หน้าหลัก / โรแมนติก / อาญารัก ข้ามขอบฟ้า / การเดินทางอีกครั้งในฐานะเชลย

แชร์

การเดินทางอีกครั้งในฐานะเชลย

ผู้เขียน: นาดียา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-19 04:38:27

ในขณะนั้นเอง ทานากะเหลือบตาไปเห็นชายที่น่าสงสัยคนนั้นพอดี เขาปะปนอยู่กับกลุ่มผู้สื่อข่าวที่ต่างก็แตกตื่น ฮือฮากับเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น จนกล้องไม่รู้จะซูมไปทางไหนดี และอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ทานากะเห็นชายคนนั้นยกมือขึ้นข้างหนึ่งซึ่งพบว่าในนั้นมีมีดปลายแหลม พุ่งตรงไปทางเปรมศักดิ์ และดาราสาวที่กำลังเดินออกไปจากงานทันที และโดยไม่ตั้งใจอีกเช่นกัน เมื่อมีเสียงหนึ่งตะโกนร้องเสียงดัง ออกมาว่าให้ระวัง

  

  เปรมศักดิ์ซึ่งกำลังเดินตามดาราสาวออกมา  เหลือบไปเห็นชายที่ถือมีดพุ่งตรงมายังตัวเขา ด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอด ท่านรัฐมนตรีฯ หันไปคว้าคนที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุด  เหวี่ยงร่างนั้นให้ไปปะทะกับชายคนที่จะเข้ามาทำร้ายเขาสุดแรง โดยที่ไม่มีใครสังเกตว่าเป็นใคร มาจากไหน ทานากะวิ่งตามไปจนถึงตัวบุคคลที่น่าสงสัยคนนั้นแทบทันที หากช้าไปเสียแล้ว เมื่อปลายมีดแหลมคมได้เฉือนข้อมือของผู้โชคร้าย  ที่มามุงดูแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่เข้าอย่างจัง

 

  “อ๊ะ!.!” น้ำรินร้องออกมาได้เท่านั้น เพราะยังงุนงงกับเหตุการณ์ชุลมุน ที่จู่ ๆ หล่อนก็ถูกกระแทกจากใครก็ไม่รู้จนเซถลา จากนั้นก็ถูกฉุดแขน แล้วใครคนนั้นก็เหวี่ยงร่างหล่อน ให้ปะทะเข้ากับมีดแหลมคมจนเลือดไหลเป็นทาง แวบแรกรู้สึกดีใจที่มีดไม่โดนจุดสำคัญ และก็โชคดีที่โดนแค่ข้อมือด้านซ้ายซึ่งไม่ค่อยใช้งานมากนัก และด้วยอาชีพที่ตนเองร่ำเรียนมา น้ำรินรีบฉวยเอาชายผ้าที่ปูรอง อะไรสักอย่างสีแดง มาพันข้อมือเพื่อห้ามเลือด วินาทีนั้นไม่ได้สนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว  และเหมือนผีซ้ำด้ามพลอยเหลือเกิน เมื่อจู่ ๆ กล่องอะไรหนัก ๆ ก็หล่นลงมา กระแทกที่หัวหล่อนอย่างจัง ยากที่จะทันตั้งตัว น้ำรินรู้สึกมึน และรู้สึกปวดหนึบหนัก ๆ ที่หัว ก่อนที่สติจะดับวูบไป หญิงสาวได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย อึกทึกคึกโครมไปหมด  เหมือนมีมือใครคนใดคนหนึ่งมาประคองร่างหล่อนไว้ และช่วยประคองไม่ให้หัวล้มกระแทกพื้นซ้ำเข้าไปอีก น้ำรินได้ยินเสียงคนร้องให้มาดูทางนี้ด้วย ว่ามีคนเจ็บ จากนั้นก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย…

 

  ภายในห้องจัดแสดง ทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ที่ได้รับแจ้งเหตุก็กรูกันเข้ามา กลุ่มนักข่าวก็พากันห้อมล้อม แสงแฟรชสว่างวูบวาบ ชายคนนั้นต่อสู้กับเหล่าบอดี้การ์ด ลูกน้องของทานากะไม่ไหว หมอบไปเสียแล้ว

 

“ เอาตัวชายคนนี้ไปทีครับ!” ทานากะส่งตัวผู้ร้ายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตามมาทีหลัง ก่อนจะก้าวเข้าไปหาผู้เคราะห์ร้าย ซึ่งตอนนี้สลบไปแล้วเพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาล...

