อในสิ่งที่เขาเล่าทุกคำสินะ”“ลูก….”“ฮ่า ๆ ข้าหยอกเจ้าหรอกน่า เอาเถิด เรื่องทั้งหมดก็คลี่คลายแล้ว อีกอย่างหากไม่มีท่านอ๋อง คอยช่วยสืบเรื่องในราชสำนัก พ่อเองก็คงไม่สามารถลากเจ้าคนชั่วที่คบคิดกบฏต่างแคว้นผู้นั้น ออกมาลงโทษได้เร็วเช่นนี้หรอก”“เสด็จพ่อจะยอมรับว่า หลอกใช้งานอวี้หยาง เพื่อจัดการคนของตัวเองหรือเพคะ”“ฮ่า ๆ กลยุทธ์ยืมดาบฆ่าคน