LOGINแกร๊ก!
"ตายแล้ว!" เสียงของหญิงวัยกลางคนฟังคุ้นหูปลุกผมให้ลืมตาตื่นมามองว่าใครมาส่งเสียงดังรบกวนแต่เช้า แต่เสียงแบบนี้เหมือนมามี๊มาก "..." และใช่ เป็นมามี๊ตัวจริงเสียงจริงกำลังยืนมองผมสลับกับคนตัวเล็กข้างๆ "มามี๊ มาได้ยังไงครับ" ผมเลยต้องรีบดึงผ้าห่มผืนใหญ่ขึ้นมาคลุมตัวยุ่งจนมิด ก่อนจะยัดตัวขึ้นนั่งพิงหัวเตียงไม่หลงเหลือความงัวเงียให้มามี๊เห็น "ป๊ามาส่ง" "ไปแต่งตัวให้เรียบร้อย มามี๊จะรอข้างนอก" "..." "ปลุกน้องมาด้วยนะ และอย่าตุกติกกับมามี๊" แน่นอนว่ามามี๊ไม่ปล่อยผ่าน! "..." ผมยกมือขยี้ผมด้วยความหงุดหงิด มองตัวปัญหานอนไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่ใต้ผ้าห่ม จะอะไรซะอีก เพราะเมื่อคืนตัวยุ่งหลับน็อคกลางอากาศบนหน้าตักกอดคอซบไม่ห่าง แถมยังอ้วกใส่ทำให้ทั้งผมและเธอเลอะเทอะไปหมด ผมเลยจำเป็นต้องจัดการเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอ ใส่เสื้อยืดของผม และผมก็ไม่ได้สุภาพบุรุษพอที่จะหลับตาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอ เพราะกลัวว่าจะมองไม่เห็นจนมือพลาดไปโดนอะไรอะไรที่มันทั้งกลมทั้งขาวดูนุ่มมือจนห้ามใจไม่ไหวเผลอจับบีบเล่นตามประสาผู้ชายคนหนึ่ง ส่วนตัวผมเองหลังจากอาบน้ำเสร็จก็นอนถอดเสื้อเป็นปกติตามความเคยชินเหมือนทุกวันที่อยู่คนเดียว และภาพที่มามี๊เห็นก็คือ เธอนอนหนุนแขนกอดผมไว้แน่น จังหวะนรกสุดสุด "พาลัน ลูกลืมหรือเปล่าว่าพรุ่งนี้ตัวเองมีนัดกินข้าวกับคู่หมั้น" อ่อ มามี๊ยังไม่เห็นหน้าตัวยุ่งสินะ "ว่าที่ครับมามี๊ ยังไม่หมั้น" "ยังจะเถียง" ถ้าเทียบความน่ากลัวของป๊ากับมามี๊ ใครๆ ก็กลัวป๊าผมมากกว่า เพราะมามี๊ยิ้มง่ายพูดเพราะแล้วก็ใจเย็นมากกว่าป๊า แต่...เวลาโมโหใครก็เข้าหน้าไม่ติด เพราะงั้น เวลานี้นิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหวดีที่สุด จนกระทั่ง... "อะ เอ่อ สวัสดีค่ะ" ฉันตื่นขึ้นมาเพราะความปวดหัวและรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงคนคุยกัน และสัมผัสได้ถึงแรงเขย่าเรียกฉันให้ลุกขึ้น เป็นเขา 'พาลันว่าที่แฟนของฉัน' ตกใจเหมือนกันนะที่เราสองคนมานอนอยู่เตียงเดียวกันแบบนี้ แต่ก็เสียดายมากกว่าที่ตัวเองจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ได้เลยสักนิด ได้แซ่บกับผู้ชายทั้งทีดันจำอะไรไม่ได้เลยยัยพริบพราวเอ้ย... แต่ก็ช่างเถอะ! เขาให้เวลาฉันห้านาทีในการล้างหน้าแปรงฟันบอกให้รีบออกมาตรงห้องนั่งเล่น โดยไม่บอกเหตุผลให้ฉันได้เตรียมใจ ถึงอย่างนั้นฉันก็รีบทำตามที่เขาบอก รีบเข้าไปล้างหน้าล้างตาให้ตัวเองสดชื่น ก่อนจะเดินออกมาหาเขาตรงห้องนั่งเล่น ท่ามกลางบรรยากาศที่ดูเหมือนว่ากำลังครุกรุ่น