Masukเด็กหญิงหันไปมอง ชายรูปร่างสูง ในชุดสูทหล่อเหลาที่ก้มหน้ามามอง ส่งยิ้มหวานให้แล้วรู้สึกแปลกๆ
เด็กหญิงจิ้มนิ้วชี้เข้าหาตัว“ใช่ค่ะ คุณลุงรู้ได้ยังไงคะ นี่แหละค่ะน้ำอิงคนสวยห้อง KG2/4” เสียงใสแจ๋วแล้วยังหลงตัวเองว่าสวย ถามขึ้นแล้วมองคุณลุงสุดหล่อ ท่าทางใจดีด้วยความสนใจ
“น่ารัก พูดเก่งมาก อารมณ์ดีด้วย” ไรอันมองเด็กหญิงตัวน้อยราวกับเธอคือของวิเศษ
แม้จะถูกเรียกว่าเป็นลุงแต่ไรอันยิ้มอย่างพอใจแต่อยากได้ยินคำว่าแด๊ดดี้มากกว่า ปกติเด็กคนอื่นเห็นหน้าเขาก็ร้องไห้จ้า แต่น้ำอิงกลับยิ้มหวานพูดคุยกับเขาได้อย่างไม่กลัว
“ทีเชอร์แคเธอรีนบอกคุณลุงครับว่าหนูน้อยน่ารักคนนี้ชื่อน้ำอิง”
แคเธอรีนคือผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้และเป็นเพื่อนของแอชลีย์ ซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ ของเขา
บางครั้งโลกใบนี้มันก็กลมเกินไป แต่เป็นการกลมที่ทำให้ไรอันเข้าใกล้ลูกสาวได้มากขึ้น ช่างโชคดีเหลือเกินที่พี่สาวของเขาเป็นเพื่อนกับผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้
“ทีเชอร์บอกว่าน้ำอิงเป็นเด็กดี คุณลุงไรอันจะซื้อขนมให้หนูเอง”
เด็กหญิงเบิกตากว้างแล้วนึกใบหน้าหวานๆ ของมามี้
“ไม่ได้ค่ะ ไม่ได้” เด็กหญิงตัวน้อยส่ายหน้าระรัว “มามี้สั่งห้ามรับของจากคนแปลกหน้าค่ะคุณลุง”
แม้ภายในหัวใจดวงน้อยจะคิดค้านว่าคุณลุงสุดหล่อไม่น่ากลัวเลยสักนิด ดูใจดี๊ใจดี แต่เด็กหญิงยังยึดคำสั่งมารดาอย่างเคร่งครัด
อีกฟากหนึ่งไม่ไกลนัก แคเธอรีนยืนกอดอก ใบหน้าเปื้อนยิ้ม เห็นเด็กหญิงเชื่อฟังคำสั่งมารดายังแอบนึกขำ เธอมั่นใจว่าไรอันและแอชลีย์ เพื่อนสาวไม่ได้เอาเรื่องนี้มาล้อเล่น ดูจากใบหน้าของเด็กหญิงแล้วมองหน้ามิสเตอร์ไรอัน…
ดีเอ็นเอช่างชัดเจน
แคเธอรีนเดินเข้าไปใกล้ เอ่ยช่วยสองพ่อลูกเล็กน้อย “น้ำอิงคะ ทีเชอร์คิดว่าคุณลุงไรอันไว้ใจได้ น้ำอิงรับขนมจากคุณลุงไรอันได้นะคะ แล้วพอคุณแม่มารับตอนเย็น ทีเชอร์จะบอกคุณแม่ให้เอง”
เด็กหญิงมองหน้าคุณลุงสุดหล่อ สลับกับทีเชอร์แคเธอรีน ก่อนใช้ความคิดครู่หนึ่ง ร่างกลมๆ หันไปยิ้มหวานแฉ่งให้กับคุณป้าเจ้าของร้านขนม
เสียงใสเอ่ยขึ้น “คุณป้าขา เอาไข่ครก 40 บาทค่ะ”
เจ้าของร้านส่งยิ้มกว้าง นึกขำแม่หนูน้ำอิง เมื่อครู่ยังสั่ง 20 บาทอยู่เลย
ผู้ใหญ่ทั้งสามได้แต่มองหน้ากันไปมาแล้วอมยิ้มกับความหัวไวของแม่หนูน้ำอิง พอมีคนเลี้ยงหน่อยแม่หนูน้อยหัวไวได้ทีสั่งเพิ่มอีกเท่าตัวแล้วหลุดเสียงหัวเราะกันยกใหญ่ ไรอันอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ นี่แหละทายาทของตระกูลคาเตอร์ตัวจริง
ลูกแด๊ดดี้ น่ารัก หัวไว
ถูกใจชะมัด
แต่เจ้าเล่ห์เหมือนใคร?