 

 

“กริ๊ง…” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเพียงแค่ครั้งเดียว มือเรียวยาวก็หยิบขึ้นมาทันที ก่อนจะกรอกเสียงเข้มลงไป

  

 “ ฮัลโหล”

 

 “ ขอโทษครับท่าน ที่รบกวน ผมมีเรื่องจำเป็นจะต้องแจ้งให้ท่านทราบครับ แต่ผมคิดว่าท่านน่าจะทราบเรื่องดีอยู่แล้ว”

 

“ หึ..แล้วนายจะโทรมาทำไมล่ะ ถ้าคิดว่าฉันรู้แล้ว” ใช่สินะ ทานากะน่าจะรู้อยู่แล้วว่า ฮิโรยูกิ ไม่เคยพลาดเรื่องสำคัญอย่างนี้ เขาคงเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องจัดแสดงแล้วอย่างแน่นอน

 

“ นายอยู่ที่โรงพยาบาลใช่ไหม? ผู้หญิงคนนั้น เป็นยังไงบ้าง”

 

“ ปลอดภัยดีครับ ด้วยอาชีพของเธอ สามารถช่วยตัวเองได้มากเลยทีเดียวครับ ถ้าหากว่าเป็นคนไม่มีความรู้ด้านนี้ป่านนี้เลือดคงไหลออกมาจนหมดตัวเป็นแน่ แต่ที่หนักกว่านั้นก็คือ หมอบอกว่า สมองเธอถูกกล่องบรรจุเครื่องเพชรกระแทกอย่างแรง ไม่แน่ใจว่าเมื่อฟื้นขึ้นมาจะเป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้ยังนอนดูอาการที่ ไอ ซี ยู พรุ่งนี้หมอถึงจะอนุญาตให้ย้ายออกมาอยู่ห้องผู้ป่วยทั่วไปได้ครับ” ทานากะอธิบายเสียยืดยาว โดยหารู้ไม่ว่าเจ้านายหนุ่ม ไม่ได้ยืนอยู่เพื่อฟังโทรศัพท์ของเขาแล้ว

 

“ ฮัลโหล ฮัลโหล ท่านครับ อ้าว! วางไปซะแล้ว เฮ้อ!” บอดี้การ์ดหนุ่มก้าวเข้ามาหยุดยืน อยู่ที่หน้าห้อง ผู้ป่วยหนัก พลางมองผ่านช่องเล็ก ๆ ที่ทางโรงพยาบาลทำไว้เพื่อส่องดูคนด้านในได้ อย่างใช้ความคิด หญิงสาวผู้นี้เป็นคน ๆ เดียวกับที่เจ้านายของเขาให้สืบประวัติ ซึ่งเขาก็แปลกใจอยู่ในที ว่าจู่ ๆ ทำไมผู้เป็นนายถึงต้องการทราบความเป็นมาของหล่อนอย่างละเอียด แล้วทำไมอยู่ดี ๆ หล่อนถึงเข้ามาในห้องจัดแสดงเพชรได้ล่ะ หรือว่า...

 

“ ฉันรู้ดี ว่านายกำลังคิดอะไร นายกำลังสงสัยว่าทำไม ฉันถึงให้สืบประวัติหล่อน และทำไมหล่อนถึงเข้ามาในงานได้ และนายกำลังคิดว่า หล่อนอาจจะมีส่วนรู้เห็นกับผู้ชายคนนั้น อย่างนั้นถูกต้องไหม?”

 

“ ไม่มีครั้งไหนเลย ที่ท่านจะอ่านความคิดผมไม่ออก”

 

“ ท่าทางนายแสดงออกมาทางสีหน้า และอีกอย่าง ฉันก็คิดเหมือน ๆ กับนายนั่นล่ะ มันเป็นไปตามหลักการอยู่แล้วนี่นา”

 

“ อ้อ! แล้วนี่ ท่านมาทำไมหรือหรับ ดึกดื่นป่านนี้ ที่จริงเรื่องแค่นี้ ผมจัดการเองก็ได้ครับ ท่านกลับไปพักผ่อนเถอะ”

 

