Share

อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง ตอนที่ 10

Penulis: Priyada
last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-09 16:51:27

หน้าที่ขององค์หญิงแห่งแคว้นยังคงวนเวียนอยู่ในโรงครัวเป็นส่วนใหญ่ และนางต้องหมกตัวอยู่ในนั้นตลอดทั้งวัน วิ่งวุ่นหัวหมุนไปกับการหั่นล้างอะไรสักอย่างตลอดเวลา ซึ่งนางก็ล้วนแล้วแต่ทำไม่เป็น หากรองแม่ทัพจางไม่ช่วยเหลือ แกล้งเรียกนางเข้าพบเพราะนางอ่านออกเขียนได้ นางก็คงจะไม่ได้มีเวลาพักผ่อนเลยแม้แต่น้อย ทุกคนต่างก็ทำงานหนักอาบเหงื่อต่างน้ำด้วยกันทั้งสิ้น ราวกับว่าค่ายแห่งนี้ไม่เคยหลับใหล แม้แต่ยามกลางคืน นางก็ยังสามารถได้ยินเสียงพูดคุย เสียงความเคลื่อนไหวด้านนอก และเห็นแสงไฟวับแวมที่จุดอยู่โดยรอบ

นอกจากช่วงเวลาที่จะต้องยกข้าวยกน้ำให้กับมู่หรงเซียวหนานแล้ว หยางจูไม่มีทางได้เจอเขาอีก ไม่ใช่แค่เพราะเขาไม่ว่าง แต่เพราะนางหมกตัวอยู่แต่ในครัว ราวกับไข่มุกที่ไม่ถูกค้นพบ หยกที่ยังไม่ได้เจียระไน แล้วมันจะไปมีความหมายอันใดที่นางดั้นด้นลำบากมาถึงนี่ และถึงแม้นางจะได้เวลาชั่วพักชั่วครู่ ระหว่างที่เขารับประทานอาหาร แต่ในช่วงเวลานั้น ก็มักจะมีผู้คนมากมายมารอเข้าพบท่านแม่ทัพเป็นการส่วนตัวอยู่เสมอ เท่ากับว่านางแทบจะไม่มีเวลาอยู่กับเขาเพียงสองคนเลย

“เฮ้ออออออ……”

คิดแล้วก็ได้แต่ทอดถอนใจ นางพับแขนเสื้อขึ้นเพื่อจะได้ล้างจานอย่างถนัดถนี่ แต่เมื่อสายตาของผู้คนที่อยู่รายรอบเพ่งมองมา หยางจูจึงรีบดึงแขนเสื้อลง เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่เห็นผิวพรรณของนาง

“ได้เวลาแล้ว” ลี่ถังเดินเข้ามาหา วันนี้หน้าที่ที่ได้รับมอบหมายไม่หนักหนานัก เขาเลยไม่ได้ดูมอมแมมเท่าไหร่ ส่วนนางแม้จะได้ตำแหน่งดี แต่ก็เหมือนถูกกลั่นแกล้ง ยังต้องมาขัดหม้อขัดกระทะเป็นประจำ

“เฮ้อ ได้ไปสักที” หยางจูยิ้มร่า ท่าทางร่าเริงขึ้น

“ครั้งนี้เจ้าอย่าเข้าไปนานนักล่ะ ใครต่อใครก็พากันบ่นว่าเจ้าชอบไปอู้อยู่ในกระโจมท่านแม่ทัพ” ลี่ถังเตือน

“อู้อะไรกัน หากเขาไม่สั่งให้ข้าออกมา ข้าจะเสียมารยาทเดินออกมาเฉย ๆ ได้หรือ” หยางจูทำโวยวาย

