๓
ความช่วยเหลือ
ช่วงสายวันอาทิตย์ วีย์ เพื่อนสมัยเรียนของนภาพราวมารับออกไปข้างนอกด้วยกัน ทั้งคู่นัดเจอกับเพื่อนๆ คนอื่นๆ ที่คาเฟแห่งหนึ่ง พอไปถึงคนเหล่านั้นก็รีบชูไม้ชูมือเรียกทันที
“ทางนี้ วีย์ น้ำอุ่น” หนึ่งในเพื่อนหลายคนส่งเสียงเรียกด้วยความดีใจ ทั้งสองยิ้มกว้างและเดินไปหาอย่างรวดเร็ว
“ไง พวกแกสบายดีใช่ไหม” หญิงสาวเอ่ยถามทันทีที่นั่งลงข้างๆ เพื่อนเก่า”
“สบายดีตามอัตภาพว่ะ ว่าแต่แกเถอะ ได้ข่าวว่ากลับมาบ้านได้สักพัก ตอนนี้ทำอะไรอยู่ ยังสอนหนังสือเหมือนเดิมหรือเปล่า”
“ยังสอนอยู่ ได้งานที่สวนส้มดวงใจดล ไปเป็นครูพี่เลี้ยงให้ลูกสาวเจ้าของสวน”
“อ๋อ ฉันผ่านสวนนั้นบ่อย เคยกินด้วย ช่วงส้มเยอะๆ ล้นตลาด เจ้าของสวนเอาออกมาวางขายหน้าสวน”
“ดีใจนะที่แกกลับมาอยู่บ้านเรา จะได้นัดเจอกันบ่อยขึ้น” เพื่อนอีกคนในกลุ่มเปรย จากนั้นทั้งหมดก็กินไปคุยไป ให้สมกับที่ไม่ได้เจอกันมานานพอควร เมื่อถึงเวลากลับวีย์จึงขับไปส่งนภาพราว แต่ระหว่างขากลับฝ่ายนั้นก็ได้รับสายจากแม่
“นี่แก ฉันขอแวะซื้อของให้พระมารดาแวบนะ แกจะรออยู่ที่รถหรือไปกับฉัน”
นภาพราวที่กำลังสไลด์เฟซบุ๊กเงยหน้ามอง
“ซื้อเยอะไหม”
“หลายรายการอยู่” หนุ่มหล่อแต่ใจสาวตอบ
“งั้นไปด้วยดีกว่า”
ว่าแล้วคนทั้งสองจึงเดินตรงเข้าห้างสรรพสินค้า นภาพราวจึงถือโอกาสซื้อของเข้าบ้านด้วยเสียเลย
“นี่ขอถามอะไรหน่อย” วีย์เอ่ยขึ้นขณะกำลังเลือกซื้อครีมอาบน้ำ
“อะไร” นภาพราวกำลังอ่านฉลากเอ่ยถามโดยไม่หันไปมอง คนเป็นเพื่อนตวัดตามองคนข้างกายแล้วพูด
“เรื่องพี่วิทย์น่ะ ทำไมถึงเลิกกัน”
คำถามของวีย์ทำให้นภาพราวผ่อนลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะหันไปสบตาอีกฝ่ายที่ทำตาปริบๆ อยากรู้เต็มที เพื่อนคนอื่นก็คงอยากรู้เหมือนกัน ติดที่ไม่อยากมีใครทำให้เสียบรรยากาศ
วิทย์คือเพื่อนรุ่นพี่ของหญิงสาวตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย คบกันตั้งแต่หล่อนเข้าศึกษาปีแรก จนกระทั่งปีที่แล้วทั้งคู่ก็เลิกรากันไปอย่างเงียบๆ โดยไม่มีใครรู้เหตุผลที่แท้จริงว่าเป็นเพราะอะไร
“เขามีคนใหม่ ทำงานที่เดียวกัน แต่ก็ยังดี ที่มาบอกตรงๆ ไม่คบซ้อน”
คำตอบของเพื่อนรักทำให้วีย์ถึงกับรู้สึกขุ่นใจไม่น้อย เพราะตนก็รู้จักกับอีกฝ่ายเช่นกัน
