Beranda / รักโบราณ / องค์หญิงใหญ่ดวงใจท่านแม่ทัพทมิฬ / บทที่ 9 งดงามอย่างหาตัวจับยาก

Share

บทที่ 9 งดงามอย่างหาตัวจับยาก

Penulis: sanvittayam
last update Terakhir Diperbarui: 2025-07-05 17:56:00

บทที่ 9 งดงามอย่างหาตัวจับยาก

ท่าทางและทุกย่างก้าวที่เสวี่ยเยวียนสือเคลื่อนไหวนั้น ช่างแข็งแกร่งและดุดันแม้จะไม่ได้สวมชุดเกราะอยู่ก็ตาม เมื่อสตรีภายในงานได้เห็น ต่างถูกตรึงสายตาไว้ด้วยความหลงใหล และอยากใกล้ชิดกับบุรุษเปี่ยมเสน่ห์ผู้นี้

“มี่เอ๋อร์ หวังว่าอาคงไม่มาสายเกินไปหรอกนะ นี่ของขวัญสำหรับเจ้า”

เสียงทุ้มต่ำของเขาดังขึ้นเมื่อก้าวเข้ามา เขายื่นกล่องไม้ฉลุลวดลายงดงามให้หลินซูมี่

เมื่อนางได้รับของสิ่งนั้นมาอยู่ในมือ จิตใจก็พลันปั่นป่วนด้วยความลังเล ไม่รู้ว่าควรเปิดดูในยามนี้เลยดีหรือไม่ หรือควรรอจนแขกเหรื่อกลับไปหมดเสียก่อน ค่อยนำไปเปิดในเรือนนอนของตนเอง

“ข้าขอเปิดดูเลยนะเจ้าคะ”

ทว่าความอยากรู้เกาะกุมใจ จนไม่อาจหักห้ามตนเองได้ สุดท้ายจึงตัดสินใจบอกกับเขาออกไปพร้อมกับเปิดมันออกต่อหน้าคนที่นำมา

“นี่มัน...” หลินซูมี่มองสิ่งที่อยู่ในกล่องอย่างตกตะลึง

ภายในกล่องไม้ฉลุอันประณีต บรรจุอัญมณีเม็ดหนึ่ง ที่รายล้อมด้วยหยกล้ำค่าจำนวนมากไว้อย่างบรรจง

ตัวอัญมณีนั้นเปล่งประกายสีแดงเจือชมพูระเรื่อ สว่างไสวราวต้องแสงอรุณ เนื้อในบริสุทธิ์สดใสจนยากจะหาคำใดมาบรรยาย ส่วนหยกที่ห้อมล้อมอยู่นั้น ล้วนเป็นหยกจักรพรรดิสีแดงเลือดล้ำค่าหายาก

“ข้าไม่แน่ใจนักว่าจะมอบสิ่งใดให้เจ้าดี ถึงจะเหมาะสมกับวัยของเจ้า จึงเลือกของสิ่งนี้มาให้”

“สวยมากเจ้าค่ะ” นางกล่าวออกมาอย่างยินดี

“มันเป็นอัญมณีที่ข้าได้รับมาเป็นรางวัล หลังจากปราบปรามโจรภูเขาสำเร็จ ข้าไม่อาจรู้ได้ว่าเจ้าจะชอบมันหรือไม่ แต่ข้าคิดว่าสตรีส่วนใหญ่มักชื่นชอบอัญมณีและเครื่องประดับ เจ้าสามารถนำมันไปทำเป็นเครื่องประดับได้ตามใจปรารถนา”

“ข้าชอบมาก ขอบคุณท่านอา” หลินซูมี่ย่อตัวลงเล็กน้อยเพื่อเป็นการขอบคุณ ใบหน้าของนางเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม

“ข้าดีใจที่เจ้าชอบ ข้าหวังว่าเมื่ออยู่กับเจ้าแล้ว จะทำให้มันงดงามมากขึ้น เดี๋ยวข้าขอไปพบศิษย์พี่กับพี่สะใภ้ก่อนนะ” 

          เมื่อสิ้นคำกล่าวนั้น แม่ทัพหนุ่มก็รีบเดินหนีไปหาศิษย์พี่และพี่สะใภ้ของตนอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้หลินซูมี่ยืนนิ่งอยู่กับกล่องของขวัญที่เต็มไปด้วยอัญมณีในมือ ใบหน้าของนางยังคงแดงก่ำด้วยความเขินอายและมีความสุข

