Home / รักโบราณ / อนุตัวร้ายขอทำสวน / ตอนที่ 4 ไม่ต้องรีบเร่ง 2/2

Share

ตอนที่ 4 ไม่ต้องรีบเร่ง 2/2

last update Last Updated: 2025-09-01 15:58:00

เมื่อทุกอย่างจัดการเรียบร้อย อันไป๋เล่อก็หันหลังออกจากร้าน

แสงแดดยามสายส่องลงบนใบหน้าของนางอย่างพอดี ทำให้เงายิ้มบางที่มุมปากดูอบอุ่นกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

อันไป๋เล่อก็หันไปบอกอาเหมย

“ต่อไป...ไปซื้อข้าวสารกับไข่ไก่กัน”

ทั้งคู่เดินเลาะตามถนนหินไปทางทิศตะวันออกของตลาด ซึ่งเป็นย่านขายของสดและของแห้ง

กลิ่นหอมของข้าวสารใหม่ลอยอบอวลมาจากร้านที่ตั้งอยู่หัวมุม แม่ค้ากำลังตักข้าวจากโอ่งดินขนาดใหญ่ลงถุงผ้าด้วยท่วงท่าคล่องแคล่ว

อันไป๋เล่อเลือกข้าวสารคุณภาพดีสองถุงใหญ่ พร้อมถั่วเขียว ถั่วแดง งาขาว เกลือ น้ำผึ้ง น้ำส้มหมักและน้ำมันงาเพิ่มอย่างละถุง

จากนั้นก็เดินต่อไปยังแผงขายไข่ไก่

ไข่สีน้ำตาลอ่อนเรียงซ้อนกันในตะกร้าฟาง กลิ่นสดใหม่ของมันทำให้เธอเลือกหยิบอย่างตั้งใจ ก่อนสั่งให้แม่ค้าชั่งเต็มตะกร้า นางจ่ายเงินแล้วสั่งให้ไปส่งที่ตระกูลเผยเช่นเคย

ครู่หนึ่ง อาเหมยก็เอ่ยขึ้นเสียงเบา แต่แฝงความเกรงใจ

“คุณหนู...ข้าทำกับข้าวกินได้ไม่กี่อย่างนะเจ้าคะ”

อันไป๋เล่อเหลือบมองเล็กน้อย สีหน้าไม่แปลกใจ

“อืม...ข้ารู้แล้ว”

น้ำเสียงราบเรียบแต่ไม่ได้ตำหนิ

ริมฝีปากแต้มรอยยิ้มบางราวกับมีแผนอยู่แล้ว  

เมื่อเสร็จจากของสด ทั้งสองก็ตรงไปยังย่านขายเมล็ดพันธุ์

แผงร้านเล็ก ๆ มีถุงผ้าขาวเล็กใหญ่แขวนเรียงเป็นแถว กลิ่นดินและกลิ่นแห้งของเมล็ดพืชแตะปลายจมูกอย่างชัดเจน

พ่อค้าชราเอ่ยแนะนำอย่างกระตือรือร้น   “นี่เป็นเมล็ดผักกาดพันธุ์โตเร็ว นั่นเมล็ดฟักทองเนื้อหวาน อีกถุงนี่เป็นเมล็ดต้นหอมกับผักชี...ปลูกง่าย เก็บไว้นาน”

อันไป๋เล่อเลือกซื้อเมล็ดฟักทอง มันม่วง ต้นหอม ผักชี และผักกาด รวมทั้งถั่วลิสงสำหรับคั่วกิน และผักอีกหลายชนิดที่นางเองก็ไม่รู้จัก

แสงแดดยามสายปลายตลาดทำให้บรรยากาศอบอุ่น  ไป๋เล่อเงยหน้ามองท้องฟ้าแล้วพูด  “พวกเราไปหาที่นั่งพักสักหน่อยเถอะ”

 อันไป๋เล่อเดินเลียบทางเดินหินกรวดมายังตรอกด้านในของตลาด

ที่นั่น มีร้านชาเก่าแก่ชื่อ “เรือนหอมลึก” ตั้งอยู่เงียบ ๆ ใต้ร่มไม้ใหญ่  แม้ไม่ใช่ร้านหรูหรา แต่มักมีผู้คนแวะเวียนมานั่งพัก ดื่มชา พูดคุย หรือรอขบวนสินค้าจากต่างเมือง

