Beranda / รักโบราณ / องค์หญิงใหญ่ดวงใจท่านแม่ทัพทมิฬ / บทที่ 8 ความรู้สึกที่ซุกซ่อนไว้

Share

บทที่ 8 ความรู้สึกที่ซุกซ่อนไว้

Penulis: sanvittayam
last update Terakhir Diperbarui: 2025-07-05 17:34:27

บทที่ 8 ความรู้สึกที่ซุกซ่อนไว้

หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านพ้นไปได้ไม่นาน ภายในวังหลวงก็ได้รับข่าวดี นั่นคือพระสนมหนานลั่วฟางตั้งครรภ์

โดยตัวของนางนับว่าเป็นสตรีโฉมสะคราญคนหนึ่ง ทั้งยังมีรูปลักษณ์ที่อรชรอ่อนช้อย ใครมองเห็นก็ต่างหลงใหล เสน่ห์ปลายจวักของนางก็นับว่าไม่ธรรมดา ใครได้ลิ้มลองอาหารที่นางทำต่างพากันชื่นชมในรสมือ

สิ่งเหล่านี้ทำให้ฮ่องเต้ลุ่มหลงนางไม่น้อย และในที่สุดนางก็ได้รับการเลื่อนขั้นจากตำแหน่งเดิมพระสนมหนานลั่วฟางให้เป็นอี้เฟย ซึ่งอี้ที่ใช้แปลว่าคุณธรรมสูงส่ง และยังมีพระเมตตาให้นางย้ายไปอยู่ที่ตำหนักเหลียงฮวาอีกด้วย

นางสนมทั้งวังหลวงต่างก็อิจฉาริษยานางอยู่ในใจ แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรนางได้ เพราะนางกำลังเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้

ส่วนทางด้านองค์หญิงใหญ่ ยามนี้นางได้กลับไปศึกษาเล่าเรียนศาสตร์วิชากลยุทธ์ที่เหลือกับแม่ทัพใหญ่เสวี่ยเยวียนสือ โดยนางก็ได้ศึกษาเล่าเรียนอย่างยาวนานเป็นเวลากว่าสี่ปีเศษ จึงสำเร็จทุกวิชาที่เล่าเรียนมา

“องค์หญิง เจ้าเป็นคนที่เก่งกาจที่สุดเท่าที่ข้าเคยสอนมา ต่อไปก็จงใช้วิชาความรู้ทั้งหมดนี้ให้เกิดประโยชน์ เข้าใจหรือไม่ อย่าทำให้ข้าต้องผิดหวัง”

ชายหนุ่มกล่าวออกมาและมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาซับซ้อน เพราะหลังจากที่ได้คลุกคลีอยู่ด้วยกันยาวนานหลายปี ก็ทำให้ความรู้สึกในใจของพวกเขาที่มีให้กัน ยิ่งแนบแน่นลึกซึ้ง ทว่าทั้งสองก็ได้แต่เก็บงำความรู้สึกทั้งมวลไว้ภายในใจ โดยเฝ้าหวังให้ฝ่ายตรงข้ามเปิดเผยความรู้สึกออกมาก่อน

แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่มีผู้ใดเอ่ยมันออกมา จนมาถึงเวลาที่คนทั้งคู่ต้องแยกลาจากกัน

“ข้ารู้สึกยินดีอย่างมาก ที่ได้เป็นอาจารย์ให้กับผู้มีพรสวรรค์เช่นเจ้า หลังจากนี้ขอให้เจ้าโชคดี และพบเจอแต่คนดี ๆ” แม่ทัพหนุ่มกล่าวออกมาอย่างอ่อนโยน

“ขอบคุณท่านอามากเจ้าค่ะ ที่ตลอดหลายปีมานี้ท่านดูแลข้าเป็นอย่างดี และขอบคุณท่านอาด้วยที่สละเวลามาสั่งสอนคนอย่างข้า” หลินซูมี่ย่อตัวลงพร้อมกับกล่าวออกไปอย่างนอบน้อม

