อลินตาเดินออกมาจากห้องด้วยประชุมใบหน้านิ่งที่ไม่แสดงอาการใดๆ ให้ใครเห็นก่อนจะเดินมุ่งตรงไปที่ห้องทำงานของตัวเองพร้อมกับล็อกประตูเอาไว้ไม่ให้ใครเข้าไปรบกวนแม้แต่พี่กันต์ที่เดินตามหลังเขามาก็ตาม
ประตูห้องปิดลงพร้อมกับร่างบางทรุดตัวนั่งลงตรงหน้าประตูบานใหญ่อย่างหมดภาพลักษณ์ของประธานบริษัท น้ำตาสีใสที่อลินตากักเก็บเอาไว้ข้างใน ส่วนลึกของร่างกายตอนนี้มันกำลังเอ่อคลอรอบดวงตาของเขา พลันในที่สุดน้ำตาหยดแรกก็หยดแหมะลงบนกางเกงอันแสนแพงของเขาและหยดต่อๆ ไปก็ร่วงรินไหลออกมาตามๆ กัน
“ฮึก อะ อึก” เสียงร้องไห้ดังเล็ดลอดออกมาเบาๆ พร้อมกับน้ำตาเจ้ากรรมที่ไหลออกมาไม่หยุด ความในใจที่มีมากจนเอ่อล้นออกมาเป็นน้ำตาที่ตนไม่สามารถพูดออกมาได้เมื่อเจอคนที่ตัวเองไม่คิดว่าชาตินี้จะได้เจอ
อลินตานั่งร้องไห้อยู่หน้าประตูห้องสักพักใหญ่จนคลายสะอื้นลง จึงค่อยๆ ดันตัวเองลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปที่เก้าอี้ทำงานของตัวเองเพื่อสงบสติอารมณ์
ทางฝั่งของคีรันหลังจากที่อลินตาพูดประโยคนั้นใส่หน้าเต็มๆ ขาแกร่งที่ยืนอยู่ก็แทบทรุดลงตรงนั้น แต่ก็ต้องยอมรับความเป็นจริงให้ได้เพราะเขาเป็นคนเลือกให้เรื่องมันเป็นแบบนี้เอง แม้ตอนนี้เขาอยากจะอธิบายให้อีกคนรับฟังแค่ไหนแต่อีกคนก็คงจะยังไม่เปิดใจรับฟังเขาแน่นอนเพราะคีรันรู้จักนิสัยของอลินตาดี
คีรันนั่งอยู่ในห้องประชุมสักพักก่อนจะเปิดประตูเดินออกไป แล้วก็เจอเข้ากับใครบางคนที่ยืนทำหน้านิ่งอยู่ก่อนจะเอ่ยบางอย่างกับเขา
“กลับไปพักผ่อนที่บ้านก่อนเถอะครับ”
“อื้ม ฝากมึงดูแลเขาด้วยแล้วกัน” อีกฝ่ายก้มหัวให้คีรันก่อนที่คีรันจะเดินหายเข้าไปในลิฟต์
ชายหนุ่มที่ยืนดูคีรันเดินหายเข้าไปในลิฟต์ได้แต่ส่ายหน้าไปมาเพราะรู้ว่าคนตัวสูงรู้สึกอย่างไร
ตาแดงก่ำขนาดนั้นต้องโดนคนตัวเล็กพูดอะไรแทงใจดำมาแน่ๆ
หลังจากที่นั่งปรับอารมณ์ของตัวเองให้เป็นปกติ อลินตาก็เตรียมตัวออกไปกินมื้อเที่ยงกับสกายที่ร้านประจำสมัยเรียนมหาลัยอยู่ที่ไทย พี่กันต์ขับรถมาส่งที่หน้าร้าน พอมาถึงก็เจอกับเพื่อนของเขาที่ชอบทำหน้าเหมือนหมาโกเด้นนั่งรออยู่ที่โต๊ะประจำ
“ลินๆ ทางนี้ๆ” สกายเห็นเพื่อนเปิดประตูร้านเข้ามาก็โบกมือเรียกเพื่อนทันที