พอนางก้าวเข้าไปในร้านชา  ประตูไม้บานเลื่อนเปิดออก กลิ่นชาจาง ๆ ก็โชยออกมาต้อนรับ

กลิ่นอบอุ่นของชาอบใบพีชและกลิ่นจาง ๆ ของอบเชยลอยแตะปลายจมูกอย่างนุ่มนวล

หญิงสาวคลี่ยิ้มอย่างรู้สึกอบอุ่น นางเลือกมุมนั่งติดหน้าต่าง

แสงแดดอ่อนลอดผ่านม่านโปร่งสีน้ำตาลทองสะท้อนเงาไม้ไหวพลิ้วลงบนโต๊ะไม้เก่า

บรรยากาศเงียบสงบ มีเพียงเสียงช้อนกระทบถ้วยชาและบทสนทนาเบา ๆ จากมุมห่าง

“ยกชาดอกเหมยอุ่น ๆ มาให้ข้าชุดหนึ่ง”  อันไป๋เล่อเอ่ยเสียงเบา พลางวางตะกร้าผักลงข้างตัว

เด็กชารับคำแล้วหายไป

อาเหมยมองรอบ ๆ อย่างตื่นเต้นเล็กน้อย เพราะไม่คุ้นกับการที่เจ้านายจะนั่งพักในที่แบบนี้

“คุณหนู...เอ่อ ท่านไม่ร้อนหรือเจ้าคะ?”

“อากาศกำลังดี”

อันไป๋เล่อตอบพลางทอดสายตามองผู้คนเดินผ่านไปมา

นางไม่ได้เร่งรีบ  ตรงกันข้าม ทุกย่างก้าวของชีวิตตอนนี้ 

กลับเรียบง่ายกว่าที่เคยเป็น

ครู่หนึ่ง ชาก็ถูกนำมาวางตรงหน้า

ไอน้ำหอมกรุ่นลอยคลุ้ง นางยกถ้วยขึ้นจิบเบา ๆ รสชาติหอมอ่อนโยนของดอกเหมยแห้งไหลผ่านลำคออย่างนุ่มละมุม  หากมีขนมปังหรือขนมอบสักชิ้น...กินคู่กับชาร้อน ๆ แบบนี้ คงจะดีไม่น้อย”

ความคิดนั้นทำให้นางยกสายตาเรียกเด็กรับใช้

“เสี่ยวเอ๋อร์...ที่นี่มีขนมอะไรบ้าง?”

เด็กรับใช้หันมามองอย่างกระตือรือร้น   “วันนี้มีขนมถั่วเขียว ขนมงาดำ ขนมเปี๊ยะไส้ถั่วแดง และขนมแตงโมแห้งขอรับ”

“เอามาให้ข้าอย่างละชุด”

“ได้ ๆ ขอรับ”

ที่นี่ไม่เพียงขายน้ำชาและขนมว่าง หากยังมีใบชาและอุปกรณ์ชงชาหลากชนิดวางเรียงรายอยู่ในตู้ไม้เคลือบเงา บางชิ้นแกะสลักลวดลายวิจิตรจนอดมองนานไม่ได้

ในขณะที่รอขนม อันไป๋เล่อก็ลุกขึ้นเดินดูชั้นวางอุปกรณ์ด้วยแววตาสนอกสนใจ นิ้วเรียวลูบผ่านด้ามช้อนไม้ไผ่และตะกร้อตีชาที่ทำจากเส้นไม้ละเอียด  ด้านข้างมีที่บดหินอยู่ด้วย

นางเผลอหลุดพึมพำกับตัวเองเบา ๆ

“นี่...คงไม่ใช่อุปกรณ์ชงมัทฉะหรอกนะ?”  อาเหมยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ทำหน้างงทันที ไม่เข้าใจว่ามัทฉะที่คุณหนูพูดถึงคืออะไร

อันไป๋เล่อหันกลับไปมองเด็กรับใช้ของร้านที่กำลังยืนประสานมือรอรับคำสั่ง นางเอ่ยถามอย่างสุภาพ  “ของพวกนี้เจ้าขายอย่างไร”

เด็กรับใช้ยิ้มรับ พลางก้าวเข้ามาใกล้  “ชุดละห้าสิบตำลึงขอรับ”

อาเหมยถึงกับอุทานในใจ ของพวกนี้แพงถึงเพียงนี้เชียวหรือ!