“คุณป้าแถมให้หนูอีกสองชิ้น”
“ขอบคุณค่ะ แต่ถ้าแถมสาม น้ำอิงจะแบ่งบีน่ากับวุ้นเส้นและน้ำผึ้งได้ด้วยนะคะ”
ป้าเจ้าของร้านต้องจิ้มขนมไข่ครกใส่เพิ่มให้อีกชิ้น “ฉลาด พูดเก่งจริงๆ”
ดวงหน้าใสจิ้มลิ้มรับไข่ครกพิเศษเต็มถ้วยกระดาษมาถือไว้ แล้วหันกลับมายิ้มแป้นให้ไรอัน
“คุณลุงขา ได้ขนมแล้วค่ะ จ่ายเงินสิคะ”
ไรอันเผลอมองแพขนตาหนาขยับขยุกขยิกเหนือดวงตาใสของเด็กหญิงพลางอมยิ้มไม่หุบ คนหน้าตาดีอย่างเขามีลูก ลูกของเขาหน้าตาดี น่ารักได้ขนาดนี้เชียวหรือ
เสียงใสดังขึ้นพร้อมกับอาการสะกิดแขนอีกครั้งเมื่อเห็นคุณลุงเอาแต่มองเธอแล้วยิ้มไม่หุบ ไม่ยอมควักเงินจ่ายป้าเจ้าของร้าน หรือคุณลุงจะเบี้ยว มองไข่ครกของโปรดแล้วเอ่ยทวงถามอีกครั้ง
“คุณลุงขา เงินค่ะ” แม่หนูตัวแสบแบมือป้อมๆ ข้างหนึ่งรอรับเงินสี่สิบบาทที่คนเลี้ยงรับอาสาจะจ่ายให้
“เงินเหรอครับ!”
ใช่สิ ไรอันเพิ่งนึกได้ซื้อของเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ต้องใช้เงินสดเท่านั้น เขาเคยซื้อของเองครั้งสุดท้ายก็ตอนซื้อโรงผลิตไวน์ต่อจากพี่สาวด้วยมูลค่าสามพันกว่าล้านดอลลาร์ แล้วตอนนั้นก็จ่ายเป็นเช็ค
เขาลืมนึกถึงข้อนี้ว่าไม่เคยพกเงินสดติดตัว ไรอันล้วงหยิบกระเป๋าสตางค์จากกางเกงแล้วเปิดออกดู หวังว่าอาจจะมีหลงๆ สักใบ แต่ในกระเป๋าช่องเสียบธนบัตรกลับว่างเปล่า มีเพียงบัตรเครดิตเรียงรายกันอยู่สิบกว่าใบ
เด็กหญิงมองตาปรอย รู้สึกหวั่นใจเพราะไม่เห็นเงินเลยสักบาท
ทำไมคุณลุงสุดหล่อจน ไมมีเงินออกมาจากกระเป๋าสักบาท
“คุณลุงขา ไม่มีเงินเหรอคะ”
“เอ่อ ลุงลืมไป ลุงไม่ได้พกเงินมาด้วย” ไรอันตอบไม่เต็มเสียง มองเงินสดในกระเป๋าไม่มีสักแบงก์ หรือเหรียญเดียว
แม่หนูตัวน้อยเบิกตากว้างด้วยสีหน้าตกใจแล้วมองไข่ครก 40 บาทในมือที่ตั้งใจจะฟาดให้เรียบ หรือบางทีอาจจะแบ่งให้บีน่ากับวุ้นเส้นและน้ำผึ้งคนละชิ้นเพราะคุณป้าแถมมา มามี้ของเธอสอนให้รู้จักแบ่งปัน เด็กหญิงจึงพยายามปฏิบัติตาม
ไรอันลุกขึ้นกวาดตามองหาครูซ มือขวาของเขา เขาไม่มี แต่ครูซมันต้องมี!