“ แต่เห็นทีว่า เรื่องแค่นี้ นายจะจัดการเองไม่ได้เสียแล้วล่ะ..ทานากะ”ที่ว่าจัดการเองไม่ได้ของเจ้านายเขาก็คือ การเข้าไปเยี่ยมหญิงสาวผู้โชคร้ายคนนั้นซึ่ง ทราบกันดีอยู่ว่าถ้าเป็นเวลาอย่างนี้ ทางโรงพยาบาลห้ามเยี่ยมเด็ดขาด แต่สงสัยจะมีข้อยกเว้นเฉพาะกับเจ้านายของเขากระมัง จากนั้นก็ออกคำสั่งย้ายตัวคนไข้แบบสายฟ้าแลบ เพื่อเดินทางออกนอกประเทศภายในค่ำคืนนี้ทันที 

 

  ทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็วและง่ายดายเมื่อ คัทซึฮิโกะ ฮิโรยูกิ เป็นคนมาจัดการให้เป็นไปตามคำบัญชาของเขา ซึ่งก็ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งแม้กระทั่ง ผอ.ของโรงพยาบาล

 

“ เอ่อ..ท่านครับ จะดีหรือครับ ผมว่าน่าจะให้พักรักษาตัวที่นี่จะดีกว่า รอให้เธอฟื้นขึ้นมาก่อนไม่ดีกว่าหรือครับ”

 

“ รอให้หล่อนฟื้นอย่างนั้นหรือ? แล้วก็รอให้หล่อนมาคิดแผนขโมยเพชรของฉันอีกอย่างนั้นใช่ไหม? หึ..นายเป็นอะไรไปทานากะ หรือว่า..นายเกิด ติดใจผู้หญิงคนนี้ ขึ้นมาซะแล้ว”

 

“ อ๊ะ!ไม่ใช่นะครับท่าน เอ่อ..คือ ผมคิดว่าอาการหล่อนน่าเป็นห่วงอยู่ ก็เลย..”

 

“ น่าเป็นห่วงหรือ? ที่น่าเป็นห่วง สมควรจะเป็นเพชรมูลค่าร้อยล้านของฉันมากกว่า เข้าใจมั้ย !” ฮิโรยูกิ เผลอตวาดเสียงดังกลับไปให้การ์ดคู่ใจอย่างยับยั้งไม่อยู่

 

“ เอาล่ะ ถ้าฉันสืบว่าหล่อนไม่มีส่วนรู้เห็นในการลักลอบเข้ามาก่อความวุ่นวายในห้องจัดแสดงเมื่อไหร่ฉันจะมอบหล่อนให้นายแน่ทานากะ” เจ้านายเลือดร้อนเดินออกไปแล้ว ทานากะยังคงยืนอยู่หน้าห้อง ไอ ซี ยู ที่ข้างในดูจะวุ่นวาย เพราะต้องเตรียมย้ายตัวคนไข้ไปขึ้นเครื่อง ซึ่งจุดหมายปลายทาง ก็คือสนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าเมื่อทุกอย่างพร้อม

 

  ทานากะไม่คิดสักนิดเลย ว่าผู้หญิงคนนั้น จะมีส่วนรู้เห็นในการสร้างความโกลาหลที่โรงแรมอย่างแน่นอน ใครที่ไหนจะยอมเสี่ยงตายเพียงเพื่อสร้างสถานการณ์ล่ะ เขาเองก็รู้ว่าเจ้านายไม่ได้คิดอย่างนั้นจริง ๆ หรอก เพียงแต่เขายังไม่รู้ว่าเจ้านายคิดจะทำอะไรต่อจากนี้เท่านั้นเอง แล้วทำไมต้องเอาตัวหล่อนไปที่ญี่ปุ่นด้วย สุดจะยากเดาจริง ๆ

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • อาญารัก ข้ามขอบฟ้า   จบบริบูรณ์

