Home / โรแมนติก / อย่ารักนางร้าย / CHAPTER 4 เปลี่ยนเป้าหมาย

Share

CHAPTER 4 เปลี่ยนเป้าหมาย

last update Last Updated: 2025-07-03 10:07:52

ศรัญยืนหน้าตึงอยู่ข้างพิงค์มิรา หญิงสาวเจ้าของใบหน้าคมสวยที่แต่งตัวราวกับหลุดมาจากนิตยสารแฟชั่นระดับโลก แต่ท่าทีหงุดหงิดของเธอทำให้ความงามนั้นดูมีไฟ ไฟที่พร้อมจะเผาเขาทั้งเป็น

“ยิ้มหน่อยเดี๋ยวแม่กับน้องสาวฉันจะเข้าใจผิดว่าเธอไม่เต็มใจ” ศรัญพูดเสียงเรียบแต่หางเสียงเหมือนเยาะเย้ย

“ฉันก็แค่ทำตามคำสั่งของคุณป้าเท่านั้นค่ะ ไม่ได้หวังอะไรอย่าเข้าใจผิด” พิงค์มิราปรายตามองอย่างไม่แยแส

“คงดีใจมากล่ะสิที่ครอบครัวฉันชอบเธอ อยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่กรุณาเรียกฉันแบบให้เกียรติด้วย” เขาหัวเราะในลำคอก่อนจะโน้มตัวเข้าใกล้กระซิบชิดหู

“ฉันไม่อยากเรียกเหมือนเดิมเพราะฉันไม่ใช่คนเดิม อยู่ให้ห่างจากฉันด้วย” เธอชะงักเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มหวานแบบที่เต็มไปด้วยพิษ

“เรียกร้องความสนใจ” เขาหงุดหงิดไม่รู้ว่าเพราะอะไรพิงค์มิราเปลี่ยนไปมาก จนเขาสัมผัสได้ว่าเธอทำแบบที่ปากพูดจริงๆ

สายตาของทั้งสองปะทะกันอย่างแรงบ้าง เย็นชาอย่างตั้งใจบ้าง ราวกับแข่งกันว่าใครจะประชดได้เจ็บกว่ากัน

“ฉันไปเอาไวน์” เขาพูดลอยๆ ก่อนจะก้าวเดินออกจากกลุ่มคนในงาน ทิ้งพิงค์มิราไว้กลางแสงไฟกับเสียงดนตรี และเธอก็ยังยืนอยู่ตรงนั้นไม่ได้เดินตาม แต่ก็ไม่ได้ละสายตาจากเขาเช่นกัน

“แปลกจังเนื้อเรื่องก็เป็นไปตามที่เราเขียน แต่ทำไมศรัญดูเปลี่ยนไป” เธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขาควรจะไปตามตื๊อพราวฟ้าสิไม่ใช่มาตัวติดกับเธอ

“อยู่นี่เอง” เสียงนานาดังขึ้นพร้อมกับมีผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งเดินเคียงคู่กันมา

“เกรซไม่ได้เจอกันนานเลย” เขาส่งยิ้มให้เธอด้วยความจริงใจ พร้อมกับแววตาที่ดูเหมือนเขินอายเล็กอาย

“ชานนท์เหรอ?” หญิงสาวชะงักนิดหนึ่ง นิยายชานนท์คนที่แอบชอบพิงค์มิรา ในนิยายเขาเดินทางไปเรียนต่อที่อังกฤษและขาดการติดต่อไป ทำไมถึงมีแต่คนหล่อรอบตัวเธอ

เธอรู้ดีว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในโลกของความจริง โลกใบนี้คือนิยายที่เธอเป็นคนเขียน แต่เธอแน่ใจว่าความรักของศรัญไม่ใช่สิ่งที่ควรเสี่ยงอีกต่อไป หากติดอยู่ในโลกนี้ตลอดไปอย่างน้อยควรจะมอบความรักในกับคนที่คู่ควร

“คิดว่าจะจำเราไม่ได้” ชานนท์พูดแก้เขินเพราะเขาแอบชอบพิงค์มิรามานานแล้ว

ความนิ่งของชานนท์ความอบอุ่นในแววตาเขา และความเป็นมิตรแบบที่ไม่ต้องพยายาม มันต่างจากศรัญที่มีแต่การปะทะ การพูดจาประชดประชัน และทำให้หัวใจเธอปั่นป่วนเกินควบคุม

บางทีการลงหลักปักฐานกับชานนท์ เพื่อนที่ไม่เคยทำให้เธอร้องไห้อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

“ไปเรียนหรือไปไหนไม่ติดต่อมาบ้างเลยว่าแต่ นนท์ยังโสดอยู่ใช่ไหม?”

