Share

2 เจ้ากรรมนายเวร

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-04 20:24:27

มินตาหน้าแห้ง พยักหน้ากับเพื่อน แล้วเดินกลับไปกลับมา หล่อนชะเง้อมองเข้าไปหลายหน แต่หล่อนมองไม่เห็นว่าธันวาเข้าไปตรงไหนของห้องนั้น หล่อนได้เห็นแต่เจ้าหนุ่มคู่กรณีของหล่อน เห็นเขาเข้าไปยืนอยู่ใกล้ๆ เตียงของแม่สาวที่ธันวาบอกว่าตกเลือด ไม่ใช่เมียก็อาจจะเป็นคู่รักกระมัง...หล่อนพินิจมองเขา...ก่อนจะนึกออก หล่อนดีดนิ้วออกมาแรงๆ สีหน้าสดใสขึ้น เมื่อนึกได้ว่าเขาคือใครมิน่าเล่า หน้าตาถึงคุ้นเหลือเกิน

ธันวาเดินหน้าตาซีดเซียวออกมาจากห้องนั้นในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา มินตารีบลุกไปหา “หน้าตานายเหมือนคนใกล้ตาย”

“เจ็บนี่หว่า”

เขาพูดจาแบบนี้กับมินตา...ใครๆ ก็พูดกับหล่อนแบบนี้ เพราะในออฟฟิศนั้นมินตาเหมือนเพื่อนผู้ชายคนหนึ่ง หล่อนเป็นสาวคนเดียวที่ออฟฟิศมี และจากการทำงานกันนานวันเข้า มินตาก็ทำเหมือนหล่อนไม่ใช่ผู้หญิง หล่อนแข็งแกร่งพอจะยืนหยัดไปพร้อมๆ กับเพื่อนคนอื่นๆ หลายหนเข้าทุกคนจึงลืมเหมือนกันว่าหล่อนเป็นผู้หญิง พูดจากับหล่อนก็ไม่ค่อยจะอ่อนโยน และมินตาก็ไม่เคยถือสา หล่อนมีนิสัยง่ายๆ ตรงไปตรงมา แต่หล่อนก็ขีดเส้นเอาไว้เหมือนกัน ไม่มีใครก้าวล้ำเส้นนั่นไปได้ มินตาเป็นผู้หญิงรักตัวเอง...หล่อนไม่มีแฟน และทำท่าจะขายยากเอาการอยู่ หล่อนไม่เคยมีผู้ชายคนใดมาจีบ

หล่อนก็จัดว่าหน้าตาดี สวยพอที่พวกหนุ่มๆ ในออฟฟิศเล็กๆ จะชื่นชมได้ยามที่หล่อนแต่งตัวเป็นผู้หญิง...แต่ในยามที่หล่อนรวบผมขึ้นสวมหมวกครอบหน้าเอาไว้เห็นแต่ดวงหน้ามอมๆ ไม่มีเครื่องสำอางฉาบทา หล่อนก็ไม่ได้เชิญชวนสายตาใครเลย

เพื่อนๆ ลงความเห็นว่า มินตาขาดเสน่ห์ทางเพศ หล่อนไม่มีจริตมารยาของเพศหญิงเพียงพอ เปรียบหล่อนเป็นดอกไม้ หล่อนจึงกลายเป็นดอกไม้พลาสติกไปโน่น

อาจจะเป็นเพราะมินตาปิดกั้นตัวเองมากเกินไป หล่อนทำงานหนัก...แทบจะไม่มีเวลาพักผ่อน เวลาของหล่อนคืองาน...แล้วงานก็คือเงิน...หล่อนได้ชื่อว่าเป็นคนงกเงินอย่างหนัก เคยมีคนถามหล่อน มินตาจะได้แต่หัวเราะ แล้วหล่อนย้ำอยู่เสมอๆ ว่าหล่อนชอบเงิน หล่อนฝันจะมีเงินมากๆ และจะไม่ทำงานหนักอีกเมื่อตอนที่หล่อนเป็นสาวแก่ หล่อนประกาศว่าจะอยู่อย่างสุขสบายใช้เงินที่เก็บสะสมเอาไว้

“เจ็บแค่นี้ไม่ถึงตายหรอกย่ะ...เลือดออกแค่นี้...” หล่อนก้าวหลีกเมื่อประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก แล้วเตียงคนไข้ถูกเข็นออกมา...หล่อนเห็นผู้หญิงที่มีดวงหน้าขาวจนเกือบเขียว มีขวดน้ำเกลือขวดเลือดระโยงระยาง ผู้หญิงคนนั้นยังไม่ตาย แต่ดูบอบช้ำอย่างหนัก...มินตากลืนน้ำลายลงคอ หล่อนเงยหน้าขึ้น ดวงตาสบประสานกับดวงตาดุๆ คู่นั้นของบุรุษที่มีดวงตาเหมือนดวงไฟ แล้วเขาก็เดินจากไป

หล่อนเพิ่งสังเกตเห็นถนัดถึงจุดคล้ำๆ ที่กระจายอยู่บนเสื้อเชิ้ตสีฟ้าสวยของเขา...มันเหมือนหยดเลือด

“ตกเลือดนี่น่ะมันร้ายไหม”

คราวนี้หล่อนแค่กระซิบ เอียงหน้าเข้าไปเกือบจะติดหน้าของธันวา แต่ดวงตาของหล่อนยังมองตามไปเขม็ง

หล่อนมองดูผู้ชายร่างสูงคนนั้น...เค้าหน้าของเขาเหมือนนัก แต่บุคลิกท่วงท่าของเขาไม่เหมือน หล่อนพยายามนึกถึงคนที่หล่อนเคยรู้จักในช่วงเวลาสั้นๆ ช่วงหนึ่ง มันแตกต่างกัน แต่หล่อนก็แน่ใจว่าหล่อนคงจะจำคนไม่ผิด

“ก็แค่แท้งลูก”

“ฮ้า...”

หล่อนอ้าปากกว้าง

“เราได้ยินหมอเขาซักนะ...ได้ยินว่าถูกซ้อม...”

“ตายละ...ผัวซ้อมหรือเปล่า”

“ก็ไม่ได้ยินนะว่าใครซ้อม”

“สงสัยอีตานั่นแน่ๆ เลย ท่าทางให้ คงจะเผลอซ้อมเมีย แล้วมาเล่นบทพ่อพระเอาเมียมาส่งหาหมอ...แต่หน้าตาเช้ยเฉยนะ ท่าทางเดือดร้อนอยู่หรอก แต่ไม่ถึงกับห่วงใยนักหนา”

“อย่าไปยุ่งเรื่องคนอื่นเลยน่า”

“ฉันว่าฉันรู้จักเขา”

มินตาบอก หล่อนพาธันวามารอหน้าห้องจ่ายยา และคิดเงินค่ารักษา ตัวหล่อนยังก้าวตามผู้ชายคนนั้นไป หล่อนเห็นเขานั่งที่เก้าอี้ยาวๆ ที่ตั้งเอาไว้รอบในห้องโถงชั้นล่างนี้เขาไม่ได้ตามเข้าไปในลิฟต์ที่พาคนไข้ขึ้นไปชั้นบน เห็นเขานั่งก้มศีรษะลงเล็กน้อยหยิบซองบุหรี่ออกมา ซองหนังเสียด้วย แล้วยังจะไฟแช็คอันเล็กๆ สวยงาม...

หล่อนเข้ามาหยุดอยู่เบื้องหน้าเขา เห็นเขามองไล่ตั้งปลายเท้าในรองเท้าผ้าใบหุ้มข้อของหล่อนขึ้นมา จนกระทั่งมาหยุดที่หน้าคิ้วเข้มหนาของเขาดึงขึ้นสูง...โดยที่ริมฝีปากหนาหยักได้รูปสวยนั้นหุบนิ่ง แววตาไม่ปรากฏร่องรอยยินดียินร้ายใดๆ ทั้งสิ้น

“คุณนั่นแหละ...ฉันจำได้ คุณต่อ”