ความจริงก็คือเมื่อวางอาหารเสร็จ หากเขาไม่เรียกพูดคุยหรือซักถามสิ่งใด นางก็ขอตัวออกมาได้เลย แต่ในเมื่อดั้นด้นมาเพื่อให้ได้อยู่ใกล้เขาขนาดนี้แล้ว จะหันหลังหนีจากโอกาสได้อย่างไร นางจึงมักจะหาเรื่องมาคุยกับเขาอยู่เสมอ

“ข้าเข้าใจ แต่คนอื่นไม่เข้าใจด้วยน่ะสิ เอาน่า หากเป็นไปได้ก็เดินออกมาเร็ว ๆ แล้วกัน”

หยางจูพยักหน้ารับ แล้วหยิบเอาสำรับอาหารมาถือไว้ในมือทั้งสองข้าง ช่วงนี้อาหารในค่ายไม่พ้นผัดผักกับไก่เลยจริง ๆ แม้อาหารของท่านแม่ทัพจะหน้าตาดีกว่าที่พวกนางกินอยู่นิดหน่อยเพราะภาชนะที่ใส่ แต่นางก็ไม่นึกอิจฉาเขาสักนิด นางอิจฉาลู่อิง นางกำนัลของตนมากกว่า ป่านนี้คงจะนึ่งไก่ ทอดปลา หรือตากเนื้อแห้งอันเอร็ดอร่อยอยู่แน่ ๆ

นี่ขนาดนางเตรียมใจมาก่อนแล้วว่าคงไม่ได้กินดีเหมือนเมื่อครั้งยังอยู่ในวังหลวง แต่พอเอาเข้าจริง ผ่านไปคืนเดียว นางก็คิดถึงอาหารอันโอชากว่าร้อยจานเสียแล้ว

ถ้าหากนางไม่สามารถพิชิตใจของมู่หรงเซียวหนานได้แล้วละก็ สิ่งที่อดทนมาก็จะสูญเปล่า นางจะยอมให้เป็นแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด

“ข้าจะรออยู่ตรงนี้” ลี่ถังเอ่ยดังเช่นทุกครั้งที่ทั้งสองคนเดินมาถึงหน้ากระโจม

“ข้าจะรีบออกมา” หยางจูยืนรอทหารยามเข้าไปแจ้งมู่หรงเซียวหนาน เมื่อประตูเปิดออกอีกครั้ง นางก็เดินเข้าไปด้านในด้วยความระมัดระวัง

“อาหารขอรับ ท่านแม่ทัพ”

“เอาวางไว้บนโต๊ะ” เขาตอบเพียงแค่นั้น ตายังคงจ้องเขม็งไปที่จดหมายที่อยู่ในมือ

หยางจูกวาดตามองด้วยความรวดเร็ว เห็นซองจดหมายปิดผนึกด้วยครั่งถูกแกะวางเอาไว้บนโต๊ะทำงาน นางก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ เพราะนั่นเป็นตราลัญจรของคนในราชวงศ์

หรือเสด็จพ่อจะรู้เสียแล้วว่านางอยู่ที่นี่ ไม่อย่างนั้นก็อาจจะเป็นจดหมายจากเสด็จอาที่ส่งมาเตือน คิดแล้วก็ว้าวุ่นใจยิ่งนัก เพราะนางยังไม่อยากกลับไปมือเปล่า

“หยางหยาง ข้าบอกให้วางอาหารไว้บนโต๊ะ มัวแต่เหม่ออะไรอยู่”

ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกจนถาดอาหารแทบจะเลื่อนหลุดจากมือ นางรีบเอาของวางไว้ตามที่เขาสั่ง หัวใจยังเต้นถี่รัวเพราะเสียงดุ ๆ

“ไม่สบายหรือ” มู่หรงเซียวหนานมองท่าทางว้าวุ่นใจของอีกฝ่าย ก็คิดว่ามาจากความป่วยไข้ ทั้งที่เขาเองนั่นแหละเป็นสาเหตุ

