Share

บทที่ 36

Author: กวนเหอว่านหลี่
เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของจูหยวนจาง จูอวิ่นเทิงก็มองไปรอบ ๆ ด้วย “ความหวาดกลัว” ก่อนจะเหลือบตามองจูอวิ่นเหวินอีกครั้ง

“เสด็จปู่ หลานไม่ค่อยเข้าใจเรื่องนี้ เพียงแต่คิดว่าคำพูดของพี่รองก็ไม่ผิดนักพ่ะย่ะค่ะ”

จูอวิ่นเทิงกล่าวจบก็ถอยหลังไปอีกครึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว

บั้นท้ายเกือบจะชนฉีไท่เสนาบดีกรมกลาโหม

จูหยวนจางหรี่ตาเล็กน้อย พระราชนัดดาเจ้าเล่ห์ผู้นี้ยังไม่ยอมเปิดเผยสักนิดเดียว!

ยังจะเสแสร้งอีก!

[หึ ๆ เน่ยเก๋อกับกรมขัดแย้งกัน นี่คือผลลัพธ์ที่ฮ่องเต้ต้องการอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?]

[กรมกลาโหมของเจ้ากลายเป็นปึกแผ่นขึ้นมา ฮ่องเต้จะทำอย่างไรเล่า?]

[หากเสนาบดีกรมกลาโหมถูกสมาชิกเน่ยเก๋อที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของตนเองแย่งอำนาจไป เสนาบดีกรมกลาโหมผู้นี้จะมีประโยชน์อันใด? เปลี่ยนคนเสียก็สิ้นเรื่องแล้ว]

[อยากป้องกันไม่ให้สมาชิกของเน่ยเก๋อกลายเป็นปากเสียงหรือตัวแทนของกรมต่าง ๆ หรือ? ฮ่องเต้มัวทำอะไรอยู่? แม้แต่เรื่องแค่นี้ก็ยังดูไม่ออกหรือ?]

[อีกอย่างมีการประเมินผลปีละครั้ง เปลี่ยนชุดใหม่ทุกหกปี การหมุนเวียนรวดเร็วถึงเพียงนี้ จะให้พวกเขาจะรวมตัวเป็นกลุ่มผลประโยชน์ได้อย่างไร?]

[ให้สมาชิกในเน่ยเก
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • อยากเนียนเป็นปลาเค็ม แต่ฮ่องเต้ดันจับโป๊ะจากในใจ   บทที่ 86

    ภารกิจคือสอนหนังสือให้จูอวิ่นเทิงยามกลางวัน ให้จูอวิ่นเทิงฝันกลางวัน ให้ฟางเสี้ยวหรูจดบันทึกคำละเมอของจูอวิ่นเทิงเอาไว้ตนเองอยู่ในฐานะฮ่องเต้ แต่ละวันมีภาระงานมากมาย เป็นไปไม่ได้ที่จะไปอยู่เป็นเพื่อนหลานสามได้ทุกวันยิ่งไปกว่านั้นหลานสามวัน ๆ เอาแต่คิดว่าทำเช่นไรให้ห่างจากราชสำนัก อยู่ให้ห่างจากตน อยากจะอยู่แต่ในเรือนของเขาเองเท่านั้นเช่นนั้นก็ให้ฟางเสี้ยวหรูติดตามจูอวิ่นเทิง ให้เขาได้ฝันกลางวัน!ส่วนการดักฟังคำละเมอของจูอวิ่นเทิงในตอนกลางคืน ก็ให้มู่เหยาเป็นคนจัดการทั้งกลางวัน กลางคืน เฝ้าดักฟังตลอดเวลา ใช้ประโยชน์จากเสียงในใจของจูอวิ่นเทิงให้ได้มากที่สุด“ฟางฮั่นหลิน เจ้าตามเราออกไปเดินเล่นนอกวัง ไปดูที่เรือนของอวิ่นเทิงเสียหน่อย” จูหยวนจางกล่าวต่อ “อืม ก็คือไปสั่งสอนวิชาความรู้ของเจ้าแก่อวิ่นเทิง เราจะฟังด้วย”ฟางเสี้ยวหรูก็เริ่มสงสัยขึ้นมาเช่นกัน ว่าเหตุใดจูอวิ่นเทิงถึงได้รับความสำคัญจากจูหยวนจางถึงเพียงนี้?อีกอย่าง บทเรียนที่ตนสอน จูอวิ่นเทิงนั้นรอบรู้ทั้งหมดแล้ว เหตุใดถึงยังให้ตนไปสอนอีก?นี่มันจะไม่ย้อนแย้งกันหรอกหรือ?ไม่ว่าอย่างไร พระประสงค์ของฝ่าบาทก็ไม่อาจขัด เ