“เบาๆ ไอ้กายมึงจะเสียงดังทำไมเนี่ยเกรงใจคนอื่นเขา”
“อุ้ย กูลืมตัว นี่ๆ สั่งเลยมึงอยากกินอะไรจิ้มเลย”
“แล้วของมึงล่ะ” ลินถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนนั่งนิ่งไม่สั่งอาหาร
“กูสั่งไปแล้ว ถ้ารอมึงนะกว่ากูจะได้สั่งกว่าป้าเขาจะเอามาเสิร์ฟอีกนานนนน กูขี้เกียจรอ”
“ขี้บ่นวะ” สกายแลบลิ้นใส่ลินอย่างท้าทาย ลินได้แต่ส่ายหน้ากับนิสัยไม่ยอมโตของเพื่อนพร้อมมองเมนูตรงหน้าแล้วเขียนใส่กระดาษให้เด็กที่ร้านมาเอาไปให้ป้าเจ้าของร้าน
นั่งรอไม่นานอาหารที่สั่งไปก็มาเสิร์ฟลินกับสกายไม่รอช้ารีบจ้วงอาหารฝีมือป้าร้านประจำลงท้องทันทีด้วยความหิวโหย พร้อมผลัดกันตักนั่นนี่ให้เพื่อนชิมและนั่งคุยกันเรื่อยๆ
“มึงอิ่มยังวะ” สกายถามลิน
“อิ่มแล้ว มึงละอิ่มยังหรือว่ายังไม่อิ่ม”
“กินหมดจานนี้กูอิ่มเลย” ลินมองจานสเต๊กปลาตรงหน้าของสกายที่มีชิ้นปลากับเฟรนช์ฟรายส์เต็มจานก่อนจะพยักหน้าให้เพื่อนเพื่อบอกให้เพื่อนสู้
“ไม่อ้วกอย่าเลิกแดกนะมึง”
ลินกับสกายชวนกันมาเดินเล่นที่ห้างใกล้ๆ เพื่อเดินย่อยมื้อเที่ยงที่กินเข้าไปและตบท้ายด้วยไอศกรีมถ้วยใหญ่เพื่อล้างความคาวในปาก
“คืนนี้มึงไปไหนหรือเปล่า”
“มีนัดคุยงานน่ะ”
“อีกแล้วเหรอวะ อย่างงี้ก็อดตี้กับกูอะดิ” สกายพูดพร้อมทำหน้าเซ็งๆ เมื่อรู้ว่าเพื่อนติดงานแม้กระทั่งตอนกลางคืน
“นี่น้อยๆ หน่อย อายุเท่าไหร่แล้วมึงอ่ะจะมาให้กูทำตัวว่างเพื่ออยู่เป็นเพื่อนเล่นกับมึงก็คงไม่ได้แล้วมั้ย อายุอานามก็ตั้งเท่าไหร่แล้ว”
“แงงง กูก็แค่เหงาไม่มีเพื่อนอะ นอกจากมึงแล้วกูก็ไม่มีเพื่อนที่ไหนคบแล้วนะเว้ย” สกายพูดพร้อมตักไอศกรีมรสมะนาวเข้าปาก
“แล้วแฟนมึงไปไหนทำไมปล่อยมึงออกจากกรงมาแบบนี้”
“ไอ้สัตว์กูคนนะไม่ใช่หมา”
“ฮ่าๆ กูก็ว่าเหมือนโกเด้นดีนะ” สกายทำหน้ายุ่งกว่าเดิม
ลินโทรให้พี่กันต์มารับกลับไปพักผ่อนที่คอนโดหลังจากที่แยกย้ายกันกับสกายที่ห้าง เพื่อรอเวลาไปที่ที่ลูกค้านัดคุยงาน ระหว่างที่นั่งคิดหาอะไรทำ พลันเรื่องเมื่อเช้าก็ผุดขึ้นมาในหัวของอลินตาอย่างห้ามไม่ได้