มีเขานั่งหันหลังอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง มองจากตรงนี้ก็รู้ว่าต้องสวยมากแน่ๆ ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นชู้แล้วโดนแฟนเขาจับได้อย่างไงอย่างงั้นเลย หลังจากสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดให้ตัวเองพร้อมเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น สองขาเล็กก็ค่อยๆ ก้าวเข้าไปกล่าวทักทายผู้มาเยือนอย่างมีมารยาท เป็นไงเป็นกันวะพริบพราว "หนูพริบพราว!" หืม นี่คุณป้าเพียงขวัญแฟนคุณลุงอาลีผู้ที่เป็นทั้งเจ้านายและผู้ที่เคยช่วยชีวิตคุณพ่อนี่นา "สวัสดีค่ะคุณป้า" ฉันยกมือไหว้สวัสดีเจ้านายของคุณพ่ออีกครั้ง ก่อนจะเบี่ยงสายตาไปมองคนหน้านิ่งที่นั่งเป็นหุ่นยนต์อยู่ข้างๆ "ไหว้พระเถอะลูก" คุณป้าบอกให้ฉันไปนั่งข้างท่าน โดยใช้สายตาบังคับให้ลูกชายของท่านขยับแบ่งที่ให้ฉันนั่งด้วย แน่นอนว่าเขาไม่เต็มใจนักหรอก "ดีเลย งั้นพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องดูตัวกันแล้ว" "ดูตัวหรอคะ" ดูตัวอะไรกัน คุณพ่อแค่บอกว่าคุณลุงคุณป้านัดทานข้าวเพราะอยากเจอฉันนี่นา แล้วเป็นงานดูตัวได้ยังไงละเนี่ย "จ๊ะ ดูตัว กับพาลันคนนี้คู่หมั้นหนูไงลูก" "มามี๊ครับ" "เงียบนะพาลัน" คนหน้านิ่งจ้องฉันตาเขม่นมองกันอย่างคาดโทษเหมือนว่าฉันเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาโดนคุณป้าดุอย่างนั้นแหละ ฉันเลยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้นั่งยิ้มเบาเบาคุยกับคุณป้าต่อเพราะกลัวจะเสียมารยาท แค่เจอกันในสถานการณ์แบบนี้ก็คงไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่แล้ว และยิ่งถ้ารู้ถึงหูคุณพ่อมีหวังฉันได้ยืนเข้ามุมสำนึกความผิดจนขาแข็งแน่ เกือบครึ่งชั่วโมงที่คุณป้าถามทุกเรื่องราวที่ท่านอยากรู้ ส่วนใหญ่จะเป็นเกี่ยวกับงานที่ฉันทำมากกว่าเลยทำให้ฉันได้รู้ว่าที่จริงแล้วคนหน้ายักษ์รู้อยู่ก่อนแล้วว่ามีฉันเป็นว่าที่คู่หมั้นเพราะท่านส่งรูปฉันให้เขาดูทุกวัน มิหน่าละ! ฉันถึงรู้สึกว่าเข้าถึงตัวเขาได้ง่ายกว่าที่ยัยแพรนวลเล่าให้ฟัง ทักไปเขาก็ตอบถึงแม้ว่าจะดูไม่เต็มใจคุยด้วยก็เถอะ "เจอกันพรุ่งนี้นะลูก" "ค่ะคุณป้า" ทันทีที่ประตูปิดลง ฉันก็รู้สึกเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอกเลย ถึงคุณป้าจะใจดีกับฉันมากแต่ฉันก็เกร็งมากอยู่ดี เฮ้อ... "อะ อุ้ย ยิ้มหน่อยสิ ฉันตกใจนะ" จะไม่ให้ตกใจได้ยังไง ในเมื่อเขานั่งกอดอกจ้องฉันเหมือนอยากจะฉีกฉันออกเป็นชิ้นๆ ทำฉันอยากจะวิ่งออกไปเรียกขอให้คุณป้าพาฉันกลับไปด้วย "ระ เรื่องเมื่อคืน..." "เธอต้องรับผิดชอบ" "ห๊ะ?" "ซักผ้าในตะกร้าให้หมด" และผ้าที่เขาบอกคือเสื้อผ้าของฉันกับเขาที่ใส่เมื่อคืนเต็มไปด้วยวีรกรรมที่ฉันทิ้งเอาไว้ ทำฉันแทบอยากจะมุดหน้าหนีเพราะอายมากถึงมากที่สุดต้องก้มหน้าก้มตาซักผ้าคืนให้เขา แต่ที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าเขากำลังจงใจแกล้งกันก็เพราะ ว่าที่แฟนของฉันคนนี้ยกตะกร้าที่มีเสื้อผ้าของเขาใส่ไว้จนล้นออกมาให้ฉันซักอีกสองตะกร้านี่แหละ เอาวะ...