“ผู้ชายใจโลเล!” วีย์บิดปากด้วยความหมั่นไส้ พลันรู้สึกเกลียดขี้หน้าขึ้นมาทันที “แกไม่ต้องไปสนใจนะ เลิกคิดถึงมันไปเลย เดี๋ยวฉันจะหาผู้หล่อๆ นิสัยดีๆ ไม่โลเลให้เลือกเอง คราวนี้ฉันจะช่วยแกสกรีนดีๆ เลย”
นภาพราวยิ้มขัน พลางสบตาเพื่อนที่มองมาอย่างเห็นใจและดูกระตือรือร้นที่จะหาผู้ใหม่มาให้หล่อน
“ขอบใจมากนะวีย์ แต่ตอนนี้ฉันขอพักเรื่องรักเอาไว้ก่อนละกัน ขอทำงานเงียบๆ อยู่กับเด็กดีกว่า ไม่อยากคิดเรื่องผู้ชายในเวลานี้”
“ก็ได้ ฉันดีใจนะที่แกไม่จมกับคนแบบนั้น”
นภาพราวหลุบตาลง หล่อนยอมรับว่าตอนแรกที่รู้ก็เสียศูนย์ไปเหมือนกัน เสียใจร้องไห้อยู่เป็นอาทิตย์ พอทำใจได้ ก็ทำแต่งาน ทุ่มเทให้กับเด็กๆ ไม่คิดถึงผู้ชายหน้าไหนอีก มารดาหล่อนก็รู้เรื่องนี้ เพราะท่านรับรู้มานานแล้วว่าลูกสาวคนเล็กคบหาอยู่กับใคร
“ไม่หรอก ชีวิตมีค่ามากกว่าจะไปจมอยู่กับคนที่ไม่ได้รักหรือเห็นค่าเรา”
วีย์พยักหน้าเห็นด้วย แต่ในใจนึกสาปแช่งวิทย์ที่ทิ้งคนที่แสนจะน่ารักอย่างนภาพราวไปด้วย
พอซื้อของเสร็จ ทั้งสองก็แวะตลาดสดเพื่อซื้อกับข้าวกลับบ้าน นภาพราวไม่คิดว่าหล่อนจะได้พบกับธราดลที่นี่ หญิงสาวเห็นเขาอยู่ไกลๆ คิดว่าจะเข้าไปทักอยู่หรอก แต่เห็นเสียก่อนว่าเขามากับใครบางคน ผู้หญิงคนนั้นรูปร่างหน้าตาสวยดี ท่าทางจะสนิทสนมกับเขาพอสมควร เมื่ออีกฝ่ายเดินเข้ามาใกล้ หญิงสาวคิดว่าหากชายหนุ่มหันมาเจอหล่อนก็จะทักทายเขา แต่วีย์ซื้อของเสร็จเสียก่อน ทั้งสองจึงเดินกลับ แต่ทันทีที่ทั้งคู่หันหลังให้ ดวงตาสีเข้มของชายหนุ่มก็มองไปยังแผ่นหลังบอบบางของนภาพราว เขาเห็นหล่อนตั้งแต่แรกเช่นกัน หญิงสาวมากับชายหนุ่มหน้าตาดี ผิวขาวรูปร่างอ้อนแอ้น จากท่าทางดูก็รู้ว่าไม่ใช่ชายแท้ คงเป็นเพื่อนกัน
ชายหนุ่มหันไปพยักหน้ากับผู้หญิงข้างกาย แล้วยิ้มตอบไปเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายถามว่าเขาอยากได้อะไรเพิ่มไหม
แสงตะวันคือช่างตัดผมทั้งชายและหญิงในตลาด เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในเวลานี้ที่เขาคบหาด้วยอย่างสบายใจ ไม่มีการผูกมัด ไม่มีใครเป็นเจ้าของใคร หล่อนเป็นแม่ม่าย ไร้พันธะ นิสัยดีเรียบร้อย น่ารัก มีชายหนุ่มมากมายมาติดพันหลังจากเลิกรากับสามีคนก่อน แต่หญิงสาวเลือกที่จะสานสัมพันธ์กับธราดลเพียงคนเดียว เพราะแอบชอบเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่ชายหนุ่มเหยียบย่างเข้ามาในร้านตัดผมของหล่อน เขามาเป็นลูกค้าประจำ พูดน้อยและสุภาพมาก รวมทั้งรูปหล่อบุคลิกดี ทำให้หญิงสาวจดจ่ออยู่กับเขาเพียงคนเดียว และด้วยสถานะที่ไม่ต่างกันคือพ่อม่ายกับแม่ม่าย ทำให้ทั้งสองคุ้นเคยกันอย่างรวดเร็ว เรียกว่ามองตากันก็รู้ไปถึงความคิด จึงเกิดเป็นความสัมพันธ์ในแบบที่ไม่ผูกมัดระหว่างคนทั้งคู่ และเขาจะน่ารักกว่านี้มากถ้าไม่ติดเย็นชาไปหน่อย
ชายหนุ่มขับรถพาแสงตะวันไปส่งที่ร้าน ซึ่งชั้นบนใช้เป็นที่อยู่อาศัย ส่วนชั้นล่างใช้เป็นร้านตัดผม มีลูกค้าประจำมากมาย เพราะนอกจากเจ้าของจะรูปร่างหน้าตาสะสวย มีอัธยาศัยดีแล้วยังมีฝีมือดีเยี่ยม ทั้งข้าราชการและบุคคลทั่วไปให้ความไว้วางใจ คิวแน่นแทบทุกวัน และจะแน่นมากเป็นพิเศษในวันเสาร์อาทิตย์
“คุณดลอยู่กินข้าวกับแสงก่อนนะคะ” หญิงสาวกอดแขนกำยำเมื่อทั้งคู่ปิดประตูร้านและเข้ามาข้างใน
“ครับ แต่วันนี้ผมอยู่นานไม่ได้นะ” ชายหนุ่มนั่งลงบนโซฟาที่ใช้รับแขก โดยมีร่างบอบบางนั่งเบียดลงมาด้วย
“เหรอคะ” หญิงสาวมีสีหน้าผิดหวังชัดเจน ขณะที่ชายหนุ่มไม่ได้แสดงอาการใดออกมา ซึ่งเป็นบุคลิกของเขาอยู่แล้ว การที่จะคาดหวังให้เขางอนง้อหรือเอาใจย่อมเป็นไปไม่ได้เลย และหล่อนก็ไม่ได้คาดหวังให้เขาทำแบบนั้นด้วย “งั้นแสงไปหยิบถ้วยชามก่อนนะคะ”
ธราดลมองตามร่างของแสงตะวันก่อนจะหันไปมองด้านนอก ผู้คนเดินผ่านหน้าร้านไปมา วูบหนึ่งเขาเห็นใครบางคนที่มีลักษณะท่าทางคล้ายกับเมียเก่า หัวใจกระตุกไปวูบหนึ่งก่อนจะกลับมาเป็นปกติเมื่อผู้หญิงคนนั้นหันกลับมาและกลายเป็นใครคนอื่นแทน
แม้จะบอกตนเองสักร้อยพันครั้งว่าให้เลิกคิดถึงผู้หญิงใจดำคนนั้น แต่ก็ยังมีช่วงเวลาที่เขาเผลอคิดถึงอีกจนได้
“จริงๆ อุ่นน่ะพอแล้วนะคะ แค่หนูเล็กกับนักรบอุ่นก็พอใจแล้ว ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง กำลังพอดีเลย”ตอบพลางลูบไล้อกของสามีไปด้วย แต่คนตัวโตรู้สึกว่ากำลังถูกปลุกเร้าอารมณ์ให้เตลิดจนต้องวางมือทาบทับมือเรียวของหญิงสาวให้อยู่นิ่ง จนอีกฝ่ายสบตาเขาเป็นคำถาม แต่เมื่อเห็นแววตาพร่ามัวที่เต็มไปด้วยความต้องการทางสายตาหัวใจดวงน้อยก็เต้นถี่รัวขึ้นมา“ผมอยากมีเพิ่มสักคนนะ แต่ถ้าอุ่นพอแค่นี้ ผมก็ตามใจอุ่น” เขาตอบด้วยความรู้สึกจากใจจริง