แม้สมองของยัยตัวเล็กจะมีขนาดเล็ก แต่รอยหยักคงมีมากตามกรรมพันธุ์ เด็กหญิงหาวิธีแก้ปัญหานี้เพราะไม่อยากส่งคืนขนม เมื่อครู่เธอแอบเห็นคุณลุงมีบัตรสี่เหลี่ยม แม่ของเธอก็มีมันเรียกว่าเครดิตการ์ด เห็นแม่เคยใช้ซื้อน้ำมันและของในสถานีน้ำมัน เด็กหญิงน้ำอิงหันรูปร่างกลมป้อมไปส่งยิ้มหวานให้กับคุณป้าร้านขนมก่อนจะเอ่ยเสียงใส
“คุณป้าขา คุณลุงไม่มีเงิน ซื้อไข่ครกรับบัตรเครดิตไหมคะ”
“ร้านคุณป้าไม่มีเครื่องรูดการ์ดค่ะลูก เดี๋ยวให้คุณแม่มาจ่ายทีหลังก็ได้ค่ะ”
เจ้าของร้านขนมมองหน้าแม่หนูแก้มกลมแล้วยิ้มอย่างเอ็นดู ในขณะที่ไรอันกำลังกระซิบกับแคเธอรีนเพื่อขอยืมเงินสักสี่สิบบาท แต่ผู้อำนวยการสาวก็ไม่ได้พกกระเป๋าสตางค์มา
แต่ทันใดนั้น ธนบัตรสีเขียวสองใบก็ถูกยื่นให้แม่ค้า พร้อมกล่าวขออภัย
“นี่ค่ะค่าขนมของน้ำอิง ขอโทษด้วยนะคะคุณป้า วันนี้ คุณแม่ลืมเอาเงินค่าขนมให้น้อง”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่”
คิ้วของไรอันขมวดเข้าหากัน เมื่อเช้า แม่ของลูกขับรถหนีเขา พอมีโอกาสได้เห็นใบหน้าใกล้ๆ ต้องอุทานในใจ ให้ตายเถอะ เขาพลาดอะไรดีๆ ไปถึงสี่ปี
ริมฝีปากอิ่มขยับอย่างขัดเคือง “น้ำอิงเป็นลูกสาวฉัน คุณคิดจะทำอะไร เอามือออกไปจากตัวแก”
กุลนิดายอมรับว่าโมโหมากที่เห็นไรอันมายืนอยู่ตรงนี้ เธอตั้งใจลางานจะมารับลูกกลับบ้าน เธอกับลูกคงอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วถ้าไรอัน คาเตอร์รู้ เขาต้องคิดจะมารังควาน แต่กลับพบว่าปีศาจร้ายกำลังยืนโอบลูกสาวของเธออยู่
หมับ
“ผีอยากมาแอบดูคนพลอดรักกันก็เอาสิ เกรซีกลัวผีเหรอ ผมเคยสอนวิชาไล่ผีให้แล้วไง ผีจะกลัวคนแก้ผ้า ถ้าเกรซีที่รักไม่อยากถูกผีหลอก เดี๋ยวผมช่วยถอดเสื้อผ้าให้คุณเอง”กุลนิดาอับอายจนวางหน้าไม่ถูก “ถอดอีกแล้วเหรอคะ ฉันเพิ่งใส่กลับเข้าไปเมื่อกี้นี้เอง”กุลนิดาถูกเขาผลักให้นอนราบลงบนเตียง จากนั้นความขาวโพลนพร้อมกลิ่นหอมอ่อนของน้ำยาปรับผ้านุ่มก็ลอยลงมาปกคลุมสองร่างเอาไว้ อ้อมกอดของคนที่นอนทับอยู่บนตัวทั้งหอมและมีกลิ่นกายเฉพาะตัวชวนให้พาใบหน้าเข้าไปเคลียคลอกับแผงอกนั้น“กลัวผีใช่ไหม เดี๋ยวผมลงคาถากันผีให้ รับรองว่าเกรซีจะไม่ถูกผีหลอกไปตลอดชีวิต”“บ้า ฉันไม่เชื่อ คุณหลอกฉัน”“ไม่เชื่อ ก็ต้องให้ผมลงคาถาอยู่ดี”ดวงตาสีฟ้าภายใต้ผ้าห่มนวมผืนใหญ่เจิดจรัสเต็มไปด้วยไฟพิศวาสลุกโชน มันพร้อมจะแผดเผาเธอด้วยความรักที่เร่าร้อนเพียงพริบตาเดียว เสื้อผ้าทุกชิ้นที่ห่อหุ้มร่างบางงดงามไร้ที่ติกลับปลิดปลิวออกจากร่าง แต่ละชิ้นถูกไรอันโยนออกมาอย่างไม่ไยดีเสื้อและกระโปรงร่วงหล่นลงไปตามแรงเหวี่ยง ส่วนแพนตี้ตัวน้อยถูกเขาถอดและหล่นไปกองอยู่ข้างเตียง จนกระทั่งเหลือบราเซียร์สีชมพูหวานเป็นปราการด่านสุดท้ายที่ถูกเขาลอกคราบออก
กุลนิดาบอกเขาหมดเปลือก บอกจากก้นบึ้งหัวใจ เธอทั้งคิดถึง โหยหา แต่ก็หมั่นไส้พ่อตัวร้ายจอมเจ้าเล่ห์ในเวลาเดียวกันไรอันทนความน่ารักของเมียไม่ไหว มือแกร่งรวบร่างบอบบางของเมียไปนั่งทับบนตัก แล้วกระซิบเสียงแหบพร่าข้างใบหูขาวผ่อง“เรามาทำลูกกันอีกสักคนดีไหม ผมอยากให้น้ำอิงมีน้องไว้เป็นเพื่อนเล่น”กุลนิดาหน้าแดง ยกมือทุบอกเขาดังปั้กไรอันจับมือเล็กไว้ แล้วขบเม้มใบหูขาวอย่างรักใคร่ “อยากทุบก็ทุบให้เต็มที่ ผมไม่ทุบคืนด้วยหมัดแน่ๆ เพราะผมกลัวเมียเจ็บ แต่ผมจะชกคุณคืนถึงเช้าด้วยอวัยวะที่นุ่มนวลที่สุด”“ไรอัน คนหื่น ฉันรู้นะคุณหมายถึงอะไร”แต่ช้าไปเสียแล้วเมื่อร่างเล็กถูกเขาผลักลงไปบนเตียงเหมือนในคืนนั้น ร่างสูงกระชากผ้าเช็ดตัวสีขาวที่พันไว้รอบเอวอย่างรวดเร็ว เมื่อครู่นี้ เขานอนแช่น้ำอุ่นอย่างสบายใจ แล้วคิดเล่นๆ ว่าถ้ามีลูกอีกคนจะให้ชื่ออะไรดี เขาคิดออกแล้ว และเวลานี้ ควรต่อแขนให้ ‘น้ำอุ่น’ ออกมาเป็นตัวเป็นตนสักทีไรอันอวดหุ่นกำยำต่อหน้าเมีย กุลนิดารีบหลับตาปี๋ เพราะยังอายอยู่ จังหวะนั้นเองที่ไรอันรีบปอกเปลือกเมียให้เหลือแต่ร่างขาวโพลนทันที“ลูกคนนี้ผมจะตั้งใจทำให้หน้าเหมือนคุณนะ จะได้ไม่น้อยใจผมอ
“รู้อะไรไหม แต่ผมไม่เคยหลอกคุณนะ ว่าผมรักคุณกับลูกที่สุด รักจนหยุดหัวใจไว้ที่คุณ”“ฉันรู้ค่ะ ฉันยอมรับที่ผ่านมา ฉันขี้ขลาดเอง กลัวคุณไปเจอผู้หญิงสวยๆ ก็อยากจะเลี้ยงดูไปเรื่อยๆ แบบที่คุณเคยเลี้ยงดูพี่อินทิราเอาไว้ ตอนนี้ยังแอบส่งเสียกันอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ ถ้าคุณมีเมียไว้ประเทศละคน ฉันคงทนไม่ได้ เลยเลือกที่จะไม่เปิดโอกาสให้คุณ” กุลนิดาบอกแล้วเบือนหน้าหนี เธอยอมรับผิดส่วนหนึ่งที่ไม่เชื่อใจเขา ไม่เปิดโอกาสให้เขาไรอันเชยคางเมียกลับมา