“ไม่คิดว่าเจ้าจะมางานนี้ด้วย ปกติเห็นเชิญไปเมื่อใด ก็ไม่ยอมมา” ฮ่องเต้ตรัสขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี เมื่อเห็นศิษย์น้องเดินเข้ามาใกล้แล้ว

“หากไม่ใช่งานวันเกิดของนาง ข้าก็คงไม่มาหรอก ที่มาก็เพราะนางไปเรียนกับข้านานหลายปี และนางยังไปเชิญข้าด้วยตัวเอง เช่นนี้จะไม่มาได้อย่างไร” เสวี่ยเยวียนสือได้นั่งฝั่งตรงข้ามฮ่องเต้ในห้องส่วนพระองค์ แล้วเอ่ยออกมาอย่างไหลลื่น

“ช่วงหลายปีมานี้ ต้องขอบคุณเจ้ามากที่ดูแลมี่เอ๋อร์ของข้าเป็นอย่างดี ปีหน้านางก็ได้เวลาปักปิ่นแล้ว ข้าไม่รู้ว่าจะหาบุรุษที่คู่ควรกับนางได้จากที่ไหน”

ประโยคแรกฮองเฮาได้หันไปเอ่ยกับเสวี่ยเยวียนสือ ส่วนประโยคหลังนั้น นางเอ่ยขึ้นมาด้วยท่าทางหนักใจไม่น้อย

“พี่สะใภ้ เรื่องนี้ยังอีกยาวไกล ท่านไม่จำเป็นต้องคิดมากหรอกขอรับ หลินซูมี่นางเป็นถึงองค์หญิงใหญ่ของแคว้น ผู้ที่จะคู่ควรกับนางนั้น ทั้งฐานะและความสามารถจะต้องไม่ต่างกันแน่”

เสวี่ยเยวียนสือกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้มที่ซับซ้อน เจือด้วยอารมณ์หลากหลาย ซึ่งการกระทำของแม่ทัพหนุ่มนั้น ฮ่องเต้ไม่ได้สังเกตเห็นอะไรเลย แต่มิใช่กับฮองเฮาที่เป็นคนช่างสังเกตและคอยจับตาดูเขามาตลอดหลายปี

และการที่นางเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะจงใจที่จะให้อีกฝ่ายได้ยินและรับรู้ เพื่อจะได้ดูปฏิกิริยาของแม่ทัพหนุ่มว่าจะเป็นเช่นไร

เมื่อได้ยินคำกล่าวและได้เห็นท่าทีเช่นนี้ของเขา นางก็ไม่พลาดที่จะสังเกตเห็นความสับสนที่แฝงอยู่ในดวงตาของอีกฝ่าย ที่ดูเหมือนกำลังปิดบังบางสิ่งอยู่ แต่ก็ไม่สามารถปกปิดจากสายตาของนางได้

สิ่งนี้ทำให้ฮองเฮาหันไปมองบุตรสาวที่อยู่ในสวน สลับกับมองแม่ทัพหนุ่มที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลายเช่นกัน

หลังจากวันแห่งความสุขขององค์หญิงผ่านพ้นไป กาลเวลาก็หวนกลับเข้าสู่วงล้อเดิมอีกครา แม่ทัพใหญ่เสวี่ยยังคงครองตนเป็นโสดเรื่อยมา เขาไม่เคยมีหญิงใดเคียงข้าง จวบจนบัดนี้เขาก็มีอายุล่วงเข้าสู่ปีที่สามสิบกว่าแล้ว

และในวันนี้ก็เป็นวันเกิดครบรอบสามสิบสองปีของเขา ฮ่องเต้พระราชทานงานเลี้ยงฉลองให้อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งแม้ว่าจะไม่อยากได้ แต่ทว่าเสวี่ยเยวียนสือก็จำใจต้องรับไว้

ทำให้ยามนี้ที่จวนของแม่ทัพใหญ่เสวี่ยเยวียนสือถูกประดับประดาไปด้วยข้าวของหลากหลายสีสัน ซึ่งมันผิดกับบรรยากาศของจวน ที่ก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยความเงียบขรึมดุดัน

“ฮ่องเต้เสด็จ!”

“ฮองเฮาเสด็จ!”

