LOGINระหว่างที่ยืนต่อแถวรอคิวซื้อข้าวกลางวันที่ร้านประจำ ฉันก็เกิดนึกสนุกอยากจะทักไปหาใครบางคนสักหน่อย ไม่ได้คุยกันตั้งหลายวันจะคิดถึงกันบ้างรึป่าวก็ไม่รู้
แต่ก็ทำได้แต่คิดไม่รู้จะพิมพ์ไปว่าอะไรดี นี่ก็ยืนเปิดหน้าแชทของเขกดพิมพ์กดลบเป็นสิบๆ รอบแล้ว สงสัยต้องลองหาคอนเทนต์วิธีจีบผู้ชายมาศึกษาซะหน่อยแล้วสิ phalan.pl : ไม่สั่งข้าว? "หืม รู้ได้ไงอะ" ข้อความที่เขาส่งมาถูกอ่านทันทีเพราะฉันยังคงค้างหน้าแชทของเขาไว้อยู่ ว่าแต่...เขารู้ได้ยังไงว่าฉันกำลังจะสั่งข้าว แน่นอนว่าฉันไม่ปล่อยให้ความสงสัยนี้หลุดลอยไป หันซ้ายมองขวาหาว่าที่แฟนเพราะคิดว่าเขาต้องอยู่ในโรงอาหารนี้แน่ "หนู สั่งเลยลูก" แต่ยังไม่ทันได้มองหาครบทุกมุมเลย คุณป้าร้านอาหารตามสั่งก็เรียกคิวฉันแล้ว "อะ อ่อ ค่ะ ค่ะ" กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เพราะงั้นเรื่องผู้ชายต้องพับไว้ก่อน "กะเพราหมู ไข่ดาวกรอบๆ หนึ่งค่ะ ขอเผ็ดๆ นะคะคุณป้า" "สองครับ" "ได้ลูก" "หืม เสียงคุ้นจัง" แถมกลิ่นน้ำหอมก็คุ้นมากด้วย ถึงจะเจอกันเพียงหนึ่งครั้งฉันก็จำทุกรายละเอียดเกี่ยวกับเขาได้ดี และใช่! คนตัวโตที่ยืนอยู่ข้างหลังเป็นเขาจริงๆ ฉันเลยส่งยิ้มหวานไปให้อย่างจริงใจ แต่เขากลับหลุบตามามองแล้วดึงสายตากลับอย่างเย็นชา ทำฉันหุบยิ้มแทบไม่ทันเลย "..." "มาได้ไงอะ" "เดินมา" ดูเขาตอบสิ ทำไมถึงได้กวนประสาทขนาดนี้เนี่ย! "บ่ายมีเรียนมั้ย" "..." อีกแล้ว ทำหน้าหุ่นยนต์ใส่อีกแล้วนะ คนอุตส่าห์ชวนคุย เชอะ! เพราะตรงที่ยืนเป็นที่สาธารณะฉันเลยพาตัวเองกลับมายืนกอดอกรอผัดกะเพราจานโปรดคนเดียวเงียบๆ ไม่สนใจคนใจร้ายด้านหลังอีก ขืนต่อปากต่อคำด้วยต่อมีหวังได้เรียกความสนใจจากคนอื่นๆ ให้หันมามองแน่ ฉันก็สวย ส่วนเขาก็ทั้งหล่อทั้งเป็นหนุ่มฮอต แน่นอนว่าต้องเป็นที่สนใจจากผู้คนในระดับหนึ่งอยู่แล้ว "ได้แล้วลูก" "แสกนจ่ายเรียบร้อยค่ะ" ฉันแสกนคิวอาร์โค้ดตรงตู้กระจกจ่ายค่าข้าวและโชว์หน้าจอหลักฐานการโอนเงินให้คุณป้าเจ้าของร้านดูพร้อมกับเสียงแจ้งเตือนเงินเข้าที่คุณป้าตั้งค่าไว้แสดงว่ายอดเงินที่ฉันโอนถูกต้องและจ่ายเรียบร้อยแล้ว คุณป้าก็ทันสมัยเหมือนกันนะเนี่ย แต่ในจังหวะที่ฉันกำลังเอื้อมไปหยิบกะเพราถาดบนหลังตู้กระจก จู่ๆ ก็มีแขนแกร่งยื่นมาใกล้มาเรียกว่าเฉียดหน้าเลยก็ว่าได้ แถมแย่งถาดข้าวกะเพราของฉันไปถือไว้อีก ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ว่าที่แฟนของฉันนี่แหละ ฉันเลยต้องรีบหยิบอีกถาดที่คุณป้าเพิ่งวางให้มาถือไว้ก่อนจะปลีกตัวไปตักพริกน้ำปลาใส่ถ้วยเล็ก