จ้องดวงตาสีนิลคู่วาววับ “ผมกับอินทิราเลิกยุ่งเกี่ยวกันตั้งแต่คืนนั้นที่ผมมีอะไรกับคุณ แล้วผมก็ไม่ได้ไปมีเมียทิ้งไว้ทุกประเทศแบบที่คุณเข้าใจ ข่าวคุณมั่ว ไม่กรองแล้วละ”“หมายความว่ายังไงคะไรอัน” กุลนิดาเบิกตาโตมองเขาอย่างสนใจ“ผมกับอินทิราเจอกันบนสายการบินพาณิชย์ ตอนเครื่องบินลำนั้นที่ระเบิดไปมันงอแง ผมเห็นอินทิราสวยดี เธอส่งสายตาให้ผมก็เลยให้ครูซยื่นข้อเสนอ และไม่ได้ตั้งใจให้มาอยู่ที่นี่หรอก แต่อินทิราบอกผมว่าคอนโดฯ ของเธอยังตกแต่งไม่เสร็จ แต่ที่ผมมาที่นี่หลายครั้งไม่ได้ติดใจอินทิรา แต่ติดใจสาวน้อยที่ดูแลกุหลาบของแม่ผมอย่างดี ผมคิดว่ามาอยู่ที่เมืองไทยมันจะตา
เฮี้ยนกว่าผีก็สามีของเธอนี่เองดวงหน้าขาวซีดแทบจะเป็นสีเดียวกับกระดาษเวลานี้พลันเปลี่ยนเป็นจ้องมองเขาอย่างขุ่นเคือง เลือดลมกลับมาสูบฉีดแรง ตอนนี้สติเธอกลับมาครบถ้วนพอจะแยกออกว่าร่างสูงที่กำลังเดินเข้ามาหาแล้วคว้าเธอเข้าไปกอดคือสามีไม่ใช่ผี“ไรอัน! คนบ้า คุณเล่นบ้าอะไร หนังสือพิมพ์ทุกฉบับลงข่าวว่าเครื่องบินระเบิด คุณตายแล้ว” กุลนิดารู้สึกว่าเธอกำลังเป็นคนเสียสติแล้วกระมังถึงได้หัวเราะไปร้องไห้ไปราวกับเป็นผู้ป่วยไบโพลาร์ไรอันส่ายหน้า รอยยิ้มหล่อร้ายบนใบหน้าของเขาประดับค้างอยู่นานไม่ยอมจางหาย ในขณะที่ดวงตาสองข้างยังจ้องหน้าเมียรักอยู่ตลอดเวลา“คุณยังหลอกผมได้เลย คิดว่าผัวเคี้ยวหญ้าหรือไงจ๊ะที่รัก ถึงได้คิดว่าผมจะเชื่อว่าเมียมีฝาแฝด เป็นไงพอผมหลอกคืนบ้าง คุณถึงกับอึ้งไปเลย”กุลนิดาผลักอกเขาออกแต่มันไม่ขยับออก ใบหน้าสวยแดงก่ำด้วยอารมณ์หลากหลายทั้งดีใจ ทั้งโมโห “หลอกแรงเกินไปแล้ว”ไรอันขยับเข้าไปใกล้ร่างเมียรัก ประคองใบหน้างามที่เลอะไปด้วยคราบน้ำตาให้มองตอบเขา “ฟังผมอธิบายก่อนเกรซี อย่าเพิ่งโกรธผมเลย”กุลนิดาส่ายหน้าด้วยความน้อยใจ “คุณหลอกคนทั้งโลกว่าตายแล้ว คุณเป็นคนแบบไหนกัน ทำไมต้องหลอก
กุลนิดาปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอาบแก้มอย่างไม่อาย ตอนนี้เธออยู่คนเดียวภายในห้อง เธอไม่ต้องกลัวว่าลูกจะเห็นแล้วตั้งคำถามอีก ดังนั้นเมื่อน้ำตาอยากไหลออกมา เธอก็จะปล่อยให้มันไหลไปจนกว่าจะพอ อย่างน้อย เธอจะได้ใช้มันเป็นหนทางระบายออกได้บ้างใบหน้าสวยที่ตอนนี้เต็มไปด้วยคราบน้ำตาเลอะกรัง กวาดมองรอบห้องอย่างอาวรณ์ ตอนนี้ เธอยังไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เธออยากจะคิดว่าข่าวที่ลงเป็นเพียงข่าวโคมลอย เชื่อถือไม่ได้ เขายังปลอดภัยดี เพียงแต่ยังเคลียร์งานไม่เสร็จจึงยังกลับมาไม่ได้...