ณ ไร่พฤกษา
“มาแล้วจ้า มาแล้ว กับข้าวอร่อยๆ ของแม่ครัวคนสวยมาให้ทุกท่านกินแล้วค่ะ วางจอบวางเสียมมากินข้าวกันก่อนนะจ๊ะ”
เสียงหวานๆ รูปร่างเซ็กซี่ของแม่ครัวคนสวยประจำไร่พฤกษา ตะโกนเรียกคนงานในไร่ทั้งชายและหญิงให้มารับประทานอาหารเที่ยงในโรงครัว หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ต่างเดินตามเสียงเรียกเข้ามาทานอาหารรสเลิศจากแม่ครัวหัวป่า ที่ทำอาหารน่ากินยังไม่พอ คนที่ทำก็น่ากินไม่แพ้กัน
“กินข้าวเสร็จ กินน้องหนูต่อได้หรือเปล่าจ๊ะ?”
คนงานหนุ่มวัยสามสิบปีได้ทีเกี้ยวแม่ครัวสาวนามว่าน้องหนูแบบเปิดเผย พร้อมกับมองทรวดทรงองค์เอวที่สะท้านสะเทือนอารมณ์ใจชายของน้องหนูตาเป็นมัน
“เอาไว้วันหลังนะคะ ตอนนี้เก็บปากไว้กินข้าวก่อนนะจ๊ะพี่เผือกจ๋า วันนี้มีกับข้าวอร่อยๆ ทั้งนั้นเลยนะจ๊ะ”
น้องหนูทิ้งสายตา ยิ้มยั่วอีกฝ่ายจนเผือกกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ เกิดมาไม่เคยเห็นใครยั่วยวนเก่ง ไม่เคยเห็นใครน่ากินเท่าน้องหนูแม่ครัวสุดสวยคนนี้เลย
“วันหลังให้พี่ดำกินน้องน้องหนูบ้างนะจ๊ะ พี่ดำก็อยากกินน้องน้องหนูใจแทบขาด” ดำที่ยืนต่อแถวพูดขึ้นมาอีกคน
“ตกลงพวกแกจะมากินข้าวหรือว่าจะมากินยายน้องหนูกันแน่ ไป ไป ไปกินข้าวกันได้แล้วจะได้ทำงาน” เสียงของป้าพิณหัวหน้าแม่ครัวเท้าสะเอวตะโกนไล่คนงานชายที่มองแม่ครัวสาวตามันระยับ “นี่ยัยน้องหนู ตกลงแกจะมาเป็นแม่ครัวหรือว่าจะเป็นนางยั่วกันแน่ ดูสิคนงานที่นี่แทบจะไม่เป็นอันทำงานกันแล้ว จ้องจะกินแต่แก”
ก่อนจะหันมาพูดเสียงเขียวกับแม่ครัวรุ่นหลานที่หน้าตาสวยสด ผิวพรรณผุดผ่อง ไม่เหมือนแม่ครัวทั่วๆ ไป
“คนมันมีเสน่ห์ก็อย่างนี้แหละจ่ะ ฉันชินแล้วแหละ” น้องหนูทำท่าทางปลื้มอกปลื้มใจยามที่พูดประโยคนี้
“ฉันบอกแกกี่ครั้งแล้วเรื่องเสื้อผ้า หาซื้อที่มันมิดชิดกว่านี้ไม่ได้หรือไง ตั้งแต่แกมาทำงานที่นี่ คนงานผู้ชายเป็นกลากเป็นเกลื้อนกันหลายคน เพราะน้ำลายหกเวลาที่มองเนื้อนมไข่ของแก ฉันล่ะหน่ายกับแกจริงๆ พูดไม่รู้จักฟัง ถ้าแกไม่ได้เป็นหลานของนุ่มนะ ฉันตะเพิดแกออกไปจากไร่นี้ตั้งแต่วันแรกแล้ว”