    การกระทำของทั้งสองได้เรียกน้ำตาให้กับคนที่พบเห็น บริเวณห้องฉุกเฉินได้เป็นอย่างดี ชั่ววินาทีนั้นราวกับว่าได้หยุดทุกสิ่งทุกอย่างให้หยุดอยู่กับที่ ไม่เว้นแม้แต่ผู้ป่วยที่ร้องโอดโอย เพราะความเจ็บปวดจากบาดแผลบริเวณหน้าขา เพิ่งถูกเข็นผ่านเข้ามาภายใน ต้องหยุดชะงักงันไปชั่วขณะ เหลือบมองมายังคู่หนุ่มสาวทั้งสองด้วยความงุนงงสงสัย ลืมความเจ็บปวดเมื่อครู่ไปเลยทีเดียว ทางด้านผู้สูงอายุทั้งสาม ถึงกับอึ้งไปกับการกระทำของทั้งสองหนุ่มสาว ความรู้สึกตื้นตัน และเห็นความตั้งใจจริงของทั้งสอง แสดงให้รู้ว่าพวกเขารักกันมากมายขนาดไหน ฝ่ายชายถึงกับสามารถตัดขาดจากสมบัติและวงศ์ตระกูลได้เลย เพื่อแลกกับการได้ครองรักกับหญิงสาวร่างเล็กบอบบางข้างกาย ลี ฮาซันถึงกับหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับที่หางตา มองไปทางด้านผู้เป็นสามีคล้องวงแขนเข้ากับลำแขนของอีกฝ่ายซุกหน้ากับอกของสามี ด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ ทางด้านลี จางชีก็มีอาการไม่ต่างจากกันนัก จึงแตะที่แขนของภรรยาอย่างปลอบประโลม ชายชราหนึ่งเดียวนั้นก็ไม่ได้มีอาการแตกต่างจากคนอื่นเท่าใดนัก ร่างที่ค่อนข้างค้อมเล็กน้อย ไขว้มือที่เหี่ยวย่นไว้ด้านหลังข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างวางอยู่บน

  • อาญารัก ข้ามขอบฟ้า   ผ่านการทดสอบ

    น้ำรินพยายามลืมตาตื่น รู้สึกมึนงงไปหมด อาการคลื่นไส้ จะเป็นลม หายเป็นปลิดทิ้งหลังจากที่ได้ให้น้ำเกลือ และนอนพักเต็มอิ่มแล้ว ดวงตาที่เปียกชื้นไปด้วยน้ำอุ่น ๆ เค็ม ๆ ถูกเช็ดออกจากดวงหน้าด้วยนิ้วเรียวใหญ่อย่างเบามือของผู้เป็นสามี“ตื่นแล้วหรือ? เป็นไงบ้าง? ยังเวียนหัวอยู่หรือเปล่า?” คำถามรัวถี่ติด ๆ กันจนคนถูกถามแทบตอบไม่ทัน จึงได้แต่ส่ายศีรษะไปมาเบา ๆ เพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ หล่อนไม่อยากให้เขาเป็นกังวลมากนัก“ไอ้หมอหัวล้านกับเจ้ายูมันให้เธอกลับบ้านได้ แต่ฉันว่าเธอยังไม่แข็งแรงดีเลย ยังไงนอนพักดูอาการที่นี่สักคืนดีไหม” ผู้เป็นภรรยาส่ายหัวดิกเมื่อ ได้ยินผู้เป็นสามีบอกให้นอนพักที่นี่สักคืน“ไม่เอาค่ะ หายดีแล้ว ไม่เวียนหัว ไม่คลื่นไส้ ไม่มีอาการอะไรทั้งนั้นแล้ว ฉันหายดีแล้วจริง ๆ นะคะ” อยากจะบอกเหลือเกินว่า แค่ตื่นขึ้นมาแล้วได้เจอหน้าเขา มาอยู่ใกล้ ๆ อย่างนี้อาการต่าง ๆ ก็หายเป็นปลิดทิ้งทันทีเลยล่ะ“จริงนะ ห้ามโกหก เป็นพยาบาลอะไรไม่ชอบโรงพยาบาลเฮ้อ!” ชายหนุ่มชะโงกหน้า มองเสี้ยวหน้าภรรยาตัวน้อยด้วยความมันเขี้ยว มือใหญ่วางแปะที่ศีรษะเล็กนั้น เขย่าเบา ๆ อย่างเอ็นดู“กลับบ้านกันเถอะนะคะ” คนไข้ตัว

  • อาญารัก ข้ามขอบฟ้า    “ฉันอยู่นี่แล้วที่รัก..ไม่ต้องกลัวนะ”