หล่อนไม่พูดพล่าม นอกจากทึกทักเอาดื้อๆ “ฉันนึกแทบแย่ว่าเคยเห็นคุณที่ไหน คุณจำฉันไม่ได้หรือ” หล่อนนั่งหล่อนใกล้ๆ ถามอย่างกระตือรือร้น “ฉันเป็นเพื่อนเก่าของคุณไงล่ะ...มินตา...มิน”

สีหน้าของเขายังเรียบเฉย แต่มุมปากกระตุกนิดๆ บอกชัดว่ารู้สึกรำคาญมากกว่าอื่นใด แล้วน้ำเสียงเรียบๆ ก็หลุดออกมาจากปากเขา

“ผมไม่ทราบว่าคุณพูดอะไร แต่ดูเหมือนว่าคุณจำคนผิดแน่นอน...”

“ฉันไม่เคยจำใครผิด”

มินตายังยืนยัน “หน้าตาคุณยังเมื้อนเหมือน แต่ท่าทางคุณไม่เหมือน คุณดูโก้ดี...”

“ผมชื่อศิลา...”

เขาบอกอย่างรำคาญ ยิ้มเยาะระบายไปทั่วใบหน้าของเขาเมื่อเขากดไฟแช็คดังกริ๊กที่ปลายบุหรี่ อัดควันเข้าไปมือที่กดไฟแช็กนั่นได้รูปสวย นิ้วทุกนิ้วยาวเรียวปลายนิ้วตัดเล็บสั้นเจียนมน...ลักษณะสำอางกรีดกรายเอาการอยู่ มินตายังยืนยันด้วยคำเดิมนั่นเอง

“คุณชื่อต่อ...ฉันจำชื่อจริงคุณไม่ได้หรอก...แต่ฉันไม่ได้จำผิดคน...คุณหลอกฉันไม่ได้แน่ คุณยังไม่ตายรึนี่”

“ผมไม่ทราบว่า ทำไมคุณมาตู่ผมแบบนี้ หรือคุณนึกว่าวิธีนี้จะช่วยให้ผมไม่เรียกร้องค่าเสียหาย...”

เขาลงเสียงหนักขึ้น

“ผมจะเรียกประกันแน่นอน คุณรอรับเรื่องด้วยก็แล้วกัน...วิธีนี้ไม่สำเร็จหรอกครับ คุณผู้หญิง”

เขาก้มศีรษะลงเล็กน้อย พ่นควันบุหรี่เข้าใส่หน้าหล่อนจนมินตามองเห็นดวงหน้าของเขาไม่ถนัดนัก แต่หล่อนกำลังโกรธด้วย หล่อนลุกขึ้นยืนเกือบจะทันที เสียงห้วนจัดไปเหมือนกัน

“ฉันไม่เคยคิดแบบที่คุณคิด ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ซิ...” แล้วหล่อนก็ผลุนผันจากมา ธันวาได้ยาและจ่ายเงินไปเรียบร้อยแล้ว มินตาจูงมือของเขาเดินลิ่วๆ ลงบันไดด้านข้างไปที่จอดรถชั้นล่าง

“หมั่นไส้อีตาบ้านั่นชะมัด...นึกหรือว่าฉันจะอยู่รอจนกว่าประกันจะมา...”

“จะหนีหรือ”

“ฉันไม่ได้ผิด เรื่องอะไรฉันจะต้องเสียเงิน รวยนักก็ซ่อมเอาเองซิ...เงินเท่านี้ขนหน้าแข้งคงจะไม่ทันร่วง”

“ฮื่อ...” ธันวาคล้อยตาม “เราได้ยินเรื่องเด็ดๆ มาด้วยล่ะ รู้ไหมว่าเขาเป็นใคร”

“ฉันรู้ชื่อเขา...นายต่อ...จะเป็นใครมาจากไหนฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แล้วฉันก็ไม่สนเขาด้วย”

“เห็นว่าเป็นมือขวาของเจ้าแม่...” ธันวาลดเสียงให้เบาลง “ไม่ใช่เจ้าแม่มาเฟียที่ไหนหรอกนะ แต่เป็นเจ้าแม่ขายเนื้อสดน่ะ เคยได้ยินชื่อเจ้าแม่แหม่มบ้างหรือเปล่า”

“แหม่มไหน”

มินตาถามอย่างงงๆ

เสียงธันวาจิ๊กจั๊กในลำคอ “ไม่ฉลาดมั่งเล้ย ทีบางเรื่องล่ะรู้ เรื่องนี้ไม่ยักรู้ ก็เจ้าแม่ที่มีเด็กสาวๆ เยอะแยะเอาไว้ส่งป้อนให้ผู้ชายมีความสุขไงล่ะ”

“แล้วเจ้าแม่นี่ มีชื่อรถยี่ห้อไหนต่อท้ายล่ะ...เคยได้ยินแต่บีเอ็ม...ซีตรอง เปอร์โยต์...