ป้าพิณพูดไปดมยาดมไป มองเห็นการแต่งกายของน้องหนูแล้ว นางนึกอยากจะหวดก้นเด็กสาววันละหลายๆ ครั้ง นุ่งน้อยห่มน้อยเสียเหลือเกิน
“แหมป้า อินเทรนด์น่ะรู้จักหรือเปล่า เทรนด์นี้กำลังมาแรง ถ้าฉันไม่ใส่เดี๋ยวเขาจะว่าฉันตกเทรนด์”
น้องหนูแก้ตัวน้ำขุ่นๆ เธอไม่คิดว่าการใส่กางเกงขาสั้นอวดเรียวขาสวยกับเสื้อยืดแบบเอวลอยโชว์หน้าท้องขาวๆ เนียนสวยจะเสียหายตรงไหน ก็แค่แฟชั่นธรรมดาที่คนทั่วๆ ไปเขาใส่กัน
“ใครว่าแกตกเทรนด์หะ!!...ยายน้องหนู แกลองแหกตาดูสิว่าผู้หญิงในไร่มีใครเขาแต่งตัวแบบแกบ้าง เขาปิดมิดชิดกันทั้งนั้นแหละ มีแต่แกเท่านั้นที่เปิดเผย เนื้อนมไข่แทบจะหกออกมาแล้ว แกรู้มั้ยว่าการที่แกแต่งตัวแบบนี้คนงานชายแก่คราวพ่อคราวน้าหัวใจจะวายวันละหลายๆ รอบ” นางยังไม่หยุดต่อว่า ยิ่งเห็นยิ่งขัดใจ
“แหม!!...ป้าพิณก็ ฉันน่ะทำให้ไร่นี้เจริญหูเจริญตาขึ้นตั้งเยอะ หนุ่มๆ แก่ๆ พากันกระชุ่มกระชวย ไม่ได้มองไปทางไหนก็ส่ายหน้าดิก อีกอย่างป้าไม่ต้องกลัวว่าลุงๆน้าๆ ทั้งหลายเขาจะหัวใจวายตายเพราะการแต่งตัวของฉัน เพราะเดี๋ยวฉันก็ไปแล้ว” น้องหนูโต้กลับหน้าตาเฉยไม่สะทกสะท้านกับคำต่อว่าของอีกฝ่าย
“แกจะไปไหนนังน้องหนู?” ป้าพิณถามกลับด้วยความสงสัย
“แถวนี้แหละ ป้าอย่ารู้เลย ตักกับข้าวไปเถอะน่า ฉันก็จะไปทำงานของฉันเหมือนกัน” ว่าแล้วก็หมุนตัวเดินออกไปจากโรงครัว
“นังน้องหนูแกจะไปไหน มานี่นะ แกมีหน้าที่ตักกับข้าวนะโว้ย” ป้าพิณตะโกนไล่หลังสาวร่างสวยที่เดินนวดนาดออกไปจากโรงครัว แต่ทว่าสาวนางนั้นไม่มีทีท่าว่าจะสนใจ ยังคงก้าวเดินต่อไป “คุณทอร์ชกลับมาเมื่อไหร่ ฉันจะให้คุณทอร์ชไล่แกออก วันๆ เอาแต่ยั่วผู้ชาย”
นางเข่นเขี้ยวต่อว่าน้องหนูอย่างเดือดดาล งานนี้นางไม่ปล่อยเอาไว้แน่ หากปล่อยไว้มีหวังเกิดเรื่องชู้สาวขึ้นมาอย่างแน่นอน
คนที่กำลังถูกต่อว่าเดินมายังต้นหูกวางต้นใหญ่ที่อยู่ติดกับบ้านพักของหัวหน้าคนงานไร่พฤกษา เธอขยับเสื้อเอวลอยแบบคอวีคว้านลึกอวดเนินอกสาวให้หมิ่นเหม่มากยิ่งขึ้น พับกางเกงยีนส์ขาสั้นให้สั้นขึ้นไปอีก เพื่ออวดเรียวขาขาวน่าลูบไล้ ก่อนจะเดินนวดนาดไปหาประยงค์ที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่
“พี่ยงค์จ๋าคนดีของน้องหนูกินข้าวอร่อยหรือเปล่าจ๊ะ?”