“จะตัดใจจากพี่ชายฉันเหรอ” นานาไม่เชื่อในสิ่งพิงค์มิราถาม ชานนท์ตามจีบพิงค์มิรามาตั้งนานแต่เพื่อนไม่ยอมรับรัก

“โสดมากทำไมหรือว่าจะหาคู่ให้?” แดนเลิกคิ้วพูดขำๆ

“เปล่า ฉันแค่คิดว่าคนเราไม่จำเป็นต้องเจ็บซ้ำจากคนเดิมๆ ก็ได้” เธอตอบพลางยกแก้วขึ้นจิบไวน์

คำพูดนั้นทำให้นานากับชานนท์มองหน้ากันงงๆ แต่พิงค์มิราไม่อธิบายเธอแค่ยิ้ม แล้วหันมาสบตาชายหนุ่มอีกครั้งอย่างแน่วแน่กว่าเดิม

และที่มุมหนึ่งของงานเลี้ยง ศรัญที่เพิ่งกลับเข้ามาพร้อมแก้วไวน์ในมือก็เผลอชะงักก้าว เมื่อเห็นภาพนั้นพอดีแถมได้ยินชัดทุกประโยคที่พิงค์มิราถามผู้ชายคนนั้น

“ผู้หญิงส่ำส่อน เห็นผู้ชายก็รีบโปรยเสน่ห์” เขาหงุดหงิดกำลังจะเดินหลบออกไปนอกงาน แต่ถูกแม่ตัวเองเรียกให้ไปสัมภาษณ์พร้อมกับพิงค์มิรา ทำให้เขาหลีกเลี่ยงไม่ได้

“คุณศรัญคะ คืนนี้คุณมาคู่กับพิงค์มิรามีข่าวลือว่าคุณกำลังคุยๆ เรื่องหมั้นหมายกับคุณพราวฟ้าจริงหรือเปล่าคะ?” นักข่าวสาวคนหนึ่งตะโกนแข่งกับเสียงแฟลช

ศรัญยังไม่ทันตอบนักข่าวชายอีกคนก็แทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเสียดสี

“แต่ก็มีข่าวว่าคุณพิงค์มิราเพิ่งพาผู้ชายขึ้นคอนโดไม่ใช่เหรอครับ? แถมผู้ชายคนนั้นยังมีแฟนอยู่แล้วด้วย คุณศรัญคิดยังไงกับข่าวนี้ หรือว่าความสัมพันธ์แค่นี้คุณรับได้? แล้วกับคุณพราวฟ้าล่ะครับ”

พิงค์มิราชะงักเล็กน้อยสีหน้าสงบนิ่งพยายามไม่แสดงความตกใจ แต่แววตาของเธอไหววูบริมฝีปากเม้มแน่น

บรรยากาศเริ่มตึงเครียดแฟลชหยุดลงชั่วคราวเหมือนทุกคนรอคำตอบจากศรัญ เขาหรี่ตามองนักข่าวคนนั้นนิ่งๆ ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น

“ก่อนอื่นผมขอพูดในฐานะคนมีสติครับ ไม่ใช่แค่ข่าวลืออะไรก็เชื่อทันทีโดยไม่รู้ข้อเท็จจริง และถ้าจะถามว่าผมจะเลือกใคร” ศรัญหยุดไปชั่วอึดใจ แล้วหันมามองพิงค์มิรานานพอให้กล้องทั้งหมดหันตาม

“เรื่องงานหมั้นหมายอะไร ไม่ทราบว่าคุณเอามาจากไหนหรือแหล่งข่าวที่ไหนปล่อยมา”

“อึก...คือ” นักข่าวไม่กล้าตอบ

เสียงแฟลชดังขึ้นอีกครั้งราวกับพายุ นักข่าวเริ่มถามกันอื้ออึง แต่ศรัญยกมือขึ้นเป็นเชิงขอจบการสัมภาษณ์

หญิงสาวยังคงยืนตรง ไม่พูดอะไรสีหน้าไม่แน่ใจว่าอึ้ง ตื้นตัน แปลกใจที่ศรัญปกป้องพิงค์มิรา ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลย

“ขอบใจที่พูดแบบนั้นแม้มันจะไม่ได้ช่วยอะไรเลยก็ตาม”

“คราวหลังจะยุ่งหรือพาใครขึ้นคอนโดเลือกคนที่เขาไม่มีพันธะหน่อยก็ดี คราวก่อนเมียเขาเกือบฆ่าตัวตายไม่ใช่เหรอ” ศรัญนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะพูดเบาๆ พอให้ได้ยินแค่สองคน

“ฉัน...ขอบคุณที่เตือนคราวหลังจะเลือกให้ดีกว่านี้” เธอจะปฏิเสธว่ามันไม่ใช่แบบนั้น แต่ไม่อยากแก้ตัวเพิ่งให้สัมภาษณ์แท้ๆ ว่าไม่เชื่อข่าวลือ

“ฉันจะบอกให้นะ...” เขาจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของพิงค์มิรา เหมือนเกิดไฟฟ้าสถิตหัวใจของเขาเต้นระรัวแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ก่อนจะรีบละสายตาและรีบตัดบท

“ฉันฟังอยู่ค่ะ” เธอตั้งใจฟังเขาเป็นอย่างดี

“เธอเป็นผู้ดีมีชาติตระกูลทำอะไรก็อายบรรพบุรุษบ้าง”

“มีชาติตระกูล? ตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว” เธอพูดเบาๆ เพราะตอนนี้ทุกอย่างตกอยู่ในมือของศรัญแล้ว เหลือแค่ว่าเขาจะไล่เธอออกจากบ้านเมื่อไรแค่นั้น แต่ในนิยายคือตอนจบพิงค์มิราไม่เหลืออะไรจริงๆ แม้แต่ชีวิตตัวเอง

.

พราวฟ้าหญิงสาวหน้าสวยจัดจ้านในชุดเดรสสีแดงเพลิง ยืนอยู่หน้ากระจก ดวงตาสั่นไหวเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและโกรธจัด ปากเม้มแน่นขณะถือโทรศัพท์แนบหู มือกำแน่นจนเส้นเลือดปูด

“ฉันไม่สนว่าเธอจะทำยังไง แต่คืนนี้ทำให้มันมีข่าวฉาวเข้าใจมั้ย? เอาให้คุณศรัญเกลียดมันไปเลย” เสียงพราวฟ้าเครียดจัด น้ำเสียงสั่นเล็กน้อยแต่แข็งกร้าว

เสียงปลายสายพูดอะไรบางอย่างที่เธอฟังไม่ถนัดนัก เพราะหัวใจเต้นแรงเกินจะจับคำ

“แค่ทำให้มันเสียชื่อพอ ข่าวมันจะดังเร็วพอถ้ามันมีอาการแปลกๆ กลางงานเชื่อฉันสิแม่ของเขาต้องเกลียดมันแน่” มืออีกข้างของเธอกำสร้อยข้อมือแน่นจนสั่น แววตาเต็มไปด้วยความหวาดระแวงอย่างคนใกล้จะขาดสติ

พราวฟ้าเดินเข้าไปในงานโดยที่ไม่มีใครเชิญมาสักคน และศรัญไม่เคยเอ่ยปากบอกเธอเรื่องนี้ หญิงสาวส่งยิ้มให้นักข่าวเบาๆ และเดินมุ่งหน้าไปหาเป้าหมาย

พิงค์มิราที่ยืนอยู่กับนานาเห็นพราวฟ้าเข้ามาในงาน จนต้องขมวดคิ้วเพราะในรายชื่อไม่มีนางเอกสาวคนนี้มาร่วมงานด้วย

เหตุการณ์นี้ไม่มีในเนื้อเรื่องหลักที่ถูกเพิ่มขึ้นมาเพราะพิงค์มิราเปลี่ยนไปทำให้ตัวละครของเธอเปลี่ยนไปตาม