ซึ่งเขาก็ทำแบบเดียวกับฉันมายืนข้างกันวางถาดกะเพราลงบนโต๊ะตักพริกน้ำปลาใส่ลงบนไข่ดาวเล็กน้อย ก่อนจะอ้อมแขนแกร่งผ่านแผ่นหลังของฉันโน้มตัวเล็กน้อยเพื่อจะหยิบช้อนส้อมที่อยู่ฝั่งข้างฉัน ถ้าใครมองจากด้านหลังภาพที่เห็น คงคิดว่าเราเป็นคู่รักยืนโอบเอวกันแน่นอน ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมเขาถึงกวนประสาทฉันได้ขนาดนี้ แต่ไม่เป็นไรหรอก คิดซะว่ารักหรอกจึงหยอกเล่น เพราะงั้นขอหยอดให้พอยุบยิบหัวใจสักหน่อยละกัน "ใกล้ขนาดนี้ไม่หอมแก้มกันเลยหล่ะ" "ใครอยากหอมเธอ" "แต่ฉันอยากหอมนาย" "ตัวเท่าอก" ไม่ว่าแค่นั้น เขายังยืดตัวยืนหลังตรงเต็มความสูงยกยิ้มมุมปากมองอย่างเจ้าเล่ห์ นี่เขาว่าฉันเตี้ยหรอ? ปากร้ายขนาดนี้ ถ้าเป็นแฟนกันเมื่อไหร่จะกัดปากให้สักที คอยดูเถอะ! ผมทิ้งเธอให้ยืนทำหน้าเอ๋ออยู่ที่เดิม แล้วเดินถือถาดข้าวมาหาเพื่อนที่โต๊ะซึ่งไอ้พายกับไอ้เฟิร์สนั่งเล่นเกมส์รออยู่ก่อนแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเพราะบังเอิญโต๊ะนี้ว่างพอดีหรือว่าเพื่อนของผมจงใจเลือกมานั่งกันแน่ แต่ดูจากคนที่นั่งโต๊ะข้างๆ แล้ว น่าจะเป็นเพราะเหตุผลหลังมากกว่า "นานจังวะ" ไอ้เฟิร์สละสายตาจากจอสี่เหลี่ยมและเก็บลงใส่กระเป๋ากางเกง ไม่ต่างจากไอ้พาย "คนเยอะ" "น่ากินหว่ะ พรุ่งนี้กูกินแบบมึงดีกว่า" "มึงอยากมาส่องสาวอะดิ" "ไอ้พาย มึงไม่ต้องพูด" ผมปล่อยให้ไอ้สองคนนั่งเถียงกันไปไม่สนใจร่วมวงเถียงด้วย เพราะทั้งไอ้พายไอ้เฟิร์สก็ต่างผีเห็นผี ความสนิทของพวกเราสามคนแค่อีกฝ่ายอ้าปากก็เดาได้ว่าคิดอะไรอยู่ เพราะงั้น มื้อกลางวันในวันพรุ่งนี้คือที่นี่ โรงอาหารของเด็กนิเทศน์เหมือนเดิม "คุณแพรนวล คุณพริบพราวมาแล้วค่ะ" "นานมาก...ก" เสียงหวานดังอยู่ไม่ไกล หยุดยืนอยู่ด้านหลังที่ผมนั่งเลยนั่นแหละ เพราะโต๊ะข้างๆ ที่ผมว่า คือโต๊ะที่เพื่อนของเธอนั่งจองรอเธอมานั่งด้วยกัน "sorry sorry คนเยอะมากเลย" ขาสั้นหน่ะสิไม่ว่า! คนตัวเล็กหย่อนสะโพกนั่งลงเก้าอี้ว่างข้างกัน เหมือนจะยังไม่รู้ตัวว่าคนที่เธอบอกอยากหอมแก้มนั่งอยู่ตรงนี้ด้วย หรืออาจจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ก็ได้ "แกชิมมั้ย คุณป้าทำอร่อยมาก" เธอเลื่อนกะเพราถาดให้เพื่อนตักชิมได้สะดวก "ไหนๆ ขอชิมหนึ่งคำ" "หืม แก แซ่บมาก" "แซ่บเหมือนฉันไง อิอิ" หึ ขายของเก่งซะด้วย #อ่านเพลินๆ สบายๆ กันเหมือนเดิมค่ะดูความประพฤติสามวันของเมียตัวแสบก็คือ หลังจากที่ผมลักพาตัวเธอกลับมากินเค้กด้วยกันที่คอนโด ผมก็ไม่ได้นอนกอดร่างนุ่มนิ่ม เพราะเธอกลับไปนอนที่คอนโดของเธอ ปล่อยให้ผมนอนไม่หลับอยู่คนเดียวที่ห้อง แล้วผมจะทำอะไรได้ นอกจากแอบเถียงคนเดียวอยู่ในใจ...