เสียงหวานๆ มาพร้อมกับร่างอวบอิ่มที่ทรุดตัวลงนั่งบนแคร่ ทำเอาเจ้าของชื่อถึงกับสำลักข้าวที่อยู่ในปาก เพราะเธอยื่นหน้าเข้ามาใกล้ แถมยังโน้มร่างกายมาหาเขาเล็กน้อย ทำให้เสื้อคอวีร่นลงเล็กน้อย มองเห็นเนินอกขาวรำไรน่าฟัด
“แคกๆๆ” เขาสำลักข้าวทันที ก่อนจะคว้าขันที่ใส่น้ำเย็นมาดื่มกินดับอาการสำลักข้าวและอาการรุ่มร้อน “กับข้าวของน้องหนูอร่อยอยู่แล้วจ๊ะ”
ประยงค์ไม่ได้เยินยอ เขาพูดจากใจจริง ฝีมือทำกับข้าวของน้องหนูอร่อยกว่าป้าพิณ แม่ครัวใหญ่ของที่นี่เสียอีก
“แกงเขียวหวานวันนี้น้องหนูตั้งใจทำเต็มที่เลยนะคะ ใส่ทั้งกะทิ ใส่ทั้งนม รับรองหวานมันไม่เหมือนใครเลยจ้ะ”
พูดไปด้วยก็ส่ายร่างกายนิดๆ ส่งผลให้ทรวงอกน่ากินกระเพื่อมไหวตามแรงส่าย ประยงค์เห็นแล้วหัวใจเต้นตึกตัก อยากจะทิ้งข้าวที่อยู่ในมือ กระโจนใส่สาวร่างสวยนี้เต็มทน
“มิน่าละถึงได้อร่อยเหาะอย่างนี้ พี่น้ำหนักตัวขึ้นตั้งหลายโล”
เขาพูดตามันเป็นประกาย สองสัปดาห์ที่เธอก้าวเข้ามาทำงานที่นี่ ดูเหมือนว่าไร่แห่งนี้ดูจะเจริญหูเจริญตาขึ้นเยอะ นอกจากอาหารจะอร่อยแล้ว แม่ครัวสาวคนใหม่ยังเป็นอาหารตาของคนงานชายที่นี่ด้วย ทานข้าวไปมองรูปร่างเย้ายวนของเธอไป เจริญอาหารดีแท้ๆ
Chapter 11เหมือนกับครั้งแรกที่ถูกจูบไม่มีผิด อาการตกใจทำให้กลีบปากสวยอ้าค้าง ปลายลิ้นใหญ่จึงแทรกเข้าไปสำรวจในช่องปากสาวอย่างง่ายดาย รัดเกี่ยวพันลิ้นเล็กที่พยายามจะถอยร่นหนี บดขยี้ปากอิ่มหนักหน่วง แรงจุมพิตที่หักหาญน้ำใจทำให้เพลงมีนาคิดจะต่อต้าน มือเล็กผลักร่างหนา ใบหน้าสาวส่ายสะบัดเพื่อไม่ให้เขาจุมพิตเธอได้โดยง่าย ร้องประท้วงในลำคอทว่ามันก็ไม่เป็นตามที่ตนเองคิดไว้ มือใหญ่จับมั่นตรงท้ายทอยของเพลงมีนา ไม่ให้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวไปไหน ส่งผลให้เธอต้องยอมรับจุมพิตในครั้งนี้ด้วยความจำยอมเรี่ยวแรงทั้งหมดดูจะเหือดหายไปสิ้น เมื่อกระแสบางอย่างแทรกซึมเข้ามาในร่างกาย จุมพิตของเขานั้นสร้างความอ่อนแอให้เกิดขึ้นในจิตใจอย่างมากมาย พ่ายแพ้ หมดแรงต้านทาน จำยอมให้เขาดื่มด่ำความหวานที่ปลูกฝังอยู่ในช่องปากของเธอต่อไปน่าแปลกเหลือเกิน...น่าแปลกจริงๆ ปลายลิ้นของคนแปลกหน้าที่ตวัดโบกลิ้นเล็ก กวาดต้อนซอกซอนหาน้ำหวานรสเลิศอย่างกระหายและเร่าร้อน ไม่ได้ทำให้เธอเกิดความขยะแขยงหรือว่ารังเกียจ ตรงกันข้ามซาบซ่านราวกับเธอกำลังถูกไฟฟ้าสถิตเล่นงาน แปลบปลาบตลอดเวลาในความรู้สึกของกวินภพ เขากำลังถูกดึงตัวลงไปในบ่อโคลนพ