“เปล่าขอรับ ข้าสบายดี แล้วท่านแม่ทัพล่ะขอรับ สบายดีหรือไม่” นางทำใจกล้าชวนคุย

“ก็พยายามจะสบายดีอยู่หรอก” เขาตอบทั้งรอยยิ้ม แต่เป็นยิ้มที่เคร่งขรึมเหลือเกิน ก็คงจะเป็นเพราะภาระหน้าที่เช่นเดิม จดหมายยังอยู่ในมือหนา ดูจากท่าทางแล้ว อย่างไรก็เรื่องสำคัญแน่ แต่นางมองเห็นชัดไม่พอที่จะแอบอ่านเนื้อความข้างใน

“ท่านคงจะงานยุ่งทุกวัน”

“ใช่”

มู่หรงเซียวหนานนั่งลงที่โต๊ะกินข้าว หยิบตะเกียบมาไว้ในมือ โดยวางจดหมายไว้ใกล้ตัว ยิ่งทำให้หยางจูอยากรู้ว่าเนื้อความในนั้นคืออะไร

นางพยายามคิดว่าหากจะบุกเข้ามาขโมยของในนี้ จะต้องทำอย่างไรถึงจะไม่ถูกจับได้ แต่เมื่อคิดอีกรอบ นอกจากทหารยามแล้ว ก็ตัวบุรุษหนุ่มตรงหน้านางนี่แหละ ที่สามารถฟันคอนางขาดโดยแทบไม่ต้องเสียแรงยกดาบ นางไม่ควรเสี่ยงเพียงเพราะความสงสัยใคร่รู้ของตนเอง และหากมีเรื่องอะไรร้ายแรงหรือเร่งด่วนจากวังหลวงถึงนาง เสด็จพี่และเสด็จอาก็จะต้องหาทางบอกนางให้รู้ตัวก่อนแน่

“เจ้าออกไปได้” เขาพูดขึ้นเมื่อเริ่มลงมือกับอาหารตรงหน้า

“ขอรับ” หยางจูรับคำด้วยความเสียดาย แต่ก็จำต้องทำตามคำสั่ง

เมื่อออกมาด้านนอก ลี่ถังก็สังเกตเห็นสีหน้าห่อเหี่ยวของนาง จึงได้ถามเพราะความเป็นห่วง

“ท่านแม่ทัพดุอะไรเจ้าหรือเปล่า หรือเขาไม่พอใจในรสชาติอาหาร เจ้าถึงได้ทำหน้าตาเช่นนี้”

“ไม่ใช่หรอก” นางตอบเสียงอ่อย แต่ก็พยายามปรับสีหน้าให้ดีขึ้น

ทั้งสองเดินเคียงข้างกันไป ผ่านทหารลาดตระเวนที่เดินตรวจตราอยู่โดยรอบ เสียงฝึกฝนการต่อสู้ดังมาจากอีกฟากหนึ่ง เมื่อมองจากตรงนี้ไปจนสุดสายตา นางก็ยังไม่สามารถจะมองให้ทั่วได้ทั้งค่าย การต้องรับผิดชอบผู้คนเป็นจำนวนมากเช่นนี้ ต้องเป็นงานหนักของมู่หรงเซียวหนานมากทีเดียว

ระหว่างเลี้ยวผ่านโรงซักผ้า นางก็เห็นจางซื่อหมิงยืนหลบอยู่ตรงมุม สายตามองตรงมาที่นางโดยตรง เขาคงมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย ถึงได้มาดักรออยู่ตรงนั้น

“ลี่ถัง ข้าเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าหัวหน้าให้ข้าสอบถามท่านแม่ทัพเรื่องอาหารเย็น เผื่อเขาต้องการกินอะไรเป็นพิเศษ เจ้าเดินกลับไปก่อนนะ” นางหาทางปลีกตัว

“ได้ แต่อย่าเถลไถลล่ะ เดี๋ยวจะโดนด่าและถูกทำโทษเอาอีก” ลี่ถังกำชับด้วยความเป็นห่วง

