Home / แฟนตาซี / อดีตอัศวินผันตัวเป็นนักผจญภัย / ตอนที่ 3 ความต้องการที่ลุ่มหลง

Share

ตอนที่ 3 ความต้องการที่ลุ่มหลง

Author: Abyssgloom
last update Huling Na-update: 2025-01-24 20:44:49

ย่านกลางเมืองหลวงในคฤหาสน์ขุนนางของตระกูลวาเลนไฮน์

แสงแดดอ่อนยามสายส่องผ่านม่านหน้าต่างหรูหราในห้องรับรองส่วนตัว หญิงสาวนั่งอยู่ที่โต๊ะเขียนจดหมาย ใบหน้าของเธอเรียบเฉย แต่ในแววตากลับมีประกายแห่งความกังวลซ่อนเร้น เธอเพิ่งเปิดจดหมายฉบับล่าสุดจากหัวหน้าคนรับใช้ที่ติดตามคู่หมั้นของเธอ ข่าวลือในจดหมายชวนให้หัวใจหนักอึ้ง—เขายังคงใช้ชีวิตขาดความรับผิดชอบ ไม่ยอมฝึกฝน หรือทำงานใดๆ อย่างที่ควรจะเป็น

เธอวางจดหมายลง ถอนหายใจยาว ความผิดหวังแทรกซึมในใจลึกยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ภาพความทรงจำในอดีตยังแจ่มชัด เธอเคยเห็นเขาเป็นอัศวินผู้เปี่ยมด้วยศักดิ์ศรี ฝีมือดาบที่เฉียบคมและสายตาที่มุ่งมั่น วันนี้ทุกอย่างนั้นกลายเป็นเงาจางๆ คนที่เธอเคยศรัทธาดูเหมือนจะหลงทาง ไม่มีแววตาแห่งการต่อสู้เหลืออยู่เลย

เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากทางเดินด้านนอก ก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออกอย่างถือวิสาสะ องค์รัชทายาทลำดับที่สามก้าวเข้ามา รอยยิ้มเจ้าเล่ห์แต่งแต้มบนใบหน้า ดวงตาของเขามีประกายแห่งความเหนือกว่า

“ท่านหญิง” เขาเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่เจือด้วยความมั่นใจที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ “ข้าได้ยินมาว่าเจ้าอยู่ที่นี่ เลยตั้งใจมาเยี่ยม” เขากล่าว พลางกวาดสายตามองรอบห้องก่อนจะหยุดที่จดหมายในมือของเธอ

หญิงสาวไม่ได้ตอบอะไร เธอเพียงเลื่อนมือปิดจดหมายไว้ราวกับป้องกัน แต่ก็รู้ดีว่าคนตรงหน้าไม่เคยสนใจกฎเกณฑ์ใดๆ

องค์ชายยิ้มบางๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงชวนให้เย็นเยียบ “เจ้าจะซ่อนอะไรจากข้าหรือ? ถ้าไม่อยากบอกเอง ข้าก็จะดูเอง” ไม่รอคำอนุญาต เขาคว้าจดหมายไปจากมือของเธออย่างไร้มารยาท

เธอเงียบ เพียงเฝ้ามองเขาอ่านจดหมายโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ แต่ลึกๆแล้วใจเธอเต้นแรง เขาอ่านจบในเวลาไม่นาน ก่อนจะหัวเราะเบาๆ และยกยิ้มเหยียดหยาม

“นี้เจ้ายังเก็บหมาขี้เรื้อนตัวนั้นไว้อีกหรือ?” คำพูดแรกของเขาราวกับมีดคมกริบที่แทงเข้าไปในใจเธอ “ข้าไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าเจ้าทนกับคนไร้ค่าแบบนั้นไปได้อย่างไร”

เธอยังนิ่ง ไม่โต้ตอบ แต่อยู่ลึกๆแววตาแสดงถึงความไม่พอใจเล็กน้อย องค์ชายดูจะสนุกกับการได้พูดต่อ

“ดูเหมือนมันจะเละเทะกว่าเดิมเสียอีก” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “เจ้ารู้ไหม ตระกูลของมันไม่มีทางกลับมามีอำนาจได้อีกแล้ว คู่หมั้นของเจ้ามันก็แค่ของที่ถูกลืมไปนานแล้ว เจ้าควรปล่อยมือจากสิ่งที่ไร้ค่าพวกนั้น แล้วมองหาสิ่งที่ดีกว่า...เช่นข้า”