เสียงอันเล็กแหลมของขันทีดังขึ้น ก่อนที่ร่างอันสง่างามของฮ่องเต้และฮองเฮาจะค่อย ๆ ปรากฏสู่สายตาของผู้คน

“ถวายบังคมฝ่าบาท ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นหมื่นปี”

“ถวายพระพรฮองเฮา ขอพระองค์ทรงพระเจริญพันปี พัน พันปี”

เสียงทำความเคารพและอวยพรดังกังวานไปทั่วทั้งจวนเสวี่ย เพราะในสถานที่แห่งนี้มีแขกที่มามากมาย และล้วนแล้วแต่เป็นแม่ทัพ นายกอง และนายทหารชั้นสูงที่เคยออกรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับเจ้าของจวนทั้งสิ้น เสียงทำความเคารพจึงดังยิ่งกว่าขุนนางฝ่ายบุ๋นยิ่งนัก

“ไม่ต้องมากพิธี วันนี้ข้ามาเพียงเพื่อร่วมแสดงความยินดีกับศิษย์น้องเท่านั้น พวกเจ้าอย่าได้เกรงใจนัก สนุกให้เต็มที่เถิด”

ฮ่องเต้ตรัสออกมาพร้อมรอยยิ้ม ก่อนที่จะเดินเข้าไปด้านในจวนด้วยท่าทางสบายอกสบายใจ

 และเมื่อผู้สูงศักดิ์ทั้งสองพระองค์ลับสายตาไปแล้ว ทำให้ทุกคนเห็นว่าเบื้องหลังของทั้งสอง มีร่างของสตรีนางหนึ่งเดินตามหลังมาด้วย

วันนี้องค์หญิงใหญ่หลินซูมี่แต่งกายได้งดงามยิ่งกว่าผู้ใด นางสวมอาภรณ์สีแดงสด ปักลายหงส์ร่อนมังกรบินอันประณีต ทุกฝีเข็มราวกับมีชีวิต นางสวมใส่เครื่องประดับมาอย่างงดงาม

และเครื่องประดับที่โดดเด่นที่สุดคือสร้อยคอ ซึ่งประดับด้วยอัญมณีล้ำค่า ที่เจ้าของจวนแห่งนี้เคยมอบให้นางในวันเกิด นางนำมันไปขึ้นตัวเรือนทองคำบริสุทธิ์ ให้อัญมณีอยู่ตรงกลางล้อมรอบด้วยหยกจักรพรรดิสีแดง เปรียบเหมือนเกราะอันงดงามที่ปกป้องของมีค่าไว้

ทั้งหมดนี้ทำให้นางดูโดดเด่นเกินผู้ใด นางงดงามราวกับเทพธิดาจากสวรรค์ ที่ลงมาเยือนยังโลกมนุษย์

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เหล่าบุรุษทั้งหลายที่อยู่ที่นี่ ต่างจ้องมองตามนางทุกฝีก้าว ราวกำลังมองดูเทพธิดาที่เดินผ่านหน้าพวกเขาไป

“คารวะท่านอา เป็นเช่นไรบ้างเจ้าคะ วันนี้ข้าแต่งตัวงดงามหรือไม่” องค์หญิงใหญ่เดินมายังเบื้องหน้าของเสวี่ยเยวียนสือ ก่อนจะถามขึ้น พร้อมกับหมุนตัวเพื่อให้เขาได้เห็นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะสร้อยคอที่นางยกมือขึ้นแตะ

เมื่อทุกคนที่อยู่ที่นี่ได้เห็นภาพเหล่านั้น พวกเขาทั้งหลายต่างก็รู้ได้ในทันทีว่า ตนไม่มีสิทธิ์ที่จะได้มีวาสนากับองค์หญิงผู้นี้เลย

“งดงามมาก”

แม่ทัพใหญ่เอ่ยขึ้นมาเพียงสั้น ๆ ก่อนจะกระแอมออกมาเล็กน้อย เมื่อหญิงสาวส่งสายตามาให้อย่างอ่อนหวาน เขาเปลี่ยนเรื่องด้วยการเชื้อเชิญนางเข้าไปภายในเรือน

“ไม่น่าเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้ พอได้รับการตกแต่งขึ้นมาแล้วจะเปลี่ยนไปได้มากถึงเพียงนี้”