“ไม่ต้องห่วง ข้าจะรีบกลับ” นางรอจนกระทั่งชายหนุ่มเดินลับสายตาไป จึงหันมองซ้ายขวา ตอนนี้โรงซักผ้าเงียบเหงาเพราะยังไม่ถึงเวลาทำความสะอาดเสื้อผ้า นางจึงเดินไปหารองแม่ทัพโดยไม่ต้องระวังมากนัก

“ท่านรองแม่ทัพมารอข้าหรือ”

“แม่นางลู่อิงมารอพบเจ้าที่ประตูหลัง ตรงกำแพงด้านทิศใต้” พูดจบเขาก็หายไป ราวกับไม่เคยยืนอยู่ตรงนั้นมาก่อน

หยางจูกะพริบตากับความว่องไวของเขา ก่อนจะรีบเดินลัดเลาะกำแพงไปตามทิศทางที่เขาบอก กว่าจะไปถึงก็เล่นเอาเหนื่อยหอบ พอผลักประตูหนาหนักออกไปได้ ก็เห็นลู่อิงยืนกระสับกระส่ายรออยู่ นางแต่งตัวในชุดหญิงสาวชาวบ้านธรรมดาและกลมกลืนไปกับผู้คนข้างนอกพอสมควร ข้างกายมีเซี่ยหานปิงยืนอยู่ เขาแต่งกายด้วยชุดชาวบ้านเก่า ๆ เช่นกัน แต่อาจจะดูโดดเด่นกว่าชาวบ้านทั่วไปสักเล็กน้อยด้วยขนาดรูปร่างที่สูงใหญ่และใบหน้าหล่อเหลาของเขา

“องค์หญิง” ลู่อิงร้องเรียกอย่างยินดีเมื่อเห็นนายของตน

“จะต้องให้บอกอีกกี่รอบว่าห้ามเรียกข้าว่าองค์หญิง” หยางจูบ่น แต่ก็ยอมให้นางกำนัลคนโปรดวิ่งเข้ามาจับหลังจับไหล่และหมุนตัวนางเพื่อสำรวจตรวจสอบว่าองค์หญิงที่รักของตนยังไม่บุบสลายตรงไหน

“คุณหนูของข้า” พอโดนบ่นก็แก้คำพูดใหม่

“นั่นก็ไม่ได้ ผู้ชายที่ไหนจะมีคนมาเรียกว่าคุณหนู”

“อุ๊ย ก็ข้าลืม” ลู่อิงยกมือปิดปาก

“แล้วเจ้ามานี่มีอันใดรึ หรือว่ามีข่าวมาจากพี่ชาย”

“ไม่ได้มีอะไรร้ายแรงหรอกเจ้าค่ะ ข้าแค่จะมาดูให้เห็นกับตาว่าท่านยังอยู่ดี” นางตอบแล้วล้วงเอาห่อผ้าที่ผูกไว้อย่างดีออกมายื่นให้