เขาโน้มตัวเข้าใกล้ มือหนึ่งยกขึ้นแตะคางเธออย่างถือสิทธิ์ สัมผัสที่เยือกเย็นทำให้เธอต้องกลั้นหายใจ แต่เธอยังคงมองเขาด้วยสายตาที่มั่นคง

“ท่านหญิง” น้ำเสียงของเขานุ่มนวลราวกับกำลังล่อลวง “ข้าสามารถให้เจ้าทุกอย่าง ทั้งเกียรติยศและอำนาจ เจ้าแค่ต้องเดินไปข้างหน้ากับข้า”

เธอสูดลมหายใจลึก ก่อนจะตอบเสียงนุ่มแต่หนักแน่น “กระหม่อมขอบพระทัยในความเมตตาของท่าน แต่กระหม่อมได้ตัดสินใจแล้ว และหวังว่าท่านจะโปรดเคารพการตัดสินใจนั้น”

คำพูดของเธอราวกับตบหน้าเขา ดวงตาขององค์ชายเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบ “เจ้ามั่นใจหรือ? เจ้าจะเสียใจที่ปฏิเสธข้า” เขาประกาศเสียงกร้าว ปาจดหมายลงกับพื้น ก่อนจะหมุนตัวจากไป ทิ้งให้เธอยืนอยู่คนเดียวในห้อง เธอกำมือแน่น ใบหน้ายังคงสงบนิ่ง ทว่าในใจของเธอกลับรู้สึกสั่นครอน

เสียงฝีเท้าหนักหน่วง ขององค์ชายดังสะท้อนไปตามทางเดินหินอ่อน เส้นเลือดบนขมับเต้นตุบๆ บ่งบอกถึงอารมณ์ที่ปะทุราวกับเปลวไฟ ข้ารับใช้ที่ผ่านไปมาต่างรีบก้มหน้าก้มตาหลบหลีกราวกับไม่อยากมีตัวตนในสายตาองค์ชายในเวลานี้

เมื่อมาถึงมุมหนึ่งของทางเดิน พระองค์หยุดชะงัก สายตาคมปลาบจับจ้องไปยังร่างชายหนุ่มที่ยืนพิงเสาอยู่ไม่ไกล น้องชายของแคทลีนปรากฏตัวในท่าทางสบายๆ ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม แต่ดวงตากลับฉายแววเจ้าเล่ห์ที่ยากจะปิดบัง

“คุยกับพี่สาวกระหม่อมแล้ว เป็นอย่างไรบ้างพะย่ะค่ะ?” เขาเอ่ยถาม น้ำเสียงดูเหมือนจะใสซื่อ แต่กลับมีแววเย้ยหยันที่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกเหมือนถูกล้อเลียน

องค์ชายหันขวับมามองเขา ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธที่ยังคุกรุ่น “เป็นยังไงหรือ? เธอทำตัวดื้อด้านเกินไป!” พระองค์ฟาดพระหัตถ์เข้ากับผนัง เสียงดังสนั่นจนทำให้ฝุ่นผงเล็กๆ ร่วงกราว “เธอกล้าพูดจาหักหน้าข้าต่อหน้า! คิดดูสิ!”

ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอเบาๆ พลางส่ายหน้า “ก็พี่สาวกระหม่อมเป็นแบบนี้มาตลอด ท่านน่าจะรู้ดีนี่น่า” เขายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “นิสัยแบบนี้แหละที่ทำให้เธอโดดเด่น ไม่เหมือนใคร และข้าก็เข้าใจว่าท่านชอบคนที่ท้าทายไม่ใช่หรือ?”

“แต่ข้าไม่ชอบความดื้อด้านที่เกินไปแบบนี้!” องค์ชายแย้งเสียงดัง ก่อนจ้องเขาเขม็ง “แล้วเจ้าล่ะ? แผนการของเจ้าใช้ได้ผลจริงหรือไม่? หรือมันก็เป็นแค่ความคิดไร้สาระของเจ้า?”

