“ทั้งหมดนี้คุณเป็นคนออกแบบเองหรือครับ”
“ใช่ค่ะมีปัญหาส่วนไหนหรือมีข้อสงสัยอะไรสามารถสอบถามกับดาวได้โดยตรงเลยค่ะ”
คำตอบที่ดูมั่นใจและเป็นมืออาชีพ สายตาที่เต็มไปด้วยประกายความมั่นใจทำเขาอึ้งไปเลย
“เปล่าครับมันสมบูรณ์แบบมาก ไม่มีที่ติเลย” เขาชมและคิดแบบนั้นจริง ๆ ก่อนจะหันไปถามทีมงานคนอื่น ๆของตนเอง
“ทุกคนมีความเห็นว่าอย่างไรครับ หรือมีใครมีคำถามข้อสงสัยอะไรอีกไหม”
“เป็นงานออกแบบที่ดีมากครับ มีความแปลกใหม่ สวยหรู และยังเพิ่มฟังก์ชันให้กับบ้านที่ตอบโจทย์กับคนสมัยใหม่ได้อย่างลงตัวเลย สมกับเป็นงานออกแบบของคนรุ่นใหม่เลยครับ”
เจ้าหน้าที่ท่านหนึ่งในที่ประชุมเอ่ยชม และคนในที่ประชุมคนอื่น ๆ ก็ยิ้มพยักหน้าเห็นด้วยพร้อมเอ่ยชื่นชมผลงานเธอตามกัน
“ถ้าไม่มีคำถามเพิ่ม ผมก็ขอจบการประชุมไว้เพียงเท่านี้ ส่วนเรื่องเซ็นสัญญาทางเราขอสรุปกันภายในก่อน ว่าจะมีปรับเปลี่ยนแบบในส่วนไหนอีกหรือไม่ แล้วทางเราจะแจ้งผลให้ทางคุณดาวทราบอีกครั้งนะครับ วันนี้ขอบคุณมาก”
ประธานในที่ประชุมกล่าวปิดการประชุม ทุกคนจึงแยกย้ายกันไปทำงานต่อ
“เดี๋ยวครับคุณดาว” เมื่อเห็นนิศรากำลังจะเดินออกจากห้อง เขาจึงเรียกรั้งเธอไว้ก่อน
“คะ” เธอขานรับเขากลับไม่ตอบ แต่ยกโทรศัพท์ขึ้นเหมือนกำลังโทรหาใคร มืออีกข้างยังคงถือนามบัตรของเธอเอาไว้
ครืด ครืด ไม่นานโทรศัพท์มือถือของเธอก็สั่น หญิงสาวกำลังจะขอตัวไปรับแต่ธีรวัฒน์ก็ชิงพูดขัดขึ้นมาก่อน
“นั่นเบอร์ผม เมมไว้ด้วยนะครับ คุณดาวแล้วเจอกัน” -รอยยิ้มนั้นคืออะไร- เธอคิด
พูดจบเขาก็เดินออกจากห้องประชุมไปเลย เหมือนไม่สนว่าเธอจะตอบหรือไม่ตอบ แต่เขาได้พูดในสิ่งที่ต้องการแล้ว วรวิทย์ที่เดินตามหลังเจ้านายหนุ่มได้แต่อมยิ้ม ไม่คิดว่าเจ้านายของตนจะเจ้าเล่ห์ได้ถึงเพียงนี้ อยู่ติดตามเขามาหลายปีมีสาว ๆ เข้ามาขายขนมจีบไม่ซ้ำหน้า ไม่เคยเห็นสนใจสาวคนไหน แต่คนนี้เขากลับเป็นฝ่ายรุกจีบเธอก่อนเสียเอง
“อะไรของเขาเนี่ย ใครเขาอยากได้เบอร์คุณ หา” นิศราบ่นกับตัวเอง และยังยืนอึ้งอยู่กับที่
“ดาวแกพรีเซนต์ได้ดีมากเลยนะวันนี้ แบบที่แกออกแบบมาก็ด้วย ชั้นภูมิใจในตัวแกมากจริง ๆ แล้วมายืนทำอะไรตรงนี้”
แพรไหมที่ยืนรออยู่หน้าห้องเมื่อไม่เห็นเพื่อนออกไปสักที จึงเดินกลับมาตามก่อนเดินจูงมือเธอออกไปพร้อมกัน
“มีแกชมคนเดียว ก็มีกำลังใจทำงานแล้ว ขอบใจมากนะ”
“ขอบใจอะไรกัน ฉันไม่ได้ชมเพื่อเอาใจแกนะ มันดีจริง ๆเหมาะกับโปรเจกต์นี้มาก ว่าแต่กินมื้อเที่ยงด้วยกันมั้ย” เสียงใส ๆ เอ่ยถาม
“ไม่ได้น่ะสิ วันนี้ฉันมีประชุมต่อที่บริษัท ครั้งหน้าแล้วกันนะ แล้วฉันจะบอกพี่ดินให้ ว่าแกคิดถึงมากกก” เสียงหวานแซว
“ยัยดาวไม่ต้องเลยนะ” แพรไหมรีบร้องห้ามเสียงหลง
“ไม่ต้องพูดหรอกฉันเนี่ยรู้ใจแกที่สุด มองแค่นี้ก็เห็นถุงน้ำดีแกแล้ว จะบอกตามนี้แหละไปก่อนนะ” คำเอ่ยลาจากเพื่อนรักทำให้อีกคนยืนหน้าแดงด้วยความเขินที่เพื่อนรู้ทัน ไม่มีคำมาเถียงแต่พอจะนึกคำพูดขึ้นมาได้เจ้าตัวก็เดินหายไปแล้ว
อีกด้าน...
