Share

บทที่ 8

Author: กวนเหอว่านหลี่
ฉางเซิงโกรธจัด “อวิ่นเหวิน เจ้าอย่าพูดจาเหลวไหล!”

ฉีไท่เสนาบดีกรมกลาโหมกล่าวว่า “ไคกั๋วกง ท่านจะรีบร้อนไปไย ฟังดูก่อนว่ามีเหตุผลหรือไม่”

จูอวิ่นเหวินกล่าวเสียงดัง “การเอาชนะฮ่องเต้หยวนได้นั้น ฝ่าบาททรงมีคุณูปการเป็นอันดับหนึ่ง! เป็นเพราะฝ่าบาททรงชี้ที่ซ่อนของฮ่องเต้หยวน แม่ทัพหลานจึงมีเป้าหมาย มีเป้าหมายแล้ว แต่ฮ่องเต้หยวนกลับไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย ต่อให้เปลี่ยนเป็นคนอื่นนำทัพ ก็ย่อมได้รับชัยชนะเช่นกัน”

คำพูดนี้ทำเอาเหล่าขุนนางในราชสำนักฮือฮา

พระราชนัดดาองค์รองผู้นี้ พูดมีเหตุผลอย่างยิ่ง!

เหล่าขุนนางฝ่ายบู๊อยากจะโต้แย้ง ก็ไม่กล้า

หากโต้แย้ง ก็เท่ากับเป็นการลบล้างคุณูปการของฝ่าบาท!

ฉางเซิงอัดอั้นตันใจ แต่ก็ระบายออกมาไม่ได้!

จูอวิ่นเหวินยิ่งได้ใจ “ในสถานการณ์เช่นนี้ ฝ่ายเรามีกำลังมากกว่าศัตรู ควรจะเป็นชัยชนะที่สมบูรณ์แบบ เหตุใดจึงปล่อยให้ฮ่องเต้หยวนและรัชทายาทหนีไปได้?”

“เป็นการบัญชาการของแม่ทัพหลานที่มีปัญหา หรือว่าแม่ทัพหลานจงใจปล่อยฮ่องเต้หยวนและรัชทายาทไป?”

เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ทั่วทั้งท้องพระโรงต่างตกตะลึง

เมื่อจูอวิ่นเหวินพูดเช่นนี้ ก็เท่ากับเป็นการใส่ร้ายหลานอวี้อย่างรุนแรง!

ไม่ว่าจะเป็นเพราะความสามารถไม่พอ หรือไม่ก็คือลักลอบติดต่อกับศัตรู!

เบื้องหลังจูอวิ่นเหวินมีผู้ชี้แนะที่เก่งกาจ!

เขาต้องการจะผลักหลานอวี้ให้ถึงแก่ความตาย!

หากหลานอวี้ล้มลง ผู้สนับสนุนของจูอวิ่นเทิงก็จะล้มไปครึ่งหนึ่ง!

ไม่ว่าจูอวิ่นเทิงจะมีความสามารถหรือไม่ จะได้เป็นพระนัดดารัชทายาทหรือไม่ หลานอวี้ก็เป็นฝ่ายตรงข้ามของจูอวิ่นเหวิน

เพียงแต่ทุกคนไม่คาดคิดว่าจูอวิ่นเหวินจะลงมือเร็วขนาดนี้!

จับจังหวะได้แม่นยำขนาดนี้!

ด้วยนิสัยที่ขี้ระแวงของฝ่าบาทแล้ว เกรงว่าครั้งนี้หลานอวี้จะต้องถูกลงโทษเป็นแน่

เมื่อจูหยวนจางได้ฟัง ก็เห็นว่าอวิ่นเหวินพูดมีเหตุผล!

ไม่คาดคิดว่าอวิ่นเหวินจะฟังความนัยอื่นจากรายงานชัยชนะได้ อวิ่นเหวินเติบโตขึ้นแล้ว!