เมื่อกล่าวจบทั้งสองฝ่ายก็ยืนจ้องหน้ากันอยู่อย่างนั้นสักพัก ก่อนที่ในที่สุดหญิงสาวจะเป็นคนหันหลังเดินจากไปก่อน

“ท่านอา...ข้าจะทำอย่างไรให้ท่านได้รับรู้ถึงความในใจของข้ากัน...” นางพึมพำกับตนเองในขณะที่เดินออกมา

หลังจากที่ขึ้นรถม้าไปแล้ว ใบหน้าของนางยังเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจเอื้อนเอ่ยออกมาได้

ขณะเดียวกันเสวี่ยเยวียนสือที่ยืนอยู่ที่เดิม ก็พยายามขจัดความคิดของตนเองเช่นกัน

“ไม่ได้! เจ้าจะคิดเช่นนั้นกับนางไม่ได้ นางเรียกเจ้าว่าท่านอา นางเคารพเจ้าเป็นอา นั่นคือธิดาของศิษย์พี่ของเจ้า เจ้าจะคิดอกุศลเช่นนี้กับนางไม่ได้นะ เสวี่ยเยวียนสือ”

เสวี่ยเยวียนสือเอ่ยเพื่อเตือนสติตัวเอง และพยายามสะกดกลั้นความรู้สึกที่ท่วมท้นอยู่ภายในใจเอาไว้

เพราะยามนี้อายุของเขามันก็ปาไปสามสิบกว่าแล้ว อารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ ก็ยิ่งมีมากขึ้นและชัดเจนขึ้นในหลายเรื่อง

และเมื่อเขารู้ว่าทำอย่างไรตนก็ไม่สามารถสะกดอารมณ์บางอย่างได้ ก็ไม่รอช้ารีบไปที่หอคณิกาเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ทันที

“นายท่านเจ้าขา ท่านมาหาผู้ใดเป็นการเจาะจงหรือไม่เจ้าคะ” แม่เล้าของหอคณิกาได้เอ่ยถามกับชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงที่หวานหยาดเยิ้ม

“ข้ามาหาอาลี่” ชายหนุ่มเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

“น่าเสียดายจังเจ้าค่ะ แม่นางอาลี่ของเราเพิ่งจะไปดูแลแขกเมื่อครู่เองเจ้าค่ะ นายท่านสนใจคนอื่นหรือไม่เจ้าคะ ที่หอคณิกาแห่งนี้มีบุปผามากมายที่พร้อมจะดูแลท่าน ท่านไม่สนใจผู้อื่นจริงหรือเจ้าคะ เด็ก ๆ ใครอยากดูแลนายท่านผู้นี้บ้าง”

เพียงแค่แม่เล้ากล่าวจบ สตรีมากมายในชุดหลากหลายสีสันก็เดินเรียงรายกันลงมา โดยแต่ละนางนั้นก็มีใบหน้าที่งดงามกลิ่นกายก็หอมสดชื่น

เสวี่ยเยวียนสือมองไปยังเหล่าบุปผาพวกนั้น ก่อนที่สายตาของเขาจะไปสะดุดกับสตรีนางหนึ่งที่เอาแต่ยืนหลบมุมไม่สนใจผู้ใด

“ให้นางคนนั้นมาดูแลข้า” เขาเอ่ยขึ้นพร้อมชี้มือไปที่หญิงสาวคนดังกล่าว และเมื่อหญิงสาวคนนั้นรู้ว่าตัวเองได้รับเลือกก็ตกใจเป็นอย่างมาก

“นายท่านช่างตาถึงเสียจริง นางเป็นน้องใหม่ที่เพิ่งเข้ามา อีกทั้งยังบริสุทธิ์อยู่ ถ้าหากท่านปรารถนาที่จะได้นาง ท่านก็ต้องจ่ายด้วยราคาที่มากหน่อยนะเจ้าคะ ถือว่าเป็นค่าเปิดบริสุทธิ์” แม่เล้าได้กล่าวขึ้น พร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยความละโมบ

เมื่อแม่ทัพหนุ่มได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกอยากรู้อยากลอง ว่าสาวพรหมจรรย์นั้นจะให้ความรู้สึกอย่างไร เขาจึงไม่รอช้า รีบจ่ายเงินไปในจำนวนไม่ใช่น้อย เพื่อซื้อตัวนางมาปรนเปรอร่างกายของตน

หญิงสาวที่เขาได้ซื้อตัวมานั้นวิเศษไม่ใช่น้อย เนื่องด้วยนางมีรูปร่างอรชรงดงาม กลิ่นกายนางหอมละมุนราวกับมีดอกไม้นับหมื่นนับพันชนิดตั้งอยู่ในห้อง เนินเนื้อทั้งสองข้างของนางอวบอิ่มสมบูรณ์แบบ จับสัมผัสเมื่อใดมันก็รู้สึกนุ่มละมุนมือ ในส่วนของยอดปทุมถันก็แดงอมชมพูน่ามอง

ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงนาผืนน้อยเบื้องล่างที่ถูกถอนโกนจนเรียบเนียน โดยองุ่นเม็ดเล็ก ๆ ที่ประดับอยู่ตรงนั้นก็ยั่วยวนใจเขายิ่งนัก

ยามสำรวจไปทั่วทั้งตัวนางแล้ว เขาก็ไม่รอช้ารีบดำเนินการสำเร็จความใคร่ของตัวเองทันที ในความรู้สึกแรกหลังจากที่ได้เปิดพรหมจรรย์ ตัวของเขาก็รู้สึกเบาสบายไปทั้งร่างอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

แม้หญิงสาวคนนั้นจะยังไม่เคยอุ่นเตียงกับผู้ใด ทว่าลีลาการทำงานของนางช่างเร่าร้อนยิ่งนัก ราวกับว่าตัวของนางเป็นสตรีที่โชกโชนในเรื่องกามารมณ์ให้แก่บุรุษ

เมื่อแม่ทัพหนุ่มได้ปลดปล่อยอารมณ์ปรารถนาออกไปจนหมดสิ้น ร่างกายของเขาก็รู้สึกผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขายอมควักเงินก้อนใหญ่ เพื่อจองตัวหญิงคณิกาคนงามผู้นี้ไว้เป็นการส่วนตัว ไม่ให้นางรับแขกคนอื่นอีกต่อไป

เรื่องนี้สร้างความยินดีแก่แม่เล้าเป็นอย่างยิ่ง เพราะนางสามารถปั่นราคาค่าตัวหญิงคณิกาได้สูงลิบ จนโกยเงินเข้ากระเป๋าไปไม่น้อย

เวลานี้องค์หญิงหลินซูมี่ ได้แอบส่งคนคอยติดตามแม่ทัพหนุ่มไว้ตลอดเวลา และเมื่อนางได้รู้ว่าเขาได้เข้าไปหาความสำราญในหอคณิกาเป็นเวลานาน จิตใจของนางก็รู้สึกปวดแปลบอย่างยากจะอธิบาย ที่ได้รับรู้ว่าชายคนที่ตนแอบชื่นชอบนั้น ไปหาความสำราญกายใจในสถานที่เช่นนั้น แถมยังไปในตอนที่ยังไม่ทันค่ำมืดเช่นนี้อีกด้วย

“ท่านอา...ข้าควรทำเช่นไร จึงจะได้ครอบครองหัวใจของท่าน” นางเอ่ยเสียงแผ่วเบา ดวงตาฉายแววสับสนปนว้าวุ่นในจิตใจ “ข้าไม่อาจทนนิ่งเฉยอยู่ได้ เมื่อคิดว่าท่านไปร่วมเตียงกับสตรีอื่น”