    “ดี..แล้วก็เอาหัวล้าน ๆ ของไอ้หมอคนเมื่อกี้ออกไปห่างเมียกันหน่อยได้ไหม กันไม่ชอบขี้หน้ามันเลยว่ะ” ฮิโรยูกิหันมากระซิบข้างหูเพื่อนรักทันทีที่หันไปเห็นแพทย์คนเมื่อสักครู่ เดินเลี่ยงออกไปทางด้านซ้ายของเตียงคนไข้ นั่นก็เรียกรอยยิ้มให้ยูอิจิได้เป็นอย่างดี ขี้หึงจริง ๆ นะเพื่อนเรา แม้แต่หมอแก่ร่างท้วม กับหัวที่มีผมทางตอนหน้าเหลือน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง ไปหาว่าเขาหัวล้านซะนี่ ร้ายจริง ๆ“ออกไปก่อนเถอะเพื่อน ไม่ต้องห่วงทางนี้ กันจะช่วยดูให้อีกแรงหนึ่ง” คำยืนยันของยูอิจิ บอกว่าภรรยาของเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก ทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ร่างสูงจึงยอมถอยห่างออกมาแต่ไม่ได้ไปไหนไกล เขายังคงปักหลักยืนอยู่ห่าง ๆ ในมุมห้องแคบนั้น พลางกอดอกมองแพทย์และพยาบาลตรวจร่างกายหล่อนเงียบ ๆ“ฮีโร่..ฮีโร่..ตื่นเถอะ”“อ๊ะ! ฮ๊ะ! ยู..เมียฉันล่ะเมียฉันเป็นไงบ้าง!” ร่างสูงผวาตกใจตื่น เมื่อได้ยินเสียงยูอิจิปลุกให้ตื่น เขาเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน“หึ..ตื่นขึ้นมาก็โวยวายเลยนะ คุณน้ำรินปลอดภัยแล้ว หมอให้น้ำเกลือ แล้วย้ายเธอไปนอนพักดูอาการที่ห้องข้าง ๆ โน่นแล้ว”“เหรอ? แล้วอยู่ไหนล่ะ?”“เดี๋ยวสิเพื่อน นี่นายไม่อ

  • อาญารัก ข้ามขอบฟ้า   น้ำรินท้อง

    “อือ ๆ ก็ว่าอย่างนั้นล่ะ” แล้วก็มีเสียงงึมงำจากคนรอบข้าง ที่บ่งบอกว่าเห็นด้วยกับความเห็นของเขา และนั่นก็ให้คุณคิม เซยอนชักสีหน้าอย่างไม่พอใจให้สามีทันที“เอาอย่างนี้สิ อะไรที่เป็นฝีมือของเธอ เราก็ชิมอันนั้นก็แล้วกัน..เรามาวัดกันที่รสชาติเป็นไง” และก็เป็นท่านปู่อีกตามเคยที่เอื้อมมือมาช่วยหล่อนไว้ ทำให้น้ำรินลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก การทดสอบเรื่องอาหารผ่านไปด้วยดี ผลที่ออกมาหล่อนได้คะแนนเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ซึ่งนับว่าสูงมากเลยทีเดียว และสุดท้ายก็คือการชงชาที่ถูกต้อง ขณะที่กำลังนำถาดน้ำชาไปเสิร์ฟให้ผู้หลักผู้ใหญ่นั้นเอง วูบหนึ่งหล่อนรู้สึกหน้ามืด วิงเวียนจนแทบล้ม แต่ก็พยายามข่มใจไว้ พลางยืดอกขึ้นสูดลมหายใจเพื่อเอาออกซิเจนเข้าปอดลึก ๆ เฮือกหนึ่ง แต่จนแล้วจนรอดเรื่องที่หญิงสาวไม่ต้องการให้เกิดมันก็เกิดขึ้นจนได้“อุ๊บ! อ๊ะ!” เพล้ง! จู่ ๆ หญิงสาวก็รู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน เมื่อกลิ่นของชาชั้นดีโชยมาแตะเข้าที่จมูก กลิ่นของมันทำให้แก๊สในกระเพาะอาหารปั่นป่วนจนวิ่งมาจุกอยู่ที่ลำคอ แทบอ้วกออกมา เท่านั้นเองโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว หล่อนเผลอยกมือขึ้นมาปิดปาก ทำให้น้ำหนักถูกเทไปที่มืออีก