โคตรจะใจร้ายวันนี้ผมเลยรีบอาบน้ำแต่งตัวออกจากห้องตั้งแต่เช้ามืด แวะซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งเจ้าอร่อยและน้ำเต้าหู้สำหรับเราสองคนตรงไปหาเธอที่ห้องตั้งแต่ยังไม่เห็นแสงรับอรุณ ถือวิสาสะแอบเปิดประตูเข้าไปจัดการวางทุกอย่างในมือบนโต๊ะกินข้าวขนาดเล็ก แล้วพาตัวเองมานอนกอดคนขี้เซาบนเตียงภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน โดยที่เธอก็ขยับตัวเข้ามาซุกหน้าลงตรงแผงอกทันทีราวกับกำลังรอให้ผมมานอนกอดอย่างไงอย่างนั้น แต่จะตื่นมาโวยวายทีหลังหรือเปล่านั้น ผมตอบอย่างมั่นใจได้เลยว่า...หูชาแน่นอน"นาย เข้ามาได้ยังไงเนี่ย" "เปิดประตู" "โอ้ย!" แล้วนิ้วเล็กเล็กของยัยแม่มดก็หยิกลงเนื้อต้นแขนแกร่งเข้าอย่างจังทันทีที่ตากลมโตตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงโวยวาย จนผมแทบอยากจะหยิกคืนตรงตำแหน่งที่ทำให้ใจสั่นไหวด้วยความมันเขี้ยว แต่เพื่อไม่ให้โทษที่มีเพิ่มขึ้นไปมากกว่านี้ เพราะงั้
"..." ผมยกข้ออ้างจากรอยแดงบนหลังมือพร้อมกับแสดงอาการเจ็บปวดผ่านสีหน้าเหมือนว่ากำลังเจ็บมากราวกับจะทนไม่ไหวให้เธอยอมใจอ่อนเดินไปหาอุปกรณ์ทำแผลและยาทามานั่งลงข้างๆ กัน ก่อนที่สองมือเล็กจะค่อยๆ ประคองมือใหญ่ข้างที่เจ็บของผม เทแอลกอฮอล์สำหรับล้างแผลลงบนสำลีแล้วเอามาเช็ดบริเวณรอบๆ รอยบวมแดงอย่างใส่ใจ แล้วใช้สองนิ้วเรียวสวยค่อยๆ ลูบวนทายาให้อย่างเบามือ แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าสวยๆ ก็ยังคงง้ำงอเบะปากเล็กๆ คว่ำจนผมอยากจะกัดสักทีให้หายมันเขี้ยวกึก! จุ๊บไวเท่าความคิดผมก็โน้มหน้าก้มลงไปกัดปากสีแดงหนึ่งทีอย่างท้าทายอำนาจมืด ก่อนจะกดปากจูบตรงที่เดิมโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว ทำตากลมโตถลึงตาใส่นัยน์ตาเป็นเปลวไฟราวกับจะแผดเผาผมให้ไหม้เกรียมเสียอย่างนั้น เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมป๊าถึงไม่อยากทำให้มามี๊โกรธ"กลับไปได้แล้ว" "ไม่กลับ" ผมใช้สองแขนแกร่งรวบตัวคนตัวเล็กที่กำลังเตรียมจะลุกเดินหนีจนเซมานั่งบนตักแกร่ง"ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ" ทำเธอแสดงท่าทีเหมือนม้าพยศพยายามดิ้นไปดิ้นมาเพื่อให้หลุดจากพันธนาการของผม "จิ๊" แน่นอนว่าผมไม่มีทางยอมเด็ดขาด ยิ่งร่างบางพยายามขยับตัวดิ้นเท่าไหร่ สองแขนแกร