คนที่ไม่ได้เจอกันตั้งเกือบแปดปีจู่ๆ ก็โผล่เข้ามาในห้องประชุมหุ้นส่วนของโรงแรมที่กำลังจะสร้างแถมก่อนจะออกมาจากห้องก็ยังจู่โจมลินโดยที่เขายังไม่ทันได้ตั้งตัวอีก ยังดีที่เขาใจแข็งพอที่จะไม่แสดงออกให้อีกฝ่ายรับรู้ได้ถึงอารมณ์อ่อนไหวของเขาในตอนนั้น
บอกตามตรงว่าตลอดระยะเวลาเกือบแปดปีที่ลินตัดสินใจทิ้งเรื่องของอีกคนไว้ที่นี่แล้วคิดว่าจะไปเริ่มต้นใหม่ที่บ้านเกิดของแด๊ด คิดว่าเขาคงจะลืมคนคนนี้ไปได้ แต่ที่เขาร้องไห้วันนี้คือคำตอบว่าลินไม่เคยที่จะลืมเขาคนนั้นได้เลยยิ่งเจอหน้าเขาความรู้สึกในใจก็ยิ่งอยากจะเดินเข้าไปถามให้รู้เรื่อง
"ขอโทษที่รบกวนครับคุณหนู คุณสายฟ้าโทรมาครับ" อลินตาตื่นจากภวังค์ก่อนจะหันไปมองต้นเสียงก็เห็นว่าเป็นพี่กันที่ยืนถือโทรศัพท์เดินเข้ามาในห้อง
"เอามาให้ลินเลยครับพี่กันต์" พี่กันต์เดินเอามือถือส่งมาให้ลินก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ลินปรับน้ำเสียงที่เหมือนจะสั่นเล็กน้อยให้เป็นปกติก่อนจะเอ่ยกับปลายสาย
"ครับพี่ฟ้า"
'ลินเป็นยังไงบ้างที่นั่นโอเคมั้ย'
"โอเคดีครับพี่ฟ้า ลิน… โอเค"
'ลินทำไมเสียงเป็นแบบนั้นเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า' ปลายสายถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อได้ยินเสียงน้องชาย
"ลินเจอเขาแล้วครับพี่ฟ้า เขายังเหมือนเดิมทุกอย่าง อึก ละ ลิน..." คำพูดทุกคำพลันขาดห้วงไปเมื่อลินจะพูดถึงใครคนนั้น ใบหน้าคมที่โน้มลงมาใกล้จนจมูกแทบชนกับจนใจเขาเต้นแรงแทบหลุดออกมาจากอก
'เขาได้ทำอะไรลินหรือเปล่า' สายฟ้าถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงน้องชาย
"ไม่ครับ"
'กลับมาดูแลที่นี่มั้ยลิน ให้พี่กลับไปดูแลที่นั่นแทนมั้ย' สายฟ้าเอ่ยเสนอให้น้องชายเลือก
"มะ ไม่เป็นไรครับ ลินอยู่ได้"
‘ถ้าไม่ไหวลินต้องรีบบอกพี่นะห้ามปิดบังพี่เด็ดขาด จำได้ใช่มั้ยว่าเราไม่เคยมีความลับต่อกัน’
“ครับ ลินจำได้”
อลินตานั่งคุยกับพี่ชายต่ออีกสักพักก็ต้องวางสายเมื่อใกล้จะถึงเวลาที่นัดลูกค้าเอาไว้
#อลินตา
“ไงมึงแดกเหมือนน้ำเปล่าเลยนะ” ศิลาเดินมานั่งลงข้างคีรันที่กำลังยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกรวดเดียวจนหมดก่อนจะวางแก้วลงบนโต๊ะ
“ก็ไม่เท่าไรหรือเปล่าวะ”
“แล้วนี่ไปทำอะไรมาถึงได้มานั่งแดกเหล้าอยู่ที่นี่คนเดียว อกหัก?”