ถ้าซักผ้าแล้วทำให้มีแฟน พริบพราวคนนี้สู้ตาย #เอ็นดู #PP กันบ้างรึยางงงงง😘ดูความประพฤติสามวันของเมียตัวแสบก็คือ หลังจากที่ผมลักพาตัวเธอกลับมากินเค้กด้วยกันที่คอนโด ผมก็ไม่ได้นอนกอดร่างนุ่มนิ่ม เพราะเธอกลับไปนอนที่คอนโดของเธอ ปล่อยให้ผมนอนไม่หลับอยู่คนเดียวที่ห้อง แล้วผมจะทำอะไรได้ นอกจากแอบเถียงคนเดียวอยู่ในใจ...โคตรจะใจร้ายวันนี้ผมเลยรีบอาบน้ำแต่งตัวออกจากห้องตั้งแต่เช้ามืด แวะซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งเจ้าอร่อยและน้ำเต้าหู้สำหรับเราสองคนตรงไปหาเธอที่ห้องตั้งแต่ยังไม่เห็นแสงรับอรุณ ถือวิสาสะแอบเปิดประตูเข้าไปจัดการวางทุกอย่างในมือบนโต๊ะกินข้าวขนาดเล็ก แล้วพาตัวเองมานอนกอดคนขี้เซาบนเตียงภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน โดยที่เธอก็ขยับตัวเข้ามาซุกหน้าลงตรงแผงอกทันทีราวกับกำลังรอให้ผมมานอนกอดอย่างไงอย่างนั้น แต่จะตื่นมาโวยวายทีหลังหรือเปล่านั้น ผมตอบอย่างมั่นใจได้เลยว่า...หูชาแน่นอน"นาย เข้ามาได้ยังไงเนี่ย" "เปิดประตู" "โอ้ย!" แล้วนิ้วเล็กเล็กของยัยแม่มดก็หยิกลงเนื้อต้นแขนแกร่งเข้าอย่างจังทันทีที่ตากลมโตตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงโวยวาย จนผมแทบอยากจะหยิกคืนตรงตำแหน่งที่ทำให้ใจสั่นไหวด้วยความมันเขี้ยว แต่เพื่อไม่ให้โทษที่มีเพิ่มขึ้นไปมากกว่านี้ เพราะงั้
"..." ผมยกข้ออ้างจากรอยแดงบนหลังมือพร้อมกับแสดงอาการเจ็บปวดผ่านสีหน้าเหมือนว่ากำลังเจ็บมากราวกับจะทนไม่ไหวให้เธอยอมใจอ่อนเดินไปหาอุปกรณ์ทำแผลและยาทามานั่งลงข้างๆ กัน ก่อนที่สองมือเล็กจะค่อยๆ ประคองมือใหญ่ข้างที่เจ็บของผม เทแอลกอฮอล์สำหรับล้างแผลลงบนสำลีแล้วเอามาเช็ดบริเวณรอบๆ รอยบวมแดงอย่างใส่ใจ แล้วใช้สองนิ้วเรียวสวยค่อยๆ ลูบวนทายาให้อย่างเบามือ แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าสวยๆ ก็ยังคงง้ำงอเบะปากเล็กๆ คว่ำจนผมอยากจะกัดสักทีให้หายมันเขี้ยวกึก! จุ๊บไวเท่าความคิดผมก็โน้มหน้าก้มลงไปกัดปากสีแดงหนึ่งทีอย่างท้าทายอำนาจมืด ก่อนจะกดปากจูบตรงที่เดิมโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว ทำตากลมโตถลึงตาใส่นัยน์ตาเป็นเปลวไฟราวกับจะแผดเผาผมให้ไหม้เกรียมเสียอย่างนั้น เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมป๊าถึงไม่อยากทำให้มามี๊โกรธ"กลับไปได้แล้ว" "ไม่กลับ" ผมใช้สองแขนแกร่งรวบตัวคนตัวเล็กที่กำลังเตรียมจะลุกเดินหนีจนเซมานั่งบนตักแกร่ง"ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ" ทำเธอแสดงท่าทีเหมือนม้าพยศพยายามดิ้นไปดิ้นมาเพื่อให้หลุดจากพันธนาการของผม "จิ๊" แน่นอนว่าผมไม่มีทางยอมเด็ดขาด ยิ่งร่างบางพยายามขยับตัวดิ้นเท่าไหร่ สองแขนแกร