เพราะทุกคำพูดและแววตาของนภาพราวทำให้เขาลืมไปว่าหนูเล็กไม่ใช่ลูกของอีกฝ่าย ซึ่งทำให้เขาอิ่มเอิบหัวใจอย่างบอกไม่ถูกหญิงสาวขยับตัวแล้วลูบแก้มของเขาแผ่วๆ ก่อนจะยื่นหน้าไปจูบริมฝีปากได้รูป ชายหนุ่มยกมือขึ้นกระชับต้นคอระหง แล้วกดน้ำหนักของริมฝีปากตนเองเข้าหา พลางสอดปลายลิ้นตวัดรัดปลายลิ้นอ่อนนุ่ม“อันที่จริงอุ่นไม่มีปัญหาเรื่องมีลูกเพิ่ม ไม่ว่าจะกี่คนอุ่นก็รักทั้งนั้น เพราะพวกเขาเป็นลูกๆ ของเรา แต่อุ่นห่วงความรู้สึกของหนูเล็กมากกว่า”ชายหนุ่มสบตาหญิงสาวด้วยความรู้สึกแปลกใจแต่ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกขอบคุณ เพราะไม่ว่าจะเรื่องอะไร นภาพราวจะคิดถึงผลกระทบที่จะส่งผลถึงลูกสาวของเขาเสมอชายห
หลังจากกรำงานมานาน ธราดลก็พาภรรยาและลูกๆ ไปเที่ยวทะเลในช่วงปิดเทอมใหญ่ ส่วนย่าและยายขอพักผ่อนอยู่บ้านเพราะไม่อยากเดินทางนานๆ ทริปท่องเที่ยวครั้งนี้จึงมีเพียงสี่คนพ่อแม่ลูกเท่านั้น “พ่อฮาฟ น้ำเยอะเลย” หนูน้อยนักรบทำปากจู๋ ดวงตาเป็นประกายสดใสขณะนั่งมองทิวน้ำอยู่บนคาร์ซีตเด็กด้านหลัง ส่วนพี่สาวนั่งคาร์ซีตข้างๆ กันก็พยักหน้าเห็นด้วย“พี่หนูเล็กเคยมาทะเลแล้วตั้งหลายครั้งนะน้องรบ ในนั้นมีเบบีชาร์กด้วยน้า”“หูว เบบี้ชักๆ ๆ ๆ” หนูน้อยนักรบครวญเบาๆ ถึงน้ำกับปลาฉลามพลางยกมือขึ้นประกบกันทำท่าฉลามประกอบเพลงไปด้วย แม้เขาจะเคยมาแล้วหลายครั้งแต่ก็จำไม่ได้เพราะตอนนั้นยังเล็กมากเกินไป ตอนนี้เริ่มรู้เรื่องมากแล้วจึงตื่นเต้นราวกับว่าเพิ่งมาเห็นครั้งแรกกระนั้นทั้งหมดมาถึงบ้านพักที่จองเอาไว้ในช่วงบ่าย หลังจากสำรวจบ้านเรียบร้อย นภาพราวก็พาเด็กๆ ลงไปเล่นน้ำ ธราดลคุยโทรศัพท์สักพักใหญ่จึงได้ตามลงไปทีหลัง พอลงไปถึงเขาก็เห็นลูกๆ กำลังวักน้ำใส่กันด้วยท่าทางสนุกมากเชียว“พ่อจ๋า มาเล่นน้ำกัน”ร่างสูงในชุดเสื้อสีสันแสบตากับกางเกงผ้าร่มขาสั้นพร้อมลงเล่นน้ำ เดินแกมวิ่งตรงไปหาลูกๆ ส่วนนภาพราวอยู่ในเสื้อยืดสีชมพูกับก