  • อยากเนียนเป็นปลาเค็ม แต่ฮ่องเต้ดันจับโป๊ะจากในใจ   บทที่ 85

    ไม่มีคำสั่งจากจูอวิ่นเทิง เหมยเอ๋อร์และหลานเอ๋อร์ก็ไม่กล้าไปเปิดประตูเอง“หลานสาม เปิดประตูสิ เราเอง”ที่แท้จูหยวนจางมาถึงแล้ว ผู้ที่ตะโกนเรียกอยู่เมื่อครู่คือฟางเสี้ยวหรูเมื่อจูหยวนจางมอบหมายภารกิจแก่เจี่ยงหวนแล้ว ก็ไม่อาจสงบใจลงได้ในตำหนักหย่างซินเดินไปเดินมา พลันได้ยินเสียงของฟางเสี้ยวหรูในตำหนักเหวินหัวพอนึกถึงฟางเสี้ยวหรู จูหยวนจางก็นึกถึงจูอวิ่นเทิงขึ้นมาทันทีจูอวิ่นเทิงวัน ๆ เอาแต่นอนหลับในชั้นเรียนของฟางเสี้ยวหรู เคยพูดคำละเมออะไรบ้างหรือไม่?จูหยวนจางเรียกฟางเสี้ยวหรูเข้ามาทันที“ฟางฮั่นหลิน[1] เจ้ามีความเห็นอย่างไรต่ออวิ่นเทิงหลานสามของเรา?”ฟางเสี้ยวหรูไม่ได้คิดอะไรมากนัก ตอบไปตามตรงว่า “ทูลฝ่าบาท อู๋อ๋องไร้ความสามารถ ไร้มารยาท ไม่คู่ควรกับงานใหญ่พ่ะย่ะค่ะ”จูหยวนจางจุกอกขึ้นมาทันทีพลันเกิดอารมณ์ชั่ววูบที่จะโบยเขาแปดสิบไม้แต่เมื่อคิดดูแล้ว ความโกรธก็จางไป ผู้ที่รู้ว่าอวิ่นเทิงมีความสามารถอันโดดเด่นนั้น ทั้งใต้หล้าคงมีเพียงตนเท่านั้นฟางเสี้ยวหรูยิ่งไม่มีทางรู้แน่“ฟางฮั่นหลิน ที่อวิ่นเทิงนอนหลับในชั้นเรียนของเจ้า เรื่องนั้นมีสาเหตุ เจ้าพอจะรู้หรือไม่ว่าเป