ไป๋เล่อมองอุปกรณ์ตรงหน้าอย่างพินิจ ก่อนเอ่ยต่อ  “แล้วถ้าซื้อรวมกับใบชา ลดราคาได้หรือไม่”

เด็กรับใช้พยักหน้าเร็ว  “ได้ ๆ ขอรับ ชาพวกนี้มาจากหนานจิน เป็นชารสเลิศหอมกลมกล่อม ขายราคาชั่งละสิบตำลึงและแถมชาเหมยให้หนึ่งชั่งขอรับ”

ไป๋เล่อยกมุมปากนิด ๆ  “ถ้าเช่นนั้น ข้าขอชุดชงชาพวกนี้หนึ่งชุด และชาอย่างที่เจ้าว่าหนึ่งชั่ง...แล้วขอที่ร่อนผ้าไหมด้วยหนึ่งชิ้น”

เด็กรับใช้รีบโค้งรับคำด้วยสีหน้ายินดี ก่อนเดินไปจัดของให้         อาเหมยจึงเอ่ยขึ้น 

อาเหมยมองไปรอบ ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจ  “ข้าว่าร้านชาด้านในเมืองน่าจะมีชาอีกหลายแบบให้เลือกนะเจ้าคะ”

ไป๋เล่อหัวเราะเบา ๆ พลางวางถ้วยชาลง  “ข้าว่าที่นี่ก็ดีไม่น้อยนะ…บรรยากาศสงบดี”

ไม่นาน เสี่ยวเอ๋อร์ก็ยกขนมอบหอมกรุ่นมาวางบนโต๊ะ

ไป๋เล่อพยักหน้าให้อาเหมย

“นั่งลงสิ มากินด้วยกัน”

อาเหมยยิ้มเก้อ ๆ ก่อนจะค่อย ๆ นั่งลง ทั้งสองนั่งจิบชา กินขนมพลางพูดคุยอย่างสบายใจ

ไป๋เล่อค่อย ๆ ชิมพลางพยายามเข้าใจรสชาติของขนมในยุคนี้  ไม่นานขนมก็หมด เมื่อท้องเริ่มอิ่ม ไป๋เล่อก็เอ่ยขึ้น

“ก่อนฟ้ามืด เราแวะซื้อของกินมื้อเย็นกลับไปเถอะ”

อาเหมยรับคำ ทั้งคู่จึงพากันออกจากร้าน หอบหิ้ววัตถุดิบกลับเรือน ท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเย็นที่เริ่มคลี่คลุมเมืองอี้โจวอย่างอ่อนโยน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อนุตัวร้ายขอทำสวน   ตอนที่ 109 อิสระที่ห่างไป

    ตอนที่ 109 อิสระที่ห่างไปเรือนพักของอันไป๋เล่ออบอวลด้วยกลิ่นน้ำหอมที่นางกลั่นเมื่อคืน สายแดดยามสายลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาแตะปลายผมของนางที่ยังยุ่งเล็กน้อยเพราะเพิ่งตื่นหลังจากดื่มจนเมามายเมื่อคืนอาเหมยบิดผ้าชุบน้ำอุ่นแล้วช่วยเช็ดใบหน้าให้นาง พลางเอ่ยอย่างระมัดระวัง “เมื่อเช้า…มีราชโองการไปถึงจวนตระกูลเผยแล้วนะเจ้าค่ะ ตอนนี้ท่าน…คือพระชายาเอกแห่งจวนซินอ๋องอย่างเป็นทางการแล้ว”ไป๋เล่อชะงักเงยหน้า ดวงตาที่ยังพร่าเพราะง่วงวูบเบิกกว้างขึ้นทันที“มีราชโองการแล้วหรือ? เหตุใดถึงรีบเร่งถึงเพียงนี้…อิสระของข้า…กำลังจะหายไปแล้วจริง ๆ”ไป๋เล่อพึมพำแผ่วเบา ดวงหน้านวลสะท้อนความเวทนาปนเสียดายเพราะนางรู้ดี นับจากวันนี้เป็นต้นไป แม้เผยกู้หยางจะไม่เอ่ยห้าม ไม่เคยตำหนิในสิ่งที่นางทำแต่ความเป็น “ซินอ๋อง” ที่ประทับตราบนตัวเขา…ย่อมหมายถึงพันธนาการที่พัวพันมาถึงนางด้วยนางยกมือแตะแก้มที่เย็นชืดเบา ๆแววตาเจือความขื่นขมและยอมรับในชะตา“ต่อจากนี้…ข้าคงจะทำตามใจเช่นเดิมไม่ได้แล้วจริง ๆ”อาเหมยลอบถอนหายใจเบา ๆ ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงระมัดระวัง แต่ก็แฝงความเป็นห่วงอย่างจริงใจ“วันนี้…หากท่านพอมีแรง ข้