“ไอ้ดิน อินทีเรียดีไซเนอร์ ที่มาบริษัทกูวันนี้ใครวะ”
เสียงคนต้นสายพูดขึ้นทันที เมื่อคนปลายสายกดรับ ด้วยความอยากรู้จนทนไม่ไหว
“ทำไม ยัยดาวไปทำอะไรผิดรึเปล่า”
“เปล่าทำอะไร กูเห็นนามสกุลเดียวกับมึง ญาติมึงรึไง”
“ไม่ได้ทำอะไร แล้วมึงจะถามทำไมวะ” นคินทร์ ไม่ได้ตอบแต่ถามกลับทันที
“ไอ้ดินกูถาม ให้มึงตอบไม่ใช่ให้มึงมาถามกูกลับ”
“กูจะตอบ แต่มึงต้องบอกมาก่อนว่าเขาทำอะไรให้มึง” นคินทร์ถามอย่างคนอยากรู้ และรู้ทันเพราะมันผิดปกติที่อยู่ดี ๆเพื่อนเขาจะมาคาดคั้นถามอะไรแบบนี้
“เอ่อ กูยอม ก็อาทิตย์ที่แล้ว กูมีประเด็นกับเด็กคนนี้ที่ร้านกาแฟแถวออฟฟิศกู แล้ว...”
ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะเล่าจบ คนปลายสายก็พอจะเดาเรื่องราวได้ก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
“ฮ่า ฮ่า อย่าบอกนะว่ามึงคือไอ้ขยะเปียกน่ะ” นคินทร์พูดไปหัวเราะไปและเสียงหัวเราะยังดังขึ้นเรื่อย ๆต่อเนื่องไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
“ไอ้เชี้ยดิน หยุดขำเลย ทำไมมึงรู้” ธีรวัฒน์รีบถามด้วยอาการหัวเสีย น้ำเสียงจริงจังขึ้น ก่อนที่ปลายสายจะหยุดหัวเราะและตอบกลับมา
“นั่นน้องสาวกู” ประโยคสั้น ๆ แต่ความหมายชัดเจน
“กูไม่เห็นเคยรู้เลย ว่าน้องสาวมึงสวยขนาดนี้ กูนึกว่ายังเด็กอยู่”
“ก็เด็กอยู่ เพิ่งเรียนจบ”
“ไม่เด็กแล้ว ไอ้พี่เขย”
“ไอ้ชั่วธีร์นั่นน้องกู ถ้าไม่จริงจังห้ามจีบเลยนะ” นคินทร์รีบเตือนเสียงดังหนักแน่น
“มึงเคยเห็นกูจริงจังกับใครมั้ยล่ะ”
“ก็ไม่เคยเห็นไงถึงต้องห้าม”
“ไม่เคยเห็น เพราะกูยังไม่เคยจริงจังกับใคร แต่คนนี้กูจริงจังวะ” ธีรวัฒน์ตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นขึ้น
“เอ่อถ้าจริงจังกูก็ไม่ว่าอะไร แต่จะมาเล่น ๆ กับน้องกู กูไม่ยอมนะบอกไว้ก่อน เพื่อนก็เพื่อนเถอะถ้ามาทำน้องกูเสียใจกูไม่ปล่อยไว้แน่”
“กูจะไม่สัญญาแต่กูจะทำให้มึงเห็นเอง ว่าแต่น้องมึงเล่าเรื่องกูให้ฟังว่าไงบ้าง” เขาถามเพราะอยากรู้ว่าเธอจะพูดถึงเขาอย่างไร
“ก็เล่าเรื่องทั้งหมดนั่นล่ะ มึงรู้มั้ยวันนั้น น้องกูต้องทนตัวเหนี่ยวทั้งวัน เพราะมึงเลยนะ กูเห็นสภาพละสงสาร”
“เอ่อ กูขอโทษไม่ได้ตั้งใจ น้องมึงก็ใช่ย่อยนะสาดกาแฟใส่กูเหมือนกัน กูต้องเปลี่ยนชุดใหม่ที่ออฟฟิศเลย” เขาถือโอกาสฟ้องกลับด้วยเสียเลย