  • อยากเนียนเป็นปลาเค็ม แต่ฮ่องเต้ดันจับโป๊ะจากในใจ   บทที่ 84

    ถ้าไม่บอกว่าได้ผลผลิตต่อหมู่สูงขนาดนี้ เกรงว่าทางการก็อาจไม่เชื่ออู๋อ๋องเช่นกันเพราะการจะยึดที่นาผืนนี้จากมือเจ้าของที่ เพื่อมาเป็นนาหลวงนั้น มันมีต้นทุนที่ต้องจ่ายอย่างไรก็ตาม คนผู้นี้ยังมีจิตใจเมตตาต่อชาวนาเช่าที่คนหนึ่งได้ วันข้างหน้าก็คงไม่เลวร้ายกับบุตรสาวของตนนักหรอก“ฝ่าบาทให้เจ้าตั้งใจฟังคำละเมอของเขา เจ้าได้ยินอะไรบ้าง?” มู่อิงเอ่ยถามมู่เหยาตอบว่า “เขานอนหลับสนิทมาก ไม่เคยเอ่ยคำละเมอเลย”มู่อิงยิ่งพอใจ คนที่นอนหลับสนิท แสดงว่าเขาไม่มีความคิดซ่อนเร้นในใจ และไม่มีเรื่องอะไรที่เปิดเผยไม่ได้คนเราหากนอนหลับได้สนิทดี ถ้าไม่ใช่คนซื่อ ๆ ก็เป็นพวกเปิดเผยตรงไปตรงมาในเมื่อฝ่าบาทปฏิบัติต่อจูอวิ่นเทิงเป็นพิเศษ ถ้าอย่างนั้นเขาก็น่าจะเป็นอย่างหลังกระมังจูอวิ่นเทิงครุ่นคิดแล้วกล่าวว่า “เจ้าคิดถึงครอบครัวมากใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้น ข้าจัดการให้เจ้ากลับอวิ๋นหนานเงียบ ๆ ดีไหม?”“อู๋อ๋อง ทำเช่นนี้ไม่ได้เพคะ หากข้าแอบกลับอวิ๋นหนานแล้ว ท่านจะทูลฝ่าบาทว่าอย่างไร? แล้วเจิ้งเหอจะทำเช่นไร?”เรื่องของมู่เหยาพัวพันหลายฝ่าย ปัจจัยเหล่านี้จำเป็นต้องพิจารณา“เอาล่ะ เจ้าก็อยู่ที่นี่ไปก่อนแล้วกัน

  • อยากเนียนเป็นปลาเค็ม แต่ฮ่องเต้ดันจับโป๊ะจากในใจ   บทที่ 83

    “ท่านอย่าทำอะไรบ้า ๆ นะ!”ยิ่งมูเหยาขัดขืน จูอวิ่นเทิงก็ยิ่งเข้ามาแนบชิด“หม่อมฉันพูดแล้ว หม่อมฉันมีกายเป็นหญิง” มู่เหยาพูดจบ จูอวิ่นเทิงก็ปล่อยนางมู่เหยาไม่คิดว่าจูอวิ่นเทิงจะปล่อยมือในตอนนี้อดรู้สึกผิดหวังเล็ก ๆ ไม่ได้“เจ้ามีกายเป็นหญิง เป็นคนที่ฝ่าบาทส่งมา ฟังดูเหลวไหลมาก บอกมาดีกว่า อย่ามาหลอกข้า”เสี้ยวอำมหิตฉายวาบในดวงตาของจูอวิ่นเทิงมู่เหยาแสร้งทำท่าทางน่าสงสาร “อู๋อ๋อง หม่อมฉันเป็นคนอวิ๋นหนาน เมื่อราชวงศ์ต้าหมิงเริ่มก่อตั้ง จำนวนขันทีขาดแคลนมาก ทางการจึงยัดเยียดรายชื่อหนึ่งให้กับครอบครัวของหม่อมฉัน”“หม่อมฉันมีน้องชายเพียงคนเดียว พ่อแม่หม่อมฉันตัดใจไม่ลง”“ครอบครัวของหม่อมฉันในท้องถิ่นถือว่ามั่งคั่ง จึงใช้เงินเพื่อติดสินบนขุนนางทุกระดับ สุดท้ายก็ให้หม่อมฉันเข้าวังมา”“หม่อมฉันเป็นหญิง ฝ่าบาทก็ไม่รู้เช่นกัน”จูอวิ่นเทิงเดินวนรอบกายมู่เหยา เกรงว่าสิ่งที่นางพูดจะเป็นความจริงประการแรก ฝ่าบาทเป็นคนส่งมู่เหยามาจริง ๆ เรื่องนี้เจิ้งเหอสามารถเป็นพยานได้สุขภาพของตนเองอ่อนแอ เรื่องนี้ฝ่าบาทรู้ฝ่าบาทส่งขันทีคนหนึ่งมาเพื่อไม่ปล่อยให้วัน ๆ เขาเอาแต่จมดิ่งอยู่ในความเย้าย