“คนนี้ไม่มีชื่อรถต่อท้าย แต่ใครๆ ก็รู้ว่ากว้างขวางมีเด็กในสังกัดมากหน้า...หมอนั่นเป็นมือขวา เป็นคนดูแลเด็กๆ แล้วก็เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่...”

“ขนลุก” มินตายื่นแขนมาให้ดู “คนดูแลเด็กๆ นี่มันก็แมงดาล่ะน่า แหม!...ทำเรียกซะเก๋...แล้วที่ว่าเป็นนักธุรกิจหน้าใหม่...เรื่องค้าขายสาวๆ นี่เขาจัดเป็นธุรกิจถูกต้องตามกฎหมายแล้วเหรอ...ทุเรศชะมัด...โธ่โอ๊ย...” หล่อนทำเสียงปลงๆ “ฉันคงจำคนผิดจริงๆ นั่นแหละ เพื่อนเก่าฉันเขาไม่มาเป็นคนสวะๆ พรรค์หยั่งงี้หรอก...นี่ฉันเสียเวลาไปเสวนากับแมงดามาหรอกหรือ”

หล่อนทำท่าผิดหวังอย่างแรง

“นั่นคงจะเป็นสาวๆ ในสังกัดซินะ สงสัยจะไม่ยอมทำงานให้ เลยถูกซ้อมจนลูกไหลเล็ด”

“มันก็เรื่องของเขา...ไม่ใช่เรื่องของเรา...อย่าไปยุ่งกับคนพวกนี้ได้ละเป็นดี พวกเขามีชีวิตกันอีกแบบ ไม่เหมือนพวกเราหรอก”

“ฮึ...รวยบนเลือดเนื้อหยาดเหงื่อของผู้หญิง อย่างนี้มันไม่เจริญแน่ สักวันแมงดาตัวนั้นก็คงจะปีกหัก...เชื่อฉันเถอะว่าไอ้พวกขายคนด้วยกันนี่น่ะ เวลาจะตายไม่เคยตายดี มีแต่จะตายโหง!”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • อสูรเริงไฟ(หัวใจศิลา)   137 (อวสาน) มินตา-ศิลา รักเราดีที่สุดในโลกเลย

    “ไม่ใช่ห้องนี้”มินตาตัวแข็ง เมื่อเขาเปิดประตูห้องที่หล่อนเป็นคนตกแต่งเพื่อเป็นห้องหอของเขากับมิ่งขวัญหล่อนพยายามจะถอยกลับ แต่ศิลาผลักหล่อนออกเดินไปข้างหน้า“ฉันยอมมาที่นี่ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะใช้ห้องนี้” หล่อนยังเสียงแข็งและมีท่าทีปฏิเสธ ไม่ยอมรับ“คุณแต่งมันเอง...ก็ใช้เสียเองซิ” เขาบอกนุ่มๆ “ที่ทางของคุณเอง“ฉันทำเพื่อพี่มิ่ง” หล่อนยืนยัน หล่อนรักมิ่งขวัญไม่เคยเปลี่ยนแปลงเป็นอื่น“แต่มันเป็นสิ่งที่คุณชอบ” เขาดักคอ “ผมรู้ว่ารสนิยมของมิ่งขวัญเกิดจากตัวคุณเป็นหลัก...ลืมซะว่าผมเคยสั่งว่าอย่างไร นั่นเป็นข้ออ้างจะเอาตัวคุณมาทำงานต่างหากเล่า ถ้าผมไม่บอกว่าเป็นห้องหอมีหรือที่คุณจะยอมมาทำ ตอนนั้นคุณชังน้ำหน้าผมจะแย่”“ตอนนี้ก็ใช่”“ผมไม่เชื่อ ไม่มีวันเชื่อ...”เขาปิดประตูไว้ข้างหลังแล้วยืนพิงอยู่อย่างนั้น ตอบหล่อนด้วยถ้อยคำหนักแน่นเขาจะไม่ยอมเสียหล่อนไปศิลาบอกตัวเองว่าเขาจะยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองสมปรารถนาให้จงได้ ต่อให้ยากเท่ายากก็ตามที“เราจะต้องคุยกันตามลำพังสองต่อสองแล้วละ มินตา”เขาบอกด้วยเสียงนุ่มทุ้ม และแน่นอนว่ามีกังวานของความรักอยู่มากมาย เขาไม้ปฏิเสธใจตัวเอง“ไม่...” หล่อนป