นับตั้งแต่วันที่องค์หญิงหลินซูมี่ย่างเข้าสู่วัยเลขสองหลักและรอให้ถึงวันปักปิ่น เหล่าบุรุษมากมายต่างพากันส่งของขวัญมาให้ โดยหมายจะหมั้นหมายจองตัวนางไว้ แต่ไม่ว่าสิ่งของจะล้ำค่าเพียงใด นางกลับไม่เคยรับไว้เลยสักชิ้น เพราะหัวใจของนางนั้น มีผู้ครอบครองอยู่แล้ว

จนกระทั่งวันนี้ เมื่อวันเกิดปีที่สิบสี่ของนางเวียนมาถึง ของขวัญหลากหลายก็ถูกส่งมากองอยู่หน้าตำหนัก ทั้งของที่มอบมาเพื่อแสดงความยินดีในวันเกิด และของที่ส่งมาจากตระกูลใหญ่เพื่อหวังเชื่อมสัมพันธไมตรี

ทว่าหลินซูมี่กลับเลือกเก็บไว้เพียงของขวัญวันเกิด ที่ส่งมาจากบางคนเท่านั้น ส่วนสิ่งของอื่น ๆ ที่แฝงด้วยเจตนาแอบแฝง หญิงสาวได้ให้คนส่งกลับไปทั้งหมดโดยไม่ลังเล

จิตใจของหลินซูมี่ในยามนี้ เฝ้ารอแต่เพียงของขวัญจากท่านอาของนางเพียงผู้เดียว แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไป ความหวังที่เคยเต็มเปี่ยม กลับลดน้อยลง เมื่อเวลาเริ่มงานเลี้ยงใกล้เข้ามาทุกที ทว่ายังไร้วี่แววแม้แต่เงาของท่านแม่ทัพใหญ่

หัวใจของหญิงสาวที่เคยเต็มไปด้วยความหวังและความสุขกลับห่อเหี่ยวลง นางเริ่มคิดไปเองว่าอาจเป็นเพราะท่านอา มัวแต่ไปติดใจหญิงคณิกาจนลืมนางเสียแล้ว

ความน้อยใจและเศร้าสลด ค่อยกัดกินหัวใจนาง ความคาดหวังที่เฝ้ารอมานาน ดูเหมือนจะพังทลายลงทุกขณะ

แต่ความเศร้าก็คงอยู่ได้เพียงชั่วครู่เท่านั้น เพราะบัดนี้ที่หน้าประตูตำหนัก ชายผู้เป็นดั่งดวงใจของนางได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว เขาก้าวเข้ามาด้วยท่วงท่าสง่างามเปี่ยมราศี

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • องค์หญิงใหญ่ดวงใจท่านแม่ทัพทมิฬ   ตอนพิเศษที่ 2

    ตอนพิเศษที่ 2นับตั้งแต่ได้รับพระราชทานฐานันดรศักดิ์อ๋อง ทั้งสองก็ได้กลับไปยังหมู่บ้านที่เคยพำนักอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ต่างออกไป เพราะพวกเขากลับมาพร้อมอำนาจเต็มมือหลินซูมี่ได้จัดสร้างจวนอ๋องขึ้นในหมู่บ้าน และยกให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางในการว่าราชการของเขตปกครอง ทำให้หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ได้กลายเป็นเมืองหลวงของเขตปกครองเจียงซานและตงตู่นอกจากนี้ ทั้งสองยังได้ประกาศยกย่องสุสานของราชวงศ์เป่ยโจวให้เป็นสุสานหลวง เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อราชวงศ์เก่าแก่ในอดีตเขตปกครองแห่งใหม่นั้น มีการละเว้นการเก็บภาษีในหลายด้าน นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งโรงทานและสร้างที่อยู่ที่กิน ให้แก่เหล่าผู้สูงวัยที่ไร้ผู้คนดูแล เพื่อให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และได้รับการรักษาในยามเจ็บป่วยอย่างทั่วถึงอีกทั้งยังมีการสร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และให้การศึกษาที่ดีต่อเด็ก ๆ เพื่อให้เติบโตไปทำคุณต่อบ้านเมืองทางด้านการขยายอาณาเขต ก็มีการออกปราบปรามชนเผ่าต่าง ๆ โดยรอบเมืองทางเหนืออยู่เนือง ๆทำให้ยามนี้ชนเผ่าเร่ร่อนอีกกว่าสี่สิบแปดชนเผ่า ได้เข้าร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับแคว้นหลิน โดยอยู่ภายใต้การปกครองของเขตปกครองตนเองเจ