หลินซูมี่เอ่ยขึ้นในตอนที่เดินดูรอบห้องที่เคยมาร่ำเรียน พลางหันมาจับจ้องไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของบุรุษที่อยู่ข้างกัน นางทอดมองไปที่โครงหน้าคมคายของเขาอย่างเผลอไผล พลันใบหน้านวลใสก็ขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย เมื่อเห็นสายตาที่ส่งกลับมา

“มันก็งดงามอยู่หรอก แต่ข้าไม่ได้ชอบอะไรที่มีสีสันนัก มันดูประหลาดเกินไป” แม่ทัพหนุ่มตอบกลับ ขณะพยายามหลบสายตาจากองค์หญิงหลินซูมี่ หลังจากเผลอจ้องมองนางอย่างหลงใหล

“ท่านนั่นแหละที่ประหลาด วัน ๆ เอาแต่เก็บตัว หมกมุ่นอยู่แต่กับเรื่องของกองทัพ ไม่ยอมหาเวลาไปเที่ยวชมโลกภายนอกบ้าง” นางสวนกลับไปโดยไม่ละสายตาจากเขา เพราะอยากรู้ว่าเขาจะโต้แย้งอย่างไร

ส่วนเหล่าบุรุษที่อยู่ด้านหลัง เมื่อได้เห็นภาพเหตุการณ์เหล่านั้น พวกเขาก็รู้สึกปวดใจที่สตรีโฉมสะคราญเช่นนั้น กลับไปให้ความสนใจปีศาจในคราบมนุษย์อย่างแม่ทัพใหญ่เสวี่ย

“ข้ารู้สึกเสียดายองค์หญิงใหญ่ยิ่งนัก ที่ไปชอบพอบุรุษที่ได้รับสมญานามว่าปีศาจเช่นนั้น อนาคตของนางเมื่อได้แต่งออกไปแล้ว คงจะหาความสุขได้ยาก” แม่ทัพบูรพาเป่ยหนานเอ่ยขึ้นมา พร้อมมองตามคนทั้งคู่ไปจนสุดสายตา

“เจ้าจะกล่าวอะไร ก็จงระวังปากไว้ด้วย ถ้าหากแม่ทัพใหญ่ได้ยินเข้า เจ้าคงจะได้รับคำสั่งให้ไปฝึกหนักไม่ใช่น้อย” แม่ทัพอุดรเหออี้เอ่ยเตือนสติสหายร่วมรบของตน

“นั่นสิ ถ้าเขาลงโทษแค่เจ้าคนเดียวยังพอว่า แต่ก็รู้อยู่ว่า ถ้าหากมีการลงโทษขึ้นมา ท่านแม่ทัพใหญ่ก็ลงโทษทั้งหมด คราวหลังจะเอ่ยอะไรออกมา ก็รักษาปากตัวเองด้วย ไม่เช่นนั้นคนอื่นก็อาจต้องเดือดร้อนเพราะเจ้า” แม่ทัพทักษิณชิงตี้กล่าวเสริมขึ้นมาทันที เพราะเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง

พอถูกตักเตือนจากบรรดาสหายร่วมรบ แม่ทัพบูรพาก็จำต้องกล่าวออกมาอย่างยอมรับผิด “ข้าขอโทษพวกเจ้าด้วย คราวหลังข้าจะระวังปาก”

“พวกเจ้านี่มันจริง ๆ เลย มากินของบ้านเขา ก็ยังนินทาเขาอีก แบบนี้ใช้ได้ที่ไหน” แม่ทัพประจิมหนานเหริ่นกล่าวออกมาอย่างเอือมระอาสหายผู้นี้ ขณะดื่มสุรารสเลิศไปด้วย

“พวกท่านทำตัวให้สมกับเป็นแม่ทัพหน่อยได้หรือไม่ กินดื่มนินทาคนอื่นเช่นนี้ ทำตัวประหนึ่งสตรีปากตลาดไม่มีผิด” รองแม่ทัพใหญ่ตงตี้เอ่ยขึ้นมา พลางส่ายหัวอย่างจนใจ

แม่ทัพเหล่านี้นอกจากจะทำการศึกเก่งกาจแล้ว เรื่องฝีปากก็นับว่าไม่เป็นรองใครเลยจริง ๆ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • องค์หญิงใหญ่ดวงใจท่านแม่ทัพทมิฬ   ตอนพิเศษที่ 2