“สวัสดีค่ะคุณนานา” พราวฟ้าเลือกไม่ทักทายพิงค์มิรา แสร้งทำเป็นว่ามองไม่เห็น

“ใครเชิญเธอมา” นานาตอบกลับทันที

“ทำไมไม่ถามพี่ชายคุณดูล่ะ” พราวฟ้ากลัวว่านานาจะไปตามศรัญจริงๆ พยายามยิ้มสู้เข้าไว้

“ในการ์ดไม่ได้ให้พี่ศรัญไปชวนใครเลยเธอโกหก” นานาเสียงแข็งพร้อมจะเอาเรื่องกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญ

“นานาอย่าเสียงดังไปใครอยากจะมาก็ปล่อยเขาไปเถอะ” พิงค์มิราเริ่มปวดหัวขึ้นมา ทำไมพราวฟ้านิสัยเปลี่ยนไปมากขนาด เธอเริ่มเดาเรื่องต่อจากนี้ไม่ถูกเพราะไม่มีเนื้อหาในนิยาย

ตัวละครของพราวฟ้าเริ่มมีความริษยาของตัวร้ายขึ้นมานั่นเพราะตั้งแต่วันที่ทิชามาที่นี่ เนื้อเรื่องก็ได้เริ่มเปลี่ยนไปแล้ว

“พราวขอตัวไปหาคุณศรัญก่อนนะคะ” หญิงสาวเดินเชิดหน้าไปหน้าตาเฉย ไม่สนและไม่แคร์ใครส่งยิ้มทักทายทุกคนที่มองมาที่เธอ

“ยัยบ้านี่”

“ฉันไปคุยกับชานนท์ก่อนนะ”

นานามองเพื่อนที่กำลังยืนคุยกับชานนท์แบบออกรส พร้อมมองไปที่พี่ชายตัวเองที่มีพราวฟ้าตามติด ทำตัวเหมือนกับเป็นคนรักแต่ความจริงคือไม่ใช่

‘ผมเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วครับ’

พราวฟ้าก้มอ่านข้อความก่อนจะยิ้มมุมปากและมองไปที่พิงค์มิรา ที่แรกกะแค่ว่าจะวางยาเล่นๆ คราวนี้เธอจะให้พิงค์มิรามีอะไรกับผู้ชายที่เธอหาไว้เพื่อสร้างข่าวเสียหาย

“คุณพราวมากับใครครับ”

“อ่อ...พราวมากับเพื่อนค่ะ” เธอหน้าเสียเมื่อเขาถามไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร เพราะผู้จัดการไม่ได้มาด้วย

“ไม่รู้ว่าเกรซมีอะไรดีผู้ชายถึงหลงขนาดนี้”

“...” ศรัญไม่ตอบเขาหันไปมองพิงค์มิรา เขากำแก้วไวน์แน่นจนมันจะแหลกคามือ และเห็นเหมือนผู้ชายคนนั้นกำลังลูบศีรษะของหญิงสาว

เคล้ง

“ว้าย คุณศรัญเลือด!” พราวฟ้าตกใจเมื่อแก้วไวน์ในมือของเขาแตกจนบาดลึกลงไป

“ไม่เป็นไรครับผมขอตัวไปทำแผลก่อน” เขาหลีกหนีจากภาพนั้น แก้วที่บาดมือไม่ทำให้เขาเจ็บเลยสักนิด แต่รู้สึกคันยุกยิกที่หน้าอกข้างซ้ายแทน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อย่ารักนางร้าย   CHAPTER 4 เปลี่ยนเป้าหมาย