Chapter 10จะค้านว่าภาพนี้ไม่ใช่น้องสาวของตัวเองก็ไม่ได้ เพราะใบหน้าเครื่องเครา รูปร่างสวยงามมันบ่งชี้เช่นนั้น อีกทั้งเพลงมีนาไม่มีวันลืมหน้าตาของน้องสาว ทุกครั้งที่เธอส่องกระจกเงา ภาพของเพียงรัมภาก็จะซ้อนทับเสมอคำถามหลายคำถามจึงผุดขึ้นในใจ เพียงรัมภาไปทำอะไรให้กวินภพแค้นใจ ถึงขั้นพกรูปไว้เตือนความจำตลอดเวลา แล้วทำเช่นนี้ทำไม มีเหตุผลใดที่จะต้องทำ ที่สำคัญทำไมต้องใช้ชื่อเรียกว่าน้องหนู ทำไมไม่ใช้ชื่อเรียกแทนตัวเป็นชื่อจริง ราวกับว่าไม่ต้องการให้ใครรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเองมากนัก หลายคำถามมะรุมมะตุ้มอยู่ในสมองที่เริ่มจะไม่สั่งการ ความงวยงงเข้ามาแทนที่ หรือว่ากวินภพจะเข้าใจผิด แต่ก็ไม่น่าจะใช่ ณ วินาทีนี้เพลงมีนามีแต่คำว่าไม่เข้าใจและสับสน วนเวียนอยู่ในสมอง“เป็นไงทีนี้ชัดมั้ย จะยอมรับได้หรือยังว่าเธอคือน้องหนู?” เสียงของกวินภพดังขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายนั่งมองรูปภาพตาไม่กระพริบ“ว่า...ว่าไงนะ?” เธอถามอีกครั้งหลังจากที่เสียงของเขาดึงสติของเธอให้คืนกลับมา“ฉันถามว่า คราวนี้เธอจะเถียง และไม่ยอมรับอีกหรือเปล่าว่าเธอไม่ใช่น้องหนู?”คำถามของเขาทำให้เธอประติดประต่อเรื่องได้คร่าวๆ กวินภพเห็นเธอก็นึก
Chapter 9รถยนต์คันเดิมยังคงแล่นบนถนนสายหลัก ตรงดิ่งไปยังจังหวัดลำปางซึ่งใช้เวลาประมาณสิบชั่วโมงกว่าจะถึงตัวจังหวัด และอีกสี่สิบห้านาทีกว่าจะถึงไร่พฤกษา คนที่ตั้งใจว่าจะคิดหาทางออกในเรื่องคับขัน เวลานี้กับผลอยหลับศีรษะพิงกับประตูรถยนต์ กวินภพเห็นแล้วเกิดความหมั่นไส้ขึ้นมาตงิดๆ เขาจับตัวเธอมาไม่ได้ให้มานอนหลับสบายๆ อย่างนี้ต้องแกล้งเสียให้เข็ด คิดได้ดังนั้นร่างหนาจึงขยับเข้าไปใกล้สาวร่างเล็ก ยื่นใบหน้าเข้าใกล้ใบหูสาว ให้ริมฝีปากหนาชิดติดกับส่วนรับฟังของเธอ“ตื่นได้แล้ว ตื่นสิ น้องหนูตื่น”เสียงดังราวกับฟ้าผ่าดังอยู่ตรงใบหูของเพลงมีนา เสียงที่ดังสนั่นทำให้สาวเจ้าสะดุ้งตัวตื่น มองหน้าเขาเลิกลั่ก ใจเต้นโครมคราม“ไม่เคยหลับเคยนอนหรือไง หลับมาได้ตลอดทาง” น้ำเสียงของเขายังคงดังลั่นรถ“ก็คนมันง่วงนี่นา” เธอพูดเสียงอ่อย “คุณจะพาฉันไปไหน?”