  • อสูรเริงไฟ(หัวใจศิลา)   136 ตื๊อเมีย น่ะครองโลกเสมอ

    พิมสุดามาแล้วกลับไปแล้ว ปล่อยให้มินตาได้ครุ่นคิดตามลำพัง แม้จะมีปรางคอยรับใช้อยู่ใกล้ๆ แต่มินตาก็เหมือนอยู่คนเดียว...หล่อนคิดถึงอนาคตวันข้างหน้าเมื่อไม่มีบ้าน ไม่มีพ่อ ไม่มีสิ่งใดหลงเหลือให้คว้าติดอีกหล่อนจะทำอย่างไรดีนั่นคือสิ่งที่มินตาต้องคิด...มันไม่ใช่เรื่องเล็กเสียด้วย เพราะเท่ากับต้องเอาอนาคตมาเป็นเดิมพัน...อนาคตที่มินตาไม่แน่ใจ และหล่อนก็รู้ว่าเพราะตัวเขานั่นแหละที่ทำให้หล่อนเกิดความรู้สึกเช่นนั้นขึ้นมา/////////////////////////////ผู้ชายสองคนต่างวัยแต่มีสายเลือดส่วนหนึ่งเหมือนกันได้เผชิญหน้ากันอีกครั้ง คนแก่ดูจะยิ่งแก่ ในขณะที่คนหนุ่มก็มิได้ทำท่าลำพองว่าตัวเองเป็นผู้ชนะ ต่างคนต่างมองกันชั่วอึดใจในความเงียบงันแล้วศิลาก็เป็นคนเอ่ยขึ้นมาก่อน “สาวิตต์เป็นอย่างไรบ้าง”“ก็ยังเหมือนเดิม...เก็บตัวเอง...และไม่พูดไม่จากับใครเลย”“เขาคงจะหายสักวันหนึ่ง“นั่นคือความหวัง”“ผมจะเอาใจช่วยแล้วกัน”คุณทรงศักดิ์ทำท่าเหมือนไม่คาดคิดเมื่อได้ยินเช่นนั้น“ต่อ...ให้อภัยพ่อกับพี่แล้วใช่ไหม”ชายหนุ่มส่ายหน้า นั่นคือความจริง เขายังไม่อาจจะให้อภัย เพียงแต่เขาคิดว่าเขาจะวางมือในส่วนนี้...หลายปีที่เ