    ศรัญยืนหน้าตึงอยู่ข้างพิงค์มิรา หญิงสาวเจ้าของใบหน้าคมสวยที่แต่งตัวราวกับหลุดมาจากนิตยสารแฟชั่นระดับโลก แต่ท่าทีหงุดหงิดของเธอทำให้ความงามนั้นดูมีไฟ ไฟที่พร้อมจะเผาเขาทั้งเป็น“ยิ้มหน่อยเดี๋ยวแม่กับน้องสาวฉันจะเข้าใจผิดว่าเธอไม่เต็มใจ” ศรัญพูดเสียงเรียบแต่หางเสียงเหมือนเยาะเย้ย“ฉันก็แค่ทำตามคำสั่งของคุณป้าเท่านั้นค่ะ ไม่ได้หวังอะไรอย่าเข้าใจผิด” พิงค์มิราปรายตามองอย่างไม่แยแส“คงดีใจมากล่ะสิที่ครอบครัวฉันชอบเธอ อยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่กรุณาเรียกฉันแบบให้เกียรติด้วย” เขาหัวเราะในลำคอก่อนจะโน้มตัวเข้าใกล้กระซิบชิดหู“ฉันไม่อยากเรียกเหมือนเดิมเพราะฉันไม่ใช่คนเดิม อยู่ให้ห่างจากฉันด้วย” เธอชะงักเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มหวานแบบที่เต็มไปด้วยพิษ“เรียกร้องความสนใจ” เขาหงุดหงิดไม่รู้ว่าเพราะอะไรพิงค์มิราเปลี่ยนไปมาก จนเขาสัมผัสได้ว่าเธอทำแบบที่ปากพูดจริงๆสายตาของทั้งสองปะทะกันอย่างแรงบ้าง เย็นชาอย่างตั้งใจบ้าง ราวกับแข่งกันว่าใครจะประชดได้เจ็บกว่ากัน“ฉันไปเอาไวน์” เขาพูดลอยๆ ก่อนจะก้าวเดินออกจากกลุ่มคนในงาน ทิ้งพิงค์มิราไว้กลางแสงไฟกับเสียงดนตรี และเธอก็ยังยืนอยู่ตรงนั้นไม่ได้เดินตาม แต่ก็ไม่ได้ละสายต

  • อย่ารักนางร้าย   CHAPTER 3 ขอร้อง

    พิงค์มิรานั่งตัวตรงบนโซฟาหนังแท้ สีหน้านิ่งเฉยแต่เต็มไปด้วยความระวัง หลังจากเพิ่งรินชาคาโมมายล์ให้แขกผู้ใหญ่ที่มาเยือนแม่ของศรัญคุณหญิงนฤมล นั่งตรงข้ามเธอในชุดผ้าไหมพรมละเอียดอย่างสง่า ซึ่งมีรอยยิ้มอบอุ่นทุกครั้งที่มองพิงค์มิรา เรียกว่าเป็นแม่คนที่สองเลยก็ว่าได้“หนูเกรซช่วยรับงานของป้าเถอะนะ ผลิตภัณฑ์ใหม่นี่สำคัญกับแบรนด์เรามาก ป้าคิดไว้แล้วว่าถ้ามีหนูเกรซเป็นหน้าเป็นตาทุกอย่างจะสมบูรณ์แบบ”เสียงคุณหญิงเอ่ยอย่างนุ่มนวล แต่แฝงแรงกดดันไว้แนบเนียน“ใช่ค่ะ พี่แจ๋วก็เห็นด้วยหนูเกรซเหมาะกับภาพลักษณ์แบรนด์ สะอาด หรู ดูแพง มีเชื้อสายชัดเจนลูกผู้ดีมีสกุล” แจ๋วเลขาคนสนิมของคุณหญิงเอ่ยขึ้น มีแต่คนมองพิงค์มิราว่าเป็นนางร้าย แต่นิสัยใจคอกลับน่ารักมากกว่าที่คิด“หนูขอคิดก่อนได้ไหมคะ” เพราะกลัวว่าจะต้องได้เจอหน้ากับศรัญ เธอเลยประหม่าพิงค์มิรายิ้มสุภาพพยายามไม่แสดงความหงุดหงิดนี่มันบทเดิมชัดๆ ฉากที่บ้านศรัญชวนให้เธอมาเป็นพรีเซนเตอร์ แถมยังพูดนัยๆ ถึงตำแหน่งลูกสะใภ้ในอนาคต“ถ้ารับงานนี้ได้ ป้าก็อยากชวนไปงานเลี้ยงส่วนตัวที่บ้านหลังจากเปิดตัวผลิตภัณฑ์นะจ๊ะ ถือว่าเป็นการเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการของว่