แกร๊ก! "ยัยแพร ฉันกลับก่อนนะ" คนตัวเล็กวิ่งเข้ามาในห้องรับรองพยายามเก็บอาการน้อยใจที่มีไว้ข้างใน "อะ อ่าว เดี๋ยวฉันไปส่ง" แต่ยิ่งพยายามเท่าไหร่ก็เหมือนจะยิ่งปิดไม่มิด เพราะตากลมโตแดงก่ำเต็มไปด้วยน้ำใสใสที่พร้อมจะร่วงหล่นลงมา จนเพื่อนรักสังเกตเห็น"นาย เอากุญแจรถมา" เป็นแพรนวลที่หันไปขอกุญแจรถจากคนที่ไปรับเธอมา จัดแจงหยิบกระเป๋าสะพายและเสื้อผ้าของเพื่อน ก่อนจะเดินไปจูงมือเล็กออกจากห้องเงียบๆ ไม่แม้แต่จะแสดงความยินดีกับคนที่พึ่งได้รับรางวัลจากการแข่งขันเมื่อครู่ รู้เพียงแต่ว่าต้องพาเพื่อนรักออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด"..." ปลายนิ้วเรียวยาวพยายามยื่นไปสัมผัสมือเล็กอยากจะรั้งเธอให้อยู่ด้วยกันต่อ แต่เธอกลับเลื่อนมือไปจับกระเป๋าเหมือนเลี่ยงการสัมผัสจากผม เป็นผมเองที่เป็นคนทำนิสัยไม่ดีใส่เธอวันนี้ผมรอเธอมาเป็นกำลังใจตลอดทั้งวัน พยายามเข้าใจว่าเธอมีงานมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ รอเธออย่างใจเย็นทั้งๆ ที่เป็นคนไม่ชอบรอใคร จนกระทั่งเห็นเธอเดินออกมาจากข้างสนามในชุดที่มันทำให้หัวของผมร้อนจนแทบระเบิดออกมาเป็นไฟ เสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยเผยให้เห็นผิวขาวและเน้นทุกสัดส่วนที่ผม
"บี๋ เค้าไปก่อนนะ" "เค้าไปส่ง""ห๊ะ""อะ เอ่อ ไม่ต้องๆ เค้าไปเองได้ค่ะ" อีกแล้ว อีกแล้ว เกือบหลุดพิรุธให้เขาจับได้อีกแล้วยัยพริบพราวฟอดฉันรีบวิ่งเข้าไปกระโดดหอมแก้มใสของคนตัวสูงฟอดใหญ่ ก่อนจะรีบสะพายกระเป๋าพาตัวเองออกไปจากตรงนี้โดยเร็วที่สุด ขืนอยู่นานกว่านี้ มีหวังความลับที่ฉันพยายามเก็บเอาไว้ตลอดหลายวันได้ถูกเปิดเผยออกมาแน่ก็คนมันตื่นเต้นนี่นา ตื่นเต้นจนทำอะไรหรือพูดอะไรก็พาลทำให้ดูเลิ่กลั่กไปหมด"คุณพ่อขา ลูกสาวคนสวยมาแล้วค่ะ" "หึ มีอะไรให้พ่อช่วยมั้ย" "ไม่มีค่ะ ไม่มี" วัตถุดิบมากมายพร้อมสำหรับทำเค้กขนาดสองปอนด์ถูกวางลงบนโต๊ะไอส์แลนด์สีขาวสะอาดตาในห้องครัวบ้านคุณพ่อ สถานที่ที่ฉันใช้ทำของขวัญวันเกิดให้เขา เพราะมีทั้งเตาอบขนม ไหนจะอุปกรณ์ที่ครบครัน สำคัญที่สุดปลอดภัยจากสายตาคู่คมของเขาแน่นอน"คุณพ่อทานข้าวเช้าหรือยังคะ หนูแวะซื้อน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋มาฝากด้วยนะ" "พ่อกำลังอยากกินพอดีเลยลูก" "เดี๋ยวหนูจัดการให้ค่ะ" น้ำเต้าหู้หวานน้อยเพื่อสุขภาพพร้อมกับปาท่องโก๋และซาลาเปาทอดถูกจัดใส่จานเล็กสำหรับใส่ของว่างพร้อมเสิร์ฟ แน่นอนว่าฉันไม่ลืมที่จะนั่งทานมื้อเช้