  • องค์หญิงใหญ่ดวงใจท่านแม่ทัพทมิฬ   ตอนพิเศษที่ 1

    ตอนพิเศษที่ 1นับตั้งแต่ที่ฮ่องเต้ได้ปลดองค์หญิงใหญ่ออกจากตำแหน่งให้เป็นเพียงสามัญชน ตัวของนางและเสวี่ยเยวียนสือ ก็ได้เดินทางกลับมาที่หมู่บ้านที่หลินซูมี่เคยหลบหนีมาอยู่อีกครั้ง โดยในครั้งนี้มันแตกต่างออกไป เพราะนางไม่ต้องหลบซ่อนจากผู้ใดทั้งสิ้น อีกทั้งยังกำลังตั้งครรภ์“คารวะท่านผู้อาวุโส”เมื่อนั่งเรือข้ามฟากมาแล้ว หญิงสาวก็ทำความเคารพชายสูงวัยทันที เพราะนางไม่คิดมาก่อนเลยว่า ผู้อาวุโสจะมารับนางด้วยตนเอง“เจ้ากลับมาจนได้ ที่ผ่านมาข้าได้ให้คนคอยดูแลบ้านของเจ้าไว้อย่างดี รีบไปพักผ่อนเถิด” ชายชรากล่าวออกมาอย่างอ่อนโยน ก่อนจะสั่งให้คนของเขามาช่วยทั้งสองขนข้าวของ“ขอบคุณมากเจ้าค่ะ” หลินซูมี่กล่างอย่างนอบน้อม“แล้วเป็นเช่นไรบ้าง ไปอยู่เมืองหลวงเสียพักใหญ่ สบายดีใช่หรือไม่ กลับมาคราวนี้ท้องก็ใหญ่ขึ้นแล้วสินะ” ผู้อาวุโสอินหยอกล้อด้วยรอยยิ้มที่เอ็นดู“ก็สบายดีเจ้าค่ะ ก่อนหน้านี้ได้ติดตามท่านพี่ไปชายแดนด้วย กว่าจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง ก็กินเวลาไปเสียนาน” หลินซูมี่กล่าวกับชายชราอย่างสนิทสนม“เช่นนั้นก็พักผ่อนเถิด เดินทางกันมาไกลคงเหน็ดเหนื่อยไม่ใช่น้อย เอาไว้พอตกเย็นค่อยมาร่วมงานเลี้ยงต้อนรั