แต่กุลนิดาก็ไม่สามารถหลอกตัวเองได้ เพราะภาพข่าวที่ทุกสื่อนำมาลงเป็นเรื่องจริงจู่ๆ ก็มีลมพัดวูบหนึ่งเข้ามาในห้อง กุลนิดาจึงเดินไปที่ระเบียง ประตูถูกเปิดออกไว้ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ชายผ้าม่านสีขาวปลิวคว้าง ภาพนี้เหมือนเมื่อสี่ปีก่อนไม่มีผิด จู่ๆ กุลนิดาก็รู้สึกขนลุกเกรียวขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว“เหมือนวันนั้นไม่มีผิด” ปกติกุลนิดาเป็นคนกลัวผีมาก และตอนนี้ความหลอนก็ผุดขึ้นมาอีกหนห้องนี้เคยมีประวัติอะไรหรือเปล่านะ เธอยังจำได้ดีถึงผีจูออนชุดขาวที่เห็นวันนั้น เธอยังไม่เคยคุยกับไรอันถึงเรื่องนั้นเลย เคยตั้งใจว่า
แอชลีย์มองสองแม่ลูกแล้ววางหน้าลำบากพลางลอบถอนหายใจ “เอาละ หลานป้าแอชลีย์มีสายเลือดนักสู้ สุดยอดมาก ป้าแอชลีย์ตะลึงไปเลย แบบนี้ควรมีรางวัลให้หนูใช่ไหม”พอได้ยินคำว่ารางวัล ร่างอวบที่นอนหงายดีดตัวลุกขึ้นมาอย่างง่ายดาย “รางวัล! เด็กดีควรมีรางวัลค่ะ มันเป็นเรื่องที่ถูกต้องใช่ไหมคะมามี้”เด็กหญิงยิ้มเผล่รู้สึกหายเหนื่อย “คุณป้าแอชลีย์คนสวย น้ำอิงอยากกินไอศกรีมเป็นรางวัลได้ไหมคะ” แม่คนช่างประจบ และหัวไวกับของฟรีกล่าวแอชลีย์ดึงหลานสาวตัวอวบไปกอด รู้แล้วทำไมน้องชายถึงได้หลงลูกสาวนัก “แน่นอนหลานสาวของป้าได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้”กุลนิดามองหน้าแอชลีย์ เสี้ยวหน้าด้านหนึ่งมีเค้าเหมือนไรอันอยู่มาก ความสนิทอย่างรวดเร็วของสองป้าหลานคงเป็นความผูกพันทางสายเลือด“อย่ารบกวนคุณป้าเลย เดี๋ยวมามี้พาไปเอง”เพียงแต่แอชลีย์หันมายิ้มแล้วพยุงหลานสาวให้ลุกขึ้น “เกรซี ฉันมีเรื่องจะบอก แม่บ้านของลักซูรีคอนโดฯ โทร.มาบอกฉันว่าอยากให้เจ้าของห้องชุดเข้าไปดูแลกุหลาบพวกนั้นที่ริมระเบียงด้วย เพราะพวกมันใกล้จะตายหมดแล้ว ไรอันจ้างให้แม่บ้านมาทำความสะอาดทุกอาทิตย์ แต่พวกเขาไม่มีสิทธิ์ย้ายต้นกุหลาบเหล่านั้นออกไปไหน ตอนนี้ห้อง