[จูอวิ่นเหวินรีบร้อนเกินไปแล้วกระมัง? ฮ่องเต้หยวนเตรียมตัวหนีไว้ล่วงหน้าแล้ว พอเห็นท่าไม่ดีก็หนีไป! ต่อให้ตาเฒ่าจูนำทัพไปด้วยตนเอง ก็ไม่แน่ว่าจะจับได้]

[หากจับฮ่องเต้หยวนได้ หายนะของราชวงศ์หมิงเกรงว่าจะมาถึงเร็วกว่ากำหนด]

[ก็เพราะมีฮ่องเต้หยวนและองค์รัชทายาทอยู่ พวกเขาหนีไปทางตะวันตก ก็จะเจอกับอีกขั้วอำนาจหนึ่งของสายเลือดทองคำ คือฝ่ายของซู่เตี๋ยเอ๋อร์]

[ตำแหน่งมหาข่านนั้น ทั้งฮ่องเต้หยวนและซู่เตี๋ยเอ๋อร์ต่างก็แย่งชิงกันอยู่]

[ก็เพราะมีการแย่งชิงตำแหน่งข่าน ทุ่งหญ้าจึงไม่ได้รวมเป็นหนึ่งเดียว]

[การที่ทุ่งหญ้าแตกแยกออกเป็นส่วนๆ รบราฆ่าฟันกันเอง นี่คือสิ่งที่ราชวงศ์หมิงอยากเห็นที่สุด]

[ถ้าข้าเป็นหลานอวี้ ข้าจะแอบปล่อยฮ่องเต้หยวนไป หรืออาจจะให้กองกำลังเขาไปบางส่วนด้วยซ้ำ]

[ขณะเดียวกัน ก็ให้เขาลงนามในหนังสือยอมจำนน หากเจ้าเด็กนั่นเป็นใหญ่ขึ้นมาในอนาคต ก็จะมีประโยชน์]

[ชนเผ่าทุ่งหญ้าที่เป็นปึกแผ่นและสามัคคีกันน่ากลัวยิ่งนัก! จูอวิ่นเหวิน เขาไม่มีทางมองเห็นเรื่องพวกนี้หรอก!]

[กระทั่งตาเฒ่าจูก็ไม่แน่ว่าจะคิดถึงจุดนี้ได้]

[ถ้าตาเฒ่าจูคิดถึงจุดนี้ได้ก็ผีหลอกแล้ว!]

[เฮ้อ การไร้เทียมทานมันช่างโดดเดี่ยวเช่นนี้เอง!]

เมื่อจูหยวนจางได้ยินเสียงในใจของจูอวิ่นเทิง ก็ใจเย็นลงแล้ว

พระราชนัดดาคนนี้พูดมีเหตุผลอย่างยิ่ง!

เมื่อครู่เขาเกือบจะถูกคำพูดของจูอวิ่นเหวินชักจูงไปแล้ว

ยังคงเป็นจูอวิ่นเทิงที่มองการณ์ไกลและลึกซึ้งกว่า!

บางทีหลานอวี้อาจจะแอบปล่อยฮ่องเต้หยวนไปจริงๆ!

แต่ในรายงานชัยชนะเขาก็ไม่สะดวกที่จะกล่าวถึงเรื่องพวกนี้!

ยากนักที่จะมีใครมีความคิดลึกซึ้งเช่นหลานอวี้!

หลานอวี้ทำเรื่องนี้โดยแบกรับความเสี่ยงอย่างใหญ่หลวง!

สำหรับหลานอวี้แล้ว การปล่อยฮ่องเต้หยวนไปไม่มีประโยชน์อันใดเลยแม้แต่น้อย กลับมีความเสี่ยงที่จะถูกตัดหัว!

แต่หลานอวี้กลับทำเช่นนี้ เขาทำเพื่อราชวงศ์หมิง!

ก่อนหน้านี้ตนยังเคยสงสัยว่าเขาจะก่อกบฏเหมือนกับหูเหวยยง

ไม่คาดคิดว่า หลานอวี้จะเป็นขุนนางที่ซื่อสัตย์ภักดีอย่างแท้จริง!

ในตอนนี้ เหล่าขุนนางฝ่ายบุ๋นต่างก็พากันเห็นด้วยกับจูอวิ่นเหวิน

ลุกขึ้นมาประณามหลานอวี้ทีละคน!

“หลานอวี้ ทรยศต่อความคาดหวังของฝ่าบาท!”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อยากเนียนเป็นปลาเค็ม แต่ฮ่องเต้ดันจับโป๊ะจากในใจ   บทที่ 83

