LOGINแน่นอนว่าผู้ชนะในคืนนี้เป็นเจ้าของสนามอย่างไอ้เฟิร์สตามที่ผมคาด เพราะงั้นบิ๊กไบค์รุ่นใหม่ราคาแพงพร้อมเงินสดและผู้หญิงรางวัลของวันนี้ตกเป็นของไอ้เฟิร์สทั้งหมด แต่วันนี้มันกลับใจดีเลือกรับแค่เงินสดเท่านั้น ส่วนบิ๊กไบค์และผู้หญิงยกให้คนได้ที่สองและที่สามไปตกลงแบ่งกันเอง
คงจะเกรงใจคนที่มันคะยั้นคะยอให้เขามาเชียร์ "ที่เดิมป่ะ?" "อืม / อืม" ทันทีที่ไอ้เฟิร์สเดินมาถึงตรงที่ผู้หญิงของมันนั่ง ก็หันมาชวนผมกับไอ้พายไปฉลองกันตามปกติ แต่ไม่ปกติตรงที่วันนี้มีแขกรับเชิญไปด้วยสองคนคือสองสาวที่กำลังตื่นเต้นกับบรรยากาศของสนามทั้งแสงสีเสียงและดนตรีที่จัดไว้ให้ทุกคนได้สนุกกัน "เธอขา ไปด้วยกันนะ" คนสวยของมามี๊ยกนิ้วโป้งสองนิ้วกดไลค์ถูกอกถูกใจเชียร์ไอ้เฟิร์สให้จีบเพื่อนของเธออย่างออกนอกหน้าจนน่าหมันไส้ ทำผมเผลอยื่นมือไปผลักศีรษะเธอเบาเบาแต่ก็แรงพอให้ตัวเธอเซไปข้างหน้า ก่อนจะรีบลุกเดินหนีไปลานจอดรถเตรียมตัวขับไปร้านประจำที่อยู่ไม่ไกล "เฮ้ย พาลัน ฝากพริบพราวไปด้วยดิ" ในจังหวะที่ผมกำลังจะใส่หมวกกันน็อค ไอ้เฟิร์สก็ตะโกนเรียกให้ผมหยุดรอและออกคำสั่งกับผมอีกครั้ง ทำผมเหล่ตามองคนที่กำลังยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แอบยักคิ้วราวกับบอกให้รู้ว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่า จนผมแทบอยากจะกดเรียกไรเดอร์ให้เดี๋ยวนี้ ส่วนไอ้พายหน่ะหรอ...สตาร์ทรถขับนำออกไปแล้ว ให้มันได้อย่างนี้สิ! "รถกูนั่งได้สองคน" แล้วมันจะขับรถสปอร์ตมาทำไมวันนี้วะ? อ่อ...ให้สาวนั่ง "วุ่นวาย" ผมได้แต่ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ใช้สายตาบังคับออกคำสั่งให้ตัวยุ่งเดินมาหาที่รถ ก่อนจะวาดขาค่อมรถยันเอาไว้ให้เธอใช้ขาสั้นๆ ปีนขึ้นมานั่งซ้อนท้าย "ขอกอดได้ป่ะ กลัวตก" "เฮ้อ..." ผมกระชับสองแขนเล็กที่กอดเอวผมไว้หลวมๆ อยู่ก่อนจะเอ่ยปากมาขออนุญาต จนอะไรต่อมิอะไรที่มันนุ่มนิ่มชนเข้ากับแผ่นหลังของผมโดยที่เธอไม่ทันระวังตัว โทษที ผมไม่ได้ตั้งใจให้ภาพออกมาเป็นอย่างนี้ "เดี๋ยวก็เมา" ผมบอกตัวยุ่งที่ยกแก้วไม่หยุด เพราะคงไม่พ้นว่าคืนนี้ผมคงต้องเป็นคนไปส่งเธอที่ห้อง และถ้าเธอเมาจนเซแล้วมาซ้อนท้ายผม มีหวังได้พากันลำบากแน่ "พริบพราวคอเหล็กนะ บอกก่อน" ยังจะมาเถียง! ถ้าคอพับจะฟาดซ้ำซักที คิ้วเข้มขมวดยุ่งมองคนตัวเล็กยกแก้วชนกับเพื่อนๆ ราวกับอวดว่าตัวเองคอแข็งมากตามที่พูด จนกระทั่งดีเจเปิดเพลงมีจังหวะเท่านั้นแหละ คนตัวเล็กก็รีบดึงแขนเพื่อนให้ลุกขึ้นโยกย้ายสะโพกไปมาตามจังหวะดนตรีด้วยท่าทางเซ็กซี่เรียกสายตาพวกผู้ชายโต๊ะอื่นให้หันมามองส่งสายตาหยาดเยิ้ม