“ฮ่า ฮ่า ถ้าดาวรู้ว่ามึงเป็นเพื่อนกูนะมีกรี๊ด” นคินทร์พูดไปหัวเราะไปด้วยอย่างชอบอกชอบใจ เมื่อรู้ว่าคู่กรณีของน้องสาวเขาคืนเพื่อนรักเขานี่เอง เมื่อนึกขึ้นได้ก็ถามเรื่องงานต่อด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น
“เอ่อ แล้วเรื่อง 'ไอ้ขยะเปียก'เรื่องนี้มีผลกับงานเมื่อเช้ามั้ย”
“มึงเน้นจังนะไอ้ขยะเปียกเนี่ย กวนตีน!” เขาด่าให้อดไม่ได้จริง ๆก่อนจะตอบคำถามต่อ
“งานดี ไม่มีที่ติ ไม่มีผลกับงาน แต่มีผลกับใจ”
เย็นวันนี้ธีรวัฒน์ให้ทุกคนในบ้านเลิกงานไว เพื่อเขาจะได้มีเวลาอยู่กับนิศราลำพัง เขาอยากใช้เวลากับเธอให้มากขึ้น“ทุกคนไปไหนกันหมดคะ” ถามเพราะสงสัยเธอไม่เจอใครเลยตั้งแต่กลับมา ปกติบ้านก็เงียบอยู่แล้ว ยิ่งไม่มีแม่บ้านอยู่ในบ้านยิ่งดูเงียบมากกว่าเดิม“พี่ให้เลิกงานแล้ว”“อ่าวแล้วมื้อเย็นล่ะคะ”“มื้อนี้ พี่จะทำให้ภรรยาพี่ทานเอง” เขาพูดแบบหน้าตาเฉยพร้อมส่งยิ้มหวานให้“พี่ธีร์” เรียกเขาเสียงดังด้วยความตกใจที่เขาเรียกเธอว่าภรรยา ก่อนจะหันไปมองซ้ายขวาว่ามีใครอยู่แถวนี้หรือเปล่า กลัวว่าใครจะมาได้ยินเอา“ครับคุณภรรยา” เขาเน้นคำเดิมขานรับเธอด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีเมื่อเห็นท่าทีกลัวคนอื่นจะรู้“เดี๋ยวก็มีใครมาได้ยินเข้าหรอกค่ะ”“ได้ยินก็ได้ยินสิ ไม่เห็นเป็นอะไรนิเรื่องจริงทั้งนั้น”“ไปทำอาหารได้แล้วค่ะดาวหิวแล้ว” เธอส่งสายตาดุใส่เขาก่อนจะไล่ให้เขาไปทำอาหารเสียเลย“แต่พี่ต้องมีผู้ช่วย จะได้เสร็จไว ๆไง&r
ธีรวัฒน์เริ่มขยับปลายนิ้วเข้าออกเป็นจังหวะ พร้อมกับร่างกายของเธอที่เด้งแอ่นรับสัมผัสเขาอัตโนมัติ ทุกครั้งที่ปลายนิ้วของเขาดันเข้าไปจนสุด ความคับแน่นของเธอแทบทำเขาคลั่ง ร่างกายเธอบิดเร้าด้วยความเสียวซ่านที่เกิดขึ้น รู้สึกทรมานแต่สุขสมอย่างบอกไม่ถูก“อ๊ะ อืม” นิศราร้องคางเสียงหลง เมื่อเขาเร่งจังหวะนิ้วให้เร็วขึ้น ใบหน้าของเธอตอนนี้ช่างเซ็กซี่ ยั่วยวนเขาเสียเหลือเกิน“พี่ธีร์..ดาว...มะไม่เคย” เสียงหวานคางกระเส่าเมื่อรู้สึกกลัว“อือมม พี่รู้จ้ะคนดี สัญญาว่าจะนุ่มนวล”คำพูดของเขาทำเธอรู้สึกร้อนวูบวาบ บวกกับปลายนิ้วซุกซนของเขา ที่ตอนนี้กรีดขึ้นลงกลางรอยแยก และเริ่มมีน้ำหวานเปียกชุ่มไหลออกมาเพิ่ม มันทำให้สติของเธอเตลิดจนควบคุมไม่ได้ ร่างกายแอ่นรับสัมผัสเขาทุกครั้ง เมื่อเห็นว่าเธอต้องการเขามากเพียงใดชายหนุ่มจึงไม่รอช้าเขาใช้ลิ้นร้อนรากเลียปลายถันสลับกับดูดดึงหยอกล้อ ทำให้เธอรู้สึกเสียวสะท้านมากกว่าเดิม ตอนนี้เธอเหมือนกำลังจะขาดใจ เขาเองก็ไม่ต่างกันตอนนี้อารมณ์ปรารถนาของเขาได้พุ่งทะยานไปไกลเกินกว่าจะหยุดได้เสียแล้ว