“.....” ศิลามองหน้าเพื่อนนิ่งๆ ก่อนจะเห็นดวงตาวูบไหวของเพื่อนที่เอาแต่มองไปที่แก้วเหล้าตรงหน้า
“เจอเขาแล้วเหรอวะ”
“เออ ตอนกูเจอเขาครั้งแรกกูยังตกใจไม่หายเลยไม่คิดว่าจะเจอเขาด้วยซ้ำ” คีรันพูดพร้อมนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า
“แล้วเป็นไงเขาได้พูดอะไรกับมึงหรือเปล่า”
“เขาบอกกูว่าจำกูไม่ได้ แล้วไม่คิดอยากจะจำด้วย มึงรู้มั้ยกูแทบจะทรุดลงนั่งตรงหน้าเขาให้ได้พอได้ยินที่เขาบอกกูอะ”
“แล้วทำไมมึงไม่บอกเรื่องนั้นให้เขารู้ไปเลยวะ เพราะเขายังไม่รู้เรื่องวันนั้นเขาก็เลยเป็นแบบนี้แหละ”
“ช่างเถอะ จีบใหม่ก็ได้นี่วะเวลาเหลือเฟือ”
“เวลาเหลือพ่อมึงอะ มึงดูนู้น” คีรันมองตามที่เพื่อนชี้ให้ดูก่อนจะเห็นว่าเป็นอลินตากับผู้ชายอีกคนที่เดินเคียงข้างกันไป โดยมีบอดี้การ์ดเดินตามหลังทั้งคู่ไปอีกสามคน
“เปิดห้องวีไอพีด้วยนี่หว่า เฮ้ยๆ! ไอ้รันมึงจะไปไหน” ศิลาร้องถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนลุกขึ้นยืนพร้อมจะเดินออกไปจากตรงนี้ ไอ้นี่ก็หุนหันพลันแล่นฉิบหายทำอะไรก็ไม่เคยจะบอกเพื่อนบอกฝูง
“เดี๋ยวกูมา!” พูดจบคีรันก็เดินออกจากโต๊ะไป
ขาเรียวยาวยกขึ้นไขว่ห้างพร้อมจดจ้องมองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ใบหน้าขาวใสแก้มสีชมพูระเรื่อน่าสัมผัสไหนจะริมฝีปากบางที่น่าจุมพิตนั่นอีก ราเชนนึกอยากได้คนตรงหน้ามาเชยชมสักครั้งนั่นก็คงเพียงพอต่อการเจรจาครั้งนี้ มือหนาเอื้อมมือไปหยิบบุหรี่ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อออกมาก่อนจะจุดไฟพร้อมอัดควันบุหรี่เข้าเต็มปอดก่อนจะพ่นควันสีเทาออกมาจากริมฝีปาก
“คุณราเชนคงเห็นสินค้าที่ทางลินส่งไปให้ดูเป็นตัวอย่างแล้ว หวังว่าเราคงจะได้ร่วมงานกันนะครับ” เสียงหวานเอ่ยกับคนตรงหน้า
“ถ้าผมอยากจะขอดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมอีกนิดคุณลินจะว่าอะไรมั้ยครับ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์จุดแต้มบนใบหน้าชายหนุ่มที่อายุห่างจากลินไม่กี่ปี
“ได้ครับ ถ้างั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าลินจะให้เลขาส่งรายละเอียดไปให้ทางคุณราเชนนะครับ ส่วนเรื่องของสินค้าตอนนี้ทางลินมีเพียงพอสำหรับที่คุณราเชนต้องการแน่นอนครับถ้าหากว่าคุณราเชนสนใจ”