จนไอ้เฟิร์สต้องดึงเอวผู้หญิงของมันให้ไปยืนเต้นตรงหว่างขาแสดงความเป็นเจ้าของ ส่วนเธอ... เพี๊ยะ! "โอ๊ย! เจ็บนะ" ผมฟาดมือลงบนต้นขาขาวที่โผล่พ้นกางเกงตัวจิ๋วอย่างเต็มแรงด้วยความหมันไส้ ทำเธอสะดุ้งโหยงแล้วหันมามองอย่างไม่เข้าใจว่าผมตีเธอทำไม "ยุงกัด" เหตุผลจอมปลอมที่พึ่งคิดได้สดๆ ร้อนๆ หลุดออกจากปากผม ก่อนจะทำทีเป็นหันไปชงเครื่องดื่มยกขึ้นมาจิบด้วยท่าทางสบายๆ กวาดตามองไปเรื่อยไม่สนใจคนที่ยืนทำหน้าเอ๋อมองมาไม่วางตา ยืนอวดหุ่นอยู่นั่น บังบรรยากาศร้านชะมัด! "นั่ง" จนผมต้องเอ่ยปากสั่งให้เธอกลับลงมานั่งตรงที่ว่างข้างกัน แล้วหยิบขวดน้ำเปล่ามาวางให้เธอแทนแก้วเหล้าแก้วใหม่ ก็เพื่อความปลอดภัยของผมและเธอเท่านั้น ไม่ได้เป็นห่วงเป็นใยเธอเลยสักนิด แต่ความแสบของเธอที่ทำให้เส้นเลือดตรงขมับของผมเต้นตุบๆ ก็คือตอนที่มือเล็กคว้าแก้วเหล้าดีกรีแรงในมือของผมไปดื่มจนหมดแก้วอย่างหน้าตาเฉย เพราะอยากเอาคืนที่ผมไม่ยอมชงแก้วใหม่ให้ เดี๋ยวได้รู้ว่าไอ้ที่อวดนักอวดหนาว่าตัวเองคอเหล็ก เจอแก้วเพียวเข้าไปจะเป็นยังไง สุดท้ายผมก็ต้องเรียกไรเดอร์พาเธอกลับมาที่คอนโดตัวเอง โดยทิ้งลูกรักอย่างบิ๊กไบค์คันโปรดไว้ที่ร้านอย่างนั้น เพราะตัวยุ่งคอเหล็กสุดท้ายก็คอพับนั่งหลับกลางอากาศ เรียกเท่าไหร่ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น ถามว่าคอนโดอยู่ที่ไหนก็ไม่ตอบ ทำผมจนปัญญาต้องแบกเธอขึ้นห้องมาอย่างนี้ เธอคือ นิยามของความวุ่นวายสำหรับผม ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาในห้องได้อย่างทุลักทุเล ผมก็ค่อยๆ วางเธอลงบนโซฟา ก่อนจะหย่อนตัวนั่งพักลงข้างๆ เห็นตัวเล็กอย่างนี้ หนักใส่ย่อย "ที่ไหนอะ" ตัวยุ่งพยายามตะเกียกตะกายพาตัวเองปีนขึ้นมานั่งค่อมบนตักผมจนสำเร็จ "ห้อง" "ห้องใครอะ" ก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวเข้ามาใกล้จนสะโพกมนบดเบียดตัวตนของผมที่มันกำลังร้อนระอุด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ใช้สองแขนเล็กคล้องคอผมไว้แน่น นั่งเอนไปเอียงมาจนผมต้องประคองเอวบางเอาไว้อย่างหลวมๆ "ห้องฉัน" "ห้องแฟนนี่เอง คิกคิก" "ละเมอ?" แกล้งเมาป่าววะ? "ละเมอว่ารักแถบได้ป่ะ" ตากลมโตช้อนตากันมองหยาดเยิ้มเหมือนรอฟังคำตอบที่อยากได้ยิน ขยับยุกยิกไปมาจนอะไรอะไรแนบชิดกันมากขึ้น ท่านั่งของเราสองคนในเวลานี้เรียกว่าได้ว่าค่อนข้างล่อแหลมพาให้คิดไปไกล "คิกคิก" จนเสียงลมหายใจสม่ำเสมอรดลงตรงซอกคอของผมนั่นแหละ ที่ทำให้รู้ว่าตัวยุ่งขี้เมาหลับสนิทไปแล้ว ทิ้งให้ผมนั่งว้าวุ่นอยู่คนเดียวนานหลายที เฮ้อ... พึ่งเจอกันไม่กี่ครั้ง