"อร่อยมั้ย" ซี่โครงหมูผัดพริกชิ้นพอดีคำถูกตักวางลงในจานข้าวของคนตัวโตอย่างเอาใจ เป็นเมนูโปรดที่ฉันชอบขอให้คุณพ่อทำให้กินอยู่บ่อยครั้งเวลาที่ได้กลับบ้าน พอวันนี้คุณพ่อทราบว่าฉันจะแวะไปหาก็รีบเข้าครัวทำใส่กล่องเตรียมไว้ให้ฉันกล่องใหญ่ พร้อมกับข้าวสวยสำหรับสองคนและผัดบล็อคโคลีกุ้งสดตัวโตโตที่ทำให้เขาถึงกับเติมข้าวเป็นจานที่สอง"อร่อย"ดีใจจัง ที่เขาชอบรสมือของคุณพ่อจะว่าไปฉันแอบอยากชวนเขาไปนั่งกินข้าวที่บ้านของฉันสักครั้งนะ มีคุณพ่อแสดงฝีมือการทำอาหารแสนอร่อย นั่งกินกันพร้อมหน้าพูดคุยกันแบบผ่อนคลายเหมือนเวลาที่ฉันไปบ้านเขา ที่สำคัญอยากพาเขาไปแนะนำให้คุณแม่ได้รู้จักแฟนคนแรกของลูกสาวคนสวยคนนี้ด้วย"เสาร์นี้ เธอมีงานรึป่าว" "มีช่วงเช้าหน่ะ" งานที่ว่าก็คือ...แอบไปทำเค้กเซอร์ไพร์สเขานั่นแหละ"...""ทำไมเหรอ""เค้ามีแข่งรถ" โดนเซอร์ไพร์สกลับเข้าแล้วสิเรา"เสร็จแล้วเค้าจะรีบไปหาบี๋นะ" "..."แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะใครบางคนเอาแต่นิ่งเงียบไม่ยอมปริปากพูดแม้แต่คำเดียว ตั้งแต่ได้ยินว่าฉันมีงานทั้งๆ ที่เป็นวันคล้ายวันเกิดของเขา เอาแต่นั่งตักข้าวใส่ปากทำหน้างอนๆ เหมือ
"ฮัลโหลสาว ตั้งแต่มีแฟนนี่ยิ้มไม่หุบเลยนะ" "พูดเว่อมาก ใครจะยิ้มไม่หุบ" "ฉันไม่ได้บ้านะ" เบื่อจริงๆ เลยยัยเพื่อนคนนี้เนี่ย ตั้งแต่เดินเข้ามาในห้องเรียนก็เอาแต่นั่งแซวกันไม่หยุด ฉันแค่กำลังนั่งแชทคุยกับแฟนอยู่ก็เท่านั้นเอง ทีเรื่องของนางฉันยังไม่แซวเลย หรือจะแซวดี..."ได้ข่าวว่า มีผู้ชายหอบผ้ามาอยู่ด้วยหรอ""ข่าวเก่ามาก" ไม่เก่านะ แฟนฉันพึ่งเล่าให้ฟังเมื่อไม่กี่วันนี้เอง เอ๊ะ! หรือว่าจะเก่าไปแล้วจริงๆ เพราะมาลองนับดูแล้วนี่ก็ผ่านไปเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วนะ"อัพเดตมาบ้างเลยนะ" เรื่องของฉัน ยัยแพรนวลยังรู้เกือบทุกเรื่องเลย มีบางเรื่องเท่านั้นแหละที่ฉันไม่ได้เล่าให้เพื่อนฟัง เช่น ความแซ่บของเขาที่ฉันเก็บเอาไว้เป็นความลับของฉัน"ไม่ฟินเท่าเรื่องของแกหรอกจ๊ะเพื่อนรัก" นี่ฉันยังไม่ได้เล่าเลยนะ แล้วนางรู้ได้ยังไงว่าฉันฟินฉันไม่ทันได้ต่อล้อต่อเถียงเพื่อนต่อ อาจารย์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดก็เดินเข้ามาในห้องเรียนพร้อมแผ่รังสีที่ทำให้เสียงเจื้อยแจ้วกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานเงียบกริบพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายพากันหันไปสนใจจุดศูนย์กลางตรงหน้าชั้นเรียนด้วยความตั้งใจphalan.pl : กินอะไร เดี๋ยวเค้าซื้อไ