“หึ ไม่ต้องรีบหรอกครับทำตัวตามสบายทางผมก็ยังไม่ได้ต้องการมากเท่าไรเพียงแต่ว่าอยากหาสำรองเฉยๆ พอดีมีคนแนะนำสินค้าของคุณลินมาผมก็เลยสนใจ”
"ขอบคุณที่สนใจสินค้าของทางลินนะครับ"
“ถ้าคุณราเชนไม่มีอะไรอยากสอบถามลินแล้วงั้นเดี๋ยวลินขอตัวก่อนนะครับ”
“เดี๋ยวสิครับ ไหนๆ ก็มาที่นี่แล้วดื่มเป็นเพื่อนผมสักหน่อยหวังว่าคุณลินคงจะไม่รังเกียจผมนะครับ” ราเชนรินไวน์ใส่แก้วก่อนจะยื่นมาให้กับคนตัวเล็กตรงหน้า
อลินตามองไปที่แก้วไวน์ในมือของราเชนนิ่งก่อนจะเอื้อมมือบางไปรับมาถือเอาไว้ ราเชนยกยิ้มอย่างพอใจก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบแก้วของตัวเองขึ้นมา
“ชนกันหน่อยนะครับ” ลินยื่นแก้วไปชนกับแก้วของราเชนก่อนจะยกขึ้นจิบไวน์เล็กน้อย
“หมดแก้วสิครับ” ราเชนพูดขัดขึ้นเมื่อเห็นร่างบางดื่มไวน์ในแก้วไปแค่นิดเดียว
“อึก..” อลินตาที่ทำอะไรไม่ได้เพราะกลัวจะเสียงลูกค้าเขาจึงต้องดื่มไวน์แก้วนั้นให้หมดก่อนจะวางแก้วลงตรงหน้า
“ดื่มเก่งเหมือนกันนะครับ งั้นอีกสักแก้วนะครับ” ราเชนจัดการรินไวน์ใส่แก้วของลินอีกครั้งก่อนจะบอกให้ลินยกดื่มเข้าไปเป็นแก้วที่สอง
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ลินวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะเตี้ยตรงหน้าพร้อมกับมีอาการปวดหนึบในหัว คนตัวเล็กสะบัดหน้าไปมาเมื่อรู้สึกแปลกๆ ในร่างกายเขา มองไปที่คนตรงหน้าก็เห็นราเชนนั่งสูบบุหรี่พร้อมกับส่งยิ้มมาให้เขาอย่างไม่ยินดียินร้าย
“คุณลินเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ปากหนาเอ่ยถามร่างบางตรงหน้าอย่างไม่แยแสแถมยังมองอาการของคนตรงหน้าเหมือนของเล่นชิ้นหนึ่งที่พร้อมจะถูกตัวเองหยิบยกขึ้นมาเล่นได้ตลอดเวลา
มือบางควานหาของในกระเป๋าแต่ทว่าดวงตาของเขาตอนนี้พร่าเบลอไปหมดเหมือนโลกหมุนวนไปมา จะลุกขึ้นยืนก็แทบจะทำไม่ได้ ดวงตาสวยมองไปรอบๆ ห้องก่อนที่ภาพตรงหน้าจะค่อยๆ มืดดับลง
เวลาล่วงเลยผ่านมาจนตอนนี้อาทิตย์หน้าอลินตาก็ต้องเตรียมของใช้ไปที่โรงพยาบาลเพื่อความปลอดภัยเพราะถึงเดือนที่เขาใกล้จะคลอดแล้ว ตอนนี้ว่าที่คุณพ่อลูกสองก็เริ่มยุ่งๆ อยู่กับงานที่บริษัทเพราะเขาต้องมอบหมายหน้าที่ให้กับอีกคนเพราะคีรันอยากจะหยุดทำงาน 3 เดือนเพื่อออกมาดูแลลูกแฝดช่วยอลินตาตอนแรกที่ลินรู้ก็ไม่ยอมเพราะไม่อยากให้คีรันหยุดงานนานเกินไปเผื่อมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นที่บริษัท