บทส่งท้ายเสียงของเด็กหญิงและเด็กชายกำลังถกเถียงอยู่กลางสวนส้ม ทำให้คนเป็นพ่อที่กำลังคุยอยู่กับหัวหน้าคนงานต้องก้าวออกมายืนกอดอกมอง ริมฝีปากข้างหนึ่งยกสูงอย่างขบขันยามยืนฟังเด็กสองคนพยายามงัดเอาเหตุผลของตนเองออกมาหักล้างกันและกัน“ไปดูไดโนเสาร์กันไหม” พี่สาวเอ่ยถาม“ไป” คนน้องรับคำ จากนั้นทั้งสองก็ปั่นจักรยานคนละคันซอกซอนไปตามโคนต้นไม้ เพื่อหาไดโนเสาร์ในจินตนาการของพวกเขา“รบเจอแล้ว” น้องชายร้องบอกพี่สาว ทำให้หนูเล็กที่กำลังส่ายตาหาหันขวับ พอเห็นน้องหยิบกิ่งไม้ขึ้นมาพี่สาวก็ส่ายหน้าหวือ“ไม่ช้าย อันนั้นไม่ใช่ อันนั้นกิ่งไม้”“ช่าย นี้ไดโนเฉา” น้องชายตอบเสียงแจ่ม หน้าตาแลขึงขัง บ่งบอกว่าไม่ชอบใจที่พี่สาวตอบ“ไม่ใช่นะ อันนั้นกิ่งไม้ ไดโนเสาร์ต้องเป็นแบบนี้” ว่าแล้วทำท่าประกอบ แต่น้องชายเริ่มเบะปากส่ายหน้า“ไม่ช้าย นี่ไดโนเฉา” หนูน้อยยังยืนยันเสียงแข็ง“น้องรบหยุดพูดเลยนะ”“ไม่หยุด” คนตัวเล็กเถียงกลับทันที“หยุดซี ห้ามพูดเลย ห้ามเถียงพี่นะน้องรบ”“น้องจะพูด น้องมีปาก” นักรบร้องขึ้นหน้าแดงจัด แล้วทำท่าว่าจะเถียงต่อจนพ่อต้องเข้ามาห้ามทัพ“เดี๋ยวๆ หยุดทั้งคู่เลย ทะเลาะกันเรื่องอะไรเนี่ย”คน
หญิงสาวยอมให้เขาติดตะขอสร้อยให้ ก่อนจะจูบลงบนอกอิ่มที่มีล็อกเกตบรรจุรูปลูกๆ ของทั้งคู่พาดอยู่บนนั้น“คุณใส่แล้วน่ารักมากรู้ไหม” ชายหนุ่มชมภรรยาของเขา พลางกดริมฝีปากลงบนซอกคอระหง ฉกปลายลิ้นหยอกเย้าปลุกเร้าอารมณ์จนนภาพราวหัวเราะคิกออกมา“น่ารักแล้วรักไหมคะ”“รักสิ รักมาก” เขาตอบอย่างไม่อิดออด พลางดึงเสื้อนอนสายเดี่ยวออกไปทางศีรษะ เผยเนื้อตัวท่อนบนเปลือยเปล่า สายตาของเขาปลุกเร้าอารมณ์ของนภาพราวได้เป็นอย่างดี เพราะแค่สบตาขนกายของหล่อนก็ลุกชัน โดยเฉพาะเมื่อปลายนิ้วเรียวยาวของเขาลูบไล้เรือนร่างของหล่อนไม่หยุด หญิงสาวก็ยิ่งวาบหวาม เร่าร้อนในอก“คุณดล”“บอกรักผมก่อน หอมแก้มผมด้วย” เขาเอ่ยต่อรองอย่างเป็นต่อ เพราะรู้ดีว่าหญิงสาวกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน และต้องการอะไรจากเขานภาพราวหยัดอกขึ้นอย่างเสียวซ่านเมื่อสามีตัวดีตวัดปลายลิ้นลงชิมปลายยอดที่ชูชันเรียกร้องให้เขาครอบครองอย่างล้ำลึกก่อนเปิดตามองเขา“ทำไมชอบถามตอนนี้ค่ะ” หญิงสาวเอ่ยถามอย่างข้องใจ ทำให้คนถามยกยิ้มขัน“ก็ตอนปกติอุ่นไม่ค่อยบอกรักผมเลยนี่”คำตอบของเขาทำเอาหญิงสาวยิ้มเขิน ก่อนจะยกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าหล่อเหลาของสามี แล้วรั้งเขาขึ้นมาจูบหน้