แกร๊ก! "ยัยแพร ฉันกลับก่อนนะ" คนตัวเล็กวิ่งเข้ามาในห้องรับรองพยายามเก็บอาการน้อยใจที่มีไว้ข้างใน "อะ อ่าว เดี๋ยวฉันไปส่ง" แต่ยิ่งพยายามเท่าไหร่ก็เหมือนจะยิ่งปิดไม่มิด เพราะตากลมโตแดงก่ำเต็มไปด้วยน้ำใสใสที่พร้อมจะร่วงหล่นลงมา จนเพื่อนรักสังเกตเห็น"นาย เอากุญแจรถมา" เป็นแพรนวลที่หันไปขอกุญแจรถจากคนที่ไปรับเธอมา จัดแจงหยิบกระเป๋าสะพายและเสื้อผ้าของเพื่อน ก่อนจะเดินไปจูงมือเล็กออกจากห้องเงียบๆ ไม่แม้แต่จะแสดงความยินดีกับคนที่พึ่งได้รับรางวัลจากการแข่งขันเมื่อครู่ รู้เพียงแต่ว่าต้องพาเพื่อนรักออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด"..." ปลายนิ้วเรียวยาวพยายามยื่นไปสัมผัสมือเล็กอยากจะรั้งเธอให้อยู่ด้วยกันต่อ แต่เธอกลับเลื่อนมือไปจับกระเป๋าเหมือนเลี่ยงการสัมผัสจากผม เป็นผมเองที่เป็นคนทำนิสัยไม่ดีใส่เธอวันนี้ผมรอเธอมาเป็นกำลังใจตลอดทั้งวัน พยายามเข้าใจว่าเธอมีงานมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ รอเธออย่างใจเย็นทั้งๆ ที่เป็นคนไม่ชอบรอใคร จนกระทั่งเห็นเธอเดินออกมาจากข้างสนามในชุดที่มันทำให้หัวของผมร้อนจนแทบระเบิดออกมาเป็นไฟ เสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยเผยให้เห็นผิวขาวและเน้นทุกสัดส่วนที่ผม
"บี๋ เค้าไปก่อนนะ" "เค้าไปส่ง""ห๊ะ""อะ เอ่อ ไม่ต้องๆ เค้าไปเองได้ค่ะ" อีกแล้ว อีกแล้ว เกือบหลุดพิรุธให้เขาจับได้อีกแล้วยัยพริบพราวฟอดฉันรีบวิ่งเข้าไปกระโดดหอมแก้มใสของคนตัวสูงฟอดใหญ่ ก่อนจะรีบสะพายกระเป๋าพาตัวเองออกไปจากตรงนี้โดยเร็วที่สุด ขืนอยู่นานกว่านี้ มีหวังความลับที่ฉันพยายามเก็บเอาไว้ตลอดหลายวันได้ถูกเปิดเผยออกมาแน่ก็คนมันตื่นเต้นนี่นา ตื่นเต้นจนทำอะไรหรือพูดอะไรก็พาลทำให้ดูเลิ่กลั่กไปหมด"คุณพ่อขา ลูกสาวคนสวยมาแล้วค่ะ" "หึ มีอะไรให้พ่อช่วยมั้ย" "ไม่มีค่ะ ไม่มี" วัตถุดิบมากมายพร้อมสำหรับทำเค้กขนาดสองปอนด์ถูกวางลงบนโต๊ะไอส์แลนด์สีขาวสะอาดตาในห้องครัวบ้านคุณพ่อ สถานที่ที่ฉันใช้ทำของขวัญวันเกิดให้เขา เพราะมีทั้งเตาอบขนม ไหนจะอุปกรณ์ที่ครบครัน สำคัญที่สุดปลอดภัยจากสายตาคู่คมของเขาแน่นอน"คุณพ่อทานข้าวเช้าหรือยังคะ หนูแวะซื้อน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋มาฝากด้วยนะ" "พ่อกำลังอยากกินพอดีเลยลูก" "เดี๋ยวหนูจัดการให้ค่ะ" น้ำเต้าหู้หวานน้อยเพื่อสุขภาพพร้อมกับปาท่องโก๋และซาลาเปาทอดถูกจัดใส่จานเล็กสำหรับใส่ของว่างพร้อมเสิร์ฟ แน่นอนว่าฉันไม่ลืมที่จะนั่งทานมื้อเช้