“นี่อะไร”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ บทส่งท้าย 2

    ลู่อิงหน้าแดงเรื่อเมื่อถูกถามอย่างตรงไปตรงมา เซี่ยหานปิงไม่เพียงอนุญาตแต่ยังค่อย ๆ ดึงลู่อิงให้เอนตัวขึ้นมา ก่อนจะลูบผมสลวยเพื่อให้คลายกังวล ไม่อยากให้คิดว่าเป็นการกระทำที่ยากหรือน่ากลัว“ข้า...ข้ามิเคยทำมาก่อน”“ข้ารู้ เจ้าแค่อ้าปากแล้วกินมันเข้าไปเท่านั้น” เขาส่งยิ้มบางเบาแล้วค่อย ๆ ประคองใบหน้างดงามให้เคลื่อนเข้ามาใกล้ ๆพอริมฝีปากแทบจะจ่ออยู่ปลายหัวของแก่นกายลู่อิงจึงค่อยยื่นลิ้นออกมา นางใช้ปลายลิ้นแตะลงบนปลายหัวสีแดงระเรื่อ แต่พอสัมผัสก็ได้ยินเสียงเซี่ยหานปิงครางต่ำออกมา นางจึงช้อนสายตาขึ้นไปมองก็“อืม...ดี ดียิ่งนัก” เซี่ยหานปิงก้มมองคนเบื้องล่างที่เรียนรู้ว่องไว เขารู้อยู่แล้วนางจะทำได้เพราะเรื่องแบบนี้มันอยู่ในสัญชาตญาณ แม้ว่าแรก ๆ ลู่อิงจะเคลื่อนไหวติด ๆ ขัด ๆ ไปบ้าง แต่ไม่ได้ทำให้อารมณ์หยุดชะงักลู่อิงตาลอยเล็กน้อย รู้สึกถึงความยาวดุนดันอยู่ในลำคอของนาง น้ำตาหยดเล็ก ๆ เปียกชื้น ทว่านางก็กลืนกินมันจนเกิดเสียงหยาบโลน เซี่ยหานปิงลูบผมนาง ก่อนจะสาวเอวสอบเข้าออกช้า ๆ และจากจังหวะเนิบช้าก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเร็ว

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ บทส่งท้าย 1

    ลู่อิงนั่งอยู่ในเกี้ยวหามที่โคลงเคลงไปมาตลอดทาง นางพยายามสงบจิตใจของตัวเอง แต่ก็ไม่อาจห้ามหัวใจที่เต้นแรงด้วยความตื่นเต้นได้ เสียงตีฆ้องร้องป่าวจากด้านนอกบ่งบอกว่าขบวนแห่นำเจ้าสาวกำลังเดินทางมาถึงจวนของเซี่ยหานปิง ผู้ที่วันนี้ไม่ใช่เพียงแค่ราชองครักษ์ แต่เป็นเจ้าบ่าวของนางจวนหลังนี้ไม่ใช่จวนธรรมดา เพราะเป็นจวนที่ได้รับพระราชทานจากองค์หญิงหยางจู และองค์ชายชาง ว่าที่องค์รัชทายาท ผู้เป็นพระเชษฐาขององค์หญิงหยางจู และเป็นผู้ให้การช่วยเหลืออย่างลับ ๆ ตอนที่องค์หญิงหยางจูปลอมตัวไปอยู่ในค่ายทหาร เพื่อเป็นของขวัญสำหรับการที่เซี่ยหานปิงรับใช้และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์มาโดยตลอด จวนนี้แม้อยู่ในเมืองหลวง แต่ค่อนไปทางชานเมือง เนื่องจากเซี่ยหานปิงและลู่อิงชอบความเรียบง่าย มิอยากเผชิญความวุ่นวายในตัวเมือง แต่แม้จะห่างไกลออกมา จวนแห่งนี้ก็ยังโดดเด่น สง่างาม สมกับตำแหน่งขุนนางขั้นสี่ของเขาเมื่อขบวนเจ้าสาวไปถึงหน้าจวน เกี้ยวได้ถูกวางลงบนพื้นช้า ๆ ลู่อิงไม่คุ้นเคยกับพิธีการเหล่านี้มากนัก เพราะเป็นเพียงนางกำนัลที่เติบโตอยู่ในวังหลวงมาตลอด ไม่มีครอบครัวที่ไหนจะส่งตัวนางออกมาเช่นนี