  • อนุตัวร้ายขอทำสวน   ตอนที่ 108 การยอมรับ

    ตอนที่ 108 การยอมรับช้าวันถัดมาแสงแรกยังไม่ทันส่องเต็มลานหิน ข่าวใหญ่ก็แพร่สะพัดราวไฟลามป่าไปทั่วเมืองหลวงอย่างรวดเร็วข่าวลือที่ว่ากลายเป็นความจริงผู้คนไม่จำเป็นต้องคาดเดาอีกต่อไปเพราะราชสำนักส่งราชทูตถือผืนแพรแดงปักลายมังกรทองมาถึงหน้าจวนแม่ทัพเผย ตั้งแต่รุ่งสางเสียงประกาศราชโองการดังขึ้นชัดถ้อยชัดคำสะท้อนก้องไปทั่วตรอกซอกซอยที่ยังไม่ทันตื่นเต็มที่ราชทูตยกผืนแพรขึ้นเหนือศีรษะ อ่านด้วยน้ำเสียงดังกังวาน“โดยพระราชประสงค์แห่งฮ่องเต้ กู้เสียนหรง ทรงมีพระราชดำริให้โอรสผู้กำเนิดจากสายเลือดแท้ ผู้ถูกเลี้ยงดูนอกวังด้วยเหตุแห่งความจำเป็นในอดีต คือ เผยกู้หยาง ได้รับการแต่งตั้งเป็น ‘ซินอ๋อง’“ด้วยตำแหน่งอ๋องที่ตั้งขึ้นใหม่ทรงแต่งตั้งอันไป๋เล่อ ให้ดำรงตำแหน่งพระชายาเอกแห่งซินอ๋องและแต่งตั้งหวังเจียงจิงให้ดำรงตำแหน่งชายารองแห่งซินอ๋องให้ทั้งสองดูแลกิจการในตำหนักซินอ๋องตามระเบียบราชสำนักและเป็นเกียรติแก่ตระกูลของทั้งสองสืบไป”ขันทีหลวงเอ่ยราชโองการจนสิ้นทุกถ้อยคำ ก่อนจะยื่นม้วนผ้าไหมสีทองให้เผยกู้หยางก็ก้าวออกมารับด้วยท่วงท่าสงบนิ่งเมื่อเขาประคองราชโองการไว้ในมือ ขันทีก็ผ่อนลมหายใจเบา ๆ