“ไปนรก” เขาตอบสั้นๆ แต่สำหรับคนที่ได้ยิน หัวใจเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น เกรงกลัว“ฉัน...ฉันไม่ใช่น้องหนูนะ” เสียงของเธอดังออกมาแผ่วๆ แต่ดังราวกับพลุแตกสำหรับเขา“อยากจะให้ฉันจูบก็พูดมาดีดี ไม่ต้องมาทำเป็นพูดอย่างนี้หรอกน้องหนู ฉันไม่หลงกลดาวยั่วอย่างเธอง่ายๆ อย
Chapter 8วันนี้เขามาส่งลูกค้ารายสำคัญที่สนามบิน ระหว่างที่กำลังจะเดินออกมาจากอาคารของสนามบิน สายตาของเขาสะดุดมองไปยังร่างของสตรีนางหนึ่งที่กำลังเข็นสัมภาระออกไปทางเดียวกับเขา พอเห็นหน้าค่าตาของเธอชัดเจนแบบเต็มๆ ตา เขาก็คิดวิธีลักพาตัวน้องหนูกลับไปยังไร่ของเขา ทว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักหากจะจับตัวเธอไปจากจุดนี้ เนื่องจากมีคนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา แผนการบุกชิงตัวกลางถนนจึงอุบัติขึ้นเพลงมีนาได้ฟังคำพูดของเขาแล้วเกิดอาการงงงันอย่างหนัก เขามั่นใจเหลือเกินว่าเธอคือน้องหนู หญิงสาวที่สร้างความเจ็บแค้นจนถึงแก่นลึกของจิตใจ ราวกับว่าหน้าตาของเธอนั้นถอดแบบน้องหนูไม่มีผิดเพี้ยน แล้วมันจะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร เธอจะหน้าเหมือนกับน้องหนูจนแยกแยะไม่ออกอย่างนั้นเชียวหรือ หากเป็นเพียงรัมภาน้องสาวฝาแฝดของตนเองก็ว่าไปอย่าง เพราะรายนั้นถอดแบบเธอราวกับเป็นพิมพ์เดียวกัน แยกแยะไม่ออกว่าใครเป็นใคร หากไม่ใช่คนคุ้นเคยหญิงสาวไม่สามารถเอ่ยคำใดออกมาได้ ขยับปากให้เปิดออกยังยากลำบาก เป็นเพราะมือใหญ่ยังคงบีบแก้มสาวไม่ยอมปล่อย ความเจ็บปวด และความที่ต้องการจะพูด จะอธิบายทำให้เธอยกม