    “ท่านอย่าทำอะไรบ้า ๆ นะ!”ยิ่งมูเหยาขัดขืน จูอวิ่นเทิงก็ยิ่งเข้ามาแนบชิด“หม่อมฉันพูดแล้ว หม่อมฉันมีกายเป็นหญิง” มู่เหยาพูดจบ จูอวิ่นเทิงก็ปล่อยนางมู่เหยาไม่คิดว่าจูอวิ่นเทิงจะปล่อยมือในตอนนี้อดรู้สึกผิดหวังเล็ก ๆ ไม่ได้“เจ้ามีกายเป็นหญิง เป็นคนที่ฝ่าบาทส่งมา ฟังดูเหลวไหลมาก บอกมาดีกว่า อย่ามาหลอกข้า”เสี้ยวอำมหิตฉายวาบในดวงตาของจูอวิ่นเทิงมู่เหยาแสร้งทำท่าทางน่าสงสาร “อู๋อ๋อง หม่อมฉันเป็นคนอวิ๋นหนาน เมื่อราชวงศ์ต้าหมิงเริ่มก่อตั้ง จำนวนขันทีขาดแคลนมาก ทางการจึงยัดเยียดรายชื่อหนึ่งให้กับครอบครัวของหม่อมฉัน”“หม่อมฉันมีน้องชายเพียงคนเดียว พ่อแม่หม่อมฉันตัดใจไม่ลง”“ครอบครัวของหม่อมฉันในท้องถิ่นถือว่ามั่งคั่ง จึงใช้เงินเพื่อติดสินบนขุนนางทุกระดับ สุดท้ายก็ให้หม่อมฉันเข้าวังมา”“หม่อมฉันเป็นหญิง ฝ่าบาทก็ไม่รู้เช่นกัน”จูอวิ่นเทิงเดินวนรอบกายมู่เหยา เกรงว่าสิ่งที่นางพูดจะเป็นความจริงประการแรก ฝ่าบาทเป็นคนส่งมู่เหยามาจริง ๆ เรื่องนี้เจิ้งเหอสามารถเป็นพยานได้สุขภาพของตนเองอ่อนแอ เรื่องนี้ฝ่าบาทรู้ฝ่าบาทส่งขันทีคนหนึ่งมาเพื่อไม่ปล่อยให้วัน ๆ เขาเอาแต่จมดิ่งอยู่ในความเย้าย

  • อยากเนียนเป็นปลาเค็ม แต่ฮ่องเต้ดันจับโป๊ะจากในใจ   บทที่ 82

    จูอวิ่นเทิงกลับมาถึงเรือน เจิ้งเหอ เหมยเอ๋อร์ และหลานเอ๋อร์ถูกแก้มัดเชือกกันหมดแล้ว“มู่เหยาไปไหนหรือ?”“มู่เหยาบอกว่า เขาจะเข้าวังเพคะ” เหมยเอ๋อร์กล่าวเอ๊ะ ฮ่า ๆ!มู่เหยาไม่อยู่!อย่างนั้นก็เข้าไปในห้องกับเหมยเอ๋อร์และหลานเอ๋อร์ ถ่ายทอดความรู้ทางร่างกายแก่พวกนางได้น่ะสิ?เจิ้งเหอรู้ว่าหัวใจวสันต์ของคุณชายเริ่มหวั่นไหวอีกแล้ว แอบอิจฉาเล็กน้อย ก่อนกลับไปยังห้องของตัวเอง“เหมยเอ๋อร์ หลานเอ๋อร์ ข้าเข้าไปแล้วนะ”จูอวิ่นเทิงเพิ่งจะเข้ามาในห้อง ก็ได้ยินเสียงของมู่เหยา “เหมยเอ๋อร์ หลานเอ๋อร์ ข้ากลับมาแล้ว!”ร่างของจูอวิ่นเทิงพลันชะงัก ขันทีน้อยผู้นี้กลับมาได้จังหวะพอดีจริง ๆ!ไม่ใช่สิ กลับมาได้ไม่ถูกจังหวะเลยต่างหาก!เหมยเอ๋อร์และหลานเอ๋อร์เห็นดังนั้น ก็เหมือนหนูเห็นแมว รีบถอยไปยังหลังเรือนมู่เหยาเข้ามาในเรือน จูอวิ่นเทิงได้โผเข้าหาทันทีสวมกอดมู่เหยาไว้ว้าย! มู่เหยาไม่ทันตั้งตัว จึงร้องออกมาเสียงดัง“อย่าร้อง ร้องไปก็เปล่าประโยชน์!”จูอวิ่นเทิงดันมู่เหยาไปชิดผนังอย่างดุดันมู่เหยาคิดขัดขืน แต่จูอวิ่นเทิงพลันยันผนังคร่อมไว้“ท่าน ท่านคิดจะทำอะไรน่ะ?” มู่เหยาหน้าแดงก่ำ“ข