ส่วนเขานึกโทษตัวเองที่ควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ และทำแบบนั้นกับเธอไป เธอคงโกรธเขามาก แล้วเขาควรทำอย่างไร ครุ่นคิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ก่อนกลับไปนั่งทำงานต่อด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว กลัวว่าเธอจะโกรธเขาจนหนีไปแต่ผ่านไปไม่นานหญิงสาวก็เดินกลับเข้ามานั่งที่โต๊ะของตนเอง โดยไม่พูดไม่จาหรือแม้จะหันมามองหน้าเขาด้วยซ้ำธีรวัฒน์เงยหน้ามองเธอเป็นระยะ ทั้งสองต่างนั่งทำงานไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาต่างคนต่างเงียบล่วงเลยไปถึงเวลาเลิกงาน นิศราเงยหน้าขึ้นไปมองเขาที่นั่งเครียดอยู่กับกองเอกสารตรงหน้า อดเป็นห่วงเขาไม่ได้เพราะเขายังไม่หายดีในเมื่อเป็นแฟนกันเรื่องแบบนี้ก็คงต้องเกิดขึ้นบ้างเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ จึงไม่ใช่ความผิดของใคร เธอจึงเป็นฝ่ายพูดก่อน เพราะไม่อยากให้เขาหักโหมมากเกินไป“ห้าโมงแล้วค่ะ เรากลับบ้านกันเถอะ”“พี่ขอเคลียร์เอกสารกองนี้ก่อนนะ”“งานด่วนเหรอคะ”“ไม่ด่วนครับ แต่พี่อยากทำให้เสร็จก่อน”“ถ้าไม่ด่วนงั้นก็กลับกันเถอะค่ะ ดาวหิวข้าวแล้ว” พูดพร้อมเอาม
เมื่อลูกค้ากลับไปแล้วนิศราจึงเปิดประตูเดินเข้ามาพร้อมเอกสารที่เธอรวบรวมไว้มาให้ เขาเปิดอ่านเอกสารที่เธอส่งมาให้ระหว่างรอทุกคน เปิดดูไปก็มองหน้าหญิงสาวไปด้วยความประหลาดใจ ไม่นานพนักงานแผนกต่าง ๆก็พากันทยอยเดินเข้ามาในห้อง เมื่อเห็นทุกคนนั่งประจำที่พร้อมแล้ว เขาก็เริ่มประชุมต่อ“สินค้าที่เสียหายไป ใครมีปัญหาเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าล็อตใหม่ไหมครับ” เปิดประชุมโดยการยิงคำถามทันที พนักงานคนหนึ่งยกมือขึ้นหลังจบคำถาม“งานตกแต่งภายในตอนนี้มีปัญหาเรื่องคิิวเข้าติดตั้งครับ อยู่ในช่วงเจรจากับซัพพลายเออร์”“เรื่องนี้ต้องรอช่างอาคารทำงานให้เรียบร้อยก่อน อาจต้องขอความร่วมมือกับเขาอีกครั้ง ถึงตอนนั้นหากคุยไม่ได้ ให้รีบแจ้งผมทันที” ธีรวัฒน์เสริมก่อนถามต่อ“เรื่องประตูไม้ของโครงการT403 สองพันบาน สี่ร้อยหลังติดปัญหาอะไรครับ”“คือแบบที่ลูกค้าเลือก สินค้าไม่พอส่งครับ ทางบริษัทต้องผลิตใหม่ถึง 80% ซึ่งจากจำนวนดังกล่าวระยะเวลาในการผลิตรวมกับระยะเวลาในการจัดส่งมายังประเทศไทยอาจไม่ทันวันติดตั้ง และอาจมีผลกับการส่งมอบงานใ