Chapter 7“ไม่จริง ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่อย่างนั้น หนูไม่ได้เป็นอะไรกับเขานะคะ”“ยังจะปากแข็งไม่เลิกอีก จะให้โชว์หลักฐานให้ทุกคนดูมั้ยว่าเธอสวมเขาให้ฉัน มานี่เลย มานี่กลับบ้านเดี๋ยวนี้”กวินภพใช้แรงกำลังที่เหนือกว่า ลากร่างสาวไปตามพื้นถนน แม้ว่าเธอจะฝืนร่างกายเอาไว้ก็ตาม“ลุงจ๋า ลุงช่วยหนูด้วย ช่วยหนูด้วยนะคะ” เธอหันมาเว้าวอนคนที่อยู่ใกล้ที่สุด“กลับบ้านไปหาลูกเถอะนังหนู กลับตัวกลับใจเสียใหม่นะ”คนขับแท็กซี่พูดจบก็หมุนตัวเดินกลับไปยังรถทำมาหากินของตน พร้อมกับค่าเสียหายหลายหมื่นที่อยู่ในมือ กวินภพยิ้มเยาะยามที่ได้เห็นสีหน้าของเธอตอนนี้“ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอกน้องหนู งานนี้เธอตายคาไร่ของฉันแน่ มานี่”เขาขู่ฟ่อเธออีกครั้ง ก่อนที่จะลากร่างสาวไม่หยุด เพลงมีนาก็ยังฝืนตัวและเปล่งเสียงร้องห้าม เสียงขอความช่วยเหลือต่อไป แต่ทว่าไม่มีใครสนใจเรื่องของผัวเมียเลยสักคน ต่างเดินกลับไปทำงาน ไปค้าขายของตนตามเดิมกวินภพลากร่างอวบอิ่มมาจนถึงประตูตอนหลังของรถยนต์คันหรูของตนที่เปิดอ้าอยู่ ออกแรงกระชากเธอให้ลุกขึ้นยืนเพียงครั้งเดียว ก่อนจะผลักร่างสาวเข้าไปนั่งในรถ ก่อนจะหันไปรับกระเป๋าสะพายของเพลงมีนาที่อยู่ในมือ
Chapter 6สองเดือนต่อมาเวลาประมาณสิบ 13.00 น. ณ สนามบินสุวรรณภูมิสตรีนางหนึ่งเดินออกมาจากช่องประตูของผู้โดยสารขาเข้าด้วยรอยยิ้มแห่งความดีใจ นานสิบปีแล้วที่เธอไม่ได้กลับมาเหยียบบ้านเกิดเมืองนอน หลังจากที่เธอต้องย้ายไปอยู่กับพ่อแม่บุญธรรมที่รับเลี้ยงดูเธอไปเป็นลูกยังประเทศนิวซีแลนด์เพลงมีนาเฝ้ารอการกลับมาเมืองไทยทุกลมหายใจ เฝ้ารอให้ตนเองจบการศึกษาในระดับชั้นปริญญาตรีตามความตั้งใจของผู้มีพระคุณ แล้วหากถึงวันนั้น เธอจะได้กลับมาเยือนแผ่นดินเกิดตามคำสัญญา ซึ่งวันนั้นก็เดินทางมาถึง...วันที่เธอจะได้พบหน้าน้องสาวฝาแฝด พบเด็กๆ หลายคนที่ตอนนี้เติบโตเป็นหนุ่มเป็นสาว ได้พบกับคุณแม่วนารัตน์ แม่ที่ให้โอกาส ให้ที่อยู่และให้ชีวิตใหม่กับเด็กกำพร้าคนนี้ และอาจได้พบกับสมาชิกใหม่อีกหลายชีวิต ได้กลับไปหาบ้านหลังแรกแสนอบอุ่น...สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าวนารัตน์...“คุณแม่คะ เพลงถึงสนามบินแล้วนะคะ ตอนนี้กำลังออกไปเรียกแท็กซี่ค่ะ”พอตนเองออกมายืนอยู่หน้าประตูตรงช่องทางที่ตัวเองเดินออกมา สิ่งแรกที่เพลงมีนาทำก็คือ โทรศัพท์ไปหามารดาบุญธรรม รายงานตามที่ได้ตกลงกันไว้“ดูแลตัวเองดีดีนะลูก” เสียงแสดงความเป็นห่วงและห่