    ตอนพิเศษที่ 2นับตั้งแต่ได้รับพระราชทานฐานันดรศักดิ์อ๋อง ทั้งสองก็ได้กลับไปยังหมู่บ้านที่เคยพำนักอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ต่างออกไป เพราะพวกเขากลับมาพร้อมอำนาจเต็มมือหลินซูมี่ได้จัดสร้างจวนอ๋องขึ้นในหมู่บ้าน และยกให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางในการว่าราชการของเขตปกครอง ทำให้หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ได้กลายเป็นเมืองหลวงของเขตปกครองเจียงซานและตงตู่นอกจากนี้ ทั้งสองยังได้ประกาศยกย่องสุสานของราชวงศ์เป่ยโจวให้เป็นสุสานหลวง เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อราชวงศ์เก่าแก่ในอดีตเขตปกครองแห่งใหม่นั้น มีการละเว้นการเก็บภาษีในหลายด้าน นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งโรงทานและสร้างที่อยู่ที่กิน ให้แก่เหล่าผู้สูงวัยที่ไร้ผู้คนดูแล เพื่อให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และได้รับการรักษาในยามเจ็บป่วยอย่างทั่วถึงอีกทั้งยังมีการสร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และให้การศึกษาที่ดีต่อเด็ก ๆ เพื่อให้เติบโตไปทำคุณต่อบ้านเมืองทางด้านการขยายอาณาเขต ก็มีการออกปราบปรามชนเผ่าต่าง ๆ โดยรอบเมืองทางเหนืออยู่เนือง ๆทำให้ยามนี้ชนเผ่าเร่ร่อนอีกกว่าสี่สิบแปดชนเผ่า ได้เข้าร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับแคว้นหลิน โดยอยู่ภายใต้การปกครองของเขตปกครองตนเองเจ

  • องค์หญิงใหญ่ดวงใจท่านแม่ทัพทมิฬ   ตอนพิเศษที่ 1

    ตอนพิเศษที่ 1นับตั้งแต่ที่ฮ่องเต้ได้ปลดองค์หญิงใหญ่ออกจากตำแหน่งให้เป็นเพียงสามัญชน ตัวของนางและเสวี่ยเยวียนสือ ก็ได้เดินทางกลับมาที่หมู่บ้านที่หลินซูมี่เคยหลบหนีมาอยู่อีกครั้ง โดยในครั้งนี้มันแตกต่างออกไป เพราะนางไม่ต้องหลบซ่อนจากผู้ใดทั้งสิ้น อีกทั้งยังกำลังตั้งครรภ์“คารวะท่านผู้อาวุโส”เมื่อนั่งเรือข้ามฟากมาแล้ว หญิงสาวก็ทำความเคารพชายสูงวัยทันที เพราะนางไม่คิดมาก่อนเลยว่า ผู้อาวุโสจะมารับนางด้วยตนเอง“เจ้ากลับมาจนได้ ที่ผ่านมาข้าได้ให้คนคอยดูแลบ้านของเจ้าไว้อย่างดี รีบไปพักผ่อนเถิด” ชายชรากล่าวออกมาอย่างอ่อนโยน ก่อนจะสั่งให้คนของเขามาช่วยทั้งสองขนข้าวของ“ขอบคุณมากเจ้าค่ะ” หลินซูมี่กล่างอย่างนอบน้อม“แล้วเป็นเช่นไรบ้าง ไปอยู่เมืองหลวงเสียพักใหญ่ สบายดีใช่หรือไม่ กลับมาคราวนี้ท้องก็ใหญ่ขึ้นแล้วสินะ” ผู้อาวุโสอินหยอกล้อด้วยรอยยิ้มที่เอ็นดู“ก็สบายดีเจ้าค่ะ ก่อนหน้านี้ได้ติดตามท่านพี่ไปชายแดนด้วย กว่าจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง ก็กินเวลาไปเสียนาน” หลินซูมี่กล่าวกับชายชราอย่างสนิทสนม“เช่นนั้นก็พักผ่อนเถิด เดินทางกันมาไกลคงเหน็ดเหนื่อยไม่ใช่น้อย เอาไว้พอตกเย็นค่อยมาร่วมงานเลี้ยงต้อนรั