ชายหนุ่มยังคงกอดอก มุมปากยกยิ้มมั่นใจ “ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามแผนพะย่ะค่ะ” เขาตอบเรียบๆ น้ำเสียงเยือกเย็นอย่างคนที่คุมเกมได้ “กระหม่อมได้เตรียมการทุกอย่างไว้แล้ว คนรับใช้ในคฤหาสน์ของเรา กระหม่อมซื้อตัวพวกเขาไว้หมด ไม่มีอะไรจะหลุดรอดสายตาไปได้”

องค์ชายยังคงฟังด้วยสายตาเย็นชา ขณะที่อีกฝ่ายเล่ารายละเอียดต่อไป ชายหนุ่มลูบคางเบาๆ เหมือนกำลังชมผลงานของตัวเอง “กระหม่อมให้คนกระจายข่าวลือไปเรียบร้อย เรื่องนั้นกำลังไปถึงหูของพี่สาวในไม่ช้า และเมื่อถึงตอนนั้น เธอจะไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากตัดใจจากผู้ชายคนนั้น”

“และ...มันก็หลบหนีออกจากคฤหาสน์ไปแล้ว ไม่มีทางที่มันจะกลับมาได้อีก”

คำพูดสุดท้ายทำให้องค์ชายคลี่ยิ้มบาง สีหน้าเปลี่ยนเป็นพึงพอใจ “ดีมาก... เจ้าทำได้ดี อย่าให้มีข้อผิดพลาดเด็ดขาด เข้าใจไหม?”

ชายหนุ่มโค้งศีรษะเล็กน้อย ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้ม “ย่อมได้พะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่มีทางทำให้ท่านผิดหวัง”

องค์ชายหยุดนิ่ง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “และตามที่ข้าสัญญา หากแผนของเจ้าสำเร็จ และแคทลีนกลายเป็นของข้า เจ้าจะได้รับตำแหน่งดยุคอย่างสมเกียรติ”

ดวงตาของชายหนุ่มวาวโรจน์ แต่เขายังคงรักษาท่าทีสงบเสงี่ยม “ขอบพระทัยพะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังอย่างแน่นอน”

องค์ชายไม่พูดอะไรอีก หมุนตัวเดินจากไป ฝีเท้ายังคงหนักแน่น ทิ้งความเงียบงันไว้เบื้องหลัง ชายหนุ่มยังยืนพิงเสาอยู่ในตำแหน่งเดิม รอยยิ้มเจ้าเล่ห์เผยชัดบนใบหน้า ขณะที่แววตาฉายประกายความทะเยอทะยาน

“ตอนนี้ ก็แค่รอเวลาที่ท่านจะเดินตามแผนของข้าแล้ว พี่สาว” เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับไปในเงามืดของทางเดิน ดั่งนักแสดงที่รอการปรากฏตัวในฉากถัดไป

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • อดีตอัศวินผันตัวเป็นนักผจญภัย   ตอนที่ 10 จดหมายในกระเป๋าผ้า

    “เธอได้ยินข่าวรึยัง?”เสียงกระซิบดังขึ้นในร้านขนมปังซึ่งมักเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของแม่บ้าน แต่เช้านี้ กลับมีแต่ความเงียบงันตึงเครียดราวกับพายุจะมา หญิงสาวสองคนยืนต่อคิวอยู่ใกล้ตะกร้าขนมปังอบใหม่ แต่ไม่มีใครสนใจกลิ่นหอมกรุ่นเหล่านั้นอีกต่อไป“เรื่อง ไอ้คุณชายจากตระกูลทรยศ นั่นน่ะเหรอ?” อีกคนตอบทันทีด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยรังเกียจ“นังคนใช้ที่บ้านฉันเล่าว่า เขาหายตัวไปจากคฤหาสน์กลางดึกเลยนะ ทั้งที่คุณหนูแคทลีนก็อุตส่าห์เลี้ยงไว้เป็นอย่างดี พยายามดึงขึ้นมาจากดินจากโคลน พอถึงเวลากลับตอบแทนด้วยการ หนีหาย อย่างกับคนขี้ขลาด!”“แย่ยิ่งกว่านั้นอีกเถอะ! ไอ้นี่สิ! อยู่กินกับตระกูลคู่หมั้นของตัวเอง พอมีโอกาสพิสูจน์ความจริง ก็ถอยหลังกลับลำ ทิ้งคุณหนูเขาไว้ให้เป็นขี้ปากชาวบ้าน!”หญิงอีกคนยกมือขึ้นกอดอกแน่น สีหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์“เขาว่ากันว่า...คืนก่อนจะหายตัวไป มีคนเห็นเขาแอบคุยกับชายแปลกหน้าสองคนตรงท่ารถใต้ดินฝั่งตะวันตกของเมือง แล้วก็หายเงียบ! นี่มันไม่ใช่บังเอิญแล้ว! มันคือ การวางแผนหลบหนี ชัดๆ!”“ใช่! แล้วคนในตลาดตอนนี้ก็พูดกันว่า ไอ้คุณชายบ้านั่น อาจจะเป็นสายลับให้พวกประเทศอื่นก็ได้!”“สายลับเ