ยังยุ่งมากขนาดนี้ ถ้าเป็นคู่หมั้นกันจริงๆ ผมแทบไม่อยากคิดว่าชีวิตของผมจะวุ่นวายขนาดไหนดูความประพฤติสามวันของเมียตัวแสบก็คือ หลังจากที่ผมลักพาตัวเธอกลับมากินเค้กด้วยกันที่คอนโด ผมก็ไม่ได้นอนกอดร่างนุ่มนิ่ม เพราะเธอกลับไปนอนที่คอนโดของเธอ ปล่อยให้ผมนอนไม่หลับอยู่คนเดียวที่ห้อง แล้วผมจะทำอะไรได้ นอกจากแอบเถียงคนเดียวอยู่ในใจ...โคตรจะใจร้ายวันนี้ผมเลยรีบอาบน้ำแต่งตัวออกจากห้องตั้งแต่เช้ามืด แวะซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งเจ้าอร่อยและน้ำเต้าหู้สำหรับเราสองคนตรงไปหาเธอที่ห้องตั้งแต่ยังไม่เห็นแสงรับอรุณ ถือวิสาสะแอบเปิดประตูเข้าไปจัดการวางทุกอย่างในมือบนโต๊ะกินข้าวขนาดเล็ก แล้วพาตัวเองมานอนกอดคนขี้เซาบนเตียงภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน โดยที่เธอก็ขยับตัวเข้ามาซุกหน้าลงตรงแผงอกทันทีราวกับกำลังรอให้ผมมานอนกอดอย่างไงอย่างนั้น แต่จะตื่นมาโวยวายทีหลังหรือเปล่านั้น ผมตอบอย่างมั่นใจได้เลยว่า...หูชาแน่นอน"นาย เข้ามาได้ยังไงเนี่ย" "เปิดประตู" "โอ้ย!" แล้วนิ้วเล็กเล็กของยัยแม่มดก็หยิกลงเนื้อต้นแขนแกร่งเข้าอย่างจังทันทีที่ตากลมโตตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงโวยวาย จนผมแทบอยากจะหยิกคืนตรงตำแหน่งที่ทำให้ใจสั่นไหวด้วยความมันเขี้ยว แต่เพื่อไม่ให้โทษที่มีเพิ่มขึ้นไปมากกว่านี้ เพราะงั้
"..." ผมยกข้ออ้างจากรอยแดงบนหลังมือพร้อมกับแสดงอาการเจ็บปวดผ่านสีหน้าเหมือนว่ากำลังเจ็บมากราวกับจะทนไม่ไหวให้เธอยอมใจอ่อนเดินไปหาอุปกรณ์ทำแผลและยาทามานั่งลงข้างๆ กัน ก่อนที่สองมือเล็กจะค่อยๆ ประคองมือใหญ่ข้างที่เจ็บของผม เทแอลกอฮอล์สำหรับล้างแผลลงบนสำลีแล้วเอามาเช็ดบริเวณรอบๆ รอยบวมแดงอย่างใส่ใจ แล้วใช้สองนิ้วเรียวสวยค่อยๆ ลูบวนทายาให้อย่างเบามือ แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าสวยๆ ก็ยังคงง้ำงอเบะปากเล็กๆ คว่ำจนผมอยากจะกัดสักทีให้หายมันเขี้ยวกึก! จุ๊บไวเท่าความคิดผมก็โน้มหน้าก้มลงไปกัดปากสีแดงหนึ่งทีอย่างท้าทายอำนาจมืด ก่อนจะกดปากจูบตรงที่เดิมโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว ทำตากลมโตถลึงตาใส่นัยน์ตาเป็นเปลวไฟราวกับจะแผดเผาผมให้ไหม้เกรียมเสียอย่างนั้น เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมป๊าถึงไม่อยากทำให้มามี๊โกรธ"กลับไปได้แล้ว" "ไม่กลับ" ผมใช้สองแขนแกร่งรวบตัวคนตัวเล็กที่กำลังเตรียมจะลุกเดินหนีจนเซมานั่งบนตักแกร่ง"ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ" ทำเธอแสดงท่าทีเหมือนม้าพยศพยายามดิ้นไปดิ้นมาเพื่อให้หลุดจากพันธนาการของผม "จิ๊" แน่นอนว่าผมไม่มีทางยอมเด็ดขาด ยิ่งร่างบางพยายามขยับตัวดิ้นเท่าไหร่ สองแขนแกร
