กระท่อมหลังเขา
“ว่าอะไรนะ!” เสียงเจ้าแห่งพิษกล่าวออกมาด้วยความตกใจอย่างยิ่งยวด เมื่อได้ยินคนรักของนางเล่าเหตุการณ์ที่เพิ่งไปเข้าเฝ้าอุปราชเมื่อครู่ใหญ่ที่ผ่านมา
“ชู้วววว!!! เบาๆ หน่อยได้ไหมซานซาน เดี๋ยวถิงถิงก็ได้ยินหมดหรอก มาช่วยข้าคิดก่อนเถอะว่าควรจะทำอย่างไรดีจึงจะไม่เกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้น เพราะแน่นอนว่าทันทีที่นางรู้ จะต้องหาทางลอบปลงพระชนม์พระองค์อย่างแน่นอน และในขณะเดียวกันหากพระองค์ล่วงรู้ว่าพระชายายังไม่ตาย ชีวิตของเจ้าและข้าได้พบจุดจบกันก็คราวนี้” หรงเฉินปรับทุกข์กับคนรักในขณะที่เจ้าแห่งพิษนั่งกอดอกฟังคนรักของนางที่กำลังทุกข์ใจอยู่กับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า“เราสองคนต้องพยายามขัดขวางถิงถิงไม่ให้ทำการเช่นนั้นเป็นอันขาด เพราะหากกล่าวตามความเป็นจริงแล้วศาสตร์พิษของข้าที่ถ่ายทอดให้กับถิงถิง นางเรียนรู้จนแตกฉานได้อย่างรวดเร็วและยังสามารถคิดค้นพิษร้ายแรงขึ้นมาได้เองแล้วด้วย นางได้รับพรจากสวรรค์จึงทำให้เรียนรู้อะไรล้วนเชี่ยวชาญในระยะเวลาอันสั้น หากอุปราชหยวนเป่ยสิ้นพระชนม์ลงด้วยน้ำมือของนางหายนะทั่วแผ่นดินต้องมาเยภายในห้องหอในขณะที่หวู่ซานซานรีบจูงมือน้องสาวเข้ามาภายในห้องหอของนางแทบจะเรียกได้ว่าลากเข้าห้องมาเลยก็ว่าได้ จนคนถูกลากถึงกับต้องออกปากขึ้นมาทันที “พี่ใหญ่เบาๆ หน่อยทำไมรีบลากข้าเข้าห้องหอของท่านแบบนี้มีอะไรหรือเปล่า” แม่สาวน้อยแรกแย้มถามพี่สาวด้วยความสงสัย “อย่าเพิ่งถามอะไรมากถิงถิง! อยู่เฉยๆ ก็เพียงพอแล้ว ข้าขอจัดการกำไลข้อเท้าของเจ้านี่ก่อน” หวู่ซานซานบอกนางกลับไป ครั้นหยางเฟยอี้ได้ยินเช่นนั้นนางยิ่งงงงันมากขึ้นไปอีก “กำไลข้อเท้าของข้าเป็นอะไรเหรอพี่ใหญ่ ท่านจะจัดการมันทำไม” นางมิวายถามกลับไป หากแต่หวู่ซานซานไม่มีเวลาที่จะมาตอบคำถามของนางแต่อย่างใด สองมือจับไหล่บางกดลงนั่งบนเตียงนอนอย่างรวดเร็ว “นั่งรอข้าอยู่ที่เตียงห้ามไปไหน! แล้วก็ถอดรองเท้าและถุงเท้าของเจ้าออกด้วย...เข้าใจไหม!” นางเอ็ดน้องสาวเสียงเขียวจนแม่สาวน้อยรีบพยักหน้าขึ้นลงเป็นการรับรู้ เพราะไม่เคยเห็นพี่สาวดุนางเช่นนี้มาก่อนเลย หวู่ซานซานรีบเดินตรงดิ่งไปยังหีบใบขนาดย่อมที่วางอยู่มุมห้องนอน พร้อมรีบเปิดและค้นหาถ้วยเคลือบที่นางสกัดสารจากธรรมชาติบางอย่างมีคุณสมบัติสามารถทำให้วัสด
“เสียงกำไลข้อเท้าส่งสัญญาณ!” อุปราชหนุ่มรับสั่งขึ้นมาทันทีท่ามกลางอาการตกใจสุดขีดของเจ้าแห่งพิษและหรงเฉิน ต่างก็ได้ยินเสียงกระดิ่งจากกำไลข้อเท้าดั่งเช่นโซ่ตรวนที่รัดรึงพันธนาการอดีตพระชายาอุปราช กำลังส่งเสียงสัญญาณดังออกมาจากร่างของหยางเฟยอี้หมับ! สองสามีภรรยาที่เพิ่งผ่านพิธีกราบไหว้ฟ้าดินเมื่อครู่ที่ผ่านมาต่างจับมือเข้าหากันจนแน่น เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่จู่ๆ เสียงกระดิ่งจากกำไลข้อเท้าก็ดังขึ้นเพื่อส่งสัญญาณให้กับอุปราชหยวนเป่ยล่วงรู้ว่าพระชายาอุปราชอยู่ที่ไหน“ท่านพี่! ถิงถิงแย่แล้ว” หวู่ซานซานกระซิบกับสามีเบาๆในขณะที่หรงเฉินจับมือฮูหยินของตัวเองเอาไว้แน่น“ทำตัวปกติอย่ามีพิรุธฮูหยิน!” หรงเฉินกระซิบบอกภรรยาช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ตึงเครียดที่เสียงกระดิ่งจากกำไลข้อเท้ากำลังส่งสัญญาณขึ้นมานั้น แต่แล้วจู่ๆ เสียงกระดิ่งที่กำลังก้องกังวานกลับจางหายไปอย่างฉับพลันท่ามกลางความแปลกใจของทุกๆ คนที่อยู่ภายในห้องนั้น ติดตามด้วยร่างของหยางเฟยอี้นำชุดถ้วยชามาหยุดยืนอยู่ใกล้ๆ พลางยื่นส่งให้หรงเฉินเป็นลำดับแรกท่ามกลา
ห้องโถงบริเวณห้องโถงในยามนี้จัดเตรียมพร้อมสำหรับทำพิธีไหว้ฟ้าดินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งของ อาหารและที่จำเป็นต้องใช้ในการประกอบพิธีไหว้ฟ้าดิน จัดเตรียมไว้อย่างครบครัน ในขณะที่อุปราชหยวนเป่ยเสด็จมาร่วมงานในฐานะญาติทางฝ่ายเจ้าบ่าวและด้วยชันษาปีที่ 29 ของพระองค์ จึงทำให้มีอายุมากกว่าทุกคนกลายเป็นผู้อาวุโสสูงสุดสำหรับงานนี้และพระองค์เสด็จมาร่วมงานในฐานะพี่ชายไม่ได้มาในฐานะอุปราชหยวนเป่ยแต่อย่างใด เพื่อไม่ให้แม่ผีเสื้อตัวน้อยต้องตกใจกับฐานันดรศักดิ์ของพระองค์ ซึ่งอินอวิ๋นหยางตั้งใจเอาไว้ว่าจะบอกฐานะอันแท้จริงให้แก่นางล่วงรู้ด้วยตัวเอง นอกจากจะเสด็จมาเพื่อร่วมงานสมรสของหรงเฉินและเจ้าแห่งพิษ อุปราชหนุ่มตั้งพระทัยมางานในวันนี้เพื่อทำในสิ่งที่ต้องการอยู่ภายในพระทัย“แย่แล้วถิงถิง! จัดถ้วยน้ำชาอะไรก็ไม่รู้ทำไมถึงได้อืดอาดยืดยาดถึงขนาดนี้นะ จะถึงเวลากราบไหว้ฟ้าดินของพี่ใหญ่แล้ว” หยางเฟยอี้บ่นพึมพำให้กับตัวเองพร้อมรีบก้าวเข้ามาภายในบริเวณห้องโถงอย่างรวดเร็วเอี๊ยดดด!!! ร่างแน่งน้อยต้องหยุดเดินกะทันหัน เมื่อตรงหน้านางในขณะนี้ ปรากฏบุรุษร่างสูงใหญ่สวมอาภรณ์ขาว
หนึ่งเดือนผ่านไปเทือกเขาหลงเมิ่งในยามนี้กลิ่นอายของความรักแผ่กระจายไปทั่วทั้งขุนเขา เมื่อความรักกำลังเบ่งบานเกิดขึ้นภายในใจของอุปราชหยวนเป่ยผู้กล้า ดอกเหมยขาวแม้จะผลัดเปลี่ยนกันร่วงหล่นแต่ก็มีดอกใหม่ผลิกลีบซ้อนเบ่งบานจนขาวโพลนเป็นเช่นนี้ไม่เคยร้างลาเปรียบดั่งเช่นหัวใจของอินอวิ๋นหยาง ที่บัดนี้มีแม่ผีเสื้อตัวน้อยเข้ามาเติมเต็มความรัก และความโหยหาที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวและอ้างว้างเพียงลำพังมาโดยตลอดอุปราชหนุ่มในยามนี้จะเสด็จมาที่ลานหินกว้างทุกวันไม่เคยขาดแม้แต่วันเดียว เพื่อเรียนรู้วิธีเล่นกู่ฉิน รวมไปถึงเครื่องดนตรีอื่นๆ แม้ว่าพระองค์จะทรงเล่นเครื่องดนตรีเหล่านั้นได้ดีเช่นเดียวกันก็ตามที แต่หากพูดถึงเรื่องฝีมือแล้วต้องยกให้แม่ผีเสื้อคนงามของพระองค์ให้เป็นหนึ่ง นางได้รับพรจากสวรรค์ทางด้านนี้จริงๆ ไม่อาจทัดเทียมได้เลยและเพราะด้วยเหตุนี้เองอินอวิ๋นหยางสามารถหาข้ออ้างได้อย่างแนบเนียนเพื่อฝากตัวเป็นลูกศิษย์เรียนศาสตร์ทางดนตรีกับแม่ผีเสื้อตัวน้อยเพื่อหาทางเข้ามาใกล้ชิดนางและกลับตำหนักไปด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขเป็นเช่นนี้ทุกครั้ง และทำให้พบว่าความรักสามารถท