  • อดีตอัศวินผันตัวเป็นนักผจญภัย   ตอนที่ 9 แผนที่เกือบไร้ช่องโหว่

    เสียงฝนโปรยปรายดังสะท้อนกระจกหน้าต่างรถม้าที่เร่งสปีดผ่านถนนกรวดกลับไปยังคฤหาสน์วาเรนไฮม์ หญิงสาวในชุดดำเรียบหรูเอนตัวมาข้างหน้า มือกำชายผ้าคลุมแน่น เธอไม่อาจซ่อนความกระวนกระวายใจได้ประตูรถยังไม่ทันเปิดสนิท ร่างนั้นก็ก้าวลงอย่างรวดเร็ว รองเท้าบูตกระแทกลานหินเสียงดัง เธอไม่เหลียวมองข้ารับใช้ที่วิ่งเข้ามาต้อนรับด้วยซ้ำ เอ่ยถามทันทีโดยไม่หยุดเดิน“เขาหายตัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่?”หัวหน้าแม่บ้านที่รออยู่ใกล้บันไดขยับเข้ามาอย่างร้อนรน“เมื่อวานช่วงสายค่ะคุณหนู ข้ารับใช้เห็นว่าเขาไม่ได้ออกมาทำงาน เลยไปดูที่ห้องแต่ก็ไม่เจอ ไม่ทราบแน่ชัดว่าออกไปเมื่อใด”“แล้วได้สั่งให้คนที่เหลือไปตรวจสอบรอบๆ เมืองรึยัง?”“ค่ะ ดิฉันได้สั่งการไปแล้ว แต่ขณะนี้ก็ยังไม่เจอคุณชายเลยค่ะ…”เธอไม่รอฟังต่อ ก้าวฉับๆ ไปทางฝั่งตะวันตกของคฤหาสน์ เส้นทางเปียกชื้นจากฝนทำให้เสียงฝีเท้าดังขึ้นกว่าปกติ อาคารของข้ารับใช้เงียบผิดสังเกต แม้จะไม่ใช่เวลาพักแคทลีนมุ่งตรงไปยังห้องของเขา เธอแค่ต้องการดู—ว่าเขาทิ้งอะไรไว้หรือเปล่า บางอย่างที่อาจบอกได้ว่าเขาจากไปเพราะเหตุจำเป็น... หรือเพราะตั้งใจ“หรือว่า…เขาหายไปเพราะสภาพแวดล้อมไม่ดี?”ปร