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ ตอนที่ 36

    เมื่อเซี่ยหานปิงกลับถึงเมืองหลวง เขาถูกภารกิจมากมายถาโถมเข้ามาจนแทบไม่มีเวลาหยุดพัก แต่ละวันเต็มไปด้วยเรื่องที่ต้องจัดการอย่างไม่หยุดยั้ง จนเวลาผ่านไปหลายวันโดยที่เขาไม่ได้พบกับลู่อิงเลยสักครั้งแม้ตนจะเป็นองครักษ์ประจำตัวขององค์หญิงหยางจูก็ตามในหัวใจเขานั้นเต็มไปด้วยความคิดถึง ไม่เพียงแต่งานที่ทำให้เหนื่อยล้า แต่ความรู้สึกโหยหาสตรีนางหนึ่งที่เขาใส่ใจมากขึ้นทุกวันก็ทำให้จิตใจของเขายิ่งเหน็ดเหนื่อยยิ่งขึ้นไปอีก แต่ก็พยายามข่มใจ ไม่อยากเร่งรีบอะไรจนเกินไป เพราะเขาต้องการจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนจะไปหานางฝ่ายลู่อิงเองก็เฝ้ารอคอยการกลับมาของเซี่ยหานปิงด้วยใจจดจ่อ แต่หลายวันผ่านไปแล้วนางก็ยังไม่เห็นหน้าเขา จิตใจที่เคยสงบสุขจึงเริ่มร้อนรุ่มขึ้นมา นางไม่อาจห้ามความคิดถึงเขาได้ ทุกคืนที่หลับตานอน ก็ได้แต่ครุ่นคิดถึงว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ จนหัวใจเต็มไปด้วยความกังวลและโหยหาสุดท้าย ความคิดถึงของทั้งสองก็ถึงจุดที่ไม่อาจต้านทานได้ เซี่ยหานปิงอดทนไม่ไหวอีกต่อไป จนในคืนนั้นเขาตัดสินใจว่าอย่างไรจะต้องเจอหน้านางให้จงได้ลู่อิงที่นอนหลับตาอยู่บนเตียงกลับสะดุ้งตื่นขึ้

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ ตอนที่ 35

    เมื่อเซี่ยหานปิงกลับถึงบ้าน พอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นลู่อิงนั่งกระวนกระวายใจอยู่ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความกังวล“ท่านหายไปไหนมาเสียตั้งนาน” ลู่อิงรีบถลาเข้ามาหาเขา ดึงตัวเขาเข้าไปในบ้านพร้อมกับปิดประตูแน่นหนา นางดูร้อนรนเกินปกติ หัวใจของนางเต้นระส่ำ ไม่คิดว่าเขาจะหายไปโดยไม่บอกกล่าวเช่นนี้“เกิดอะไรขึ้นหรือ” เซี่ยหานปิงถามด้วยเสียงนุ่ม พยายามไม่ให้ดูผิดปกติเกินไป แต่ก็เห็นชัดว่าลู่อิงไม่ได้สงบอย่างที่ควรจะเป็น“องค์หญิงทรงเป็นอย่างไรบ้าง ท่านเห็นนางกับตาหรือไม่ หรือเพียงไต่ถามสายข่าวของท่านเท่านั้น” ลู่อิงถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ นางไม่อาจปิดบังความวิตกกังวลในใจได้ การที่เขาหายตัวไปเช่นนี้ทำให้นางคิดว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับองค์หญิงหยางจูโดยตรง“องค์หญิงถูกจับไป”เซี่ยหานปิงตอบด้วยเสียงสงบนิ่ง ใบหน้าไร้ความตระหนก และเตรียมพร้อมยอมรับปฏิกิริยาตอบสนองทุกรูปแบบของลู่อิงสิ้นคำพูดนั้น ลู่อิงราวกับถูกทุบเข้าที่ศีรษะ นางนิ่งไปชั่วขณะ พยายามเรียบเรียงคำพูด แต่สิ่งที่ได้มีเพียงความหวาดกลัวจับใจเสียจนพูดไม่ออก เซี่ยหานปิงจึงพูดต่อ“พวกกบฏกับห