  • องค์หญิงใหญ่ดวงใจท่านแม่ทัพทมิฬ   บทส่งท้าย คืนตำแหน่งให้องค์หญิงใหญ่

    บทส่งท้าย คืนตำแหน่งให้องค์หญิงใหญ่“ครั้งหนึ่งเขาปรารถนาจะยึดเมืองหมิงตี้ เจ้าอยากรู้หรือไม่ว่าเขาทำเช่นไร เขาจับบุตรีของเจ้าเมืองมาข่มเหงจนย่อยยับ จากนั้นก็ประกาศว่านางเป็นภรรยา แล้วใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างรวบรวมเมืองเข้ามาอยู่ในอาณัติของตน เมื่อเจ้าเมืองไม่ยินยอม เขาก็ยกทัพไปโจมตีจนแตกพ่าย และไม่ใช่แค่เพียงเมืองหมิงตี้ เมืองอื่นก็ประสบชะตากรรมไม่ต่างกันบุรุษผู้นั้นเอาแต่ใช้อำนาจที่มีทำลายชีวิตผู้คน เพื่อสนองความทะเยอทะยานของตนเอง ทำให้มีสตรีมากมายต้องจบชีวิตลงด้วยความอัปยศเพราะเขา!” นางหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวอย่างเหี้ยมเกรียม “ในวันนี้ที่เขาต้องนอนป่วยไร้เรี่ยวแรง ข้าว่ามันก็เป็นผลกรรมที่คนเช่นนั้นสมควรได้รับแล้วมิใช่หรือ ฮ่าๆ”กล่าวจบหนิงอี้เสียนหวงกุ้ยเฟยก็หัวเราะอย่างสะใจ รอยยิ้มของนางเต็มไปด้วยความคั่งแค้น ที่ระบายออกมาราวกับเขื่อนแตก เสียงหัวเราะนั้นดังก้องไปทั่วบริเวณ ราวกับต้องการให้ทุกผู้คนได้รับรู้ถึงความเจ็บลึกในใจของนางถ้อยคำของนางนั้นไม่เพียงกระทบใจผู้ที่อยู่ตรงหน้า แต่ยังแทรกซึมเข้าสู่จิตใจของเหล่าขุนนางอาวุโสที่ยืนรายล้อมอยู่ไม่ไกลเมื่อคำกล่าวเหล่านั้นจบลง ความเ

  • องค์หญิงใหญ่ดวงใจท่านแม่ทัพทมิฬ   บทที่ 56 ปราบกบฎ

    บทที่ 56 ปราบกบฎทางด้านกองทัพนอกเมืองหลวง เมื่อเสวี่ยเยวียนสือได้เห็นการจัดขบวนทัพที่อยู่บนกำแพงเขาก็รู้ได้ในทันทีว่าทหารเหล่านั้นไม่ปรารถนาที่จะต่อสู้ เพราะพวกเขาเหล่านั้นล้วนแล้วแต่แอบแสดงท่าทียอมจำนน “ท่านแม่ทัพใหญ่...ข้าว่าเวลาแห่งการชำระล้างความชั่วได้มาถึงแล้ว!” เสียงของแม่ทัพอุดรเหออี้ดังขึ้นด้วยความเคียดแค้น เขาจ้องมองไปยังเบื้องหน้า แววตาเต็มไปด้วยเพลิงแห่งโทสะที่ลุกโชนไม่สิ้นสุดเสวี่ยเยวียนสือก้าวขึ้นมายืนตรงหน้ากองทัพของตน ก่อนจะออกคำสั่งอย่างหนักแน่น “ทหารเตรียมพร้อม!” จากนั้นเพียงครู่เดียว เขาก็เปล่งเสียงสั่งการดังกึกก้อง “บุกได้!”เหล่าทหารที่รอคอยเพียงแค่คำนี้ ต่างตะโกนก้องพร้อมพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างดุดันและพร้อมรบ ทว่าก่อนที่แม่ทัพอุดรเหออี้จะสั่งให้กระแทกประตูบานใหญ่เบื้องหน้า เสียงของการปลดกลอนประตูก็ดังขึ้นแทน จากนั้นประตูเมืองก็ค่อย ๆ แง้มเปิดออกจากด้านใน จนทำให้ทุกคนประหลาดใจ“ขอเชิญทุกท่านผ่านเข้ามาเถิดขอรับ พวกข้าต่างเฝ้ารอการมาถึงของท่านด้วยใจจดใจจ่อ!” เสียงของนายทหารที่เปิดประตูดังขึ้นด้วยความเคารพ แววตาสะท้อนทั้งความดีใจและความภักดีอย่างเหลือล้น“ขอบใจ