  • อดีตอัศวินผันตัวเป็นนักผจญภัย   ตอนที่ 8 ดาบที่ไร้ผู้ครอบครอง

    ภายในห้องประชุมของวัง บรรยากาศอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก ฝนที่สาดกระหน่ำนอกหน้าต่างส่งเสียงเคาะกระจกเป็นจังหวะไม่สม่ำเสมอ คล้ายกำลังนับถอยหลังสู่บางสิ่งที่ไม่มีใครอยากเผชิญกษัตริย์นั่งอยู่บนบัลลังก์ที่ตั้งอยู่สูงจากพื้น เบื้องหน้าคือเหล่าขุนนาง ขุนพล และรัชทายาททั้งสามคนที่ยืนเรียงแถว แววตาของกษัตริย์นั้นเย็นชาและเฉียบคม มองตรงไปโดยไม่พูดอะไร แต่ทุกคนรับรู้ได้ถึงความไม่พอใจที่แผ่ปกคลุมไปทั้งห้องทันใดนั้น ประตูเปิดออก ข้าหลวงคนหนึ่งรีบเข้ามา คุกเข่าทันที ก่อนจะรายงานด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด“ขออภัยพ่ะย่ะค่ะ... เรายังหาตัวท่าน เซลวิน ไม่เจอขอรับ”คำพูดนั้นเหมือนเสียงระเบิดในห้องเงียบๆ ทุกสายตาหันมามอง เสนาบดีบางคนเบิกตากว้าง รัชทายาทคนโตกับคนรองขมวดคิ้ว แต่มีเพียงองค์ชายคนเล็กที่แอบยิ้มมุมปาก ราวกับกำลังพอใจกับข่าวนี้เสียงทรงอำนาจดังขึ้น มันเปี่ยมไปด้วยพลังจนไม่มีใครกล้าขัด“เขาอยู่กับตระกูลวาเรนไฮม์ไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงหายตัวไปได้? ไม่ใช่ว่าพวกเขารักกันดีงั้นรึ?”ข้าหลวงกลืนน้ำลายก่อนตอบ“ตอนนี้คุณหนูแคทลีน วาเรนไฮม์กำลังรีบกลับไปที่คฤหาสน์เพื่อตรวจสอบด้วยตัวเองอยู่พ่ะย่ะค่ะ... ไม่มีใคร

  • อดีตอัศวินผันตัวเป็นนักผจญภัย   ตอนที่ 7 รอยร้าวแห่งเกียรติยศ

    แสงแรกของวันสาดส่องลงบนชายหาดที่เงียบสงบ คลื่นทะเลซัดเอื่อย ๆ สัมผัสผืนทรายราวกับต้องการปลอบโยนผู้ที่ถูกพัดพามาเกยตื้น ลมยามเช้าพัดเอากลิ่นไอทะเลคละคลุ้งไปทั่ว เสียงนกนางนวลลอยล่องอยู่เบื้องบน ทว่าความเงียบสงบของเช้าวันนี้ถูกทำลายลงด้วยเสียงร้องของชายชรา“เฮ้ย! มีคนรอดชีวิตมาเกยตื้น!”ชาวประมงวัยกลางคนที่เดินเลาะชายหาดเพื่อเก็บหอยและเศษไม้รีบตะโกนเรียกผู้คนในหมู่บ้าน ไม่นานนัก ชาวบ้านหลายคนต่างพากันวิ่งมาตามเสียงเรียก ก่อนที่สายตาของพวกเขาจะจับจ้องไปยังร่างของผู้รอดชีวิตสามคนที่นอนแน่นิ่งอยู่บนผืนทรายร่างแรกเป็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ผิวหนังเต็มไปด้วยบาดแผลเก่าใหม่ปะปนกัน ทว่าในมือของเขายังคงกำดาบเก่าคร่ำคร่าราวกับสัญชาตญาณสั่งให้ไม่ปล่อยมัน แม้ว่าเขาจะหมดสติไปแล้วก็ตาม ร่างที่สองคือชายวัยกลางคนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของคนร่ำรวย แต่บัดนี้ฉีกขาดและเปรอะเปื้อนโคลนจนแทบจำสภาพเดิมไม่ได้ ใบหน้าของเขาซีดเซียว ดูเหมือนจะเป็นพ่อค้าหรือขุนนางจากที่ใดที่หนึ่ง ส่วนร่างสุดท้ายคือหญิงสาวในชุดกัปตันเรือ แม้เปียกโชกไปทั้งตัวและมีร่องรอยความเหนื่อยล้าบนใบหน้า แต่ท่าทางของเธอกลับดูสงบอย่