  • อสูรเริงไฟ(หัวใจศิลา)   135 เขารักเธอ มินต่า

    “ไล่ปรางหรือคะ...” มินตาแสนจะตกใจ “ทำไมล่ะคะ ปรางทำผิดตรงไหน”“มันเป็นพวกแกนี่ รับเอาไปซิ นังนั่นมันเลี้ยงไม่เชื่อง หวังว่าที่พูดมานี่แกคงจะเข้าใจนะ”“ค่ะ มินตารับคำ ดวงหน้าสลด ครอบครัวของหล่อนคือซาก...มันคืออดีตที่เหมือนจะเนิ่นนานผ่านมาแล้ว ดวงตาของหล่อนซุ่มไปด้วนน้ำตา ป่วยการจะพูดมากไปกว่านี้อีกเมื่อคุณมารศรีและมิ่งขวัญปั้นปึ่งใส่ มินตามาไหว้พ่อ นั่งพับเพียบอยู่นานจนศิลาต้องเป็นฝ่ายสะกิดหล่อน“กลับดีกว่ามั้ง มินตา...เขาประคองหล่อนลุกขึ้น ท่าทีถนอมเป็นนักหนาบาดตาของมิ่งขวัญสุดขีด หล่อนไม่อาจจะยอมรับออกมาดังๆ ว่าลึกลงไปนั้นหล่อนเจ็บปวดกับการที่ถูกทิ้ง...ทั้งที่หล่อนเคยทระนงในตัวเองมาตลอด ผู้ชายคนนั้นคือชายที่หล่อนรักและเมื่อความจริงเปิดเผยออกมารักกลายเป็นร้าง และขมขื่นที่สุดจะหารสชาติใดมากกว่านี้ ในชีวิตคงจะไม่มีอีกแล้วแน่นอน“แม่คะ...มิ่งตัดสินใจแน่นอนแล้ว พอเสร็จงานพ่อ มิ่งจะไปอยู่เมืองนอก เราไปด้วยกันไหนคะ แม่...เอาบ้านนี้ให้เช่า...ถ้าไม่คิดจะขาย เราคงจะพอมีเงินสักก้อนไปเที่ยวเล่นด้วยกัน พอให้มิ่งหายช้ำใจแล้วค่อยกลับมาใหม่...หรือบางทีเราอยู่ทางโน้นกันเลยก็ได้ มิ่งก็พอจะมีเพื่อนที

  • อสูรเริงไฟ(หัวใจศิลา)   134 เสียพ่อแล้วยังมาเสียลูก

    ดวงตาคู่นั้นเบิกกว้าง และมินตาก็นิ่งงันปราศจากเสียงกรีดร้องจนเขาใจเต้นแรง ไม่รู้ว่าหล่อนเสียใจแค่ไหนกันการรับรู้ในการสูญเสียหนนี้ มือของเขาลูบไล้เส้นผม“มินตา ได้ยินผมหรือเปล่า”“ก็ดีเหมือนกัน” หล่อนพึมพำออกมา “จะได้จบสิ้นกันแท้จริงๆ”“ไม่....” เขาปฏิเสธเสียงลั่น“เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก”“อย่าพูดแบบนี้...ทิ้งทุกอย่างเอาไว้ข้างหลัง แล้วเราเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน ที่ผ่านมาผมรู้ว่าผมผิด จะไม่ให้อภัยคนที่รู้สำนึกหรอกหรือ มินตา...ใช่ว่าผมจะไม่เสียใจหรือไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้นะ เพียงแต่ ตอนนั้นความแค้นทำให้ผมบ้าเลือดและลากคุณเข้ามาพัวพันด้วย”“ฉันให้อภัย แล้วก็โยนมันทิ้งเอาไว้ตรงนั้นแหละ...”ศิลากำลังจะพูดอีก แต่เสียงเคาะประตูห้องขัดจังหวะเสียงก่อนและประตูเปิดเข้ามาหลังจากนั้นครรชิตเดินนำหน้าธันวาเข้ามาพร้อมกับกระเช้าดอกไม้ใหญ่ที่บรรจุดอกไม้สวยงามสีสันสดใสชายหนุ่มขยับห่างออกจากเตียงนิดหนึ่ง ครรชิตทักทายและแสดงความห่วงใย ต่อสภาพบาดเจ็บของเขาสักห้านาทีก่อนจะหันไปหามินตา“ไง...มิน หน้าตาเหมือนคนเจ็บหนัก”“เกือบจะตายแต่ไม่ยักจะตาย...”“ประชดใครล่ะนั่น”ถูกดักคอแบบนี้มินตาทำตาวาว “มินไม่มี