แกร๊ก! "ยัยแพร ฉันกลับก่อนนะ" คนตัวเล็กวิ่งเข้ามาในห้องรับรองพยายามเก็บอาการน้อยใจที่มีไว้ข้างใน "อะ อ่าว เดี๋ยวฉันไปส่ง" แต่ยิ่งพยายามเท่าไหร่ก็เหมือนจะยิ่งปิดไม่มิด เพราะตากลมโตแดงก่ำเต็มไปด้วยน้ำใสใสที่พร้อมจะร่วงหล่นลงมา จนเพื่อนรักสังเกตเห็น"นาย เอากุญแจรถมา" เป็นแพรนวลที่หันไปขอกุญแจรถจากคนที่ไปรับเธอมา จัดแจงหยิบกระเป๋าสะพายและเสื้อผ้าของเพื่อน ก่อนจะเดินไปจูงมือเล็กออกจากห้องเงียบๆ ไม่แม้แต่จะแสดงความยินดีกับคนที่พึ่งได้รับรางวัลจากการแข่งขันเมื่อครู่ รู้เพียงแต่ว่าต้องพาเพื่อนรักออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด"..." ปลายนิ้วเรียวยาวพยายามยื่นไปสัมผัสมือเล็กอยากจะรั้งเธอให้อยู่ด้วยกันต่อ แต่เธอกลับเลื่อนมือไปจับกระเป๋าเหมือนเลี่ยงการสัมผัสจากผม เป็นผมเองที่เป็นคนทำนิสัยไม่ดีใส่เธอวันนี้ผมรอเธอมาเป็นกำลังใจตลอดทั้งวัน พยายามเข้าใจว่าเธอมีงานมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ รอเธออย่างใจเย็นทั้งๆ ที่เป็นคนไม่ชอบรอใคร จนกระทั่งเห็นเธอเดินออกมาจากข้างสนามในชุดที่มันทำให้หัวของผมร้อนจนแทบระเบิดออกมาเป็นไฟ เสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยเผยให้เห็นผิวขาวและเน้นทุกสัดส่วนที่ผม
"บี๋ เค้าไปก่อนนะ" "เค้าไปส่ง""ห๊ะ""อะ เอ่อ ไม่ต้องๆ เค้าไปเองได้ค่ะ" อีกแล้ว อีกแล้ว เกือบหลุดพิรุธให้เขาจับได้อีกแล้วยัยพริบพราวฟอดฉันรีบวิ่งเข้าไปกระโดดหอมแก้มใสของคนตัวสูงฟอดใหญ่ ก่อนจะรีบสะพายกระเป๋าพาตัวเองออกไปจากตรงนี้โดยเร็วที่สุด ขืนอยู่นานกว่านี้ มีหวังความลับที่ฉันพยายามเก็บเอาไว้ตลอดหลายวันได้ถูกเปิดเผยออกมาแน่ก็คนมันตื่นเต้นนี่นา ตื่นเต้นจนทำอะไรหรือพูดอะไรก็พาลทำให้ดูเลิ่กลั่กไปหมด"คุณพ่อขา ลูกสาวคนสวยมาแล้วค่ะ" "หึ มีอะไรให้พ่อช่วยมั้ย" "ไม่มีค่ะ ไม่มี" วัตถุดิบมากมายพร้อมสำหรับทำเค้กขนาดสองปอนด์ถูกวางลงบนโต๊ะไอส์แลนด์สีขาวสะอาดตาในห้องครัวบ้านคุณพ่อ สถานที่ที่ฉันใช้ทำของขวัญวันเกิดให้เขา เพราะมีทั้งเตาอบขนม ไหนจะอุปกรณ์ที่ครบครัน สำคัญที่สุดปลอดภัยจากสายตาคู่คมของเขาแน่นอน"คุณพ่อทานข้าวเช้าหรือยังคะ หนูแวะซื้อน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋มาฝากด้วยนะ" "พ่อกำลังอยากกินพอดีเลยลูก" "เดี๋ยวหนูจัดการให้ค่ะ" น้ำเต้าหู้หวานน้อยเพื่อสุขภาพพร้อมกับปาท่องโก๋และซาลาเปาทอดถูกจัดใส่จานเล็กสำหรับใส่ของว่างพร้อมเสิร์ฟ แน่นอนว่าฉันไม่ลืมที่จะนั่งทานมื้อเช้