  • อดีตอัศวินผันตัวเป็นนักผจญภัย   ตอนที่ 6 ตำนานแห่งลีเวียธาน

    นานมาแล้ว ในยุคสมัยที่เทพเจ้ายังปกครองเหนือทุกสิ่ง ท้องทะเลทั้งหมดเป็นอาณาเขตของสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ผู้หนึ่ง มันเป็นทั้งผู้พิทักษ์และผู้พิพากษาแห่งผืนน้ำ ชื่อของมันถูกจารึกลงในแผ่นหินโบราณ และเล่าขานด้วยความหวาดกลัว “ลีเวียธาน”ลีเวียธานคือร่างมหึมาแห่งเกลียวคลื่น ลำตัวยาวไร้ที่สิ้นสุดปกคลุมด้วยเกล็ดสีดำสนิทเหมือนค่ำคืนไร้ดวงจันทร์ ดวงตาสีทองของมันส่องประกายราวกับเพลิงแห่งเทพเจ้าที่ไม่มีวันดับ ลมหายใจของมันสร้างพายุ ลำตัวของมันสร้างคลื่นยักษ์ที่สามารถกลืนกินทั้งทวีป ไม่มีสิ่งใดหนีพ้นจากเงื้อมมือของมันตามคำสั่งของเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ลีเวียธานมีหน้าที่รักษาสมดุลของทะเล กำจัดสิ่งใดก็ตามที่อาจคุกคามความบริสุทธิ์แห่งผืนน้ำ มันเป็นทั้งผู้ปกป้องและผู้ทำลาย ท้องทะเลคืออาณาเขตของมัน และไม่มีผู้ใดกล้าล่วงล้ำแต่แล้วมนุษย์ก็สร้างเรือ ล่องเรือข้ามน่านน้ำด้วยความหยิ่งผยอง ลีเวียธานมองเห็นเรือใบเหล่านั้นเป็นดั่งสิ่งแปลกปลอมที่บุกรุกเขตแดนของมัน มันพิโรธ พายุร้ายเกิดขึ้นจากหางที่สะบัดของมัน คลื่นยักษ์พัดเรือให้แตกเป็นเสี่ยงๆ นักเดินเรือมากมายจมหายสู่ก้นสมุทรพร้อมเสียงกรีดร้องที่ไม่มีผู้ใดได้ยินเทพ

  • อดีตอัศวินผันตัวเป็นนักผจญภัย   ตอนที่ 5 คลื่นคำรามแห่งความพินาศ

    เสียงคลื่นที่เคยไหลเอื่อยกลายเป็นเสียงคำรามก้องของทะเลที่บ้าคลั่ง ลมพายุพัดกระหน่ำจนใบเรือแทบขาดเป็นชิ้น เสากระโดงส่งเสียงลั่นประหนึ่งจะหักสะบั้นลงได้ทุกเมื่อ ลูกเรือบนดาดฟ้าวิ่งวุ่นพยายามยึดเชือกและควบคุมเรือไม่ให้พลิกคว่ำเม็ดฝนที่กระหน่ำลงมาเหมือนเข็มที่ทิ่มแทงผิวหนัง ท้องฟ้าสีดำทะมึนตัดกับแสงฟ้าผ่าที่วูบวาบ ทุกครั้งที่แสงปรากฏ มันเผยให้เห็นใบหน้าของลูกเรือที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความสิ้นหวัง “เร็วเข้า! ดึงเชือกให้แน่น!” กัปตันหญิงตะโกนลั่น แข่งกับเสียงฟ้าผ่าที่ดังสนั่นเป็นระยะ เธอยืนอยู่กลางดาดฟ้าพร้อมกับมือที่ชี้นำทุกคนอย่างมั่นคงขณะที่ทุกอย่างกำลังตกอยู่ในสถานการณ์วุ่ยวาย ชายหนุ่มจับราวเรือแน่นจนมือซีด ดวงตาของเขากวาดมองไปรอบๆ เห็นคลื่นยักษ์ลูกแล้วลูกเล่าพุ่งเข้าหาเรือ ดาดฟ้าที่เปียกชุ่มทำให้ทุกย่างก้าวลื่นไถลจนแทบจะยืนไม่อยู่ หัวใจของเขาเต้นรัวด้วยความตื่นตระหนก ความกลัวและความหวังถูกบีบคั้นจนแทบจะขาดอากาศหายใจ ขณะที่เรือโคลงเคลงไปตามคลื่นยักษ์ แม้จะผ่านการเดินทางมาหลายวันแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน ดวงตาของเขาสอดส่องไปยังลูกเรือคนอื่นที่พยายามอย่างสุดความสามารถ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status