  • อาญารัก ข้ามขอบฟ้า   บททดสอบสุดหิน

    สามวันแล้วสินะที่หล่อนโดนการทดสอบแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ จากคุณอาหญิง วันแรกเธอให้หล่อนขัดถูเครื่องใช้โบราณที่อยู่ในครัว ทำอยู่เป็นวันกว่าจะเสร็จก็เล่นเอามือถลอกไปเลยทีเดียว ถัดมาอีกวันหนึ่งหล่อนถูกทดสอบการทำอาหารซึ่งหล่อนถนัดนักล่ะ ไม่ว่าเธอจะสั่งให้ทำอะไรหล่อนก็ทำมันออกมาได้เป็นอย่างดี และนั่นก็ทำให้คุณลี ฮาซัน เริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับหล่อนดีขึ้น วันนี้เธอช่วยสอนวิธีชงชาที่ถูกวิธีให้กับหล่อนอย่างละเอียดถี่ถ้วน ฮีจินมาเยี่ยมหล่อนเมื่อช่วงบ่าย ก่อนจะกลับหล่อนได้ยื่นของสิ่งหนึ่งมาให้ นั่นก็คือหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เกาหลีในแต่ละยุคสมัย คุณลีบอกว่าอีกสองวันจะมีการประชุมผู้อาวุโสของตระกูล ให้หล่อนเตรียมตัวให้พร้อม เมื่อถึงวันนั้นเธอบอกว่าจะคอยช่วยหล่อนอีกแรงหนึ่ง น้ำรินรู้สึกดีใจเหลือเกิน ที่สามารถเอาชนะใจคุณลี ฮาซันได้ เพียงแค่ระยะเวลาอันสั้น ส่วนคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้าน พ่อบ้านเก่าแก่ ต่างก็ให้ความเป็นกันเองกับหล่อนมากขึ้นผิดกับวันแรก ๆ ที่หล่อนมาถึงที่นี่ลิบลับ หญิงสาวกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้งในช่วงเย็น หลังจากร่วมรับประทานอาหารมื้อเย็นกับผู้ใหญ่เรียบร้อยแล้ว ร่างเล็กก้าวเข้าไป

  • อาญารัก ข้ามขอบฟ้า   เดินทางสู้อุปสรรคอีกขั้น

    ช่วงเดือนพฤษภาคมที่เกาหลีแลดูสดชื่นนัก ความสวยงามของดอกไม้ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ พันธุ์ไม้ต่าง ๆ ผลิดอกบานสะพรั่งก่อนที่จะมีใบสีเขียวชอุ่มตามมา ไกด์จำเป็นอธิบายให้หล่อนฟังว่า ริมทางที่รถวิ่งผ่านมาส่วนมากจะเป็นต้นเมเปิลต้นอึนแฮง ( ต้นแป๊ะก๊วย) ต้นบอทือ ( ต้นหลิว) ต้นบอช ( ต้นซากุระ) ต้นชัน (คล้ายต้นสน) ส่วนที่อยู่บนเนินเขาจะมีดอกจิลดัลแล สีชมพูอมม่วง ดอกแคนารีสีเหลือง และดอกซากุระ หรือดอกชนามู สีขาวอมชมพู ต่างผลิดอกออกมาประชัน เปรียบเสมือนสีผ้าต่าง ๆ พืด ปูประดับประดาไว้อย่างสวยงาม ต้นไม้ที่ให้ร่มเงา ยืนเรียงรายริมถนนเริ่มผลิใบอ่อนบ้างแล้ว ตามกิ่งก้านจะมีนกเจบีตัวเล็ก ๆ สีดำส่งเสียงร้องอย่างร่าเริง รถคันจิ๋ววิ่งลัดเลาะผ่านภูเขาที่ดูคดเคี้ยว จากกรุงโซลออกมาแถวชานเมือง ได้สักพักใหญ่ ๆ คนขับกิตติมศักดิ์ของหล่อนก็หักพวงมาลัยเพื่อเลี้ยวขวาขึ้นไปบนเนินสูงเบื้องหน้า วิ่งผ่านรั้วกำแพงสูงใหญ่เข้าไปด้านใน ก่อนจะจอดนิ่งสนิทหน้าลานกว้าง น้ำรินก้าวลงจากรถพลางเหม่อ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status