คีรันก็บอกกับเขาว่าคนที่ตัวเองมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นประธานบริษัทแทนคีรันในช่วงที่คีรันหยุดงานเป็นคนที่อยู่กับเขามานานและไว้ใจได้ แล้วคีรันก็ไม่ได้ให้คนนั้นมาดูแลแค่คนเดียวแต่จะมีป๊าของเขาเข้ามาดูแลช่วยด้วยอีกคนคนตัวสูงบดจมูกลงบนแก้มจ้ำม่ำของคุณแม่ลูกสองที่กำลังนั่งอ่านหนังสือเด็กแรกเกิดอยู่ที่เตียงนอนเพื่อรอคีรันอาบน้ำเสร็จแล้วเข้านอนพร้อมกัน“อื้ออ!!”“หอมจัง” พูดจบก็เดินมาอ้อมเตียงมาฝั่งที่ตัวเองนอนก่อนจะขึ้น
เข้าสู่เดือนที่ 5 ร่างกายของคุณแม่ลูกแฝดก็เริ่มมีน้ำมีนวลขึ้น หน้าท้องที่เคยแบนราบตอนนี้กลับเริ่มนูนยื่นออกมาเพราะในท้องของคุณแม่มีเด็กๆ อยู่ด้วยกันตั้งสองคน“หนูระวังครับ!” คีรันสาวเท้ารีบเดินไปประคองคุณแม่ที่กำลังเดินลงมาจากชั้นสองด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับโดนอลินตาเหวใส่เพราะเสียงดังจนเจ้าตัวสะดุ้งตกใจ“พี่รันจะเสียงดังทำไมครับ”“ก็ลินจะเดินลงมาจากชั้นบนทำไมไม่เรียกพี่ละครับพี่จะได้เดินขึ้นไปรับ”“แค่นี้เองลินเดินลงมาเองได้สบายมากครับ”“ดื้อ!!” คีรันดุคนรักอย่างไม่จริงจังมากนักพร้อมกับยกมือขึ้นบีบจมูกรั้นของอลินตาอย่างมันเขี้ยวคีรันพาอลินตาเดินไปนั่งที่ห้องนั่งเล่นเพื่อรอสกายกับสายฟ้าที่โทรมาบอกเมื่อช่วงเช้าว่าจะเข้ามาหา อลินตานั่งกินมะม่วงกับคีรันรออยู่ไม่นานคนที
สกายเดินมาขึ้นรถที่จอดอยู่ที่โรงจอดรถของบ้านสายฟ้า เมื่อเขากำลังปิดประตูก็มีมือหนามาจับเอาไว้ไม่ให้สกายปิดประตูรถได้“เดี๋ยวพี่ไปส่ง” สายฟ้าเอ่ยกับสกายด้วยน้ำเสียงเรียบ“ไปส่งทำไมครับผมเอารถมา” สรรพนามที่เรียกผมแทนชื่อตัวเองบ่งบอกว่าเจ้าตัวดูจะไม่พอใจเอามากๆ จนสายฟ้ารู้สึกเจ็บจื๊ดๆ ที่อกข้างซ้ายเสียอย่างนั้น“พี่ขอโทษครับ”“ขอโทษทำไมครับพี่ฟ้าไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย ปล่อยด้วยครับผมจะกลับบ้าน”“ให้พี่ไปส่งนะครับคนดี พี่ฟ้าขอโทษต่อไปนี้พี่ฟ้าจะไม่แกล้งหนูแล้ว” สายฟ้าพูดพร้อมจับที่ข้อมือของสกายพร้อมออกแรงดึงให้อีกฝ่ายลงมาจากรถ“พี่ฟ้าจะพาผมไปไหนครับ”“ไปหาแด๊ดกับแม่พี่ครับ” พูดจบก็ลากคนตัวเล็กเดินกลับเข้าไปในบ้าน พอดีกับคีรันและอล