"อร่อยมั้ย" ซี่โครงหมูผัดพริกชิ้นพอดีคำถูกตักวางลงในจานข้าวของคนตัวโตอย่างเอาใจ เป็นเมนูโปรดที่ฉันชอบขอให้คุณพ่อทำให้กินอยู่บ่อยครั้งเวลาที่ได้กลับบ้าน พอวันนี้คุณพ่อทราบว่าฉันจะแวะไปหาก็รีบเข้าครัวทำใส่กล่องเตรียมไว้ให้ฉันกล่องใหญ่ พร้อมกับข้าวสวยสำหรับสองคนและผัดบล็อคโคลีกุ้งสดตัวโตโตที่ทำให้เขาถึงกับเติมข้าวเป็นจานที่สอง"อร่อย"ดีใจจัง ที่เขาชอบรสมือของคุณพ่อจะว่าไปฉันแอบอยากชวนเขาไปนั่งกินข้าวที่บ้านของฉันสักครั้งนะ มีคุณพ่อแสดงฝีมือการทำอาหารแสนอร่อย นั่งกินกันพร้อมหน้าพูดคุยกันแบบผ่อนคลายเหมือนเวลาที่ฉันไปบ้านเขา ที่สำคัญอยากพาเขาไปแนะนำให้คุณแม่ได้รู้จักแฟนคนแรกของลูกสาวคนสวยคนนี้ด้วย"เสาร์นี้ เธอมีงานรึป่าว" "มีช่วงเช้าหน่ะ" งานที่ว่าก็คือ...แอบไปทำเค้กเซอร์ไพร์สเขานั่นแหละ"...""ทำไมเหรอ""เค้ามีแข่งรถ" โดนเซอร์ไพร์สกลับเข้าแล้วสิเรา"เสร็จแล้วเค้าจะรีบไปหาบี๋นะ" "..."แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะใครบางคนเอาแต่นิ่งเงียบไม่ยอมปริปากพูดแม้แต่คำเดียว ตั้งแต่ได้ยินว่าฉันมีงานทั้งๆ ที่เป็นวันคล้ายวันเกิดของเขา เอาแต่นั่งตักข้าวใส่ปากทำหน้างอนๆ เหมือ
"ฮัลโหลสาว ตั้งแต่มีแฟนนี่ยิ้มไม่หุบเลยนะ" "พูดเว่อมาก ใครจะยิ้มไม่หุบ" "ฉันไม่ได้บ้านะ" เบื่อจริงๆ เลยยัยเพื่อนคนนี้เนี่ย ตั้งแต่เดินเข้ามาในห้องเรียนก็เอาแต่นั่งแซวกันไม่หยุด ฉันแค่กำลังนั่งแชทคุยกับแฟนอยู่ก็เท่านั้นเอง ทีเรื่องของนางฉันยังไม่แซวเลย หรือจะแซวดี..."ได้ข่าวว่า มีผู้ชายหอบผ้ามาอยู่ด้วยหรอ""ข่าวเก่ามาก" ไม่เก่านะ แฟนฉันพึ่งเล่าให้ฟังเมื่อไม่กี่วันนี้เอง เอ๊ะ! หรือว่าจะเก่าไปแล้วจริงๆ เพราะมาลองนับดูแล้วนี่ก็ผ่านไปเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วนะ"อัพเดตมาบ้างเลยนะ" เรื่องของฉัน ยัยแพรนวลยังรู้เกือบทุกเรื่องเลย มีบางเรื่องเท่านั้นแหละที่ฉันไม่ได้เล่าให้เพื่อนฟัง เช่น ความแซ่บของเขาที่ฉันเก็บเอาไว้เป็นความลับของฉัน"ไม่ฟินเท่าเรื่องของแกหรอกจ๊ะเพื่อนรัก" นี่ฉันยังไม่ได้เล่าเลยนะ แล้วนางรู้ได้ยังไงว่าฉันฟินฉันไม่ทันได้ต่อล้อต่อเถียงเพื่อนต่อ อาจารย์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดก็เดินเข้ามาในห้องเรียนพร้อมแผ่รังสีที่ทำให้เสียงเจื้อยแจ้วกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานเงียบกริบพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายพากันหันไปสนใจจุดศูนย์กลางตรงหน้าชั้นเรียนด้วยความตั้งใจphalan.pl : กินอะไร เดี๋ยวเค้าซื้อไ