"อร่อยมั้ย" ซี่โครงหมูผัดพริกชิ้นพอดีคำถูกตักวางลงในจานข้าวของคนตัวโตอย่างเอาใจ เป็นเมนูโปรดที่ฉันชอบขอให้คุณพ่อทำให้กินอยู่บ่อยครั้งเวลาที่ได้กลับบ้าน พอวันนี้คุณพ่อทราบว่าฉันจะแวะไปหาก็รีบเข้าครัวทำใส่กล่องเตรียมไว้ให้ฉันกล่องใหญ่ พร้อมกับข้าวสวยสำหรับสองคนและผัดบล็อคโคลีกุ้งสดตัวโตโตที่ทำให้เขาถึงกับเติมข้าวเป็นจานที่สอง"อร่อย"ดีใจจัง ที่เขาชอบรสมือของคุณพ่อจะว่าไปฉันแอบอยากชวนเขาไปนั่งกินข้าวที่บ้านของฉันสักครั้งนะ มีคุณพ่อแสดงฝีมือการทำอาหารแสนอร่อย นั่งกินกันพร้อมหน้าพูดคุยกันแบบผ่อนคลายเหมือนเวลาที่ฉันไปบ้านเขา ที่สำคัญอยากพาเขาไปแนะนำให้คุณแม่ได้รู้จักแฟนคนแรกของลูกสาวคนสวยคนนี้ด้วย"เสาร์นี้ เธอมีงานรึป่าว" "มีช่วงเช้าหน่ะ" งานที่ว่าก็คือ...แอบไปทำเค้กเซอร์ไพร์สเขานั่นแหละ"...""ทำไมเหรอ""เค้ามีแข่งรถ" โดนเซอร์ไพร์สกลับเข้าแล้วสิเรา"เสร็จแล้วเค้าจะรีบไปหาบี๋นะ" "..."แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะใครบางคนเอาแต่นิ่งเงียบไม่ยอมปริปากพูดแม้แต่คำเดียว ตั้งแต่ได้ยินว่าฉันมีงานทั้งๆ ที่เป็นวันคล้ายวันเกิดของเขา เอาแต่นั่งตักข้าวใส่ปากทำหน้างอนๆ เหมือ
"ฮัลโหลสาว ตั้งแต่มีแฟนนี่ยิ้มไม่หุบเลยนะ" "พูดเว่อมาก ใครจะยิ้มไม่หุบ" "ฉันไม่ได้บ้านะ" เบื่อจริงๆ เลยยัยเพื่อนคนนี้เนี่ย ตั้งแต่เดินเข้ามาในห้องเรียนก็เอาแต่นั่งแซวกันไม่หยุด ฉันแค่กำลังนั่งแชทคุยกับแฟนอยู่ก็เท่านั้นเอง ทีเรื่องของนางฉันยังไม่แซวเลย หรือจะแซวดี..."ได้ข่าวว่า มีผู้ชายหอบผ้ามาอยู่ด้วยหรอ""ข่าวเก่ามาก" ไม่เก่านะ แฟนฉันพึ่งเล่าให้ฟังเมื่อไม่กี่วันนี้เอง เอ๊ะ! หรือว่าจะเก่าไปแล้วจริงๆ เพราะมาลองนับดูแล้วนี่ก็ผ่านไปเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วนะ"อัพเดตมาบ้างเลยนะ" เรื่องของฉัน ยัยแพรนวลยังรู้เกือบทุกเรื่องเลย มีบางเรื่องเท่านั้นแหละที่ฉันไม่ได้เล่าให้เพื่อนฟัง เช่น ความแซ่บของเขาที่ฉันเก็บเอาไว้เป็นความลับของฉัน"ไม่ฟินเท่าเรื่องของแกหรอกจ๊ะเพื่อนรัก" นี่ฉันยังไม่ได้เล่าเลยนะ แล้วนางรู้ได้ยังไงว่าฉันฟินฉันไม่ทันได้ต่อล้อต่อเถียงเพื่อนต่อ อาจารย์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดก็เดินเข้ามาในห้องเรียนพร้อมแผ่รังสีที่ทำให้เสียงเจื้อยแจ้วกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานเงียบกริบพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายพากันหันไปสนใจจุดศูนย์กลางตรงหน้าชั้นเรียนด้วยความตั้งใจphalan.pl : กินอะไร เดี๋ยวเค้าซื้อไ