  • อยากเนียนเป็นปลาเค็ม แต่ฮ่องเต้ดันจับโป๊ะจากในใจ   บทที่ 81

    [ตาเฒ่า ท่านจะเอาแต่ดื้อรั้นเช่นนี้ไม่ได้! อย่างไรก็ต้องมีเหตุผลบ้าง]การบ่นของจูอวิ่นเทิงทำให้จูหยวนจางหมดคำพูด เราสามารถพูดเสียงในใจของเจ้าออกมาได้ไหม?[เหตุผลก็เห็นอยู่ชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือ?][เจ้าเมืองคนหนึ่ง เก็บภาษีเงินและเสบียงได้เกินเป้าทุกปี! นี่ไม่ถือว่าเป็นปัญหาหรอกหรือ?]จูหยวนจางคิดในใจว่า การเก็บภาษีได้เกินเป้ามันคือผลงาน เหตุใดถึงกลายเป็นปัญหาไปได้?ความคิดของหลานสามผู้นี้ มักจะพิลึกพิลั่นอยู่เสมอ![ตำแหน่งกำหนดความคิด เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม เป็นขุนนางสมัยหนึ่ง ก็ต้องสร้างคุณประโยชน์ให้ท้องถิ่นนั้น นี่คือจุดยืนและมุมมองอันเป็นพื้นฐานที่สุด!][ราชสำนักให้เจ้าเก็บเสบียงและภาษีเกินเป้าแล้วหรือ?][เมื่อไม่ได้ให้เจ้าเก็บภาษีเกินเป้า หวงจื่อซิ่น เจ้าหลอกลวงเบื้องบน!][ประชาชนคิดว่าราชสำนักให้เก็บเสบียงและภาษีเพิ่ม หวงจื่อซิ่น เจ้าปิดบังเบื้องล่าง!][เก็บเกินเป้าสองส่วน หนึ่งส่วนที่เพิ่มมามอบให้ราชสำนัก ได้รับชื่อเสียงในฐานะขุนนาง! อีกหนึ่งส่วนเก็บไว้กับตนเอง เบียดบังผลประโยชน์ใส่ตัว!][เพิ่มภาระให้กับชาวนา! ทวีความคับแค้นของชาวนาที่มีต่อราชสำนัก! อาศัยเรื่องน

  • อยากเนียนเป็นปลาเค็ม แต่ฮ่องเต้ดันจับโป๊ะจากในใจ   บทที่ 80

    ดวงพระเนตรของจูหยวนจางเบิกกว้างโดยพลัน มองไปทางจูอวิ่นเทิงการสิ้นพระชนม์ของรัชทายาท!!!เกี่ยวข้องกับหวงจื่อซิ่น?!จูอวิ่นเทิงรู้สึกได้ถึงสายตาที่ราวกับจะฆ่าคนของจูหยวนจาง มันทำให้เขาสะดุ้งตกใจ[ไม่ใช่กระมัง ตาเฒ่าจู ทำเอาข้าตกอกตกใจหมด!][ตอนแรกข้าก็ไม่ได้มีอะไรแอบแฝง แต่พอถูกเขามองแบบนี้กลับทำให้ดูมีเงื่อนงำขึ้นมาได้!][พระทัยของฮ่องเต้ คาดเดาได้ยากจริง ๆ ด้วย]จูหยวนจางรีบละสายตามองไปที่หวงจื่อเฉิงหวงจื่อเฉิงลังเลเล็กน้อยเช่นกัน พระเนตรของฝ่าบาทสามารถฆ่าคนได้เลย!หวงจื่อซิ่นเป็นญาติผู้น้องของเขา!ที่หวงจื่อซิ่นสามารถเป็นเจ้าเมืองหางโจว ก็เพราะจูอวิ่นเหวินเป็นคนแนะนำให้จูเปียวฝ่าบาทรู้ว่าเขากับฉีไท่สนิทกัน การที่ฉีไท่เป็นคนแนะนำหวงจื่อซิ่นแบบนี้ ไม่รู้ว่าฮ่องเต้จะคิดอย่างไร[ช่วงนี้ฝ่าบาทอารมณ์แปรปรวนไม่มั่นคง แต่ก็ไม่แปลก การตายของรัชทายาทคงทำให้ไม่อาจสงบพระทัย][หวงจื่อซิ่น นึกออกแล้ว! เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้!][ชาวอุทัยกลุ่มหนึ่งได้เข้ามาที่เมืองหางโจวภายใต้การนำของอันธพาลท้องถิ่น ทำการเผา สังหาร และปล้นสะดม จากนั้นเดินออกจากเมืองอย่างเปิดเผยไม่เกรงกล