  • อนุตัวร้ายขอทำสวน   ตอนที่ 107 จบลงเช่นนั้น

    ตอนที่ 107 จบลงเช่นนั้นเผยกู้หยางยกมือเรียกเปาอันเสียงต่ำ“ไปนำพิณของข้ามา”ไม่นาน พิณไม้แกะลายงามก็ถูกนำมาวางลงเบื้องหน้า เขาลูบคันพิณเบา ๆ ก่อนจะนั่งลงยืดหลังสง่างามสายพิณถูกรั้ง รัวแผ่วเป็นท่วงทำนองแรกเสียงพิณใสราวหยาดน้ำแข็งละลายแตะลงบนอากาศเงียบงันอย่างนุ่มนวลไป๋เล่อที่กำลังผสมสุราอยู่ถึงกับหยุดชั่วครู่ราวกับทุกหยดเสียงกำลังแตะลงกลางห้วงใจนางนางสูดลมหายใจแผ่ว ๆ “ท่านเล่นได้งดงามยิ่งนัก”เผยกู้หยางปรายตามองนางคล้ายจะยิ้ม แต่ยังไม่เอื้อนเอ่ยท่วงทำนองยังคงไหลพลิ้ว ไม่รีบร้อน ไม่ช้าเกินไปไป๋เล่อลงมือชงสุราต่อเนื่องมือเรียวขาวขยับคล่องแคล่ว บดดอกเหมยในถ้วยรินสุรา หยดน้ำผึ้งเพียงปลายช้อนแล้วใช้ข้อมือหมุนถ้วยเบา ๆ ให้ของเหลวผสมเข้ากันเสียงสายพิณพลันเปลี่ยนจังหวะดึงยาว ลึก และกังวานคล้ายจะตอบรับจังหวะการเคลื่อนไหวของนางโดยไม่ได้นัดหมายไป๋เล่อหัวเราะแผ่ว มุ่นคิ้วในท่าทีหยอกล้อความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมผุดวาบขึ้นมาเหมือนม่านบางที่ถูกเปิดออก เพลงพิณของเขาผสานกับฤทธิ์สุรายิ่งพาให้ร่างกายเบาไร้น้ำหนักนางลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปกลางลานเรือนที่ถูกแสงตะเกียงแตะวาบชายกระโปรงพลิ

  • อนุตัวร้ายขอทำสวน   ตอนที่ 106 รักษาแผลใจ

    ตอนที่ 106 รักษาแผลใจไป๋เล่อเห็นชายหนุ่มเงียบงัน ดวงตานิ่งลึกจนยากจะอ่านความคิดนางจึงลดน้ำเสียงลงให้อ่อนโยน ราวกับจะปลอบประโลมบางสิ่งที่เขาไม่เอ่ยออกมา “เหยาเอ๋อร์เป็นเด็กดี…ทำสิ่งใดก็มักคำนึงถึงผู้อื่นก่อนเสมอ เมื่อเติบโตขึ้น เขาจะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด”นางเอ่ยเบา ๆ คล้ายลมพัดผ่านปลายผม “ทั้งความลำบากใจของท่าน และของนางผู้นั้นที่จากไป...ข้าเชื่อ..เขาจะไม่กล่าวโทษใครทั้งนั้น”เผยกู้หยางเงยหน้าขึ้นช้า ๆ ขยับปลายนิ้วเล็กน้อย เดินตรงไปยังโต๊ะเตี้ยด้านข้าง แล้วนั่งลงอย่างเงียบสงบ เปาอันรีบก้าวเข้ามา วางไหสุราขนาดใหญ่สองสามไหไว้ตรงหน้าเจ้านาย ก่อนค้อมศีรษะถอยไป เผยกู้หยางยกไหหนึ่งขึ้น แค่ยกก็ได้กลิ่นแรงทะลุฝาเขาเอ่ยเสียงต่ำทุ้ม กลิ่นเย็นของความนิ่งสงบแฝงอยู่ในน้ำเสียงนั้น“เห็นว่าเจ้าต้องการสุราแรง ๆ… ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่าเจ้าจะเอาไปทำสิ่งใด แต่ข้าก็ให้คนไปหาไว้ไม่น้อย”ไป๋เล่อหลุบตาลงเล็กน้อยเหลือบมองไหสุราหลายใบที่วางเรียงอยู่ตรงมุมโต๊ะ การเปลี่ยนเรื่องอย่างกะทันหันของเขาทำให้นางอดหัวเราะเบา ๆ ไม่ได้เสียงหัวเราะนั้นอ่อนนุ่มดุจสายลมเฉียดผ่านกลีบดอกไม้ ทำให้บรรยากาศภายในเรือนอ