  • อสูรเริงไฟ(หัวใจศิลา)   133 มินตาแท้งลูก

    สาวิตต์นอนอยู่บนเตียง...ขาของเขาข้างหนึ่งที่ถกขากางเกงขึ้นไปถูกพันด้วยผ้าขาวหนาเปอะ แล้วหน้าตาของเขาก็เหมือนไม่ใช่ลูกชายคนเดิมของเธอ มีรอยช้ำปูดโปนนั่นยังทำใจได้ว่ามันจะหาย แต่ดูซิ...ดูสีหน้าและแววตาของเขามันดูเลื่อนลอย...และมองมาทางเธอย่างว่างเปล่า“เอ...”เธอถลาเข้าไปหาเขา แล้วก็หยุดอีกหนหนึ่ง เมื่อสาวิตต์ทำเหมือนไม่รับรู้ด้วย เขายังมองเบิ่งไปทางอื่นที่ไม่ใช่หน้าเธอ คุณสีดาหันขวับมาหาสามี ถามเสียงสั่น“อะไรกันคะนี่ ตาเอเป็นอะไร...ทำไมเขาทำหน้าตาแบบนั้น”คุณทรงศักดิ์โอบบ่าของภรรยาเอาไว้ ร่างแบบบางของเธอสั่นสะท้านด้วยความหวาดหวั่น“หมอบอกว่าเหมือนเขาจะช็อก พูดกันรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง เป็นพักๆ เหมือนคนสะเทือนใจมากเกินไป”“แล้วแกจะหายไหม”“ต้องอาศัยเวลา แต่ตอนนี้เขาต้องรักษาตัว บางทีอาจจะต้องลางาน...หรืออาจจะต้องถึงขั้นลาออกก็ได้”“ไม่!”เธอร้อง หันมาซบหน้ากับบ่าของสามี นานแล้วที่คนสองคนไม่เคยหันหน้าเข้าหากันอีก ต่างมีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของตัวเอง ความบาดหมางในเรื่องเล็กน้อยถูกทำให้ใหญ่มากขึ้น และไม่อาจจะเชื่อมต่อติดกันได้อีกเลยแต่ตอนนี้หัวอกของความเป็นพ่อแม่ที่จะต้องรับผิดชอ

  • อสูรเริงไฟ(หัวใจศิลา)   132 ทุกอย่างเริ่มเข้าที่

    ปืน...มินตาบอกเมื่อเห็นสาวิตต์หยิบมันออกมาวางไว้บนโต๊ะกลมเล็กข้างๆ เก้าอี้ที่เขานั่งลง แววตาที่เขามองดูศิลาทำให้มินตายะเยือกไปตลอดตัว มันบ่งบอกว่าหากเขาจะลั่นไกปืน เขาก็จะทำได้โดยไม่ต้องหยุดคิดชั่งใจอีกเลย มินตาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เมื่อพูดกับสาวิตต์ดีๆ“คุณเอ ขอให้มินนะ...อย่าถึงกับฆ่ากันเลย...”“บอกแล้วว่าอย่ายุ่ง ไม่ฆ่าเธอด้วยก็บุญเท่าไหร่รึว่าอยากตายตามผัว”“คุณเอจะทำไมได้นะคะ”“ทำไมพี่จะทำไม่ได้ นึกถึงที่มันทำกับพี่ซิ เพราะมัน...” สาวิตต์ชี้มือไปยังศิลาอย่างคั่งแค้น นั่นคือชายที่ร่วมสายเลือดเดียวกัน แม้จะไม่ใช่ทั้งหมด แต่ก็กึ่งหนึ่งที่เหมือนกัน เขาไม่เคยเชื่อใครพูดอย่างไร เขาก็มักจะหัวเราะขบขันเสียเสมอว่าทุกคนที่พูดนั้น ล้วนแล้วแต่มีอาการทางจิตที่คิดมากเกินการไปเองทั้งนั้น แต่แล้วเขากลับมารู้เป็นคนสุดท้าย รู้เพื่อทำให้โลกที่เคยสวยงามสำหรับเขามันพังทลายลงมาต่อหน้าต่อตาเขาจึงมองหาทางออกใดไม่พบนอกจากทางนี้ ฆ่าศิลาเสีย ก็เท่ากับฆ่าไอ้เด็กเวรคนนั้นด้วย เมื่อหนนั้นมันเลือกรอดได้อาจจะเพราะดวงมันแข็ง แต่คราวนี้ไม่มีวันที่ดวงมันจะแข็งเท่าครั้งนั้นอีก มันจะต้องตายนั่นคือทางที่เขาเลือกให้มั

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status