  • องค์หญิงใหญ่ดวงใจท่านแม่ทัพทมิฬ   บทส่งท้าย คืนตำแหน่งให้องค์หญิงใหญ่

    บทส่งท้าย คืนตำแหน่งให้องค์หญิงใหญ่“ครั้งหนึ่งเขาปรารถนาจะยึดเมืองหมิงตี้ เจ้าอยากรู้หรือไม่ว่าเขาทำเช่นไร เขาจับบุตรีของเจ้าเมืองมาข่มเหงจนย่อยยับ จากนั้นก็ประกาศว่านางเป็นภรรยา แล้วใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างรวบรวมเมืองเข้ามาอยู่ในอาณัติของตน เมื่อเจ้าเมืองไม่ยินยอม เขาก็ยกทัพไปโจมตีจนแตกพ่าย และไม่ใช่แค่เพียงเมืองหมิงตี้ เมืองอื่นก็ประสบชะตากรรมไม่ต่างกันบุรุษผู้นั้นเอาแต่ใช้อำนาจที่มีทำลายชีวิตผู้คน เพื่อสนองความทะเยอทะยานของตนเอง ทำให้มีสตรีมากมายต้องจบชีวิตลงด้วยความอัปยศเพราะเขา!” นางหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวอย่างเหี้ยมเกรียม “ในวันนี้ที่เขาต้องนอนป่วยไร้เรี่ยวแรง ข้าว่ามันก็เป็นผลกรรมที่คนเช่นนั้นสมควรได้รับแล้วมิใช่หรือ ฮ่าๆ”กล่าวจบหนิงอี้เสียนหวงกุ้ยเฟยก็หัวเราะอย่างสะใจ รอยยิ้มของนางเต็มไปด้วยความคั่งแค้น ที่ระบายออกมาราวกับเขื่อนแตก เสียงหัวเราะนั้นดังก้องไปทั่วบริเวณ ราวกับต้องการให้ทุกผู้คนได้รับรู้ถึงความเจ็บลึกในใจของนางถ้อยคำของนางนั้นไม่เพียงกระทบใจผู้ที่อยู่ตรงหน้า แต่ยังแทรกซึมเข้าสู่จิตใจของเหล่าขุนนางอาวุโสที่ยืนรายล้อมอยู่ไม่ไกลเมื่อคำกล่าวเหล่านั้นจบลง ความเ

  • องค์หญิงใหญ่ดวงใจท่านแม่ทัพทมิฬ   บทที่ 56 ปราบกบฎ

    บทที่ 56 ปราบกบฎทางด้านกองทัพนอกเมืองหลวง เมื่อเสวี่ยเยวียนสือได้เห็นการจัดขบวนทัพที่อยู่บนกำแพงเขาก็รู้ได้ในทันทีว่าทหารเหล่านั้นไม่ปรารถนาที่จะต่อสู้ เพราะพวกเขาเหล่านั้นล้วนแล้วแต่แอบแสดงท่าทียอมจำนน “ท่านแม่ทัพใหญ่...ข้าว่าเวลาแห่งการชำระล้างความชั่วได้มาถึงแล้ว!” เสียงของแม่ทัพอุดรเหออี้ดังขึ้นด้วยความเคียดแค้น เขาจ้องมองไปยังเบื้องหน้า แววตาเต็มไปด้วยเพลิงแห่งโทสะที่ลุกโชนไม่สิ้นสุดเสวี่ยเยวียนสือก้าวขึ้นมายืนตรงหน้ากองทัพของตน ก่อนจะออกคำสั่งอย่างหนักแน่น “ทหารเตรียมพร้อม!” จากนั้นเพียงครู่เดียว เขาก็เปล่งเสียงสั่งการดังกึกก้อง “บุกได้!”เหล่าทหารที่รอคอยเพียงแค่คำนี้ ต่างตะโกนก้องพร้อมพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างดุดันและพร้อมรบ ทว่าก่อนที่แม่ทัพอุดรเหออี้จะสั่งให้กระแทกประตูบานใหญ่เบื้องหน้า เสียงของการปลดกลอนประตูก็ดังขึ้นแทน จากนั้นประตูเมืองก็ค่อย ๆ แง้มเปิดออกจากด้านใน จนทำให้ทุกคนประหลาดใจ“ขอเชิญทุกท่านผ่านเข้ามาเถิดขอรับ พวกข้าต่างเฝ้ารอการมาถึงของท่านด้วยใจจดใจจ่อ!” เสียงของนายทหารที่เปิดประตูดังขึ้นด้วยความเคารพ แววตาสะท้อนทั้งความดีใจและความภักดีอย่างเหลือล้น“ขอบใจ