คุณหมออนุญาตให้คีรันออกจากโรงพยาบาลได้แต่ก็ต้องกลับไปให้หมอล้างแผลและรักษาบาดแผลที่เหลือให้หายต่อ คีรันเลือกกลับมาฟื้นฟูร่างกายที่บ้านแทนคอนโดเพราะอลินตาเสนอจะมาดูแลเขาหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล แม้จะค้านแต่คุณแม่ท้องอ่อนก็ดื้อดึงที่จะมาคีรันไม่อยากให้อีกฝ่ายเดินเหินเยอะเพราะท้องอ่อนอยู่จึงเลือกมาที่บ้านดีกว่าเพราะที่บ้านยังมีแม่บ้านที่พอจะเรียกใช้ได้“ค่อยๆ เดินนะครับ” คนตัวเล็กบอกคนเจ็บที่กำลังช่วยกันพยุงตัวมานั่งที่เก้าอี้อยู่ที่สวนหน้าบ้านในยามเช้าของวัน“หนูทำไมไม่หาผ้ามาคลุมด้วยครับอากาศเย็นๆ แบบนี้เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะ”“เดี๋ยวลินให้พี่แป้งไปหยิบให้ก็ได้ครับ” อลินตาหันไปบอกกับพี่เลี้ยงที่ตามมาดูแลเขาที่นี่ตามคำสั่งของแด๊ดให้พี่แป้งไปหยิบผ้าคลุมมาให้ตามที่คีรันบอก เมื่อได้ผ้าคลุมตัวเองแล้วอลินตาก็ถูกคนตัวสูงบังคับให้ไปนั่งข้างๆ กันก่อนที่แขนแกร่งจะกอดเขาไว้แน่น&ldq
“ไม่จริง…พ่อโกหก พ่อพูดโกหกไอ้รันเป็นคนบอกผมเองว่าเกาะนั่นเป็นชื่อของมันไม่ใช่ชื่อผม ไม่จริง! พ่อโกหก พ่อโกหกผม!!!”ภายในห้องเงียบสงัดเมื่อสิ้นประโยคที่พายุตะโกนออกมาทั้งน้ำตา ขาทั้งสองข้างก็พลันทรุดนั่งลงบนพื้นอย่างแรงตรงหน้าผู้เป็นบิดาที่ยืนน้ำตาไหลด้วยความเสียใจที่เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะคนคนเดียว“พะ อึก พ่อโกหก”“ทุกอย่างที่ฉันพูดเป็นเรื่องจริงทั้งหมด”“อึก”“ยอมรับผิดเถอะนะพายุเรื่องทุกอย่างจะได้ทุเลาลง”“ผะ ผมขอโทษ พ่อผมขอโทษ” ณรงค์เดินเข้าไปหาลูกชายพลางทรุดตัวนั่งคุกเข่าข้างเดียวลงกับพื้นพร้อมเอื้อมมือไปแตะลงบนไหล่อันสั่นเทาของลูกชาย“ฉันไม่เคยโกรธเคยเกลียดแกเลยเพราะแกเป็นล
"ถ้าหนูไม่พูดพี่ฟ้าจะไม่ใจดีแล้วนะครับ"“....” สกายนั่งนิ่งไม่แม้แต่จะเอ่ยอะไรใด ๆ ออกมาเมื่อได้ยินที่คนตัวสูงพูดแบบนั้น“หมดฤทธิ์แล้วเหรอครับ” สายฟ้าพูดยิ้มๆ โดยที่คนบนตักไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ากำลังถูกเขาต้อนให้จนมุมอยู่“เมื่อไหร่จะเลิกทำแบบนี้กับผมสักทีครับ”“พี่ทำอะไรเหรอครับ”“ก็ที่ทำอยู่นี่ไงครับ ผมไม่อยากรู้สึกกับพี่ไปมากกว่านี้แล้วพี่ฟ้าปล่อยผมไปได้มั้ยครับแล้วผมสัญญาว่าจะไม่มาให้พี่ฟ้าเจอหน้าผมอีกเลย” คนพูดพยายามเก็บอาการไม่ให้อีกฝ่ายจับน้ำเสียงของเขาได้ว่ามันกำลังสั่นแค่ไหน“พูดเหมือนจะไปที่ไหนเลยนะครับ” สายฟ้าเอ่ยถามคนบนตัก“ผมกำลังจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ผมกำลังจะตัดใจจากพี่ฟ้าและไปเริ่มต้นใหม่ที