  • อย่ารักนางร้าย   CHAPTER 2 ชีวิตของพิงค์มิรา

    เสียงแฟลชจากกล้องนับสิบตัวดังขึ้นแทบจะพร้อมกันในงานเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ของนานา ดีไซเนอร์ชื่อดังระดับแนวหน้าของวงการ พิงค์มิราปรากฏตัวกลางพรมแดงในชุดเดรสสีดำสนิททรงคัตเอาต์ที่เผยเรือนร่างงามระหงด้วยความมั่นใจ เธอเดินผ่านนักข่าวและสายตานับร้อยที่จ้องมองมาอย่างไม่เกรงกลัวไม่ใช่เพราะเธอไม่รู้ แต่เพราะเธอเลือกจะไม่สนใจ แต่รู้สึกประหม่าเล็กน้อยเพราะเธอไม่ใช่คนที่มั่นใจในตัวเองแบบพิงค์มิรา“ยัยเกรซเป็นนางแบบหรือเป็นตัวร้ายในซีรีส์กันแน่?”“ข่าวว่าแย่งแฟนรุ่นพี่อีกแล้วเหรอ?”“พราวฟ้าน่ะไม่พอใจแน่ๆ สนิทกับนานาขนาดนั้น”เสียงซุบซิบเหล่านั้นลอยมากระทบโสตประสาทแต่พิงค์มิราเพียงเชิดหน้าแล้วส่งยิ้มบางๆ ให้กล้อง เธอรู้ดีว่าในวงการแฟชั่น ไม่มีใครยืนอยู่ตรงจุดสูงสุดได้โดยไม่โดนอะไรเลยบ้าง “เกรซอย่าไปสนใจพวกปากนกปากกาเลย” นานาสงสารเพื่อน “เรื่องปกติของวงการไม่มีข่าวเขาจะขายอะไร” “ไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันดีกว่า” นานาลากเพื่อนไปห้องแต่งตัวแต่ในระหว่างนั้นกลับได้ยิน นางแบบคนอื่นๆ พูดถึงพิงค์มิราแบบเสียๆ หายๆ“เห็นยัยเกรซนางร้ายเดินพรมแดงเมื่อกี้ยัง?”“ยัยนั่นน่ะเหรอ? เดรสสวยก

  • อย่ารักนางร้าย   CHAPTER 1 โชคชะตา

    ทิชานักเขียนสาววัยยี่สิบต้นๆ ใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบงันในบ้านไม้สองชั้นที่ตั้งอยู่ชานเมือง บ้านหลังเล็กที่เธอซื้อไว้ด้วยเงินจากการเขียนนิยายมาตลอดห้าปี ทั้งชีวิตของเธอมีเพียงตัวอักษร เป็นเพื่อนเป็นที่พึ่งเป็นความรักที่ไม่เคยทรยศในคืนฝนพรำคืนนั้นบนโต๊ะไม้หน้าหน้าต่าง เธอกำลังนั่งเขียนตอนจบของนิยายเรื่องล่าสุด เรื่องราวของพิงค์มิรา นางร้ายที่ไม่มีใครรักไม่มีใครเข้าใจ และสุดท้ายต้องตายอย่างเดียวดายในห้องนอนที่ไม่มีแม้แต่เสียงตอบรับจากโลกภายนอก “พี่ศรัญถ้าคิดว่าเกรซโกหกก็ยิงเลย”“อย่ามาท้าฉันเกรซ และจำไว้ว่าคนที่ฉันรักมีพราวฟ้าคนเดียวฉันไม่เคยรักเธอ!” เขาตะโกนสุดเสียงมือไม้สั่นเทาเพราะเกียจคนตรงหน้า ที่เข้ามาทำลายเขาและคนที่เขารักเธอวางมือลงบนอกของเขาตรงหัวใจที่เต้นรัว ความเงียบเข้าครอบคลุมเพียงชั่ววินาที แล้วเสียงปืนก็ดังขึ้น ดังชัดเจนในค่ำคืนอ้างว้างปัง!ร่างของพิงค์มิราทรุดลงช้าๆ แขนตกข้างลำตัวดวงตากลมโตยังค้างอยู่ที่ใบหน้าของเขา ราวกับอยากจดจำให้ถึงวินาทีสุดท้าย“ขอบคุณที่เคยทำให้เกรซรู้จักคำว่ารัก” เธอพูดด้วยเสียงกระซิบ ก่อนดวงตาจะค่อยๆ ปิดลง พร้อมลมหายใจที่แผ่วเบาลงทุกทีเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status