บริเวณลานดอกเหมยพระวรกายสูงใหญ่ของอุปราชหนุ่มรูปงามแห่งหยวนเป่ย ทรงยืนทอดพระเนตรทะเลหมอกที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณเทือกเขาหลงเมิ่ง กลีบดอกเหมยร่วงโปรยปรายตกลงมาเป็นระยะๆ ท่ามกลางสายลมพาดผ่านจนกิ่งไม้น้อยใหญ่เอนไหวลู่ลม ในขณะที่พระองค์ยังคงยืนเหม่อเช่นนั้นอยู่เป็นเวลานานไม่มีทีท่าว่าจะขยับพระวรกายแม้แต่น้อย อินอวิ๋นหยางในเวลานี้ไม่ได้ยืนชื่นชมทิวทัศน์อันงดงามดั่งเช่นทุกครั้งที่เคยผ่านมา แต่กลับยืนเหม่อลอยเพราะในช่วงเวลานี้จะได้ยินเสียงบรรเลงกู่ฉินดังก้องไปทั่วทั้งขุนเขา และบรรเลงอย่างต่อเนื่องจนพระองค์เริ่มเคยชินกับเสียงบรรเลงจากปลายนิ้วเรียวงามยามเมื่อกรีดลงบนเส้นสาย ทว่าในยามนี้ทั่วทั้งหุบเขาหลงเมิ่งกลับเงียบงันไร้สิ้นเสียงบรรเลงกู่ฉินดั่งที่เคยเป็น และพระองค์ยังทรงยืนอยู่ที่พระตำหนักไม่เสด็จไปตามเวลานัดที่แม่ผีเสื้อน้อยได้บอกกับพระองค์เอาไว้เมื่อวาน ทั้งนี้เพื่อตัดความรู้สึกที่พระองค์ล่วงรู้ว่ากำลังสนใจสตรีร่างอรชรแสนสวยผู้นั้นเป็นพิเศษให้ออกไปจากความคิด แต่ดูเหมือนผลที่ได้รับกลับตรงกันข้ามแทนที่จะสามารถสลัดนางออกไปจากความคิดและความทรงจำได้อย่างรวดเร็วกลับยิ่งทำใ
ผลั่ก!!!! ร่างเล็กๆ ของแม่ผีเสือตัวน้อยชนเข้ากับหน้าอกกว้างใหญ่ของบุรุษเข้าให้อย่างจัง จนนางผงะก้าวถอยหลังไปด้วยความตกใจที่มีบุรุษมายืนซ้อนอยู่ด้านหลังตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้เหวอออ!!!! ร่างแน่งน้อยหงายท้องทำท่าจะผลัดตกจากหน้าผา ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจสุดขีดในขณะที่บุรุษผู้มาเยือนคือพี่ชายใจดีที่จะมาเปลี่ยนสายกู่ฉินให้นั่นเองหมับ!!! อินอวิ๋นหยางกระโดดคว้าร่างของแม่ผีเสื้อตัวน้อยเอาไว้ได้ทันเวลาพอดีก่อนที่นางจะผลัดตกลงจากหน้าผาร่วงหล่นลงไปยังก้นเหวลึกเบื้องล่าง จนสามารถมายืนที่พื้นได้อย่างปลอดภัย“เจ้าปลอดภัยแล้วถิงถิง” อุปราชหนุ่มบอกแม่ผีเสื้อตัวน้อยของพระองค์ ในขณะที่แม่สาวน้อยคนงามยังอยู่ในอาการตกใจไม่คลาดคราดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่สวยยังคงเบิกกว้างอยู่เช่นนั้น“พ..พะ...พี่ชาย!!!” คนงามเอ่ยขึ้นเป็นคำแรกเมื่อล่วงรู้ว่าคนที่มาช่วยนางนั้นเป็นใครใบหน้าหล่อเหลาพยักหน้าขึ้นลงติดต่อกันพร้อมรอยยิ้มละมุนละไมปรากฏขึ้นทุกครั้งเมื่อได้พานพบหน้านาง“ใช่! ข้าเอง” เสียงทุ้มใหญ่บอกคนตัวเล็กกลับไปรอยยิ้มหวานแสนสดใสปรากฏขึ้นบนใ