  • องค์หญิงใหญ่ดวงใจท่านแม่ทัพทมิฬ   บทที่ 55 ช่วยฮ่องเต้

    บทที่ 55 ช่วยฮ่องเต้จากนั้นองค์รัชทายาทรีบเขียนจดหมายฉบับหนึ่งส่งไปยังสถานที่ที่น้องหญิงของตนพำนักอยู่ ก่อนที่วังหลวงจะถูกทหารของปิงตี้เข้าควบคุมอย่างแน่นหนา ภายในเวลาเพียงเสี้ยวลมหายใจ ทางออกทุกเส้นทางถูกปิดตาย สิ้นไร้การเชื่อมโยงกับโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง“ปิงตี้ นี่เจ้ากำลังคิดจะทำอะไรอยู่ เจ้าจะทำก่อกบฏอย่างนั้นหรือ” หลินเฟยหลงเอ่ยขึ้นมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อว่าอีกฝ่ายจะกล้าลงมือเช่นนี้“หึ! หลินเฟยหลง ตัวของเจ้าถ้าหากขาดน้องสาวที่เป็นมันสมองและแม่ทัพใหญ่ผู้ควบคุมกำลังทหาร เจ้าก็จะนับว่าทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง” ปิงตี้กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ย“หลินเฟยหลง หลินเฟยหมิง หลินต้าเหนิง ข้ายังไม่คิดลงมือกับพวกเจ้าตอนนี้หรอก เอาไว้ให้พวกเจ้ารวมตัวกันครบก่อน แล้วข้าค่อยพิจารณาอีกทีว่า จะจัดการเช่นไร ยามนี้ก็อยู่กับพ่อแม่ของพวกเจ้า และเป็นเด็กดีไปก่อนก็แล้วกัน”ปิงตี้เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น ก่อนจะสั่งให้นำทั้งสามไปคุมขังรวมกับผู้เป็นมารดาและฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ซึ่งในยามนี้อาการทรุดหนักจนไม่อาจขยับเขยื้อนได้อีกแล้ว“ท่านแม่ ท่านพ่อ พวกท่านเป็นอย่างไรบ้าง ข้าขอโทษที่ไม่อาจร

  • องค์หญิงใหญ่ดวงใจท่านแม่ทัพทมิฬ   บทที่ 54 หวงกุ้ยเฟยก่อกบฏ

    บทที่ 54 หวงกุ้ยเฟยก่อกบฏเมื่อผู้เป็นบิดาได้ยินเช่นนั้น ก็มองไปที่บุตรสาวด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรัก“เสวี่ยเยวียนสือ อย่างไรเสียข้าก็ขอฝากบุตรสาวของข้าให้เจ้าดูแลด้วย มี่เอ๋อร์นับว่าถูกข้าตามใจมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ถูกเจ้าอบรมสั่งสอนมาแต่เด็กเช่นกัน ดังนั้นถ้าหากว่านางมีอะไรที่ประพฤติตนไม่เหมาะสม เจ้าก็ค่อย ๆ สั่งสอนนางต่อไปก็แล้วกัน”ฮ่องเต้ได้หันไปตรัสกับศิษย์น้องของตนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ศิษย์พี่ไม่ต้องเป็นกังวล ข้าขอสาบานด้วยชีวิตของข้า ข้าจะดูแลมี่เอ๋อร์ให้ดีที่สุด ชีวิตของนางหลังจากนี้ จะต้องมีแต่ความสุขไร้ซึ่งความทุกข์ใด ๆ ทั้งสิ้น หากข้าผิดคำสาบาน ขอให้ข้าไม่ตายดีในสามวันเจ็ดวัน” เสวี่ยเยวียนสือยกมือขึ้นแล้วเอ่ยคำสาบานออกไปด้วยน้ำเสียงที่เข้มแข็งและห้าวหาญ เมื่อฮ่องเต้ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก“เอาล่ะ แม้ว่าข้าอยากจะรั้งพวกเจ้าเอาไว้ให้นานกว่านี้ แต่ข้าคิดว่าเหล่าขุนนางทั้งหลายก็คงจะกดดันข้าไม่เลิก ในวันพรุ่งนี้ข้าจะให้คนส่งเจ้าออกนอกเมืองหลวง และส่งเจ้าไปในที่ที่เจ้าอยากจะไป” พระองค์ตรัสออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน ก่อนจะหันไปทางขันทีข้างกาย “อู่กงกง เจ้าจง

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status