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ ตอนที่ 34

    เซี่ยหานปิงนอนกอดลู่อิงไว้ภายใต้แสงจันทร์ ทว่าเขากลับต้องตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเบา ๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ แม้ผู้มาเยือนจะระมัดระวังเพียงใด แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นสัญชาตญาณฉับไวขององครักษ์ผู้ชำนาญได้ เขาลุกขึ้นจากเตียงอย่างเงียบเชียบที่สุดเพราะเกรงว่าคนข้างกายจะรู้สึกตัวตื่น หยิบดาบของตนติดมือไปด้วย แล้วเปิดประตูออกไปเผชิญหน้ากับผู้มาเยือนชายในชุดดำคลุมหน้าปรากฏตัวอยู่ในลานบ้าน พอเห็นเซี่ยหานปิงเดินออกมาพร้อมดาบ ชายผู้นั้นรีบคุกเข่าลงในทันทีเพื่อแสดงความเคารพ“หัวหน้าเซี่ย!” ชายคนนั้นเอ่ยด้วยเสียงเบาแต่ชัดเจนเซี่ยหานปิงจำเสียงนี้ได้ทันทีว่าเป็นไป๋ซื่อเซิง ลูกน้องคนสนิทที่เขาส่งไปสังเกตการณ์ใกล้ค่ายทหาร“ไป๋ซื่อเซิง...เจ้าทำอะไรดึกดื่นเช่นนี้”“ขออภัยขอรับ ข้ามีองค์หญิงหยางจูมารายงาน พระองค์ถูกกบฏจับตัวไปขอรับ!”เซี่ยหานปิงนิ่งเงียบครู่หนึ่ง ใบหน้าของเขาตึงเครียดขึ้นในทันที เขาพยักหน้าให้ไป๋ซื่อเซิงลุกขึ้น ก่อนจะผายมือเชิญให้อีกฝ่ายเข้าไปด้านใน “ไปคุยกันข้างในเถอะ” เมื่อทั้งสองนั่งที่โต๊ะน้ำชาภา

  • อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์   รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ ตอนที่ 33

    ยามเช้า พิษในตัวนางถูกถอนออกไปหมดดังคาด หมอจางเข้ามาดูอาการ เขียนเทียบยาบำรุงร่างกายอีกเล็กน้อยแล้วก็ขอตัวลากลับออกไปหลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ เซี่ยหานปิงก็ประคองนางเดินมายังลานหน้าบ้าน ตอนนี้ย่างเข้าฤดูร้อน ใบหลิวปลิวไสวงดงาม อำลาฤดูใบไม้ผลิ“มาเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปที่หนึ่ง” เซี่ยหานปิงยื่นมือไปให้นาง ก่อนทั้งสองจะเดินไปยังเนินเขา ที่ตรงนั้นเป็นทุ่งดอกไม้ รอบด้านจึงเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีลู่อิงรู้สึกผ่อนคลาย นางเดินจูงมือใหญ่ของเซี่ยหานปิงไปเรื่อย ๆ ยามนี้ดวงตะวันสาดแสงอ่อน ๆ ลงมาจากฟากฟ้า แม้จะย่างเข้าฤดูร้อน แต่อากาศยังไม่ร้อนนัก ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าใสปนขาว เมฆลอยละล่องราวกับสำลีเบาบาง ยิ่งเมื่อได้ยินเสียงลำธารไหลเอื่อย ๆ อยู่ใกล้ ๆ ยิ่งทำให้นางรู้สึกสงบและสบายใจเป็นที่สุดความเงียบสงบรายล้อมอยู่โดยรอบ ทั้งสองก้าวเดินช้า ๆ ในทุ่งดอกไม้ ลู่อิงรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากมือของเซี่ยหานปิงที่ประสานกันอย่างแนบแน่น ใบหน้าของนางระบายด้วยรอยยิ้มบางเบา มองไปยังดอกไม้ที่เบ่งบานและสายลมที่พัดเอื่อย กลิ่นหอมของดอกไม้ป่าผสมกลิ่นต้นไม้ใบหญ้า ทำให้หัวใจนางเบาสบายแ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status