ธีรวัฒน์เดินตามหญิงสาวลงมารับประทานอาหารด้านล่าง เขาพยายามปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ แต่ก็ปิดไม่มิดเพราะอารมณ์ดีจนเผลอยิ้มออกมาตลอดเวลา“อะไรทำให้อารมณ์ดีจนยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่ได้ขนาดนี้คะ” นมบัวแสร้งถาม ทั้งที่ก็รู้อยู่แล้วเพราะก่อนที่เขาจะลงมา มีคนที่มีอาการเขินจัดเดินหน้าแดงรีบเดินลงมาก่อนแล้ว“ได้กลับมานอนพักที่บ้านแล้วรู้สึกสดชื่นขึ้นครับ” เขาตอบท่าทางสบายอารมณ์“หรือคะ ถ้าอย่างนั้นก็ดีค่ะจะได้หายป่วยเร็ว ๆ” นมบัวยิ้มหวานให้อย่างรู้ทันให้“อ่าว ธีร์ลงมาแล้วหรือมาทานข้าวกัน” ประภาสที่นั่งรออยู่ก่อน เอ่ยเรียกคนมาที่พึ่งมา“ครับคุณอา แล้วนี่ดินละครับไม่มาทานด้วยกันหรือ”“วันนี้ดินกลับบ้าน ไปดูความเรียบร้อย อาคิดว่าถึงเวลาที่อาจะต้องกลับบ้านแล้วล่ะ”“ที่จริงอยู่ต่อที่นี่เลยก็ได้นะครับคุณอา ผมยินดี”“เฮ้อ! อาก็อยากอยู่ด้วยนะ แต่บ้านหลังใหญ่เกินไปมันเหงา อีกอย่างอาก็คิดถึงบ้านด้วย อยู่ที่ไหนก็ไม่เหมือนบ้านตัวเอง ยังไงอาก็ต้องขอบใจธ
หลายวันต่อมาธีรวัฒน์ได้ออกจากโรงพยาบาลกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน อาการของเขาดีขึ้นมากจนเรียกได้ว่าเกือบหายสนิทถ้าไม่ยืดแขนมากอาการก็จะเป็นปกติ และเขาเองยังอยากอ้อนพยาบาลส่วนตัวเลยต้องแกล้งเจ็บอยู่“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะคุณท่าน” นมบัวผู้ดูแลบ้านระหว่างที่เขาไม่อยู่เป็นผู้กล่าวต้อนรับเช่นเคย“ขอบคุณครับนม”“เข้าบ้านกันก่อนเถอะค่ะ ไปคุยกันด้านในดีกว่า”“ทานอะไรมารึยังคะ”“ทานมาจากโรงพยาบาลแล้วครับ ขอขึ้นไปพักข้างบนก่อนแล้วจะลงมาทานมื้อค่ำทีเดียว” เจ้านายพูดเช่นนั้นลูกน้องคนสนิทจึงรีบตรงเข้ามา หมายจะช่วยพยุงขึ้นไปส่งยังห้องนอนแต่กลับถูกสายตาคมไล่ให้พวกเขาออกไปวรวิทย์เห็นดังนั้นจึงแสร้งทำเป็นมีธุระเพื่อที่จะปล่อยให้เจ้านายหนุ่มได้อยู่กับหญิงสาวตามลำพัง“คุณดาวครับผมมีงานด่วนต้องไปจัดการแทนเจ้านาย ผมฝากเจ้านายไว้กับคุณดาวก่อนได้มั้ยครับ” วรวิทย์ทำหน้าขอร้องเธอ ทำราวกับว่ามีธุระสำคัญ“ได้ค่ะพี่วิทย์ไปเถอะ ทางนี้ดาวดูแลให้เอง”