หญิงสาวเม้มปาก ก่อนจะมองเขาอย่างตัดพ้อ ธราดลยังคงเป็นผู้ชายที่อยู่ในใจของหล่อนเสมอมา แม้ทุกวันนี้จะมีสามีที่แสนดีและลูกสาวที่น่ารักแล้วก็ตาม“เด็กคนนี้ใช่ไหม ที่คุณเอามาอ้างกับผมในวันนั้น”จู่ๆ ชายหนุ่มก็เอ่ยถามเรื่องที่คาใจมานาน แสงตะวันนิ่งงันไปหลายอึดใจก่อนจะลากสายตาไปยังน้องพรีม ดวงตาอ่อนแสงยามมองลูกสาวที่กำลังหัวเราะเสียงใสกับลูกสาวของธราดลใช่แล้ว น้องพรีมคือเด็กที่หล่อนเคยคิดจะเอามาต่อรองกับเขาในวันนั้น ทุกอย่างเป็นเพราะเขา ส่วนพ่อของลูกคือคนที่เฝ้ารักเฝ้ารอหล่อนมาโดยตลอดเช่นกัน เขารู้ว่าหล่อนไม่เคยรักเขาเลย แต่ก็ไม่เคยสนใจ เขาขอแค่ได้รักหล่อน ทำให้หญิงสาวใจอ่อนยอมรับและตกลงปลงใจกับเขา จนเวลาผ่านเลยไป หล่อนพาลูกสาวมาเข้าเรียนที่นี่ มีโอกาสได้พบลูกสาวของเขาหลายครั้ง แล้ววันหนึ่งหล่อนได้เห็นว่าทั้งคู่มาส่งลูกสาวที่โรงเรียนพร้อมกัน หนูเล็กดูรักนภาพราวมาก เช่นเดียวกับชายหนุ่มที่ดูรักภรรยามากจนใครๆ ต้องอิจฉา ความรักของเขาชัดเจนทั้งในแววตาและการแสดงออก มันทำให้หล่อนอิจฉาจนไปลงกับเด็กน้อยไร้เดียงสาคนหนึ่ง“ฉันขอโทษ”ชายหนุ่มหันไปมองลูกสาว ดวงตาคมกริบเย็นชายามมองแสงตะวันแปรเปลี่ยนเป็นอ
“คุณยังมีเบอร์ติดต่อคุณแสงอยู่หรือเปล่าคะ” นภาพราวเอ่ยถามหลังจากชายหนุ่มขับรถออกมาได้ไม่นานธราดลส่ายหน้า เขาไม่มีความจำเป็นต้องเก็บเบอร์ของผู้หญิงในอดีตเอาไว้ เพราะผู้หญิงคนเดียวที่เขาต้องการนั่งอยู่ข้างๆ แล้ว“ไม่เป็นไรค่ะ อุ่นจะถามคุณครูให้ก็แล้วกัน แล้วเดี๋ยวจะเป็นคนนัดเธอเอง คุณโอเคไหม หรือคุณจะเป็นคนนัดเธอเองก็ได้นะคะ” หญิงสาวมองเขาอย่างขอความเห็น“ให้อุ่นเป็นคนนัดหมายก็แล้วกัน”หญิงสาวยิ้มเมื่อเขามอบหมายให้หล่อนเป็นคนจัดการ“โอเคค่ะ ก่อนกลับบ้านแวะซื้อของสักหน่อยนะคะ”“ได้จ้ะ” ธราดลตอบรับภรรยาอย่างน่ารัก จากนั้นเขาจึงเลี้ยวรถเข้าไปยังห้างสรรพสินค้า ร่างสูงดันรถเข็นเดินตามภรรยาเข้าไปในแผนกเสื้อผ้าเด็ก หญิงสาวหยิบกางเกงกับเสื้อซับในสำหรับหนูเล็กขึ้นมาดู เพราะของเดิมที่มีอยู่เริ่มเก่าแล้ว จึงอยากซื้อใหม่ให้หนูน้อยสักครึ่งโหล เมื่อได้แล้วจึงเดินไปยังชั้นถุงเท้า หยิบมาดูเนื้อผ้าอย่างละเอียดพอเจอที่พอใจจึงหยิบมาอีกสองแพ็ก ก่อนจะเดินเข้าแผนกเด็กอ่อน หยิบของใช้ที่จำเป็นสำหรับลูกชายตัวน้อย ก่อนตรงไปยังแผนกเครื่องสำอาง ก่อนจะหันไปมองสามีที่เดินตามมาไม่ห่าง“ครีมโกนหนวดของคุณใกล้หมดแล้ว ค