  • อยากเนียนเป็นปลาเค็ม แต่ฮ่องเต้ดันจับโป๊ะจากในใจ   บทที่ 82

    จูอวิ่นเทิงกลับมาถึงเรือน เจิ้งเหอ เหมยเอ๋อร์ และหลานเอ๋อร์ถูกแก้มัดเชือกกันหมดแล้ว“มู่เหยาไปไหนหรือ?”“มู่เหยาบอกว่า เขาจะเข้าวังเพคะ” เหมยเอ๋อร์กล่าวเอ๊ะ ฮ่า ๆ!มู่เหยาไม่อยู่!อย่างนั้นก็เข้าไปในห้องกับเหมยเอ๋อร์และหลานเอ๋อร์ ถ่ายทอดความรู้ทางร่างกายแก่พวกนางได้น่ะสิ?เจิ้งเหอรู้ว่าหัวใจวสันต์ของคุณชายเริ่มหวั่นไหวอีกแล้ว แอบอิจฉาเล็กน้อย ก่อนกลับไปยังห้องของตัวเอง“เหมยเอ๋อร์ หลานเอ๋อร์ ข้าเข้าไปแล้วนะ”จูอวิ่นเทิงเพิ่งจะเข้ามาในห้อง ก็ได้ยินเสียงของมู่เหยา “เหมยเอ๋อร์ หลานเอ๋อร์ ข้ากลับมาแล้ว!”ร่างของจูอวิ่นเทิงพลันชะงัก ขันทีน้อยผู้นี้กลับมาได้จังหวะพอดีจริง ๆ!ไม่ใช่สิ กลับมาได้ไม่ถูกจังหวะเลยต่างหาก!เหมยเอ๋อร์และหลานเอ๋อร์เห็นดังนั้น ก็เหมือนหนูเห็นแมว รีบถอยไปยังหลังเรือนมู่เหยาเข้ามาในเรือน จูอวิ่นเทิงได้โผเข้าหาทันทีสวมกอดมู่เหยาไว้ว้าย! มู่เหยาไม่ทันตั้งตัว จึงร้องออกมาเสียงดัง“อย่าร้อง ร้องไปก็เปล่าประโยชน์!”จูอวิ่นเทิงดันมู่เหยาไปชิดผนังอย่างดุดันมู่เหยาคิดขัดขืน แต่จูอวิ่นเทิงพลันยันผนังคร่อมไว้“ท่าน ท่านคิดจะทำอะไรน่ะ?” มู่เหยาหน้าแดงก่ำ“ข

  • อยากเนียนเป็นปลาเค็ม แต่ฮ่องเต้ดันจับโป๊ะจากในใจ   บทที่ 81

    [ตาเฒ่า ท่านจะเอาแต่ดื้อรั้นเช่นนี้ไม่ได้! อย่างไรก็ต้องมีเหตุผลบ้าง]การบ่นของจูอวิ่นเทิงทำให้จูหยวนจางหมดคำพูด เราสามารถพูดเสียงในใจของเจ้าออกมาได้ไหม?[เหตุผลก็เห็นอยู่ชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือ?][เจ้าเมืองคนหนึ่ง เก็บภาษีเงินและเสบียงได้เกินเป้าทุกปี! นี่ไม่ถือว่าเป็นปัญหาหรอกหรือ?]จูหยวนจางคิดในใจว่า การเก็บภาษีได้เกินเป้ามันคือผลงาน เหตุใดถึงกลายเป็นปัญหาไปได้?ความคิดของหลานสามผู้นี้ มักจะพิลึกพิลั่นอยู่เสมอ![ตำแหน่งกำหนดความคิด เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม เป็นขุนนางสมัยหนึ่ง ก็ต้องสร้างคุณประโยชน์ให้ท้องถิ่นนั้น นี่คือจุดยืนและมุมมองอันเป็นพื้นฐานที่สุด!][ราชสำนักให้เจ้าเก็บเสบียงและภาษีเกินเป้าแล้วหรือ?][เมื่อไม่ได้ให้เจ้าเก็บภาษีเกินเป้า หวงจื่อซิ่น เจ้าหลอกลวงเบื้องบน!][ประชาชนคิดว่าราชสำนักให้เก็บเสบียงและภาษีเพิ่ม หวงจื่อซิ่น เจ้าปิดบังเบื้องล่าง!][เก็บเกินเป้าสองส่วน หนึ่งส่วนที่เพิ่มมามอบให้ราชสำนัก ได้รับชื่อเสียงในฐานะขุนนาง! อีกหนึ่งส่วนเก็บไว้กับตนเอง เบียดบังผลประโยชน์ใส่ตัว!][เพิ่มภาระให้กับชาวนา! ทวีความคับแค้นของชาวนาที่มีต่อราชสำนัก! อาศัยเรื่องน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status