  • อยากเนียนเป็นปลาเค็ม แต่ฮ่องเต้ดันจับโป๊ะจากในใจ   บทที่ 79

    หวงจื่อเฉิงไม่ยอมแพ้!เพราะการกระทำของฮ่องเต้ครั้งนี้มันเหลวไหลมากจริง ๆ!สำนักโหรหลวง มันใช่ที่ที่ผู้ใดจะเข้าไปก็ได้หรือ?ต่อให้เจ้ามีความรู้มากมาย มีความสามารถเป็นเลิศ เข้าสำนักโหราศาสตร์ไปแล้วก็คงทำได้แค่มองตาปริบ ๆนอกจากนี้ คนด้านในก็หยิ่งผยองกันทั้งนั้น!อยู่ในถิ่นของพวกเขา อย่าหวังว่าจะเข้าไปยุ่งได้!หากส่งคนที่ไม่รู้เรื่องไปสั่งการ มันจะไม่วุ่นวายไปกันใหญ่หรือ?“ฝ่าบาท เรื่องสำคัญของบ้านเมืองมีสองประการ คือการบูชาและการสงคราม การบูชามีการแจกจ่ายเครื่องเซ่น การสงครามมีการแบ่งสรรอำนาจ ทั้งสองล้วนเป็นพิธีการสำคัญที่ใช้ติดต่อกับสวรรค์เบื้องบน”“แม้อู๋อ๋องจะมีความสามารถ แต่ในแง่ของการสังเกตดวงดาวและภูมิศาสตร์แล้ว เกรงว่าจะไม่ใช่ด้านที่ถนัด”“ฝ่าบาท กระหม่อมมองว่าการให้อู๋อ๋องดำรงตำแหน่งเจ้ากรมสำนักโหราศาสตร์หลวง ไม่เหมาะสมพ่ะย่ะค่ะ”จูอวิ่นเทิงโมโหมาก หวงจื่อเฉิงชอบขัดขาเขาอยู่เรื่อย!ข้าก็แค่สั่งสอนหวงเฉิงอิ้นลูกชายเจ้าไปเพียงเล็กน้อยที่สำคัญคือ คนผู้นี้รนหาที่เอง สมควรโดนดี!มาเชิญข้าไปร่วมงานเลี้ยงแต่กลับวางท่าโอ้อวด!แต่ว่า คำคัดค้านของหวงจื่อเฉิงก็สามารถใช้ให้เกิ

  • อยากเนียนเป็นปลาเค็ม แต่ฮ่องเต้ดันจับโป๊ะจากในใจ   บทที่ 78

    โหรหลวงคืออะไร หากเป็นคนปกติก็ไม่มีทางที่ผู้ใดจะอยากรับตำแหน่งนี้!โหรหลวงมีชื่อเดิมว่าผู้เฝ้ามองดวงดาว ทำหน้าที่สังเกตปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ คำนวณปฏิทิน สำนักโหรหลวงจะทำงานแค่เฉพาะเหตุการณ์สำคัญเท่านั้นหากมีภัยธรรมชาติ โหรหลวงจะต้องคำอธิบายที่สมเหตุสมผล มิเช่นนั้นฮ่องเต้จะพิโรธหากเกิดสงคราม โหรหลวงจะต้องทำนายสภาพอากาศ ถ้าทำนายผิดพลาด อาจมีภัยมาถึงตัว!ในยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออก หนึ่งในหน้าที่ของไท่สื่อลิ่งก็ดูปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์และประกอบพิธีบวงสรวง ซือหม่าเชียนที่ถูกตอนก็เคยดำรงตำแหน่งนี้[ครานี้ก็อยู่ที่ว่า ตาเฒ่าจูจะตอบตกลงหรือไม่!][โหลหลวงสบายจะตาย! ไม่ต้องทำงานตั้งแต่เก้าโมงถึงสามทุ่ม หกวันต่อสัปดาห์!][เวลาทำงานก็ยืดหยุ่น! ไม่ต้องตื่นเช้าทุกวัน!][หากมีคนถามว่ากำลังทำอะไรอยู่ ขออภัย ฝ่าบาท ข้ากำลังสังเกตการณ์ท้องฟ้า!][อะไรนะ เข้าประชุมงั้นหรือ? ประชุมอะไร ไม่เห็นหรือว่าข้ากำลังสังเกตการณ์ท้องฟ้า?][ประชุมหรือ? ชู่ว อย่าเสียงดัง! ข้ากำลังคุยกับเง็กเซียนฮ่องเต้!][ตาเฒ่าจู ท่านไม่ให้ข้าออกจากเมืองอิ้งเทียนใช่หรือไม่? ท่านไม่รู้หรือว่าดาวจื่อเวยปรากฏที่เมืองซงเจี

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status