  • อนุตัวร้ายขอทำสวน   ตอนที่ 105 ลำบากใจ

    ตอนที่ 105 ลำบากใจเผยซ่งเหยาเดินเข้ามาหาไป๋เล่ออย่างช้า ๆ ก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าโดยไม่ลังเล ท่วงท่านั้นเต็มไปด้วยความหนักแน่นเกินกว่าวัย ดวงตากลมใสจ้องมองมารดาอย่างลึกซึ้งจนไป๋เล่อใจสั่นวูบเสียงของเขาแผ่วเบา แต่ชัดเจนดุจคมมีด“เมื่อก่อน…ข้าดีใจมากเหลือเกินที่มีท่านแม่อยู่กับข้า ความยินดีนั้นบดบังความผิดแปลกหลายอย่างที่ข้าควรสังเกต”เขาหยุดหายใจสั้น ๆ ราวกับกำลังข่มใจ “ข้าเฝ้ามองท่านแม่มาตั้งแต่ข้ายังเล็กที่สุด…การพูด การเดิน สีหน้าท่าทาง ทุกอย่างของท่าน ข้าล้วนจำได้ขึ้นใจ”แววตาของเด็กชายสั่นวูบหนึ่ง แต่ยังไม่ละไป“และนับวัน…ท่านก็ยิ่งไม่เหมือนเดิม”ไป๋เล่อสะอึก หัวใจเต้นแรงจนเจ็บหน้าอกซ่งเหยาเม้มปากก่อนเอ่ยต่อ“เดิมที ข้าคิดว่าข้าคิดมากเกินไป แต่ทุกครั้งที่ข้ามองท่านแม่ ข้า…กลับยิ่งแน่ใจว่าอะไรบางอย่างเปลี่ยนไป”สายลมเย็นพัดเข้ามาทางหน้าต่าง พาให้ม่านไหวเบา ๆ แต่ความเงียบภายในเรือนกลับหนักอึ้งจนอึดอัดจนกระทั่งซ่งเหยาเอ่ยประโยคสุดท้ายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“ความสงสัยทั้งหมด…ถูกยืนยันในวันที่ข้าเห็นพวกนักพรตทำพิธีส่งวิญญาณที่เรือนไผ่แห่งนั้น”ไป๋เล่อหลับตาเพียงเสี้ยวอึดใจ ก่อนเอ่ยออ

  • อนุตัวร้ายขอทำสวน   ตอนที่ 104 ส่งวิญญาณ

    ตอนที่ 104 ส่งวิญญาณเจียงจิงก้าวขึ้นรถม้าได้ไม่นาน อาเหลียนก็รีบตามขึ้นมานั่งเคียงข้าง ใบหน้าซีดเล็กน้อยด้วยความกังวล ก่อนเอ่ยถามเสียงเบาแต่สั่นเครือ“ฮูหยินรอง…เรื่องนี้เชื่อถือได้หรือเจ้าคะ?”คำถามนั้นทำให้บรรยากาศภายในรถม้าสะท้อนความตึงเครียดทันทีเจียงจิงหันไปมองสาวใช้อย่างจริงจัง ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงกึ่งตำหนิ“ที่ก่อนหน้านี้นางไม่พูด ก็เพราะยังไม่มั่นใจในข่าว หากข้าไม่ถามด้วยตนเอง นางก็คงไม่กล้าเอ่ยปากส่งเดช เจ้าอย่าได้แคลงใจไป๋เล่อเด็ดขาด”อาเหลียนสะดุ้ง รีบก้มศีรษะลงแทบจะชิดตักของตนเอง“บ่าวผิดไปแล้วเจ้าค่ะ! บ่าวมิได้ตั้งใจหมิ่นน้ำใจฮูหยินใหญ่ บ่าวเพียงแต่…กังวล เพราะเรื่องนี้มันช่างน่าเหลือเชื่อเกินไปจริง ๆ”เจียงจิงถอนหายใจเบา ๆ ราวกับเพิ่งระงับความสั่นไหวในอกได้เล็กน้อย นางรู้ดีว่าอาเหลียนหาได้คิดร้าย เพียงแต่ตกใจกับความจริงที่เหนือความคาดหมายไปไกล“ข้าเองก็ไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนี้ แต่ไป๋เล่อ…ถึงแม้เรื่องนี้จะผิดพลาดขึ้นมาสักประการ นางก็ไม่มีวันคิดร้ายต่อข้าเด็ดขาด”นางหยุดไปชั่วครู่ ก่อนเอ่ยประโยคที่แฝงรอยยิ้มบางในน้ำเสียง“อีกอย่าง หากพูดถึงเรื่องเหลือเชื่อ…สำหรับไป๋เล่อแล

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status