  • องค์หญิงใหญ่ดวงใจท่านแม่ทัพทมิฬ   บทที่ 55 ช่วยฮ่องเต้

    บทที่ 55 ช่วยฮ่องเต้จากนั้นองค์รัชทายาทรีบเขียนจดหมายฉบับหนึ่งส่งไปยังสถานที่ที่น้องหญิงของตนพำนักอยู่ ก่อนที่วังหลวงจะถูกทหารของปิงตี้เข้าควบคุมอย่างแน่นหนา ภายในเวลาเพียงเสี้ยวลมหายใจ ทางออกทุกเส้นทางถูกปิดตาย สิ้นไร้การเชื่อมโยงกับโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง“ปิงตี้ นี่เจ้ากำลังคิดจะทำอะไรอยู่ เจ้าจะทำก่อกบฏอย่างนั้นหรือ” หลินเฟยหลงเอ่ยขึ้นมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อว่าอีกฝ่ายจะกล้าลงมือเช่นนี้“หึ! หลินเฟยหลง ตัวของเจ้าถ้าหากขาดน้องสาวที่เป็นมันสมองและแม่ทัพใหญ่ผู้ควบคุมกำลังทหาร เจ้าก็จะนับว่าทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง” ปิงตี้กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ย“หลินเฟยหลง หลินเฟยหมิง หลินต้าเหนิง ข้ายังไม่คิดลงมือกับพวกเจ้าตอนนี้หรอก เอาไว้ให้พวกเจ้ารวมตัวกันครบก่อน แล้วข้าค่อยพิจารณาอีกทีว่า จะจัดการเช่นไร ยามนี้ก็อยู่กับพ่อแม่ของพวกเจ้า และเป็นเด็กดีไปก่อนก็แล้วกัน”ปิงตี้เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น ก่อนจะสั่งให้นำทั้งสามไปคุมขังรวมกับผู้เป็นมารดาและฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ซึ่งในยามนี้อาการทรุดหนักจนไม่อาจขยับเขยื้อนได้อีกแล้ว“ท่านแม่ ท่านพ่อ พวกท่านเป็นอย่างไรบ้าง ข้าขอโทษที่ไม่อาจร

  • องค์หญิงใหญ่ดวงใจท่านแม่ทัพทมิฬ   บทที่ 54 หวงกุ้ยเฟยก่อกบฏ

    บทที่ 54 หวงกุ้ยเฟยก่อกบฏเมื่อผู้เป็นบิดาได้ยินเช่นนั้น ก็มองไปที่บุตรสาวด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรัก“เสวี่ยเยวียนสือ อย่างไรเสียข้าก็ขอฝากบุตรสาวของข้าให้เจ้าดูแลด้วย มี่เอ๋อร์นับว่าถูกข้าตามใจมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ถูกเจ้าอบรมสั่งสอนมาแต่เด็กเช่นกัน ดังนั้นถ้าหากว่านางมีอะไรที่ประพฤติตนไม่เหมาะสม เจ้าก็ค่อย ๆ สั่งสอนนางต่อไปก็แล้วกัน”ฮ่องเต้ได้หันไปตรัสกับศิษย์น้องของตนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ศิษย์พี่ไม่ต้องเป็นกังวล ข้าขอสาบานด้วยชีวิตของข้า ข้าจะดูแลมี่เอ๋อร์ให้ดีที่สุด ชีวิตของนางหลังจากนี้ จะต้องมีแต่ความสุขไร้ซึ่งความทุกข์ใด ๆ ทั้งสิ้น หากข้าผิดคำสาบาน ขอให้ข้าไม่ตายดีในสามวันเจ็ดวัน” เสวี่ยเยวียนสือยกมือขึ้นแล้วเอ่ยคำสาบานออกไปด้วยน้ำเสียงที่เข้มแข็งและห้าวหาญ เมื่อฮ่องเต้ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก“เอาล่ะ แม้ว่าข้าอยากจะรั้งพวกเจ้าเอาไว้ให้นานกว่านี้ แต่ข้าคิดว่าเหล่าขุนนางทั้งหลายก็คงจะกดดันข้าไม่เลิก ในวันพรุ่งนี้ข้าจะให้คนส่งเจ้าออกนอกเมืองหลวง และส่งเจ้าไปในที่ที่เจ้าอยากจะไป” พระองค์ตรัสออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน ก่อนจะหันไปทางขันทีข้างกาย “อู่กงกง เจ้าจง

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status